“สิงห์ เอสเตท”ล้มดีลเทกโอเวอร์อาคารสนง.-ศูนย์การค้า อ้างมีความเสี่ยง-ไม่คุ้มค่าลงทุน
สิงห์ เอสเตทฯ คาดอีก 3 ปีพื้นที่อาคารสำนักงานเกิดภาวะซัพพลายล้นตลาด เชื่อความต้องการใช้ไม่สมดุล เหตุราคาเช่าแพงเกินรับได้ ทั้งยกเลิกดีลซื้ออาคารสำนักงาน-ศูนย์การค้า 2 แห่ง ระบุลงทุนไปอาจมีความเสี่ยง ปรับแผนหันพัฒนาโครงการเองมากขึ้น ประกาศ 1 ต.ค.พร้อมเปิดให้บริการ “Singha Complex” เผยผู้เช่าเต็ม100% เมินร่วมประมูลพัฒนาพื้นที่ในสถานีกลางบางซื่อ
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด(มหาชน)หรือS เปิดเผยถึง แนวโน้มของการพัฒนาพื้นที่อาคารสำนักงานในอีก 3 ปีข้างหน้าว่าจะเกิดภาวะซัพพลายล้นตลาด เพราะปัจจุบันมีผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานที่มีพื้นที่จำนวนมาก และจะทยอยเปิดให้บริการในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้า โดยที่มองว่าความต้องการใช้พื้นที่อาคารสำนักงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า จะน้อยกว่าจำนวนซัพพลายที่ออกมา ซึ่งมีจำนวนมาก และอัตราค่าเช่าอาคารพื้นที่สำนักงานส่วนใหญ่เป็นเกรด A ที่มีค่าเช่าสูง ทำให้ผู้เช่าอาจจะรับราคาไม่ได้และไม่มีความจำเป็นที่ต้องเช่าสำนักงานที่แพงมาก ส่งผลให้ตลาดอาคารสำนักงานอาจได้รับผลกระทบ แต่มองว่าสำหรับอาคารสำนักงานของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จะมีแผนรองรับไว้และสามารถบริหารจัดการได้
นอกจากนี้บริษัทยังได้ยกเลิกดีลการเจรจาเข้าซื้ออาคารสำนักงานและศูนย์การค้าในประเทศทั้ง 2 ดีล ไปแล้วก่อนหน้านี้ หลังจากที่บริษัทได้เคยให้ข้อมูลว่าอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้ออาคารสำนักงานและศูนย์การค้าในประเทศ และคาดว่าได้เห็นความชัดเจนภายในปีนี้ เพราะการศึกษาการลงทุนในดีลทั้งสองนั้นต้องใช้เงินลงทุนที่สูงมาก ทำให้บริษัทเห็นว่าอาจจะมีความเสี่ยงไม่คุ้มค่าในการลงทุน ทำให้บริษัทตัดสินใจยกเลิกดีลดังกล่าวไป
อย่างไรก็ตามบริษัทจะหันกลับมาเน้นการพัฒนาโครงการด้วยตัวเองมากขึ้น ซึ่งยังมีอีกหลายโครงการที่บริษัทเตรียมที่จะพัฒนาและเตรียมเปิดทั้งโครงการที่เป็นรูปแบบ Stand Alone และโครงการ Mixed Use โดยที่ในช่วงปลายปีนี้บริษัทเตรียมเปิดโครงการทาวน์ชิปแห่งแรกของบริษัทย่านกรุงเทพกรีฑา (ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) บนพื้นที่ 240 ไร่ มูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัยแนวราบระดับกลาง-บน, โฮมออฟฟิศ, พื้นที่ค้าปลีก และโรงแรมขนาดเล็ก ที่อยู่บนพื้นที่เดียวกัน
