ปั้นคอนโดหรูกลางกรุง ‘พาร์ค ออริจิ้น’ ชูแนวคิดสมดุลการอยู่อาศัยยุคใหม่
“ออริจิ้น” ชูจุดต่างแนวคิดพัฒนาคอนโดหรู ปั้นแบรนด์ “พาร์ค ออริจิ้น” ผุดคอนโดกลางเมืองที่สร้างสมดุลการอยู่อาศัย ผสานธรรมชาติ เทคโนโลยี และสังคมคุณภาพในอาณาจักรมิกซ์ยูส ภายใต้แนวคิด A Perfect Living Platform
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทเล็งเห็นถึงปัญหาหลักอย่างหนึ่งของการพัฒนาเมือง คือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง จึงต้องการที่จะตอบแทนสังคม ตลอดจนผู้บริโภค ด้วยการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็รักษาพื้นที่สีเขียวไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
“วันนี้เราเติบโตขึ้นมาจนกลายเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บริษัทหนึ่งของตลาด และเรามีความสามารถเพียงพอที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรับผิดชอบสังคมอย่างดีที่สุด ในโอกาสการเพิ่มเซ็กเมนต์โครงการของออริจิ้น เข้าสู่ตลาดระดับลักชัวรี่อย่างเต็มรูปแบบ เราได้พัฒนาแบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น ให้เป็นแบรนด์คอนโดหรูใจกลางเมือง ที่คำนึงถึงการสร้างความสมดุลระหว่างธรรมชาติกับองค์ประกอบอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ภายใต้แนวคิด A Perfect Living Platform” นายพีระพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ ออริจิ้น มีความมุ่งมั่นในการก้าวข้ามการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบเดิมๆ แนวคิด A Perfect Living Platform ของแบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) จึงเป็นการสร้างรูปแบบการอยู่อาศัย ที่เข้าใจและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองอย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านการผสาน 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1.เทคโนโลยี โดยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาเพื่อยกระดับการใช้ชีวิต และเชื่อมต่อกับระบบการสื่อสารไร้สายบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เรียกว่า Internet of Things หรือ IOT 2.ชุมชน ที่ตอบโจทย์ทุกมิติในการใช้ชีวิตบนพื้นที่ที่เป็น “มากกว่าที่อยู่อาศัย” โดยมอบสิทธิประโยชน์และบริการอย่างครบวงจร เพื่อรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตบนทำเลใจกลางเมือง และ 3. ธรรมชาติ โดยการออกแบบที่ผสานสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย กับธรรมชาติอย่างลงตัว สร้างแหล่งออกซิเจนแห่งใหม่สำหรับคนเมือง เช่น อาคารรูปแบบใหม่ แนวคิด “Vertical Garden” ที่แตกต่างด้วยการสร้างสรรค์พื้นที่สีเขียวในการเล่นระดับเเป็นขั้นบันไดถึง 1,500 ขั้น ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญในการใช้ชีวิตกับธรรมชาติมากขึ้น
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการสร้างที่อยู่อาศัยให้เกิดคุณค่าสูงสุด บริษัทจึงร่วมกับนายธนญชัย ศรศรีวิชัย หรือ ต่อ ผู้กำกับโฆษณาระดับท็อปของวงการ จากบริษัท ฟีโนมีนา จำกัด สร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาสะท้อนภาพของแบรนด์พาร์ค ออริจิ้น ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย สร้างสมดุลการใช้ชีวิตของคนเมืองอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการรักษาธรรมชาติ เพื่อเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์แบบกับทำเลใจกลางเมือง และสามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีคุณภาพ
ขณะเดียวกัน บริษัทจะร่วมมือกับพันธมิตรในการสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับกรุงเทพฯและท้องถิ่นต่างๆ ด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่มอย่างน้อย 1 ต้นต่อที่อยู่อาศัย 1 ยูนิตที่เปิดขายใหม่ หรือคิดเป็นปีละราว 10,000 ต้น เพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจน ทดแทนธรรมชาติที่ลดลงจากการพัฒนาเมือง กระตุ้นภาคธุรกิจในการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับสังคม
เบื้องต้น จะมอบต้นทองอุไรให้แก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 2,200 ต้น ตามจำนวนยูนิตเปิดใหม่ของโครงการคอนโดมิเนียมหรูแบรนด์พาร์ค ออริจิ้น 3 ทำเล รวม 2,200 ยูนิต เพื่อให้ กทม.นำไปปลูกในพื้นที่ 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ
โครงการภายใต้แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น จะพัฒนาขึ้นใน 3 ทำเลใจกลางเมือง ได้แก่ 1.พาร์ค ออริจิ้น พญาไท 2.พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ และ 3.พาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงศ์ โดยทั้ง 3 โครงการ จะเปิดให้ Register ได้ภายในงาน My Life My Origin งานอีเวนท์ใหญ่ประจำปีของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ในวันที่ 8-9 ก.ย. นี้ ณ ศูนย์การค้าสยาม พารากอน
ด้านนายจุลพร นันทพานิช สถาปนิกและอาจารย์พิเศษคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า หัวใจสำคัญของสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกับธรรมชาติ คือ ความรู้ที่ครอบคลุม ต้องรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เช่น การสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมให้ที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะในเมืองหรือชนบทก็สามารถสร้างระบบนิเวศธรรมชาติที่ช่วยให้การอยู่อาศัยสบายขึ้นได้ ภูมิปัญญาสถาปัตยกรรมเอเชียจะเน้นให้บ้านเป็นสถานที่ที่เย็นตา อยู่แล้วเย็นกายและเย็นใจ นำหลักคิดเหล่านี้มาใช้ในงานร่วมสมัย
สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Project Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วประมาณ 52 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 65,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com
ออลล์ อินสไปร์ฯ จัดงาน “Mid Year Equity Pulse Check 2018”
คุณธนากร ธนวริทธิ์ (ที่สามจากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จัดงาน “Mid Year Equity Pulse Check 2018” ดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าพันธมิตรธุรกิจ พร้อมจัดสัมมนาหัวข้อ “Global Equities Outlook” โดยได้รับเกียรติจาก คุณบุญ ยงสกุล (กลาง) นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต ภายในงานยังมี คุณชาญชัย งามวิถี (ที่สามจากซ้าย) รองประธานกรรมการ บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด คุณภาณุพงค์ กริชจนรัช (ที่สองจากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โบ๊ท พัฒนา จำกัด ซึ่งภายในงานถือเป็นโอกาสดีในการเปิดตัวโครงการ อิมเพรสชั่น ภูเก็ต เฟสใหม่ โครงการลักชัวรี่ เรสซิเดนซ์ ให้กับนักลงทุน
ที่มา : http://prop2morrow.com
จาก ‘ตึกแถว’ … ลาม ‘ตลาดนัด’
