อสังหาฯควงเซ็นทรัล-ซีพี บูมกทม.โซนตะวันออก
กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่-สุขุมวิท 77-สุวรรณภูมิ บูมกรุงเทพฯโซนตะวันออก บิ๊กอสังหาฯ ดึงห้างดังเข้าพื้นที่ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ปักหมุดลาดกระบังเปิดตัว 14 พฤศจิกายน นี้ หลังเปิดตัวเซ็นทรัลวิลเลจ เช่นเดียวกับแม็คโครของกลุ่มซีพี “เพอร์เฟค” ยํ้า กำลังซื้อมาตรึม
ถนนเส้นใหม่ “ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า” หรือกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่เปิดให้สัญจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดใช้สะพานยกระดับข้ามถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกตะวันออก) ความยาว 950 เมตร จุดสำคัญเชื่อมต่อถนนสองฝั่งเข้าด้วยกัน ช่วยให้การเดินทางตลอดเส้นทางเป็นไปอย่างสมบูรณ์ อีกทั้ง ถนนสุขุมวิท 77-สุวรรณภูมิ ถนนเจ้าคุณทหาร ส่งผลให้โซนตะวันออกได้รับความสนใจมากขึ้น
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) สะท้อนภาพ นอกจากกรุงเทพกรีฑา ตัดใหม่ เปิดใช้เส้นทาง เพิ่มความคึกคักให้พื้นที่โซนตะวันออกของกทม.แล้ว ยังมีห้างสรรพสินค้า ,ศูนย์การค้าชั้นนำ อย่าง กลุ่มเซ็นทรัล จะเปิดตัวศูนย์การค้าแห่งใหม่ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ต่อเนื่องจากที่ แม็คโคร ลาดกระบัง และ เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ คาดเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้โครงการโซนตะวันออกได้รับการตอบรับดียิ่งขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินบนทำเล สุขุมวิท 77-สุวรรณภูมิ รวม 511 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 15,200 ล้านบาท ประกอบด้วย เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ สุขุมวิท 77 ราคา 18-50 ล้านบาท เพอร์เฟค เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 77 ราคา 10-17 ล้านบาท และ เพอร์เฟค เพลส สุขุมวิท 77-สุวรรณภูมิ ราคา 6-10 ล้านบาท
ขณะ ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า มีระยะทาง 12 กิโลเมตร แนวเส้นทางเริ่มจากถ.ศรีนครินทร์ ไปสิ้นสุดถนนเจ้าคุณทหาร เชื่อมเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ นับเป็นถนนสายสำคัญที่เชื่อมต่อถนนเส้นหลักของกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ทั้ง ถนนศรีนครินทร์ ถนนกรุงเทพกรีฑา ถนนกาญจนาภิเษก ถนนร่มเกล้า ใกล้ทางด่วนพระราม 9-ศรีนครินทร์ มอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งสถานศึกษา โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ศูนย์การค้าและ คอมมิวนิตีมอลล์ รวมทั้งสนามกอล์ฟ ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ยังเป็นถนนตามโครงการ 1 จังหวัด 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติของกรุงเทพมหานคร ที่จะมีการปลูกต้นรวงผึ้งตลอดสองข้างทาง ซึ่งพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ให้การสนับสนุนต้นไม้เพื่อปลูกบนถนนดังกล่าว และยังสนับสนุนการจัดวิ่งฉลองเปิดถนน ในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ โดยร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการพัฒนาโครงการบนถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ตลอดจนพันธมิตรธุรกิจ รวม 30 องค์กร จัดงานวิ่งมินิมาราธอนครั้งประวัติศาสตร์ “รวงผึ้ง Bangkok Run” ถือเป็นการเปิดถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า อย่างเป็นทางการ ซึ่งหลังเปิดใช้อย่างเป็นทางการ มั่นใจว่าถนนดังกล่าวจะเป็นทำเลดาวรุ่งแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โซนตะวันออก
“ปัจจุบันถนนเส้นนี้มีการพัฒนาโครงการระดับพรีเมียมเกิดขึ้น และมีแนวโน้มจะเป็นทำเลที่อยู่อาศัยระดับบนของกรุงเทพฯ เส้นต่อไป เพราะสามารถเดินทางสู่ใจกลางเมืองย่านพระราม 9 ได้ใน 15 นาที”
เช่นเดียวกับ นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-แวลู บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ระบุ โซนตะวันออกกทม. มีรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ โครงข่ายถนนอย่างกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ช่วยให้โซนนี้กลายเป็นทำเลที่น่าสนใจ มีบริษัทพัฒนาที่ดิน แทบทุกค่ายเข้าพื้นที่ ส่งผลให้ ห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้นรองรับที่อยู่อาศัย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
คอนโดฯลดสเปก กดราคาฝ่ากำลังซื้อสลบ
สถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ปี 2562 แตกต่างจากปีก่อนราวกับหนังคนละม้วน หลังปี 2561 สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ของอสังหาริมทรัพย์ไทย ทำสถิติการเปิดตัวใหม่กว่า 66,000-68,000 ยูนิต ดันตลาดทั้งภาพรวมเติบโตเฉียด 20% แต่ปีนี้ผู้ประกอบการและนักวิจัยตลาดอสังหาฯฟันธงตลาดหดตัวอย่างรวดเร็ว ยอดการเปิดขายใหม่ลดลงกว่า 20-30% หลังเจอยาแรงของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งใช้มาตรการ LTV คุมการปล่อยสินเชื่อบ้าน ซํ้าภาวะเศรษฐกิจไม่ดี กระทบกำลังซื้อของผู้บริโภค
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ให้ทรรศนะว่า จากนี้ไปผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องศึกษากำลังซื้อผู้บริโภค เพื่อกำหนดราคาขายให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่แท้จริง ดังนั้นโครงการที่เปิดตัวใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไป การปรับราคาขายใหม่เพิ่มขึ้นสูงๆ ดังเช่น 2 ปีที่ผ่านมาคงไม่สามารถทำได้
“สมัยก่อนโครงการเปิดใหม่มักจะตั้งราคาเพิ่มสูงกว่า 10% ถ้าเป็นโครงการที่ใช้วัสดุพิเศษ เช่น หินอ่อน หรือมีเทคโนโลยี และทำเลพิเศษ เช่นในศูนย์เศรษฐกิจ หรือซีบีดี อาทิ ย่านทองหล่อ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาราคาปรับขึ้นมากกว่า 100% สูงเกินกว่าที่มนุษย์เงินเดือนจะซื้อได้”
ดังนั้น เพื่อผ่าวิกฤติกำลังซื้อ เริ่มเห็นผู้ประกอบการบางรายปรับลดสเปกโครงการที่จะเปิดตัวใหม่ในไตรมาส 4 นี้ เพื่อทำราคาขายให้ผู้ซื้อเอื้อมถึง
เช่น เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ ของบมจ.แสนสิริ เดิมจะพัฒนาคอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะไลน์ แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อ จึงปรับลดสเปกโครงการลงมา และเพิ่มจำนวนยูนิต จาก 200 ยูนิต เป็นประมาณ 500 ยูนิต ขายในราคาเริ่มต้นละ 2.69 ล้านบาท สำหรับห้อง 27 ตร.ม. หรือเฉลี่ยราคาขายประมาณ 9.8 หมื่นบาทต่อตร.ม. เพื่อช่วยให้ขายง่าย กำหนดเปิดจองวันที่ 2-3 พฤศจิกายนนี้
อีกรายบมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เตรียมเปิดตัวโครงการไอดีโอ จรัญฯ 70-ริเวอร์วิว ช่วงเปิดพรีเซลราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาทต่อยูนิต หรือเฉลี่ย 62,000 บาทต่อตร.ม. ที่สำคัญทุกยูนิตเห็นวิวแม่น้ำ เป็นโครงการใหญ่จำนวน 1,400 ยูนิต เปิดให้จองวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เปรียบเทียบราคากับโครงการที่เปิดขายในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.2 แสนบาทต่อตร.ม. ถือว่าไอดีโอ ราคาตํ่ากว่าราคาตลาดมากกว่า 30%
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การพัฒนาโครงการจะยึดหลักสอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะความผันผวนทางเศรษฐกิจจากภายในและภายนอก นอกจากจะเน้นทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพสูงติดแนวรถไฟฟ้าตามวิสัยทัศน์แล้ว การเปิดราคาขายในจังหวะนี้ ต้องหาจุดสมดุลให้เจอถึงจะอยู่ได้ ไม่ซึมตามตลาด
ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีบริษัทเตรียมเปิดพรีเซล โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 4 โครงการ เริ่มจาก ไอดีโอ จรัญฯ 70-ริเวอร์วิว มูลค่าโครงการ 3.5 พันล้านบาท ด้วยราคาเริ่ม 6.2 หมื่นบาทต่อตร.ม. ซึ่งถือเป็นราคาที่ตํ่าในปัจจุบัน ราคาเทียบเท่าคอนโดฯในยุค 3 ปีก่อน เพื่อให้เหมาะกับผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ เจน z
“ไม่เป็นการฝืนตลาดและเหนื่อยตามมา ผ่านการควบคุมต้นทุนตั้งแต่ผู้รับเหมา ไปจนถึงการออกแบบ แม้กำไรจะลดน้อยลง แต่ขณะนี้มองว่า ควรทำโปรดักต์ที่ไม่หวือหวา ต้นทุนสูง และเป็นไปตามภาวะตลาดถึงจะเหมาะ”
ด้าน นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของ ธปท. ( LTV) ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยตั้งแต่หลังเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบ และมีการปรับตัวทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้พัฒนาโครงการ การเปิดโครงการใหม่ปรับแผนบางส่วน ให้สอดรับกับตลาดคอนโดมิเนียมในขณะนั้น ซึ่งพบว่า คอนโดฯในระดับราคาที่ไม่สูงมากอย่างคอนโดมิเนียมเซ็กเมนต์ C และ D เป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีโอกาส โดยเฉพาะ อย่างยิ่งบนพื้นที่ชุมชนที่เป็นทำเลของผู้อยู่อาศัยจริง โดยกลุ่มลูกค้ายังคงเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในการซื้อคอนโดฯเพื่อสะท้อนความสำเร็จในฐานะของบ้านหลังแรก ซึ่งจะเป็นแผนรุกหนักในช่วงปี 2563 ผ่านแบรนด์ “เดอะ เบส”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 30.20/22 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ
เงินบาทเปิดตลาด 30.20/22 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ ไร้ปัจจัยใหม่ ตลาดรอติดตามการประชุมกนง.วันที่ 6 พ.ย.
นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 30.20/22 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.19 บาท/ดอลลาร์
“ทิศทางวันนี้คาดว่าจะแกว่งแคบๆ ในกรอบ 30.15-30.25 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ และตลาดน่าจะยังรอดู ผลการประชุมกนง.ในวันพรุ่งนี้””นักบริหารเงิน กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
โรคตาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
นอกจาก “โรคต้อกระจก” เป็นโรคตาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ยังมีโรคตาแห้งตา ซึ่งเป็นโรคของผิวหน้าดวงตาชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย โดยลักษณะสำคัญของโรคตาแห้ง คือ การสูญเสียสภาวะสมดุลของน้ำตา ควบคู่กับการมีอาการทางตา ได้แก่ ความไม่สบายตาต่างๆ และการมองเห็นที่ผิดปกติไป
โรคตาแห้ง
โรคตาแห้ง เป็นโรคของผิวหน้าดวงตาชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย โดยลักษณะสำคัญของโรคตาแห้ง คือ การสูญเสียสภาวะสมดุลของน้ำตา ควบคู่กับการมีอาการทางตา ได้แก่ ความไม่สบายตาต่างๆ และการมองเห็นที่ผิดปกติไป
สาเหตุ
สาเหตุของการเกิดโรคตาแห้งแบ่งออกได้เป็นจาก 2 ปัจจัย คือ
– ปัจจัยภายใน ได้แก่
- อายุที่มากขึ้น ซึ่งทำให้ต่อมน้ำตาทำงานลดลง มีผลให้ตาแห้ง
- เชื้อชาติ พบว่าในคนเอเชียมีความชุกของโรคตาแห้งมากกว่าคนผิวขาว
- โรคประจำตัวทางกายบางชนิด ได้แก่ โรคภูมิคุ้มกันไวเกิน โรคโจเกรน โรคเอสแอลอี และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น
- โรคทางตาบางชนิด ได้แก่ โรคเปลือกตาอักเสบ และโรคภูมิแพ้ที่ตา เป็นต้น
– ปัจจัยภายนอก ได้แก่
- การใช้ยาบางประเภท ทั้งในรูปแบบยารับประทาน หรือยาหยอดตา
- การผ่าตัดทั้งภายในและภายนอกดวงตา ได้แก่ การผ่าตัดแก้ไขสายตาด้วยเลเซอร์ การผ่าตัดต้อกระจก และการผ่าตัดหนังตา เป็นต้น
- การปลูกถ่ายไขกระดูก
- การใช้สายตากับเครื่องมือดิจิตอล ได้แก่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์
- การใส่คอนแทคเลนส์
อาการ
อาการของโรคตาแห้งมีหลากหลาย ตั้งแต่อาการแสบตา ขัดเคืองตา เหมือนมีฝุ่นในตา รู้สึกว่าตาแห้ง ลืมตาไม่ค่อยขึ้น สู้แสงไม่ได้ น้ำตาไหล หรือเมื่อยล้าดวงตา ซึ่งอาการต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นอาจมีความคล้ายคลึงกับอาการของโรคผิวหน้าดวงตาอื่นๆ แต่สิ่งที่ช่วยสนับสนุนว่าอาการเหล่านี้เป็นอาการของโรคตาแห้งคือ อาการดังกล่าวนี้จะเป็นมากขึ้นเมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นต่ำ หรือเมื่อต้องใช้สายตาเป็นระยะเวลายาวนาน
การรักษา
การรักษาโรคตาแห้งนั้นควรแก้ไขที่สาเหตุของโรคก่อน ร่วมกับการรักษาอาการของโรค และการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของโรค แต่หากไม่สามารถแก้ไขที่สาเหตุของโรคได้ จำเป็นต้องรักษาที่ตัวโรคตาแห้งอย่างเดียว
โดยในเบื้องต้นสามารถรักษาโรคตาแห้งด้วยการใช้น้ำตาเทียม เพื่อช่วยให้ตามีความชุ่มชื้นขึ้น นอกจากนี้อาจใช้ยากระตุ้นการสร้างน้ำตา เพื่อช่วยให้ต่อมน้ำตาสร้างน้ำตาออกมาได้ดีขึ้น ส่วนในรายที่เป็นรุนแรง อาจต้องรับการอุดท่อทางออกของน้ำตา หรือการผ่าตัดอื่นๆ เพิ่มเติม
การปรับสภาพแวดล้อมในที่อยู่อาศัย หรือที่ทำงาน อาจช่วยให้อาการของโรคดีขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
ใช้สายตาให้ถูกวิธี องค์การอนามัยโลกแนะนำสูตรในการถนอมดวงตาคือ สูตร 20 : 20 : 20 กล่าวคือ ใช้สายตา 20 นาที พัก 20 วินาที โดยการมองไปที่ไกลๆ ประมาณ 20 ฟุต และควรกะพริบตาบ่อยๆ เพื่อไม่ให้น้ำตาระเหยจากผิวหน้าดวงตามากเกินไป
- จัดคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตาที่พอดี ไม่ต้องก้ม หรือแหงนหน้ามองจอคอมพิวเตอร์
- หลีกเลี่ยงการหันเครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมเข้าสู่ใบหน้าโดยตรง
- การปรับความชื้นในสภาพแวดล้อมที่ทำงานและที่บ้าน
- การใส่แว่นป้องกันดวงตา เพื่อช่วยลดการปะทะของดวงตากับอากาศที่แห้งๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
ปอดเหล็กเจ้าถิ่น ผงาดคว้าแชมป์ ซูเปอร์ฮาล์ฟ มาราธอนฯ
ปอดเหล็กเจ้าถิ่น “นนร.จิรัชย์ รองแก้ว” คว้าแชมป์ประเภททั่วไปชาย ระยะ 32 กม. ขณะที่ “นนวรัตน์ ฤทัยภัทร” คว้าแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกัน ซิวถ้วยพระราชทาน พลเอกหญิง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
วันที่ 3 พ.ย.62 การแข่งขัน “เดิน-วิ่ง เขาชะโงก ซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 25” ประจำปี 2562 ชิงถ้วยพระราชทาน พลเอกหญิง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นมหกรรมสร้างเสริมสุขภาพภายใต้แนวคิด “ชีวิตดีเริ่มที่เรา” โดยปีนี้มีนักวิ่งร่วมชิงชัยกว่า 15,000 คน การแข่งขันแบ่งเป็น 3 ระยะทาง คือ ซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน 32 กม. ฮาล์ฟมาราธอน 16 กม. และมินิมาราธอน 10 กม. พร้อมด้วยกิจกรรมเดิน-วิ่ง ครอบครัวเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 3 กม. ออกสตาร์ตและเข้าเส้นชัยที่ลานหน้ากองบัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.)
พร้อมกันนี้ภายในงานยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พลเอกหญิง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ร่วมงาน และพระดำเนินนำข้าราชการเป็นระยะทาง 1.3 กม.ด้วยเช่นกัน
โดยแชมป์ระยะ 32 กิโลเมตร ประเภททั่วไปชาย (ไม่จำกัดอายุ) ตกเป็นของ “นักเรียนนายร้อย จิรัชย์ รองแก้ว” ปอดเหล็กเจ้าถิ่นจากชมรมกรีฑาโรงเรียนนายร้อย จปร. ทำเวลาได้ 2.03.58 ชม. ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ อภิเดช ช่วยศรีสวัสดิ์ ทำเวลาได้ 2.05.43 ชม. และอันดับ 3 ได้แก่ นักเรียนนายร้อย เชิดเกียรติ ใจงาม ทำเวลาได้ 2.07.38 ชม.
ด้าน แชมป์ ระยะ 32 กิโลเมตร ประเภททั่วไปหญิง ตกเป็นของ “นนวรัตน์ ฤทัยภัทร” ปอดเหล็กดาวรุ่งสาวจากชมรมทองผาภูมิวิทยา ทำเวลาได้ 2.26.30 ชม. ซึ่งนับเป็นแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันของเจ้าตัวในการลงชิงชัยรายการนี้ ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ พัสตราภรณ์ นุตวงษ์ ทำเวลาได้ 2.44.55 ชม. และอันดับ 3 ได้แก่ สรโชา ศิลประสพทำเวลาได้ 2.46.48 ชม.
ส่วนนักวิ่งที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดในระยะ 32 กม. ประเภทจำกัดอายุ ตกเป็นของ ไดสุเกะ ยามาอูชิ ปอดเหล็กจากญี่ปุ่น ในรุ่นอายุ 30-34 ปีชาย โดยทำเวลาได้ 2.02.25 ชม.
