Blog Post

อสังหาฯ ไทยจับมือญี่ปุ่น สร้างบ้านเพื่อผู้สูงอายุ-ขยายฐานต่างชาติ

อสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยมีกระแสปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปลี่ยนแปลงกลุ่มเป้าหมาย เปลี่ยนแปลงรูปแบบในการพัฒนาโครงการ รวมถึงเทรนด์ใหม่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ในการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติ ที่มีทั้งการร่วมมือในด้านเงินลงทุน การก่อสร้าง หรือการเรียนรู้ทางด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งประเทศไทยก็เนื้อหอมจากกลุ่มทุนต่างชาติหลายประเทศ อาทิ จีน สิงคโปร์ และญี่ปุ่น โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่ได้ให้ความสนใจประเทศไทยเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีบริษัทใหญ่ ๆ ที่จับมือกับกลุ่มทุนญี่ปุ่นไปแล้วหลายบริษัท อาทิ แสนสิริ, อนันดา, เอพี, เสนา และออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้

ไทย ‘เนื้อหอม’ ญี่ปุ่นจ่อคิวร่วมทุน
ประเทศไทยถือว่าเนื้อหอมสำหรับกลุ่มทุนจากประเทศญี่ปุ่นที่สนใจเข้ามาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีไม่ต่ำกว่า 5-10 บริษัทรายใหญ่ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรเพื่อร่วมทุน ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยเนื้อหอมจากกลุ่มทุนต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่น คือ เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตได้ยาก ในขณะที่ประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตสูง จากการเดินหน้าลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะด้านคมนาคมของภาครัฐ และการลงทุนโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจด้านตะวันออก หรืออีอีซี มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และคนไทยมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น

เรียนรู้เทคโนโลยี-บ้านผู้สูงอายุ
นอกจากเม็ดเงินที่กลุ่มทุนญี่ปุ่นนำมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการไทยจะได้แน่ ๆ คือความรู้และประสบการณ์ทางด้านเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมการก่อสร้าง เทคนิคและความรู้เกี่ยวกับการสร้างบ้านที่มีฟังก์ชั่นการทำงานเพื่อผู้สูงอายุ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นถือเป็นรุ่นพี่ทางด้านสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงการขยายฐานลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะคนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น

ออลล์ อินสไปร์ฯ รับเทรนด์ จับมือ Hoosiers

คุณธนากร ธนวริทธิ์ CEO บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และคุณสึโตมุ อิคุมะ CEO ด้านการเงิน กลุ่มฮูซิเออรส์ โฮลดิ้งส์

ล่าสุด บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ภายใต้แบรนด์ ดิ เอ็กเซล และไรส์ รับเทรนด์อสังหาริมทรัพย์ใหม่ เปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจร่วมทุนกับกลุ่มฮูซิเออรส์ โฮลดิ้งส์ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยมายาวนานกว่า 20 ปี

โดยจะร่วมกันพัฒนาโครงการ นำร่อง 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท ประเดิมโครงการแรกที่ร่วมทุน ได้แก่ โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 50 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถสร้างปรากฏการณ์ขายหมดภายในวันเดียวไปเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา

ส่วนโครงการที่เหลือจะมีการร่วมทุนพัฒนาบ้านผู้สูงอายุในรูปแบบมิกซ์ยูส ประกอบด้วย โครงการแนวสูง แนวราบ โรงเรียนนานาชาติ และพื้นที่ค้าปลีก ใน 2 ทำเล คือ จ.ชลบุรี เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ และ จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ระหว่างมองหาที่ดินแปลงใหม่ เนื้อที่ตั้งแต่ 15 ไร่ขึ้นไป

ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยที่มองมุมไหนก็เป็นประโยชน์ทั้งในฝั่งผู้ประกอบการที่ได้เงินทุนหมุนเวียน และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการก่อสร้าง และฝั่งผู้บริโภคที่ได้รับสินค้าคุณภาพ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากขึ้น

http://www.ddproperty.com

รถไฟฟ้า จุดเปลี่ยนอสังหาฯ ย่านฝั่งธนฯ

พื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ หรือที่คนทั่วไปมักจะเรียกกันติดปากว่าฝั่งธนบุรี ปัจจุบันมีการพัฒนาทั้งด้านการคมนาคมและที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก โดยฝ่ายวิจัยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด พบว่า หลังจากเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่กำลังก่อสร้างอยู่มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2562-2563 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทำเลฝั่งธนบุรีเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดเจนจากการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นทดแทนที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยมีจำนวนคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องรวมแล้วกว่า 1 แสนยูนิต

จากแนวราบสู่คอนโดฯ
ในอดีตทำเลฝั่งธนบุรีส่วนใหญ่เป็นโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ แม้จะมีคอนโดมิเนียมอยู่บ้าง แต่น้อยกว่าฝั่งพระนครมาก โดยกว่า 20 ปีที่ผ่านมา มีคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จ และจดทะเบียนในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ประมาณ 102,770 ยูนิต หรือประมาณ 20% ของฝั่งพระนครเท่านั้น คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย แหล่งงาน และศูนย์การค้า อาทิ ทำเลสี่แยกปิ่นเกล้า หรือ 35 โบว์ล หรือแนวรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายจากเส้นสีลม อาทิ สถานีกรุงธนบุรี และวงเวียนใหญ่ ก่อนจะมาคึกคักมากขึ้นในทำเลรอบ ๆ สถานีตลาดพลู และสถานีวุฒากาศ รวมไปถึงพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตามแนว ถ.เจริญนคร ถ.สุขสวัสดิ์ และ ถ.ราษฎร์บูรณะ โดยมีคอนโดมเนียมเปิดขายตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ประมาณ 58,000 ยูนิต น้อยกว่ายูนิตรวมในฝั่งพระนคร 82% แต่หลังจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีความคืบหน้ามากขึ้น จึงมีผู้ประกอบการหลายรายหันไปเปิดขายโครงการตามแนว ถ.จรัญสนิทวงศ์ และ ถ.เพชรเกษม มากขึ้น

รถไฟฟ้าดันราคาที่ดินพุ่ง 2 แสนบาท/ตร.ว.
ผู้ประกอบการเริ่มขยายพื้นที่ไปตามแนว ถ.จรัญสนิทวงศ์ และ ถ.เพชรเกษม มากขึ้น ตั้งแต่ปี 2559 และยังมีอีกหลายโครงการที่ทยอยเปิดขายในปี 2560 และปี 2561 เนื่องจากราคาที่ดินยังไม่สูงเกินไป แม้จะเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2 แสนบาท/ตารางวา ตลอดเส้นทาง ทำให้พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเป็นทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากอีกพื้นที่หนึ่ง

ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมสะสมจากปี 2557 อยู่ที่ประมาณ 20,750 ยูนิต ขายไปได้แล้วประมาณ 77% ราคาขายเฉลี่ยอยู่ในช่วง 70,000-80,000 บาท/ตารางเมตร โดยมีบางโครงการเปิดขายในราคามากกว่า 100,000 บาท/ตารางเมตรแล้ว และมีแนวโน้มที่ราคาขายจะปรับเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคตตามความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินรวมไปถึงราคาที่ดินที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง

คอนโดมิเนียม 500.000 บาท/ตร.ม. ปักหมุดที่สถานีวงเวียนใหญ่

คอนโดฯ วงเวียนใหญ่ สูงสุด 1 แสนบาท/ตร.ม.
ส่วนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งอนุมัติ จะช่วยเปลี่ยนแปลงพื้นที่ตามแนวเส้นทางได้อย่างแน่นอน ทั้งในเรื่องของราคาที่ดินและราคาคอนโดมิเนียม โดยทำเลที่น่าสนใจได้แก่ เตาปูน ผ่านฟ้า วังบูรพา และพื้นที่รอบสถานีที่อยู่บน ถ.สุขสวัสดิ์ ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมอยู่ประมาณ 8,000 ยูนิต และมียอดขายไปแล้วกว่า 90%

