สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 7 มีนาคม 2562

คนกรุงเฮ! รัฐอนุมัติรถไฟสายสีแดงอ่อน ตลิ่งชัน – ศิริราช

สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลอนุมัติโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน – ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานี ระยะทาง 14.8 กิโลเมตร เป็นโครงการก่อสร้างทางรถไฟส่วนต่อขยายทางทิศตะวันตกจากโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ – ตลิ่งชัน

 

ส่าสุดสัปดาห์นี้ รัฐบาลอนุมัติเพิ่มเติม โครงการก่อสร้างระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน – ศิริราช เพื่อแก้ไขปัญหาบริเวณฝั่งธนบุรีและรอบโรงพยาบาลศิริราช โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2562 แล้วเสร็จและเปิดให้บริการต่อประชาชนได้ภายในปี 2565

โครงการก่อสร้างระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน – ศิริราช เป็นการก่อสร้างทางรถไฟตามแนวเส้นทางรถไฟเดิม ระยะทางประมาณ 5.7 กิโลเมตร ประกอบด้วย 3 สถานี คือ 

สถานีตลาดน้ำตลิ่งชัน เป็นสถานีระดับพื้น ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนฉิมพลี ห่างจากสถานีตลิ่งชันประมาณ 1.8 กม.

สถานีจรัญสนิทวงศ์ เป็นสถานียกระดับ ตั้งอยู่บริเวณสวนบางขุนนนท์ ห่างจากสถานีตลาดน้ำตลิ่งชันประมาณ 2.7 กม.

สถานีธนบุรี – ศิริราช เป็นสถานีระดับพื้นดิน ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังโรงพยาบาลศิริราช ใกล้กับอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ห่างจากสถานีจรัญสนิทวงศ์ประมาณ 1.3 กม.

เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยแก้ปัญหาการจราจรบริเวณโดยรอบโรงพยาบาลศิริราช และพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ย่านวังหลัง ถนนอรุณอมรินทร์ จรัญสนิทวงศ์ บางขุนนนท์ ตลาดน้ำตลิ่งชัน และบรมราชชนนี

ซึ่งสถานีจรัญสนิทวงศ์ และสถานีศิริราช จะเชื่อมต่อจุดสำคัญ 2 สาย คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ – ท่าพระ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตกฯ ของ รฟม. ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้าออกพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นในได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

ประการสำคัญ…..เส้นทางนี้ ยังเชื่อมโยงศูนย์การศึกษาด้านการแพทย์ทั้ง 3 แห่ง ของมหาวิทยาลัยมหิดล คือ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ตลอดจนประชาชน หรือ ผู้ป่วยที่ต้องการเดินทางเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งนักศึกษาและบุคลากรทางการแพทย์ สามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็ว สะดวกสบาย ด้วยบริการรถไฟฟ้า

หากโครงข่ายรถไฟตามแผนแม่บทสายสีแดงเข้ม สายสีแดงอ่อน เสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการ จะช่วยให้ประชาชนเดินทางเชื่อมโยงถึงกันได้ด้วยความรวดเร็ว สะดวก ปลอดภัย ประหยัดพลังงานในการเดินทาง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะเป็นการลดโลกร้อน ประการสำคัญช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านการเดินทางและสาธารณสุขให้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 55,200 คน/วัน ในปีแรกที่เปิดให้บริการ และเพิ่มเป็น 58,930 คน/วัน ภายใน 20 ปี

ขอบคุณข้อมูลจาก bkkcitismart.com


โค้งสุดท้ายกู้เต็ม 3 บิ๊กสมาคมอสังหาฯ  เร่งระบายสต็อก 6 พันล้าน

3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ เดินหน้าจัดมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 คาดตลาดยังมีกำลังซื้อ จากปัจจัยกระตุ้น LTV บีบรีบตัดสินใจ ด้านผู้ประกอบการระดม 1,000 โครงการ จัดแคมเปญ-โปรโมชั่นแน่น คาด 4 วันระบายสต็อกรวม 6 พันล้านบาท 

นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 เปิดเผยว่า “ถึงแม้จะมีปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดอสังหาฯ อาทิ มาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายนนี้ จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมากขึ้น งานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งนี้ นับเป็นโอกาสของผู้บริโภคที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย 
ด้านผู้ประกอบการต่างเร่งระบายสินค้าในสต๊อกภายในงานมหกรรมฯ โดยแข่งขันการจัดแคมเปญและโปรโมชั่นพิเศษ ตลอดจนผู้จัดงานฯ ได้มีการออกแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในงานด้วย และคาดว่าหลังการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ น่าจะมีแนวนโยบายต่างๆ ในการกระตุ้นธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเปรียบเสมือนฟันเฟืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

“ตลอดการจัดแสดงงาน 4 วัน คาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคเข้ามาชมงานเกือบ 1 แสนคน และมียอดจองและยอดขายทั้งภายในงานและต่อเนื่องหลังงานมากกว่า 6 พันล้านบาท”

ทั้งนี้ งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 จัดขึ้นโดย  สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ,สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย ระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บริเวณโซนซี ชั้น 1 ชั้น 2 และโซนเอเทรียม โดยมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงิน และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมแสดงสินค้าภายในงานกว่า 150 บริษัท และมีโครงการมากกว่า 1,000 โครงการ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อพร้อมรับแคมเปญภายในงานมากมาย โดยสินค้าที่นำมาแสดง ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 32.8% บ้านเดี่ยว 19.7% ทาวน์เฮ้าส์ 16.4% และอื่นๆ เป็นต้น 

นอกจากนี้ ภายในงาน ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษ “7 Weeks 7 Flash Deal” เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรื่องเป็นอยู่เป็นเรื่องง่าย โดยแคมเปญนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ และจะสิ้นสุดในวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดงานฯ ลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนออนไลน์หรือจองซื้อภายในงานจะได้รับสิทธิ์ลุ้นรับดีลพิเศษ 7 ดีล ได้แก่ ฟรีผ่อน 1 ปี ฟรีดาวน์ ฟรีโอน ฟรีค่าส่วนกลาง ฟรีบิวท์อิน ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า และฟรีเฟอร์นิเจอร์ มูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านบาท 
 อีกทั้งยังได้จัดโซนพื้นที่ HC SOLUTIONS เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจหาข้อมูลโครงการที่สนใจจากระบบฐานข้อมูล ซึ่งรวบรวมข้อมูลทุกอย่างจากผู้ประกอบการทุกรายที่มาร่วมออกบูธแสดงสินค้า ตั้งแต่ตำแหน่งที่ตั้งบูธ ประเภทโครงการ ทำเล ราคา และโปรโมชั่นต่างๆ ไปจนถึงการคำนวณความสามารถในการขอสินเชื่อ พร้อมขอรับคำปรึกษาเรื่องการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินชั้นนำมากมาย ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ครัวไทยแบกหนี้อ่วม ธปท.ระบุหน้าใหญ่ใช้จ่ายเกินตัว

