ครั้งแรกในอาเซียน บ.แม่ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัว PropertyGuru Lens พลิกโฉมการหาบ้าน-คอนโดฯ สุดเดิร์น
พร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ป (PropertyGuru Group) กลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเอเชียและเป็นบริษัทแม่ของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับการหาที่อยู่อาศัยในปี 2019 ดึงเทคโนโลยีแห่งยุคอย่าง Artificial Intelligence (AI), Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) มาพัฒนา “PropertyGuru Lens” เปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้วานนี้ (31 ม.ค. 62) ที่ประเทศสิงคโปร์
พร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ปตระหนักดีว่าสิ่งที่คนหาบ้านในยุคปัจจุบันต้องการนั้นไม่ได้มีเพียงเรื่องของความสะดวกและรวดเร็วเท่านั้น หากแต่ยังต้องการโซลูชั่นหรือการบริการแบบใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการมากขึ้นด้วย โดยนวัตกรรม PropertyGuru Lens พลิกโฉมการค้นหาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบเดิม ๆ ที่ต้องมาพิมพ์ค้นหาผ่านแป้นพิมพ์ สู่การค้นหาที่อยู่อาศัยผ่านกล้องโทรศัพท์มือถือ
การใช้งานง่าย ๆ เพียงโฟกัสกล้องไปที่อาคารที่อยู่อาศัยที่สนใจ จากนั้นจะปรากฎข้อมูลเป็นไอคอนแสดงชื่อโครงการ จำนวนห้องที่เหลืออยู่ ราคาขายสำหรับซื้อและเช่าแบบ Real-time นอกจากจะหาข้อมูลที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้นในทุกที่ ยังมีประโยชน์ในกรณีที่ผู้ค้นหาไม่ทราบชื่อหรือไม่ทราบการสะกดชื่อของอาคารนั้น ซึ่งเป็นการลดอุปสรรคทางด้านภาษาด้วย
แนวคิดของ PropertyGuru Lens ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่
- ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือในการค้นหาอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น
- กล้องกลายเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในปัจจุบัน
- เชื่อว่าในอนาคตการค้นหาอสังหาริมทรัพย์จะเป็นประสบการณ์ผ่านภาพมากกว่าการค้นหาผ่านแป้นพิมพ์
ทั้งนี้ PropertyGuru Lens จะเปิดให้ทดลองใช้แบบ Close Beta ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป ผ่านแอปพลิเคชั่น PropertyGuru ของสิงคโปร์ ในระบบ IOS ก่อนจะขยายไปสู่ระบบ Android นอกจากนี้ยังมีแผนจะขยายไปสู่บริษัทในเครือทั้งในมาเลเซีย อินโดนิเซีย ไทย และเวียดนาม
ขอบคุณข้อมูลจาก ddproperty.com
ดัชนีราคาที่ดินเปล่า กทม.-ปริมณฑล ขยับขึ้น 32.3%
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส. เผยดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ไตรมาส 2 ปี 61 ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล พบมีค่าดัชนีเท่ากับ 217.8 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 32.3%
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล รวม 6 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม โดยในไตรมาส 2 ปี 2561 ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑลมีค่าดัชนีเท่ากับ 217.8 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 32.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้โดยผลมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินเปล่าที่อยู่ใกล้แนวเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าและในเขตจังหวัดปริมณฑล