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า วันนี้จะมาถึง “ยุคราคาที่ดินแพง” ตารางวาละกว่า 3 ล้านบาท ‘ย่านเพลินจิต’ ไข่แดงศูนย์กลางธุรกิจ ที่ดินหายาก พูดง่าย ๆ ทุกตารางเซนต์มีค่า แม้ที่ตั้งศาลพระภูมิยังถูกเปลี่ยนไว้บนดาดฟ้า หักความเชื่อคนรุ่นเก่า เดินเล่นเพลิน ๆ หลายพื้นที่แปลกตา ไม่ต่างจากฮ่องกง-สิงคโปร์ ตึกสูงเสียดฟ้าขึ้นแทนที่คนเก่า ๆ เริ่มหายหน้ามีคนรุ่นใหม่แทรกตัวเข้ามา พร้อมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตโลดแล่นไปตามเส้นทางรถไฟฟ้า ย้อนไปก่อนหน้านี้ โรงหนังรุ่นเก่า แบบสแตนด์อะโลน ทั่วกรุงถูกช็อปจนสูญพันธุ์ ทำเลสุขุมวิทเหลือเพียงหนึ่งเดียว คือ โรงหนังอุดมสุข แต่กำลังบอกขาย ©SoiDB ขณะที่ ทำเลไหนรถไฟฟ้าผ่าน ร้านชำ บ้านโบราณ ตึกแถว เก่าเริ่มบางตา กลายเป็นตึกสูงคอมเพล็กซ์ใหญ่ ล่าสุด ถึงคิวตลาดสดโบราณ ถูกหมายตาอย่างจัง เนื่องจากหลายทำเล มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน ล้อมด้วยชุมชนใหญ่ สร้างมูลค่ามหาศาลให้กับเจ้าของที่ดิน หากทำเลนั้น คือ คอนโดฯไฮไลต์ เพราะ 1.สิ่งปลูกสร้างไม่มาก 2.บอกเลิกสัญญาง่าย ปัจจุบัน เจ้าของตลาดหัวหมอต่อสัญญาปีต่อปี 3.ผู้ค้าเปลี่ยนรูปแบบขึ้นห้าง มุ่งตลาดออนไลน์ 4.ตลาดนัด-ตลาดสด ไม่ใช่แนวคนรุ่นใหม่ ที่ฮือฮา บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซื้อตลาดสดบางจาก ตลาดดังเก่าแก่ชื่อดังย่านพระโขนงของตระกูลสุคนธชาติ เนื้อที่ 8 ไร่ ซึ่งมีทั้งพื้นที่ว่างและอาคารพาณิชย์ 200-300 คูหา มูลค่า 1,200 ล้านบาท ราคา 4 แสนบาทต่อตารางเมตร จากเดิมราคาเพียง 7-8 หมื่นบาทต่อตารางวา ขึ้นคอนโดมิเนียมสูงปรี๊ด ติดสถานีบีทีเอสบางจากศูนย์เมตร ไม่หลงเหลือกลิ่นอายตลาดสดให้เห็นราคาเริ่มต้นกว่า 6 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มมูลค่าขึ้นมาทันที เช่นเดียวกับ ตลาดนีออน ซึ่งอยู่ติดกับซอยนีออน ย่านพระโขนง ได้ปิดตำนานไปแล้ว เมื่อค่ายแสนสิริซื้อขึ้นคอนโดมิเนียมหรู จับกลุ่มคนทำงาน ตลาดพระโขนง ที่ดินแปลงใหญ่ 7-8 ไร่ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 300 เมตร แม้ทำเลดี แต่ยังไม่มีใครทาบซื้อ เนื่องจากราคาบอกขายสูงเกินจริง 1.3 ล้านบาทต่อตารางเมตร ©SoiDB อีกทำเลตลาดบางนา ด้านหลังโรงหนังอุดมสุข เจ้าของจะขายตารางวาละ 4-5 แสนบาท แต่ติดปัญหามีอาคารพาณิชย์ โรงหนัง ต้องใช้ทางเข้าออกร่วมกัน แต่หากยุติปัญหา ซื้อยกเวิ้ง ทั้งโรงหนัง ตลาด และอาคารพาณิชย์ มองว่า “คุ้มค่าแน่” ข้ามฝั่ง ส่วนต่อขยายบีทีเอส ตลาดเทพารักษ์ ตลาดสำโรง มีผู้ประกอบการหมายตา แต่ต้องรอรุ่นลูกหลาน ขณะฝั่งสีลม สาทร บางรัก มีตลาดสดเก่าแก่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางความเจริญ ล่าสุด ทุนใหญ่คว้าไปครองหมดแล้ว ข้ามฝั่งมาตลาดบางกะปิ ตลาดใหญ่เก่าแก่ กรุงเทพมหานคร ระบุว่า แนวโน้มคนรุ่นเก่าต้องขยับออกไปชานเมือง และต่อไปจะมีการปรับโฉมเป็นย่านพาณิชยกรรมแห่งใหม่ เนื่องจากมีจุดตัดรถไฟฟ้าถึง 2 สาย มาบรรจบกัน ได้แก่ สายสีส้มและสายสีเหลือง ที่สถานีลำสาลี ราคาที่ดินจาก 1-2 แสนบาทต่อตารางวา แนวโน้มขยับเป็น 3-5 แสนบาทต่อตารางวา ในอนาคต รวมถึงตลาดโชคชัย 4 ที่อนาคตจะกลายเป็นตึกสูง เชื่อว่า ตลาดสดในทุกทำเลจะหายากขึ้น กลายเป็นตึกสูง พาณิชยกรรมขนาดใหญ่สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงตามที่ควรจะเป็น ขอบคุณข้อมูลจาก
ที่มา : www.thansettakij.com
รู้แล้วรอด!! SOS ช่องทาง ‘ขอความช่วยเหลือ’ ยามฉุกเฉิน ผ่านมือถือ
โดยเฉพาะในแฮชแท็ก #น้องหญิง ที่โลกโซเชียลต่างออกมาแชร์ “วิธีข้อความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน” ผ่าน “โทรศัพท์มือถือ” เป็นอุปกรณ์ที่ทุกคนพกติดตัวเสมอ อาทิ