ครัวไทยแบกหนี้อ่วม ธปท.ระบุหน้าใหญ่ใช้จ่ายเกินตัว

ธปท.เปิดผลสำรวจปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทย พบว่าหนี้เกิดจากใช้จ่ายเกินตัวเพื่อความบันเทิงและความมีหน้าตาในสังคม
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการสำรวจศึกษาปัญหาหนี้สินของภาคครัวเรือนไทยและนัยเชิงนโยบาย เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้จ่ายของครัวเรือนอย่างละเอียด โดยพบว่ากลุ่มครัวเรือนที่มีหนี้แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ มีหนี้แล้วมีปัญหากับมีหนี้แต่ไม่มีปัญหา โดยกลุ่มที่มีหนี้แล้วมีปัญหามีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มครัวเรือนที่ไม่มีหนี้ โดยค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าโทรศัพท์ (สูงกว่า 135%) ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (สูงกว่า 275%) และค่าใช้จ่ายไม่ประจำ เช่น ค่าซ่อมรถ (สูงกว่า 631%)
ทั้งนี้ ค่าซ่อมรถที่สูงกว่ามากส่วนหนึ่งอาจสะท้อนการให้ความสำคัญกับความมีหน้ามีตาทางสังคมมากกว่า เพราะเมื่อเพิ่มปัจจัยควบคุมด้านมูลค่ารถยนต์เข้าไปในโมเดลแล้ว กลับไม่พบความ แตกต่างด้านค่าซ่อมรถ แสดงว่าครัวเรือนที่มีหนี้มีรถยนต์ที่มีราคาสูงสำหรับประเด็นบรรดาครัวเรือนที่มีหนี้ ครัวเรือนที่มีปัญหาทางการเงินแตกต่างจากครัวเรือนที่ไม่มีปัญหาอย่างไรนั้น จากการศึกษาพบว่าหลังจากคุมหลายปัจจัยให้คงที่แล้ว กลุ่มครัวเรือนที่มีปัญหาทางการเงินยังคงมีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มครัวเรือนที่ไม่มีปัญหาอยู่ 18% โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง (สูงกว่า 376%) และค่าซื้อเสื้อผ้า (สูงกว่า 562%) สะท้อนพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือ “ไลฟ์สไตล์” ที่ค่อนไปทางสุรุ่ยสุร่ายกว่าอีกกลุ่มหนึ่ง
นอกจากนี้ กลุ่มครัวเรือนที่มีปัญหามีแนวโน้มที่จะมีรสนิยมหรือความต้องการที่จะมีหน้ามีตาทางสังคมสูงกว่า สะท้อนจากค่าซ่อมรถและค่าดูแลบ้านที่สูงกว่ากลุ่มที่ไม่มีปัญหา (สูงกว่า 273% และ 276% ตามลำดับ) รวมทั้งการที่มีสมาชิกในครอบครัวล้มป่วยทำให้ค่าใช้จ่ายส่วนนี้สูงมาก
รายงานระบุว่า การตั้งคลินิกแก้หนี้จะขาดประสิทธิผลและไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน หากภาคครัวเรือนไม่สามารถรักษาวินัยทางการเงินที่เกิดจากรายจ่ายที่ไม่เพียงพอกับรายได้ โดยเฉพาะรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและเกินฐานะ หรือขาดการวางแผนทางการเงิน นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า หนี้ครัวเรือนที่เกิดจากการบริโภคเกินตัว ส่วนหนึ่ง มาจากแผนส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการที่ต้องขยายตลาดเพื่อสร้างผลกำไร ซึ่ง ธปท.ได้เริ่มเข้ามาดูแล สินเชื่อบุคคลและสินเชื่อรถยนต์แล้ว แม้จะช้าไปแต่จะช่วยสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจระยะยาว
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com

Big Data มีประโยชน์ต่อภาคธุรกิจมากกว่าที่คิด

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Big Data

ปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยี กำลังพาเราก้าวเข้าสู่โลกที่ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล ที่ถูกผลิตขึ้นในทุก ๆ วัน ซึ่งข้อมูลจำนวนมหาศาลดังกล่าวนี้ สามารถนำใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย หากนำไปศึกษา และวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ หากจะให้อธิบายอย่างง่าย ๆ Big Data คือ เทคโนโลยีของการวางแผนการจัดการทรัพยากรข้อมูลที่มีขนาดที่ใหญ่มาก (Volume) มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและรวดเร็ว (Velocity) มีรูปแบบที่หลากหลาย (Variety) และไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลที่สมบูรณ์เพื่อนำมาใช้ประกอบการพิจารณาได้ (Veracity) นั่นเอง แม้ว่าจะเข้าใจความหมายของมันแล้ว แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่เห็นภาพว่า Big Data นั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้ประโยชน์กับภาคธุรกิจได้อย่างไรกันแน่ เราจึงได้ยกตัวอย่างการนำ Big Data ไปวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์อนาคตสำหรับภาคธุรกิจ มาอธิบายให้ทุกคนทราบ เพื่อให้เห็นภาพกันง่ายขึ้น ดังนี้

