พราว เรียลเอสเตท จัดกิจกรรมสุดพิเศษ ตลอดเดือนกรกฎาคม
มอบข้อเสนอ VIP โอกาสสุดท้ายเป็นเจ้าของโครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซสหัวหิน” สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับ InterContinental Life บนชายหาดส่วนตัว
“พราว เรียลเอสเตท” ชวนลูกค้าสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับกิจกรรมพิเศษริมหาดส่วนตัวตลอดเดือนกรกฎาคม โอกาสสุดท้ายในการเป็นเจ้าของโครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซสหัวหิน” คอนโดระดับลักชัวรี่ ติดชายหาดใจกลางเมืองหัวหิน ภายใต้ข้อเสนอ VIP ที่มาพร้อมบริการระดับโลก ภายใต้มาตรฐานของ InterContinental Hotels and Resorts เพียงนัดหมายเข้าเยี่ยมชมโครงการ รับ Exclusive Hamper Set พร้อมรับสิทธิพิเศษเหนือระดับผ่านการเป็นสมาชิก IHG Rewards Club Spire Elite และสิทธิพิเศษจาก “พราว พริวิเลจ” มูลค่าสูงสุด 1,000,000 บาท เมื่อจองภายในงาน
คุณพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากโครงการได้มีการเปิดตัวไปเมื่อต้นปี ได้รับผลตอบรับอย่างดี จนทำให้ยอดขายทะลุ 1,500 ล้านบาท และได้เดินหน้าดำเนินการก่อสร้างไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้บริษัทได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษตลอดเดือนนี้ เพื่อเชิญชวนลูกค้ามาสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับ ลองใช้ชีวิตแบบ InterContinental Life พร้อม โอกาสสุดท้ายในการเป็นเจ้าของโครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน”ในข้อเสนอ VIP ก่อนที่จะมีการปรับราคา
โดยตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ บริษัทได้เตรียมกิจกรรมสุดพิเศษ “Feast De La Mer” ณ ริมหาดส่วนตัวของโครงการทุกสุดสัปดาห์และช่วงวันหยุดยาว ซึ่งลูกค้าสามารถเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ และบริการระดับโลกได้ ทั้งการแสดงดนตรีสด, รับชมภาพยนตร์ริมหาดกับ Outdoor Cinema หรือกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับครอบครัว และลิ้มลองอาหารรสเลิศ ณ ซุ้มอาหารริมหาดท่ามกลางบรรยากาศสไตล์โคโลเนียล ทวิสต์ ฯลฯ
พร้อมกันนี้ ยังได้จัดโปรโมชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีพ สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน เพียงเข้ามาเยี่ยมชมโครงการที่ “เซลส์ แกลเลอรี” ตั้งแต่ 3-31 กรกฎาคมนี้ รับ Exclusive Hamper Set ซึ่งมีจำนวนจำกัด พร้อมรับสิทธิเหนือระดับผ่านการเป็นสมาชิก IHG Rewards Club Spire Elite และสิทธิพิเศษจาก “พราว พริวิเลจ” มูลค่าสูงสุด 1,000,000 บาท เมื่อจองภายในงานเท่านั้น
ปัจจุบันโครงการได้รับเสียงตอบรับอย่างดี โดยมียอดขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งทางโครงการได้เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อรองรับการใช้ชีวิตปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยบริการต่างๆ ที่รองรับวิถีชีวิตใหม่โดยไม่ต้องออกจากบ้าน อาทิ Concierge Service คอยดูแลอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้าน, บริการ in-room dining service เสิร์ฟอาหารภายในห้องพัก, บริการซื้อสินค้าหรือของสด Grocery service เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นบริการที่มีมารตรฐานจากโรงแรมระดับโลก เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
โครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” เป็นคอนโดระดับลักชัวรี่ ภายใต้แบรนด์ อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป แห่งแรกในประเทศไทย บนทำเลศักยภาพ ที่ดินริมทะเลใจกลางเมืองหัวหินแปลงสุดท้าย ติดกับซอยหัวหิน 71 ซึ่งมาพร้อมบริการมาตรฐานโรงแรมระดับเวิลด์คลาสของอินเตอร์คอนติเนนตัล พื้นที่โล่งและพื้นที่สีเขียวกว่า 70% ของโครงการ สระว่ายน้ำ 7 สระ ชายหาดส่วนตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมาย
ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบเหนือระดับได้แล้วที่ เซลส์ แกลเลอรี และห้องตัวอย่างของโครงการฯ ณ ซอยหัวหิน 71 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือเข้าชมรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ www.intercontinentalresidenceshuahin.com โทร 02-026-8999 หรือ Line@ Proudrealestate
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ตลาดบ้านสร้างเอง ตํ่าสุดรอบ 10 ปี จี้รัฐเร่งกระตุ้นศก.
