สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 8 มิถุนายน 2560

โอกาสทองสอยอสังหาฯ “ลอนดอน” ชี้ดอกเบี้ยต่ำสุดในรอบปี

โอกาสทองสอยอสังหาฯ “ลอนดอน” ชี้ดอกเบี้ยต่ำสุดในรอบปี

นายหน้าค้าอสังหาฯ “เทเลอร์วิมพีย์” ร่วมกับ คอลลิเออร์ส ขนอสังหาฯใจกลางเมืองลอนแร่ขายเศรษฐีไทย เผยราคาอสังหาฯในลอนดอนถูก แถมอัตราดอกเบี้ยปรับตัวต่ำสุดในรอบปีชี้โอกาสทองของนักลงทุนไทย

นาย ริชาร์ด สคีน ผู้อำนวยการ ฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ และ การลงทุน ระหว่างประเทศ บริษัท คอลลิเออร์ อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย กล่าวถึงช่วงนี้ถือส่าเป็นจังหวะและโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการซื้ออสังหาฯในเมืองลอนดอน ทั้งนี้จากสถานการณ์ เบร็กซิท ทำให้อัตราราคาอสังหาริมทรัพย์ถูกลง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยก็ปรับลดลงไปที่ 0.25 % (ดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้น) เหมาะแก่การซื้อเพื่ออยู่อาศัยสำหรับคนไทยที่พักอาศัยเพื่อการศึกษาในสหราชอาณาจักรอีกด้วย

แม้ว่าในเมืองลอนดอนจะมีการเหตุการก่อการร้ายก็ตาม แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบเศรษฐกิจและการลงทุน ประกอบกับสหราชอาณาจักรมีความยืดหยุ่นเรื่องของการถือครองกรรมสิทธิ์ อีกทั้งเรื่องของการถือครองอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างสนับสนุนการลงทุนของต่างชาติ กฎหมายควบคุมด้านการถือครองกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติมีน้อย จากผลการวิจัยพบว่า กลุ่มผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยในเซ็นทรัลลอนดอน กว่า 51%ไม่ได้อยู่อาศัยในสหราชอาณาจักร เนื่องจากการเติบโตของประชากรและการขาดแคลนอาคาร สนับสนุนให้เกิดการเติบโตของอัตราการลงทุนในระยะยาว รวมไปถึงการคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นอีกราว 80% ภายใน 10 ปีข้างหน้า”

สำหรับการซื้ออสังหารริมทรัพย์ในลอนดอน เป็นสถานการณ์ที่น่าจับตามอง แม้ว่าเงินปอนด์จะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาทประมาณ 15% แต่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นประมาณ 5% เนื่องจากสกุลเงินที่ปรับลดลงหลังจากได้รับการโหวตให้ออกจากสหภาพยุโรป ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่ GBP อาจจะยังคงทำให้ทรัพย์สินนั้นมีราคาแพงกว่า สำหรับคนไทยตลาดอสังหาริมทรัพย์ใจกลางกรุงลอนดอนเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจอย่างต่อเนื่อง มียอดขายสูงสุดในปี 2014 ดังนั้นราคาอาจเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง

นายริชาร์ดกล่าวเพิ่มว่า ทางบริษัทคอลลิเออร์สฯ ได้ร่วมกับ เทเลอร์วิมพีย์ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร เตรียมจัดงาน นำเสนออสังหาริมทรัพย์คุณภาพใจกลางกรุงลอนดอน ด้วยข้อเสนออัตราผลตอบแทนสูงศักยภาพการทำกำไรในทำเลคุณภาพ

นายดาเรน แมคคอร์แมค ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด เทเลอร์ วิมพีย์ กล่าวว่า ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ที่มีคนไทยไปศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร หรือประมาณ 6,095 คนต่อปี ซึ่งการเข้ามานำเสนอข้อมูลโครงการ เพื่อเป็นสำรวจตลาดและพิจารณาถึงความต้องการของลูกค้าคนไทยต้องการอะไรบ้าง เพื่อนำมาทำแผนการตลาดในครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม ลูกค้าหลักในเอเชีย จะเป็นกลุ่มลูกชาวจีน ขณะที่ไทยก็มีบ้าง และเริ่มเห็นความต้องการของลูกค้าคนไทยที่มองหาอสังหาฯในพื้นที่อื่นในสหราชอาณาจักรที่กว้างขึ้น

“จากข้อมูลจะพบว่า ผู้ซื้ออสังหาฯในลอดดอน จะเป็นนักลงทุน ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาอสังหาฯในลอนดอน เติบโต 3-5% และมีอัตราผลตอบแทน(ยิวด์)ในเซ็นทรัลลอนดอนประมาณ 3-3.5% ทั้งนี้ ความต้องการที่อยู่อาศัยในลอนดอนมีประมาณ 3.6แสนคน ขณะที่ซัพพลายที่รองรับเฉลี่ย 163,343 ยูนิต หรือ ความต้องการมีมากกว่าซัพพลายถึง 45.3% ”

โดยโครงการที่มานำเสนอนักลงทุนและลูกค้าในไทย ได้แก่ ห้องชุดในโครงการ Westminster Quarter มีจำนวนคงเหลือ 11 ห้อง มูลค่าการขาย 17.5 ล้านปอนด์ โดยตั้งราคาเริ่มต้น 9.6 แสนปอนด์

