สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 31 พฤษภาคม 2561

BLUE HORIZON คว้ารางวัล ASIA PACIFIC PROPERTY AWARDS 2018

บริษัทอสังหาฯชั้นนำในภูเก็ต BLUE HORIZON DEVELOPMENTS คว้ารางวัล ASIA PACIFIC PROPERTY AWARDS 2018

นับเป็นก้าวสำคัญแห่งความสำเร็จของ นายอันเดรส พิรา ซีอีโอของ Blue Horizon Developments (ประเทศไทย) และทีมงาน ที่ทุ่มเทในการทำงาน อย่างหนักตลอด 15 ปี ได้รับรางวัลใหญ่สำหรับประเทศไทยในงาน Asia Pacific Property Awards 2018-2019 ที่ผ่านมา

2_2

Blue Horizon Developments (ประเทศไทย) บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต ด้วยความโดดเด่นด้าน มาตราฐานที่ดีเลิศ และวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจก่อให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ ควบคู่ไปกับกิจกรรมตอบแทนให้แก่สังคม
โดยปัจจุบันมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือ Blue Horizon Developments  มากกว่า 15 โครงการเช่น Grand Himalai Oceanfront Residences, Himalai Oceanfront Condominiums, Best Western Beachfront Condominiums, Skylight Villas, Signature Villas และ Pre-selling Heavena Residences by the Sea
1
นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ภูเก็ต คอนโด & บ้านพักพร้อมที่ดินในจังหวัดภูเก็ต  รวมถึงมีการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เช่น JustFit gym, สำนักงานกฎหมาย, สถานีบริการน้ำมัน, รวมถึงร้านกาแฟหลายแห่ง
การได้รับการคัดเลือกในการมอบรางวัลดังกล่าว จะพิจารณาจากผลงานนับพันๆผลงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Blue Horizon Developments ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ทั้งชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือถึง 9 รางวัลจาก Asia Pacific Property Awards 2018 ในระหว่างวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2018 ที่ได้โรงแรม Marriott Marquis Queen’s Park เป็นเจ้าภาพ ซึ่งในปีที่ผ่านมา Blue Horizon ได้รับรางวัล 3 รางวัล สาขาอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 2560-2561 ในหัวข้อ “New Hotel Construction & Design” และ “Mixed-use Development Thailand” สำหรับ Best Western The Beachfront และ “Real Estate Agency” สำหรับ อสังหาริมทรัพย์ใน Property In Phuket Co., Ltd.
อันเดรส พิร่า กล่าวด้วยความปลื้มปิติว่า “การที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และ การเป็นกลุ่มบริษัท ที่ได้รับการคัดเลือกจากทีมรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดของเอเชีย เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมนี้”
โดยโครงการในเครือ Blue Horizon Developments (ประเทศไทย) ที่ได้รับรางวัล Asia Pacific Awards ในเดือน พฤษภาคม 2561 มีดังต่อไปนี้;
– Real Estate Agency Thailand – Property In Phuket Co., Ltd
– Property Consultancy Thailand – Property In Phuket Co., Ltd
– Hotel Architecture Thailand – Himalai Oceanfront Condominium
– Mixed-use Development Thailand – Himalai Oceanfront Condominium
– New Hotel Construction & Design Thailand – Grand Himalai Oceanfront Residences
– Best Mixed-use Development Thailand – Himalai Oceanfront Condominium
– Best New Hotel Construction & Design Thailand – Grand Himalai Oceanfront Residences
– Best Real Estate Agency Thailand – Phuket Condos and Homes
 สำหรับรางวัล Asia Pacific Awards เป็นกลุ่มบริษัทในเครือของ International Property Awards ซึ่งรวมถึงภูมิภาคต่างๆทั่วโลกทั้งในแอฟริกา อารเบีย ยุโรป อเมริกา และสหราชอาณาจักร ซึ่งการมอบรางวัลดังกล่าว นั้นแสดงถึง ประกาศยกย่องความสำเร็จสูงสุดสำหรับบริษัท ที่ดำเนินงานทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมด้าน อสังหาริมทรัพย์ และผู้ชนะรางวัลจะแข่งขันกับผู้ชนะคนอื่นๆ เพื่อที่จะได้รับเป็น ‘ที่สุดในโลก’ ในแต่ละสาขาของพวกเขา ซึ่งแน่นอน ทางBlue Horizon Development กำลังตั้งใจทำงานเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายนี้
“ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศว่า บริษัท Blue Horizon Development รวมถึงกลุ่มบริษัทในเครือ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล International Property Awards ที่กรุงลอนดอนที่จะเกิดขึ้นในปลายปี 2561 ผมไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้หากปราศจากภรรยาของผม นาเดีย ทีมของเรามีพนักงานถึง 149 คน ชุมชนภูเก็ตของเรา และลูกค้าของเราที่เชื่อมั่นใน Blue Horizon และความพยายามอย่างหนักของเราที่ต้องการจะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่คุณสามารถคาดหวังว่าจะได้ยินจากเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ” อันเดรส กล่าว ” จนถึงตอนนี้เราได้รวบรวมรางวัลจาก Asia Pacific Property ทั้งหมดถึง 12 รางวัล และแน่นอนพวกเราอยากให้ถึงปีหน้าเร็วๆ! “
http://www.bangkokbiznews.com