“โควิด” กระทบ ความเชื่อมั่นลูกค้าธุรกิจรับสร้างบ้าน คาดทั้งปีหดตัว 10-15% ต่ำสุดในรอบมากกว่า 10 ปี วอนรัฐเร่งอัดเม็ดเงิน 4 แสนล้านเข้าระบบ หวังกระตุ้นความต้องการ นายกสมาคมฯเปรย เป็นธุรกิจที่รัฐมองข้าม เหตุไม่มีตัวเลขจัดเก็บแสดงสถานะตลาด เล็งประสาน REIC เข้ามามีบทบาทช่วยเป็นกระบอกเสียง
หากการซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมในภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นการจับจ่ายของผู้บริโภคภาคครัวเรือน สร้างเงินหมุน เวียนในระบบเศรษฐกิจไทย แต่ละปีทั่วประเทศแตะ 2 แสนล้านบาท นับเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันจีดีพีไทยให้งอกเงยนั้น ตลาดบ้านสร้างเอง ซึ่งมีมูลค่าไม่ได้หย่อนยานต่อกันรวม 1.4-1.5 แสนล้านบาทในช่วงปีที่ผ่านมาก็คงมีความสำคัญไม่แตกต่างกัน แต่กลับถูกพูดถึงน้อยครั้ง “ฐานเศรษฐกิจ” พบสัญญาณในตลาดดังกล่าว ที่หมายรวมไปถึง บ้านที่ถูกสร้างโดยผู้รับเหมาขนาดใหญ่-รายย่อย , บ้านที่ถูกพัฒนาโดยกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน, บ้านน็อกดาวน์, บ้านเก่ารีโนเวตใหม่ มีความน่าเป็นห่วง ไม่แตกต่างจากภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญคลื่นอุปสรรค แนวโน้มกำลังซื้อหดตัวจากแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนคาดทั้งปีอาจหดตัวติดลบมากกว่า 15%
นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า มรสุมที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด จากการเกิดขึ้นของโควิด-19 นั้น ได้ทำให้ภาพรวมของธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก หดตัวไปแล้วไม่ต่ำกว่า 20-30% หลังจากต้องหยุดการดำเนินกิจกรรมทางตลาดต่างๆ ไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะการจัดงานใหญ่ ที่ต้องเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี (งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo2020)ทำให้ยอดซื้อ (ยอดจอง) ของลูกค้าหายไปนับ 90% แม้มีการปรับแผนตั้งรับจัดงานแบบออนไลน์ทดแทน แต่ก็มียอดเกิดขึ้นเพียง 125 ล้านบาทเท่านั้น จากเดิมต้องได้เฉลี่ยต่ำๆ ประมาณ 1 พันล้านบาท ทำให้คาดการณ์การเติบโตของตลาดที่ไม่ได้หวือหวา แต่เป็นอย่างค่อยไปค่อยไปอย่างมีเสถียรภาพ โดยรายได้รวมไต่ระดับจาก 1.1 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2560 โตขึ้นมา 1.2 หมื่นล้านบาท ในปี 2561 ขณะปี 2562 มีรายได้เติบโตที่ 1.25 หมื่นล้านบาท และประเมินทั้งปี 2563 ว่าอาจเติบโตขึ้นได้อีกไม่ต่ำกว่า 7-10% นั้นอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
เพราะแม้เป็นตลาดที่ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาในการขอสินเชื่อ โดยมีเงินออมบางส่วนเป็นทุนตั้งต้น และมีที่ดินเป็นของตัวเองใช้เป็นหลักประกันชิ้นเอกกับสถาบันการเงิน แต่ปัจจัยคาดเดาไม่ได้ อย่างโอกาสที่โรคอาจจะกลับมาระบาดใหม่ระลอก 2 ก็ยังไม่สามารถดึงความมั่นใจของลูกค้ากลับมาได้เต็ม 100% แม้จะเตรียมอัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างเข้มข้นในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อหวังฟื้นยอดให้กลับมา แต่คาดตลอดทั้งปี ตลาดอาจติดลบ 10-15% ต่ำสุดในรอบมากกว่า 10ปี รอคอยเพียงความหวังใหม่ กรณีรัฐบาลประกาศแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายใต้วงเงิน 4 แสนล้านบาท ที่จะเข้ามากระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจและหนุนให้ทุกธุรกิจมีแรงขับเคลื่อนต่อไป
“ตลาดบ้านสร้างเองหลาย 10 ปี ไม่เคยอ่อนไหว เพราะสร้างตามความต้องการ เป็นตลาดที่ไม่โตแต่ไม่ตก ไม่เหมือนตลาดบ้านหรือคอนโดฯ เสี่ยงต่อซัพพลายเกิน ขณะแบงก์เองตอบรับสูง กู้ง่ายผ่านเร็ว ต่างการันตีว่าเป็นตลาดที่ยังไปต่อได้ แต่วิกฤติโควิด ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้ง วิถี New Normal เข้ามามีอิทธิพลไม่น้อยในแง่การตัดสินใจ มองแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 แสนล้าน มีผลต่อความรู้สึกลูกค้า และมีโอกาสที่เม็ดเงินจะกระตุ้นหมุน เวียนเข้ามาในมือประชาชนผ่านการลงทุนโปรเจ็กต์ต่างๆ ฟื้นความต้องการให้มีมากขึ้น”
