Blog Post

“ไอคอนสยาม” ทุ่มพันล้าน! เปิดเมืองสุดอลังการ

“ไอคอนสยาม” ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ผนึก 7 บิ๊กอีเวนต์ จัดใหญ่แกรนด์โอเพนนิ่ง 9 พ.ย. นี้ พร้อมขนโชว์ระดับโลกผสานที่สุดของความเป็นไทยกว่าพันชีวิต สร้าง Talk of The World

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าไอคอนสยาม, สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ไอคอนสยามมีความพร้อม 90% สำหรับการเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ย. นี้ โดยบริษัทเตรียมทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท สำหรับจัดงานฉลองเปิดตัว รวมทั้งกิจกรรมการตลาดต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้ โดยการจัดงานเปิดเมืองไอคอนสยามมีบริษัทออร์แกไนเซอร์ 7 บริษัท ผนึกกำลังร่วมกันจัดงาน ภายใต้แนวคิด “Legendary Party”

โดยทาง บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) จะดูแลการแสดงไฮไลต์บนเวทีใหญ่ ในโชว์ชุดโรจนนิรันดร, การแสดงเชิดหนังใหญ่ประยุกต์, หุ่นละครเล็ก ฯลฯ / ซีเอ็มโอ กรุ๊ป ดูแลการแสดงชุดกรุ่นผกามาลัยกรอง รวมศาสตร์ศิลป์ จินตนาการ, ชุดสวัสดี วิถีไทย (Giant Puppet ร่ายรำแบบ River Dance) / บริษัท แม็กซ์ อิมเมจ จำกัด ดูแลโชว์บริเวณไอคอนลักซ์ อาทิ Stilit Walkers, มายากล, บัลเล่ต์, Tom Wolfe / บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด ดูแลการแสดงล่องเรือสำเภาศรีมหาสมุทร / บริษัท ตือ จำกัด ดูแลการแสดงชุดโสภาอาภรณ์พรรณ สร้างสรรค์ร่วมสมัย / บริษัท เอ็มคิวดีซี ไบรท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ดูแลการแสดงแสงสี Lightning Show สาดแสงส่องไปบน 2 อาคารคอนโดฯ / บริษัท Intel ดูแลการแสดง Drone ชุดโรจนนิรันดร

“การเปิดเมืองไอคอนสยามจะเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ เวิลด์ ที่ร่วมการแสดงครั้งประวัติศาสตร์ และผลงานมาสเตอร์พีซจากศิลปินไทย ต่างชาติ และนักแสดงอาสาอีกกว่า 1,000 ชีวิต โดยจะร่วมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 10-11 พ.ย. นี้”

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในไอคอนสยามเฉลี่ย 1.5 แสนคนต่อวัน แบ่งเป็น ชาวไทย 65-70% และชาวต่างชาติ 30-35% ส่วนในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว อย่างเช่น ปลายปี สัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะเพิ่มเป็น 40-45%

“ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งมีประชากรกว่า 2.4 ล้านคน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง มีสาธารณูปโภคที่ดี ขณะที่ การผนึกความร่วมมือระหว่างไอคอนสยาม ภาครัฐ และภาคเอกชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา จะเป็นการยกระดับให้ฝั่งธนฯ มีความพร้อมยิ่งขึ้น ทำให้เชื่อมั่นว่า ฝั่งธนฯ จะเป็นแหล่งที่น่าเติบโตและบูมมากสุดในอีก 5 ปีข้างหน้า”

นางชฎาทิพ กล่าวอีกว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตต่อเนื่อง เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการในวันสยาม (ประกอบด้วย สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่) ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ในทางตรงข้ามมีการจับจ่ายซื้อสินค้าต่อหัวเพิ่มมากขึ้น เฉลี่ย 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีการใช้จ่ายราว 4,700 บาทต่อคนต่อหัว เพิ่มขึ้นเป็น 6,000 บาทต่อคนต่อหัว ทำให้เชื่อมั่นว่า ในปี 2562 จะเป็นปีที่ดี

ขอบคุณข้อมูลจาก www.thansettakij.com

บิ๊กอสังหาชี้ที่ดินรัชดา 28 ไร่แพงเว่อร์ โบรกเกอร์ดังหนุนสร้างโปรเจ็กต์มิกซ์ยูสแข่งเซ็นทรัล