Paddington Exchange อพาร์ตเมนต์สวยงามใจกลางแพดดิงตัน นำมาเสนอ 5 ยูนิตที่เหลือ มูลค่ารวม 7 ล้านปอนด์ , Battersea Exchange ที่อยู่อาศัยในกรุงลอนดอน โดยนำมาเสนอ 3 อาคาร มูลค่าการขาย 105-110 ล้านปอนด์ และEbury Place เป็นอาคารอพาร์ตเมนต์ที่สำคัญแห่งใหม่ในลอนดอน เหลือ 20 ยูนิต มูลค่า 25 ล้านปอนด์

london02

โดยตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 10 มิถุนายน ได้มีการจัดงาน“The Taylor Wimpey Central London Capital Collection”ไนท์ ปาร์ตี้ ตลอดระยะเวลา 4วัน ที่โรงแรม ดิเซนต์ รีจีส กรุงเทพฯ เพื่อที่จะให้นักลงทุน และลูกค้าได้เข้ามาชมโครงการ และสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กับทางเทเลอร์วิมพีย์ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดตัวคอลเล็คชั่นสุดพิเศษของเทเลอร์วิมพีย์ ในประเทศไทยคอลลิเออร์ส นำเสนอส่วนลดของนักลงทุนไทยในกรณีที่จองในระหว่างการจัดงาน โดยมอบการเดินทางเที่ยวบินชั้นธุรกิจระหว่างกรุงเทพและลอนดอนพร้อมที่พัก 3 คืนที่โรงแรมระดับ 5 ดาว ในลอนดอน (หากซื้อก่อนวันที่ 1 กรกฎาคมพ.ศ. 2560)

ที่มา ddproperty.com


คนฝั่งธนฯเฮ! ครม.อนุมัติสร้างด่วน”พระราม3-ดาวคะนอง” 3หมื่นล้าน เปิดใช้ปี’64 ค่าผ่านทาง30บาท

คนฝั่งธนฯเฮ! ครม.อนุมัติสร้างด่วน”พระราม3-ดาวคะนอง” 3 หมื่นล้าน ตอกเข็มปีนี้ เปิดใช้ปี’64 ค่าผ่านทาง 30 บาท

นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.60 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นผู้ดำเนินการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตกระยะทาง 18.7 กิโลเมตร วงเงิน 31,244 ล้านบาท

แบ่งเป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 807 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 30,437 ล้านบาท โดยรัฐเป็นผู้จ่ายค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน และให้ กทพ.ใช้แหล่งเงินทุนจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ TFF รวมทั้งอนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเวนคืนที่ดินเขตราษฎร์บูรณะ พ.ศ. … ในการก่อสร้าง ทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก

“คาดว่าจะเวนคืนที่ดิน 18 เดือน ตั้งแต่ ก.ย.60-ก.พ.62 จ้างที่ปรึกษาตั้งแต่ เม.ย.-ส.ค.60 เปิดประกวดราคา ก.ค.-ต.ค.60 ก่อสร้างใช้เวลา 39 เดือน ตั้งแต่ ธ.ค.60 เปิดใช้ มี.ค.64”

สำหรับอัตราค่าผ่านทาง แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก-ดาวคะนอง และดาวคะนอง-พระราม 3 รถยนต์ขนาด 4 ล้อ ค่าบริการ 30 บาท รถยนต์ขนาด 6-10 ล้อ ค่าบริการ 60 บาท รถยนต์มากกว่า 10 ล้อค่าบริการ 90 บาท ซึ่งจะมีการปรับค่าบริการ 5 บาท ทุกๆ 5 ปี ปริมาณจราจรในปีแรกที่เปิดบริการมีประมาณ 100,000 คัน/วัน

“โครงการนี้น่าจะสามารถใช้เงินกองทุน TFF เพราะจะมีการเบิกเงินเป็นงวดๆ ซึ่งแต่ละงวดไม่ได้ใช้เงินมาก ซึ่งกระทรวงการคลังลงเงินในกองทุนขั้นต้น 10,000 ล้านบาท จากที่กองทุนต้องการเงิน 44,819 ล้านบาท เพื่อก่อสร้าง พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตกและทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือช่วง N2 โดยเบื้องต้น นำรายได้ 45% จากค่าผ่านทางของโครงการทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) และโครงการทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ของ กทพ.เข้าร่วมกองทุนด้วย” นายพิชิตกล่าวและว่า

สำหรับการเบิกจ่ายเงินค่าก่อสร้างพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ปี 2561 จำนวน 6,032 ล้านบาท ปี 2562 จำนวน 9,602 ล้านบาท ปี 2563 จำนวน 11,484 ล้านบาท และปี 2564 จำนวน 4,606 ล้านบาท

ทั้งนี้โครงการพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) เริ่มต้นที่ กม.13+100 ของถนนพระราม 2 เป็นทางยกระดับ 6 ช่องจราจรไปตามแนวเกาะกลางถนนพระรามที่ 2 ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือจนถึงด่านผ่านทางดาวคะนอง จากนั้นทับซ้อนบนทางพิเศษเฉลิมมหานครจนถึงบริเวณถนนพระราม 3 ใกล้กับทางแยกต่างระดับบางโคล่ ซึ่งจะช่วยทดแทนหลังมีการปิดซ่อมบำรุงสะพานพระราม 9 ขยายโครงข่ายทางพิเศษรองรับชั้นในและชั้นนอก และแก้ปัญหาจราจรบนถนนพระราม 2

