คอนโดฯหรูราคาไม่ขยับชี้3แสน/ตร.ม.นิ่งยาว2ปี
นายกอาคารชุดชี้ ราคาคอนโดฯหรู ตารางเมตรละ 3 แสนบาทขึ้นไป จะไม่ขยับอย่างน้อย 2 ปี ระบุตลาดกลุ่มนักลงทุนลังเลเพราะไม่เห็นอัพไซด์เกน มั่นใจกลไกตลาดจัดการอุปทานส่วนเกินในตลาดบนได้ คอลลิเออร์สจัดอันดับคอนโดฯหรู โครงการริมถนนวิทยุ แพงสุดในเมืองไทย
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม ธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตท-พรีเมียม และนายกสมาคม อาคารชุดไทย เผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตลาดคอนโด มิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี และ ลักชัวรี หรือ คอนโดฯหรู ราคาเสนอขายเริ่มต้น 3 แสนบาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ขึ้นไป ต้องรอเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีระดับราคาจึงจะขยับขึ้นไปสูงกว่าราคาขายปัจจุบันได้ เนื่องจากราคาเสนอขายระดับดังกล่าวเกินกำลังซื้อผู้บริโภค และผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มอินเวสต์เมนต์ (ซื้อเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน) ยังไม่เห็น อัพไซด์เกน (ส่วนต่างราคาปัจจุบันกับมูลค่า) ทำให้การขายช้าลงไปบ้าง “คนรวยไม่โง่…ถ้าเงินเขาไม่งอกเงยเขาไม่ซื้อ” นายประเสริฐยํ้าตอนหนึ่ง
นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่าราคาที่ดิน ในเขตซีบีดี(ย่านธุรกิจกลางเมือง)ทำเลที่ตั้งโครงการคอนโดฯหรู (สีลม สาทร ศาลาแดง สุขุมวิท ต้นๆ ทองหล่อ) ราคาเฉลี่ย 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา (ตร.ว.) “ราคาที่ดินระดับนี้ต้องขายคอนโดฯไม่ตํ่ากว่า 3 แสนบาทต่อตร.ม.” เขาให้ข้อมูล อีก ว่าราคาที่ดินในทำเลดังกล่าวขยับขึ้นมากกว่า 3 เท่าตัวในช่วงเวลาไม่ถึง 7 ปี เช่น ทองหล่อจากราคา 4 แสนบาทต่อตรว.ขึ้นมาเป็น 1-1.5 ล้านบาทต่อ ตร.ว.ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
มุมมองดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของ บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย)ฯ ที่กังวลว่าอุปทานคอนโดฯ หรูที่เข้าตลาดต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จะส่งผลต่อทิศทางตลาดกลุ่มนี้เนื่องจากขนาดตลาดคิดเป็น 7% ของตลาดรวมเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการบางรายกลับมองต่างออกไปโดยเชื่อว่ากลุ่มผู้ซื้อต่างประเทศจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้ตลาดคอนโดฯหรูเติบโตต่อไป
ทั้งนี้ตลาดคอนโดฯหรู ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในปี 2558 ข้อมูลจาก บริษัท คอลลิเออร์สฯ ระบุมีโครงการคอนโดฯหรู (คอนโดลักชัวรีราคา 2 แสนบาท/ตาม.ขึ้นไป) และซูเปอร์ลักชัวรีราคา 3 แสนบาทต่อตร.ม.ขึ้นไป) รวมกัน 1,402 หน่วย ในทำเล สุขุมวิทต้นๆ หรือ ริมเจ้าพระยา(เจริญนคร) ราคาเสนอขายเริ่มต้นระหว่าง 2.3- 3 แสนบาทต่อตร.ม. ซึ่งปีดังกล่าวถือว่า คอนโดฯหรูทำตลาดแบบแมสเป็นครั้งแรก
ในปี 2559 มีโครงการคอนโดฯ หรูเปิดตัวรวมกัน 673 หน่วย โดยทุกโครงการราคาเสนอขายเฉลี่ย 3 แสนบาทต่อตร.ม. มีบางโครงการที่มีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงที่ตั้งราคาเสนอขายมากกว่า 5 แสนบาทต่อตร.ม.