สำหรับราคาที่ดินในทำเลวงเวียนใหญ่ ปัจจุบันสูงกว่า 500,000-600,000 บาท/ตารางวา แต่ในทำเลที่อยู่ไกลออกไปราคาที่ดินยังต่ำกว่านี้มาก เช่น ทำเลสำเหร่ จอมทอง ราคาอยู่ที่ประมาณ 100,000-200,000 บาท/ตารางวา เช่นเดียวกับราคาคอนโดมิเนียม ทำเลวงเวียนใหญ่ราคาประมาณ 100,000 บาท/ตารางเมตร ส่วนในทำเลที่ไกลออกไปราคายังต่ำกว่า 80,000 บาท/ตารางเมตร

นับวันศักยภาพของพื้นที่ฝั่งธนบุรีจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการก่อสร้างของเส้นทางรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ทั้ง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2562-2563 รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ที่มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2567 รวมไปถึงรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายไปยังพุทธมณฑลสาย 4 รวมไปถึงรถไฟฟ้าสายสีทอง ที่พัฒนาไปพร้อมกับศูนย์การค้าขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จะช่วยเสริมศักยภาพของพื้นที่ฝั่งธนบุรีให้มากขึ้นไปอีก

http://www.ddproperty.com

TMB ชี้โครงการ EEC หนุนอุตฯวัสดุก่อสร้าง

TMB มองอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างเติบโตต่อเนื่อง รับอานิสงค์โครงการลงทุนภาครัฐ EEC พร้อมสนับสนุนสินเชื่อครบวงจรเพื่อ SME

นางสาวเทียนทิพย์ นาราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าเอสเอ็มอี TMB หรือ ธนาคารทหารไทย กล่าวในการสัมมนาธุรกิจวัสดุก่อสร้าง จะรวยอย่างไรในยุคดิจิทัล ว่า  ปัจจุบันผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างไทยเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจ  โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ TMB ระบุตัวเลข GDP ของอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างอยู่ที่ร้อยละ 4.5 คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.08 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องโดยได้รับอานิสงค์จากแผนลงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขอวภาครัฐ การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ( EEC ) การขยายตัวแบบก้าวกระโดดของสัมคมเมืองในหัวเมืองใหญ่ทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงความต้องการพัฒนาประเทศของประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ซึ่งคาดการณ์ว่าจะก่อให้เกิดความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างไทยที่มีความได้เปรียบด้านทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ สามารถนำมาใช้ในการผลิตสินค้า เช่น การผลิตปูนซีเมนต์ กระเบื่อง มีความหลากหลายของวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้าง

ทั้งนี้ ปัจจุบันจำนวนประชากรในไทยมีจำนวนกว่า 68 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้ใช้ Social Media สูงถึง 46 ล้านคน และมีจำนวนผู้ใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือสูงถึง 42 ล้านคน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่สำคัญในการพัฒนานำเครื่องมือดิจิทัลเพิ่มความสะดวกสบายในการบริหาจัดการธุรกิจให้เติบโตและแข่งขันได้ สอดคล้องยุคดิจิทัล 4.0 พร้อมกันนี้ TMB ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ทีเอ็มบี เอสเอ็มอี สมาร์ท บิส สนับสนุนเงินทุนทุกประเภทเพื่อเอสเอ็มอีให้ธุรกิจเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ และมีบัญชีเพื่อธุรกิจ ทีเอ็มบี เอสเอ็มอี วัน แบงก์ สามารถโอน รับ จ่าย ข้ามธนาคาร ข้ามเขต ได้ทันทีโดยไม่มีค่าธรรมเนียม เมื่อทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล

http://money.sanook.com

Checklist! ‘5 เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน’ ที่ขาดไม่ได้ พร้อมเคล็ดลับการเลือกซื้อ