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
แอพ“เวียบัส” เชื่อมขนส่งสาธารณะ ตั้งเป้าผู้ใช้ 2ล้านคน
แอพติดตามรถเมล์ “เวียบัส” ต่อยอดเชื่อมโยงบริการรถโดยสารสาธารณะหลากหลายรูปแบบ ทั้งสองแถว รถตู้ รถโดยสารข้ามจังหวัด หวังช่วยผู้โดยสารวางแผนการเดินทาง ตั้งเป้าสิ้นปีผู้ใช้ 2 ล้านคน ตั้งเป้าพัฒนาสู่แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานการเดินทางของประเทศ
จากจุดเริ่มต้นของปัญหาเล็กๆ ในการรอรถบริการของมหาวิทยาลัย ที่มาไม่ตรงเวลาทำให้เกิดความยากลำบากในการเดินทาง ก่อเกิดเป็นไอเดียในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการพัฒนาแอพพลิเคชันติดตามรถโดยสารภายในมหาวิทยาลัย ก่อนต่อยอดพัฒนาไปสู่ เวียบัส (ViaBus) แอพพลิเคชันติดตามรถโดยสารประจำทางแบบเรียลไทม์ จากข้อมูลจีพีเอส ของ ขสมก. ที่ช่วยวางแผนการเดินทางการใช้บริการขนส่งสาธารณะของไทย
นายอินทัช มาศวงษ์ปกรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน เวียบัส เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าระบบขนส่งมวลชนสาธารณะทุกรูปแบบควรสามารถเชื่อมต่อบริการกันได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร เวียบัสจึงเร่งพัฒนาให้เป็น Multi Model Transportation ที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางในหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน โดยแอพพลิเคชัน “เวียบัส” รองรับให้บริการในเกือบทุกประเภท ทั้งรถเมล์ รถมินิบัส รถตู้ รถโดยสารข้ามจังหวัด โดยผู้ใช้จะเห็นตำแหน่งของรถที่กำลังเคลื่อนที่ รวมถึงการอัพเดตเส้นทางได้แบบเรียลไทม์ทุกวัน ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง
ปัจจุบันการให้บริการนั้นอยู่ในเส้นทาง อาทิ กรุงเทพฯ ปริมณฑล เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี ซึ่งในระยะสั้นเวียบัสมีแผนที่จะขยายไปในสู่การเดินทางประเภทต่างๆ และกำลังขยายการให้บริการไปในส่วนภูมิภาค เช่น บริการรถ 2 แถวต่างจังหวัด รถตู้ และรถสำหรับการเดินทางระหว่างจังหวัด เพื่อให้ระบบบขนส่งสาธารณะประจำทางเชื่อมต่อกันได้ทั้งประเทศ ทำให้การเดินทางมีความสะดวกมากขึ้น
สำหรับโมเดลรายได้ของเวียบัสนั้นมาจากการให้บริการระบบการบริหารจัดการการขนส่ง ในด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการรถขนส่ง เพื่อให้บริการรถโดยสารได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทางเวียบัสจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายในการใช้งานระบบ TMS (Transit Management System) กับผู้ประกอบการรถขนส่งสาธารณะ ซึ่งเปิดให้รถโดยสารภายในหรือผู้ให้บริการเฉพาะกลุ่มที่มีเส้นทางในการให้บริการอยู่แล้ว ในพื้นที่ต่างๆ อาทิ รถสวัสดิการพนักงานขององค์กรต่างๆ หรือรถสำหรับให้บริการลูกค้า”
ทั้งนี้ที่ผ่านมาเวียบัสได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดีป้า เป็นต้น เวียบัสมีเป้าหมายที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการเดินทางของประเทศ ซึ่งต้องใช้เวลา โดยมองตัวเองเป็น โครงสร้างพื้นฐาน เป็น Deep Technology ไม่ใช่แอพเทค แต่แอพเทคเป็นสิ่งหนึ่งที่เวียบัสทำ
“ที่มาของเวียบัสนั้น เกิดจากการสร้างแอพพลิเคชันขึ้นมาทดลองใช้กับเพื่อนๆ เพื่อติดตามรถโดยสารในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเมื่อนำมาใช้จริงพบว่าได้รับความนิยมและมีผู้ใช้ดาวน์โหลดเป็นจำนวนมาก จึงมองว่าถ้าใช้ในจุฬาฯได้ทำไมการขนส่งในประเทศถึงยังเป็นสิ่งที่เข้าถึงยาก และการเดินทางที่คนทั่วไปยังต้องค้นหาเส้นทางผ่านกูเกิล หรือพันทิป ซึ่งข้อมูลอาจจะไม่อัพเดต เราเริ่มทำแอพพลิเคชันเวียบัสขึ้นตั้งแต่ปี 2558 โดยได้ทดสอบการใช้งานมาประมาณเกือบ 2 ปี เพื่อฟังเสียงผู้ใช้งานและนำมาพัฒนาการให้บริการ มีผู้ใช้งานประมาณ 3-4 หมื่นราย จากนั้นจึงเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม ปี 2561 ที่ผ่านมา”
นายอินทัช กล่าวต่อไปว่าเวียบัสมีการเติบโตราว 30 – 40 เท่า โดยมียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 1 ล้านดาวน์โหลด มีสัดส่วนของผู้ใช้ที่เป็นชาวต่างชาติประมาณ 10 – 20% สำหรับในปีนี้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนยอดผู้ใช้งานไม่ต่ำกว่า 2 ล้านดาวน์โหลด รวมถึงขยายการให้บริการไปยัง 22 จังหวัดทั่วประเทศ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
| ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
|---|---|---|---|
| ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 21,450.00 | 21,550.00 |
| ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,389.00 | 21,057.24 | 22,050.00 |
| ทองรูปพรรณ 90% | 1,250.10 | 18,951.52 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 80% | 1,111.20 | 16,845.79 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 50% | 625.00 | 9,475.00 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 40% | 486.00 | 7,367.76 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,439.00 | 21,815.24 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 05/11/2562
 ปตท. |
 บางจาก |
 เชลล์ |
 เอสโซ่ |
 คาลเท็กซ์ |
 ไออาร์พีซี |
 พีที |
 ซัสโก้ |
 เพียว |
 ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| แก๊สโซฮอล์ 95 | 26.25 | 26.25 | 26.25 | 26.25 | 26.25 | 26.55 | 26.25 | 26.25 | 26.25 | 26.25 |
| แก๊สโซฮอล์ 91 | 25.98 | 25.98 | 25.98 | 25.98 | 25.98 | 26.28 | 25.98 | 25.98 | 25.98 | 25.98 |
| แก๊สโซฮอล์ E20 | 23.24 | 23.24 | 23.24 | 23.24 | 23.24 | – | 23.24 | 23.24 | 23.24 | 23.24 |
| แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.34 | 19.34 | – | – | – | – | – | 19.34 | – | – |
| เบนซิน 95 | 33.66 | – | – | – | 34.11 | – | 34.16 | 33.96 | – | 33.96 |
| ดีเซล | 25.59 | 25.59 | 25.59 | 25.59 | 25.59 | 25.89 | 25.59 | 25.59 | 25.59 | 25.59 |
| ดีเซล B10 | 23.59 | 23.59 | 23.59 | – | – | – | 23.59 | – | – | – |
| ดีเซล B20 | 22.59 | 22.59 | 22.59 | 22.59 | 22.59 | – | 22.59 | 22.59 | – | 22.59 |
| ดีเซลพรีเมี่ยม | 29.44 | 29.46 | 29.84 | 29.84 | 29.84 | – | – | – | – | – |
| แก๊ส NGV | 15.73 | 15.73 | – | – | – | – | – | – | – | – |