สำหรับปีนี้จากการสำรวจพบว่า การแข่งขันในตลาดคอนโดฯหรูยังทวีความเข้มข้นต่อเนื่อง 6 เดือนแรกมีโครงการคอนโดฯหรูเปิดตัวต่อเนื่องอาทิ โครงการ 28 ชิดลม ซึ่งขยับราคาเสนอขายเริ่มต้นขึ้นไปเป็น 3.5แสนบาทต่อตร.ม. และคาดว่าทั้งปีจะมีสินค้าใหม่เข้าตลาดไม่น้อยกว่า 1,500 หน่วย
นายประเสริฐให้ความเห็นอีกว่า ตลาดคอนโดฯหรูที่มูลค่าตลาดราว 2 หมื่นล้านบาท ของตลาดรวม เป็นตลาดของผู้เล่นรายใหญ่เท่านั้น “ที่ดินในทำเลพัฒนาคอนโดฯหรูราคาเฉลี่ย 1-1.5 ล้านบาท โครงการหนึ่งใช้พื้นที่ไม่ตํ่ากว่า 500-600 ตร.ว. หรือต้นทุนที่ดินเฉลี่ย 600-900 ล้านบาท ผู้ซื้อต้องวางดาวน์เจ้าของที่ 30% และที่สำคัญต้องโอนเร็ว” เขาขยายความ
อนึ่ง บริษัท คอลลิเออร์สฯ จัดอันดับราคาคอนโดฯหรู อันดับ 1 โครงการ ไวร์เลส 98 ถนน วิทยุ ราคาเสนอขาย 5.8 แสนบาทต่อตร.ม. อันดับ 2 เดอะสุโขทัย เรสซิเดนท์ (สาทร) 4 แสนบาทต่อตร.ม. อันดับ 3 185 ราชดำริ (ราชดำริ) 3.8 แสนบาทต่อตร.ม.อันดับ 4 ริซท์-คาร์ลตัน (สีลม) 3.7 แสนบาทต่อตร.ม. อันดับ 5 คุณบายยู (ทองหล่อ) 3.7แสนบาทต่อตร.ม.
นายประเสริฐกล่าวว่าแม้ตลาดคอนโดฯหรู ขยายตัวอย่างคึกคักตลอด 2 ปีเศษที่ผ่านมา หากตลาดยังไม่เกิดภาวะ อุปทานส่วนเกิน(สินค้าล้นตลาด) และจะไม่นำไปสู่ภาวะฟองสบู่ในตลาดสินค้าระดับบน เขาเชื่อว่ากลไกตลาดจะกำหนดภาวะสมดุล(ตลาด) เอง และยังระบุด้วยว่าการเติบโตของตลาดคอนโดฯหรูมาจาก 4 ปัจจัยหลักคือ
1.ตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวตั้งเริ่มเป็นที่นิยมหลังเหตุการณ์ นํ้าท่วมใหญ่ปี 2554 2.การขยายตัวของโครงการรถไฟฟ้า 3. ผู้ประกอบการเข้าตลาดบนเพื่อทด แทนตลาดระดับกลางล่างที่ชะลอไป 4.ไลฟ์สไตล์เศรษฐีเปลี่ยนจากเดิมนิยมบ้านเดี่ยวมีสระว่ายนํ้ามาเป็นคอนโดฯหรูย่านซีบีดี และ 5.การขยายตัวของตลาดกลุ่มนักลงทุน ซึ่งเป็นผลพวงจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดตํ่าตั้งแต่ปี 2540 ส่งผลให้มีการถ่ายเทเงินออมเข้าสู่ตลาดอสังหาฯ
http://www.thansettakij.com
“สศค.” แจงกม.ภาษีที่ดินฯ ไม่กระทบผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง รวมทั้ง SME รัฐมีมาตรการบรรเทาภาษีให้แน่นอน
คลังเร่งเบิกจ่ายงบดันเศรษฐกิจครึ่งปีแรกโต3.5%
“กระทรวงคลัง” เผย 10 เดือนแรกเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น 2,514,229 ล้านบาท เพิ่ม 3.3% ดันเศรษฐกิจครึ่งปีแรกขยายตัว 3.5%
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 60 (ต.ค.59-ก.ค.60) ว่า รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้นจำนวน 2,514,229 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วจำนวน 81,381 ล้านบาท (คิดเป็น 3.3%) ประกอบด้วย รายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 2,329,256 ล้านบาท คิดเป็น 79.7% ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย (2,923,000 ล้านบาท) สูงกว่าชjวงเดียวกันปีที่แล้ว 4.6% และรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อนจำนวน 184,973 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 10.2%
สำหรับรายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 2,329,256 ล้านบาท ประกอบด้วยรายจ่ายประจำจำนวน 2,030,032 ล้านบาท (คิดเป็น 86.7% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำหลังโอนเปลี่ยนแปลงจำนวน 2,340,449 ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 4.6% และรายจ่ายลงทุนจำนวน 299,224 ล้านบาท (คิดเป็น 51.4% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนหลังโอนเปลี่ยนแปลงจำนวน 582,551 ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 4.3%
ขณะที่รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้นจำนวน 1,904,053 ล้านบาท เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยรายได้นำส่งคลังต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วจำนวน 60,214 ล้านบาท (คิดเป็น 3.1%) เนื่องจากปีที่แล้วมีการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) จำนวน 56,273 ล้านบาท การชำระภาษีการพนันในส่วนของสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 11,982 ล้านบาท และการนำส่งเงินสภาพคล่องส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียนจำนวน 10,634 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมรายได้พิเศษดังกล่าว รายได้นำส่งคลังปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนจำนวน 18,675 ล้านบาท