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] ซื้อบ้านหรือห้องชุดในคอนโดมิเนียมมาแล้วเรียบร้อย หรือว่ากำลังก่อสร้างบ้านใกล้เสร็จเรียบร้อยเต็มที แต่ยังไม่รู้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นไหนที่จำเป็นต้องซื้อก่อนอย่างอื่น ไม่ค่อยพอใจเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทางโครงการให้มา ชิ้นไหนกันที่ควรจะเลือกเปลี่ยนเพราะเป็นสิ่งสำคัญของบ้าน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านชำรุดทรุดโทรม ไม่รู้ว่าต้องเลือกใหม่อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบให้

1. แอร์
หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือเครื่องปรับอากาศ ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การที่ที่อยู่อาศัยไม่มีแอร์ติดตั้งถือเป็นเรื่องทรมานกาย ทำให้การอยู่อาศัยอาจไม่ค่อยสบายนัก แม้ว่าแอร์จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากและหลายคนเลือกที่จะไม่ใช้แอร์เป็นประจำ แต่ก็ควรมีติดตั้งไว้เผื่อใช้งานในวันที่อากาศร้อนจัดหรือว่ามีแขกมาเยี่ยมเยียนที่บ้าน

เพื่อไม่ให้แอร์ที่ติดตั้งใหญ่เกินความจำเป็นซึ่งทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน หรือเล็กกว่าที่สมควรจนเกิดอาการ ‘แอร์ไม่เย็น’ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างแรกคือ บีทียู ที่ต้องเหมาะกับขนาดพื้นที่ห้องที่แอร์จะถูกติดตั้ง ยกตัวอย่างเช่น ห้องขนาด 9-14 ตร.ม. ควรใช้แอร์ขนาด 9,000 บีทียู, ห้องขนาด 14-20 ตร.ม. ควรใช้แอร์ขนาด 12,000 บีทียู, ห้องขนาด 20-28 ตร.ม. ควรใช้แอร์ขนาด 18,000 บีทียู เป็นต้น แต่ทั้งนี้ถ้าเป็นห้องที่ถูกแสงแดดมากหรือมีหน้าต่างใหญ่/มีจำนวนมาก ก็จะต้องเพิ่มบีทียูของแอร์ขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ ควรจะเลือกแอร์แบบอินเวอร์เตอร์ เนื่องจากมีระบบที่ทำให้ประหยัดพลังงานได้มากกว่าแอร์ทั่วไป 40-60% และทำให้ความเย็นในห้องคงที่สม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าแอร์อินเวอร์เตอร์จะราคาสูงสักหน่อย แต่เทียบกับค่าไฟที่ลดลงแล้วจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว

2. พัดลม
อย่างที่กล่าวข้างต้น หลายคนเลือกที่จะไม่เปิดแอร์ในวันที่อากาศเย็นสบาย เช่น วันฝนตก แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีพัดลมเป็นตัวช่วยหมุนเวียนอากาศภายในห้อง เพื่อให้อากาศถ่ายเทและใช้ชีวิตได้สบายตัวมากกว่าแค่เปิดหน้าต่าง

วิธีการเลือกซื้อพัดลมนั้นยุ่งยากน้อยกว่าแอร์ พัดลมจำแนกได้ 3 ประเภทหลักๆ โดยเรียงจากที่ใช้ไฟน้อยไปจนถึงมาก คือ พัดลมตั้งโต๊ะ>พัดลมตั้งพื้น>พัดลมเพดาน พัดลมตั้งโต๊ะจะเหมาะกับการใช้งานที่มีคนร่วมใช้จำนวนไม่มากประมาณ 1-2 คนเท่านั้น แต่ถ้ามีการใช้งานในห้องที่มีคนจำนวนมากหรือห้องขนาดใหญ่ก็ควรจะเลือกพัดลมตั้งพื้น ส่วนพัดลมเพดานก็ยิ่งต้องเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่และจำเป็นต้องเก็บเนื้อที่สำหรับวางพัดลมไว้ใช้สอยอย่างอื่น ทำให้ต้องติดพัดลมไว้บนเพดาน

และอย่าลืมว่าควรเลือกพัดลมที่ได้รับการรับรองจากสำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ด้วย เพื่อความปลอดภัยและการประหยัดไฟตามลำดับ