นายวรวุฒิ ยังกล่าวต่อว่า แม้ขณะนี้ผู้ประกอบการในสมาคม ยังไม่ได้รับผลกระทบมากจนส่งผลต่อสภาพคล่อง เลย์ออฟพนักงานภายในอย่างที่เกิดขึ้นในผู้พัฒนาอสังหาฯบางราย แต่หากปีนี้ตลาดหดตัวแรง ก็มีโอกาสที่ปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับบางบริษัทในช่วงปีหน้าเป็นต้นไป
นอกจากนี้ ภายใต้การแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจ สมาคมได้แจ้งไปยังสมาชิก ให้เร่งจัดการกับการบริหารต้นทุนให้เหมาะสม โดยเฉพาะส่วน “รั่วไหล” หน้างาน เช่น วัสดุ ตะปู เหล็ก ซึ่งสามารถควบคุมต้นทุนได้มากกว่าส่วนอื่นๆ ทั้งจะช่วยลดต้นทุนไปได้ประมาณ 5% หากจัดการได้ ก็อาจทำให้บริษัทนั้นๆอยู่รอดต่อไปได้
อีกประการสำคัญ นายกสมาคม เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันตลาดบ้านสร้างเอง ซึ่งมีมูลค่าต่อปีสูงไม่ได้แตกต่างจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ กระจายตัวส่วนใหญ่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนแค่เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีมูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านบาทนั้น (สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านมีแชร์ต่อปีประมาณ 1.2หมื่นล้านบาท) ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ แต่มักถูกละเลยให้ความสำคัญ หรือได้รับการกระตุ้นจากภาครัฐ เนื่องจาก ที่ผ่านมา ไม่มีตัวเลขจัดเก็บ ต่างจากตลาดอสังหาฯ ซึ่งมีทั้งศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของรัฐ และบริษัทที่ปรึกษาอสังหาฯของเอกชน คอยจัดเก็บตัวเลขการเปลี่ยนแปลงและวิเคราะห์ตลาดเป็นระยะๆ ส่งต่อข้อเรียกร้องไปยังรัฐ และได้รับมาตรการสนับ สนุนเรื่อยมา ในการนี้เองสมาคม อยู่ระหว่างปรึกษาหารือกับสมาชิก เพื่อสร้างแนวทางในการจัดเก็บข้อมูลตัวเลขต่างๆให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าไปร้องขอให้ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เข้ามามีส่วนจัดเก็บข้อมูลสำคัญ เพื่อหวังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ทีเอ็มบี จับมือกลุ่มมิตรผล ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเกษตรไทย
นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมการเกษตรมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากทั้งปัญหาภัยแล้งและสถานการณ์โควิด-19 ทีเอ็มบีจึงร่วมมือกับกลุ่มมิตรผล ผู้นำในอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยช่วยเหลือชาวไร่ในกลุ่มมิตรผลภายใต้โปรแกรม Supply Chain Financing Solution ซึ่งเป็นความร่วมมือกันพัฒนาระบบการจ่ายเงินส่งเสริมการปลูกอ้อย หรือที่เรียกว่าเกี๊ยวเงิน โดยเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีชาวไร่โดยตรง เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการรับเงินแทนการออกเช็คล่วงหน้าแบบเดิม ๆ
“ทีเอ็มบี ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินส่งเสริมการปลูกอ้อย หรือ เกี๊ยวเงิน เพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้ชาวไร่สามารถมีเงินทุนไปซื้อปัจจัยการผลิตสำหรับทำการเพาะปลูก ซึ่งปัจจุบันมีชาวไร่ภายใต้โครงการนี้หลายพันรายทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ธนาคารยังได้ร่วมทำโครงการอื่น ๆ กับทางกลุ่มมิตรผล อย่างเช่น การพัฒนาแพลตฟอร์มการจ่ายเงิน รองรับการทำ E-Commerce ภายใต้โครงการ “ปลูกมิตร” จัดทำ Payment Gateway ช่วยเสริมความมั่นใจให้ชาวไร่ในเรื่องความปลอดภัยและเป็นการเพิ่มช่องทางความสะดวกในการชำระเงิน” นายเสนธิปกล่าว
ทีเอ็มบีและธนชาต ผู้นำแนวคิด Make REAL Change เชื่อมั่นว่าการก้าวข้ามสถานการณ์นี้ได้ ทุกภาคส่วนต้องผนึกกำลังช่วยเหลือและร่วมมือกันทั้งธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็ก การช่วยเหลือแบบส่งต่อตลอดทั้งซัพพลายเชน จะเป็นการช่วยทั้งระบบที่ได้ผลในวงกว้างและรวดเร็ว ทำให้ทุกคนสามารถตั้งรับเชิงรุกเดินหน้าได้อีกครั้ง สร้างความแข็งแกร่งให้ทั้งอุตสาหกรรม ทำให้ทุกฝ่ายมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ส่งผลต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ในเร็ววัน