ยังคงเนื้อหอม ! ไทยติดอันดับ 9 ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก
เที่ยวไทยยังคงบูม ติดอันดับ 9 ของประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุดในโลก พร้อมพ่วงอันดับ ประเทศที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว เป็นอันดับ 3 ของโลก
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2560 เว็บไซต์โคโคนัทแบงค็อก รายงานผลการจัดอันดับ ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุด ประจำปี 2560 ซึ่งจัดอันดับโดยองค์กรการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ (UNWTO – United Nations World Tourism Organization) โดยรวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวจากทุกประเทศทั่วโลกในปี 2559
ส่วนประเทศไทยนั้นยังคงติดอันดับท็อป 10 ของประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด โดยในปีนี้ได้ตำแหน่งอันดับที่ 9 ไปครอง จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 32.6 ล้าน และที่น่าประทับใจยิ่งกว่านั้นก็คือ รายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยขยับจากอันดับที่ 5 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 รวมรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 4.99 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.65 ล้านล้านบาท
สำหรับผลการจัดอันดับ 10 ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุด ประจำปี 2560 มีดังต่อไปนี้
5. อิตาลี – 52.4 ล้านค
7. เยอรมนี – 35.6 ล้านคน
9. ไทย – 32.6 ล้านคน
5. ฝรั่งเศส – 1.41 ล้านล้านบาท
8. เยอรมนี – 1.24 ล้านล้านบาท
9. ฮ่องกง – 1.09 ล้านล้านบาท
18 สุดยอดอาหารบำรุงหัวใจของคุณ
การดูแลสุขภาพของคนในยุคสมัยนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ เพราะเราต้องเจอทั้งฝุ่นละออง สารเคมีทั้งหลายแหล่ทั้งจากการใช้เครื่องสำอาง การกินอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้สุขภาพหัวใจทรุดลงไปเรื่อยๆ แต่เมื่อมีมารก็ต้องมีฮีโร่ และฮีโร่ที่เราพูดถึงกันในบทความนี้ก็คือ อาหารบำรุงหัวใจนั่นเอง!
1. แซลมอน
ปลาแซลมอนและปลาที่มีไขมันดีอื่นๆ เช่น ปลาซาร์ดีนและปลาทู เรียกได้ว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ของอาหารการกินที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากมีปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่อุดมสมบูรณ์ ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (irregular heart beat) และหลอดเลือดแดง (atherosclerosis) ช่วยลดคราบจุลินทรีย์ในหลอดเลือดแดงและลดไตรกลีเซอไรด์ได้ดี เราแนะนำให้กินปลาแซลมอนและควรกินปลาที่มีไขมันดีอย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง
2. ข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ตมีคุณสมบัติที่พิเศษมากๆ คือมีไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้สูง ซึ่งสามารถลดคอเลสเตอรอลได้และไม่ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เราแนะนำว่าควรกินข้าวโอ๊ตเป็นอาหารเช้าและต้องไมผ่านการปรุงแต่งมากเกินไป (หรือกินแบบคลีนๆนั่นแหล่ะ)
3. บลูเบอร์รี่
ไม่เพียงแค่บลูเบอร์รี่เท่านั้นนะคะ แต่สตรอเบอร์รี่และผลเบอร์รี่อื่นๆก็มีประโยชน์ต่อหัวใจมากเช่นกัน สาวๆที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปควรกินผลไม้ตระกูลนี้เป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวายลงได้ตั้ง 32% (เมื่อเทียบกับคนที่กินน้อย) อีกทั้งยังมีสารแอนโทไซยานินและฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความดันโลหิตและขยายหลอดเลือดหัวใจได้ดี
4. ดาร์กช็อกโกแลต
หากกินดาร์กช็อกโกแลตทุกวัน จะช่วยลดอาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองในคนที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับปัญหาเหล่านี้ได้ และจะต้องเป็นช็อกโกแลตที่ทำจากโกโก้อย่างน้อย 60-70% ด้วยนะคะ สาเหตุที่มันดีต่อใจมากมายนั่นเป็นเพราะว่า ดาร์กช็อกโกแลตนั้นมีสารฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่าโพลีฟีนอล ซึ่งจะช่วยให้ความดันโลหิต ลดปัจจัยการแข็งตัวของเลือด และการบาดเจ็บของเซลล์ได้ แต่มันก็น่าเศร้าตรงที่ช็อกโกแลตนมหรือขนมแสนอร่อยไม่สามารถช่วยปกป้องหัวใจของคุณให้มีสุขภาพดีได้
5. พืชตระกูลส้ม
เราจะพบสารฟลาโวนอยด์มากในพืชตระกูลส้มค่ะ ผู้หญิงที่กินผลไม้ประเภทนี้เป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบได้ถึง 19% นอกจากนี้ มะนาว ก็ยังมีวิตามินซีสูง ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ แต่ให้ระวังน้ำส้มที่ใส่น้ำตาลเพิ่มตามตลาดนัดนะคะ
6. ถั่วเหลือง
ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ได้แก่ เต้าหู้และนมถั่วเหลือง เป็นเคล็ดลับที่ดีในการเพิ่มสารอาหารอย่างโปรตีนในมื้อโปรดของคุณ โดยไม่ทำให้ไขมันและคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้นเลย เพราะจากถั่วเหลืองมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (แน่นอนว่าดีต่อสุขภาพ) มีไฟเบอร์ วิตามิน และเกลือแร่ ที่สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ ซึ่งถ้าเทียบกับนมหรือโปรตีนชนิดอื่น โปรตีนจากถั่วเหลืองถือว่าสามารถลด LDL หรือคอเลสเตอรอลที่ “ไม่ดี” ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าค่ะ
7. มันฝรั่ง
คุณไม่มีเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงมันฝรั่งในมื้ออาหารของคุณ เพียงเพราะมันมีสีขาวและดูคล้ายแป้ง (แน่นอนว่าการกินแป้งเยอะก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายเท่าไหร่นัก) แต่ตราบใดที่คุณไม่ได้สวาปาม “มันฝรั่งทอด” เข้าไป มันก็ยังเป็นพืชที่ดีต่อใจคุณค่ะ! มันฝรั่งนั้นอุดมไปด้วยโพแทสเซียมที่สามารถลดความดันโลหิตได้ และมีไฟเบอร์สูงซึ่งสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ดี
8. มะเขือเทศ
ราชินีแห่งพืชผักสำหรับความงามของสาวๆนี้ เป็นแหล่งอาหารชั้นดีที่มีไลโคปีนสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ กำจัดคอเลสเตอรอลที่ “ไม่ดี” ออกไปจากร่างกาย แถมยังมีแคลอรี่น้อยและมีน้ำตาลในปริมาณที่ต่ำ นอกจากจะดีต่อใจแล้วยังดีต่อหุ่นด้วยนะ
9. ถั่ว
ในข้อนี้ก็รวมถึงอัลมอนด์ วอลนัท พิสตาชิโอ ถั่วลิสงและถั่วแมคาเดเมีย ซึ่งทั้งหมดนี้มันดีสำหรับหัวใจของเราด้วย นอกจากนี้ในถั่วยังมีวิตามินอีและกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ถ้าเป็นในอดีตเราก็อาจจะเคยได้ยินมาบ่อยๆว่าการกินถั่วนั้นไม่ค่อยดีต่อสุขภาพเท่าไหร่นัก แต่การวิจัยในปัจจุบันนี้ก็สามารถบอกได้แล้วว่า เจ้าถั่วเม็ดเล็กๆนั้น สามารถช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาหัวใจได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
10. พืชตระกูลถั่ว
เช่น ถั่วเลนทิล ถั่วแขก ถั่วพู ถั่วฝักยาว ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมที่ไม่มีไขมันเลวร้าย คนที่กินพืชตระกูลถั่วอย่างน้อยสี่ครั้งต่อสัปดาห์ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจลดลง 22% อีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนที่เป็นโรคเบาหวานได้ ซึ่งการลดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโรคหัวใจนั่นเองค่ะ
11. น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์
น้ำมันมะกอกช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวายได้ถึง 30% เป็นแหล่งไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เย็นนี้ถ้ามีสลัดอยู่บนโต๊ะอาหาร ก็ลองเติมน้ำมันมะกอกลงไปสัก 2 ช้อนโต๊ะนะคะ
12. ไวน์แดง
โพลีฟีนอลที่พบในไวน์แดง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต้านอักเสบได้ดี ช่วยลดความเสียหายต่อดีเอ็นเอ กำจัดอนุมูลอิสระได้ดีกว่าสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ และการดื่มไวน์เป็นประจำในปริมาณพอสมควร (ไม่ใช่ดื่มจนเมาหัวราน้ำนะคะ) จะช่วยป้องกันภาวะหัวใจวายได้โดยเฉพาะในสาวๆ
