ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,650.00 | 19,750.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,273.00 | 19,298.68 | 20,250.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,145.70 | 17,368.81 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 573.00 | 8,686.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 446.00 | 6,761.36 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,319.00 | 19,996.04 | n/a |
อสังหาฯพื้นที่ ‘อีอีซี’ สต็อกรอขายนำโด่ง
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยผลสำรวจไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา พบ “ชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา” โครงการที่อยู่อาศัย รอการขายนำโด่ง 67.4% เทียบ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ที่มีที่อยู่อาศัยรอการขายในปีทีผ่านมาประมาณ 2.6 ล้านหลัง คิดเป็น10 %ของประเทศ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย ล่าสุดในไตรมาส 3 ปี2560 โดยดำเนินการเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสำคัญ ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา(3 จังหวัดในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) พบว่า 3 จังหวัดดังกล่าวมีโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขาย (Housing Stock) รวมกันคิดเป็น 67.4% ของ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ซึ่งมีจำนวน Housing Stock ปี 2560 ประมาณ 2.6 ล้านหลัง (คิดเป็นสัดส่วน10.0% ของประเทศ) และมีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ 47,256 หน่วย มูลค่ารวม 84,054 ล้านบาท
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ให้รายละเอียดว่า จังหวัดชลบุรี มีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขายประเภทบ้านจัดสรรจำนวน 498 โครงการ มีหน่วยในผังรวมกันประมาณ 66,569 หน่วย โดยมีจำนวนหน่วยมากเป็นที่สองรองจากกรุงเทพฯ และในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการเปิดขายใหม่ในปี 2560 จำนวน 59 โครงการ รวม 7,698 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 20,657 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 52 โครงการ จำนวน 5,601 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 14,450 ล้านบาท เป็นอาคารชุด 7 โครงการ จำนวน 2,097 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 6,207 ล้านบาท
แบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย โดยภาพรวมเป็นโครงการอาคารชุดมากที่สุด 56% พื้นที่ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่อำเภอบางละมุงมากที่สุด รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ 21% อยู่ในอำเภอศรีราชามากที่สุด อันดับสามเป็นบ้านเดี่ยว 12.8% อยู่ในอำเภอบางละมุงมากที่สุด
จังหวัดระยองมีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 221 โครงการ มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 30,953 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 76,273 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 26,943 หน่วย (เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มี 21,839 หน่วย) เป็นอาคารชุด 4,007 หน่วย (ลดลงจากปี 2559 ที่มี 5,187 หน่วย) โดยจำนวนหน่วยอยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุด 45% รองลงมาอยู่ในอำเภอเมืองระยอง 34.4% โดยมีโครงการเปิดขายใหม่ในปี 2560 จำนวน 25 โครงการ จำนวน 2,557 หน่วยมีมูลค่าโครงการรวม 6,024 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 24 โครงการ จำนวน 2,479 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 5,545 ล้านบาท เป็นอาคารชุดเพียง 1โครงการ จำนวน 78 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 479 ล้านบาท
