เปิดเพนต์เฮาส์ แพงสุด 530 ล้าน ริมเจ้าพระยา
ตลาดคอนโดฯหรูซูเปอร์ลักชัวรี ยืนเหนือมาตรการ LTV โครงการเดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โกยยอดขายสูงถึง 80% ทำสถิติห้องชุดพักอาศัยแพงที่สุดบนริมแม่นํ้าเจ้าพระยา กว่า 530 ล้านบาท
ปี 2562 ถือเป็นปีที่ตลาดคอนโดมิเนียมถูกยาแรงมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย ดับพิษเก็งกำไร ที่ผลักดันให้ตลาดขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะกลุ่มราคา 2-3 ล้านบาทซึ่งเป็นตลาดใหญ่ในปีนี้ค่อนข้างลดความร้อนแรงอย่างเห็นได้ชัด แต่สำหรับกลุ่มซูเปอร์ลักชัวรียังมีโครงการเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง สวนทางเศรษฐกิจไม่ดี หนี้ครัวเรือนสูง
ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย รายงานมีคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ (ราคาขายเฉลี่ยของโครงการมากกว่า 250,000 บาท/ตร.ม.) เปิดขายใหม่ประมาณ 2,150 ยูนิต หรือคิดเป็น 11.9% ของตลาดที่เปิดใหม่รวม 13,650 ยูนิต เป็นฐานลูกค้าที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบที่เข้ามากระทบตลาดในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับโครงการระดับไฮเอนด์ที่เปิดขายมี สโคป หลังสวน ราคาขายเฉลี่ย 4.57 แสนบาทต่อตร.ม. สูงที่สุดในตลาด รองลงมา ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ ราคาขายเฉลี่ย 3.8 แสนบาทต่อตร.ม. และดิ แอดเดรส สยาม-ราชเทวี ราคาขายเฉลี่ย 2.7 แสนบาทต่อตร.ม.
ในส่วนโครงการคอนโด มิเนียมหรู ระดับราคาขายสูงกว่า 3 แสนบาทต่อตร.ม.ที่สร้างเสร็จพร้อมโอน จากการสำรวจของ “ฐานเศรษฐกิจ” พบว่ามี โครงการ 98 ไวร์เลส, เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ, เดอะริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนซ์ และโฟร์ ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ในกลุ่มนี้นอกจาก 98 ไวร์เลส แล้ว เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เป็นอีกโครงการที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อสูง มียอดขายสูงถึง 85%
นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ ประธานผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจงานอสังหาริมทรัพย์และบริการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า จุดเด่นและจุดแข็งของโครงการเดอะเรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ คือ ทำเลศักยภาพ อยู่ติดแม่นํ้าเจ้าพระยา และตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมืองไอคอนสยาม กับการจับมือเป็นพันธมิตรกับแมนดาริน โอเรียนเต็ล โฮเต็ล กรุ๊ป พร้อมกับใช้แบรนด์ แมนดาริน โอเรียนเต็ล บนชื่อโครงการ ยกระดับโครงการเป็นเรสิเดนซ์หรูมาตรฐานระดับสากล ภายใต้การบริหารงานของแมนดาริน โอเรียนเต็ลฯ ลำดับที่ 7 ของโลก
ปัจจุบันราคาขายเฉลี่ย 5.5 แสนบาทต่อตร.ม. ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ และราคาสูงสุด 7.5 แสนบาทต่อตร.ม. กลุ่มลูกค้าเป็นเจ้าของกิจการที่กำลังมองหาห้องชุดที่มีความโดดเด่น เอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญเป็นทำเลหาได้ค่อนข้างยากในตลาด อาทิ ริมแม่นํ้าเจ้าพระยา คอนเซ็ปต์ เป็นเมืองในเมือง ซึ่งไอคอนสยามถือว่าเป็นเมือง มีทั้งศูนย์ค้าปลีก นอกจากนั้นโครงการนี้กรรมสิทธิ์แบบฟรีโฮลด์ อีกส่วนเป็นลูกค้าต่างชาติที่อยากได้บ้านหลังที่สองในต่างประเทศ นอกเหนือจากลงทุน สำหรับลูกค้าจีนและฮ่องกงมีสัดส่วนประมาณ 20% จากสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ 40%
“ตั้งแต่เปิดพรีเซล จนถึงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 15-20% ราคาปัจจุบัน 5.5-7.5 แสนบาทต่อตร.ม.”
นายคีรินทร์ กล่าวว่า ห้องชุดที่เหลือ 15% ถือว่าไม่มาก เชื่อว่าน่าจะปิดการขายได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยมีลูกค้าที่รอเข้าชมจำนวนมาก ขณะนี้มีห้องตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ขึ้นกับความต้องการของลูกค้า สามารถปรับเปลี่ยนให้ได้ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งทุกห้องจะเห็นวิวแม่นํ้าเจ้าพระยา
นอกจากทำเล พันธมิตรระดับโลกแล้ว โครงการ เดอะเรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ยังดึง จอยซ์ แวง ดีไซเนอร์ชาวฮ่องกงเจ้าของรางวัลระดับโลก ออกแบบตกแต่งภายใน สร้างนิยามการพักอาศัยที่หรูหรา ผ่านการตีความการออกแบบแนวใหม่ ร่วมกับการใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ออกแบบมาเฉพาะ สำหรับโครงการแบบลิมิเต็ดอิดิชัน และผลิตโดยช่างฝีมือชั้นสูงอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้โครงการมีภาพลักษณ์ที่สวยงาม และพิเศษไม่ซํ้ากับโครงการใด
“ผมมั่นใจว่าถ้าใครที่สนใจซูเปอร์ลักชัวรี คอนโดฯ เราก็จะเป็นตัวเลือกลำดับแรกๆ เพราะเดอะเรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ พร้อมทุกอย่าง” นายคีรินทร์กล่าว
ทั้งนี้ ทำเลริมแม่นํ้าเจ้าพระยา เป็นอีกทำเลที่มีโครงการห้องชุดพักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี และที่ตั้งของ โรงแรมระดับ 5 ดาว อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองไทย อาทิ พระราชวัง วัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์ ทำเลนี้เป็นที่ตั้งของคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีและไฮเอนด์ โดยมีโครงการเดอะเรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล ที่พัฒนาโดย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ราคาขายสูงถึงตารางเมตรละ 750,000 บาท หรือราคาขายต่อยูนิตที่สูงสุดที่ 450 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
รับเหมาชิงเค้กแสนล. อานิสงส์ บิ๊กโปรเจ็กต์รัฐ
ยักษ์รับเหมาชิงเค้กเมกะโปรเจ็กต์แสนล้าน นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ดึงนวัตกรรมเสริมแก้เหล็ก-วัสดุ-แรงงานขาดแคลน ด้าน รมช.คมนาคม “ถาวร เสนเนียม” ยันเอกชนได้อานิสงส์โครมใหญ่ ทั้ง 10 สนามบิน -ไฮสปีด-ทางด่วน
นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ เผยว่า มูลค่าของอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี ในฐานะสมาคมเราไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาวงการดังกล่าวด้วยการกระจายงานและสร้างการจ้างงานที่มีคุณภาพ พร้อมกับส่งเสริมการนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการก่อสร้าง อาทิ การนำเอาเทคโนโลยี BIM มาปรับใช้ ด้านทิศทางในปีนี้คาดว่าจะเติบโตโดยมีปัจจัยบวกมาจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของภาครัฐและคอนโดมิเนียมตามแนวระนาบรถไฟฟ้า
ทั้งนี้ในส่วนของสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯยังเล็งเห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่พร้อมจะเร่งดำเนินการ อาทิ การขาดแคลนแรงงาน จึงมีความจำเป็นที่จะเร่งหาเข้ามาเสริมพร้อมกับเพิ่มทักษะเพื่อสร้างศักยภาพให้กับแรงงาน ด้านวัสดุก่อสร้างส่วนที่สำคัญและน่าจับตามอง คือ เหล็กไทยที่กำลังมีปัญหาในขณะนี้ ขณะเดียวกันทางสมาคมได้ส่งเสริมให้ตัวแทนผู้ผลิตคิดค้นวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย
“ดูเหมือนว่าภาพรวมของการก่อสร้างในไทยยังมีสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะการลงทุนภายในประเทศ คาดว่าจะเพิ่มโอกาสให้กับผู้รับเหมา ขณะเดียวกันด้านวัสดุก่อสร้างหลากหลายองค์กรมองหาโซลูชันและคิดค้นสินค้าใหม่ๆออกมาโดยเฉพาะเทรนด์รักษ์โลก อาทิ การวางเป้าจัดการของเสียในกระบวนการก่อสร้างจากทางเอสซีจี เป็นต้น และอีกมิติที่สำคัญและคาดว่าจะเข้มข้นโดยส่งผลให้อุตสาหกรรมก่อสร้างนี้เติบโตต่อไปอย่างแน่นอน คือ การลงทุนในพื้นที่ต่างๆของ EEC”
สำหรับทิศทางอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในปี 2562 แนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น 6.5% จากปี 2561 แบ่งเป็นแรงส่งจากภาครัฐ 9% และเอกชน 3.5% การก่อสร้างจากภาครัฐ ที่คาดว่าเติบโตราว 9% นั้นคิดเป็นมูลค่า 8.15 แสนล้านบาท โครงการที่มาจากทางภาครัฐ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ อาทิ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) ทางด่วนพระราม 3 ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก และรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ -หนองคาย ขณะการก่อสร้างจากภาคเอกชนที่คาดว่าเติบโต 3.5% หรือคิดเป็น 5.6 แสนล้านบาท มีผลมาจากคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า โครงการที่น่าสนใจจากภาคเอกชน โครงการ วันแบงค็อก, เดอะฟอเรสเทียร์ และ แบงค็อก มอลล์ เป็นต้น