3. พัดลมระบายอากาศ
หรือเรียกอีกอย่างว่า พัดลมดูดอากาศ 2 จุดที่สำคัญในบ้านที่ควรจะมีพัดลมระบายอากาศคือห้องน้ำและครัว เพราะห้องน้ำมักจะเป็นพื้นที่อับ ไม่มีหน้าต่างหรือมีแต่ขนาดเล็กมาก การระบายอากาศจะทำได้ไม่ดี จึงต้องมีตัวช่วยคือพัดลมดูดอากาศเพื่อให้ห้องน้ำลดกลิ่นอับลง

ส่วนห้องครัวหากเป็นครัวที่สามารถเปิดประตู-หน้าต่างถ่ายเทอากาศได้ดีก็อาจไม่จำเป็น แต่ถ้าเป็นครัวในห้องปิดที่ระบายอากาศยากก็อาจต้องใช้พัดลมระบายอากาศช่วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้กลิ่นจากการทำครัวซึมติดเข้าไปในเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน และสิ่งของภายในบ้าน นอกจากนี้ห้องอื่นๆ ในบ้านที่อากาศไม่ถ่ายเทก็สมควรติดตั้งไว้เช่นกัน

พัดลมดูดอากาศมี 2 แบบใหญ่ๆ คือแบบติดผนังปูนกับติดกระจก จึงต้องพิจารณาพื้นที่ที่เราจะติดตั้งก่อนว่าต้องใช้พัดลมดูดอากาศแบบใด ส่วนขนาดพัดลมสามารถนำขนาดห้อง กว้างxยาวxสูง ปรึกษาพนักงานขายดูได้

4. ปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำ หากเป็นคอนโดมิเนียม ทางโครงการมักจะติดตั้งมาไว้แล้วสำหรับใช้ร่วมกันทั้งโครงการ แต่สำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบ ปั๊มน้ำก็จะเป็นของบ้านแต่ละหลัง

สำหรับความสำคัญของปั๊มน้ำคือ ถ้าเราไม่มีปั๊มน้ำแล้วมีการเปิดใช้น้ำหลายจุดในบ้านพร้อมๆ กัน จะเกิดการแย่งน้ำกันใช้ทำให้น้ำไหลเอื่อยเพราะแรงดันของน้ำจากท่อน้ำประปาหลักที่ส่งเข้ามาในบ้านยังเท่าเดิม ดังนั้น บ้านจึงควรจะติดตั้งปั๊มน้ำ(ต้องใช้งานร่วมกับถังเก็บน้ำ) เพื่อเพิ่มแรงดันน้ำเมื่อมีการใช้งานพร้อมกันหลายจุด

โดยปั๊มน้ำแต่ละยี่ห้อก็จะมีตารางในการเลือกรุ่นและขนาดมอเตอร์ของปั๊มน้ำให้เหมาะกับการใช้งาน ซึ่งเจ้าของบ้านต้องเตรียมข้อมูลเหล่านี้เพื่อไปปรึกษากับพนักงานขายคือ ความสูงของบ้าน(กี่ชั้น), จำนวนจุดที่เปิดใช้น้ำได้และคาดว่าจะใช้พร้อมกันสูงสุดกี่จุด, ปริมาณน้ำลิตร/นาทีของก๊อกน้ำในบ้าน

5. ตู้เย็น
อีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าจำเป็น ของสด อาหารที่ต้องเก็บในที่เย็น น้ำแข็ง เครื่องดื่ม ฯลฯ ล้วนต้องการตู้เย็นเป็นที่จัดเก็บ การไม่มีตู้เย็นไว้ในบ้านอาจจะทำให้ใช้ชีวิตได้ลำบากขึ้น

พื้นฐานของการเลือกตู้เย็นตั้งต้นจากจำนวนคนในบ้าน กะอย่างคร่าวๆ คือ มีสมาชิก 1-2 คนใช้ขนาดไม่เกิน 6 คิว, 2-3 คนใช้ขนาด 6-10 คิว, 4-5 คนใช้ขนาด 10-15 คิว และ 6 คนขึ้นไปใช้ขนาด 15 คิวขึ้นไป แต่ถ้าบ้านไหนชอบทำอาหารทำให้มีการซื้อของสดจำนวนมาก หรือชอบเก็บอาหารแช่แข็งก็อาจจะต้องเพิ่มขนาดคิวของตู้เย็นอีกเล็กน้อย