ที่มา prachachat.net


ปัจจัยหนุน-หน่วง เศรษฐกิจไทยปี 60

ปัจจัยหนุน-หน่วง เศรษฐกิจไทยปี 60

เศรษฐกิจไทยในปี 2560 จากไตรมาสแรกที่ผ่านมา ถือว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2559 ซึ่งหลายฝ่ายถือว่าเป็นสัญญาณบวกที่บ่งชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2560 มีแนวโน้มผ่านฉลุย แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ควรเฝ้าระวังที่พร้อมจะฉุดให้เกิดการชะลอเช่นเดียวกัน

ไตรมาสแรกสอบผ่าน ส่งออก-เกษตร เติบโต
ภาคการส่งออกขยายตัวได้ดีขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และสินค้าส่งออกกระจายตัวได้ดีในหลายผลิตภัณฑ์ จากเศรษฐกิจของประเทศอื่นในภูมิภาคที่ขยายตัวได้ดีขึ้น ทำให้ไทยมีแนวโน้มเติบโตได้ตามการขยายตัวของประเทศเพื่อนบ้าน โดยส่วนหนึ่งคือสินค้าภาคการเกษตรที่ส่งออกไปขายต่างประเทศได้ราคาดีขึ้น และมีผลิตภัณฑ์การเกษตรที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวได้ดีขึ้นกว่าไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อเนื่องทำให้การบริโภคในประเทศฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากรายได้ภาคการเกษตรที่ดีขึ้น

สำหรับการลงทุนภาคเอกชน แม้จะยังมีการขยายตัวต่ำซึ่งถือว่าเป็นภาวะที่เกิดขึ้นทั่วโลก จึงไม่ใช่เรื่องน่าห่วง แต่ยังมีในบางธุรกิจที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวกับดิจิทัลเริ่มมีการลงทุนมากขึ้น

ในส่วนของดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 49.6 มาอยู่ที่ระดับ 52.3 ตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การผลิตอาหารและเครื่องดื่ม การผลิตกระดาษและการพิมพ์การผลิตเคมีปิโตรเลียมและยาง และพลาสติก ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคที่มิใช่อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย

Economy_02

2 แบงก์ใหญ่ มั่นใจเศรษฐกิจปี 60 เติบโต
จากผลการวิจัยทางด้านเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของภาคธนาคารพบว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดว่าทั้งปี 2560 จะโตกว่า 3.3% จากปีที่ผ่านมา โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจาก

1) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะเม็ดเงินอัดฉีดจากงบกลางปี 2560 มูลค่า 1.9 แสนล้านบาทที่จะกระจายสู่เศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโครงการขนาดเล็กในต่างจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเบิกจ่ายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งภาครัฐยังมีมาตรการให้เงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจากโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐจะเริ่มเบิกจ่ายในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
2) กำลังซื้อภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น หลังครัวเรือนบางส่วนหมดภาระการผ่อนชำระรถยนต์จากโครงการรถคันแรกซึ่งจะเห็นผลชัดในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งรายได้ครัวเรือนภาคเกษตรที่น่าจะยังได้รับผลดีจากราคาผลผลิตที่อยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อน ประกอบกับการจ้างงานที่จะปรับตัวดีขึ้นตามแรงกระตุ้นภาครัฐในครึ่งปีหลัง
3) รายได้ในภาคการท่องเที่ยวที่จะดีขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ โดยการเข้ามาของจำนวนนักท่องเที่ยวมีโอกาสขยายตัวสูงในไตรมาสสุดท้ายจากปัจจัยฐานต่ำในปีก่อน

สอดคล้องกับดัชนีธุรกิจของธนาคารกรุงไทยที่ได้จากการสำรวจความเชื่อมั่นของลูกค้านักธุรกิจกว่า 2,200 รายทั่วประเทศพบว่า ในไตรมาสแรกที่ผ่านมาดัชนีเพิ่มขึ้นเหนือระดับปกติ ต่อเนื่องจากไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับกับการขยายตัวของ GDP ไตรมาสแรก โดย 4 กลุ่มธุรกิจที่มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นและอยู่เหนือระดับปกติ ได้แก่
1.ธุรกิจการเงินและประกันภัย
2.ธุรกิจก่อสร้าง โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาโครงการภาครัฐ
3.ธุรกิจพาณิชยกรรม ได้แก่ ธุรกิจขายรถยนต์ในประเทศ ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่ม ขายปลีกน้ำมันและเชื้อเพลิง
4.ธุรกิจอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมเหมืองหิน ทราย ผลิตวัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนยานยนต์ ผลิตอาหาร ผลิตยางแผ่น และยางแท่ง

