Blog Post

อสังหาฯแข่งโปรฯชิงยอดงานบ้านและคอนโด

งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 5-8 ต.ค.2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถือเป็นบิ๊กอีเวนท์ปลายปี ที่บรรดาผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ขนกว่า 1,000 โครงการ มาจัดแคมเปญ โปรโมชั่นชิงกำลังซื้อโค้งสุดท้าย

นายอดิเรก แสงใสแก้ว ประธานคณะกรรมการจัดงานมหากรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 เปิดเผยว่าอสังหาฯช่วงครึ่งปีหลังยังเป็นโอกาสที่ดีของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยและนักลงทุน นอกจากผู้ประกอบการต้องการระบายสต็อคสินค้าแล้ว ยังแข่งขันกันเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง และออกโปรโมชั่นจูงใจลูกค้า ขณะที่ธนาคารตรึงอัตราดอกเบี้ยจนถึงปลายปีนี้

ดังนั้นสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย ได้ร่วมกันจัดงานมหกรรมบ้าน และคอนโด ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 5-8 ต.ค. 2560 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อโค้งสุดท้าย โดยมีกว่า 1,000 โครงการจากผู้ประกอบการรายเล็กถึงรายใหญ่นำเสนอสินค้าทุกประเภท ทั้งคอนโด บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม รีสอร์ท สนามกอล์ฟ ตลอดจนที่ดินเปล่า บ้านมือสองและบ้าน NPA แบ่งเป็นโครงการแนวสูง 60% และแนวราบ 40%

โดยคาดว่าจะมีคนร่วมงานกว่า 1 แสนคน และมียอดขายในงานกว่า 4,000 ล้านบาท และมียอดขายต่อเนื่องตามหลังงานอีก 3-4 เท่าตัว รวมแล้วไม่ต่ำกว่า1.5 หมื่นล้านบาท

“อารียา”จัดฟรีเฟอร์ฯ–ฟรีโอน

นางสาวอุสราพร เจริญสวามิภักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าได้นำ 22 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม เข้าร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด อาทิ อารียา โคโม่ บางนา-วงแหวนฯ 2 บ้านเดี่ยว 4 นอน ใกล้เมกา บางนา, อารียา โคโม่ วงแหวน-รามอินทรา อารียา เมทโทร เกษตร-นวมินทร์ ใกล้ ม.เกษตรศาสตร์, เดอะ วิลเลจ คอทเทจ กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์ พร้อมคลับเฮ้าส์หรู สะดวกสบายการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า และห้างสรรพสินค้า

โครงการเดอะคัลเลอร์ส บางนา – วงแหวนฯ ทาวน์โฮม 4 นอน ฟังก์ชันบ้านเดี่ยว ใกล้เมกา บางนา, เดอะคัลเลอร์ส รังสิต-คลอง 4 ทาวน์โฮม 4 ห้องนอน พร้อมคลับเฮ้าส์ใหญ่ บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า, โครงการเอ สเปซ มี รัตนาธิเบศร์, เอ สเปซ ไอดี อโศก-รัชดา เป็นต้น

พร้อมเสนอโปรโมชั่น “ให้ครบ จบเลย” สำหรับลูกค้าที่จองโครงการภายในงาน อาทิ ฟรีเฟอร์นิเจอร์แบรนด์เอสบี(ชุดห้องนอน, ห้องนั่งเล่นและห้องครัวอย่างละ 1 ชุด) มูลค่าตั้งแต่ 280,000 บาทสูงสุด 460,000 บาท เครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวน 5 ชิ้น ได้แก่ เครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 บีทียู, ตู้เย็นขนาด 13 คิว, โทรทัศน์แอลอีดี ขนาด 40 นิ้ว, เตาไมโครเวฟขนาด 800 วัตต์, เครื่องทำน้ำอุ่นขนาด 4500 วัตต์ มูลค่ารวมเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50,000 บาท และฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธ์ทุกรายการสำหรับลูกค้าที่โอนกรรมสิทธิ์ภายใน 30 พ.ย.นี้

นอกจากนี้ลดค่าใช้จ่ายการซื้อที่อยู่อาศัย ด้วยการเงินคืน มูลค่า 30,000 บาท สำหรับลูกค้า 30 คนแรกที่จองโครงการของอารียาฯ ภายในงาน และมีการโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 30 พ.ย.2560

ออลล์ อินสไปร์จัด“ทุกยูนิตราคาเดียว”

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในงานมหกรรมบ้านฯ ได้จัดแคมเปญสุดพิเศษ “ALL INSPIRE LIVING CHOICE” ยกทัพคอนโดบนทำเลที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยกว่า 6 โครงการ อาทิ โครงการ ดิ เอ็กเซล อุดมสุข, ดิ เอ็กเซล กรูฟ,ดิ เอ็กเซล คูคต, ไรส์ พระราม 9, ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 50 และ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71 พร้อมข้อเสนอ “ทุกยูนิต ราคาเดียว” และรับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ราคาเริ่มต้น 9.9 แสนบาท* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)

ESTAR เข็นคอนโดจัดโปรฯฟรีโอน

นายต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่าในงานมหกรรมบ้านฯได้นำโครงการ Amber คอนโดติดรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีแยกติวานนท์ มาจัดแคมเปญ 9 ยูนิต ราคาพิเศษเริ่ม 2 ล้านต้น ขนาด 1 ห้องนอน 35 ตร.ม. ฟรีเฟอร์นิเจอร์จากโมเดอร์นฟอร์มครบชุด ซึ่งถ้าหากลูกค้าลงทะเบียนผ่าน www.estarpcl.com ได้ส่วนลดพิเศษเพิ่มอีก 10,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีคอนโดพร้อมอยู่ ได้แก่ โครงการ StarView คอนโดฯวิวแม่น้ำเจ้าพระยาบนถนนพระราม 3 มาจัดโปรโมรชั่น 2 ห้องนอน 77 ตร.ม. ราคาเริ่ม 8.4 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าส่วนกลางเป็นเวลา 1 ปี และโครงการนารา 9 ใกล้แยกสาทร-นราธิวาส ขนาด 1 ห้องนอน 39 ตร.ม. ราคาเริ่ม 5.7 ล้านบาท ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน

ภาพรวมทิศทางตลาดอสังหาฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ การแข่งขันของคอนโดฯยังคงอยู่ในระดับสูง เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการจากผู้ประกอบการรายใหญ่จำนวนมากในช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมาและเชื่อว่ายังจะมีต่อเนื่องในเดือนพ.ย.ถึงสิ้นปีเพราะเป็นช่วงฤดูการขาย ซึ่งคงจะเห็นรูปแบบการทำตลาดอย่างคึกคักเพื่อดึงกำลังซื้อจากลูกค้า

สำหรับแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงหลังจากที่มีการเปิดสถานีเชื่อมต่อเตาปูนทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองสะดวกขึ้นอย่างมาก ช่วยสนับสนุนให้อัตราการขายคอนโดฯของบริษัทเพิ่มขึ้น 10-15% และน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ

“ธารารมณ์”ชูบ้านทำเลเด่น

กลุ่มบริษัทธารารมณ์ นำโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภททุกทำเล ทั้งที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน มาจัดโปรโมชั่นในงานมหกรรมบ้านฯ  เช่น บ้านเดี่ยว 2 โครงการทำเลรามคำแหง 190/1 ที่ใกล้สายสีส้ม 500 เมตร โครงการพาร์คเวย์ เอลีฟ ด้วยบ้านเดี่ยว Modern Style ขนาดแปลงใหญ่กับโปรโมชั่น “Amazing Price” ราคา 7.5 ล้านบาท และโครงการพาร์คเวย์ แอทอีซ บ้านเดี่ยว Modern Contemporary Style พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเป็นสัดส่วนพร้อมห้องครัวที่แบ่งพื้นที่ไว้แล้ว กับโปรโมชั่น “One Price” ราคา 6.19 ล้านบาททุกแปลง

นอกจากนี้ยังนำโครงการเนเบอร์โฮม วัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 82 โครงการเดียวในทำเลนี้ที่เข้าออกได้ 2 ทางและใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน 2 จุด กับ Amazing Price ราคาเริ่ม 4.39 ล้านบาท สำหรับลูกค้าเยี่ยมชมบูธรับ “ธารารมณ์ สมาร์ทกิ๊ฟ” และส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท และเข้าชมโครงการรับสตาร์บัคส์การ์ด วันนี้ -31 ต.ค.นี้

ธารารมณ์เอสเตท จัดโปรฯ“จัดหนัก” ส่งท้ายปีทุกโครงการ กับบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น แบรนด์เทรนดี้ ธารา ทำเลพระราม 2 ใกล้ทางด่วน เริ่ม 5.89 ล้านบาท ทำเลบางใหญ่ใกล้สายสีม่วง เริ่ม 3.89 ล้านบาท ทาวน์โฮมดีไซน์เก๋ ทรีโอ ร่มเกล้า ติดถนนร่มเกล้า ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เริ่ม 3.49 ล้านบาท จองวันนี้ ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ รวมมูลค่าสูงสุด 200,000 บาท

ส่วน เดอะลิงค์ วาโน 64 คอนโดพร้อมอยู่ใกล้บีทีเอส สถานีปุณณวิถี 9 ยูนิตสุดท้ายขนาด 36 ตร.ม. ราคาเดียว 2.89 ล้านบาท ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และบัตรของขวัญ มูลค่ารวมสูงสุด 170,000

บ้านเดี่ยวโครงการใหม่ เทรนดี้ ธารา ร่มเกล้า ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เริ่ม 4.89 ล้านบาท ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์ แอร์ห้องนอนใหญ่ และสมาชิกสโมสรสปอร์ต แอนด์ สปา รวมมูลค่าสูงสุด 140,000 บาท จองในงานรับส่วนลดเพิ่มและสิทธิพิเศษต่าง ๆ วันนี้ถึง 31ธ.ค.นี้

ธนาสิริอัดโปรฯแรงโค้งสุดท้าย

นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้  ได้นำบ้าน 6 โครงการในเครือธนาสิริเข้าร่วมออกบูธในงานมหกรรมบ้านฯ พร้อมข้อเสนอส่วนลดเงินสดสูงสุดกว่า 1,000,000 บาท วางมัดจำ 5,000 บาท จองในวันงาน ฟรีเงินจอง ฟรีเงินทำสัญญาดอกเบี้ย 0% ปีแรก จองในงานรับเพิ่ม Samsung Galaxy Note 8 มูลค่า 33,900 บาท

สำหรับ 6 โครงการที่เข้าร่วมรายการได้แก่  ธนาวิลเลจ 2 พระราม 5 – บางใหญ่ บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นทรอปปิคอล 4 ห้องนอน ใกล้เซ็นทรัลเวสเกตและรถไฟฟ้าสายสีม่วง เริ่ม 3.99 ล้านบาท, ธนาซิโอ รัตนาธิเบศร์ ทาวน์โฮม 4 ห้องนอน ใกล้รถไฟฟ้า เริ่ม 2.39 ล้านบาท, ธนาฮาบิแทต ราชพฤกษ์ – สิรินธร บนถนนราชพฤกษ์ บ้านซีรีส์ใหม่ 4 ห้องนอน ใกล้ทางด่วน 15 นาทีจากจตุจักร เริ่ม 4.59 ล้านบาท

ธนาคลัสเตอร์ ราชพฤกษ์ – สถานีบางพลู ทาวน์โฮม 3 ชั้น ดีไซน์ใหม่ หน้ากว้างสูงสุด 8 เมตร ห้องนอนใหญ่ สไตล์ Penthouse 77 ยูนิต 5 นาที ถึงรถไฟฟ้า เริ่ม 3.29 ล้านบาท,ธนาคลัสเตอร์ สถานีเซ็นทรัล – บางใหญ่ “Modern Loft Living บ้าน 3 ชั้น ดีไซน์ใหม่ Size XL ใกล้เซ็นทรัลเวสเกตและสายสีม่วง เริ่ม 3.49 ล้านบาท และธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า – สิรินธร บ้านเดี่ยว 95 ยูนิต ใกล้ทางด่วนราคาเริ่มต้น 7.59 ล้านบาท

“ลลิล”จัดโปรฯส่งท้ายให้ครบ-ฟรีหมด

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในงานมหกรรมบ้านฯ บริษัทเตรียมนำโครงการที่อยู่อาศัยกว่า 40 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแนวคิดใหม่ Lalin Town ทาวน์โฮมหน้ากว้าง และคอนโด ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล เริ่มต้นราคา 1 ล้านต้น -12 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทุก เซ็กเมนต์

ทั้งนี้ บริษัทจัดแคมเปญพิเศษ “Lalin D-Day โปรส่งท้ายให้ครบ ฟรีหมด จบที่เดียว” รับฟรี ทั้งค่าส่วนกลาง ค่ามิเตอร์น้ำ-ไฟ พิเศษรับเพิ่ม Samsung Galaxy Note 8 (จำนวนจำกัด) เฉพาะลูกค้าที่ซื้อในงานมหกรรมบ้านฯ

ภายในงานได้นำ 2 โครงการล่าสุด ได้แก่ ไลโอ บลิสซ์ ประชาอุทิศ สุขสวัสดิ์ ทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5.7 เมตร 4 นอน 2 จอด ราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านกว่าบาท พร้อมสโมสรและสวนส่วนกลางใหญ่สุดในย่านสุขสวัสดิ์ และ ไลโอ บลิสซ์ ลำลูกกา คลอง 4-5 บ้านและทาวน์โฮม ราคาบ้านเริ่มต้น 2 ล้านต้นๆ และล้านกว่าๆ สำหรับทาวน์โฮม และอีกกว่า 40 โครงการของลลิลฯ

http://www.bangkokbiznews.com

ยักษ์อสังหาฯ ดึงมืออาชีพต่างค่ายช่วยพัฒนาโครงการ

แวดวงอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้เล่นรายใหญ่เข้ามามีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินที่แพงขึ้น และความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ทำให้เหลือพื้นที่สำหรับผู้ประกอบการรายเล็กน้อยลง เวทีอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันจึงกลายเป็นสังเวียนสำหรับรุ่นใหญ่ ที่ต่างก็แสวงหา ‘นักมวยมืออาชีพ’ มาช่วยพัฒนาโครงการให้กับแต่ละบริษัท ภาพที่เกิดขึ้นคือการดึงมืออาชีพจากบริษัทอื่นเข้ามาช่วยบริหาร ซึ่งมีให้เห็นบ่อยขึ้นในปัจจุบัน

โกลเด้นแลนด์ ดึง 2 มือดี พลิกฟื้นบริษัทฯ
เริ่มจากบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ ที่ดึงมืออาชีพอย่างนายแสนผิน สุขี จากค่ายแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มานั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตั้งแต่ปี 2557 โดยรับผิดชอบโครงการแนวราบ ช่วยพลิกฟื้นบริษัทฯ จากการขาดทุนสะสมกว่า 600 ล้านบาท มาเป็นบริษัทฯ ที่ครึ่งปีแรกของปี 2560 มียอดขายแล้วกว่า 11,000 ล้านบาท รวมทั้งยังได้มือดีจากค่ายควอลิตี้เฮ้าส์ หรือคิวเฮ้าส์ อย่างนายภวรัญชน์ อุดมศิริ มานั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด ช่วยพัฒนาบ้านแฝด และทาวน์โฮมแนวใหม่ที่มีจุดเด่นทั้งด้านฟังก์ชั่นการใช้งานที่ให้มากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป สิ่งอำนวยความสะดวกเน้นคุณภาพชีวิตให้เทียบเท่าบ้านเดี่ยว และการออกแบบด้านหน้าอาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้แบรนด์โกลเด้น ทาวน์ ติดตลาดอย่างรวดเร็ว จนถึงขั้นมีการต่อคิวจองในหลาย ๆ โครงการ

สำหรับครึ่งปีหลัง 2560 สิ่งที่เราจะได้เห็นจากโกลเด้นแลนด์คือ โครงการใหม่อีก 10 โครงการ มูลค่า 96,000 ล้าน ได้แก่ ย่านเกษตร-นวมินทร์ โดยพัฒนาเป็นโครงการที่มีความหลากหลาย 5 โครงการ เนื้อที่รวม 120 ไร่ จำนวน 950 ยูนิต มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 โครงการ ทาวน์โฮม 3 ชั้น บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ในระดับราคาต่าง ๆ กัน นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวโฉมใหม่ ทำเลใกล้เมือง ราคา 20-40 ล้านบาท โครงการใหม่ใน จ.ชลบุรี และเพิ่มเซกเม้นท์ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ใครสนใจบ้านโกลเด้นแลนด์ก็ตั้งตารอกันได้เลย

เจเอสพีฯ ดึงมือเก๋า ช่วยรุกแนวราบ

ด้าน บริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ก็ได้มือเก๋าอย่างนายไพโรจน์ วัฒนวโรดม จากคิวเฮ้าส์ มานั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี.แอสพลัส จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่มาถึงก็ประกาศปรับกลยุทธ์ธุรกิจบุกตลาดบ้านแนวราบ ซึ่งปัจจุบันพัฒนาไปแล้ว 22 โครงการ ใน 16 ทำเล ภายใต้มาตรฐาน J ID (J Intelligent Design) มาตรฐานของบ้านชาญฉลาด 4 ด้าน ประกอบไปด้วย ด้าน iFunction การออกแบบให้พื้นที่ทุกตารางนิ้วในบ้านสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ด้าน iEnergy การออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุเพื่อให้ประหยัดพลังงาน เช่น LED ทั้งหลัง แผ่นฟอยล์สะท้อนความร้อน ช่องระบายอากาศใต้ฝ้า มีช่องแสงขนาดใหญ่เพื่อให้บ้านสว่างขึ้นโดยไม่ต้องเปิดไฟฟ้าในเวลากลางวัน พร้อมการออกแบบให้ตัวบ้านสามารถถ่ายเทอากาศได้ดี ด้าน iColor การเลือกใช้สีกลุ่มสีโทนเย็น ทำให้ดูสบายตา และมีคุณสมบัติสีช่วยสะท้อนความร้อน และด้าน iConnect การออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกสบายของลูกบ้าน โดยมีพื้นที่ Club House และ Co-working Space สไตล์อังกฤษเพิ่มเติม เพื่อเชื่อมทุกความสัมพันธ์ในครอบครัวร่วมกัน ซึ่งได้การตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค จนมั่นใจว่ายอดขายทั้งปีจะได้ตามเป้า 5,000 ล้านบาท

ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะเปิดอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,110 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 2 โครงการ คือ โครงการเจ วิลลา วงแหวน-บางใหญ่ และโครงการเจ ซิตี้ ติวานนท์-บางกระดี ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมจะมีเปิดใหม่อีก 1 โครงการ คือ โครงการเจ คอนโด พระราม 2

เซ็นทรัลฯ ดึงโปรอสังหาฯ ดันยอดขาย ตจว.
สำหรับบริษัท ซีพีเอ็น เรสซิเดนท์ จำกัด ในเครือของกลุ่มเซ็นทรัล น้องใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ดึงมือโปรที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนาน อย่าง ร.อ.กรี เดชชัย ที่เคยฝากความสำเร็จไว้กับคิวเฮ้าส์ และเอสซี แอสเสท มาแล้ว ให้มาบริหารงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ที่แม้จะมาแปลกว่าชาวบ้าน รุกตลาดต่างจังหวัดที่รายใหญ่ ๆ มือเก๋า ๆ ยังชะลอไว้ แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะสามารถดันยอดขาย

คอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดให้โตสวนกระแสตลาดที่ซบเซาและภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ได้ทั้ง 3 โครงการภายใต้แบรนด์ เอสเซ็นท์ ใน จ.เชียงใหม่ ระยอง และขอนแก่น มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถปิดการขายได้ทั้ง 3 โครงการแล้ว ด้วยจุดขายที่ไม่เหมือนใคร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชีวิตที่ใช่ ใกล้แค่ก้าว” ขายความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตใกล้ศูนย์การค้า

โดยก้าวต่อไปภายใต้การบริหารของ ร.อ.กรี ยังคงยึดนโยบายเดิมในการพัฒนาโครงการรอบศูนย์การค้าเซ็นทรัล เตรียมพัฒนาโครงการใหม่อีก 3 โครงการ ที่เชียงใหม่และเชียงรายออกแบบเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สไตล์รีสอร์ต และที่นครราชสีมา จะเป็นโครงการมิกซ์ยูส มีโรงแรม คอนโดมิเนียมไฮไรส์สูง 22 ชั้น สวนสาธารณะ และลานกีฬา และในอนาคตมีแผนจะพัฒนาโครงการแนวราบด้วย

นอกจากบริษัทข้างต้นแล้วยังมีอีกหลายบริษัทที่ดึงผู้บริหารระดับมือทองจากค่ายอื่นมาร่วมงานด้วย อาทิ MQDC พฤกษา อรสิรินกรุ๊ป อนันดา แสนสิริ มั่นคงเคหะการ อีสเทอร์นสตาร์ และสิงห์เอสเตท ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างสีสันให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว มือเก๋าเหล่านี้ไม่ได้มาเล่น ๆ แน่นอน จะต้องสร้างนวัตกรรมทางด้านที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งผลที่ได้ก็คือผู้บริโภคที่จะได้ของดี ของเด่น ที่ตอบโจทย์ ตรงใจ ทางด้านอยู่อาศัยมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

http://www.ddproperty.com

นายกฯหารือเอกชนไทยในสหรัฐ

“ประธานหอการค้าไทย” แจงซื้อถ่านหินสหรัฐ 150,000 ตัน หลังอินโดนีเซียผลิตป้อนไม่ทัน “ประยุทธ์” พบภาคเอกชนไทยในสหรัฐ หนุนยึดแนวทางประกอบธุรกิจตามสิทธิมนุษยชน

เมื่อวันที่ 3 กันยายน เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ โรงแรม Four Seasons กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับภาคเอกชนไทย เพื่อรับฟังผลการหารือระหว่างภาคเอกชนไทยกับสภาหอการค้าสหรัฐฯ และแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็นเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐฯ

“นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงภาพรวมการหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯว่า การหารือเป็นไปด้วยความราบรื่น ด้วยความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน และยินดีสนับสนุนการดำเนินงานของภาคเอกชนทั้งสองประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการค้า และการลงทุน และจัดตั้งศูนย์ข้อมูล เช่นเดียวกับ ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ข้อมูล แนวทาง และทิศทางการค้าการลงทุนเป็นเอกภาพ พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจและการรับรู้เกี่ยวกับนโยบาย กฎระเบียบที่เอื้อต่อการลงทุนที่รัฐบาลได้ดำเนินการ รวมทั้ง มาตรการสนับสนุนการลงทุนให้กว้างขวางทั่วถึง และถูกต้องด้วย” พล.ท.วีรชน กล่าว

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่า ภาคเอกชน เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกและสนับสนุน ดังนั้น หากมีข้อเสนอ หรือข้อติดขัด ขอให้แจ้ง รัฐบาลจะได้ดำเนินการเพื่อให้กลไกเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น ที่สำคัญ รัฐบาลได้ดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชนในการประกอบธุรกิจ โดยยึดแนวทาง เคารพ คุ้มครอง และเยียวยา เพื่อเป็นไปตามแนวทางของสหประชาชาติ

ทั้งนี้ภายหลังการหารือ นายกลินทร์ สารสิน ผู้บริหาร SCG ได้ชี้แจงกรณี การซื้อถ่านหินจากสหรัฐฯว่า SCG เตรียมลงนามซื้อถ่านหินจากภาคเอกชนสหรัฐฯ 2 ฉบับ รวม 155,000 ตัน เพื่อใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์ และทดแทนการซื้อถ่านหินจากอินโดนีเซีย ที่ปัจจุบันอินโดนีเซียมีความต้องการใช้ถ่านหินสูงขึ้น SCG จึงต้องมองหาแหล่งถ่านหินใหม่ ซึ่งถ่านหินจากสหรัฐฯมีคุณภาพดีและคุ้มค่าต่อการลงุทน

http://www.bangkokbiznews.com

CIMBT รับเทรดพันธบัตร-กระตุ้นตลาดรองฯ คึก

นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT)เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารได้เริ่มให้บริการตัวกลางซื้อขายตราสารหนี้ไปเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ก็ได้เห็นถึงอีกช่องทางที่ลูกค้าให้ความสนใจ แต่ยังขาดความเชื่อมโยงถึงกันในการซื้อขายตราสารหนี้ระหว่างกันเอง ดังนั้น ธนาคารจึงเปิดให้บริการตัวกลางตลาดซื้อขายเปลี่ยนมือตราสารหนี้ขึ้น ก็ได้รับความสนใจเช่นเดียวกัน มีลูกค้าให้ความสนใจซื้อ-ขายตราสารหนี้ผ่านธนาคารในมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ต่อปี และมีส่วนแบ่งตลาดของตราสารหนี้ในตลาดรองของกลุ่มลูกค้ารายย่อย 25% ในปี 2559 และธนาคารตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 30% หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 3,000 ล้านบาทในปีนี้ รวมทั้งยังเป็นผู้เล่นหลักในหุ้นกู้ตลาดรองครองอันดับ 1 ใน 5 อันดับแรกตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันอีกด้วย

โดยปัจจุบัน อันดับ 1 เป็นธนาคารทิสโก้ (TISCO) อันดับ 2 เป็น บล. เคจีไอ อันดับ 3 เป็น ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) อันดับ 4 เป็น ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และอันดับ 5 คือ ซีไอเอ็มบี ไทย 

ทั้งนี้ ยอดคงค้างตราสารหนี้โดยรวมจะประมาณ 11 ล้านล้านบาท เป็นพันธบัตรรัฐบาล-รัฐวิสาหกิจ 8 ล้านล้านบาท และหุ้นกู้เอกชน 3 ล้านล้านบาท ในส่วนนี้นักลงทุนรายย่อยอยู่เพียง 10,000 ล้านบาท ซึ่งหากมีการซื้อขายตราสารในตลาดรองได้คล่องตัวมากขึ้น ก็จะทำให้ลูกค้ามีช่องทางมากขึ้นในการแสวงหาผลตอบแทนที่ดีกว่า จากเดิมที่ลูกค้าหุ้นกู้-พันธบัตร 99% ถือหุ้นจนครบกำหนด เพราะอาจจะไม่ทราบว่า หุ้นกู้-พันธบัตรซื้อขายเปลี่ยนได้ และไม่ต้องรอซื้อของใหม่ในวันเปิดจองเท่านั้น หรือบางคนที่รู้ก็ไม่รู้ถึงช่องทางหรือวิธีการ และซีไอเอ็มบี ไทย ก็เป็นธนาคารแรก ๆ ที่ตื่นตัวในการทำตลาดเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ส่วนหุ้นกู้ตลาดแรกปีนี้ ธนาคารตั้งเป้าขาย 70,000 ล้านบาท จาก 9 เดือนที่ผ่านมาที่มียอดขาย 53,000 ล้านบาท จากคาดการณ์ยอดขายหุ้นกู้ทั้งระบบ 700,000 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอน 5 แสนล้านบาทใหม่ ส่งผลให้มีเงินใหม่เข้ามาในระบบ 2 แสนล้านบาทในปีนี้

นอกจากนี้ ธนาคารมีผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอเพิ่มเติม คือ พันธบัตรรัฐบาล ที่ส่วนใหญ่จะซื้อขายระหว่างสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าคนไทยส่วนใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับเงินต้น เพราะผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลจะสามารถรักษาเงินต้นเกือบจะเทียบเท่าเงินฝาก ดังนั้น แทนที่จะทิ้งเงินออมไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือฝากประจำที่ดอกเบี้ยต่ำมานานที่ 0.25%-1.5% การโยกเงินเย็นมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุยาวขึ้นในภาวะดอกเบี้ยต่ำเช่นนี้ จะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก ความเสี่ยงยังต่ำ มีสภาพคล่อง ได้รับดอกเบี้ยสม่ำเสมอ อีกทั้งพันธบัตรยังมีข้อดีอื่น ๆ อาทิ สามารถใช้เป็นหลักประกันแทนเงินสดได้ด้วย โดยการซื้อขายหุ้นกู้-พันธบัตรรัฐบาลสามารถทำได้ทุกวันทำการที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทั้งลูกค้าที่อยากขายและซื้อ ติดต่อขอซื้อขายทำกำไร หรือตามความจำเป็นได้ตลอดเวลา รวมถึงลูกค้าที่ต้องการลงทุน ก็สามารถขอดูรายการหุ้นกู้-พันธบัตรที่ธนาคารเสนอขายได้ โดยตราสารหนี้ที่ธนาคารเสนอขายจะอยู่ในระดับ investment grade

https://mgronline.com

บางกอกแอร์เวย์สเปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-เกาะฟู้โกว๊ก (เวียดนาม)

บางกอกแอร์เวย์สเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-เกาะฟู้โกว๊ก (เวียดนาม)

ให้บริการสัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน เริ่ม 29 ตุลาคม ศกนี้

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จัดงาน Press Briefing เปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-เกาะฟู้โกว๊ก (เวียดนาม) พร้อมเปิดงานนิทรรศการภาพถ่าย “เกาะฟู้โกว๊ก … ไข่มุกแห่งเวียดนามตอนใต้” โดยมี นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เป็นประธานร่วมกับ มร. เหงียน ไฮ บัง เอกอัคราชฑูตเวียดนามประจำประเทศไทย ณ ห้องรับรองผู้โดยสารภายในประเทศของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-เกาะฟู้โกว๊ก ว่า “เกาะฟู้โกว๊ก เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม มีความงดงามทางธรรมชาติจนได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งเวียดนามตอนใต้ และเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมทั้งเกาะฟู้โกว๊กยังได้รับการพัฒนาจากรัฐบาลเวียดนามให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับตลาดไฮเอนด์ บางกอกแอร์เวย์สเล็งเห็นศักยภาพและเชื่อมั่นว่าเกาะฟู้โกว๊กจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากอีกแห่งหนึ่งของภูมิภาคฯ จึงเตรียมเปิดให้บริการเส้นทางบินตรงระหว่าง กรุงเทพฯ-เกาะฟู้โกว๊ก ในปลายเดือนตุลาคมศกนี้ เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวจากยุโรปและสแกนดิเนเวียนที่เดินทางมาพักผ่อนที่เกาะแห่งนี้เป็นประจำ ตลอดจนเป็นการบุกเบิกเส้นทางบินที่มีเอกลักษณ์สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการแสวงหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อีกด้วย”

“การเปิดเส้นทางบินตรงระหว่าง กรุงเทพฯ-เกาะฟู้โกว๊ก ของสายการบินฯ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขยายเครือข่ายเส้นทางบินของบางกอกแอร์เวย์ส ให้ครอบคลุมประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเที่ยวบินร่วมของสายการบินพันธมิตร (codeshare partners) ในการเดินทางเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) ไปยังเมืองสำคัญและแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคฯ อาทิ พนมเปญ เสียมราฐ เวียงจันทร์ หลวงพระบาง ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ดานัง และล่าสุด เกาะฟู้โกว๊ก ประเทศเวียดนาม สายการบินฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเส้นทางบินใหม่นี้จะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวเวียดนาม และชาวต่างชาติ โดยชาวต่างชาติที่จะต้องขอวีซ่าก่อนเดินทางเข้าประเทศเวียดนาม รัฐบาลเวียดนามอนุญาตจะให้สามารถเดินทางเข้าสู่เกาะฟู้โกว๊กโดยไม่ต้องขอวีซ่าได้นานถึง 30 วัน ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังเกาะฟู้โกว๊กมากขึ้น” นายพุมิพงศ์ กล่าวเสริม

เส้นทางบินกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)–เกาะฟู้โกว๊ก (ประเทศเวียดนาม) จะให้บริการสัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน (อังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ และอาทิตย์) ด้วยเครื่องบินแบบเอทีอาร์ 72-600 ขนาด 70 ที่นั่ง โดยเที่ยวบินขาไป PG991 ออกจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เวลา 11.30น. ถึงเกาะฟู้โกว๊ก เวลา 13.10น. เที่ยวบินขากลับ PG992 ออกจากเกาะฟู้โกว๊ก เวลา 13.50น. ถึงกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เวลา 15.35น.

ผู้โดยสารที่สนใจสามารถสำรองที่นั่งได้ที่คอลเซ็นเตอร์ โทร. 1771 ตลอด 24 ชั่วโมง ค่าบริการครั้งละ 3 บาททั่วไทย (เฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน) และผู้โดยสารของบางกอกแอร์เวย์สสามารถทำการเช็คอินออนไลน์ได้ 24 ชั่วโมงล่วงหน้าก่อนการเดินทางได้ที่ www.bangkokair.com และผู้โดยสารทุกท่านของบางกอกแอร์เวย์ส สามารถเข้าใช้บริการห้องรับรองผู้โดยสารที่ให้บริการอาหารว่าง เครื่องดื่มและอินเทอร์เน็ต ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

https://travel.mthai.com

 ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 4/10/2560​

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง	ราคารับซื้อต่อกรัม	ราคารับซื้อ/บาท	ราคาขายออก/บาท
ทองคำแท่ง 96.5%	n/a	20,050.00	20,150.00
ทองรูปพรรณ 96.5%	1,299.00	19,692.84	20,650.00
ทองรูปพรรณ 90%	1,169.10	17,723.56	n/a
ทองรูปพรรณ 50%	585.00	8,868.60	n/a
ทองรูปพรรณ 40%	455.00	6,897.80	n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%	1,346.00	20,405.36	n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  4/10/2560

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร
	ปตท PTT	บางจาก BCP	เชลล์ Shell	เอสโซ่ Esso	คาลเท็กซ์ Caltex	ไออาร์พีซี IRPC	พีทีจี เอนเนอยี่ PTG	ซัสโก้ Susco	ระยองเพียว Pure	ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95	27.85	27.85	–	27.85	27.85	27.85	27.85	27.85	27.85	27.85
แก๊สโซฮอล E-20	25.34	25.34	25.34	25.34	25.34	–	25.34	25.34	25.34	25.34
แก๊สโซฮอล E-85	20.44	20.44	–	–	–	–	–	20.44	20.44	–
แก๊สโซฮอล 91	27.58	27.58	27.58	27.58	27.58	27.58	27.58	27.58	27.58	27.58
เบนซิน 95	27.85	–	–	–	27.85	–	27.85	27.85	27.85	27.85
ดีเซลหมุนเร็ว	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม	29.19	29.19	29.19	29.19	29.19	–	–	–	–	–
มีผลตั้งแต่	29 Sep 05:00	29 Sep 05:00	29 Sep 05:00	29 Sep 05:00	29 Sep 05:00	29 Sep 05:00	29 Sep 05:00	29 Sep 05:00	29 Sep 05:00	29 Sep 05:00