เมื่อได้ขนาดที่เหมาะสมแล้ว สิ่งต่อไปที่ควรมองหาคือฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ตามด้วยข้อมูลการรับประกันที่ดี แล้วจึงเจาะลงไปในรายละเอียดตัวเลือกตู้เย็นที่ยังอยู่ในมือเรา จำพวกวัสดุและฟังก์ชันภายในตู้เย็น และส่วนประกอบอื่นๆ ที่อาจจะชื่นชอบเป็นพิเศษ เช่น มีช่องกดน้ำและน้ำแข็ง เป็นต้น เพื่อคัดเลือกหาตู้เย็นที่ตรงใจมากที่สุด

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับ 5 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นภายในบ้าน มีความแข็งแรง ทนทาน และมีหลากหลายฟังก์ชันให้เลือกตามความเหมาะสมของที่อยู่อาศัย ถือเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า การันตีจากอายุของบริษัทที่ก่อตั้งมานาน 96 ปีในประเทศญี่ปุ่น และ 53 ปีในไทย

โดยบริษัท กันยงอีเลคทริก จำกัด (มหาชน) คือบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์มิตซูบิชิ อีเล็คทริคภายในประเทศไทยมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2507 จากการร่วมทุนระหว่างครอบครัวโพธิวรคุณกับ Mitsubishi Electric Corporation ประเทศญี่ปุ่น มีการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเรือน เครื่องปรับอากาศ คอมเพรสเซอร์ ลิฟต์ บันไดเลื่อน ไปจนถึงอุปกรณ์สำหรับยานยนต์ เป็นต้น

แบรนด์มิตซูบิชิ อีเล็คทริคยังคงครองที่หนึ่งในใจผู้เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า จากเทคโนโลยีที่ทันสมัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม จากการวิจัยพัฒนาภายในศูนย์ R&D ทั่วโลกของมิตซูบิชิฯ อาทิ ในประเทศญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร พร้อมกับการดำเนินงานด้านกิจกรรมเพื่อสังคมที่ถือเป็นภารกิจสำคัญของมิตซูบิชิฯ โดยเฉพาะการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

และสำหรับเจ้าของบ้านที่กำลังสนใจเครื่องใช้ไฟฟ้ามิตซูบิชิ อีเล็คทริค โอกาสมาถึงแล้วเพราะกันยงฯ จะจัดงานลดราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์มิตซูบิชิฯ ครั้งยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 7-17 กันยายนนี้ ที่ ลานกิจกรรมชั้น 1 ห้างสรรพสินค้า เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์

ภายในงานพบสินค้าลดราคาจำนวนมาก อาทิ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น พัดลม ปั๊มน้ำ ฯลฯ พร้อมโปรโมชันพิเศษ เช่น

1.สินค้า เครื่องปรับอากาศ , ตู้เย็น , พัดลม ราคาพิเศษ
2.ผ่อนสบายๆ 0% นาน สูงสุด 10 เดือน พร้อมรับเงินคืนภายในบัตร
3.ลูกค้าที่ซื้อสินค้า เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นขนาด 2 ประตูขึ้นไป ลุ้นรับส่วนลดเพิ่มเติมสูงสุด 1,000 บาท
4.ของแถมพิเศษ เครื่องปรับอากาศทุกรุ่นภายในงาน แถมฟรี หมอนผ้าห่ม สุดน่ารัก และของแถมอื่นๆ

นอกจากนี้ เตรียมพบกับกิจกรรมสนุกสนานการแสดงมากมาย และ ฟังดนตรีไพเราะ จาก Joyo cat twins คู่แฝดจากเวทีการประกวด The Voice season 5

แล้วพบกันที่ งาน KANG YONG AIR CARE CENTER SUPER SALE 2017 ตั้งแต่วันที่ 7 – 17 กันยายน 2560 ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : โทร : 0-2102-2724, 098-256-3272, 089-970-7222 

http://www.ddproperty.com

นิทานสอนใจเรื่อง “คนที่ไม่ถูกนินทา”