ทั้งนี้ หากจำแนกตามภูมิภาค พบว่า ความเชื่อมั่นของนักธุรกิจเพิ่มขึ้นใน 4 ภูมิภาค ได้แก่
– กรุงเทพฯและปริมณฑล ได้รับผลบวกจากการเดินหน้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐมากที่สุด
– ภาคกลางและภาคตะวันตก ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ปัจจัยบวกมาจากการส่งออกสินค้าและการค้าชายแดนฝั่งตะวันตก โดยการส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ น้ำตาล และเครื่องดื่มช่วยหนุนธุรกิจในภูมิภาค
– ภาคเหนือ ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งได้รับอานิสงค์จากการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวในเกณฑ์ดี
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นจากแรงหนุนของรายได้เกษตรกรที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปลูกอ้อยและยางพารา

ส่วนในภาคตะวันออกและภาคใต้มีดัชนีความเชื่อมั่นลดลงจากผลกระทบของน้ำท่วมรุนแรงในภาคใต้ และความซบเซาของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออก

Economy_03

ปัจจัยเฝ้าระวังทำเศรษฐกิจชะลอตัว
ทางศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ยังกล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัว คือ การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มเติบโตชะลอลงในช่วงที่เหลือของปี อัตราการขยายตัวของราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มที่จะเริ่มชะลอลงในช่วงหลังจากนี้อาจส่งผลให้การส่งออกสินค้าในกลุ่มดังกล่าวไม่สามารถขยายตัวได้สูงเทียบเท่ากับในไตรมาสแรกของปี

นอกจากนี้ภาคการส่งออกไทยยังเผชิญความเสี่ยงจากภายนอกอยู่มาก จากนโยบายการกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกาที่เริ่มตึงเครียดมากขึ้นในประเด็นที่ไทยเป็น 1 ใน 16 ประเทศคู่ค้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งตรวจสอบและหามาตรการเพื่อลดการขาดดุลการค้า โดยอาจเริ่มเห็นผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป ในขณะเดียวกันแม้ความกังวล Frexit ลดลงจากที่ Emmanuel Macron เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปยังคงมีอยู่มาก

ด้านผลสำรวจของธนาคารกรุงไทย พบว่า ภาคธุรกิจยังคงมีความกังวลต่ออุปสงค์ในประเทศที่ยังเปราะบาง ค่าเงินผันผวน ความล่าช้าของการลงทุนภาครัฐ รวมทั้งราคาพืชผลสำคัญบางชนิด เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าว เริ่มปรับลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า รวมทั้งเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ความเชื่อมั่นในไตรมาส 2 ทรงตัว

จากข้อมูลข้างต้นคงจะเห็นแล้วว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เปราะบางจากปัญหานานัปการทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งคงต้องลุ้นกันต่อไปว่าปีนี้จะจบสวยอย่างที่คาดการณ์ไว้หรือไม่

ที่มา ddproperty.com


ทำความรู้จัก สินเชื่อส่วนบุคคล

ทำความรู้จัก สินเชื่อส่วนบุคคล

เชื่อว่าแทบทุกคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า สินเชื่อส่วนบุคคล แต่ยังรู้ในขั้นเบื้องต้น ว่าสินเชื่อส่วนบุคคล นั้นคือการกู้เงินประเภทหนึ่งเท่านั้นหรือเห็นตามโฆษณา กู้เร็ว กู้ด่วน อนุมัติง่าย โดยยังไม่ทราบรายละเอียดเบื้องลึก อาทิเช่น นิยามที่แท้จริงของสินเชื่อส่วนบุคคล เอกสารหรือเงื่อนไขในการขอสินเชื่อส่วนบุคคล วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเหล่านั้น

สินเชื่อส่วนบุคคลคืออะไร?
อันที่จริงแล้วแล้วถ้าจะพูดกันให้เข้าใจโดยง่าย สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ Personal Loan ก็คือเงินกู้ที่ได้จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่อนำมาจัดสรรค่าใช้จ่ายตามจุดประสงค์ที่ต้องการ ซึ่งจะนำมาใช้เพื่ออะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น เงินหมุนเวียน เงินฉุกเฉิน เงินเพื่อการศึกษา ซื้อของชิ้นใหญ่ เป็นต้น

หลังจากที่ได้รับการอนุมัติ ผู้กู้จะได้รับเงินสดหนึ่งก้อนจากสถาบันการเงินนั้นๆ ผ่านการโอนเข้าบัญชีธนาคารออมทรัพย์ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะให้โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ที่ธนาคารใด ธนาคารที่คุณขอสินเชื่อส่วนบุคคลเลยหรือธนาคารอื่นก็ย่อมได้ แต่จะมีข้อแตกต่างในส่วนของระยะเวลาที่ต้องรอเงินเข้าบัญชี ซึ่งถ้าหากมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน แนะนำให้เลือกรับโอนในธนาคารเดียวกัน บางแห่งใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น

โดยทั่วไปธนาคารและสถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลสูงสุด 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประวัติทางการเงินของผู้กู้ และจะเริ่มต้นนับดอกเบี้ยทันทีเมื่อธนาคารหรือสถาบันการเงินอนุมัติ

วิธีการชำระเงินคืน ผู้กู้จะต้องชำระคืนเป็นงวดๆ งวดละเท่าๆ กัน ตามที่ระบุในสัญญา โดยระยะเวลาในการผ่อนชำระคืนจะมีตั้งแต่ 12 – 60 เดือน ธนาคารจะคิดตามจำนวนวงเงินที่ขอกู้เป็นขั้นบันได โดยอัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ 28%