โดยภาพรวมจังหวัดระยองโครงการที่อยู่ระหว่างการขายเป็นบ้านเดี่ยวมากที่สุด 36% อยู่ในอำเภอเมืองระยองมากที่สุด รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ 30.7% อยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุด อันดับสามเป็นบ้านแฝด 15.3% อยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุด ส่วนภาพรวมด้านการขายมีโครงการขายได้ 20,748 หน่วย หรือ 67 %(ต่อหน่วยทั้งหมด 30,953 หน่วย) มีมูลค่าโครงการขายได้รวม 49,698 ล้านบาท อำเภอปลวกแดงมีสัดส่วนขายได้มากที่สุด 68.6% (ต่อหน่วยทั้งหมด 13,951 หน่วย) อาคารชุดมีสัดส่วนขายได้มากที่สุด 84.9% (ต่อหน่วยทั้งหมด 4,007 หน่วย)
จังหวัดฉะเชิงเทรามีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 46 โครงการ มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 11,039 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 32,911 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 10,432 หน่วย (ลดลงเล็กน้อยจากปี 2559 ที่มี 10,457 หน่วย) เป็นอาคารชุด 607หน่วย (ลดลงจากปี 2559 ที่มี 1,308 หน่วย) ในจำนวนดังกล่าวมีจำนวนหน่วยอยู่ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรามากที่สุด 60% โดยมีโครงการเปิดขายใหม่ในปี 2560 มีเพียง 1 โครงการ เป็นบ้านจัดสรร โดยมีจำนวน 80 หน่วยมีมูลค่าโครงการรวม 182 ล้านบาท มีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังของโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขายทั้งสิ้นประมาณ 11,039 หน่วย แบ่งเป็นหน่วยบ้านจัดสรรประมาณ 10,432 หน่วย อาคารชุดประมาณ 1,308 หน่วย จากจำนวนหน่วยในผังโครงการทั้งหมด เป็นประเภททาวน์เฮ้าส์มากที่สุด 36.6% รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว 33.8% อันดับสามเป็นบ้านแฝด 21.4% ซึ่งทั้งหมดอยู่ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรามากที่สุด
http://www.bangkokbiznews.com
บ้านคอนโดขึ้นค่าส่วนกลาง ต้นทุนพุ่งอสังหา ปรับยกแผง
http://www.bkkcitismart.com
พาณิชย์กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมจดทะเบียนธุรกิจ หวังช่วยลดค่าใช้จ่าย
“พาณิชย์” กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมจดทะเบียนธุรกิจ อัตราเดียว หวังช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มขีดความสามารถภาคธุรกิจ
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด พ.ศ.2561 เพื่อกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมคงที่ และ ลดลงอีกร้อยละ 30 เมื่อจดทะเบียนทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา โดยจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ลงกว่า 300 ล้านบาทต่อปี แต่ในภาพรวมประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการเริ่มต้นประกอบธุรกิจ เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ อีกทั้งจะช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการหันมาทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ส่งผลต่ออันดับของไทยในการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ หรือ Doing Business ของธนาคารโลก 2019 ที่คาดว่าจะมีอันดับที่ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตามกฎกระทรวงฯ ล่าสุด การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดจะมีอัตราค่าธรรมเนียมเพียง 5,500 บาท จากเดิมที่จะมีอัตราระหว่าง 5,000 – 275,000 บาท ห้างหุ้นส่วนจำกัดมีอัตราค่าธรรมเนียมเพียง 1,000 บาท จากเดิมจะมีอัตราค่าธรรมเนียมระหว่าง 1,000 – 5,000 บาท
http://www.bangkokbiznews.com
‘ภาวุธ’นำทีมผู้ค้าไทยผนึกมาเลย์ลุยอีคอมเมิร์ซอาเซียน
‘ภาวุธ’ นำกลุ่มบริษัทไทยจับมือรัฐบาลมาเลเซีย สร้างความร่วมมือการค้าออนไลน์เต็มรูปแบบ ผลักดันไทย-มาเลย์ ขึ้นแถวหน้าศูนย์การค้าออนไลน์อาเซียน