วันหนึ่ง มี ตา กับหลานชาย ต้องเดินทางไกล ไปหาญาติที่อยู่ต่างเมือง โดยมีม้าเป็นพาหนะไว้เดินทาง ทั้งหมดจะต้องผ่านเมืองต่างๆ แต่ระหว่างทาง ด้วยความกตัญญูของหลานชาย เห็นตาผู้ชรา จึงขอให้ตา นั่งบนหลังม้า เพราะความเป็นห่วงเป็นใย แต่เมื่อเข้ามาในเมืองหนึ่ง ชาวบ้านต่าง ซุบซิบนินทาว่า “ต๊าย ดูสิ เป็นผู้ใหญ่ซะปล่าว ทำเป็นสำออย ใช้แรงงานเด็ก ตัวเองสบายเลยนะ”

เมื่อ ตา ได้ยินเช่น

นั้น จึงไม่อยากให้เป็นที่นินทาของใคร จึงบอกให้หลานชาย ขึ้นมาขี่ม้าแทน จนมาถึงอีกเมืองหนึ่ง ชาวบ้านเมืองนี้ก็ นินทา ว่าร้ายหลานชายว่า “ดู ดู๊ ดู ดู มันทำ ทำไม ถึงทำกับตาแก่ๆได้” เมื่อหลานได้ยินเช่นนั้น จึงให้ตาขึ้นมาขี่ม้าด้วยอีกคน พร้อมพูดว่า “ดูซิ ว่าจะมีใครนินทาพวกเราอะไรอีกไหม”

ต่อมา เมื่อมาถึงอีกเมืองหนึ่ง ก็ไม่พ้นการโดนนินทาของชาวบ้าน “โถ่ ๆ ๆ เจ้าม้าช่างน่าสงสาร ทำไมเจ้านายของแกถึงใจร้าย ใจดำ ใช้งานหนักเกินไปจริงๆ” ทั้งคู่ จึงตัดปัญหา ลงจากหลังม้า และย่างเท้าเดินไปแทน แต่แล้ว ก็ต้องมาผ่านเมือง อีกเมืองหนึ่ง คราวนี้ ชาวบ้านไม่ได้นินทาอย่างเดียว กลับหัวเราะเยาะใส่ด้วย “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดู ตา กับ หลาน คู่นั้นสิ โง่จริงๆ มีม้าแต่กลับไม่ขี่ เดินจูงอยู่นั่นแหละ”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ในโลกนี้ไม่มีใครไม่ถูกนินทา เพราะต่อให้เราทำสิ่งที่ดีแค่ไหน คนที่ไม่ชอบเรา เค้าก็จะนินทาเราอยู่ดี ดั้งนั้น เมื่อเราได้กระทำความดีแล้ว จงตั้งใจทำต่อไป อย่าเอาคำ “ไม่ดี” ของคน “ไม่ดี” มาใส่ใจ เพราะจะทำให้ใจเรารู้สึก ” ไม่ดี ”

https://pantip.com

ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 6/09/2560

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  6/09/2560

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร
	ปตท PTT	บางจาก BCP	เชลล์ Shell	เอสโซ่ Esso	คาลเท็กซ์ Caltex	ไออาร์พีซี IRPC	พีทีจี เอนเนอยี่ PTG	ซัสโก้ Susco	ระยองเพียว Pure	ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95	27.15	27.15	–	27.15	34.71	27.15	27.15	27.15	27.15	27.15
แก๊สโซฮอล E-20	24.64	24.64	24.64	24.64	24.64	–	24.64	24.64	24.64	24.64
แก๊สโซฮอล E-85	20.24	20.24	–	–	–	–	–	20.24	19.94	–
แก๊สโซฮอล 91	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88
เบนซิน 95	34.26	–	–	–	34.71	–	34.76	34.26	34.26	34.26
ดีเซลหมุนเร็ว	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม	27.99	28.67	28.67	28.67	28.67	–	–	–	–	–
มีผลตั้งแต่	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05: