สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2560

MQDCลงทุนระบบต้านCO2 ย้ำแบรนด์ผู้นำอสังหารักสุขภาพ

MQDC ย้ำแบรนด์ผู้นำบ้านรักสุขภาพ เปิดตัว Home Intelligence System for Well-Being นำร่องคอนโดฯวิสซ์ดอม สเตชั่น รัชดา-ท่าพระ ต่อยอดแผนลงทุนวิจัยและพัฒนานวัตกรรม 6,000 ล้าน

นายทรงพล พลรัฐ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า DTGO ให้ความสำคัญกับการลงทุนวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย โดยจัดสรรงบฯลงทุนด้านนี้รวม 6,000 ล้านบาท ล่าสุด ได้เปิดตัวระบบบ้านอัจฉริยะ (Home Intelligent System)

“เรามั่นใจว่าเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ติดตั้งระบบพัฒนาคุณภาพอากาศภายในอาคาร IAQ-Indoor Air Quality เทคโนโลยีนวัตกรรมที่จะนำมาติดตั้งในคอนโดมิเนียมแบรนด์วิสซ์ดอม สเตชั่น รัชดา-ท่าพระ ตามแผนคาดว่าก่อสร้างเสร็จและส่งมอบภายในไตรมาส 3/61”

ดร.จิตพัต ฉอเรืองวิวัฒน์ ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนทางนวัตกรรม (RISC) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC บริษัทลูกในกลุ่ม DTGO กล่าวว่า ไฮไลต์นวัตกรรมอยู่ที่ตัว ERV (Energy Recoverty Ventilation) ตรวจวัดคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะคาร์บอนไดออกไซด์หรือ CO2 ในห้องนอนกับห้องนั่งเล่น หากตรวจพบค่า CO2 เกินมาตรฐานจะมีการเติมอากาศจากด้านนอกเข้ามาหมุนเวียน เพื่อทำให้ปริมาณ CO 2 ลดลงจนเหมาะกับการพักผ่อนที่มีคุณภาพ

“ค่า CO2 มาตรฐานไม่เกิน 1,000 ppm หรือ 1,000 ในล้านส่วน งานวิจัยชิ้นนี้มาจากพฤติกรรมการพักอาศัยคนเมืองเฉลี่ย 90% ใช้ชีวิตอยู่ในอาคาร โดยเฉพาะการอยู่ในห้องแอร์แทบจะตลอดเวลาทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน ในห้องนอน ห้องที่ใช้แอร์ส่วนใหญ่ไม่มีระบบอากาศหมุนเวียน ทำให้เรารับก๊าซ CO 2 สะสมทุกวัน ซึ่งมีผลในระยะยาว เช่น เกิดโรคสมองเสื่อมในผู้สูงวัย หรือสมองพัฒนาการล่าช้าในวัยเด็ก นวัตกรรม ERV จึงพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ในการแก้ปัญหานี้โดยตรง”

นายพลณัฏฐ์ เฉลิมวรรณ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอโบตรอนส์ คอร์ปอเรชัน จำกัด กล่าวว่า บทบาทบริษัทนำผลงานนวัตกรรมมาผลิตให้เป็นรูปธรรม เริ่มต้นเปิดตัวกันด้วยระบบบ้านอัจฉริยะ โฟกัสปัญหาคาร์บอนไดออกไซด์ ภัยร้ายในห้อง ในอนาคตมีการร่วมวิจัยค้นคว้าออกแบบระบบและนวัตกรรม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ อีกจำนวนมาก

นางศศินันท์ ออลแมนด์ ผู้อำนวยการบริหาร ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น กล่าวตอนท้ายว่า การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในยุคนี้ ต้องคำนึงถึงพฤติกรรมการเลือกซื้ออสังหาฯของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญการเลือกซื้อโครงการจัดสรรที่มีเหตุผล ไม่ใช่แค่ซื้อคุณภาพชีวิต แต่เป็นการเลือกซื้อคุณภาพสุขภาพที่ดีในการพักอาศัย มั่นใจว่าระบบบ้านอัจฉริยะตอบสนองความต้องการได้ตรงจุด และเป็นรายแรกของประเทศไทยที่นำเสนอโครงการอสังหาฯแนวรักสุขภาพ

ที่มา  หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ


จับตาอสังหาฯ สายสีม่วง หลังเชื่อมต่อ1กม.ที่หายไป

การมาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ บวกกับการเอื้อเรื่องผังเมืองในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ที่ไม่ได้กำหนดโซนและจำกัดการสร้างอาคารสูง เหมือนในกรุงเทพฯ ทำให้ช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ผู้พัฒนาอสังหาฯได้เข้าไปเปิดโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายดังกล่าวอย่างคึกคัก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม

ข้อมูลของบริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ระบุว่า ในปี 2555 มีการเปิดคอนโดตลอดเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง 5,056 ยูนิต ในปี 2556 เพิ่มเป็น 6,599 ยูนิต และปี 2557 มีการเปิดไปถึง 9,117 ยูนิต ก่อนจะเริ่มลดลงตั้งแต่ปี 2558-2559 ด้วยจำนวนการเปิด 5,285 ยูนิต และ 4,000 ยูนิตตามลำดับ ส่วนปี 2560 คาดการณ์ว่า ทั้งปีจะมีการเปิดเพียง 2,000 ยูนิต

ขณะที่อัตราการขายกลับช้ากว่าที่คาดหวัง สาเหตุนอกจากจำนวนโครงการคอนโดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว ปัญหาสำคัญยังมาจากการไม่เชื่อมต่อระหว่างสถานีบางซื่อ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน กับสถานีเตาปูน รถไฟฟ้าสายสีม่วง หรือ 1 กิโลเมตร(กม.) ที่หายไป ทำให้มีผู้ใช้พลาดเป้าไปมาก ส่งผลให้การขายโครงการในทำเลดังกล่าวที่คาดว่าจะร้อนแรง กลายเป็น แผ่ว จนผู้พัฒนาอสังหาฯหลายรายสั่งเบรกเปิดโครงการใหม่ เพื่อให้ซัพพลายด์ที่มีถูกดูดซับไปก่อน รวมถึงพยายามอัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม อย่างต่อเนื่องเพื่อระบายสต็อกเดิมในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

แต่ในเดือนสิงหาคมนี้ ทางการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะเดินรถเชื่อมต่อ 1 กม.ที่หายไป เพื่อหวังเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้มากขึ้น จากที่มีผู้ใช้เฉลี่ยวันละ 23,000-24,000 เที่ยวคน/วัน เป็น 50,000 เที่ยวคน/วัน

การดำเนินการดังกล่าว คนในแวดวงอสังหาฯ คาดว่า จะเป็นผลดีต่อการขายโครงการอสังหาฯตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง

สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเชื่อมต่อดังกล่าว อาจส่งผลให้การขายอสังหาฯตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงดีขึ้น แต่ต้องรอดูราคาบัตรการเดินทางว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงเชื่อมไปยังเอ็มอาร์ที และสามารถใช้บัตรเดินทางใบเดียวกันหรือไม่ หากราคาบัตรยังสูง ต้องใช้บัตรเดินทางหลายใบ การเพิ่มจำนวนผู้ใช้ก็ยังคงเป็นไปได้ยาก

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงมีโครงการใหม่เปิดรวมกว่า 29,000 ยูนิต เหลือขาย 5,000 ยูนิต โดย 4,000 ยูนิต อยู่นอกเขตกรุงเทพฯ เลยย่านวงศ์สว่างมาจนถึงสถานีคลองไผ่ ซึ่งจำนวนเหลือขายดังกล่าวถือว่าเป็นอัตราการเหลือที่ค่อนข้างสูง ทำให้ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการพยายามอัดโปรโมชั่น เพื่อระบายสต็อกมาตลอด

“การเชื่อมต่อทำให้ผู้ใช้บริการสะดวกสบายขึ้น แต่ต้องรอดูราคา เช่น จากบางใหญ่มาเตาปูนราคาอยู่ประมาณ 60 บาท ก็ยังแพงกว่ารถตู้ที่คนย่านนั้นนิยมใช้อยู่คนก็ไม่มาใช้บริการ”

สอดคล้องกับความเห็นของ ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) ที่มองว่า การเชื่อมต่อระหว่างสถานีบางซื่อ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน กับสถานีเตาปูน รถไฟฟ้าสายสีม่วง อย่างน้อยเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้บริการ และอาจจะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯบ้าง

แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาหลัก นั่นคือ ทำอย่างไรให้ราคาค่าเดินทางเหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันยังอยู่ในอัตราที่สูงไม่สอดรับกับค่าครองชีพของผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้บริโภคในย่านนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มกลาง-ล่าง

“คำนวณค่าโดยสารคร่าว ๆ เฉพาะค่ารถไฟฟ้าอย่างเดียว จากสุดสายรถไฟฟ้าสายสีม่วง มาต่อเอ็มอาร์ทีสุขุมวิท ที่เชื่อมต่อบีทีเอสสายสีเขียวที่สถานีอโศก ใช้ประมาณ 230บาท/คน/วัน ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชม. ซึ่งเกินไป จริง ๆ ค่าเดินทางควรไม่เกิน 100 บาท/คน/วัน เวลาบวกลบไม่เกิน 1 ชม.

ดังนั้นแม้จะเชื่อมต่อ ปัญหาก็ยังแก้ไม่หมด”

‘สีม่วง’ บทเรียนอสังหาฯ รถไฟฟ้า 10 สายใหม่

รถไฟฟ้าสายสีม่วง นับเป็นบทเรียนสำหรับผู้พัฒนาอสังหาฯในการเข้าไปลงทุนเปิดโครงการตามแนวรถไฟฟ้า 10 สายใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นว่า ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ และมองปัจจัยอื่นให้รอบด้านกว่าเดิม

สุรเชษฐ มองว่า ผู้พัฒนาอสังหาฯได้รับบทเรียนหลายอย่างจากการเปิดโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ทำให้ระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น เห็นได้การเปิดตัวโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ ค่อนข้างเงียบเหงา เช่น สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เพราะโมโนเรล เป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย อีกทั้งเส้นทางที่ผ่านมามีจุดดึงความสนใจค่อนข้างน้อย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า หรือแหล่งชุมชน

มีเพียงสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ที่คึกคักตลอดทั้งสาย เนื่องจากก่อสร้างแล้ว และมีความคืบหน้ารวดเร็ว อีกทั้งเป็นเส้นรอบเมือง (Ring Line) มีการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายหลัก อย่างสีเขียว หมอชิต-สำโรง นอกจากนี้ราคาที่อยู่อาศัยก็ไม่สูงนัก เฉลี่ย 80,000-100,000 บาทต่อตร.ม. และเมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จราคาก็พุ่งไปอีก จึงมีความน่าสนใจทั้งซื้อเป็นที่อยู่อาศัยและเพื่อลงทุน

ด้าน ประเสริฐ มองว่า บทเรียนจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง คือ อย่าโหมลงทุนจนเกินไป ซึ่งความจริงรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้เปรียบในเรื่องของผังเมืองและข้อกฏหมายที่เอื้อต่อการลงทุน รวมถึงราคาที่อยู่อาศัยไม่สูงนัก เฉลี่ยอยู่ที่ 1-3 ล้านบาท แต่ยังมีปัญหาในการขาย จนผู้พัฒนาอสังหาฯหลายรายต้องชะลอลงทุนเปิดโครงการใหม่

ดังนั้นการลงทุนอสังหาฯแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ทั้ง 10 สาย ที่ส่วนใหญ่จะเป็นรถไฟฟ้าสายส่งผู้ใช้บริการเข้าระบบ หรือ Feeder line เหมือนกับสายสีม่วงที่จะคึกคักเป็นบางช่วงเวลา เช่น ช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น จึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง

“สายอื่นมีปัญหาเรื่องผังเมือง ไม่ว่า สายสีเหลือง สายสีชมพู สายสีส้ม สายน้ำเงินส่วนต่อขยาย เพราะเส้นทางส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ทำให้สร้างโครงการใหญ่ไม่ได้ และความหนาแน่นของประชากรมีบางจุด แต่สายสีน้ำเงินน่าสนใจ เพราะเป็นสายที่เชื่อมต่อรอบเมืองเป็นวงกลม และผ่านศูนย์กลางเศรษฐกิจ เชื่อมต่อกับสายหลักอย่างสีเขียวทำให้เส้นนี้คึกคัก”

ประเสริฐกล่าวอีกว่า เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกับปัญหารถไฟฟ้าสายสีม่วง ภาครัฐควรกำหนดไทม์ไลน์ของแผนงานโครงการก่อสร้างเมกะโปรเจคต่างๆ ที่เป็นพันธสัญญา(Commitment) เพื่อช่วยสร้างความชัดเจนในการลงทุนให้แก่ภาคเอกชนมากขึ้น

รวมถึงจัดตั้ง Monitoring Center ที่จะเข้ามาช่วยสื่อสารกับภาคเอกชนให้รับทราบถึงขั้นตอน หรือความคืบหน้าโครงการว่าช้า หรือเร็วอย่างไร เพื่อให้ภาคเอกชนวางแผนให้สอดรับและปรับตัวได้ถูกตามสถานการณ์ หลังจากที่ผ่านมา บางโครงการมีกระแสข่าวการดำเนินการ ทางภาคเอกชนเองก็เข้าไปลงทุนรอรับโครงการไว้ล่วงหน้า

แต่โครงการยังไม่เกิดขึ้น หรือ ลงมือล่าช้ากว่ากำหนด ปัญหาเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการลงทุนของภาคเอกชนทั้งสิ้น ที่น่ากลัวไปกว่านั้น คือ กระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลงทุนซื้อบ้านไปแล้ว แต่เข้าอยู่ไม่ได้ เพราะความไม่พร้อมของสาธารณูปโภค

“การโอเวอร์ซัพพลายด์ของอสังหาฯในต่างจังหวัด ผลพวงก็มาจากเมกะโปรเจคภาครัฐเป็นหลัก บทเรียนจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงก็เหมือนกัน คือ เอกชนลงทุนเสร็จแล้ว แต่โครงการสาธารณูปโภคไม่เสร็จ เหมือนมีบ้าน แต่ไม่มีถนน ถามว่าอยู่ได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ได้ แต่เมื่อซื้อบ้านแล้ว มีการผ่อน ทุกอย่างก็เป็นภาระของผู้บริโภคที่ส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ”

ด้าน วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี(ไทยแลนด์จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในการดำเนินการเมกะโปรเจค ทางรัฐบาลควรมีกำหนดชัดเจนในเรื่องแผนงานและระยะเวลา เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถวางแผนลงทุนให้สอดรับกับสถานการณ์

ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


อยู่ตึกสูงปลอดภัยจริงหรือ? เตรียมเอาตัวรอดก่อนเกิดอัคคีภัย

อยู่ตึกสูงปลอดภัยจริงหรือ? เตรียมเอาตัวรอดก่อนเกิดอัคคีภัย

แม้กลุ่มควันเพลิงไหม้อาคารเกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ สูง 27 ชั้น ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จะเริ่มเจือจางลงไปแล้ว แต่การตื่นตัวต่อเหตุเพลิงไหม้ครั้งนั้นยังคงคุกรุ่นอยู่ทั้งในประเทศอังกฤษและนานาประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย จากสถิติที่ผ่านมาประเทศไทยต้องเผชิญกับอัคคีภัยที่มีความรุนแรงบ่อยครั้ง ตั้งแต่ปี 2532-2558 พบว่า มีอัคคีภัยเกิดขึ้นกว่า 52,000 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 4,532 คน เสียชีวิต 1,740 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 31,000 ล้านบาท และปัจจุบันการเกิดอัคคีภัยมีแนวโน้มเพิ่มความถี่และรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าจะมีกฎหมายออกมาควบคุมอาคาร โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารปี 2535 ทำให้อาคารใหม่ที่กำลังก่อสร้างจะต้องมีระบบความปลอดภัย แต่สำหรับอาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อนกฎหมายประกาศใช้นั้นยังคงน่าเป็นห่วง

ตึกเก่าใน กทม. กว่า 1 พันแห่ง ยังไม่ปลอดภัย
ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีอาคารสูง ที่มีความสูงเกิน 23 เมตร หรือมากกว่า 8 ชั้นขึ้นไป จำนวน 2,810 อาคาร แบ่งเป็นอาคารที่สร้างขึ้นก่อนการประกาศใช้กฎกระทรวง ฉบับที่ 33 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2535 จำนวน 1,033 อาคาร และอาคารที่สร้างภายหลังการประกาศใช้กฎกระทรวง ฉบับที่ 33 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2535 จำนวน 1,777 อาคาร ซึ่งเป็นอาคารเก่าเหล่านี้หลายอาคารยังไม่มีระบบความปลอดภัยอาคารบางประเภท จึงต้องมีการเพิ่มเติมระบบความปลอดภัย ทั้งเส้นทางหนีไฟ ถังดับเพลิง วัสดุกันไฟต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้อาคารมากที่สุด

ตึกเก่า กับการป้องกันอัคคีภัย

กำชับอาคารเก่าเพิ่มเติมระบบความปลอดภัย
ทางกรุงเทพมหานครได้กำชับให้อาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อนการประกาศใช้กฎกระทรวง ฉบับที่ 33 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2535 ต้องเพิ่มเติมระบบความปลอดภัย ดังนี้
1. ติดตั้งบันไดหนีไฟ โดยกำหนดให้อาคารสูงตั้งแต่ 4 ชั้นขึ้นไป ติดตั้งบันไดหนีไฟ โดยทำด้วยวัสดุที่ไม่ติดไฟ เพิ่มจากบันไดหลักภายในอาคาร เพื่อให้สามารถลำเลียงคนทั้งหมดออกมานอกอาคารได้ภายใน 1 ชั่วโมง
2. ติดตั้งแบบแปลนแผนผังอาคารแต่ละชั้นหน้าลิฟท์ทุกแห่ง และบริเวณห้องโถงทุกชั้นของอาคารให้เห็นชัดเจน รวมถึงตำแหน่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง ประตูหรือทางหนีไฟของชั้นนั้นๆ
3. ติดตั้งเครื่องมือดับเพลิงแบบมือถือตามชนิดและขนาดที่กำหนด โดยให้มี 1 เครื่องต่อพื้นที่ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ทุกระยะไม่เกิน 45 เมตร แต่ไม่น้อยกว่าชั้นละ 1 เครื่อง
4. ติดตั้งระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ทุกชั้น ให้คนอยู่ในอาคารได้ยินชัดเจน และอุปกรณ์แจ้งเตือนทั้งระบบแจ้งเหตุอัตโนมัติและระบบแจ้งเหตุด้วยมือ
5. ติดตั้งระบบไฟส่องสว่างสำรอง และป้ายบอกทางหนีไฟ เพื่อให้มีแสงสว่าง สามารถมองเห็นช่องทางเดินได้ขณะเกิดไฟ
6. ติดตั้งระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า ตามมาตรฐานความปลอดภัย

กรุงเทพมหานครจะดำเนินการอย่างเข้มงวดกับกลุ่มอาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อนปี 2535 โดยจะมีการสุ่มตรวจระบบความปลอดภัยดังกล่าวให้ครอบคลุมมากที่สุด หากพบมีข้อปฏิบัติใด ๆ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จะสั่งให้เร่งทำการปรับปรุงแก้ไข ภายใน 30 วัน จากนั้นจะเข้าทำการตรวจซ้ำ โดยหากพบยังไม่มีการแก้ไขตามกำหนด จะต้องเข้าสู่กระบวนการเอาผิดตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 60,000 บาท และปรับต่อเนื่องอีกวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะมีการแก้ไขเสร็จ และหากการแก้ไขไม่ถูกต้อง กรุงเทพมหานครจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดโดยการสั่งระงับใช้อาคารนั้นต่อไป

กำชับอาคารเก่าเพิ่มเติมระบบความปลอดภัย

10 วิธีเอาตัวรอดจากเหตุไฟไหม้บนตึกสูง
สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำการเอาตัวรอดจากเหตุไฟไหม้บนอาคารสูง 10 วิธี ดังนี้
1. โดยปกติอาคารสูง คอนโดมิเนียม โรงแรม จะมีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยจากเพลิงไหม้ ดังนั้นก่อนเข้าไปพักอาศัยหรือจองห้องพักโรงแรมให้สอบถามว่ามีเครื่องป้องกันควันไฟและอุปกรณ์น้ำฉีดอัตโนมัติบนเพดานหรือไม่ และเมื่อเข้าอยู่อาศัยให้อ่านคำแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยจากเพลิงไหม้ และการหนีเพลิงไหม้ทุกครั้ง
2. หาทางออกฉุกเฉิน 2 ทางที่ใกล้ห้องพัก ตรวจสอบดูว่าทางหนีฉุกเฉินปิดล็อกตายหรือมีสิ่งกีดขวางหรือไม่ ให้นับจำนวนประตูห้องโดยเริ่มจากห้องที่ตนเองพักอาศัยสู่ทางหนีฉุกเฉินทั้ง 2 ทาง เพื่อให้สามารถไปถึงทางหนีฉุกเฉินได้ แม้ว่าไฟจะดับ หรือปกคลุมไปด้วยควัน
3. เรียนรู้และฝึกการเดินภายในห้องพักเข้าหาประตู และเปิดประตูได้ภายในความมืด วางกุญแจห้องพักและไฟฉายไว้ใกล้กับเตียงนอนในกรณีเกิดเพลิงไหม้ จะได้นำกุญแจห้องและไฟฉายไปด้วย และอย่าเสียเวลากับการเก็บสิ่งของ
4. หาตำแหน่งสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ เปิดสัญญาณเตือนเพลิงไหม้หากหาพบ จากนั้นหนีลงจากอาคาร แล้วโทรศัพท์เรียกหน่วยดับเพลิง
5. หากได้ยินสัญญาณเพลิงไหม้ให้หนีลงจากอาคารทันที อย่าเสียเวลาตรวจสอบว่าเพลิงไหม้ที่ใด
6. ถ้าเพลิงไหม้ในห้องพักให้หนีออกมาแล้วปิดประตูห้องทันที เมื่อหนีออกมาแล้วให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ดูแลอาคาร และโทรศัพท์แจ้งเพลิงไหม้
7. ถ้าไฟไม่ได้เกิดขึ้นในห้องพักของตนเอง ก่อนหนีออกจากห้องให้วางมือบนประตู หากประตูมีความเย็นอยู่ ค่อย ๆ เปิดประตู แล้วหนีไปยังทางหนีไฟฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุด
8. หากประตูมีความร้อนอย่าเปิดประตู ในห้องอาจจะเป็นที่ปลอดภัยที่สุด โทรศัพท์เรียกหน่วยดับเพลิงแจ้งให้ทราบว่าท่านอยู่ที่ใด และกำลังตกอยู่ในวงล้อมของเพลิงไหม้ หาผ้าเช็ดตัวเปียก ๆ ปิดทางเข้าของควัน ปิดพัดลม และเครื่องปรับอากาศ ส่งสัญญาณของความช่วยเหลือที่หน้าต่าง หรือชานอาคาร แล้วคอยความช่วยเหลือ
9. คลานให้ต่ำเมื่อควันปกคลุม อากาศบริสุทธิ์จะอยู่ด้านล่างของพื้นห้อง หากต้องเผชิญหน้ากับควันไฟให้ใช้วิธีคลานหนีไปทางหนีฉุกเฉิน ให้นำกุญแจห้องไปด้วย หากหมดหนทางหนีจะได้สามารถกลับเข้าห้องพักได้
10. อย่าใช้ลิฟท์ขณะเกิดเพลิงไหม้ ลิฟท์อาจหยุดทำงานที่ชั้นเพลิงไหม้ ให้ใช้บันไดภายในอาคาร

นอกจากนี้ประชาชนยังสามารถช่วยเป็นหูเป็นตาทั้งการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนหากเกิดเพลิงไหม้ โดยสามารถแจ้งเหตุได้ที่โทร. 199 เพื่อให้เจ้าหน้าที่นั้นเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้เร็วที่สุด

ที่มา ddproperty.com


6 ประโยชน์ของสมุดบัญชีและการอัพเดทที่คุณอาจยังไม่รู้

6 ประโยชน์ของสมุดบัญชีและการอัพเดทที่คุณอาจยังไม่รู้

อย่าเพิ่งมองข้าม สมุดบัญชี หรือ Book Bank ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเวลาทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะฝาก-ถอน-โอน เราสามารถรู้ยอดเงินเข้าออกรวมถึงยอดเงินคงเหลือได้ผ่านทาง ข้อความในมือถือ ใบสลิปจาก ATM หรือเช็กในแอปพลิเคชั่นของธนาคารที่ใช้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเปิดสมุดบัญชีดูแม้แต่น้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วการเก็บรักษาสมุดบัญชีไว้ให้อยู่ในสภาพดี ไม่สูญหายและอัพเดทอย่างประจำสม่ำเสมอนั้นเป็นเรื่องที่ดีและช่วยรักษาผลประโยชน์ของเราในการทำธุรกรรมต่างๆ แต่ในรายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้น ต้องมาดู

ธุรกรรมอะไรบ้างที่จำเป็นต้องใช้สมุดบัญชี
มีธุรกรรมหลายประเภทมากที่จำเป็นต้องพึ่งพาสมุดบัญชีหรือใช้สำเนาของสมุดบัญชีมาประกอบ ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราทั้งสิ้น โดยมี 6 ข้อหลักๆ ดังนี้

1. ใช้ประกอบการขอสินเชื่อต่างๆ เช่น ขอสินเชื่อบ้าน
สำหรับการกู้ยืมเพื่อขอสินเชื่อบ้านเพื่อจะซื้อบ้าน สมุดบัญชีถือเป็นหนึ่งในเอกสารเบื้องต้นที่ต้องเตรียมไว้เพื่อยื่น โดยจะใช้สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีที่เรารับเงินเดือนหรือบัญชีที่มีรายรับเข้าเป็นประจำในกรณีฟรีแลนซ์และทำธุรกิจส่วนตัว เพื่อเป็นหลักฐานแสดงรายได้ว่าเรามีความสามารถเพียงพอในการชำระค่าผ่อนหรือชำระหนี้สินเงินที่กู้ยืมในอนาคตหรือไม่

ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากสำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีก็อย่าลืมเตรียมเอกสารอื่นๆ ทั้งเอกสารเพื่อแสดงรายได้และเอกสารเพื่อแสดงตัวตนด้วย ลองทบทวนดูว่าเอกสารนั้นมีอะไรบ้านและขั้นตอนในการกู้เงินเป็นอย่างไรรวมถึงติดตามอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน กู้ซื้อบ้านด้วยอีกทาง เตรียมให้พร้อม

2. ฝาก – ถอน หน้าเคาน์เตอร์
แม้ว่าจะมีตู้ ATM หรือสิ่งอำนวยความสะดวกทางเทคโนโลยีเกี่ยวกับการฝาก ถอน โอนมากมาย แต่บางกรณีเราอาจจำเป็นต้องเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อทำธุรกรรมการเงินเหล่านั้น ด้วยสาเหตุ เช่น ทำบัตร ATM หาย หรือตู้ ATM พัง ฯลฯ เพียงแค่หยิบสมุดบัญชีติดตัวไปด้วยก็ไม่เดือดร้อนแล้ว แต่ขอแนะอีกนิดว่า ในกรณีที่นำสมุดบัญชีไปทำธุรกรรมที่ไม่ใช่สาขาที่เปิดบัญชี จะต้องนำบัตรประชาชนไปด้วย

3. ทำ VISA
ถือว่าเป็นข้อดีข้อสำคัญสำหรับคนที่ต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือตั้งใจไปพำนักอาศัย หรือทำธุรกิจ ซึ่งแน่นอนว่าบางประเทศจำเป็นต้องขอ Visa เพื่อเข้าประเทศนั้นๆ นอกจากเอกสารที่ต้องใช้ยื่น อาทิ เอกสารแสดงตัวตน หนังสือเดินทาง (Passport) ฯลฯ ก็ยังต้องใช้เอกสารด้านการเงินและเอกสารอื่นๆ ที่จะช่วยสนับสนุนใบคำร้อง เช่น Statement หรือ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง นั่นเอง เพื่อที่จะได้เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่าเรามีความสามารถในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาที่อยู่ประเทศนั้น

หมายเหตุ : เอกสารดังกล่าวใช้ยื่นในวันนัดสัมภาษณ์ ควรนำเอกสารตัวจริงพร้อมสำเนามาด้วย อีกทั้งเอกสารด้านการเงินนอกจาก Statement ยังมีเอกสารอื่นๆ ควรศึกษาเพิ่มเติม

4. ประกอบการยื่นขอบัตรเครดิต
ในการสมัครบัตรเครดิต จะใช้ Statement เป็นหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราสามารถพร้อมที่จะจ่ายค่าบัตรในกำหนดเวลาได้สม่ำเสมอ เพราะเป็นเอกสารที่แสดงพฤติกรรมและวินัยการใช้เงินได้อย่างดี หรือแม้แต่การสมัครงานในบางที่ที่เราขอเรียกเงินเดือนมากกว่าหรือเท่ากับที่เก่า เขาก็จะเรียกดูบัญชีย้อนหลังในการรับเงินของเราเพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน

5. เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์
หรือเรียกกันให้เข้าใจง่ายว่าบัญชีหุ้น ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 ประเภทหลัก คือ บัญชีเงินสด บัญชีวางเงินล่วงหน้า และบัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะเหมาะกับนักลงทุนในแต่ละเภท แต่ไม่ว่าจะรูปแบบไหน ก็จะต้องใช้ สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร หน้าที่มีชื่อ-สกุล และเลขที่บัญชี สำหรับใช้ตัดบัญชี ATS มาประกอบในการขอเปิดด้วยกันทั้งนั้น

6. ฟรีแลนซ์รับงาน
ต้องบอกเลยว่าในการรับงานครั้งแรกของฟรีแลนซ์กับลูกค้าที่มาจ้าง นอกจากใบแจ้งหนี้ สำเนาบัตรประชาชนที่เซ็นรับรองแล้ว งานที่ต้องส่ง สำเนาของสมุดบัญชีที่จะใช้รับเงินก็ห้ามลืม เพราะลูกค้าจะไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายเงินให้เราทางช่องทางไหน ครั้งแรกที่รับงานกับลูกค้ารายนี้อาจจะต้องส่งเอกสารจำนวนมากหน่อย แต่ถ้าหากในอนาคตมีการร่วมงานกันอย่างต่อเนื่องครั้งต่อไปก็สบาย

Freelance

แล้วทำไมถึงต้องอัพเดทสมุดบัญชีอย่างต่อเนื่อง
กรณีที่ไม่ได้อัพเดทสมุดบัญชีเงินฝากมาเป็นระยะเวลานาน (เคลื่อนไหวบัญชีมากกว่า 20 รายการ) เมื่อมาอัพเดทรายการในสมุดบัญชีนั้นจะกลายเป็นยอดรวม (ACM) ซึ่งอาจสร้างความตกใจให้เจ้าของสมุดบัญชีได้ ฉะนั้นถ้าหากต้องการทราบจำนวนเงินเข้า-ออกที่แท้จริง แนะนำให้ทำการขอรายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) ได้ที่ธนาคารนั้นๆ โดยจะใช้ระยะเวลาในการทำอยู่ที่ 3 วันทำการเป็นต้นไป และค่าธรรมเนียมในการขอเดินบัญชีย้อนหลังจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาย้อนหลังที่ต้องการทราบ ควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคาร

นอกจากนี้คงไม่มีอะไรดีเท่ากับการได้ไปอัพเดทสมุดบัญชีเงินฝากโดยตรงที่ธนาคาร เพื่อจะได้มั่นใจว่าธุรกรรมการเงินนั้นถูกต้อง และเหมือนเป็นการอัพเดทรายรับรายจ่ายรวมถึงยอดเงินคงเหลือ ยิ่งอัพเดทบ่อยในระยะเวลาที่เหมาะสม ก็จะทำให้คุณทราบว่าในแต่ละครั้งที่กดตู้ ATM รายการสมุดบัญชีของคุณเป็นอย่างไรบ้าง บ่งบอกถึงพฤติกรรมการใช้เงินได้อีกด้วย

สาเหตุที่ทำให้คนไม่ค่อยอัพเดทสมุดบัญชี
ปัญหาหลักๆ ที่ทำให้ใครหลายคนไม่อัพเดทสมุดบัญชีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไม่เห็นความสำคัญของการอัพเดทสมุดบัญชีจึงรู้สึกว่าไม่จำเป็นและเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก อีกทั้งอาจไม่มีเวลาเข้าไปรอคิวเพื่ออัพเดทหน้าเคาน์เตอร์ หรือในบางกรณีก็มักจะเจอปัญหาจุกจิก เช่น อัพเดทไม่ได้เนื่องจากแถบแม่เหล็กสมุดบัญชีเสีย, ตู้ ATM เสีย หรือ ต้องต่อคิวนาน เป็นต้น

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ธุรกรรมบางส่วนที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสมุดบัญชีและเหตุผลว่าทำไมควรจะอัพเดทสมุดบัญชีอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่สมุดบัญชีที่ควรรักษา เอกสารสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันก็ควรรักษาให้ดีและเก็บให้เป็นที่เป็นทางเช่นกัน

ที่มา ddproperty.com


กิจกรรมวันอาสาฬหบูชา และ วันเข้าพรรษานี้ จะทำอะไรให้ตัวเองดีน้า ??

ในวันอาสาฬหบูชานี้ ชาวพุทธควรถือเป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่งที่จะพึงประกอบการบูชาทั้งส่วนอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา กิจกรรมที่กระทำในวันนี้ โดยทั่วไป คือ ทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) และสวดมนต์

ประวัติวันอาสาฬหบูชา

วันอาสาฬหบูชาเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของพระพุทธศาสนา ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ในสมัยพุทธกาลมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น 4 ประการ ดังต่อไปนี้

1. เป็นวันที่พระบรมศาสดาทรงแสดงพระธรรมเทศนา เป็นครั้งแรก แก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 รูป ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้เมืองพาราณสี

2. เป็นวันที่พระบรมศาสดาทรงได้พระสาวกองค์แรก คือ ท่านโกญฑัญญะได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันองค์แรก

3. เป็นวันที่มีพระสงฆ์เกิดขึ้นเป็นรูปแรก คือ พระอัญญาโกญฑัญญะ ภายหลังจากที่ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันแล้ว ก็ได้ทูลขออุปสมบท พระพุทธองค์ทรงประทานการอุปสมบท ยกขึ้นเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา

4. เป็นวันเกิดขึ้นของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครบเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีพระสงฆ์เกิดขึ้นเป็นพยานในการตรัสรู้ธรรม ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพระพุทธองค์ก็ครบถ้วนบริบูรณ์ คือ มิใช่เพียงแค่ตรัสรู้ธรรมเพียงพระองค์เดียวอย่างพระปัจเจกพุทธเจ้า