นอกจากนี้ศูนย์ยังได้วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาโดยจำแนกตามประเภทแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน พบว่า พื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 56.1% ส่วนพื้นที่อุตสาหกรรม มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 29.8% พื้นที่ที่อยู่อาศัยชุมชน (ทำเลในจังหวัดปทุมธานี นครปฐม และสมุทรสาคร) มีการรับราคาเพิ่มขึ้น 19.7% พื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 13.1% พื้นที่พาณิชยกรรม มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 6.6ถ พื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 3.6% และพื้นที่เกษตรกรรม มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 2.6%
อย่างไรก็ตามเมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างที่ดินเปล่าในการใช้ประโยชน์เพื่อเกษตรกรรมที่มีราคาต่ำสุดกับราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในแต่ละแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่น พบว่า พื้นที่พาณิชยกรรม มีราคาสูงกว่าพื้นที่เกษตรกรรม 133.4% ส่วนพื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลางมีราคาสูงกว่า 81% พื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก มีราคาสูงกว่า 74.6% พื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย มีราคาสูงกว่า 57.4% พื้นที่ที่อยู่อาศัยชุมชน มีราคาสูงกว่า 48.3% และพื้นที่อุตสาหกรรม มีราคาสูงกว่า 30.7%
ทั้งนี้ศูนย์ข้อมูลฯ ยังได้วิเคราะห์เปรียบเทียบราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในแต่ละทำเลที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนผ่านกับราคาที่ดินในทำเลที่ไม่มีโครงการรถไฟฟ้าผ่าน พบว่า ทำเลที่มีแผนการลงทุนโครงการลงรถไฟฟ้าในอนาคต มีราคาสูงกว่า 52.1% เนื่องจากราคาที่ดินปรับเพิ่มจากฐานราคาเดิมที่ยังไม่สูงมากนัก ส่วนทำเลที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า จะมีราคาสูงกว่า 32.1% ในขณะที่ทำเลที่มีโครงการรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้ว จะมีราคาสูงกว่า 24.2%
ขอบคุณข้อมูลจาก thaipost.net
‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘ทรงตัว’ ที่ 31.31 บาทต่อดอลลาร์
จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินทั่วโลก ตาดตลาดเงินไม่เปลี่ยนแปลงนักในช่วงวันหยุดตรุษจีน
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.31 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นสัปดาห์ก่อน และสัปดาห์นี้ ต้องจับตาการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินไทยและทั่วโลกไปพร้อมกัน
ส่วนค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากการจ้างงานในสหรัฐที่แข็งแกร่งส่งผลให้บอนด์ยิลด์ปรับตัวขึ้นทั่วทั้งเคิฟราว 5-7bps อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่า เงินบาทและสกุลเงินเอเชียไม่น่าจะมีความเคลื่อนไหวมากนักในช่วงวันหยุดตรุษจีน
ระยะต่อไป มองว่าข้อสรุปของการเจรจาการค้าจะส่งผลให้ตลาดกลับมามีมุมมองเชิงบวกกับตลาดเกิดใหม่และกลับเข้าลงทุนในเอเชีย จุดที่ต้องติดตามคือการพบกันระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี ในวันที่ 27 ถึง 28 กุมภาพันธ์นี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่
มองกรอบเงินบาทในวันนี้ 31.28 – 31.38 บาทต่อดอลลาร์และกรอบเงินบาทรอบสัปดาห์ 31.05 ถึง 31.55 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับในสัปดาห์นี้ เริ่มต้นในวันอังคาร คาดว่าธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.50% ตามเดิม โดยจะมีการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจออสเตรเลียลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและจีน
วันพุธ การประชุมนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่าจาก “คง” ดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% แม้กนง.อาจส่งสัญญาณให้ตลาดระวังความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท แต่เราเชื่อว่า ธปท.ไม่มีนโยบายเข้ามาควบคุมค่าเงินบาทเพราะการเปลี่ยนแปลงปัจจุบันเป็นไปตามทิศทางของสกุลเงินเอเชีย
วันพฤหัส คาดว่าธนาคารกลางอินเดียจะ “ลด” อัตราดอกเบี้ย 0.25% มาที่ระดับ 6.25% หลังเงินเฟ้อชะลอตัว ขณะที่ธนาคารกลางฟิลิปปินส์จะ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ 4.75% หลังเงินเฟ้อในประเทศชะลอตัวลงเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
Samsung ครองยอดขายสมาร์ทโฟนสูงสุดตามด้วย Apple, Huawei อยู่อันดับ 3
International Data Corporation หรือ IDC รายงานว่า ในไตรมาสที่ 4 ปี 2018 ที่ผ่านมามีการส่งมอบ (ขาย) สมาร์ทโฟนทั้งสิ้น 375.4 ล้านเครื่อง ลดลงจากปี 2017 ไป 4.9% ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเทศกาลต่างๆ ก็ลดลงไป 4.1% ไม่สามารถสร้างยอดขายที่ดีขึ้นแบบเห็นได้ชัดได้
ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงมาก และตลาดที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ประเทศจีน มีส่วนแบ่งรวมถึง 30% ทั่วทั้งโลก แต่ยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนลดลงไปถึง 10% ในปี 2018 ที่ผ่านมา แต่ 4 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของจีน ได้แก่ Huawei, OPPO, vivo, และ Xiaomi กลับมียอดขายที่เติบโตขึ้นถึง 78% เมื่อเทียบกับปี 2017 ที่ 66%
ปัจจุบัน 5 อันดับสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในโลกประกอบไปด้วย Samsung, Apple, Huawei, Oppo และ Xiaomi ซึ่ง 5 แบรนด์นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในปีที่ผ่านมา มาดูกันครับ
- Samsung: ยอดขายลดลงไป 5.5% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 ส่งมอบสมาร์ทโฟนไปทั้งสิ้น 70.4 ล้านเครื่อง ทำให้ Samsung ยังครองอันดับหนึ่งได้อยู่ แต่ส่วนแบ่งการตลาดก็ลดลงจาก 20% เป็น 18.7% ส่วนยอดขายทั้งปีลดลงไป 8% เหลือ 292.3 ล้านเครื่อง
- Apple: ยอดขาย iPhone ลดลงไปถึง 11.5% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 ถือว่าเป็นงานหนักของ Apple ถึงแม้ว่าจะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ทั้งหมดสามรุ่นก็ยังไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้ดีนัก (แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้ขายยากขึ้น) ยอดขาย iPhone ทั้งปีลดลงไป 3.2% ซึ่งตลาดสำคัญของ iPhone อยู่ที่สหรัฐอเมริกาและจีน แต่ทั้งสองตลาดกลับทำได้ไม่ดีทั้งคู่
- Huawei: ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มาแรงมากในปีที่ผ่านมา ยอดขายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 เพิ่มขึ้น 43.9% และยอดขายทั้งปีเพิ่มขึ้น 33.9% สวนทางกับสองแบรนด์ข้างต้นที่ลดลง รวมถึงบริษัทน้องอย่าง Honor ที่เติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน
- Oppo: ยอดขายทั้งปีเพิ่มขึ้น 1.3% รวมส่งสมาร์ทโฟนทั้งหมด 113.1 ล้านเครื่องในปี 2018 มียอดขายค่อยๆ ขยับขึ้น โดย Oppo จะเน้นทำตลาดในจีนเป็นหลัก แต่อินเดียและอินโดนีเซียก็เป็นประเทศที่ Oppo กำลังเปิดตลาดนอกเหนือจากประเทศจีนอีกด้วย
- Xiaomi: ยอดขายทั้งปีเพิ่มขึ้น 32.2% เช่นเดียวกับ Oppo, Xiaomi เล็งตลาดอื่นนอกจาประเทศจีน ได้แก่อินเดียและอินโดนีเซีย แต่ก็มีการทำตลาดในยุโรป เช่นสเปน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ศัพท์และประโยคที่ใช้ในร้านอาหารและภัตตาคาร
ศัพท์ใช้ในร้านอาหาร
1. Party of หรือ Table for
เวลาเข้าร้านอาหารพนักงานก็จะถามเราว่ามากันกี่คน ใช้คำนี้ต่อด้วยจำนวนคน เช่น Party of 4 หรือ Table for 2 แล้วก็จะพาไปโต๊ะที่เหมาะกับจำนวนคน
2. Menu
พอไปนั่งที่โต๊ะแล้วก็จะมี Menu มาให้ ภาษาไทยก็คือเมนูหรือรายการอาหารครับ
3. Would you like something to drink? หรือ Can I take your drink order?
ร้านอาหารส่วนมากจะให้สั่งเครื่องดื่มก่อนในระหว่างเลือกดูเมนู ก็จะใช้ประโยคนี้
4. Would you like to whet your appetite?
มาจากคำว่า Appetizer คืออาหารจานเรียกน้ำย่อย อาหารเบาๆ ที่เสิร์ฟก่อนจานหลักเป็นจานแรก หลายคนอาจไม่คุ้นเพราะอาหารไทยมักเสิร์ฟพร้อมๆ กัน แต่ในร้านอาหารตะวันตกเราจะสังเกตได้ว่าในคอร์สอาหารจะมีหลายจาน จานแรกจะเป็นซุปหรือสลัด Would you like to whet your appetite? ก็คือการถามว่าจะให้เริ่มเสิร์ฟจานแรกเลยหรือเปล่า เราใช้ Starter แทน Appetizer ได้ด้วย
5. Specials
พิเศษยังไง เมนูพิเศษในร้านอาหารมักจะเป็นเมนูที่ลดราคา หรือมีโปรโมชั่น หรือเป็นของประจำวัน เช่น Catch of the day คือปลาที่ใช้ในเมนูวันนี้ หรือ Soup of the day ที่เป็นซุปหลักในวันนี้ เมนูพิเศษเหล่านี้มักจะไม่เหมือนกันในแต่ละวัน
6. Prix Fixe
ที่จริงคำนี้มาจากภาษาฝรั่งเศษ แปลง่ายๆ ก็คือ Fixed Price หรือราคาตายตัวที่เป็นชุด บ้านเราก็มักจะเป็นพวกโปรโมชั่นชุด A ชุด B แล้วก็จะมีราคาทั้งชุด ไม่แยกจานครับ
7. Can you take you Main?
Main หมายถึงอาหารจานหลัก มักจะเป็นพวกอาหารหนักๆ เช่น เนื้อ ข้าว มันฝรั่ง เป็นจานที่เสิร์ฟหลังจานเรียกน้ำย่อย ประโยคนี้ก็คือการถามว่าจะสั่งจานหลักเป็นอะไร
8. Sides & Substitutes
เวลาสั่งจานหลัก เราสามารถเปลี่ยนบางอย่างในเมนูได้ เช่นเปลี่ยนข้าวเป็นมันฝรั่ง เราเรียกว่า Substitutes หรือต้องการสั่งเพิ่มเติมนอกจากในเมนู ก็สั่ง on the Sides ครับ
9. Dessert
ของหวานเสิร์ฟหลังอาหาร
10. Bill หรือ Check
บ้านเราคงบอกว่าเช็คบิล แต่ที่จริงใช้คำเดียว คำไหนก็ได้ ในอเมริกาหรือแคนาดา ตามมารยาทต้องทิปพนักงาน 10-20% ของค่าอาหาร บางทีอาจจะรวมทิปและภาษีไว้ในบิลแล้วก็ได้ จึงควรถามก่อนว่า Is the tax and tip included? ถ้าไม่รวมก็ต้องจ่ายเพิ่ม
ขอบคุณข้อมูลจาก tis-communication.com
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 04/02/
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 19,500.00 | 19,500.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 20,000.00 | 19,147.08 | 1,257.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 19,753.48 | 1,303.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 17,232.37 | 1,131.30 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 15,244.90 | 1,005.60 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,580.56 | 566.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,670.40 | 440.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 04/02/
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 26.35 | 26.35 | 26.35 | 26.35 | 26.35 | 26.35 | 26.35 | 26.35 | 26.35 | 26.35 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 26.08 | 26.08 | 26.08 | 26.08 | 26.08 | 26.08 | 26.08 | 26.08 | 26.08 | 26.08 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 23.34 | 23.34 | 23.74 | 23.34 | 23.34 | – | 23.34 | 23.34 | 23.34 | 23.34 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.34 | 19.34 | – | – | – | – | – | 19.34 | – | – |
เบนซิน 95 | 33.76 | – | – | – | 34.21 | – | 34.26 | 34.06 | – | 34.06 |
ดีเซล | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 29.29 | 29.56 | 29.75 | 29.75 | 29.75 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 16.07 | 16.07 | – | – | – | – | – | – | – | – |