ผู้ค้าไทยจับมือกับรัฐบาลมาเลเซียในการลงนามความร่วมมือทางการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศและการลงทุนขยายธุรกิจไทยด้านออนไลน์ไปมาเลเซีย โดยมี TARAD.com ขยายช่องทางไปในเว็บไซต์มาเลเซีย รวมถึงการร่วมลงทุนร่วมของ บริษัท SHIPPOP ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางออนไลน์ และ บริษัท SiamOutlet ผู้ให้บริการการจัดเก็บและส่งสินค้า โดยทั้ง 2 บริษัทไทยได้ขยายบริการออกไปที่ประเทศมาเลเซียร่วมกับบริษัท Commerce.asia บริษัทผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซของมาเลเซีย โดยมีตัวแทนจาก MDEC หน่วยงานด้านดิจิตอลของมาเลเซียและกระทรวงพาณิชย์ของไทยเป็นพยานในการลงนามครั้งนี้
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้บริหารบริษัทตลาดดอทคอมเผยว่า การลงนามนามความร่วมมือกับรัฐบาลมาเลเซียประกอบด้วย 3 โครงการคือ 1. โครงการความร่วมมือ TARAD.com เว็บไซต์การค้าออนไลน์ของไทยกับ SiteGiant ผู้ให้บริการการค้าออนไลน์ของมาเลเซียเพื่อเชื่อมต่อการค้าออนไลน์ระหว่างกันโดยสามารถนำสินค้าจากไทยขายไปยังมาเลเซียและมาเลเซียมายังประเทศไทย
2.โครงการการร่วมลงทุนของ SHIPPOP มาเลเซีย (www.Shippop.com.my) บริษัทผู้ให้บริการขนส่งทางออนไลน์ในมาเลเซียโดยเป็นการร่วมลงทุนของบริษัท SHIPPOP ประเทศไทยและบริษัทคอมเมิร์ซดอทเอเซียของมาเลเซีย
3.โครงการการลงทุนใน LetMeStore มาเลเซีย (www.letmestore.com) บริษัทด้านการจัดเก็บสินค้าและจัดส่งสินค้า (Fulfilment) โดยเป็นการลงทุนของบริษัท Siam Outlet ประเทศไทย
นายภาวุธกล่าวว่า การร่วมมือกับทางประเทศมาเลเซียครั้งนี้จะทำผู้ประกอบการทั้งสองประเทศสามารถขยายช่องทางการค้าระหว่างกันผ่านทางออนไลน์ได้สะดวกและง่ายมากขึ้นโดยเป็นการพลักดันของภาคธุรกิจเอกชนที่ต้องการเห็นความร่วมมือระหว่างประเทศนอกเหนือจากการร่วมมือของจีนที่พยายามจะบุกเข้ามาในอาเซียนมากขึ้น
“เรายังได้เห็นพลังของนักธุรกิจไทยรุ่นใหม่ที่สามารถขยายธุรกิจของไทยออกไปยังต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วโดยตัวอย่างๆ SHIPPOP เป็นบริษัทสตาร์ทอัพไทยที่ทำงานโดยทีมงานเด็กไทยเพียง 15 คนโดยอายุเฉลี่ยเพียงแค่ 25 ปีก็สามารถสร้างธุรกิจที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วและสร้างกำไรได้หลังจากเปิดธุรกิจมาเพียงปีกว่าๆและยังขยายธุรกิจออกมาต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วหรือ Siam Outlet ก็สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วโดยหลังจากเปิดบริษัทมาเพียง 2 ปีก็สามารถนำเทคโนโลยีของตัวเองมาขยายลงทุนต่อออกไปนอกประเทศ”
ครั้งนี้นับว่าเป็นตัวอย่างของรูปแบบของการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เติบโตขยายตัวอย่างรวดเร็วกว่าการทำธุรกิจแบบเดิมๆโดยไม่ได้มองแค่ตลาดในประเทศไทยเท่านั้นแต่มีการขยายธุรกิจออกไปต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วขณะเดียวกันเป็นการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเป็นตัวหลักในการสร้างและขับเคลื่อธุรกิจตัวอย่างของบริษัทสตาร์ทอัพไทยที่ประสบความสำเร็จและเป็นตัวอย่างให้กับบริษัทอื่นๆในประเทศไทยที่นักธุรกิจไทยต้องมองและเดินตามและรวมถึงยังเป็นการสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจ
นายสุทธิเกียรติ จันทรชัยโรจน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท SHIPPOP บริษัทสตาร์อัพเบอร์ต้นๆของไทยเผยถึงการขยายธุรกิจออกไปมาเลเซียว่าได้เปิดให้บริการ SHIPPOP มาเลเซียมาตั้งแต่ปลายปี 2560 โดยได้เชื่อมต่อกับระบบขนส่งหลักภายในประเทศมาเลเซียได้หมดแล้วและมีผู้ใช้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างรวดเร็วทุกๆเดือนขณะนี้เป็นการให้บริการกับบริษัทในประเทศมาเลเซียเป็นหลักและอนาคตจะเชื่อมต่อกับระบบขนส่งของประเทศไทยเข้าด้วยกันโดยการทำงานทางทีมประเทศไทยจะเป็นทีมพัฒนาเทคโนโลยีหลักให้ SHIPPOP มาเลเซีย”
