สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2562

บีทีเอส-แสนสิริเป๋าตุง Q4กำไร1,000ล้าน

” บีทีเอส – แสนสิริ ” ตอกย้ำความแข็งแกร่งพันธมิตรทางธุรกิจ เตรียมทัพเดินหน้าพัฒนาโครงการร่วมกันระยะยาว เผย ตุนที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าครบแล้ว รอขึ้นโครงการรับโอกาสเกือบทุกสาย ทะลุเป้าหมาย 25 โครงการ มูลค่า 1 แสนล้านบาท ขณะล่าสุด เตรียมโอน 4 คอนโดฯ ไตรมาส 4 ชูกำไรปีนี้กว่า 1 พันล้านบาท และพรีเซลส์แบ็กล็อกรอโอน 1.75 หมื่นล้านบาท ปี 62-65

นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประกาศความร่วมมือของกลุ่มบริษัทบีทีเอสและแสนสิริเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ครั้งแรกของประเทศไทย ที่ผู้นำระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ได้จับมือพัฒนาคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ บมจ. ยู ซิตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกลุ่มบริษัทบีทีเอส ที่ดูแลธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้รับโอนโครงการความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัทบีทีเอสและแสนสิริ เข้ามาในพอร์ตเมื่อปี 2561 ปัจจุบันมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมตามดีมานด์และสภาวะตลาดร่วมกัน 14 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 50,000 ล้านบาทและมียอดขายรวม ณ ปัจจุบันที่ 35,000 ล้านบาทหรือกว่า 70%ของยอดขายทั้งหมดอันรวมถึง 4 โครงการภายใต้แบรนด์ ‘เดอะไลน์ (THE LINE)’ , ‘เดอะเบส (THE BASE)’ และ ‘คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค (KHUN by YOO inspired by Starck)’ ที่เตรียมส่งมอบให้กับลูกค้าในไตรมาส 4 ปีนี้ด้วย ซึ่งถือว่ายอดขายและการเปิดตัวโครงการเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่วางไว้แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันจะผันผวน

ทั้งนี้ ด้วยยอดพรีเซลส์แบ็กล็อกสำหรับโครงการร่วมทุนที่มีร่วมกัน 17,500 ล้านบาทที่เตรียมส่งมอบในปี 2562 ถึง 2565 เราเชื่อว่าจะสามารถนำมาสู่กำไรของโครงการร่วมทุนระหว่าง ยู ซิตี้ และแสนสิริ ได้กว่า 1,000 ล้านบาทได้ในปีนี้

“หนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จ คือ แบรนด์ที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทบีทีเอสและแสนสิริ ดึงดูดให้ผู้ซื้อทั้งกลุ่มเรียลดีมานด์และนักลงทุนต่างชาติเชื่อมั่น ตลอดจนบริการหลังการขายที่ครอบคลุม เข้าใจกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ ” นางสาวปิยพร กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีแผน เจาะกลุ่มตลาดซูเปอร์ลักชัวรี่ด้วยการพัฒนาคอนโดมิเนียมบนสุขุมวิท 38 ด้วยจุดเด่นทำเลติดสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ รวมถึงการออกแบบอาคารและตกแต่งภายในที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์เนอร์ระดับโลก ซึ่งคาดว่าจะเปิดขายอย่างเป็นทางการเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมอยู่ได้ใน พ.ศ.2564 หรือในอีก 2 ปีข้างหน้าเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์บนถนนสุขุมวิท

ด้านนางสาว วรางคณา อัครสถาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานการเงินและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “บริษัทร่วมทุน ‘บีทีเอส-แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป’ เตรียมส่งมอบคอนโดพร้อมอยู่บนทำเลศักยภาพติดแนวรถไฟฟ้ารอบกรุงเทพฯ 4 โครงการ ได้แก่ ‘เดอะ เบส เพชรเกษม , ‘เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 , ‘เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ และโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนสุดท้ายปลายปีนี้ คือ ‘คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค โดยยอดขายพร้อมโอนปีนี้ของทั้ง 4 โครงการรวมมูลค่าสูงกว่า 11,500 ล้านบาท

ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจร่วมกัน 2 บริษัทนั้น ยืนยันว่า ยังคงมีความเหนียวแน่น ร่วมกันในระยะยาว จากเดิมที่เคยประกาศเป้าหมายเบื้องต้นพัฒนาโครงการร่วมกัน จำนวน 25 โครงการ มูลค่า 100,000 ล้านบาท ล่าสุดมีการเซ็นสัญญาไปแล้ว จำนวน 10 โครงการ และอยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวน 4 โครงการ ขณะยังมีที่ดินเปล่ารองรับเพื่อพัฒนาโครงการต่างๆ อีกจำนวน 12 โครงการ เป็นต้น

” ขณะนี้กำลังวางแผนร่วมกันถึงโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งยังวิเคราะห์ต่อว่า มาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาฯของรัฐที่ออกมา จะช่วยสนับสนุนแผนดังกล่าวอย่างไร หลังจากขณะนี้ มีที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าตุนรอไว้พร้อมหมดแล้ว ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายใหม่เกือบทุกสี รอเพียงความชัดเจนของแผนรถไฟฟ้าสายนั้นๆ รวมถึงปัจจัยบวกที่จะมาจาก กฎหมายผังเมืองฉบับใหม่ด้วย ส่งผลให้บางโซนนิ่ง ได้รับประโยชน์เพิ่มเติม เช่น FAR ที่เพิ่มขึ้น ” นางสาววรางคณา กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้เข้าสู่ยุคเรียลดีมานด์ที่ลูกค้าซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยเป็นหลัก บีทีเอสและแสนสิริจึงพิถีพิถันในการพัฒนาโครงการทุกโครงการเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ได้มากที่สุด และตรงกับอุปสงค์ของตลาดคอนโดมิเนียมในขณะนั้น นอกจากทำเลศักยภาพตามแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชน เรายังให้ความสำคัญกับพื้นที่ชุมชนที่เป็นทำเลของผู้อยู่อาศัยจริง เพื่อให้การพัฒนาโครงการสอดคล้องกับความต้องการ โดยยังคงมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่เพราะยังคงเป็นตลาดที่ยังคงขยายตัวอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามั่นใจว่าผลกำไรในปีนี้ของโครงการจากความร่วมมือกันระหว่างบีทีเอสและแสนสิริจะเป็นไปตามเป้าที่ 1,000 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ที่ดินประกาศใช้ มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ 1 พ.ย.

อธิบดีกรมที่ดินประกาศใช้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ 1 พฤศจิกายนนี้ สั่งการเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อม

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมตืมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2562 ระยะที่ 2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับภารกิจของกรมที่ดินในการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโอนและจำนองอสังหาริมทรัพย์

ด้วยการลดค่าจดทะเบียนการโอนและจำนองอสังหาริมทรัพย์อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนโอนในคราวเดียวกัน เหลือ 0.01% สำหรับกรณีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท สำหรับประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ ตลอดจนการโอนและจำนองห้องชุด จากผู้ประกอบนั้น

ล่าสุดนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน ได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานที่ดินทั่วประเทศ ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างกรมที่ดินเร่งดำเนินการออกประกาศกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้สำนักงานที่ดินทั่วประเทศถือปฏิบัติ โดยคาดว่าน่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป จนถึงวัน 24 ธันวาคม 2563

จึงขอให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด สาขา ส่วนแยก สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการประชาชนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการดังกล่าวต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เจ.พี. มอร์แกน เผยศก.โลกทรุดเสี่ยงสูงภาคธุรกิ

เจ.พี. มอร์แกน เผยศก.โลกทรุดเสี่ยงสูงภาคธุรกิจ

เจ.พี. มอร์แกน เผยเศรษฐกิจโลกทรุด เป็นความเสี่ยงสูงภาคธุรกิจในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า