13600191 - a bank stuff counting money

 

สินเชื่อส่วนบุคคลดีอย่างไร?
1. อนุมัติง่าย ได้เร็ว วงเงินสูง
สินเชื่อส่วนบุคคลไม่จำเป็นต้องใช้หลักทรัพย์คำประกันหรือบุคคลค้ำประกันในการขอ เหมือนสินเชื่อที่มีวงเงินอนุมัติสูงอื่นๆ เช่น สินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน สินเชื่อเพื่อธุรกิจ เพียงแค่ดูจากประวัติทางการเงินและประวัติส่วนตัวเบื้องต้น ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินก็อนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลในวงเงินที่เหมาะสมกับผู้ขอได้แล้ว สูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ ซึ่งวงเงินถือว่าสูงกว่าบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด

สำหรับระยะเวลาในการอนุมัติ บางสถาบันการเงินหรือธนาคารจะให้เรารออนุมัติเพียงแค่ 1 วัน เท่านั้นและสูงสุดคาดว่าไม่เกิน 3 วัน ซึ่งถือว่าช่วยตอบโจทย์สำหรับผู้ที่กำลังมีความต้องการใช้เงินก้อนอย่างเร่งด่วน

2. กู้สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อจุดประสงค์อะไรก็ได้
สินเชื่อส่วนบุคคล อาจเรียกได้อีกอย่างว่า สินเชื่ออเนกประสงค์ เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้ที่หลากหลาย นอกจากความรวดเร็วและอนุมัติได้ง่ายแล้ว เราสามารถขอสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อนำเงินมาใช้หมุนเวียนในธุรกิจหรือเร่งขยายธุรกิจ, ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น คนในครอบครัวป่วยหรือบาดเจ็บต้องเข้ารักษากะทันหัน ซ่อมบ้านโดยด่วน, ชำระหนี้สิน เป็นต้น

3. จ่ายคืนเท่ากันทุกเดือน ระยะเวลาชำระคืนยาว
ถือเป็นข้อดีในการวางแผนการเงิน ด้วยความที่ผู้กู้ทราบจำนวนเงินที่แน่นอนเมื่อขอสินเชื่อส่วนบุคคลตั้งแต่แรกแล้ว อีกทั้งการผ่อนชำระในอัตราที่เท่ากันทุกเดือน รวมถึงระยะเวลาชำระที่ยาว บางแห่งได้ถึง 5 ปี ทำให้ไม่ต้องแบกภาระการชำระจำนวนมากต่อเดือน สามารถผ่อนคืนไหวและที่สำคัญกันเงินในแต่ละเดือนไว้เพื่อจ่ายได้ค่อนข้างแน่นอน

4. เป็นแหล่งเงินฉุกเฉินที่ดีกว่าเงินกู้นอกระบบ
ในขณะที่เงินกู้นอกระบบเคลมว่า ได้เงินด่วน อนุมัติไว สินเชื่อส่วนบุคคลก็ไม่น้อยหน้าเช่นเดียวกันแถมยังมีภาษีดีกว่าในเรื่องของความปลอดภัย เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าภัยเงินกู้นอกระบบมีมากมาย

นอกจากในเรื่องความปลอดภัยที่แน่นอนว่าจะหากผิดนัดชำระจะไม่ถูกประจานหรือทำร้ายร่างกายให้เสียหาย ข้อได้เปรียบที่ทำให้สินเชื่อส่วนบุคคลน่าเลือกใช้มากกว่าเงินกู้นอกระบบ ก็เช่น
– ดอกเบี้ยถูกกว่า โดยปกติแล้วอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้นอกระบบมักจะเกินอัตราที่กฏหมายกำหนด คือ ไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี ซึ่งอาจจะคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเป็นรายวันเลยก็ได้
– มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรที่ถูกต้องและชัดเจน
– ขอผ่อนผันนัดชำระหรือประนอมหนี้ได้ ในกรณีที่ไม่สามารถหาเงินมาเพื่อชำระคืนได้ สามารถเข้าไปคุยกับสถาบันการเงินหรือธนาคารที่เราขอสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อผ่อนผันหรือขยายระยะเวลา ในขณะที่หนี้นอกระบบนั้น หากไม่มีจ่าย เจ้าหนี้บางรายจะเพิ่มดอกเบี้ยอีกเท่าตัวซึ่งเป็นการเพิ่มภาระในอนาคต

Credit Cards
บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดก็ถือเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล
อันที่จริงแล้วบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดก็นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกับสินเชื่อส่วนบุคคลที่เป็นเงินสด ที่ ไม่จำเป็นต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเช่นเดียวกัน แต่ข้อแตกต่าง คือ ผู้กู้จะไม่ได้เงินเป็นก้อนในทีเดียวและอัตรา ดอกเบี้ยที่ต่างกัน

บัตรกดเงินสด มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลที่เป็นเงินสด วิธีใช้คล้ายกับบัตร ATM ทั่วไป คือ กดผ่านตู้ โดยจะได้วงเงินอยู่ระหว่าง 2-5 เท่าของรายได้ ถูกคิดดอกเบี้ยนับแต่วันที่กดเงินจากบัตร

บัตรเครดิต มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลที่เป็นเงินสด สร้างเพื่อชำระสินค้าและบริการผ่านการ รูด หากจะกดเหมือนบัตรกดเงินสดก็ได้ แต่อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่า บัตรเครดิตนั้นสามารถชำระขั้นต่ำได้ แต่ก็สร้างความลำบากให้ในกรณีที่ยอดทบกันไปเรื่อยๆ

เงื่อนไขในการขอสินเชื่อส่วนบุคคล
– ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 20 – 65 ปี
– รับเงินเดือนผ่านการเข้าบัญชี หรือ มีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาท ขึ้นไป
– อายุงานตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไปในกรณีที่เป็นพนักงานบริษัท ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ
– ในกรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจอาจจะดูระยะเวลาที่ทำธุรกิจ
– มีหมายเลขโทรศัพท์ที่บ้านและที่ทำงานที่ติดต่อได้สะดวก
หมายเหตุ : ข้อมูลดังกล่าวเป็นเงื่อนไขโดยทั่วไป อาจจะมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินหรือธนาคาร

เอกสารสำหรับขอสินเชื่อส่วนบุคคล
ในการขอสินเชื่อส่วนบุคคลนั้นจะแบ่งเอกสารที่ต้องใช้ในการประกอบออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. เอกสารเพื่อแสดงตัวตน
– สำเนาบัตรประชาชน หรือ สำเนาบัตรข้าราชการ/สำเนาบัตรรัฐวิสาหกิจ
– สำเนาทะเบียนบ้าน
2. เอกสารแสดงรายได้
• กรณีพนักงานบริษัท ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ
– สลิปเงินเดือนเดือนล่าสุด หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน
– สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง (บัญชีเงินเดือน) อย่างน้อย 3 เดือน
– สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีเงินฝากที่ต้องการให้โอนเงินเข้า โดยต้องเป็นของชื่อผู้กู้เท่านั้น
• กรณีประกอบธุรกิจส่วนตัว / เจ้าของกิจการ
– สำเนาบัญชีธนาคารที่มีเงินหมุนเวียนในธุรกิจย้อนหลัง 6 เดือน
– สำเนาใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ
– สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีเงินฝากที่ต้องการให้โอนเงินเข้า โดยต้องเป็นของชื่อผู้กู้เท่านั้น

ถึงแม้ว่าสินเชื่อส่วนบุคคลอาจจะเป็นอีกหนึ่งหนทางสำหรับผู้ที่ต้องการเงินกู้ก้อนใหญ่ที่เร่งด่วนและธนาคารหลายแห่งก็ต่างออกแคมเปญเพื่อดึงดูดใจผู้ใช้บริการ แต่อยากให้พิจารณาและเปรียบเทียบให้รอบด้าน ทั้งอัตราดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขอสินเชื่อส่วนบุคคล อีกทั้งพึงระวังในกรณีที่ผิดนัดชำระ สินทรัพย์อาจถูกยึดขายทอดตลาดได้ในทันที แถมยังอาจเสียประวัติทางการเงินซึ่งจะส่งผลกระทบในอนาคต

ที่มา ddproperty.com


ว่าการให้ทาน – ให้เพื่อทำบุญ หรือให้เพื่อเป็นบุญคุณ 

ข่าวการเสียชีวิตคนดัง ที่เสียใจว่าทำดีและคนอื่นไม่เห็นค่า ช่วยเตือนสติเรา ๆ ให้เรียนรู้การทำบุญวิถีพุทธ และวิธีวางใจยามทำบุญ เพื่อเหตุการณ์เศร้านี้ จะได้ไม่ซ้ำรอยอีก

ภาพ : shutterstock.com

พึงระลึก ให้เพื่อทำบุญ หรือ เพื่อเป็นบุญคุณ ?

เจตนาทวงบุญคุณ

ต้นเหตุที่ทำให้เกิดการทวงบุญคุณเกิดขึ้น  ก็หนีไม่พ้นความต้องการให้ผู้อื่นยอมรับในตน  ลักษณะของผู้ทวงบุญคุณจึงมีลักษณะตรงกันข้ามกับผู้มีความกตัญญูนั่นเอง

ผลของการเป็นผู้ชอบทวงบุญคุณ

จะทำให้ผลของกุศลที่เราจะได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็จะหายไปกับเจตนาในการทวงบุญคุณด้วย  เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ปฏิบัติธรรมทุกราย  จำเป็นจะต้องระมัดระวังอย่าให้ความรู้สึกเป็นบุญคุณเกิดขึ้นระหว่างเรากับผู้อื่น  เพราะลักษณะของการทวงบุญคุณเป็นลักษณะของการใช้บารมี  หากเราไม่ได้สร้างบุญคุณเช่นนั้นจริง  ภาษาพระเรียกว่าอวดอุตริมนุสสธรรม  การทวงบุญคุณคนก็จะนำความเสื่อมมาสู่ตนได้

การทวงบุญคุณผู้อื่นเป็นการเชื้อเชิญมานะทิฐิให้เข้ามาสิงในใจตน  ก่อให้เกิดความเย่อหยิ่งเป็นมารขัดขวางความเจริญ  กลายเป็นคนแข็งกระด้างแล้วเป็นคนไม่ยอมคน  การที่เราไม่ยอมคน ถึงแม้ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูก ก็ถือเป็นมานะทิฐิด้วย  หากเราเข้าใจเรื่องเจตนาผู้หลงผิดแม้เราจะได้พยายามถึงที่สุดอย่างไรก็ตาม  แล้วเขายังมองไม่เห็นในสิ่งที่เขาได้กระทำนั้น  มาตรการสุดท้ายก็ต้องยอมแล้วปล่อยให้เขาคิดเช่นนั้นต่อไป
ในสมัยพุทธกาลพระพุทธองค์ท่านเลือกที่จะไม่สนทนาธรรมกับบุคคลเหล่านี้  เรียกว่าอเวนัยสัตว์  แต่เมื่อใดก็ตามบุคคลเหล่านี้รู้สึกสำนึกในการกระทำผิดของตน  เราก็ให้โอกาสบุคคลเหล่านั้นอีกครั้ง

 ผู้ที่สามารถถอนความต้องการให้ผู้อื่นยอมรับ  เมื่อใช้รวมกับการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน  ก็จะทวีกำลังในผลของกุศลที่เราจะได้รับให้ทวีกำลังแรงขึ้น  จะเป็นการเสริมกำลังให้เราเห็นผลจากการปฏิบัติที่เห็นผลเจริญก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดจนเป็นที่ประจักษ์แก่ตนเป็นที่อัศจรรย์  เพราะบุคคลเหล่านี้เมื่อทำให้ผู้อื่นด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์  จะไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร  เพราะถึงสนใจก็ห้ามความคิดของคนเหล่านั้นไม่ได้  ขอเพียงให้ตนได้เป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ  ก็เป็นพอ
เมื่อเราไม่สนใจความคิดของผู้อื่นแล้ว  ความรู้สึกที่อยากจะทวงบุญคุณก็ไม่เกิด  ผลของกุศลก็จะแรงกล้า  หากเรามีบาปกรรมแล้วกรรมนั้นกำลังส่งผลให้เราได้รับทุกขเวทนาอยู่  ความทุกข์เหล่านั้นก็จะพ้นไปจากเราได้ราวปาฏิหารย์  หากเราเป็นผู้พ้นกรรมกลายเป็นผู้มีบารมีในทางธรรมแล้ว  จะทำให้เรามีช่องทางที่จะทำให้ตนกลายเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง  แล้วเราก็มีความสุขจากการเป็นผู้ให้ให้ยิ่งขึ้น

 

ทำดีแล้วหลงติดดี จากสุขเป็นทุกข์

 

 บางคนทำความดีมีความสุข แล้วหลงติดความดี เช่น ไปบริจาคปัจจัยให้กับวัดแล้วรอว่าเมื่อไหร่หลวงพ่อจะประกาศชื่อ พอประกาศออกมาแล้วว่าบริจาคหนึ่งหมื่นบาท บริจาคไปหนึ่งแสนบาทก็ดีใจ แต่ถ้าประกาศไม่ครบหรือประกาศผิดจะไปถอนคืน

อาตมา (ท่าน ว วชิรเมธี) เคยมีประสบการณ์อ่านชื่อเจ้าภาพผิด เขาเป็นร้อยตำรวจโท แต่ว่าจดชื่อมาว่าเป็นร้อยตำรวจตรี พอประกาศร้อยตำรวจตรีแค่นั้น เขาตรงไปหาเจ้าอาวาสเลย ทำไมประกาศชื่อเขาอย่างนั้น โวยวายจนคณะกรรมการวัดวุ่นวาย เพียงเพราะประกาศยศตำแหน่งผิด
นี่คือ ทำบุญเพื่อหวังได้ความสุข แต่ว่าทำบุญแล้วติดบุญ ทำดีแล้วติดดี พอติดดีแล้วแทนที่จะมีความสุขกลับกลายเป็นความทุกข์แทน
เรื่องของพระฉันนะ – พระภิกษุที่ว่านอน สอนยาก

 อีกคนหนึ่งซึ่งเป็นตัวอย่างของคนติดดี คือ พระฉันนะผู้ที่นำเจ้าชายสิทธัตถะออกบวช พอท่านนำเจ้าชายสิทธัตถะออกบวชแล้ว หลังจากพระพุทธองค์ตรัสรู้ พระฉันนะก็ตามไปบวชด้วย
บรรดาพระภิกษุที่ว่ายากสอนยากนั้น  ไม่มีใครเกินพระฉันนะ

พระฉันนะ เป็นผู้ที่เกิดวันเดียวกับพระพุทธเจ้า เป็น สหชาติทั้ง 7 คือเป็น 1 ใน7 ที่เกิดพร้อมกับพระพุทธเจ้า เติบโตมาด้วยกัน และก็เป็นสหาย เพื่อนเล่นและก็ทำหน้าที่คอยรับใช้ พระโพธิสัตว์มาตลอด ในวันที่พระโพธิสัตว์ออก มหาภิเนษกรมณ์ คือ ออกบวช นายฉันนะ ก็ติดตามไปด้วย จึงมีความคุ้นเคยกับพระโพธิสัตว์เป็นอย่างยิ่ง
เมื่อพระโพธิสัตว์ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า และนายฉันนะ ออกบวช ท่านพระฉันนะอาศัยความคุ้นเคยที่เคยมี จึงถือตัว สำคัญตน ว่า ตนเอง เป็นคนสนิทของพระพุทธเจ้า สำคัญว่าพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ของเราจึงถือตัว ท่านพระฉันนะนั้นกล่าวถึงพระอัครสาวกทั้งสองอย่างพูดยกตน ข่มผู้อื่น ว่า
“อันตัวเรานั้นเป็นผู้เดินทางไปพร้อมกับพระพุทธเจ้าในคราวท่านออกผนวช  ส่วนพระสองรูปนี้กลับเที่ยวประกาศตนว่า  เป็นพระสารีบุตรบ้าง  เป็นพระโมคคัลลานะบ้าง  เที่ยวประกาศตนว่าเป็นพระอัครสาวก”

พระพุทธเจ้าทรงทราบ  ก็เรียกมาว่ากล่าวตักเตือน  พระฉันนะก็นิ่งรับฟัง  พอพระพุทธเจ้าเสด็จไป  ก็เริ่มด่าพระอัครสาวกอีก  แม้พระองค์จะเรียกมาตักเตือนอีกจนถึงครั้งที่  ๓  ว่า  พระอัครสาวกทั้งสองรูปเป็นกัลยามิตรที่ดี  เป็นผู้ประเสริฐ  จงคบกัลยาณมิตรเพื่อนผู้ดีงามเช่นนี้เถิด  แม้กระนั้น  พระฉันนะได้ฟังโอวาทแล้วก็ยังไม่เชื่อฟัง  ยังคงด่าพระอัครสาวกอีกต่อไป
พระพุทธเจ้าจึงตรัสแก่บรรดาพระภิกษุว่า  “ภิกษุทั้งหลาย  ขณะที่เรายังคงอยู่  พวกเธอคงไม่อาจอบรมสั่งสอนฉันนะได้  แต่เมื่อเราปรินิพพานไปแล้ว  จึงจะสามารถทำได้ ”

พระอานนท์จึงกราบทูลถามว่า  จะให้ทำเช่นไรต่อพระฉันนะ
พระองค์จึงได้ตรัสว่า  ให้ลงพรหมทัณฑ์แก่ฉันนะ

ครั้นพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไปแล้ว  พระสงฆ์ก็ประกาศลงพรหมทัณฑ์แก่พระฉันนะ  พอพระฉันนะได้ยินเช่นนั้น  ก็เกิดความทุกข์ขึ้นในใจ  จิตใจเศร้าหมองเป็นลำดับ  จนล้มสลบลงถึง  ๓  ครั้ง  เมื่อฟื้นคืนสติ  ก็ได้อ้อนวอนต่อคณะสงฆ์ว่า ขอท่านทั้งหลายให้โอกาสกระผมเถิด

       ว่าแล้วก็กลับตนประพฤติตนใหม่เป็นพระภิกษุที่ดี  จนปฏิบัติธรรมได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

พรหมทัณฑ์  คือ  การที่พระสงฆ์ประกาศไม่คบ  ไม่พูดคุย  ไม่สนทนา  ไม่ประกอบพิธีกรรมต่อพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งที่ประพฤติตนเป็นคนว่ายากสอนยาก
 เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  พึงหลีกหนีจากคนไม่ดี  พึงเข้าสนทนาเรียนรู้จากบัณฑิตผู้ฉลาดทรงคุณธรรม  และการเป็นคนว่ายากสอนยากมักเป็นอยู่ลำบาก  เมื่อตนไร้ที่พึ่งพิง  จึงควรประพฤติตนให้ว่าง่ายสอนง่าย

 

อย่างนี้เรียกว่า แม้แต่ในความดีก็อย่าหลงติด ถ้าทำความดีแล้ว ให้ปล่อย

นักปราชญ์บางท่านจึงบอกว่า

            เราทำบุญกับใครแล้วให้ลืมเสีย แต่ใครทำคุณกับเรา เราต้องจำให้ขึ้นใจ

ที่มาเรียบเรียงจาก :
หนังสือความทุกข์มาโปรดความสุขโปรยปราย โดยพระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี)


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 8/06/2560

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,650.00 20,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,338.00 20,284.08 21,250.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,204.20 18,255.67 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 602.00 9,126.32 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 468.00 7,094.88 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,387.00 21,026.92 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  8/06/2560


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 26.25 26.25 26.25 26.25 26.25 26.25 26.25 26.25 26.25
แก๊สโซฮอล E-20 23.74 23.74 23.74 23.74 23.74 23.74 23.74 23.74 23.74
แก๊สโซฮอล E-85 19.44 19.44 19.44 19.44
แก๊สโซฮอล 91 25.98 25.98 25.98 25.98 25.98 25.98 25.98 25.98 25.98 25.98
เบนซิน 95 33.36 33.81 33.81 33.86 33.36 33.36 33.36
ดีเซลหมุนเร็ว 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59 24.59
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 27.59 28.27 28.27 28.27 28.27
มีผลตั้งแต่ 06 Jun 05:00 06 Jun 05:00 06 Jun 05:00 06 Jun 05:00 06 Jun 05:00 06 Jun 05:00 06 Jun 05:00 06 Jun 05:00 06 Jun 05:00 06 Jun 05:00
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า