นางสาวพิมพ์ฐดา สหัชอติเรกลาภ ประธานกรรมการบริหารบริษัท Siam Outlet บริษัทคลังสินค้าและโลจิสติกส์สำหรับองค์กรธุรกิจและร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจรได้เปิดเผยถึงความลงทุนใน LetMeStore ผู้ให้บริการลักษณะเดียวกันในประเทศมาเลเซียว่าได้ลงทุนและยังนำเทคโนโลยีการบริหารคลังสินค้าและองค์ความรู้ของตนในประเทศไทยมาให้กับทีมทางมาเลเซียใช้อีกด้วยโดยเทคโนโลยีที่เราพัฒนามีความล้ำหน้าและตอบโจทย์ของการทำธุรกิจในมาเลเซียอย่างมากโดยได้เปิดใช้มาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
http://www.bangkokbiznews.com
สธ.วอนประชาชนช่วยบริจาคอวัยวะ เพื่อต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์
สธ.วอนประชาชนช่วยบริจาคอวัยวะ เพื่อต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ ยังคงมีผู้รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะ 5,851 ราย และรอรับการปลูกถ่ายกระจกตาอีก 12,042 ราย
นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกับสภากาชาดไทย และภาคีเครือข่าย ดำเนินการปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อเป็นทางรอดทางเดียวของผู้ป่วยโรคหัวใจ ตับ ปอดวายระยะสุดท้าย แก้ปัญหาความพิการของดวงตา โดยเฉพาะการปลูกถ่ายไต ที่สามารถช่วยผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายให้มีอัตราการเจ็บป่วย และเสียชีวิตต่ำกว่าการฟอกเลือดหรือล้างไตทางช่องท้อง ในปี 2560 สามารถช่วยผู้ป่วยที่รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะ ได้รับการปลูกถ่ายเพิ่มขึ้นจาก 512 รายในปี 2559 เป็น 670 ราย เพิ่มการปลูกถ่ายไตจาก 414 รายในปี 2559 เป็น 543 ราย และปลูกถ่ายกระจกตาได้ 1,082 ดวงตา ยังคงมีผู้รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะ 5,851 ราย และรอรับการปลูกถ่ายกระจกตาอีก 12,042 ราย
ในปี 2561 กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งขยายศูนย์รับบริจาคอวัยวะและดวงตา ให้ครอบคลุมโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป ขณะนี้ดำเนินการแล้วในโรงพยาบาลศูนย์ร้อยละ 87 โรงพยาบาลทั่วไปร้อยละ 54 และโรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่ 7 แห่ง พร้อมทั้งจะพัฒนาทีมผ่าตัดนำอวัยวะออก ในส่วนภูมิภาค (Regional Harvesting Team) ให้ได้เขตสุขภาพละ 1 ทีม โดยได้อบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องแล้ว 11 เขต พัฒนาศูนย์ปลูกถ่ายไต (Kidney Transplant Center) 1 แห่งในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 3 จัดอบรมพยาบาลผู้ประสานงานการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ ทุกเขตสุขภาพ และอบรมเครือข่ายรับบริจาคอวัยวะ 4 ภาค
“สิ่งสำคัญคือ การรณรงค์ประชาชนให้สนใจที่จะบริจาคอวัยวะและดวงตาเพิ่มมากขึ้น ได้ตั้งเป้าหมายในปี 2561 ให้มีจำนวนผู้ยินยอมบริจาคจากผู้ป่วยสมองตายเป็น 0.4 ต่อ 100 จำนวนผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาล และผู้ยินยอมบริจาคดวงตาจากผู้ป่วยสมองตาย 1.2 ต่อ 100 จำนวนผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาล และจะให้เพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อต่อชีวิตให้กับผู้รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก” นพ.มรุตกล่าว
http://www.bangkokbiznews.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 30/04/2561
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 30/04/2561
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 |
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
26.04
|
26.04
|
26.04
|
26.04
|
26.04
|
– |
26.04
|
26.04
|
26.04
|
26.04
|
แก๊สโซฮอล E-85 | 20.64 | 20.64 | – | – | – | – | – | 20.64 | 20.64 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 |
เบนซิน 95 | 35.66 | – | – | – | 36.11 | – | 36.16 | 35.66 | 35.66 | 35.66 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 30.89 | 31.76 | 31.76 | 31.76 | 31.76 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 |