นายวีระเจตน์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจน้ำตาลประเทศไทย พลังงาน และธุรกิจใหม่ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า กลุ่มมิตรผลมองหาแนวทางในการสนับสนุนชาวไร่มาตลอด โดยเรามีการเตรียมงบประมาณส่วนหนึ่งสำหรับเงินส่งเสริมชาวไร่ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ทางทีเอ็มบีได้นำเสนอโปรแกรมซัพพลายเชน โซลูชัน เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยเหลือชาวไร่ทั้งด้านเงินทุนและการนำดิจิทัล โซลูชันมาช่วยในการบริหารจัดการ ลดขั้นตอนต่าง ๆ ทำให้ชาวไร่ได้รับเงินส่งเสริมการปลูกอ้อยสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทีเอ็มบียังปรับลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเงินส่งเสริมการปลูกอ้อยให้ชาวไร่ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดให้ชาวไร่มีเงินทุนหมุนเวียนไปซื้อปัจจัยการผลิตได้ และทางกลุ่มมิตรผลได้พัฒนาเพิ่มช่องทางให้ชาวไร่สามารถเข้าถึงปัจจัยการผลิตได้สะดวกมากยิ่งขึ้นผ่านแพลตฟอร์ม “ปลูกมิตร” ที่คัดสรรและรวบรวมอุปกรณ์ทางการเกษตรที่มีคุณภาพในราคายุติธรรม โดยทีเอ็มบีได้มาเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยในการชำระเงิน ทำให้การส่งเสริมเป็นไปอย่างครบวงจรให้ชาวไร่สามารถทำการเพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาโซลูชันทางการเงินและการจัดการทั้งหมดนี้ทำให้การดำเนินธุรกิจของกลุ่มมิตรผลมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“กลุ่มมิตรผลให้ความสำคัญกับซัพพลายเชนอย่างมาก ซึ่งเมื่อดูจากผลผลิตที่เรามีอยู่ทั้งหมด ไม่ว่าจะอ้อย น้ำตาล พลังงาน จะเห็นได้ว่าอยู่ในซัพพลายเชนเดียวกันทั้งหมด เราจึงต้องการบริหารทั้งซัพพลายเชนให้เกิดประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การตลาด ซึ่งแน่นอนว่าการเชื่อมโยงดังกล่าวทำให้ทั้งธุรกิจรายใหญ่และชาวไร่ทั่วประเทศสามารถเติบโตไปได้ด้วยกัน และช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทยโดยรวมได้” นายวีระเจตน์ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
เปิดตัวเลขสถิติที่น่าสนใจตลอด 30 ปี “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์ลีก 2019-2020
เปิดสถิติก่อนหวยออก การรอคอย 30 ปี การคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของ “ลิเวอร์พูล” ยอดทีมแดนผู้ดี ภายใต้การนำทีม “เยอร์เกน คลอปป์” ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน
-เยอร์เกน คลอปป์ เข้ามาคุมทีมปี 2015 ก่อนกลายเป็นกุนซือรายที่ 11 ที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ
-ลิเวอร์พูล ทำลายสถิติ ของ ยุคเซอร์อเล็กซ์ (5) ที่สามารถเป็นแชมป์ ที่เหลือการแข่งขันอีก 7 เกม
-ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษครั้งล่าสุด ฤดูกาล 1989-90
-ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ลงเล่นไปแล้ว 1,149 เกม คิดเป็น 103,410 นาที
-การคว้าแชมป์ของลิเวอร์พูล ตรงกับวันสุนทรภู่ วันที่ 26 มิ.ย.63
-วันที่ 26 มิ.ย.63 ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ในประเทศเป็นเวลา 32 วันติดต่อกัน
-นับตั้งแต่ซีซั่น 1990-91 จนถึงปัจจุบัน ลิเวอร์พูล ใช้ผู้เล่นไปทั้งสิ้น 239 คน
-เจมี คาราเกอร์ ผลผลิตจากอคาเดมี เป็นนักเตะที่ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล มากสุด 508 นัด
-ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา “เดอะ ก๊อด” ร็อบบี ฟาวเลอร์ เป็นนักเตะที่ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล มากที่สุด 128 ประตู
-หลังการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด เมื่อ 30 ปีที่แล้ง ลิเวอร์พูล เซ็นนักเตะเข้าสู่ทีมอีก 218 คน รวมถึงรายล่าสุด ทาคุมิ มินามิโนะ เมื่อเดือนมกราคม 2020 ค่าตัวประมาณ 7.25 ล้านปอนด์ รวมแล้ว 30 ปี ลิเวอร์พูล ใช้เงินไปทั้งสิ้น 1,470 ล้านปอนด์ ขายนักเตะไป 936.6 ล้านปอนด์
– ทาคุมิ มินามิโนะ คือนักเตะจากเอเชีย ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของอังกฤษได้เป็นคนที่ 4 ของนักเตะเอเชีย
-โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลายเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล คนแรก ซึ่งยิง 20 ประตู รวมทุกรายการ 3 ฤดูกาลติดต่อกัน นับตั้งแต่ ไมเคิล โอเวน ฤดูกาล 2000-01, 2001-02 และ 2002-03
– โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เคยคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับเชลซี 2014-2015
-เจมส์ มิลเนอร์ เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนฯซิตี้ 2 สมัย ปี 2011-2012 /2013-2014
– ดิว็อก โอริกี /อดัม ลัลลานา / เจมส์ มิลเนอร์ 3 นักเตะที่ลงตัวจริง ในการคุมทีมนัดแรกของ เยอร์เกน คลอปป์ เมื่อ 17 ต.ค. 2015 ที่ยังอยู่กับทีม
-ลิเวอร์พูลสวมชุดแข่งสีน้ำเงินและขาว ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนมาใช้ชุดสีแดงและกางเกงสีขาวในปี ค.ศ.1896
-สีนำโชค สีแดง / สีน้ำเงินเข้ม ตามสีเสื้อของเชลซี
-ทีมคู่ปรับ แมนฯยูไนเต็ด ไม่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีกมา 7 ฤดูกาลแล้ว นับตั้งแต่ปี 2012-2013
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
พัฒนาแอปฯ HERO ใช้ประเมินสุขภาพจิตเด็กหลังเปิดเทอม
กรมสุขภาพจิต ร่วม สพฐ. ใช้แอปพลิเคชัน “HERO” ประเมินคัดกรองสุขภาพจิตเด็กหลังเปิดเทอม 1 ก.ค.นี้ เผยคัดกรองเบื้องต้นผ่าน 9S เน้นเฝ้าระวังพฤติกรรม อารมณ์ ทักษะสังคม ทั้งการปรับตัว เรื่องเพื่อน ความเศร้าต่างๆ เผยทดลองใช้ 13 พื้นที่นำร่องได้ผลดี ช่วยเด็กปรับตัวดีขึ้นกว่า 70% ไม่ต้องส่งพบแพทย์ต่อ
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงเปิดตัวแอปพลิเคชัน HERO เพื่อรองรับวิถีชีวิตใหม่ ดูแลสุขภาพจิตของนักเรียนภายใต้สถานการณ์โรคโควิด-19 พร้อมลงนามความร่วมมือการใช้แอปพลิเคชัน HERO ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า โรงเรียนเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยจะเปิดเรียนวันที่ 1 ก.ค.นี้ ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลช่วงก่อนโควิด-19 พบว่า นักเรียน 20% มีปัญหาเรื่องพฤติกรรม อารมณ์ หรือทักษะสังคม แต่ไม่ใช่การเจ็บป่วย ถ้าช่วยเหลือดูแลจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ เรียนหนังสือได้ดี มีเพื่อน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องปัญหาการปรับตัว ความรัก อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังโควิด เด็กต้องปรับตัวใหม่หลังหยุดไปนาน ทั้งการเจอครูใหม่ เพื่อนใหม่ ปรับตัวเข้าสู่วิถีใหม่ในมาตรการป้องกันเชื้อของโรงเรียน เพื่อลดปัญหาเรื่องการปรับตัว กรมฯ ร่วมกับ สพฐ.ในการทำโปรแกรมบูรณาการความร่วมมือระหว่างระบบการศึกษาและระบบสุขภาพเพื่อดูแลสุขภาพจิตของนักเรียนกว่า 6 ล้านคน บนระบบดิจิทัล (Health and Educational Re-integrating Operation : HERO) ซึ่งแอปพลิเคชันนี้จะมีแบบสังเกตอาการ เพื่อให้ครูเฝ้าระวังปัญหาพฤติกรรม อารมณ์ สังคม
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เดิมแบบประเมินสังเกตอาการที่ใช้เรียกว่า SDQ25 ทำให้มีความยุ่งยาก เพราะต้องตอบคำถามจำนวนมาก 25 ข้อ จึงพัฒนาแบบสังเกตอาการตัวใหม่ลงในแอปพลิเคชัน HERO เรียกว่า 9S ซึ่งจะประเมินเพียง 9 ข้อเท่านั้น ทำให้ทำประเมินได้ง่าย ใช้เวลาสั้น ค้นหาและช่วยเหลือได้เร็วขึ้น โดย 9 ข้อ คือ 1. ซนเกินไป 2. ใจลอย 3. รอคอยไม่เป็น 4. เศร้า/เครียด หงุดหงิดง่าย 5. ท้อแท้ เบื่อหน่าย 6. ไม่อยากไปโรงเรียน 7. ถูกเพื่อนแกล้ง 8. แกล้งเพื่อน และ 9. ไม่มีเพื่อน จากการดำเนินการทดลองนำร่องใน 13 พื้นที่ คัดกรองเด็ก ม.1 จำนวน 5,311 คน โดยใช้ 2 เครื่องมือเทียบกัน คือ 9S และ SDQ ซึ่งตัว 9S เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงได้มากกว่า คือ 24.72% ส่วน SDQ ได้ 11.45% เท่านั้น ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า ข้อน้อยกว่า
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังเน้นเรื่องของครูในการเรียนรู้เทคนิคการส่งเสริม พัฒนา ป้องกัน แก้ไข เรื่องสุขภาพจิตเด็ก ดูแลประเมินผล และปรึกษาและส่งต่อได้ ซึ่งหลังคัดกรองครูก็จะต้องให้คำปรึกษา และปรับพฤติกรรมเบื้องต้น โดยครูบางท่านมีทักษะอยู่แล้ว บางท่านหากอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในตัวระบบ HERO ก็จะมีอีเลิร์นนิงให้ไปเรียนรู้ นำไปใช้ให้คำปรึกษาหารือและปรับพฤติกรรมเด็กได้ ทั้งนี้ จากการทำในพื้นที่นำร่อง พบว่า เด็กดีขึ้นเป็นปกติรวม 70% ส่งต่อแพทย์เพียง 30% ถือว่าเป็นผลดีต่อตัวเด็ก โดยการส่งต่อแพทย์ จะมีการเชื่อมโยงครูและหมอในระบบดิจิทัล เราเตรียมบุคลากรสุขภาพจิต ทั้งนักจิตวิทยา นักจิตวิทยาโรงเรียน พยาบาลสุขภาพจิต จิตแพทย์ จิตแพทย์เด็กทุกอำเภอ นับว่าเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพเด็กได้รับการช่วยเหลือโดยไม่ต้องไป รพ. ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่าย ไม่กระทบเวลาเรียน
นายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.มีโรงเรียนในสังกัดมากกว่า 2.9 หมื่นโรง มีครูประมาณ 4 แสนคน นักเรียนอีก 6.7 ล้านคน การเลื่อนเปิดเทอมจากวันที่ 18 พ.ค. เป็นวันที่ 1 ก.ค. จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้เด็กไม่ได้มาโรงเรียนตั้งแต่แรก ความกังวลก็เกิดขึ้นกับเด็ก และระยะหลังพ่อแม่ต้องไปทำงาน เด็กอาจอยู่ลำพังกับพี่กับน้อง ทำให้ไม่มีใครให้คำปรึกษา ขณะที่อีก 2 วันก็จะเปิดเรียนแล้ว สิ่งที่เป็นห่วง คือ ในพื้นที่จริงๆ เด็กขาดผู้ที่จะดูแล สพฐ.จึงมีโครงการสร้างนักจิตวิทยาในเขตพื้นที่การศึกษา 225 เขตพื้นที่ โดยกำลังพัฒนาให้มีนักจิตวิทยาประจำเขตพื้นที่ และประจำโรงเรียนอีกชั้นหนึ่ง แต่การจะไปถึงขั้นดูแลเท่าสาธารณสุขคงเป็นไปไม่ได้ จึงขอบคุณกรมสุขภาพจิตที่ทำแอปพลิเคชัน HERO มาช่วยให้ประเมินคัดกรองเด็ก ดูแลเด็กได้
“เดิมเราใช้ SDQ คัดกรอง แต่ถ้าใช้ HERO คัดกรอง ก็ละเอียดมากขึ้น เห็นผลมากขึ้น ทำให้เกิดการเรียนการสอนที่จำแนกเด็กได้ว่า คนใดควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งเรามีระบบฐานข้อมูลเด็กเชื่อมกระทรวงมหาดไทยด้วยเลข 13 หลัก ข้อมูลของ HERO สามารถเชื่อมโยงนักเรียนได้ทุกคน ทำให้ดีใจแทนเด็กๆ ที่จะได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งนี้ ย้ำว่า การเปิดเรียนวันที่ 1 ก.ค. มาตรการทุกอย่างพร้อม จะดูแลเด็กรายบุคคล มีการเยี่ยมบ้านนักเรียนที่ต้องสลับมาเรียน โดยอยู่บ้านเรียนผ่านออนแอร์ และออนไลน์ เพื่อให้ทุกคนได้รับการดูแลทั่วถึง” นายสนิท กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
นิทานภาษาอังกฤษ เรื่อง หญิงชรา กับถังไวน์
เรียนภาษาอังกฤษกับนิทานอีสป 2 ภาษา เรื่อง หญิงชรา กับถังไวน์ สำหรับนิทานอีสป หลายคนเคยได้ยินชื่อว่า “อีสป” เนื้อหานิทานของอีสปส่วนใหญ่เต็มไปด้วยข้อคิดคติสอนใจ The […]
เรียนภาษาอังกฤษกับนิทานอีสป 2 ภาษา เรื่อง หญิงชรา กับถังไวน์
สำหรับนิทานอีสป หลายคนเคยได้ยินชื่อว่า “อีสป” เนื้อหานิทานของอีสปส่วนใหญ่เต็มไปด้วยข้อคิดคติสอนใจ
The Old Woman and the Wine-Jar
An old woman found an empty jar, which had been full of wine and still had the fragrant smell of its former contents. She placed it to her nose, and drawing it backwards and forwards said, “This is so delicious. How nice the wine have been to leave behind in the very vessel which contained it so sweet a perfume!”
The Moral
The memory of a good deed lives.
บทแปลภาษาไทย นิทานเรื่อง หญิงชรา กับถังไวน์
หญิงชราผู้หนึ่งเจอถังไวน์ ซึ่งมันไม่มีน้ำไวน์เหลืออยู่ในถังแล้ว แต่มันยังคงส่งกลิ่นหอมชื่นใจ นางก็จับมาสูดดม และในขณะที่นางวางมันบนหลังเพื่อแบบมันกลับไปด้วย นางก็เอ่ยขึ้นว่า “นี่มันเป็นไวน์ที่อร่อยมาก เพราะขนาดแค่ถังที่เคยใส่ยังส่งกลิ่นหอมได้ขนาดนี้จนแทบอดใจไม่ไหวเช่นนี้”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ประวัติศาสตร์ที่ดีย่อมน่าจดจำ
ขอบคุณข้อมูลจาก tonamorn.com
เรื่องเข้าใจผิด 5 ประการหุ่นยนต์โคบอทส์
นายดาร์เรลล์ อดัมส์ หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย บริษัท ยูนิเวอร์ซัล โรบอท กล่าวว่าเมื่อหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน หรือ โคบอทส์ ได้ปรากฏตัวขึ้น ณ ศูนย์กลางทำงานในชั้นที่เป็นพื้นที่อันทันสมัยของโรงงาน และเรื่องเล่าและความเข้าใจผิดบางอย่างก็ได้เกิดขึ้น เช่น การย้ายคนงานและความเสี่ยงต่อความปลอดภัย เรื่องเล่าไหนเป็นของจริง และอะไรคือความเข้าใจผิดที่บริสุทธิ์?