ผู้ที่ใช้มือถือ Samsung Galaxy สามารถระบุเบอร์ฉุกเฉินได้ทั้งหมด 4 เบอร์ หากตกอยู่ในอันตราย ให้กดปุ่มเปิด-ปิดหน้าจอติดกัน 3 ครั้ง ข้อความและตำแหน่ง GPS จะถูกส่งไปยังเบอร์ฉุกเฉินที่ระบุไว้ทันที โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้ที่ ตั้งค่า > คุณบัติขั้นสูง > เปิด ส่งข้อความฉุกเฉิน
ขณะที่ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 11 ขึ้นไป สามารถตั้งค่า การส่งข้อความฉุกเฉิน (Emergency SOS) ได้เช่นเดียวกัน โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า > SOS ฉุกเฉิน เพื่อระบุรายชื่อติดต่อฉุกเฉิน เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินให้กดปุ่มล็อกมือถือติดๆ กัน 5 ครั้ง ข้อความ SOS และตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันจะถูกส่งไปยังรายชื่อที่ระบุไว้อัตโนมัติ
นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชั่น “Police i lert u” โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำหรับประชาชนทั่วประเทศที่สามารถกดขอความช่วยเหลือจากตำรวจได้โดยการส่งข้อมูลส่วนตัว ภาพถ่าย เวลาเกิดเหตุ และตำแหน่งที่เกิดเหตุ ไปยัง War Room ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยรับเรื่องตลอดเวลา 24 ชั่วโมง สามารถโหลดใช้ได้ทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ แอนดรอยน์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เมื่อมีเทคโนโลยีอยู่ในมือก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์
“โรคกระดูกพรุน” ดูแลตัวเองลดเสี่ยง-รักษาได้
ศาสตราจารย์ พ.อ.(พิเศษ) ดร.นพ.ทวี ทรงพัฒนาศิลป์ ประธานมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในแต่ละปีมีผู้ป่วยที่กระดูกสะโพกหักต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐสูงถึง 200,000-300,000 ราย และต้องใช้เวลาในการนอนโรงพยาบาลเฉลี่ย 22.7 วัน
กระดูกในร่างกายคนเรามีทั้งหมด 206 ชิ้น กระดูกสามารถปรับตัว เปลี่ยนแปลง และเติบโตได้ตามอายุ มีหน้าที่สำคัญในการเป็นแกนหลักในการยึดเกาะของเอ็นกล้ามเนื้อต่างๆ ทำให้ร่างกายเคลื่อนที่เคลื่อนไหวได้ และทำหน้าที่เป็นส่วนแข็งปกป้องอวัยวะภายใน
รวมทั้งเป็นแหล่งสะสมของแคลเซียมและฟอสฟอรัส อันเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในการทำงานของเนื้อเยื่อและอวัยวะสำคัญหลายอย่างในร่างกาย และแคลเซียมยังเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้กระดูกมีความแข็ง ทำให้กระดูกจำเป็นที่ต้องการแคลเซียมเพื่อการทำงานตามหน้าที่ที่ดี
ทั้งนี้มีกรณีตัวอย่างของผู้หญิงอายุ 65 ปี คนหนึ่งมาพบแพทย์ด้วยอาการกระดูกสันหลังหักยุบ ร่วมกับมีอาการปวดหลัง ซึ่งเป็นสัญญาณบอกเหตุของโรคกระดูกพรุน ถ้าหากแพทย์ให้ความสนใจแค่การให้ยาระงับปวดมารับประทาน แต่ไม่ได้ดูแลรักษาเรื่องโรคกระดูกพรุน หลังจากผ่านไป 4 ปี ผู้ป่วยคนนี้ก็กลับมาหาเราด้วยกระดูกสะโพกหักเนื่องจากล้ม ซึ่งถือว่าเป็นภาวะกระดูกหักซ้ำ ซึ่งมีโอกาสที่จะเสียชีวิตได้ประมาณ 20-25%ผู้ป่วยคนนี้มีความเสี่ยงสูงอยู่แล้วตั้งแต่กระดูกสันหลังหักยุบ เนื่องจากไม่ได้รับการรักษาตามแนวทางที่ถูกต้องตั้งแต่แรก “อย่าลืมว่าการผ่าตัดดามกระดูกที่หักหรือการเปลี่ยนข้อเทียมใดๆ ไม่สามารถรักษาโรคกระดูกพรุนหรือลดความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกหักที่ตำแหน่งอื่นๆ ได้”
ในปัจจุบันหลายคนยังเข้าใจว่า กระดูกพรุนเป็นเรื่องของโรคคนชรา ไม่มีทางรักษาได้ ในปัจจุบันทางการแพทย์ถือว่าโรคกระดูกพรุนสามารถรักษาได้ ถึงแม้จะทำให้หายขาดไปเลยไม่ได้ แต่สามารถลดความเสี่ยงหรือโอกาสที่จะเกิดกระดูกหักได้ โดยการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการป้องกัน การให้รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงและให้ได้รับวิตามินดีที่เพียงพอ รวมทั้งการออกกำลังกายที่เหมาะสม และถ้าจำเป็นเราสามารถใช้ยาบางอย่างในการช่วยเพิ่มมวลกระดูกและลดความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักได้
ด้าน รศ.พญ.วิไล คุปต์นิรัติศัยกุล ประธานชมรมรักษ์กระดูก กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงสำคัญอันหนึ่งของโรคกระดูกพรุน คือ อายุมากขึ้น และผู้หญิงเป็นได้ง่ายกว่าผู้ชาย บางคนมีประวัติกระดูกหักมาก่อน มีประวัติการผ่าตัด ที่รังไข่ การขาดประจำเดือนเป็นเวลานาน มีการใช้ยา สเตียรอยด์ บริโภคแคลเซียมน้อยกว่า 400 มิลลิกรัม และขาดการออกกำลังกาย
สำหรับแนวทางการรักษาโรคกระดูกพรุน ปัจจุบันมียากระตุ้นการสร้างกระดูกใหม่ และยายับยั้งการสลายกระดูก ทำให้ผู้ป่วยมีมวลกระดูกเพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ตามแพทย์จะมุ่งเน้นการป้องกันการเกิดโรค คือ ให้ผู้สูงวัยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หมั่นออกกำลังกายตามความเหมาะสม รับแสงแดดอ่อนๆ เป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีที่เพียงพอ แต่ไม่ใช่ไปหาซื้อยา รับประทานโดยไม่ปรึกษาแพทย์
อาหารที่ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ กาแฟ น้ำอัดลม อาหารรสเค็มจัด และรับประทานโปรตีนมากเกินพอดี เพราะจะไปทำให้เกิดการขับแคลเซียม ออกจากร่างกายมากเกินไป
ที่มา : https://www.khaosod.co.th
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 7 สิงหาคม 2561
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 19,150.00 | 19,050.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 19,650.00 | 18,707.44 | 1,234.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 19,389.64 | 1,279.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 16,836.70 | 1,110.60 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 14,965.95 | 987.20 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,413.80 | 555.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,549.12 | 432.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 7 สิงหาคม 2561
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 29.65 | 29.65 | 29.85 | 29.65 | 29.65 | 29.65 | 29.65 | 29.65 | 29.65 | 29.65 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 29.38 | 29.38 | 29.58 | 29.38 | 29.38 | 29.38 | 29.38 | 29.38 | 29.38 | 29.38 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 26.74 | 26.74 | 26.74 | 26.74 | 26.74 | – | 26.74 | 26.74 | 26.74 | 26.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 21.14 | 21.14 | – | – | – | – | – | 21.14 | 21.14 | – |
เบนซิน 95 | 36.76 | – | – | – | 37.21 | – | 37.26 | 36.96 | 36.86 | 36.96 |
ดีเซล | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 | 29.09 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 32.09 | 32.96 | 32.96 | 32.96 | 32.96 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 14.29 | 14.29 | – | – | – | – | – | – | – | – |