ขณะเดียวกันในวันที่ 1 ตุลาคม 2561 บริษัทเตรียมเปิดให้บริการอาคารสำนักงาน Singha Complex ซึ่งปัจจุบันมีผู้เช่าพื้นที่ออฟฟิศเต็มแล้ว 100% โดยที่จะมีรายได้จากค่าเช่าออฟฟิศเข้ามาเสริมในไตรมาส 4/2561 นี้ ประกอบกับในช่วงปลายปีนี้จะเริ่มเปิดให้บริการโรงแรมแห่งแรกในมัลดีฟส์ ทำให้ในปีนี้บริษัทมีรายได้ประจำเข้ามาเสริมมากขึ้นหนุนผลการดำเนินงานในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2561 และจะทำให้ภาพรวมของรายได้ในปี 2562 อาจจะสามารถแตะระดับ 20,000 ล้านบาท ได้เร็วกว่าเป้าหมายเดิมในปี 2563 เนื่องจากในปีหน้าบริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงแรมใหม่ทั้ง 6 แห่ง ในเครือ Outrigger เข้ามาเต็มปี รวมถึงการรับรู้รายได้จากออฟฟิศ Singha Complex และโรงแรม Curio มัลดีฟส์ เข้ามาเต็มปีเช่นเดียวกัน และมีการรับรู้รายได้จากโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้กว่า 10,000 ล้านบาท โดยจะรับรู้ในปี 2562 เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหญ่ คือ โครงการ The ESSE Asoke และ โครงการ The ESSE at Singha Complex
“การพัฒนาโครงการ Mixed Use ในประเทศไทยนั้น ยังมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆที่ครอบครองที่ดินต้องการพัฒนาพื้นที่ของตนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และโครงการ Mixed Use เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าโครงการประเภท Stand Alone แต่การพัฒนาโครงการ Mixed Use จะต้องคำนึงไปทำเลที่ตั้งที่ถือเป็นปัจจัยหลักของการพัฒนา ซึ่งจะต้องสามารถดึงดูดให้มีคนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากได้ และมีการเดินทางที่สะดวก”นายนริศ กล่าว
ส่วนเรื่องการเข้าร่วมประมูลการพัฒนาพื้นที่ในสถานีกลางบางซื่อนั้น ยอมรับว่ายังไม่มีความสนใจและจะไม่เข้าไปร่วมปประมูล เนื่องจากผู้ที่สนใจเข้าไปประมูลมีแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เข้าไปแข่งขันประมูลกัน ซึ่งมีการแข่งขันที่สูงและอาจจะทำให้ราคาประมูลสูงมากจนเกินไป แต่บริษัทจะมีการพัฒนาโครงการในพื้นที่บริเวณใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมของการพัฒนาโครงการดังกล่าวอยู่ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ที่มา : http://prop2morrow.com
พื้นที่ในกรุงเทพมหานครฯ กำลังมีการเติมโตอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นทางมีสไตล์ พร็อพเพอร์ตี้มั่นใจว่ากำลังเติบโตคือ “ห้วยขวาง” เพราะนอกจากจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ยังเป็นที่ตั้งของสถานฑูตจีน อาคารสำนักงานของบริษัทชั้นนำ และห้างสรรพสินค้าใหม่อีกมากมาย ถึงแม้ว่าหลายคนที่เดินทางมาในบริเวณนี้จะเป็นนักท่องเที่ยว แต่ก็มีอีกหลายกลุ่มคนที่ก่อตั้งธุรกิจขึ้นมาในย่านห้วยขวาง ส่งผลให้ปัจจุบัน ห้วยขวางกลายเป็นศูนย์รวมของคนจีนกลุ่มมิลเลนเนียล
มีสไตล์ พร็อพเพอร์ตี้ ดำเนินกิจการแบบธุรกิจครอบครัวมานานกว่า 22 ปี โดยเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาที่ดินในเขตห้วยขวางเป็นกลุ่มแรกๆ บริษัทฯเป็นผู้บุกเบิกและมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่รวม 9 โครงการ อาทิ โครงการรัชดา ซิตี้ คอนโดมิเนียม, อาคารฟอร์ ยู อพาร์ทเมนต์, ซี สไตล์, จี สไตล์ และ แอล สไตล์ คอนโดมิเนียม, จี สไตล์ 2 คอนโดมิเนียม และโรงแรม มีสไตล์ เพลส นอกจากนี้ยังมีโครงการอีก 2 โครงการที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง
“ครอบครัวของเราเป็นคนในพื้นที่ ธุรกิจของเราเริ่มต้นขึ้นที่นี่ ดังนั้นเราจึงมีภูมิหลังและความเข้าใจที่ดีในการคัดเลือกทำเลที่ตั้งโครงการที่เหมาะสม และได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า” คุณภัทรานิษฐ์ แสงรัฐกาญจนสิน, กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีสไตล์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าว
“พื้นที่เขตห้วยขวางมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาทิ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจให้สอดคล้องตาม เห็นได้จาก 2-3 โครงการในช่วงหลังที่เราได้พัฒนาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนไป”
เพื่อแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเชิงรุก บริษัทฯจึงเปิดตัวโครงการล่าสุด โรงแรม มีสไตล์ การาจ กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความหลงใหลและชื่นชอบในยานยนต์ของครอบครัว โรงแรมอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีห้วยขวางเพียง 800 เมตร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักในพื้นที่และสามารถเดินทางไปยังใจกลางกรุงเทพฯได้อย่างสะดวก
โรงแรมขนาด 7 ชั้น จำนวน 75 ห้องนอนแห่งนี้ เผยให้เห็นถึงมิติใหม่ของการออกแบบ ด้วยการใช้ของที่เก็บสะสมมาอย่างดีและยาวนาน รวมถึงชิ้นส่วนจากรถยนต์ต่างๆหลากหลายชิ้น ผสมผสานกับดีไซน์ที่ลงตัว สร้างบรรยากาศอันประทับใจและน่าจดจำ ของตกแต่งภายในที่แปลกใหม่ถูกนำไปใช้ประดับประดาในแต่ละห้อง ช่วยสร้างอารมณ์ให้ผู้เข้าพักได้รับประสบการณ์การพักผ่อนอันแปลกใหม่
อาจารย์นักออกแบบ อาจารย์กิติศักดิ์ สุธรรมโชติ ทำงานร่วมกับมีสไตล์ พร็อพเพอร์ตี้ ในการสร้างสรรค์ธีมห้องพักที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสไตล์การาจ ฟังก์กี้ (Garage Funky) เช่น ซาฟารี, คาสโนว่า, ดีฟ โอเชียน, การาจ, เดอะ สไปรัล และ วูด อีกจุดเด่นสำคัญของโรงแรมคือบาร์บริเวณชั้น 2 และบนชั้นดาดฟ้า ที่ออกแบบให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการพบปะสังสรรค์แห่งใหม่ในบริเวณห้วยขวาง
“ทั้งครอบครัวของเรา โดยเฉพาะคุณพ่อมีความชอบในเรื่องรถและได้รวบรวมชิ้นส่วนรถยนต์และจักรยานยนต์ต่างๆไว้เป็นคอลเลคชั่นใหญ่ เราจึงนำของที่ระลึกเหล่านี้ไปตกแต่งทั่วบริเวณโรงแรม ทำให้โรงแรมแห่งนี้เป็นที่พิเศษ ไม่เหมือนโรงแรมไหนๆในกรุงเทพฯ” คุณภัทรานิษฐ์ กล่าวเสริม
นอกจากนี้ มีสไตล์ พร็อพเพอร์ตี้ ยังมีแผนในการเปิดตัวโครงการแบบมิกซ์ยูส (mixed-used) 2 อาคาร ความสูง 8 และ 22 ชั้นเพื่อเป็นโรงแรมและอพาร์ทเมนต์ ,ร้านค้า และพื้นที่ใช้สอยแบบ co-sharing space ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงสิ้นปี พ.ศ. 2562 นอกจากนี้ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมซึ่งคาดว่าจะเปิดขายในปีหน้าและพร้อมเข้าอยู่ในปี พ.ศ. 2563 โดยทั้งสองโครงการอยู่ในพื้นที่เขตห้วยขวาง