1.โคบอทส์มาแทนที่งาน
นับว่าเป็นเวลานานจนถึงทุกวันนี้ ข้อความที่เกิดขึ้นภายในโรงงานผลิตก็คือหุ่นยนต์ได้มาขโมยงาน ซึ่งไม่เป็นความจริงในกรณีของโคบอทส์ เพราะโคบอทส์จะมาแบ่งเบาคนงานจากงานที่ต้องทำงานหนักและทำงานซ้ำ ๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถมีบทบาทที่ดีขึ้นและน่าตื่นเต้นมากขึ้นภายในบริษัท และด้วยโคบอทส์ที่ช่วยเพิ่มผลผลิต บริษัทเหล่านี้มักจ้างคนมากขึ้น ดังนั้นการสร้างงานไม่ใช่การกำจัดพวกเขา
งานเพียง 10% เท่านั้นที่สามารถทำงานแบบอัตโนมัติได้ ด้วยโคบอทส์ทำให้การผลิตได้เพิ่มขึ้น 50% โดยไม่สูญเสียงาน ตั้งแต่ปี 2560-2563 หุ่นยนต์ได้สร้างงานมากกว่า 2 ล้านตำแหน่งทั่วโลก ไม่มีเครื่องจักรใดที่สามารถทดแทนความชำนาญของมนุษย์ การคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจและความคิดสร้างสรรค์ได้
2. ระบบอัตโนมัติของหุ่นยนต์สำหรับการทำงานที่ซับซ้อนและมีขนาดใหญ่
เมื่อคนส่วนใหญ่นึกถึงหุ่นยนต์ ภาพของกล่องไม้ขนาดใหญ่ที่ใช้อยู่บนสายการประกอบก็เกิดขึ้นอยู่ในใจ แต่ในความเป็นจริงแล้วด้วยความยืดหยุ่นของโคบอทส์ บริษัทเหล่านี้สามารถทำงานอัตโนมัติแม้ว่าจะเป็นงานที่ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะมีขนาดของเอาต์พุตเท่าไร โคบอทส์สามารถนำใช้กระบวนการที่ทำงานซ้ำ ๆ ใช้มือ หรืออาจเป็นงานหนักสำหรับคนงานเช่น ยกและวาง การบรรจุภัณฑ์และการจัดเรียงสินค้า การขันสกรู การติดกาว การจ่ายและการเชื่อมโลหะ
ระบบยานยนต์ของบริษัท BAI Lear ในกรุงปักกิ่งมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตระบบที่นั่งในรถยนต์ ได้ผลิตเบาะ 1,500 ชุดและขันสกรู 6,000 ตัวต่อวัน สำหรับสถานที่ที่มีปริมาณงานสูง การหยุดทำงานเป็นไปไม่ได้ บริษัทจึงตัดสินใจที่จะค้นหาโซลูชันอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นซึ่งจะช่วยลดเวลาพนักงานที่ต้องทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ใหม่และลดความล่าช้าในการผลิต
หลังจากการประเมิน BAI Lear ถือว่าโคบอทส์ เหมาะสมกว่าหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ให้พื้นที่จำกัดในการทำงานหุ่นยนต์อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมมีต้นทุนสูง และมีความยืดหยุ่นต่ำที่ปรับให้เข้ากับความต้องการในอนาคต ในที่สุด BAI Lear ได้ใช้โคบอทส์ของยูนิเวอร์ซัล โรบอทส์ หรือยูอาร์ 38 ตัว พนักงานพบว่าโคบอทส์ของยูอาร์นั้นง่ายต่อการตั้งค่า ใช้งานง่าย คุ้มค่าและเชื่อถือได้ ลดเวลาในการรวมระบบและทดสอบวงจรและลดความเสี่ยงในการปรับใช้
3. การติดตั้งและบำรุงรักษาหุ่นยนต์เป็นเรื่องยุ่งยาก
เป็นเรื่องจริงที่หุ่นยนต์บางตัวมีขนาดใหญ่ ยุ่งยากและใช้งานยาก บางคนถึงกับบอกว่า ต้องการคนระดับปริญญาเอกมาใช้งาน แต่ไม่ใช่สำหรับโคบอทส์ เพราะโคบอทส์ง่ายต่อการติดตั้ง ใช้งานและบำรุงรักษา และเนื่องจาก โคบอทส์มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบามากจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสายการผลิตเมื่อต้องสลับโคบอทส์ระหว่างงาน อีกทั้งยังง่ายต่อการตั้งโปรแกรม หรือปรับใช้ใหม่ได้ง่ายและซ่อมบำรุงน้อยที่สุด
4. โคบอทส์เป็นอันตราย
สำหรับหุ่นยนต์อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำงานแบบเคียงข้างกันกับคนโดยไม่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยอย่างจริงจัง หุ่นยนต์แบบดั้งเดิมเหล่านี้สามารถรองรับวัสดุที่หนักกว่าและมีขนาดใหญ่กว่าและต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเพื่อดูแลมนุษย์ออกจากพื้นที่ทำงานของหุ่นยนต์
โคบอทส์แตกต่างจากหุ่นยนต์อุตสาหกรรมทั่วไป ถูกสร้างขึ้นด้วยความคำนึงถึงความปลอดภัย ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสำหรับคนงาน ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับคนทำงานโดยเฉพาะ หุ่นยนต์เหล่านี้ทำงานได้ดีที่สุดภายใต้การแก้ปัญหาที่ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย ด้วยฟังก์ชั่นความปลอดภัยในตัวโคบอทส์และคนสามารถทำงานควบคู่โดยไม่ต้องใช้กรง (ขึ้นอยู่กับการประเมิน)
บริษัท หนึ่งบริษัท ที่เชื่อมั่นความสามารถและทำงานอย่างใกล้ชิดกับโคบอทส์ คือ บริษัท พีแอลซี อินดัสตรี่ส์ (PLC Industries) ในสิงคโปร์ บริษัท พีแอลซี อินดัสตรีส์ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงานเป็นอันดับต้นเนื่องจากพนักงานต้องทำงานใกล้กับหุ่นยนต์ บริษัท ต้องการให้แน่ใจว่าหุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยภายในพื้นที่ จำกัด หลังจากการประเมินที่ครอบคลุมอุตสาหกรรม พีแอลซี อินดัสตรีส์ ได้พิจารณาว่าหุ่นยนต์ UR10 ของยูนิเวอร์ซัล โรบอท ตอบสนองความต้องการดังกล่าวโดยไม่จำเป็นต้องมีการดูแลความปลอดภัย
“การเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของเรารู้สึกสบายใจที่จะทำงานร่วมกับหุ่นยนต์นับว่า เป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างยิ่ง ความสามารถในการทำงานโดยปราศจากความกลัวเป็นข้อดีอย่างแน่นอนสำหรับเราทุกคน การมุ่งเน้นที่ได้รับการปรับปรุงที่ทุกคนมีในขณะนี้นั้นมาจากความเหนื่อยล้าที่ลดลงและระดับความเข้มข้นที่สูงขึ้น สิ่งนี้ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีนัยสำคัญ” นายเยียว ฮอค ลี ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท พีแอลซี อินดัสตรีส์ กล่าว
5. หุ่นยนต์มีราคาแพง
มีความจริงบางอย่างสำหรับการเล่าขานนี้ – หุ่นยนต์อาจมีราคาแพง แต่นั่นไม่เป็นความจริงสำหรับหุ่นยนต์ทุกประเภท สำหรับโคบอทส์นั้นค่าใช้จ่ายล่วงหน้ามักจะเป็นเพียง 20% ของหุ่นยนต์แบบดั้งเดิมโดยมีระยะเวลาคืนทุนโดยเฉลี่ยสั้นเพียงหกถึงแปดเดือน โคบอทส์นั้นคุ้มค่าและการติดตั้งต้องการการลงทุนเพียงเล็กน้อยเนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ และไม่เหมือนหุ่นยนต์แบบดั้งเดิมพวกเขายังสามารถปรับใช้กับฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในสายการผลิตและใช้ได้ตลอดเวลา
ในยุคของความท้าทายระดับโลกเช่น การระบาดของโรค สงครามการค้า ความวุ่นวายทางการเมือง และอื่น ๆ บริษัท จำเป็นต้องลดความเสี่ยงและสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนและปลอดภัย การทำงานอย่างอัตโนมัติด้วยคำนึงถึงความเป็นมนุษย์ไม่เพียงเป็นไปได้เท่านั้น แต่ยังยั่งยืนและปลอดภัยด้วยการใช้หุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกันกับมนุษย์หรือโคบอทส์ ยุคของหุ่นยนต์จะอยู่ที่นี่เพื่อสิ่งที่ดีกว่าสำหรับพวกเราทุกคน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,800.00 | 25,900.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,671.00 | 25,332.36 | 26,400.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,503.90 | 22,799.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,336.80 | 20,265.89 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 752.00 | 11,400.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 585.00 | 8,868.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,732.00 | 26,257.12 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 30/06/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 21.55 | 21.55 | 21.55 | 21.55 | 21.55 | 21.55 | 21.55 | 21.55 | 21.55 | 21.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 21.28 | 21.28 | 21.28 | 21.28 | 21.28 | 21.28 | 21.28 | 21.28 | 21.28 | 21.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 20.04 | 20.04 | 20.04 | 20.04 | 20.04 | – | 20.04 | 20.04 | 20.04 | 20.04 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 17.99 | 17.99 | – | – | – | – | – | 17.99 | – | – |
เบนซิน 95 | 28.96 | – | – | – | 29.41 | – | 29.46 | 28.96 | – | 28.96 |
ดีเซล | 21.99 | 21.99 | 21.99 | 21.99 | 21.99 | 21.99 | 21.99 | 21.99 | 21.99 | 21.99 |
ดีเซล B10 | 18.99 | 18.99 | 18.99 | 18.99 | 18.99 | 18.99 | 18.99 | 18.99 | 18.99 | 18.99 |
ดีเซล B20 | 18.74 | 18.74 | 18.74 | 18.74 | 18.74 | – | 18.74 | 18.74 | – | 18.74 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 26.14 | 26.16 | 28.14 | 28.14 | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |