เปิดโลกทัศน์นวัตกรรมบ้านและเทคโนโลยีคอนโดฯ จากนักพัฒนาอสังหาฯ
ตลาดคอนโดฯ ในไทย โดยเฉพาะโซนกรุงเทพฯ นั้นยังคงมีความต้องการในกลุ่มผู้อยู่อาศัยและนักลงทุน ประกอบกับภาวะการแข่งขันพัฒนารูปแบบของคอนโดฯ ยังอยู่ในระดับสูง จึงทำให้ดีเวลลอปเปอร์หลายรายพยายามพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ของการอยู่อาศัยอยู่ตลอด ทั้งนี้เพื่อสร้างมูลค่าให้กับโครงการบ้าน-คอนโดฯ และความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค
ใจกลางทองหล่อ ทำเลทองโซนสุขุมวิท ที่มักเป็นแหล่งรวมโครงการคอนโดฯ สุดหรู ระดับ Ultra Luxury อยู่หลายแห่ง ล่าสุดบริษัท 1.6 ดีเวล็อปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (วันพ้อทย์ซิกซ์) ได้จับมือกับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เพื่อรังสรรค์โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) ภายใต้แนวคิด “Essentially More” กับโครงการ เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ (The Strand Thonglor) คอนโด ฯ หรูใจกลางทองหล่อ ที่ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ออกแบบนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งการอยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงผู้อยู่อาศัยกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) ไม่ว่าจะเป็น Secured Private Lift Lobby, Active CCTV Monitoring & Control และ Living Room Social Lounge เป็นต้น และด้วยความใส่ใจในการออกแบบคอนโดฯ เพื่อยกคุณภาพการอยู่อาศัยของผู้บริโภคนี้เอง จึงทำให้โครงการได้รางวัล The Best Luxury Architectural Design (Bangkok) จากงานประกาศผลรางวัล PropertyGuru Thailand Property Awards 2018
เมื่อพูดถึงคอนโดฯ ระดับ Ultra Luxury แห่งย่านพร้อมพงษ์ ต้องไม่พลาดนึกถึงโครงการ วิตโตริโอ สุขุมวิท 39 จากบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Uffizi Gallery พิพิธภัณฑ์ศิลปะด้านจิตรกรรมและประติมากรรมชื่อก้องโลกแห่งเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ผ่านการออกแบบในรูปแบบ Timeless Design ด้วยสไตล์ Modern Classic ตกแต่งด้วยงานศิลปะของ 9 ศิลปินชาวไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก จนทำให้ได้รางวัล The Best Condo Interior Design (Bangkok) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจทั้งฝั่งผู้พัฒนาโครงการและผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงโครงการคอนโดฯ หรูสไตล์รีสอร์ท กับ วินด์แฮม แอทลาส วงศ์อมาตย์ พัทยา จาก ฮาบิแทท กรุ๊ป ที่เพิ่งได้รับรางวัล Winning Best Condo Interior Design (Resort) โดยความพิเศษของโครงการนี้ นอกจากจะมีความโดดเด่นเรื่องบรรยากาศการตกแต่งแล้ว ทางผู้พัฒนายังได้จับมือกับ คอสโมโพลิแทน ฮอสพิทอลลิตี้ เพื่อพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีการอยู่อาศัย ด้วยระบบ Smart Home มาใช้ในโครงการด้วย >>อ่านรีวิวโครงการบ้าน-คอนโดฯ ที่ใช้ระบบ Smart Home
ทั้งนี้การประกาศผลรางวัล PropertyGuru Thailand Property Awards 2018 ได้เพิ่มรางวัลเพื่อผู้อยู่เบื้องหลังในการพัฒนาที่อยู่อาศัย อย่างโครงการ ภัททาไพร์ม โดยบริษัท ภัททา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งได้รับรางวัล Best Housing Development (Eastern Seaboard) เนื่องจากเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ใช้วัสดุในการก่อสร้างมีคุณภาพสูง อีกทั้งยังเลือกใช้เทคโนโลยี Enviroswim มาใช้กับสระว่ายน้ำ จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจกับความสะอาด ปราศจากเชื้อโรคในสระว่ายน้ำได้
การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีที่อยู่อาศัยอย่างไม่หยุดยั้ง ยังคงเป็นรูปแบบการแข่งขันทางการตลาดของนักพัฒนาอสังหาฯ ใช่เพียงแต่โครงการคอนโดฯ อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเทคโนโลยีในการก่อสร้างบ้านเดี่ยวกับโครงการคูณ (KUUN) โดย ACE Estate Group ที่ได้รังสรรค์เทคโนโลยี Smart Home ไว้บนสมาร์ทโฟน โดยสามารถสั่งงานเปิด-ปิดไฟได้แม้ไม่มีคนอยู่บ้าน หรือแม้แต่การบริการด้านอื่นๆ ที่สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย
ปิดท้ายที่อยู่อาศัยถูกพัฒนาอยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยี กับโครงการทาวน์โฮมสุดหรู อัลติจูด พรูฟ เกษตรนวมินทร์ (Altitude Prove Kaset-Nawamin) โดยบริษัทอัลติจูด ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาได้เพิ่มจุดเด่นให้กับบ้านด้วยการติดตั้ง Intelligent Home ให้สามารถสั่งงานผ่านระบบสมาร์ทโฟนได้ด้วยเช่นกัน ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
ขอบคุณที่มา ddproperty.com
โฮมออฟฟิศยุคใหม่ ต้องทันสมัยแค่ไหน?
ไม่เพียงแต่เรื่องทำเลเท่านั้นที่สำคัญสำหรับ “โฮมออฟฟิศ” แต่การออกแบบที่ตอบโจทย์คนทำธุรกิจรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการนำ Intelligence Tools หรือเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในโฮมออฟฟิศยังเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเทคโนโลยีอัจฉริยะจะส่งเสริมให้กลุ่มลูกค้าโฮมออฟฟิศ ซึ่งเป็นกลุ่มเจ้าของกิจการรายย่อย หรือ SME ให้จัดการทุกอย่างรอบตัวได้สะดวกมากขึ้นหัวใจสำคัญของการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทุกรูปแบบ นอกจากจะใช้ความฉลาดของเทคโนโลยีมาเป็นผู้ช่วยในด้านต่าง ๆ แล้ว ยังต้องการให้เทคโนโลยีช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานด้วย เพราะเทคโนโลยีสามารถคำนวณความต้องการใช้ไฟ น้ำ ควบคุมอุณหภูมิทุกอย่างแทนมนุษย์ได้ ทำให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ นอกจากจะสะดวกสบายแล้ว ยังช่วยให้เราประหยัดบทความที่เกี่ยวข้อง
จากการสำรวจระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เริ่มมีการใช้กันทั้งในมุมส่งเสริมความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน และในมุมของการลดการใช้พลังงาน เช่น ระบบเทคโนโลยีควบคุมไฟ ในบางอาคารสามารถปรับเพิ่มความสว่างของไฟได้อัตโนมัติทันทีที่มีคนเดินเข้ามา และปรับเพิ่มขึ้นอีก เมื่อมีคนเข้ามาเพิ่มขึ้น หรือปรับลดแสงสว่างของไฟเมื่อมีคนออกจากห้อง จนถึงกับปิดไฟ เมื่อระบบเซนเซอร์ตรวจพบว่า ไม่มีคนอยู่ในห้องแล้วเช่นเดียวกับอุณหภูมิ ที่อาคารอัจฉริยะบางแห่งมีระบบที่ควบคุมอุณหภูมิได้ ควบคุมการใช้น้ำ ดึงแสงไฟธรรมชาติมาใช้งานในบางพื้นที่ของอาคาร มีระบบเก็บน้ำฝนมารีไซเคิลใช้ภายในอาคาร หรือแม้กระทั่งในอาคารจอดรถ เราจะพบว่า มีการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการแจ้งจุดว่างของที่จอดรถ ซึ่งช่วยลดความสูญเสียพลังงานน้ำมันในการวนหาที่จอดรถ และช่วยให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายด้วย โดยเทคโนโลยีเหล่านี้ หากวางแผนการใช้งานอย่างเต็มระบบ อาจช่วยอาคารประหยัดพลังงานได้มากถึง 40% และยังช่วยเรื่องภาพลักษณ์ให้กับอาคารด้วยขอบคุณที่มา ddproperty.com
นอกจากนี้ ในอีกมุมหนึ่ง เทคโนโลยีอัจฉริยะยังช่วยเรื่องสุขภาพด้วย โดยมีเทคโนโลยีอัจฉริยะที่คำนวณการเข้ามาของลม ฝุ่น แล้วทำงานควบคู่กับอุปกรณ์ที่มี เพื่อควบคุมลม ไม่ให้อากาศภายในห้องชื้นเกินไป หรือไม่ให้มีปริมาณฝนเข้ามามากเกินไป ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้คนที่อยู่ในอาคารนั้น ๆ มีสุขภาพที่ดี ลดภาวะการเจ็บป่วย
อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการพัฒนาอาคารที่มีเทคโนโลยีอัจฉริยะยังค่อนข้างสูง ทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้ อาจจะถูกนำมาใช้ในวงกว้างไม่มากนักสำหรับกลุ่มโฮมออฟฟิศ อาจไม่ได้นำเทคโนโลยีอัจฉริยะเหล่านี้มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็เริ่มนำ Intelligence Tools บางอย่างมาใช้งาน เช่น ระบบ Smart Office ที่มาพร้อมอุปกรณ์อัจฉริยะ รองรับสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งในอนาคตเชื่อว่า ระบบการสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนจะกลายเป็นพื้นฐานที่กลุ่มโฮมออฟฟิศต้องมี เพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการยุคใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนที่เพิ่มขึ้น รวมถึง การออกแบบพื้นที่การใช้งานที่เน้นการสร้างแรงบันดาลใจ คุ้มค่า มีพื้นที่ยืดหยุ่นที่รองรับการเติบโตของผู้ประกอบการรุ่นใหม่เหล่านี้ได้ในอนาคตปัจจุบันมีหลายผู้ประกอบการที่นำ Intelligence Tools มาใช้เป็นจุดแข็งในการพัฒนาโครงการ โดยหนึ่งในนั้น คือ โครงการอัลติจูด พรูฟ เกษตร-นวมินทร์ (Prove Kaset-Nawamin) พัฒนาโดยบริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับรางวัล Best Home Office Development และรางวัล Best Home Office Architectural Design จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards 2018 ที่จัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 13 ไปเมื่อวันวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา
ขอบคุณที่มา ddproperty.com
อัปเดตก่อนใครกับเทรนด์ใหม่เกี่ยวกับธนาคารและการเงิน
ประเทศไทยมีธนาคารแห่งแรกในช่วงปี 2400 และเมื่อเวลาผ่านมาร้อยกว่าปี ภาพลักษณ์ของธนาคารก็เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา การพัฒนาระบบและเทคโนโลยี ถึงแม้ว่าภาพของการติดต่อทำธุรกรรมทางการเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคารยังคงมีให้เห็นจนถึงปัจจุบัน แต่ลองดูรอบ ๆ ตัวคุณดูสิครับ รู้สึกใช่ไหมว่าหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
วันนี้ผมฐากร ปิยะพันธ์ – ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัล แบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จะขออัปเดตเทรนด์ใหม่มาแรงด้านการธนาคารและการเงินให้ทุกคนเองครับ
ทีเด็ดไม่ใช่แอป แต่ต้องเป็นฟีเจอร์
เดี๋ยวนี้แทบทุกธนาคารก็มีแอปเป็นของตัวเองแล้ว แต่ Garanti Bank ในประเทศตุรกีได้พัฒนาฟีเจอร์ในแอป ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น โดยสร้าง Warranty Pocket Keyboard ที่เปิดโอกาสให้เจ้าของมือถือระบบแอนดรอยด์สามารถโอนเงินผ่านแอป โซเชียลมีเดียใด ๆ ก็ได้
นอกจากนี้ ยังมีระบบจดจำเสียงหรือม่านตา (Voice and Eye Recognition) และระบบถอนเงินด้วย QR Code โดยไม่ต้องใช้สมุดบัญชีหรือบัตร ATM เลยครับ ถึงแม้ตอนนี้ Mobile App ของเราอาจจะยังไม่มีฟีเจอร์เหล่านี้ แต่ผมรับรองว่า เพียงคุณมี KMA อยู่ในเครื่อง คุณก็สามารถจัดสรรบริหารเงินได้อย่างสบาย ๆ สมกับสโลแกนของธนาคารที่ว่า “เรื่องเงินเรื่องง่าย”
ไม่มีบัญชีธนาคารก็ใช้แอปการเงินได้
บัตรเครดิตและบัญชีธนาคารอาจจะเป็นของสามัญประจำชีวิตของใครหลาย ๆ คน แต่ที่ประเทศมาเลเชีย มีผู้อพยพหลายรายที่ไม่มีเอกสารทางการเงินเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม MyCash Online ได้แก้ปัญหานี้โดยเปิดโอกาสให้ผู้อพยพใช้บริการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของออนไลน์ เติมเงินมือถือ จ่ายค่าบิล รวมถึงซื้อตั๋วเครื่องบินออนไลน์ โดยไอเดียนี้ได้รับการระดมทุนกว่า 10 ล้านบาทผ่านเว็บไซต์ Crowdfunding ที่ชื่อ pitchIN ไอเดียดีโดนใจ แถมทำให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์แบบนี้ ผมขอชื่นชมครับ
ลูกมือเติบหรือเปล่า เช็กได้ที่ปลายนิ้ว
ปัญหาของคนเป็นพ่อคนแม่คนเมื่อลูกโตขึ้น ก็คือ ลูกเราใช้เงินเป็นไหมนะ ใช้เก่งเกินตัวไปหรือเปล่า ในแต่ละเดือนมีเหลือออมบ้างไหม แต่จะไปจู้จี้ถาม ลูกก็อาจจะหน่ายใจได้ อย่ายังงี้ยังงั้นเลย เราวางแผนล่วงหน้าเลยดีกว่า บัตรเดบิต VISA อนุญาตให้พ่วงบัญชี Current ที่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายของลูกหลานได้ ตรวจสอบการใช้จ่ายต่าง ๆ ไปจนถึงจัดการเงินในบัญชีและวางแผนการออม เพียงเท่านี้คุณพ่อคุณแม่ก็สบายใจกับการใช้เงินของลูก ๆ ได้แล้วล่ะครับ
ขึ้นแท็กซี่ เงินสดไม่พอ ก็จ่ายผ่านสมาร์ทโฟน
เคยไหมครับ ขึ้นแท็กซี่แล้วลืมดูกระเป๋าสตางค์ แล้วผ่าง ! เงินสดมีไม่พอ ! ยิ่งถ้าปลายทางไม่มีคนให้เราหยิบยืมเงินก่อน คงต้องบอกให้พี่แท็กซี่ขับวนหาตู้เอทีเอ็ม แต่ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี Department of For-Hire Vehicles ร่วมมือกับ Square ติดตั้งเครื่องจ่ายเงินที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนในรถแท็กซี่ทั่วเมือง แทนการใช้ระบบมิเตอร์แบบแต่ก่อน ผู้โดยสารจึงสามารถจ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟน และรับใบเสร็จดิจิทัลได้ทันที เพียงเท่านี้ ผู้โดยสารอย่างเรา ๆ ถ้าขึ้นรถไปแล้วเงินสดมีไม่ครบ ก็ไม่ต้องกุลีกุจอลงจากรถ หรือให้พี่คนขับขับวนแล้วครับ แถมมีใบเสร็จให้เป็นหลักฐาน ไม่โดนโกงแน่นอน
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้คนขับแท็กซี่ต้องเสียค่าธรรมเนียมให้กับ Square ประมาณ 2.65% ของค่าโดยสารแต่ละรอบนะครับ สำหรับคนไทย เรามีอีกตัวเลือกดี ๆ เพียงผูกบัญชีไว้กับ พร้อมเพย์ ก็จ่ายเงินให้พี่แท็กซี่ง่าย ๆ แค่โอนเงินเข้าเบอร์มือถือหรือหมายเลขบัตรประชาชนพี่เขาได้เลยครับ
ตอนนี้โลกเราได้เปลี่ยนไปและล้ำขนาดไหนแล้ว อย่าลืมอัปเดตตัวเองให้ทันเทรนด์ใหม่ตลอดเวลานะครับ
ขอบคุณที่มา krungsri.com
4 เทคนิคช่วยคุมค่าใช้จ่าย เมื่ออยากไปเที่ยวเมืองนอก
“เที่ยวต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่หากวางแผนจองตั๋ว ที่พัก แต่เนิ่นๆ และทำประกันเพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้มาก”
การวางแผนและเตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนการเดินทางเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในต่างประเทศ และเป็นที่ทราบกันดีว่า การไปเที่ยวต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หากเที่ยวในแถบเอเชียประมาณ 5-7 วัน อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2-3 หมื่นบาท (ยกเว้นญี่ปุ่นคงต้องบวกเพิ่มอีกเท่าตัว) แต่หากไปเที่ยวไกลๆ อย่างยุโรป อังกฤษ อเมริกา คงเป็นหลักหลายหมื่นจนถึงหลักแสน อย่างไรก็ตาม หากเรามีการวางแผนเที่ยวที่ดีก็ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก โดย K-Expert ธนาคารกสิกรไทยมีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ที่วางแผนไปเที่ยวต่างประเทศมาฝากดังนี้
จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า
อันดับแรกวางแผนก่อนว่าจะไปเที่ยวประเทศอะไร ไปเมื่อไร ไปกี่วัน ขั้นตอนต่อมา คือ จองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งการวางแผนล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ อย่างน้อย 2-3 เดือน จะทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าช่วงไหนมีตั๋วเครื่องบินราคาถูก และเดี๋ยวนี้ก็มีสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost) ให้เลือกมากมาย โดยเราสามารถใช้เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินต่างๆ เพื่อเลือกว่าจะไปสายการบินไหน เวลาอะไร ราคาเท่าไร
ตัวอย่างเว็บไซต์ เช่น Google Flights, SkyScanner, Expedia Thailand, CheapTickets
นอกจากนี้ การเดินทางด้วยเที่ยวบินแบบต่อเครื่องมักมีราคาถูกกว่าเที่ยวบินแบบบินตรง และทำให้เราสามารถเที่ยวต่อได้อีกเมืองหนึ่ง แต่ต้องคำนึงด้วยว่าต้องใช้เวลาโดยรวมในการเดินทางที่มากขึ้นกว่าจะถึงประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทาง
มองหาที่พักราคาเหมาะสม
ก่อนจองที่พัก อย่าลืมเปรียบเทียบค่าที่พักของแต่ละที่ และควรเลือกที่พักที่มีบริการอาหารเช้า ซึ่งช่วยประหยัดค่าอาหารได้ นอกจากนี้ ควรพิจารณาว่าที่พักอยู่ห่างจากสถานที่เที่ยวมากน้อยเพียงใด เพราะหากที่พักที่มีราคาถูกกว่า แต่ระยะทางไกลจากสถานที่เที่ยวมาก เวลาอาจหมดไปกับการเดินทาง และมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางหรือค่าพาหนะที่สูงขึ้น
ตัวอย่างเว็บไซต์สำหรับเลือกที่พัก เช่น Agoda, Booking, TripAdvisor โดยเราสามารถเปรียบเทียบที่พักต่างๆ เพื่อเลือกที่พักราคาไม่แพง และถูกใจเรา ที่สำคัญอาจมีโปรโมชันส่วนลดที่พักให้ด้วย
พกเงิน พกบัตร ติดตัวสำหรับใช้จ่าย
การไปเที่ยวต่างประเทศ นอกจากเตรียมแลกเงินสกุลต่างประเทศไปให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายแล้ว การพกบัตรเดบิต และบัตรเครดิตก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากซึ่งเสี่ยงต่อการสูญหาย และไม่ต้องเป็นกังวลว่าเงินจะขาดมือไม่เพียงพอกับการใช้จ่าย
โดยเราสามารถใช้บัตรเดบิตในการเบิกถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มได้ทั่วโลก แต่อาจมีค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน ซึ่งขึ้นอยู่กับธนาคารเจ้าของบัตร
สำหรับการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ แนะนำว่า ค่าใช้จ่ายใดที่สามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ ควรเลือกจ่ายด้วยบัตรเครดิต เช่น ค่าชอปปิง ค่าอาหาร แต่ควรสอบถามร้านค้าก่อนว่าคิดค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรหรือไม่ หรือหากมีส่วนลดให้สำหรับการจ่ายเงินสด ก็ควรเลือกจ่ายเป็นเงินสด สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนจากการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ จะขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ร้านค้าเรียกเก็บเงินจากธนาคารเจ้าของบัตร และธนาคารจะคิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินในอัตราไม่เกินร้อยละ 2.5 จากยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
และนอกจากนี้บัตรเครดิตก็ยังมีสิทธิประโยชน์มากมายที่ไม่ได้อยู่แค่การท่องเที่ยวเท่านั้น
สร้างความอุ่นใจด้วยการทำประกันภัยการเดินทาง
หลายคนที่ไปเที่ยวต่างประเทศมักมองข้ามความจำเป็นของการทำประกันภัยการเดินทาง อาจเพราะเสียดายเงินค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย แต่ต้องลองนึกว่า หากเราเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา จะมีค่าใช้จ่ายตามมามากมายเพียงใด ซึ่งค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศค่อนข้างสูงมาก ดังนั้น การซื้อประกันภัยการเดินทางจะช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้
บางประเทศโดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรปมีการกำหนดข้อบังคับสำหรับผู้ที่ขอวีซาเพื่อเข้าประเทศจำเป็นต้องทำประกันภัยการเดินทาง เพื่อแสดงความมั่นใจว่าหากเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย จะมีความสามารถในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้
โดยทั่วไปประกันภัยการเดินทางจะให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย การยกเลิกการเดินทาง การล่าช้าของการเดินทาง กระเป๋าเดินทางสูญหาย หรือเสียหาย รวมถึงบริการให้ความช่วยเหลือระหว่างที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศ
เราสามารถเลือกทำประกันการเดินทางเป็นแบบรายเที่ยว หรือแบบรายปี โดยแบบรายเที่ยว จะต้องระบุวันที่เดินทางไป-กลับ สามารถเลือกจำนวนวันคุ้มครองได้ แต่หากเดินทางกลับประเทศไทยก่อนกำหนด ประกันจะสิ้นผลบังคับทันที สำหรับแบบรายปี เหมาะกับผู้ที่เดินทางบ่อยในปีๆ หนึ่ง แต่จะมีการกำหนดจำนวนวันคุ้มครองต่อการเดินทางในแต่ละครั้ง เช่น คุ้มครองสูงสุด 60, 90 หรือ 120 วัน ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันกำหนด และนอกจากประกันเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศแล้ว ประกันเดินทางท่องเที่ยวไทยก็มีให้เราได้เลือกใช้บริการด้วยเช่นกัน ซึ่งควรลองศึกษา ข้อแตกต่างระหว่างประกันเดินทางภายในประเทศและประกันเดินทางต่างประเทศ ไว้ก่อนเพื่อให้อุ่นใจ
การเตรียมตัวที่ดีจะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นไปได้อย่างราบรื่น และช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า เรียกว่า เที่ยวทั้งทีต้องสุขใจ และสบายกระเป๋า
ขอบคุณที่มา ddproperty.com
ผลลัพธ์ที่ดี เริ่มจากทัศนคติที่ดี
ทัศนคติเปรียบเหมือนแว่นตาที่คุณสวมใส่ไว้มองโลกรอบตัว เป็นรากฐานของทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวในชีวิต มันสามารถสร้างและทำลายคุณได้ในเวลาเดียวกัน ถึงแม้ทัศนคติจะเป็นสิ่งที่คอยควบคุมทิศทางชีวิตของคุณ แต่ข่าวดีก็คือ คุณเองนั่นแหละ “คือผู้ที่ควบคุมทัศนคติของตนเอง”
ทัศนคติคือตัวกำหนดความรู้สึกของคุณ ที่มีต่อคนและสถานการณ์รอบข้าง เป็นเหตุให้คุณกระทำในสิ่งที่ต่างกันออกไป ซึ่งแน่นอน ว่าย่อมจะได้รับปฏิกิริยาตอบกลับมาจากคนรอบข้างด้วย ทัศนคติที่คุณมีต่อสิ่งรอบตัวเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะถูกมองด้วยทัศนคติแบบไหนตอบแทน ดังนั้นจงคิดบวกเข้าไว้ แล้วคุณก็จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีกลับคืนมา และในทางกลับกัน แค่คุณคิดลบก็ทำให้คุณล้มเหลวก่อนจะเริ่มลงมือทำเสียด้วยซ้ำ สรุปง่ายๆ ก็คือ คิดเช่นไรก็จะได้รับผลตามมาเช่นนั้นนั่นเอง
ทัศนคติเชิงลบมาจากไหน?
ทัศนคติเชิงลบเกิดจากการที่เรามีความคิดลบอยู่บ่อยครั้ง จนมันเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึก กลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของเรา และติดเป็นนิสัยถาวร คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า คุณมีทัศนคติเชิงลบเพราะมันอยู่กับคุณมาโดยตลอดเป็นระยะเวลานาน การมีทัศนคติเชิงลบจะกระตุ้นให้คุณคาดหวังแต่ความล้มเหลวและภัยพิบัติในชีวิต และความคาดหวังดังกล่าวนี่แหละที่ดึงดูดความล้มเหลวและภัยพิบัติเข้ามา จนคุณไม่อาจหนีพ้น
มันจะกลายเป็นวงจรที่ไม่จบสิ้น คุณคิดถึงแต่สิ่งแย่ๆ – ทำให้ได้รับแต่สิ่งแย่ๆ ซึ่งนั่นก็ยิ่งไปเสริมความคิดลบที่มีอยู่ก่อนแล้ว ทำให้คุณยังคงคิดถึงแต่สิ่งแย่ๆ และได้รับแต่สิ่งแย่ๆ ต่อไปอีก แล้วคุณจะเปลี่ยนแปลงความคิดและสร้างทัศนคติเชิงบวกได้อย่างไร?
แล้วเราจะแก้มันได้ยังไง?
ไม่มีสิ่งมีค่าใดจะได้มาง่ายๆ โดยปราศจากความพยายาม คุณจะต้องเปลี่ยนแปลงไปจนถึงจิตใต้สำนึกเพื่อจะสร้างทัศนคติใหม่ ทำอย่างไรน่ะหรือ? วิธีการก็คือ ให้คุณวิเคราะห์ความคิดทุกอย่างที่คุณมี ค่อยๆ แยกเอาความคิดในแง่บวกออกมา จนการคิดบวกกลายเป็นนิสัยติดตัวของคุณ มันคือการแทนที่นิสัยเก่า ด้วยนิสัยใหม่ที่ดีกว่าเดิม เหมือนกับการเลิกสูบบุหรี่ ด้วยการออกกำลังกายนั่นเอง คุณไม่สามารถเลิกคิดในแง่ลบได้ในทันทีทันใดหรอก แต่จะต้องค่อยๆ แทนที่ความคิดเหล่านั้นด้วยความคิดบวก
หลายคนอาจแย้งว่า “อ้าว แต่สถานการณ์แย่ๆ มันคือความเป็นจริงที่เราต้องเจออยู่ทุกวันนิ”
ถ้าคุณคิดเช่นนั้น คุณคิดผิด จริงอยู่ที่สถานการณ์ต่างๆ คือความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต แต่ตัวชี้วัดสถานการณ์เหล่านั้นคือทัศนคติของคุณต่างหาก ชีวิตจะดีหรือร้ายก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณคิดกับมันอย่างไร?
ถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะรู้ว่า คุณมีพลังในการควบคุมความคิดและความรู้สึกของตัวเอง ไม่มีใครในโลก ที่จะมาควบคุมความคิดของคุณได้ นอกจากว่าคุณปล่อยให้เขามามีอิทธิพลเหนือคุณ
จงออกแบบทัศนคติและความคิดด้วยตนเอง แล้วผลลัพธ์ที่ตามมาก็ย่อมจะเป็นไปดังที่คุณปรารถนาเช่นกัน
ขอบคุณที่มา www.sumrej.com
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2561
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคาขาย/บาท |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% |
18,500.00 |
18,400.00 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% |
19,000.00 |
18,070.72 |
1,192.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% |
n/a |
18,722.60 |
1,235.00 |
ทองรูปพรรณ 90% |
n/a |
16,263.65 |
1,072.80 |
ทองรูปพรรณ 80% |
n/a |
14,456.58 |
953.60 |
ทองรูปพรรณ 50% |
n/a |
8,125.76 |
536.00 |
ทองรูปพรรณ 40% |
n/a |
6,321.72 |
417.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2561
|
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
แก๊สโซฮอล์ 95 |
31.55 |
31.55 |
31.55 |
31.55 |
31.55 |
31.55 |
31.55 |
31.55 |
31.55 |
31.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 |
31.28 |
31.28 |
31.28 |
31.28 |
31.28 |
31.28 |
31.28 |
31.28 |
31.28 |
31.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 |
28.54 |
28.54 |
28.54 |
28.54 |
28.54 |
– |
28.54 |
28.54 |
28.54 |
28.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 |
22.14 |
22.14 |
– |
– |
– |
– |
– |
22.14 |
22.14 |
– |
เบนซิน 95 |
38.66 |
– |
– |
– |
39.11 |
– |
39.16 |
38.96 |
38.76 |
38.96 |
ดีเซล |
29.89 |
29.89 |
29.89 |
29.89 |
29.89 |
29.89 |
29.89 |
29.89 |
29.89 |
29.89 |
ดีเซลพรีเมี่ยม |
32.89 |
33.76 |
33.76 |
33.76 |
33.76 |
– |
– |
– |
– |
– |
แก๊ส NGV |
15.13 |
15.13 |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
– |