ส่องความคืบหน้า ไฮสปีด “ไทย-จีน” ใกล้ความเป็นจริงจะได้ใช้บริการ

ส่องความคืบหน้า ไฮสปีด

โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา ระยะทาง 252.3 กม. หรือไฮสปีดไทย-จีน วงเงินลงทุนกว่า 179,000 ล้านบาท โดยในส่วนงานโยธามีค่าก่อสร้าง 122,593 ล้านบาท แบ่งประมูล 14 สัญญา เริ่มดำเนินการแล้ว 1 สัญญา เหลือ 13 สัญญา

ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธานเปิดจุดการก่อสร้างไฮสปีดเทรนไทย-จีน บริเวณมอหลักหิน พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวัยที่ 17 ธันวาคม 2560 ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา ระยะทาง 252.3 กม. โดยงานช่วงที่ 1 ตั้งแต่บริเวณสถานีรถไฟกลางดง-สถานีรถไฟปางอโศก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระยะทาง 3.5 กม.

ขณะที่ นายหวัง เสี่ยวเทา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน เป็นประธานในพิธีเริ่มการก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยบริษัทของประเทศจีนได้ทำสัญญาเป็นผู้ดำเนินการสร้าง โดยมีนายช่างที่ชำนาญการ และมีคณะกรรมการของประเทศไทยเป็นผู้ควบคุมดูแแล

สำหรับโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงนี้จะเชื่อมโยงประเทศไทยกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคและโครงข่ายคมนาคม One Belt One Road ของรัฐบาลจีน ที่จะสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.3 กม.วงเงินลงทุนประมาณ 179,000 ล้านบาท โดยรถไฟจะใช้ความเร็วสูง 250 กม./ชม. ซึ่งมีสถานีทั้งหมด 6 สถานี คือ
– สถานีกลาง
– สถานีดอนเมือง
– สถานีอยุธยา
– สถานีสระบุรี
– สถานีปากช่อง
– สถานีนครราชสีมา

โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเข้ามาในพื้นที่ มักถูกแลกด้วยการเวนคืนที่ดิน เหตุนี้จึงควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม!

ทั้งนี้นับตั้งวันนั้นถึงวันนี้ การดำเนินการปรับพื้นที่การก่อสร้างย่างเข้าสู่เดือนที่ 6 แล้วมีความคืบหน้าเป็นลำดับ โดยเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คมนาคม นำคณะเดินทางลงพื้นที่ เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ซึ่งพื้นที่การก่อสร้างมีการปรับพื้นที่ พร้อมนำอุปกรณ์และเครื่องจักรกลหนักครบครัน ในบริเวณการก่อสร้าง

“ไพจิตร แสงทอง” นายช่างโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา เล่าให้ฟังว่า การก่อสร้างคืบหน้าไปประมาณ 10% เนื่องจากได้ปรับถมพื้นที่เป็นระยะทาง 900 เมตร โดยใช้วัสดุกรุ๊ปเอ บี ถมเกือบตลอดแนวแล้ว ความหนา 210 ซม. รวมทั้งวัสดุกรุ๊ปบี ปรับพื้นให้หนาประมาณ 40 ซม. โดยการก่อสร้างได้ขยายแนวเขตออกไปเล็กน้อยเกือบชิดทางรถไฟเดิม และต้องรื้อรางรถไฟออกบางจุด รวมทั้งการปรับเทร่องระบายน้ำควบคู่กันไป ปัจจุบันมีคนงานที่เป็นคนไทย 70-80 คน ซึ่งจะเพิ่มเข้ามาอีก

หากงานช่วงที่ 1 เสร็จ จะเริ่มงานช่วงที่ 2 จากสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม.ต่อไป คาดว่าจะเปิดประมูลภายในเดือนมิถุนายน คาดว่าจะใช้วงเงินก่อสร้างช่วงนี้ประมาณ 5,000 ล้านบาท มีเนื้องาน 3 ส่วน คือสร้างคันรถไฟ โครงสร้างทางยกระดับและอาคารซ่อมบำรุง