13. ชาเขียว
เครื่องดื่มยอดนิยมของชาวเอเชียนี้ มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากเลยค่ะ จากการวิจัยพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวทุกวันหรือมากกว่า 4 ถ้วยต่อวัน สามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ถึง 20% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ค่อยดื่ม แถมยังชาวยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจในหมู่นักดื่มตัวยงได้อีกด้วย
14. บร็อคโคลี่ ผักขม และคะน้า
มีแคโรทีนอยด์สูงซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและมีเส้นใยสูง เต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อหัวใจ เขาถึงได้บอกไงคะว่าในหนึ่งมื้ออาหารของเราควรมีผักใบเขียวอยู่ด้วย 40% เพราะดีต่อร่างกายและหัวใจจริงๆค่ะ
15. กาแฟ
การดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวันจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองหรือจากสาเหตุอื่นๆลดลงถึง 15% ถ้าคุณเป็นคอกาแฟอยู่แล้วก็ไม่ต้องกังวลในส่วนนี้ แต่อาจจะลดน้ำตาลที่ใส่ลงไปสักครึ่งนึงเพื่อผลดีต่อสุขภาพ และที่สำคัญ ไม่ควรดื่มกาแฟมากเกิน 5 ถ้วยต่อวันนะคะ
16. เมล็ดแฟลกซ์
เมล็ดแฟลกซ์และเมล็ดเชียมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และไปเบอร์ในปริมาณสูง นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มันดีต่อหัวใจของคุณ วันหยุดสุดสัปดาห์ก็ลองทำสมูธตี้ปั่นใส่เมล็ดเชียหรือเมล็ดแฟลกซ์เพิ่มลงไปเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนแถมอยู่ท้องสบายๆ
17. อะโวคาโด
ผลไม้เนื้อนุ่มรสชาติอร่อยนี้มีไขมันที่ดีต่อสุขภาพเช่นเดียวกับน้ำมันมะกอก พวกมันอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวซึ่งช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและโพแทสเซียมสูงอีกด้วย
18. ทับทิม
ในทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมายรวมทั้งโพลีฟีนอลและแอนโทไซยานิน ที่ช่วยยับยั้งการแข็งของหลอดเลือดแดงได้ดี แต่ถ้าใครที่ไม่ค่อยพิสมัยในผลไม้ชนิดนี้มากนัก จะกินแอปเปิ้ลแทนก็ได้ไม่ว่ากัน
เห็นอย่างนี้แล้ว คราวหน้าหากเดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต ก็อย่าลืมลิสท์รายชื่อผักผลไม้ที่บำรุงหัวใจเหล่านี้ลงไปในรายการของคุณด้วยนะคะ เพราะกินแล้วดีต่อใจจริงๆค่ะ^^
https://www.health-th.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 31/08/2560
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 20,400.00 | 20,500.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,321.00 | 20,026.36 | 21,000.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,188.90 | 18,023.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 594.00 | 9,005.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 462.00 | 7,003.92 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,379.00 | 20,754.04 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 31/08/2560
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 | 27.15 | 27.15 | – | 27.15 | 34.71 | 27.15 |
27.15
|
27.15
|
27.15
|
27.15
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
24.64
|
24.64
|
24.64
|
24.64
|
24.64
|
– |
24.64
|
24.64
|
24.64
|
24.64
|
แก๊สโซฮอล E-85 | 20.24 | 20.24 | – | – | – | – | – | 20.24 | 19.94 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 |
เบนซิน 95 | 34.26 | – | – | – | 34.71 | – | 34.76 | 34.26 | 34.26 | 34.26 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 24.99 | 24.99 | 24.99 | 24.99 | 24.99 | 24.99 | 24.99 | 24.99 | 24.99 | 24.99 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 27.99 | 28.67 | 28.67 | 28.67 | 28.67 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 30 Aug 05:00 | 30 Aug 05:00 | 30 Aug 05:00 | 30 Aug 05:00 | 30 Aug 05:00 | 30 Aug 05:00 | 30 Aug 05:00 | 30 Aug 05:00 | 30 Aug 05:00 | 30 Aug 05:00 |