● การวิเคราะห์ข้อมูล Big Data กับ Credit Scoring
Credit Scoring หรือคะแนนเครดิต คือ สิ่งที่ธนาคารใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ โดยนำข้อมูล Big Data ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการทำธุรกรรม ข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่าย ระดับรายได้มาวิเคราะห์ และหาความน่าจะเป็นในการชำระคืนหนี้ของผู้กู้ว่ามีความสามารถในการชำระหนี้ขนาดไหน เพื่อให้ธนาคารสามารถประเมินความเสี่ยงที่ชัดเจน ซึ่งการนำเอา Big Data มาคำนวณ Credit Scoring จะช่วยให้เกิดความแม่นยำมากขึ้น เนื่องจากเป็นการใช้โปรแกรมในการคำนวณผ่านสูตรคำนวณที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้ค่าคำตอบที่ดีที่สุดออกมา ซึ่งช่วยลดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ได้อย่างมาก

● การวิเคราะห์ข้อมูล Big Data กับ Maintenance Forecast
การพยากรณ์การซ่อมบำรุงรักษา เพื่อดูว่าเครื่องจักรตัวไหนกำลังจะเสีย หรือจะต้องซ่อมบำรุง โดยนำเอากล้อง หรือเซนเซอร์ไปจับที่เครื่องจักร และเก็บข้อมูลออกมาใน Big Data เช่น ความร้อน ความสั่นของเครื่องจักร เป็นต้น แล้วระบบคอมพิวเตอร์ก็จะวิเคราะห์ข้อมูลออกมา เพื่อบอกเราว่าเครื่องจักรเหล่านี้มีโอกาสเสียกี่เปอร์เซ็น จะเสียเมื่อไหร่ และจะต้องเปลี่ยนตอนไหน ซึ่งจะช่วยให้องค์กรไม่ต้องสต็อกอะไหล่มาเผื่อเป็นจำนวนมาก และช่วยให้องค์กรสามารถใช้เครื่องจักรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยป้องกันการเกิดเหตุขัดข้องของเครื่องจักร และยังเป็นการช่วยเซฟบุคลากร เนื่องจากไม่ต้องส่งคนเข้าไปตรวจสอบเครื่องจักร ลดการเสี่ยงอันตรายอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า “ข้อมูล” กลายเป็นขุมทรัพย์ที่สำคัญ ผลการวิเคราะห์จากข้อมูลเหล่านี้จะนำไปสู่การวางแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้ จึงทำให้ Big Data กลายเป็นกระแสที่หลายองค์กรทั่วโลก เริ่มหันมาให้ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่การลงทุนทำ Big Data นั้นมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ต้องใช้ทรัพยากร และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในระดับหนึ่ง

เราจึงมีทางเลือกที่น่าสนใจที่จะเข้ามาช่วยให้ทุกธุรกิจสามารถวิเคราะห์ Big Data ได้ โดยไม่ต้องลงทุนทรัพยากรเอง แต่ผ่านการเช่าใช้บริการแทน ซึ่งทางบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดให้บริการ แพลตฟอร์ม Big Data ภายใต้บริษัทในเครือชื่อ บริษัท อินเทลลิจิสต์ จำกัด สร้างแพลตฟอร์มที่มาช่วยในเรื่องของการจัดการข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาลให้สามารถแสดงออกมาในรูปแบบต่าง ๆ และยังช่วยเป็นพื้นฐานในการเก็บข้อมูลก่อนที่จะนำข้อมูลไปใช้งานต่อในโดยเฉพาะการทำในเรื่องของ AI หรือ Machine Learning พร้อมทั้งยังมีบริการฝึกอบรบหลักสูตรการบริหารจัดการข้อมูลอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก itnews24hrs.com