กิจกรรมวันอาสาฬหบูชา
พิธีกรรมที่กระทำในวันนี้ โดยทั่วไป คือ ทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) และสวดมนต์ ดังนั้นในวันนี้จึงถือว่า พุทธศาสนิกชนควรได้รับประโยชน์ที่เป็นสาระสำคัญจากอาสาฬหบูชา กล่าวคือ ควรทบทวนระลึกเตือนใจสำรวจตนว่า ชีวิตเราได้เจริญงอกงามขึ้นด้วยความเป็นอยู่อย่างผู้รู้เท่าทันโลกและชีวิตนี้บ้างแล้วเพียงใด เรายังดำเนินชีวิตอยู่อย่างลุ่มหลงมัวเมา หรือมีจิตใจอิสระปลอดโปร่งผ่องใสบ้างแล้วเพียงใดในวันอาสาฬหบูชานี้ ชาวพุทธควรถือเป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่งที่จะพึงประกอบการบูชาทั้งส่วนอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา โดยเฉพาะการปฏิบัติบูชานั้น ควรปฏิบัติตนตามหลักธรรมในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อันได้แก่ มัชฌิมาปฏิปทา ข้อปฏิบัติสายกลาง คือ อริยมรรค 8 กล่าว โดยสรุปก็คือ ควรปฏิบัติตนให้มีศีล สมาธิ ปัญญา เมื่อปฏิบัติได้ดังนี้ ชื่อว่าได้บูชาพระพุทธองค์ ด้วยการบูชาอย่างยิ่ง

1.ทำบุญ ตักบาตร

1.ทำบุญ ตักบาตร

2. เข้าวัด ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม
2. เข้าวัด ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม

ประวัติวันเข้าพรรษา

วันเข้าพรรษา เป็นวันเริ่มต้นที่พระภิกษุสงฆ์จะต้องอธิษฐานจำพรรษาอยู่กับที่ ไม่เที่ยวจาริกไปยังที่ต่าง ๆ เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 8 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ของทุกปี ซึ่งการให้จำพรรษาในสมัยพุทธกาล ก็เพื่อป้องกันมิให้พระสงฆ์ไปเหยียบย่ำข้าว และพืชผลของชาวบ้านเสียหาย ต่อมาถือเป็นโอกาสดีที่พระภิกษุจะได้มาอยู่ร่วมกันเพื่อศึกษาธรรมะ ส่วนชาวบ้านก็ได้เข้าวัดถวายทาน รักษาศีล ฟังธรรม และเจริญภาวนาเพื่อเพิ่มพูนบุญกุศลโดยมีพระภิกษุเป็นแบบอย่าง ครั้นต่อมาจึงเกิดประเพณีนิยมบวช 3 เดือน ขณะเดียวกัน ก็มีพุทธศาสนิกชนจำนวนหนึ่งนิยมถือเอาวันเข้าพรรษาเป็นวันเริ่ม ต้นที่จะอธิฐานจิตลด ละ ความชั่วทั้งหลาย และทำความดีเพิ่มขึ้น สำหรับประเพณีที่เกี่ยวเนื่องกับวันนี้คือ การถวายผ้าอาบน้ำฝนและการแห่งถวายเทียนพรรษา เป็นวันที่พระภิกษุพ้นข้อกำหนดทางวินัยที่จะอยู่จำพรรษา นับตั้งแต่วันเข้าพรรษาเป็นต้นมา และสามารถจาริกไปค้างแรมที่อื่นได้ ซึ่งจะมีประเพณีที่เกี่ยวข้อง คือ การตักบาตรเทโวโรหนะ คือวันถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน ซึ่งพุทธศาสนิกชนมักจะตักบาตรในวันนี้ ด้วยนิยมว่าเป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้า เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากเสด็จไปโปรดพุทธมารดาอยู่ 3 เดือน และถัดจากออกพรรษา 1 เดือน ถือเป็น เทศกาลกฐิน ที่จะทำบุญถวายผ้ากฐินตามวัดต่าง ๆ

1. วันมหาปวารณา

1. วันมหาปวารณา

2. หล่อเทียน

2. หล่อเทียน

3.ถวายสังฆทาน และ ผ้าอาบน้ำฝน

3.ถวายสังฆทาน และ ผ้าอาบน้ำฝน

ในวันอาสาฬหบูชานี้ ชาวพุทธควรถือเป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่งที่จะพึงประกอบการบูชาทั้งส่วนอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา โดยเฉพาะการปฏิบัติบูชานั้น ควรปฏิบัติตนตามหลักธรรมในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อันได้แก่ มัชฌิมาปฏิปทา ข้อปฏิบัติสายกลาง คือ อริยมรรค 8 กล่าว โดยสรุปก็คือ ควรปฏิบัติตนให้มีศีล สมาธิ ปัญญา เมื่อปฏิบัติได้ดังนี้ ชื่อว่าได้บูชาพระพุทธองค์ ด้วยการบูชาอย่างยิ่ง

ที่มา www.winnews.tv


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 7/07/2560

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,650.00 19,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,273.00 19,298.68 20,250.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,145.70 17,368.81 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 573.00 8,686.68 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 446.00 6,761.36 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,319.00 19,996.04 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  7/07/2560


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55
แก๊สโซฮอล E-20 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04
แก๊สโซฮอล E-85 19.24 19.24 19.24 19.24
แก๊สโซฮอล 91 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28
เบนซิน 95 32.66 33.11 33.11 33.16 32.66 32.66 32.66
ดีเซลหมุนเร็ว 24.49 24.49 24.49 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 27.49 28.17 28.17 28.17 28.17
มีผลตั้งแต่ 05 Jul 05:00 05 Jul 05:00 05 Jul 05:00 05 Jul 05:00 05 Jul 05:00 05 Jul 05:00 05 Jul 05:00 05 Jul 05:00 05 Jul 05:00 05 Jul 05:00
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า