เกือบหนึ่งในสาม (30%) ของผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 150 รายจาก 130 บริษัทระดับโลกจัดอันดับให้แนวโน้มการถดถอยของเศรษฐกิจโลกเป็นความเสี่ยงสูงสุด ตามด้วย 27% ที่แสดงความกังวลต่อผลกระทบจากภาษีนำเข้าทั่วโลก และ 24% ที่มองว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ที่ชะลอตัวลงเป็นความเสี่ยงสูงสุด ส่วนความกังวลด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (10%) และผลกระทบจาก Brexit (9%) ตามมาเป็น 2 อันดับท้ายสุด

ในด้านการรับมือกับการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน (supply chain disruption) ของธุรกิจ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 34% กล่าวว่ากำลังมองที่การกำหนดราคาใหม่กับคู่ค้าผู้ผลิตและจัดหาสินค้าให้กับองค์กร ในขณะที่ 32% ตอบว่ากำลังมองหาคู่ค้าผู้ผลิตและจัดหาสินค้าให้กับองค์กรรายใหม่ และ 15% ตอบว่ากำลังย้ายการผลิตจากประเทศจีนไปยังประเทศอื่น

นายโอลิเวอร์ บริงค์แมนน์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของ เจ.พี. มอร์แกน เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผลกระทบจากความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมหภาคเป็นประเด็นหลักสำหรับประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และเจ้าหน้าที่บริหารทรัพย์สินชั้นนำของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีธุรกิจระดับโลก เจ.พี. มอร์แกนไม่ได้เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่มองว่าการเติบโตจะชะลอลงในหลายไตรมาสข้างหน้าและคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ 2.7% ในปี 2562 และลดต่ำลงมาอยู่ที่ 2.5% ในปี 2563 เรายังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียแต่สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศก็ยังมีผลกระทบต่อความมั่นใจอยู่

ม.ล. ชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์เจ.พี. มอร์แกน ประเทศไทย กล่าวว่า เช่นเดียวกับตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ตัวเลขการส่งออกของประเทศที่แย่ลงเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นถึงวัฏจักรการลงทุนที่ชะลอลง การลงทุนภาคเอกชนยังได้รับผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าทุนหลังจากที่ทรงตัวในระดับที่ดีในช่วงต้นของปีนี้ เราคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ หลังจากคงดอกเบี้ยไว้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เจ.พี. มอร์แกนคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตด้วยอัตราที่ชะลอลงที่ 2.9% ในปี 2562 (จาก 4.1% ในปี 2561) และจะเติบโตที่ 3% ในปี 2563

สำหรับการเปลี่ยนแปลงโดยเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมด้านการเงินและการคลังนั้นประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และเจ้าหน้าที่บริหารทรัพย์สินชี้ว่าความท้าทาย 3 อันดับแรกที่พวกเขาต้องเผชิญในการรองรับอนาคตสำหรับองค์กร ได้แก่ กระบวนการที่ไม่มีประสิทธิภาพ (25%) การขาดแคลนเทคโนโลยี (25%) และการขาดแคลนทรัพยากร (24%)

ครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) ว่าเป็นเทคโนโลยีเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งจะมีบทบาทที่สำคัญที่สุดในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมการเงินแบบดั้งเดิม ตามด้วยบล็อกเชน (28%) คริปโตเคอเรนซี (15%) และควอนตัมคอมพิวเตอร์ (7%)

“ผู้ปฏิบัติงานด้านการเงินต้องการจัดการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ ขณะที่ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในปัจจุบันปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถในการส่งมอบข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญและวางการดำเนินการในอนาคตแบบเรียลไทม์ ทั้งยังเป็นประโยชน์สำหรับประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และเจ้าหน้าที่บริหารทรัพย์สินในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านสภาพคล่อง รวมทั้งเพิ่มประสิทธิผลและป้องกันการฉ้อโกง” นายบริงค์แมนน์ กล่าว

ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่พร้อมนำอีคอมเมิร์ซมาใช้ในธุรกิจ โดย 45% ระบุว่ามีกลยุทธ์ด้านอีคอมเมิร์ซพร้อมใช้ปฏิบัติการ และร้อยละ 21 กล่าวว่ายังอยู่ในช่วงการวางแผน นอกจากนี้ยังกล่าวว่าช่องทางการรับเงินที่หลากหลาย ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การพิสูจน์ยอดเงินที่ไหลเข้า และการดำเนินการขอคืนเงินและข้อพิพาทกับลูกค้าล้วนเป็นความท้าทายสำคัญในการจัดการธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ

“ไม่แปลกเลยที่อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีมูลค่าของอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งเป็นร้อยละ 70 ภายในปี 2565 การโยกย้ายกิจกรรมการค้าไปสู่แพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช่เพียงแค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่กลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับธุรกิจส่วนใหญ่ เจ.พี. มอร์แกนอยู่ในสถานะที่ดีที่จะช่วยเหลือลูกค้าของเราในการดำเนินธุรกิจด้วยแพลตฟอร์มระดับโลกและความสามารถระดับภูมิภาคและท้องถิ่นในการชำระเงินของเรา” นายบริงค์แมนน์กล่าว

การประชุมประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และเจ้าหน้าที่บริหารทรัพย์สินประจำปีครั้งที่ 6 ของเจ.พี. มอร์แกน (JP Morgan Asia Pacific CFO และ Treasurers Forum) เกิดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้เป็นครั้งที่สองในรอบ 3 ปี โดยมีผู้ปฏิบัติงานชั้นนำจากตลาดเอเชียแปซิฟิก 12 แห่ง เข้าร่วมงาน ซึ่งนับเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าตลาดรวมกันเกินกว่า 6.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


ไขข้อสงสัยทำไมภูมิแพ้ถึงเป็นๆ หายๆ แล้วรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ ?

ดูแลทุกการแพ้ ยาแก้แพ้

โรคภูมิแพ้ (Allergy) เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเพราะพันธุกรรรมหรือสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ซึ่งเราเชื่อว่าหลายคนที่เป็นโรคภูมิแพ้นั้นพยายามรักษาอาการด้วยหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการรับประทาน ยาแก้แพ้ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรง แต่แล้วก็ยังคงมีอาการภูมิแพ้กำเริบแบบเป็นๆ หายๆ จนเกิดคำถามสงสัยว่าจริงๆ แล้วโรคภูมิแพ้สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่?

เราขอตอบคำถามนี้ว่าโรคภูมิแพ้ สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จะ ต้องทราบก่อนว่าตัวเองแพ้อะไร เช่น ควันบุหรี่ ไรฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ ฯลฯ ซึ่งเราเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า สิ่งกระตุ้น” เมื่อผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ไม่ป้องกันและหลีกเลี่ยงจากสิ่งกระตุ้น อาการภูมิแพ้จึงไม่หายขาดนั่นเอง นอกจากนี้แล้วโรคภูมิแพ้อาจเกิดมาจากความเครียด สภาพอากาศหนาวเย็น และอื่นๆ ได้ด้วย หากผู้ป่วยต้องเผชิญสภาวะเหล่านี้ในขณะที่ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ ก็อาจทำให้โรคภูมิแพ้กำเริบ เป็นๆ หายๆ ได้เช่นกัน

  • “ป้องกัน” โรคภูมิแพ้ให้หายขาดได้อย่างไร ?

วิธีป้องกันที่ง่ายที่สุดก็คือ การสวมหน้ากากอนามัย เพราะการสวมหน้ากากอนามัยสามารถป้องกันโรคภูมิแพ้ได้เกือบทั้งหมด ยกเว้นความเครียดและสภาพอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งเราจะต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เช่น รับประทานวิตามินซี พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากภูมิคุ้มกันร่างกายเราต่ำ ร่างกายก็จะป่วยง่าย ภูมิแพ้ก็จะกำเริบ เป็นๆ หายๆ ไม่มีวันสิ้นสุดนั่นเอง

นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันโรคภูมิแพ้ด้วยวิธีอื่นๆ ได้อีก เช่น ระมัดระวังการรับประทานอาหารนอกบ้านสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ระบบทางเดินอาหาร ทำความสะอาดบ้านและห้องนอนอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดปริมาณไรฝุ่นภายในบ้าน หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัด หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าบ้าน ชำระร่างกายให้สะอาด พก ยาแก้แพ้ ติดตัวไว้ เป็นต้น

  • วิธีรักษาเมื่อภูมิแพ้กำเริบ
  1. รับประทานยาแก้แพ้

การรับประทาน ยาแก้แพ้ เป็นวิธีที่สามารถ ดูแลทุกการแพ้ ได้เป็นอย่างดี โดยเราแนะนำว่าผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ควรพกยาแก้แพ้ติดตัวไว้ตลอด เพราะโรคภูมิแพ้มักเกิดได้อย่างไม่ทันรู้ตัว หากรู้สึกตัวว่าภูมิแพ้เริ่มกำเริบแล้วจะได้รับประทานยาแก้แพ้ได้อย่างทันท่วงทีเพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงมากขึ้น หากผู้ที่ต้องทำงาน เรียนหนังสือกลัวว่ารับประทานยาแก้แพ้แล้วจะง่วง ปัจจุบันมี ยาแก้แพ้ ในกลุ่มที่ไม่ทำให้ง่วงด้วย ซึ่งสามารถบรรเทาโรคภูมิแพ้ได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ เช่น ยาแก้แพ้ลอราทาดีน (Loratadine) เป็นชนิดของยาแก้แพ้ที่ไม่ทำให้ง่วง ช่วยบรรเทาภูมิแพ้กำเริบ ทั้งอาการคันตามผิวหนัง ระคายเคืองจมูก ไอ จาม หรือคันตามผิวหนัง

โดย ยาแก้แพ้ ที่มีตัวยาลอราทาดีน จะรับประทานเพียงวันละ 1 ครั้งเพียง 1 เม็ดก็เพียงพอในการบรรเทาอาการ 24 ชั่วโมง อีกทั้งสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยา ทั้งนี้ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง

  1. ฉีดวัคซีนภูมิแพ้

การฉีดวัคซีนโรคภูมิแพ้เป็นอีกวิธีที่สามารถดูแลทุกการแพ้ได้ แต่ใช้ระยะเวลารักษาอย่างน้อย 3 – 5 ปี และจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาเพื่อความปลอดภัย

ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com

10 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ออกเสียงผิด ชีวิตเปลี่ยน

Error คำภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ ออกเสียงคำศัพท์

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมหลายครั้งที่เราพยายามจะสื่อสารกับชาวต่างชาติ แต่ไม่สามารถสื่อสารให้เข้าใจตรงกันสักที ปัญหาเหล่านี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการออกเสียงไม่ถูกต้อง เพราะบางคำศัพท์มีเสียงใกล้เคียงกัน ทำให้สื่อสารออกมาแล้วชาวต่างชาติเข้าใจกันไปคนละเรื่อง วันนี้เรามาติดตามกันว่า มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษอะไรบ้าง ที่ออกเสียงผิด และควรออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้อง

10 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
ออกเสียงผิด ชีวิตเปลี่ยน

1. ฉันไม่สบาย : I am sick.

ออกเสียงผิด : I am six.

วิธีออกเสียงที่ถูกต้อง : sick ลงท้ายด้วยเสียง /k/ เคอะ เหมือนเสียงเวลาระคายคอ หรือเสียงไอ

2. ฉันมีกระเป๋าใบใหม่ : I have a new bag.

ออกเสียงผิด : I have a new back.

วิธีออกเสียงที่ถูกต้อง : Bag อ่านออกเสียงยาว เหมือน แบก – แบกประเป๋า

3. ฉันชอบอาหารไทย : I’d like to have Thai food.

ออกเสียงผิด : I’d like to have Thai foot.

วิธีออกเสียงที่ถูกต้อง : Food ฟู้ดด์ (เสียงยาว) แปลว่า อาหาร ส่วน Foot ฟุ๊ท (ออกเสียงสั้น) แปลว่า เท้า ลงท้ายด้วยเสียง /t/

4. ฉันจะมีเงินเดือนที่สูงขึ้นได้อย่างไร : How can I get a higher salary?

ออกเสียงผิด : How can I get a higher celery?

วิธีออกเสียงที่ถูกต้อง : Salary ออกเสียงเหมือน selling something ขายของก็ได้เงิน Salary แปลว่าเงินเดือน ส่วน Celery คือ คึ่นช่ายฝรั่ง

5. ฉันใช้เงิน 1,000 บาท ไปกับเสื้อผ้า : I spent 1,000 baht on clothing.

ออกเสียงผิด : I spent 1,000 bath on clothing.

วิธีออกเสียงที่ถูกต้อง : “บาท” ลงท้ายด้วย ท.ทหาร คือเสียง /t/ และสะกดให้ถูกด้วยนะจ๊ะ Baht

6. ขอสั่งข้าวผัด : Can I have fried rice, please?

ออกเสียงผิด : Can I have fried lice, please?

วิธีออกเสียงที่ถูกต้อง : Rice แปลว่า ข้าว รวงข้าว ต้องออกเสียงคล้าย /s/ (ไรซ์) ส่วน Lice แปลว่า เห็บเหา ออกเสียงอีกแบบว่า (ไลซ์)

7. พวกเขาแพ้ได้อย่างไร : How did they lose?  

ออกเสียงผิด : How did they loose?

วิธีออกเสียงที่ถูกต้อง : lose (ลูส) แปลว่า แพ้  ตัว L กับตัว O มันอยู่ใกล้กัน มันจะดูเหมือนเลข 1 กับ 0 คงไม่มีบอลนัดไหนแพ้กัน 1 ต่อ 00 เนอะ ส่วน loose (ลูส) ออกเสียงเหมือนกัน แต่มีความหมายแปลว่า หลวม หรือ แก้มัด

8. พายแอปเปิ้ลเป็นของหวานที่ฉันชื่อนชอบ : Apple pie is my favorite dessert.

ออกเสียงผิด : Apple pie is my favorite desert.

วิธีออกเสียงที่ถูกต้อง : Dessert (ดีเสริท) แปลว่า ขนม ส่วน Desert (เดสเสริ์ท) แปลว่า ทะเลทราย

9. ฉันชอบทานปู : I like to eat crab.

ออกเสียงผิด : I like to eat crap.

วิธีออกเสียงที่ถูกต้อง : Crap (แครพ) แปลว่า อุจจาระ หางตัว p ขี้ลง เหมือนอุจจาระลงชักโครก ส่วน Crab (แครบ)แปลว่า ปู หางตัว b ชี้ขึ้นเหมือนก้ามปู

10. เสื้อของคุณไม่มีกระดุม : Your shirt is missing a button.

ออกเสียงผิด : Your shirt is missing a bottom.

วิธีออกเสียงที่ถูกต้อง : Bottom (บอท เทิ่ม) แปลว่า ก้น ลงท้ายด้วยตัว m  ส่วน Button (บัท’เทิน) แปลว่า กระดุม,กระดุมเสื้อ,ปุ่ม

ขอบคุณข้อมูลจาก teen.mthai.com


ออปโป้ปรับทัพสินค้า ลุยสมาร์ทโฟนท้ายปี

ออปโป้ ปรับทัพรุกตลาดท้ายปี เปิดตัว Reno2 F และ Reno2 ประกาศเลิกทำตลาด F ซีรีส์ ยันยังครองแชมป์เบอร์ 1 สมาร์ทโฟนระดับกลาง เตรียมพร้อมเดินหน้าเจาะตลาดบน เล็งเปิด ซูเปอร์ แฟล็กชิพ สโตร์ แห่งแรกในไทย

นายชานนท์ จิรายุกุล รองประธานกรรมการฝ่ายบริหาร ออปโป้แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้นั้นจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้นประมาณ 5-8% ขณะที่ในแง่ของเม็ดเงินนั้นไม่โต มาจาก 2 ประเด็น คือ เรื่องเศรษฐกิจและการแข่งขันที่ดุเดือดของตลาด ซึ่งทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ สามารถซื้อสมาร์ทโฟนในราคาไม่สูงมากแต่มีคุณภาพครอบคลุม

ทั้งนี้กลยุทธ์ในการรุกตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี จากเมื่อเดือนมิถุนายน ออปโป้ได้มีการเปิดตัวออปโป้ รีโน ซีรีส์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Creativity หลังจากนี้ออปโป้จะมีการปรับเปลี่ยนโดยที่ต่อไปจะยกเลิกรุ่น เอฟ ซีรีส์ โดยเอฟ ซีรีส์จะมาเป็นส่วนหนึ่งของรีโน่ ซีรีส์ ทั้งนี้ออปโป้มีสมาร์ทโฟนหลายซีรีส์ทั้ง A Series, K Series, Reno Series และ Find Series ที่มีระดับราคาตั้งแต่ 4-5 พันบาทจนถึงระดับราคาหมื่นต้นๆ

“ทั้งนี้ออปโป้ตั้งเป้าที่จะรุกตลาดทั้ง 3 ระดับคือ ล่าง กลางและบน ซึ่งในระดับกลางนั้นออปโป้มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว หลังจากนี้จะตั้งเป้าที่จะทำตลาดในระดับบนที่ตอนนี้ยังถือเป็นจุดอ่อนอยู่ โดยการรุกตลาดไฮเอนด์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลาแต่พยายามที่จะลดช่องว่างให้น้อยลง เราเชื่อว่าจะสามารถเจาะตลาดไฮเอนด์ได้”
นอกจากนี้ ออปโป้ยังคำนึงถึงนวัตกรรมยุคต่อไปอย่าง 5G ที่ทางออปโป้ได้เตรียมพัฒนาดีไวซ์ที่รองรับการเข้ามาของเครือข่าย 5G ในสมาร์ทโฟนรุ่นต่อไป พร้อมทั้งยังมีการเปิด ออปโป้ ซูเปอร์ แฟล็กชิพ สโตร์ แห่งแรกในไทย ที่ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ เพื่อเป็นพื้นที่ในการสร้างประสบการณ์และการบริการให้เข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 21,300.00 21,400.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,380.00 20,920.80 21,900.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,242.00 18,828.72 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,104.00 16,736.64 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 621.00 9,414.36 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 483.00 7,322.28 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,430.00 21,678.80 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 31/10/2562

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55
แก๊สโซฮอล์ 91 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28
แก๊สโซฮอล์ E20 23.54 23.54 23.54 23.54 23.54 23.54 23.54 23.54 23.54
แก๊สโซฮอล์ E85 19.49 19.49 19.49
เบนซิน 95 33.96 34.41 34.46 34.26 34.26
ดีเซล 25.89 25.89 25.89 25.89 25.89 25.89 25.89 25.89 25.89 25.89
ดีเซล B10 23.89 23.89 23.89 23.89
ดีเซล B20 22.89 22.89 22.89 22.89 22.89 22.89 22.89 22.89
ดีเซลพรีเมี่ยม 29.74 29.76 30.14 30.14 30.14
แก๊ส NGV 15.73 15.73

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า