อย่างไรก็ตามต้องดูต่อไปว่าโครงการก่อสร้างไฮสปีดไทย-จีน ซึ่งถือเป็นสายแรกของประเทศไทยที่จะแล้วเสร็จตามเป้าหมายที่คาดไว้ในช่วงปี 2564 ได้หรือไม่ 

https://www.ddproperty.com


สกว. จับมือ ธกส. เตรียมยกระดับศูนย์เรียนรู้ชุมชน สร้างเศรษฐกิจฐานราก

“สกว.-ธกส.” ร่วมพันธกิจ ยกระดับศูนย์เรียนรู้ชุมชนเป็นศูนย์นวัตกรรมชุมชน สร้างการเรียนรู้รูปแบบใหม่ เสริมเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน 

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย – ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล รองผู้อำนวยการสกว.ด้านการวิจัยเชิงยุทธศาสตร์, รศ.ดร.ประภาพร ขอไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายเกษตร, ผศ.ดร.ชูพักตร์ สุทธิสา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น รศ.ดร.เรณู สุขารมณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายชุมชน สังคม และ นายสุรชัย รัศมี ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ธกส. ร่วมประชุมและหารือความเข้าใจของคณะทำงานขับเคลื่อนความร่วมมือด้านวิชาการ และ การพัฒนางานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ ครั้งที่ 2

ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผอ. สกว. กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจในความร่วมมือด้านวิชาการ การเผยแพร่ความรู้จากผลงานวิจัย ที่ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงสนับสนุนงบประมาณในโครงการวิจัยที่เห็นชอบร่วมกันเพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนท้องถิ่นในการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก และเพื่อพัฒนาภาคเกษตรและชนบทของไทยให้ก้าวทันกับเทคโนโลยี โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ เป้าหมายกับการพัฒนาที่ยั่งยืน

2_3

ทั้งนี้ที่ผ่านมา สกว. ทำหน้าที่สนับสนุนทุนวิจัยและพัฒนาทั้งในระดับชุมชนท้องถิ่น  ระดับจังหวัด ระดับประเทศ และระดับระหว่างประเทศโดยใช้การวิจัยเป็นกลไกสร้างฐานความรู้สำหรับการแก้ปัญหา สกว.มีเครือข่ายนักวิจัยทั่วประเทศ ทั้งนักวิจัยชาวบ้านหรืองานวิจัยเพื่อท้องถิ่น เพื่อสร้างการเรียนรู้ในระดับพื้นที่ ซึ่ง ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตลอด 20 ปี

ด้าน รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล กล่าวเสริมว่า สกว. และ ธกส.มีเป้าหมายร่วมกัน ที่ใช้ความรู้ทางด้านวิชาการ โดยเฉพาะความรู้จากกระบวนการวิจัยเพื่อท้องถิ่น เชื่อมโยงกับศูนย์การเรียนรู้ในพื้นที่ เพื่อยกระดับให้เป็นศูนย์นวัตกรรมชุมชน ทั้งในมิติของการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากโดยไม่ยึดติดกับประเด็นทางเกษตรเพียงอย่างเดียว ควบคู่กับการสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ ให้เป็น “ชุมชนอุดมสุข” โดยใช้เครื่องมือของงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นในการสร้างพี่เลี้ยง เพื่อให้พี่เลี้ยงกลับมาดูแลน้องในรุ่นต่อไป ตลอดจนการคิดค้นระบบการจัดการ เพราะการจัดการที่เป็นระบบจะทำให้การขยายผลได้เร็วขึ้น ประกอบกับนโยบายรัฐบาลปัจจุบันได้ตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องของเศรษฐกิจฐานราก และ การแก้ไขปัญหาความยากจน

สำหรับการดำเนินการวิจัย โครงการยกระดับศูนย์เรียนรู้ เพื่อการพัฒนาเป็นชุมชนอุดมสุข มีกรอบการทำงาน 3 ปี โดยการถอดความรู้จากศูนย์เรียนรู้ของ ธกส. จำนวน 315 ศูนย์ที่กระจายตัวอยู่ตามภูมิภาคอื่นๆ ด้วยการคัดเลือกศูนย์การเรียนรู้ชุมชนที่สามารถยกระดับ และ เป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ ที่รวมองค์ความรู้ต่างๆ อาทิ สถาบันการเงินชุมชน ธนาคารความดี เทคโนโลยีการเกษตร และนวัตกรรมการจัดการ

ขณะที่ ผศ.ดร.ชูพักตร์ สุทธิสา กล่าวว่า สกว.มีการออกแบบงานให้โครงการสามารถทำงานร่วมกับโครงการแผนงานวิจัย TRF flagship Research Program (TRP) และ โรงการเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งจะมีพื้นที่ที่จะดำเนินโครงการใน 4 ภาค หากสามารถทำไปพร้อม ธกส.จะทำให้เห็นตัวชี้วัดในระยะที่ 2-3 ได้เร็วขึ้น ส่วนงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นที่เป็นนวัตกรรมสังคมสำคัญอย่างไรนั้น อาจารย์ชูพักตร์ อธิบายว่า งานวิจัยแบบนี้เป็นนวัตกรรมสำคัญของสังคมในการสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนท้องถิ่นด้วยกระบวนการวิจัยแบบนี้  โดยผลลัพธ์เบื้องต้นของการวิจัยมี 3 ประการคือ  1) การสร้างคนในพื้นที่ให้กับสังคม  2) การสร้างความรู้ที่โยงใยกับคนและพื้นที่  และ 3) การสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาในพื้นที่ด้วยกระบวนการวิจัย  สิ่งเหล่านี้ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่นถือว่าเป็นการสร้างพุทธะ  สร้างธรรมะ  และสร้างสังฆะ ให้กับชุมชนและสังคม  ดังนั้นโดยพื้นฐานของกระบวนการวิจัยเพื่อท้องถิ่นเองก็เป็นนวัตกรรมภายในตัวเอง

http://www.bangkokbiznews.com


บาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่า32.04บาทต่อดอลลาร์

บาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่า32.04บาทต่อดอลลาร์ ตลาดการเงินทั่วโลกเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง แต่ยังระวังสงครามการค้าสหรัฐ

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงิน ตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.04บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 32.10 บาทต่อดอลลาร์

ในคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk-on) อีกครั้ง หลังจากที่บอนด์ยิลด์อิตาลีอายุ 10ปีปรับตัวลงถึง 0.69% เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อเพราะเชื่อว่าการเมืองมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลให้หุ้นสหรัฐอย่างดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นตามถึง 1.3% หุ้นเล็กในสหรัฐ Russell 2000 กลับมาทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวกลับขึ้นมาที่ระดับ 77 ดอลลาร์/บาร์เรล

นอกจากนี้ ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจของทางฝั่งสหรัฐด้วย การจ้างงานภาคเอกชน (ADP)ในเดือนพฤษภาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นต่ออีก 1.7แสนตำแหน่งจีดีพี สหรัฐไตรมาสหนึ่ง (รายงานครั้งที่สอง) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.20% เทียบกับไตรมาสก่อน และเงินเฟ้อพื้นฐานในสหรัฐ (US Core PCE) สูงขึ้น 2.30% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

แม้ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งหมดจะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดมองไว้บ้าง แต่ก็ไม่มีตัวเลขไหนที่แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเลย

เรามองว่าทิศทางของตลาดการเงินทั้งหมดไม่ได้เปลี่ยนภาพตลาดเอเชียมาก ค่าเงินเยนญี่ปุ่นยังมีทิศทางแข็งค่า ขณะที่ค่าเงินยูโรก็มีทิศทางอ่อนค่าต่อในช่วงนี้ จึงไม่แปลกที่นักลงทุนจะไม่มีความรีบร้อนกลับเข้าถือสินทรัพย์เสี่ยง

จุดที่ต้องติดตามคือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ อาจนำไปสู่การตั้งกำแพงภาษีขึ้นจริงและจะกดดันตลาดการเงินเอเชียได้

สำหรับเงินบาทวันนี้ พบว่าผู้นำเข้าเริ่มซื้อดอลลาร์บ้างแล้วหลังจากที่ราคาปรับตัวลงหลุดระดับ 32 บาท แต่ผู้ส่งออกยังคงมองว่าค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าได้อีก จึงไม่มีแรงขายมารับ ส่งผลให้ตลาดยังคงมีสภาพคล่องที่ต่ำ เชื่อว่าช่วงที่เหลือของสัปดาห์ตลาดจะยังเคลื่อนไหวในกรอบกว้าง รอความชัดเจนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและการว่างงานในวันศุกร์ มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 31.95-32.15 บาทต่อดอลลาร์

http://www.bangkokbiznews.com


อ่านสร้างสรรค์ สู่จินตนาการสร้างศิลป์

เสริมสร้างทักษะวรรณศิลป์-ทัศนศิลป์เยาวชน

บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ อินทัช เห็นความสำคัญของการอ่าน และกระตุ้นการสร้างแรงบันดาลใจจากการอ่านเพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะ จึงจัดงาน “อ่านสร้างสรรค์ สู่จินตนาการสร้างศิลป์” ในโครงการ จินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทยกับอินทัช ปีที่ 12 เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนคิดอย่างสร้างสรรค์ กระตุ้นแรงบันดาลใจและจินตนาการ ต่อยอดสู่การสร้างสรรค์สิ่งที่ดีผ่านงานศิลปะสู่สังคม

นายเอนก พนาอภิชน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การอ่านเป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย นอกจากเป็นการเปิดโลกทัศน์ของเราให้กว้างไกลแล้ว ยังเป็นการฝึกสมาธิเพื่อนำเราไปสู่จินตนาการที่หลากหลาย อินทัช จึงให้ความสำคัญกับการอ่านด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนไทยเห็นคุณค่าของการอ่านผ่านโครงการ จินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทยกับอินทัชที่ช่วยกระตุ้นและส่งเสริมทักษะด้านวรรณศิลป์ และทัศนศิลป์ของเยาวชนได้เป็นอย่างดี

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการได้อ่านวรรณกรรมหลากหลายประเภททั้งหนังสือพระราชนิพนธ์ วรรณกรรมพื้นบ้าน วรรณกรรมในชั้นเรียน วรรณกรรมร่วมสมัย รวมถึงวรรณกรรมที่ได้รับรางวัลต่างๆ มากมายรวมแล้วกว่า 1,900 เรื่อง นอกจากนี้ เราภูมิใจที่ภาพวาดในโครงการของเราได้มีส่วนช่วยให้เด็กๆ ที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์มีโอกาสได้เรียนต่อโดยเรานำเงินรายได้จากการจำหน่ายภาพการกุศลสมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดามาอย่างต่อเนื่องโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

สำหรับในปีนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่อินทัชต้องการปลูกจิตสำนึกรักการอ่านแก่เด็กและเยาวชนเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ส่งเสริมให้คิดบวกพร้อมต่อยอดการอ่านให้กลายเป็นงานศิลปะด้วยจินตนาการและแรงบันดาลใจจึงได้จัดกิจกรรมพิเศษ “อ่านสร้างสรรค์ สู่จินตนาการสร้างศิลป์” เพื่อเปิดโอกาสให้น้องๆ เยาวชน ครู อาจารย์ตลอดจนผู้ปกครองได้ร่วมรับฟังความคิดเห็นบนเวทีพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากสองนักสร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจ ได้แก่ อาจารย์สังคม ทองมี ผู้อำนวยการศูนย์ศิลป์สิรินธร และ อาจารย์ชีวัน วิสาสะ นักเขียนเรื่อง นักเล่านิทาน และนักวาดภาพประกอบที่จะมาให้ความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์เกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจจากการอ่านเพื่อถ่ายทอดเป็นงานศิลปะ และเทคนิคการเล่าเรื่องอย่างสร้างสรรค์เพื่อฝึกการใช้จินตนาการ รวมถึงได้ฟังแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานศิลปะจากน้องๆ ที่ได้รับรางวัลจากโครงการ จินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทยกับอินทัช ปีที่ผ่านมาอีกด้วย

ในปีที่ 12 นี้ โครงการ จินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทยกับอินทัช เปิดรับสมัครแล้ว น้องๆ ที่สนใจสามารถส่งภาพวาดเข้าประกวดในหัวข้อ “ความสุข ความงดงามในความเป็นไทย” โดยถ่ายทอดความงดงามของเรื่องราวความเป็นไทยที่แสดงถึงความสุขและเอกลักษณ์ความเป็นไทยตามจินตนาการของเยาวชนนำเสนอผ่านภาพวาดชิงทุนการศึกษา 1,350,000 บาท หมดเขตส่งผลงาน 15 กรกฎาคม 2561

http://www.bangkokbiznews.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 31/05/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,650.00 19,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,273.00 19,298.68 20,250.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,148.40 17,368.81 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 573.00 8,686.68 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 446.00 6,761.36 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,319.00 19,996.04 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  31/05/2561


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
แก๊สโซฮอล E-20
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
แก๊สโซฮอล E-85 21.14 21.14 21.14 21.14
แก๊สโซฮอล 91 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98
เบนซิน 95 36.36
36.81
36.86 36.86 36.86 36.86
ดีเซลหมุนเร็ว
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 31.79 31.79 31.79 31.79 31.79
มีผลตั้งแต่ 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00

 

 

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า