แพทย์แนะวิธีป้องกันโรคติดต่อทางอาหาร-น้ำ

แพทย์แนะวิธีป้องกันโรคติดต่อทางอาหาร-น้ำ thaihealth

แพทย์แนะรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และดื่มน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารที่ปรุงทิ้งไว้นานๆ และอาหารที่มีแมลงวันตอม

นายแพทย์ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กล่าวว่า เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง อาจเพิ่มความเสี่ยงก่อให้เกิดการระบาดของโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ ได้แก่1.โรคอุจจาระร่วง อาการสำคัญ คือ ถ่ายอุจจาระเหลว 3 ครั้งขึ้นไปใน 1 วัน ถ่ายเป็นน้ำจำนวนมากหรือถ่ายอุจจาระมีมูกปนเลือดอาจมีไข้หรืออาเจียนร่วมด้วย 2.โรคอาหารเป็นพิษ อาการที่สำคัญ ได้แก่ มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อ่อนเพลีย และอาจมีถ่ายเหลวร่วมด้วย 3.โรคบิด เกิดจากการรับประทานอาหารผักดิบ หรือน้ำดื่มที่มีเชื้อบิดปนเปื้อนเข้าไป อาการสำคัญ คือ มีไข้ปวดท้องแบบปวดเบ่ง ถ่ายอุจจาระบ่อย มีมูก หรือมูกปนเลือด 4.โรคอหิวาตกโรค อาการที่สำคัญ คือ ถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำซาวข้าวคราวละมากๆ โดยไม่มีอาการปวดท้อง ผู้ป่วยจะอาเจียน กระหายน้ำ กระสับกระส่าย อ่อนเพลีย 5.โรคไข้ไทฟอยด์หรือโรคไข้รากสาดน้อย อาการที่สำคัญ คือ มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย เบื่ออาหาร อาจมีอาการท้องอืดหรือท้องเสียได้

ผู้ป่วยและผู้ที่เป็นพาหะโรคไข้ไทฟอยด์ ควรหลีกเลี่ยงการประกอบอาหาร เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระบาดของโรค 6.โรคที่เกิดกับสัตว์เลี้ยงในช่วงฤดูร้อน ได้แก่ โรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำ ซึ่งอาจเกิดกับสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว ลิง ชะนี กระรอก กระแตเป็นต้น 7.โรคลมแดด (Heat Stroke) เกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป อาการที่สำคัญ ได้แก่ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ไม่มีเหงื่อออก กระหายน้ำมาก ตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ ความดันโลหิตต่ำ

สำนักอนามัยขอเชิญชวนประชาชนร่วมป้องกันโรค โดยการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และดื่มน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารที่ปรุงทิ้งไว้นานๆ และอาหารที่มีแมลงวันตอมควรใช้ฝาชีครอบอาหาร หรือใส่ตู้กับข้าวให้มิดชิด ล้างผัก และผลไม้หลายๆ ครั้ง ล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารหรือปรุงอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ

          สำหรับโรคที่เกิดกับสัตว์เลี้ยง ควรเฝ้าระวังและป้องกัน ด้วยการนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างน้อยปีละครั้ง ระวังบุตรหลาน ไม่ให้เล่นคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เมื่อถูกสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัด ให้รีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อและรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีน

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,350.00 19,450.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,253.00 18,995.48 19,950.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,127.70 17,095.93 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,002.40 15,196.38 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 564.00 8,550.24 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 439.00 6,655.24 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,298.00 19,677.68 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 07/03/2562

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 27.95 27.95 27.95 27.95 27.95 27.95 27.95 27.95 27.95 27.95
แก๊สโซฮอล์ 91 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68
แก๊สโซฮอล์ E20 24.94 24.94 25.34 24.94 24.94 24.94 24.94 24.94 24.94
แก๊สโซฮอล์ E85 20.14 20.14 20.14
เบนซิน 95 35.36 35.81 35.86 35.66 35.66
ดีเซล 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29
ดีเซลพรีเมี่ยม 30.89 31.16 31.35 31.35 31.35
แก๊ส NGV 16.44 27.29
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า