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยว่า เอกชนจะได้รับอานิสงส์ จากการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ เนื่องจากขณะนี้ ภาครัฐให้ความสำคัญกับโครง สร้างพื้นฐานเพราะจำเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศทั้งการเดินทางและการขนส่งสินค้า ฉะนั้นทางกระทรวงคมนาคมเราจึงมุ่งเน้น ในเรื่องการจัดงบประมาณ การก่อสร้างทางราง ทางนํ้า และทางอากาศ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รถไฟฟ้าสายสีส้ม ค.ร.ม.ได้ลงมติเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ในอนาคตยังมีอีกหลากหลายโครงการ ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC, มอเตอร์เวย์สายต่างๆ รถไฟรางคู่
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น การขนส่งทางอากาศ จะก่อสร้างเฟส 2 สนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งการก่อสร้างเพื่อรองรับการขยายตัวทางอากาศที่มีความแออัด ทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ โดยอาจจะเป็นสนามบินแห่งที่ 3 ของกรุงเทพฯ นอกจากนั้น สนามบินเชียงใหม่มีความแออัดอาจจะสร้าง สนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 หรือแม้แต่ภูเก็ตขณะนี้ค่อนข้างแออัดเช่นกัน ส่วนการก่อสร้างในภูมิภาคที่จะเชื่อมโลกเชื่อมไทยสู่เมืองรอง บริการด้วยใจ และหรือได้มาตรฐานครอบคลุมทุกพื้นที่ จากนี้ปี 2561-2567 รัฐบาลได้มีโครงการที่จะขยายสนามบินในภูมิภาค โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ 10 สนามบิน ด้านทางนํ้ามีการก่อสร้างท่าเรือแห่งที่ 2 โดยจะเน้นรการขนส่งทางนํ้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นคาดว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างยังเติบโตอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ความคืบหน้าสงครามการค้าจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้
คอลัมน์ มันนี่วีก (Money week) โดย…วรันธร ภู่ทอง, มนัสวิน ฐิติสมบูรณ์ สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย
สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยมองว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 30.40-30.70 ความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จากการพบปะระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างวันที่ 10-11 ตุลาคมจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวค่าเงินสัปดาห์นี้ ซึ่งหากการเจรจาไม่บรรลุผลอย่างที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้านี้ จะส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยสูงขึ้น รวมถึงค่าเงินบาท ด้านสัญญาณความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาจากผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯ-จีน เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดเริ่มเพิ่มการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในการประชุมเดือนนี้ ซึ่งหากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์ที่ออกมาย่ำแย่กว่าคาด จะยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด และส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทผันผวนสูง โดยในช่วงต้นสัปดาห์ เงินบาทอ่อนค่าอย่าวรวดเร็วและแตะระดับสูงสุดที่เกือบ 30.69 ในช่วงท้ายของวันจันทร์ก่อน ตามทิศทางของเงินเยนที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม หลังจากธนาคาแห่งประเทศไทยรายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูงขึ้นกว่าที่ตลาดคาดในเดือนสิงหาคมที่ 3,990 ล้านดอลลาร์สหรัฐก็ทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าลงบ้าง แม้ว่าในรายละเอียดแล้ว ดุลการค้าที่เกินดุลสูงมาจากการนำเข้าจะอ่อนแอลงมากขณะที่การส่งออกหดตัวต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ประเด็นความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกกลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาในสัปดาห์นี้อ่อนแอลงมากทั้งหมด ประกอบด้วย