“ห้วยขวางคือทำเลที่มีเสน่ห์และมีศักยภาพ ความเจริญและมีสิ่งใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆเกิดขึ้นอยู่เสมอ เราเห็นถึงความต้องการด้านที่พักอาศัยเกิดขึ้นในพื้นที่นี้ นี่คือละแวกบ้านของเราและเรารู้สึกว่ามันเป็นที่ตั้งที่ดีที่สุดสำหรับพัฒนาโครงการและพื้นที่ที่เรามีอยู่เพื่อตอบสนองต่อความต้องการนั้น” คุณภัทรานิษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา : https://thinkofliving.com
แนวโน้มการปรับราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ดร.ประศาสน์ ตั้งมติธรรมฝ่ายวิจัยศุภาลัยได้ตรวจสอบราคาที่ต่ำที่สุดของบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ของโครงการที่เปิดใหม่แต่ละโครงการ ในปี 2560 และ 2561 แล้วทำการหาค่าเฉลี่ยของราคาบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมที่ต่ำสุดของแต่ละโครงการในแต่ละโซน รวม 14 โซน และ เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยนั้นๆ ของแต่ละโซนระหว่างปี 2560 และ2561 ว่าราคาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
การใช้ราคาที่ดิน หรือราคาที่ดินพร้อมบ้านที่เปิดใหม่เป็นตัวชี้ภาวะบ้านและที่ดินที่ใกล้เคียงกับภาวะตลาดมากที่สุด
ตารางที่ 1 การเก็บตัวอย่างราคาที่ดิน 12 โซน ในกรุงเทพฯและปริมณฑลพบว่า ราคาที่ดินในกรุงเทพฯ ปี 2561 ลดลงจากปี 2560 โดยเฉลี่ย 15.8% ตัวเลขนี้ไม่ได้ชี้ว่าราคาที่ดินโดยทั่วไปในกรุงเทพฯและปริมณฑลลดลง แต่เป็นตัวชี้ว่า ที่ดินที่เปิดขายใหม่ห่างไกลจากตัวเมืองมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำราคาที่ดินเปิดขายใหม่ลดลง
ราคาที่ดินเพียงอย่างเดียวไม่ได้เป็นตัวชี้ว่า สินค้าที่ดินพร้อมบ้านจะเป็นไปในทางทิศใด ตารางที่ 2 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงราคาของทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวที่เปิดขายใหม่ระหว่างปี 2560 กับ 2561 การเก็บตัวอย่างที่ได้แสดงว่า ทาวน์โฮมในโซนพหลโยธิน-รามอินทรามีการปรับตัวสู่สินค้าที่มูลค่าเพิ่มสูงอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนราคาทาวน์โฮมในโซนบางนา-สมุทรปราการนั้น ลดลงในลักษณะที่เป็นความเคลื่อนไหวเพื่อดิ้นไปสู่บริเวณที่สามารถเสนอสินค้าราคาต่ำกว่าภายในโซนเดียวกัน ส่วนบ้านเดี่ยวนั้น โซนตะวันออกเป็นโซนเดียวที่มีราคาสินค้าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม สินค้าที่มีการปรับตัวมากของราคาที่ดินพร้อมบ้านนั้น จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของที่ดินและการสร้างสรรค์สินค้าของผู้ประกอบการด้วย แต่โดยเฉลี่ยแล้วราคาทาวน์โฮมปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.1% และราคาบ้านเดี่ยว 42.9% ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ว่า สินค้าที่อยู่อาศัยกำลังปรับตัวไปสู่ราคาที่สูงขึ้นค่อนข้างมาก
สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นไม่ได้หมายความว่าเป็นแนวโน้มของสินค้าโดยทั่วไปทั้งตลาด แต่เป็นเพียงแนวโน้มของสินค้าเกิดใหม่เท่านั้น บางส่วนของตลาดยังคงนำเสนอสินค้าแก่ผู้ที่มีรายได้น้อยในราคาที่ต่ำที่สุดเท่าที่กฏหมายปัจจุบันจะอำนวยให้ทำได้ และ สินค้าที่มีราคาต่ำสุดนี้ยังมีแนวโน้มที่ปรับราคาลดลงด้วยในระหว่างปี 2560 และ 2561 ดังที่แสดงในรูปที่ 1 บ้านเดี่ยวที่ราคาต่ำที่สุดมาจากโซน รังสิต–ปทุมฯ ซึ่งก็เป็นบริเวณเดียวในกรุงเทพฯ ที่อำนวยให้พัฒนาบ้านเดี่ยวได้ดี ส่วนทาวน์โฮมที่ราคาถูกที่สุด มาจากโซนบางนา–สมุทรปราการ ในปี 2561 และมาจากโซนสุขสวัสดิ์ในปี 2560
ดังนั้น ผู้มีรายได้น้อย ไม่ใช่ว่าจะหาซื้อที่ดินและบ้านที่เหมาะสมกับตนเองไม่ได้เลยในกรุงเทพฯและปริมณฑล เพียงแต่อาจจะมีทำเลให้เลือกได้จำกัดเท่านั้นเอง
ที่มา : https://www.ryt9.com
50 วลีภาษาอังกฤษเพื่อการทำงานที่โดดเด่นแบบมือโปร
ภาษาอังกฤษเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจจ้างจากผู้ประกอบการ และการทำงานในปัจจุบันนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในการติดต่อสื่อสารกับต่างชาติที่มาติดต่อธุรกิจร่วมกัน ก็ต้องอาศัยทักษะด้านภาษาเป็นอย่างมาก นอกจากคำศัพท์เดิม ๆ ที่ใช้กันบ่อย ๆ แล้ว หากเราได้มีโอกาสได้โชว์เหนือ! ใช้วลี หรือศัพท์ที่ไม่เหมือนใคร และมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่า ก็เป็นการโชว์ความเก่งกาจ สร้างคาแร็กเตอร์ให้โดดเด่น สร้างความประทับใจให้กับชาวต่างชาติ และเพื่อนร่วมงาน วันนี้ jobsDB มี 50 วลีภาษาอังกฤษเด็ด ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ทั้งในการสัมภาษณ์งาน และชีวิตประจำวันมานำเสนอกันค่ะ
การทักทายและบอกลา
How are things? | เป็นอย่างไรบ้าง? |
How is it going? | เป็นอย่างไรบ้าง? |
What are you up to? | ทำอะไรอยู่เหรอ? |
What have you been up to? | ทำอะไรอยู่เหรอ? |
See you soon! | เจอกันเร็วๆนี้นะ! |
Till next time! | เจอกันคราวหน้านะ! |
Until we meet again! | แล้วพบกันใหม่นะ |
Till next time! | เจอกันคราวหน้านะ! |
Have a nice day! | ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะ! |
Have a safe trip! | เดินทางปลอดภัยนะ |
Say hi to… | ฝากสวัสดี … (ฝากให้คนๆหนึ่งกล่าวทักทาย/สวัสดีคนที่คุณคิดถึงแทนคุณ) |
คำแนะนำ
First of all | อย่างแรกเลยนะ |
By the way | อนึ่ง, อีกประการหนึ่ง |
After all | สุดท้ายแล้ว, นอกจากนั้น |
If I’m not mistaken | ถ้าฉัน (คิด/ตัดสินใจ) ไม่ผิด |
On the contrary | โดยตรงกันข้าม |
As a rule | โดยทั่วไป |
On the other hand | ในทางกลับกัน |
As I said before | ที่ฉันได้กล่าวไปแล้ว |
If I recall correctly | ถ้าฉันจำไม่ผิด |
Either way | อยู่แล้ว, อย่างไรก็ตาม |
แสดงความไม่เห็นด้วยหรือตกลง
Perhaps | อาจจะ, บางที |
Definitely | อย่างแน่นอน, แน่อยู่แล้ว |
Absolutely | อย่างแน่นอน, แน่อยู่แล้ว |
It can hardly be so | มันไม่น่าที่จะเป็นกรณีนี้, มันไม่น่าที่จะเป็นอย่างนั้น |
Most likely | มีแนวโน้มที่จะเป็นอย่างนั้น |
Most unlikely | ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น |
Not a bit | ไม่แม้แต่นิดเดียว |
I agree with you | ฉันเห็นด้วยกับคุณ |
I’m afraid so | ฉันก็เกรงว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ |
No doubt | อย่างไม่ต้องสงสัยเลย |
ประโยคแสดงความสุภาพ
I’m so sorry! | ฉันขอโทษจริง ๆ |
I beg your pardon! | ฉันขอโทษ |
Sorry, I meant well. | ขอโทษ ฉันแค่หวังดี (ฉันไม่ได้ตั้งใจ – กรณีที่คุณหวังดี อยากจะช่วย แต่ผลลัพธ์ออกมาไม่ดี) |
It’s very kind of you! | คุณใจดีมากเลย คุณมีน้ำใจจัง |
Thank you anyway! | ยังไงก็ขอบคุณนะ |
Thank you in advance! | ขอบคุณล่วงหน้า |
Don’t mention it! | ไม่เป็นไร อย่าไปพูดถึงมันเลย |
Don’t worry about it! | ไม่ต้องเป็นห่วงนะ |
This way, please! | โปรดมาทางนี้ |
After you! | เชิญคุณก่อนเลย |
การตอบรับการสนทนา
What’s the matter? | เกิดอะไรขึ้น? |
How was it? | แล้วมันเป็นอย่างไรบ้าง? (มันดีไหมหรือยังไง?) |
Did I get you right? | ฉันเข้าใจนายถูกไหม? |
I didn’t catch the last word. | เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ ? |
It doesn’t matter. | มันไม่สำคัญหรอก |
Lucky you! | ขอให้คุณโชคดี |
May I ask you a question? | ฉันขอถามคำถามหน่อยได้ไหม? |
Things happen. | อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด, อะไรก็เกิดขึ้นได้ |
I’m sorry, I didn’t catch you. | ขอโทษ ฉันไม่ได้ยินที่คุณพูด |
I’m so happy for you! | ฉันดีใจที่เห็นคุณมีความสุข/ได้รับสิ่งที่ดี |
เป็นวลี และคำสั้น ๆ จำง่าย และสามารถใช้ได้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน ขอเพียงฝึกฝน และใช้บ่อย ๆ ภาษาอังกฤษก็จะไม่ยากอย่างที่คิด หากกลัวว่าจะผิด แล้วไม่ลงมือปฏิบัติเลย มันก็จะยากอยู่อย่างนั้น และไม่ได้รับการพัฒนา ใครจะไปรู้ว่าเราอาจจะมีศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวอย่างที่เราอาจจะประหลาดใจเลยก็ได้ jobsDB เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ
ที่มา : https://th.jobsdb.com
อารมณ์เสียเพราะ “รถติด” ทุกวัน ส่งผลร้ายอย่างไรกับร่างกายของเราบ้าง?
อารมณ์ขึ้นทุกครั้งที่ขับรถ เป็นเรื่องปกติหรือเปล่า?
บางคนเมื่ออยู่ในที่ทำงาน หรือที่บ้านก็เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ร่าเริงแจ่มใสดี แต่เมื่อไรที่อยู่หลังพวงมาลัย กลับกลายเป็นเหมือนอีกคนที่ไม่ใช่ตัวของพวกเขาเองขึ้นมาเสียอย่างนั้น บ่นกระปอดกระแปด สารพัดคำหยาบพรั่งพรูออกมาอย่างไหลลื่นเสียอย่างนั้น คุณเป็นคนหนึ่งที่มีอาการคล้ายๆ กันหรือเปล่า? แล้วสงสัยหรือไม่ว่าทำไมเราถึงเป็นแบบนั้น?
จากผลสำรวจของสมาคมรถยนต์แห่งอเมริกา ระบุว่า ราว 80% ของคนที่ขับรถเคยแสดงอารมณ์โกรธ และไม่พอใจออกมาระหว่างการขับรถบนท้องถนน อย่างน้อย 1 ครั้งในรอบปี Stan Steindl นักจิตวิทยา และผู้ช่วยศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย Queensland กล่าวว่า อารมณ์เกรี้ยวกราดที่เกิดขึ้นระหว่างขับขี่บนท้องถนนเกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนไม่ทันระวังตั้งตัว เช่น ถูกปาดหน้า ถูกแซง หรือเบรกกะทันหัน ในสถานการณ์ที่เราจะหนีออกไปจากตรงนั้นไม่ได้ จึงทำให้เราจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อเป็นการตอบกลับสถานการณ์นั้นด้วยตัวเอง สิ่งที่เราทำออกไปโดยสัญชาตญาณของเรา คือการกร่นด่าเพื่อปลดปล่อยความไม่พอใจที่เกิดขึ้น เมื่อมีใครมาแซงหน้า หรือทำให้เราไปข้างหน้าได้ช้าลง เราจึงมีความต้องการที่จะกำจัดเขาออกไปให้พ้นทาง
ใจเย็นแค่ไหน ก็อารมณ์เสียได้ หากขับรถ
2 ใน 3 ของคนที่ขับรถบนท้องถนนยืนยันว่าตัวเองเป็นคนขับรถที่ดี มีมารยาท และรักษากฎจราจรตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อเราเชื่อว่าตัวเองขับรถดีแล้ว แต่ยังถูกปฏิบัติไม่ดีกลับมา ถูกคนที่ฝ่าฝืนกฎจราจรเอาเปรียบ หรือทำให้การเดินทางของเราไม่สะดวกราบรื่นอย่างที่ควรเป็น จึงเกิดอารมณ์ไม่พอใจขึ้นมาได้ง่ายๆ รู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม และอยากต่อว่าคนที่แสดงการขับรถที่ไม่ดีออกมา เช่น “ขับรถประสาอะไร!” เป็นต้น อารมณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นในในสถานการณ์อื่นๆ เช่น มีคนมาแซงคิวหน้าร้านอาหาร หรือคุณต้องเปิดประตูลิฟท์รอคนอื่นในจังหวะที่คุณรีบมากๆ แต่สิ่งที่ทำให้คุณกลายเป็นอารมณ์ร้อน และขี้โมโหจนเผลอหลุดปากด่าทอออกมาเป็นคำพูด เพราะคุณอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวอย่างในรถยนต์ของตัวเอง ที่คุณมั่นใจว่าคุณจะบ่นอะไรออกมาก้ได้โดยที่ไม่มีคนข้างนอกได้ยิน ดังนั้นเมื่อคุณรู้สึกว่าพื้นที่ในรถยนต์เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่คุณจะพูดอะไรก็ได้ จึงทำให้คุณเผลอหลุดคำด่าทอ หรือคำหยาบรุนแรงออกมาได้อย่างไม่รู้สึกผิดมากนัก
อารมณ์โกรธระหว่างขับรถ ทำลายสุขภาพ?
จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด คณะสาธารณสุข ในปี 2014 พบว่า เมื่อเราแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมา ส่งผลต่อร่างกายของเราได้อย่างรวดเร็ว เพราะความเครียดจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น รวมไปถึงทำให้การเต้นของหัวใจเร็วขึ้น การไหลเวียนของโลหิตเร็วขึ้น นั่นจึงทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นในช่วงเวลาอันรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัวมีอาการของโรคกำเริบขึ้นมาได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดปัญหาหลอดเลือกหัวใจ และหลอดเลือดสมองอุดตันได้อีกด้วย
หากคุณคิดว่าคุณมีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไรที่น่าเป็นห่วง คุณอาจจะประมาทกับร่างกายของตัวเองเกินไป เพราะมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทราบว่าตัวเองกำลังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ รวมถึงหลอดเลือดหัวใจตีบตัน จนมีความเสี่ยงที่จะมีอาการหนักขึ้นเมื่อมีอารมณ์โกรธ หรือมีความเครียดระหว่างขับรถได้ ดังจากที่เราจะเคยเห็นกันมาในข่าวว่าพบผู้ที่มีอาการโรคหัวใจกำเริบขณะขับรถ และไม่สามารถควบคุมการขับขี่ได้ จนทำให้รถชนจนเสียชีวิตมาแล้ว
วิธีลดอารมณ์โกรธขณะขับขี่
จริงๆ แล้วนอกจากเรื่องของสุขภาพที่ต้องกังวลแล้ว อารมณ์โมโหอาจทำให้คุณขาดสติจนอาจกระทบถึงความปลอดภัยในการขับขี่ได้อีกด้วย ดังนั้นคุณจึงควรรู้วิธีสงบสติอารมณ์ขณะขับรถให้ดี ไม่ว่าจะใช้กับตัวเอง หรือช่วยให้คนขับที่นั่งข้างๆ คุณค่อยๆ ใจเย็นลงได้
- หายใจเข้าออกช้าๆ ลองหยุดคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วโฟกัสที่การหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ จะนับตัวเลข 1-10 ไปด้วยก็ได้ เพื่อให้เราลืมถึงเหตุการณ์ที่ทำให้โมโหเมื่อชั่วครู่ไปสักพัก
- เปิดเพลงช้าๆ เย็นๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ จะเพลงรักหวานๆ ซึ้งๆ หรือเพลงแนวบอสซ่าสบายๆ ไว้ฟังริมหาดก็ได้ ยิ่งเป็นเพลงโปรดของคุณได้ยิ่งดี ร้องตามไปด้วยเบาๆ ก็ยิ่งดี
- เปลี่ยนเส้นทางในการขับรถ ถ้าคิดว่าถนนเส้นนั้นมีรถที่เป็นปัญหา หรือมีการจราจรที่แน่นเกินไป
- แวะจอดรถพักที่ปั้มน้ำมัน หรือร้านค้า ร้านอาหาร หากไม่รีบจนเกินไป การจอดรถแล้วเปลี่ยนกิจกรรมไปทำอย่างอื่นเลยก็เป็นการปรับอารมณ์ที่ได้ผลที่สุด
ที่มา : https://www.sanook.com
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 31 สิงหาคม 2561
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 18,700.00 | 18,600.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 19,200.00 | 18,267.80 | 1,205.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 18,934.84 | 1,249.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 16,441.02 | 1,084.50 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 14,614.24 | 964.00 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,216.72 | 542.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,397.52 | 422.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 31 สิงหาคม 2561
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 30.15 | 30.15 | 30.65 | 30.15 | 30.15 | 30.15 | 30.15 | 30.15 | 30.15 | 30.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 29.88 | 29.88 | 30.38 | 29.88 | 29.88 | 29.88 | 29.88 | 29.88 | 29.88 | 29.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 27.14 | 27.14 | 27.54 | 27.14 | 27.14 | – | 27.14 | 27.14 | 27.14 | 27.14 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 21.39 | 21.39 | – | – | – | – | – | 21.39 | 21.39 | – |
เบนซิน 95 | 37.26 | – | – | – | 37.71 | – | 37.76 | 37.56 | 37.36 | 37.56 |
ดีเซล | 29.59 | 29.59 | 29.99 | 29.59 | 29.59 | 29.59 | 29.59 | 29.59 | 29.59 | 29.59 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 32.59 | 33.46 | 33.86 | 33.46 | 33.46 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 14.58 | 14.58 | – | – | – | – | – | – | – | – |