ราคาที่ดินทำเลพระราม 9-ศูนย์วัฒนธรรมปรอทแตกทะลุวาละ 1 ล้าน แลนด์ลอร์ดสบช่องนำที่ดินแปลงใหญ่ออกขาย กำเงินสด หลัง รฟม.ล้มแผนพัฒนา TOD “หมอพงษ์ศักดิ์ วิทยากร” นำที่ดิน 28 ไร่ มูลค่า 1.3 หมื่นล้าน ริมถนนรัชดาฯ ติดสถานีศูนย์วัฒนธรรม จุดตัดรถไฟฟ้า 2 สาย “สีน้ำเงิน-สีส้ม” ให้ซีบีอาร์อีโบรกเกอร์ดังประกาศยั่วนำลายเจ้าสัว ปั้นโปรเจ็กต์มิกซ์ยูสแข่งเซ็นทรัล เตรียมปัดฝุ่นที่ดินจีแลนด์ 30 ไร่ ขยายอาณาจักรศูนย์การค้า ปลายปีหน้า “เพอร์เฟค” รอขึ้นโครงการยักษ์ “แสนสิริ-ศุภาลัย” ยังอุบไต๋

นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนขายที่ดินเปล่าติดถนนรัชดาภิเษก เนื้อที่ 28 ไร่ ใกล้สถานีศูนย์วัฒนธรรมของรถไฟฟ้า 2 สาย คือ รถไฟฟ้าใต้ดินและสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง

ยื่นซอง 28 พ.ย.ไม่มีราคากลาง

จะเปิดยื่นซองประมูลวันที่ 28 พ.ย. 2561 ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินรายใหญ่หลายราย เนื่องจากเป็นที่ดินอยู่ในทำเลมีศักยภาพ และสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่ ตามผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร กำหนดอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน (FAR) 7 : 1 สามารถพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่และเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ในอนาคต โดยอยู่ตรงข้ามกับอาคารสำนักงานระดับเกรดเอ

อย่างเอไอเอ แคปิตอล เซ็นเตอร์ ห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด รัชดาภิเษก และมีโครงการที่พักอาศัยมากมายอยู่บริเวณโดยรอบ

“การประมูลไม่มีกำหนดราคากลาง ขึ้นอยู่กับผู้สนใจจะยื่น ปัจจุบันราคาที่ดินย่านนี้มีการปรับตัวสูงขึ้นถึง 250% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมจากผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยและเช่าสำนักงาน”

ที่ดินแปลงใหญ่เหลือน้อย

นางกุลวดี สว่างศรี กรรมการบริหารและหัวหน้าแผนกการลงทุนและที่ดิน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ราคาที่ดินบนถนนรัชดาภิเษกมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง ขนาด รูปร่างของที่ดิน และที่สำคัญถ้าติดรถไฟฟ้าจะมีผู้สนใจมากและราคาก็จะสูง ย่านรัชดาภิเษกนั้นถือเป็นย่านที่มีความเจริญ มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการเงิน และมีระบบขนส่งมวลชนที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยอาคารเอไอเอ แคปิตอล เซ็นเตอร์ นับเป็นโครงการนำร่องที่ประสบความสำเร็จและมีผู้เช่าเต็ม ทำให้ย่านรัชดาภิเษกมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบันแปลงที่ดินขนาดใหญ่ที่มีการเสนอขายนั้นมีน้อยมาก การเปิดขายที่ดินแปลงใหญ่ขนาด 28 ไร่ บนถนนรัชดาภิเษกนี้จะเป็นโอกาสที่สำคัญของผู้พัฒนาโครงการในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ คาดว่าที่ดินแปลงนี้จะเป็นการซื้อขายที่ดินขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงมากอีกแปลงหนึ่ง”

เพอร์เฟคปัดฝุ่นแลนด์แบงก์เก่า

นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ดิน 28 ไร่ที่ซีบีอาร์อีประกาศยื่นซองประมูลเป็นของนายแพทย์พงษ์ศักดิ์ วิทยากร คาดว่าราคาซื้อขายอย่างน้อย 10,000 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากปัจจุบันราคาที่ดินริมถนนรัชดาภิเษกมีการปรับตัวขึ้นสูงมากเฉลี่ยตารางวาละ 1 ล้านบาท และกำลังเป็นทำเลฮอตที่ดีเวลอปเปอร์ให้ความสนใจ

“บริษัทคงไม่สนใจจะซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว เพราะมีอยู่แล้ว 2 แปลงบริเวณใกล้กัน คือตรงข้ามแยกเทียมร่วมมิตร 20 ไร่ ฝั่งตรงข้ามที่เป็นห้างจัสโก้เดิมติดกับบิ๊กซี ขนาด 20 ไร่ ภายในปลายปีེ มีแผนจะนำมาพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสมีศูนย์การค้าขนาด 3 แสนตารางเมตรและอาคารสำนักงาน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครประมูลได้จะต้องพัฒนาเป็นมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ซึ่งทำเลจากพระราม 9-ศูนย์วัฒนธรรมต่อไปจะมีโครงการมิกซ์ยูสเกิดขึ้นอีก”

นายชายนิดกล่าวอีกว่า ล่าสุด กลุ่มเซ็นทรัล หลังเข้าไปซื้อ บมจ.แกรนด์คาแนลแลนด์ (จีแลนด์) ทราบว่ากำลังมีแผนจะนำที่ดิน 30 ไร่เดิมที่จีแลนด์จะพัฒนาเป็นโครงการ “เดอะ ซุปเปอร์ ทาวเวอร์” ปรับแผนพัฒนาเป็นศูนย์การค้าต่อเชื่อมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 9 ในปัจจุบันให้เป็นอาณาจักรเดียวกันและมีขนาดใหญ่ขึ้น จากเดิมมีแผนจะพัฒนาเป็นศูนย์การค้าโรบินสัน

แสนสิริ-ศุภาลัยรอดูทีท่า

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริก็สนใจ ซึ่งคงจะเข้าไปดูก่อนว่าที่ดินแปลงดังกล่าวมีความน่าสนใจขนาดไหนและใหญ่เกินไปที่จะเข้าซื้อหรือไม่ เนื่องจากหากมีขนาดใหญ่เกินไปจะต้องหาพันธมิตรเข้ามาร่วมด้วย นอกจากนี้ ยังดูในแง่ความจำเป็นประกอบด้วย เพราะปัจจุบันแสนสิริมีที่ดินอยู่ในมือและมีโครงการจะพัฒนาอยู่แล้ว

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยราคาที่ดินที่ค่อนข้างสูงเฉลี่ยตารางวาละ 1 ล้านบาท รวม 28 ไร่ เท่ากับมีมูลค่า 13,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีดีเวลอปเปอร์รายใหญ่ ๆ ไม่กี่รายที่จะสามารถยื่นประมูลได้ ซึ่งศุภาลัยก็เป็น 1 ในนั้น นอกจากนี้ รูปแบบการพัฒนาจะต้องเป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่าร่วม 1 แสนล้านบาทถึงจะคุ้ม เนื่องจากด้วยรูปขนาดของที่ดินมีหน้ากว้างติดถนนใหญ่ไม่มากนัก

จุดตัดรถไฟฟ้า 2 สาย

“ที่ดินแปลงดังกล่าวถือว่าอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจากอยู่ในทำเลเป็นจุดตัดของรถไฟฟ้าใต้ดินและสายสีส้ม ถามว่าเราสนใจมั้ย ก็ถือว่าเป็นทำเลที่ดี แต่ก็ต้องดูราคาที่ดินและรูปร่างของที่ดินที่จะนำมาพัฒนาโครงการด้วย”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีแนวคิดจะร่วมกับเจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืนสร้างสถานีศูนย์วัฒนธรรมของสายสีส้มประมาณ 7-10 ราย เพื่อสร้างอาคารจอดรถขนาด 10 ไร่ โดยจัดรูปที่ดินรอบสถานีศูนย์วัฒนธรรมรัศมีครอบคลุมจากถนนรัชดาภิเษกถึงถนนศูนย์วัฒนธรรม เพื่อลดภาระการเวนคืนที่ดินกว่า 2,000 ล้านบาท อาทิ บจ.รัชดา บิสสิเนส ดิสตริค เจ้าของที่ดิน 50 ไร่ ติดกับอาคารจอดแล้วจร

ปัจจุบันขายต่อให้กับนายแพทย์พงษ์ศักดิ์ วิทยากร ผู้ถือหุ้นใหญ่ โรงพยาบาลกรุงเทพ, กลุ่มตระกูลสถิตธรรมรัตน์, กลุ่ม บจ.แหลมทองค้าสัตว์ ของนายยงศักดิ์ คณาธนะวนิชย์ มีที่ดินอยู่ประมาณ 24 ไร่, ที่ดินของนายแพทย์อานนท์ วรยิ่งยง, ที่ดินของนายพันธ์เลิศ ใบหยก และที่ดินของ บจ.ร่วมพัฒนาอุตสาหกิจ คาดว่าจะได้ที่ดิน 10 ไร่ เพื่อนำมาจัดรูปที่ดินพัฒนาเป็น TOD (พัฒนาเชิงพาณิชย์รอบสถานี) แต่สุดท้ายเอกชนไม่ยอม จน รฟม.ต้องย้ายอาคารจอดรถสายสีส้มไปอยู่บริเวณสถานี รฟม.แทน

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.prachachat.net

สรรพากรยันสิทธิลดหย่อนภาษีLTFจบปีหน้า-ไม่ต่ออายุ ปลื้มรีดภาษีต.ค.ทะลุเป้า

อธิบดีกรมสรรพากรยืนให้สิทธิลดหย่อนภาษี LTF แค่ปี’62 พร้อมพิจารณามาตรการใหม่หากมีข้อเสนอเข้ามา เผยเดือนแรกปีงบประมาณ 2562 เก็บภาษีทะลุเป้า 4.7% ปักธงทั้งปีโกยรายได้ 2 ล้านล้านบาท เดินแผนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นเพิ่มประสิทธิภาพเก็บภาษี-อำนวยความสะดวกประชาชน

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรยังยืนให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีสำหรับมาตรการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาในการซื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF จนถึงปี 2562 ตามมาตรการของคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนมาตรการใหม่ที่ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทยจะเสนอมานั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นเสนอมา แต่หากเสนอมาก็ต้องนำมาพิจารณาก่อน

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร

“เรื่อง LTF กรมสรรพากรยังยืนตามมาตรการของคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนอยู่ก็คือ ให้ถึงปี 2562 ส่วนข้อเสนอมาตรการใหม่ยังไม่เห็น แต่ถ้าเสนอมาก็ต้องนำมาพิจารณา” นายเอกนิติกล่าว

นายเอกนิติกล่าวอีกว่า ในการประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้รายงานผลการจัดเก็บรายได้ในเดือน ต.ค. 2561 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 (ต.ค. 61-ก.ย. 62) ว่า สามารถจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ไป 4.7% โดยภาษีที่เก็บได้เกินเป้าที่สำคัญมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ทั้งจากการบริโภคภายในประเทศและจากการนำเข้า

นายเอกนิติกล่าวว่า กรมสรรพากรคาดว่าการจัดเก็บรายได้ภาษีในปีนี้ จะทำได้ตามเป้าหมายที่ได้รับไว้ที่ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งกรมจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ โดยนำระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยจัดเก็บรายได้ รวมถึงอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยจะดำเนินการในทุกจุดที่กรมสรรพากรต้องสัมผัสกับประชาชนอย่างที่ทำไปแล้ว เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลเบี้ยประกันสุขภาพ ที่ใช้ลดหย่อนภาษี เป็นต้น โดยระยะต่อไปจะเชื่อมโยงกับเบี้ยประกันชีวิต และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เป็นลำดับถัดไป

“กรมสรรพากรเป็นกรมแรก ๆ ที่ยกเลิกใช้สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งก็ได้เล่าให้ที่ประชุมฟังถึงแผนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยตอนนี้สิ่งที่เราทำไปแล้ว คือ เชื่อมโยงข้อมูลงบฯการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กับกรมสรรพากร ตรงนี้ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน” นายเอกนิติกล่าว

อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวด้วยว่า ส่วนการยื่นอุทธรณ์เกี่ยวกับการขออนุมัติเป็นตัวแทนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรในเมือง (Downtown VAT Refund for Tourists) ของทางสมาคมผู้ค้าปลีกไทยนั้น ขณะนี้ได้มีการยื่นเรื่องมาแล้วในวันที่ 22 ต.ค. 2561 ที่เป็นวันสุดท้ายที่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ และขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา ยังไม่ได้มีคำตัดสินออกมา ทั้งนี้ การพิจารณาอุทธรณ์มีเวลา 30 วัน

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.prachachat.net

ถูกใจคนชอบลั่น! “เฟซบุ๊ก” เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ “ลบข้อความ” ที่ส่งไปแล้ว

เว็บไซต์เทเลกราฟรายงานเมื่อวันที่  7 พฤศจิกายนที่ผ่านมาระบุว่า แอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์ แอพพลิเคชั่นส่งข้อความของเฟซบุ๊กเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถลบข้อความหรือรูปภาพที่ส่งไปแล้วได้ภายใน 10 นาที

เฟซบุ๊กเปิดเผยฟีเจอร์ใหม่ดังกล่าวผ่านข้อมูลอัพเดทแอพพลิเคชั่นสำหรับไอโฟน ที่ระบุว่า “เร็วๆนี้: ลบข้อความจากบทสนทนาหลังจากข้อความถูกส่งไปแล้ว” และว่า “หากคุณส่งรูปภาพ ข้อมูลที่ผิดพลาด หรือข้อความไปผิดห้องสนทนาโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณสามารถทำให้ถูกต้องได้โดยการลบมันออกได้หลังจากส่งไปแล้วภายใน 10 นาที”

อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าการอัพเดทดังกล่าวจะมีในเฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์ของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ด้วยหรือไม่

ทั้งนี้เว็บไซต์เทคครันช์ รายงานเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า เฟซบุ๊ก ได้ลบข้อความสนทนาของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเฟซบุ๊ก และผู้บริหารคนอื่นๆที่ส่งให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนอื่นๆออกทั้งหมด โดยหลงเหลือไว้เพียงข้อความที่ผู้ใช้ตอบกลับเท่านั้น

ด้านเฟซบุ๊กอ้างว่าเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทหลังจากระบบอีเมล์ของโซนีพิกเจอร์ถูกแฮกข้อมูลไปเมื่อปี 2014 ก่อนจะประกาศว่าจะนำฟีเจอร์ลบข้อความที่ส่งไปแล้วดังกล่าวให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้ต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.prachachat.net

หยุดคิด

ความคิดมันเป็นเรื่องธรรมดาของคนเราอยู่ตลอดเวลา
อยู่แล้ว ใครล่ะที่จะหยุดคิดได้ ก็เห็นจะมีแต่องค์สมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ประสงค์จะคิดก็คิดได้ ประสงค์จะหยุดก็หยุดได้ตามปรารถนา แต่อย่างเราทั้งหลายนี่คิดมากเกินไปเลยทุกข์กันทั่วหน้า คิดมากก็ชั่วมาก คิดน้อยก็ชั่วน้อย
ถ้าไม่อยากจะชั่วก็หยุดความคิดซะ แต่มันหยุดยากหน่อย
ต้องหมั่นฝึกความรู้ทันให้รู้ทันก่อนจะคิดให้กำหนดว่า
จะคิดหนอๆ เรื่องชอบ ชัง เฉย ต้องรู้ทันให้หมด อย่าประมาทให้ความคิดแทรกสิงไวกว่าแสง เกิดดับไวเท่าจิต ชั่วพริบตาเดียวจิตเกิดดับหลายแสนดวง แต่ถ้าเรารู้ทันสักหนึ่งดวงก็คุ้มแล้วต่อไป
ก็จะชำนาญต่อไปก็จะอ่านชีวิตออก บอกได้ ใช้เป็น หายโง่แน่นอน อัจฉริยะบุคคลเท่านั้นที่เขาขยันฝึกกันจะได้อยู่ได้อย่างไม่ขาดทุน บุญกุศลความดีเหลือใช้แน่นอน ตาเห็น หูได้ยิน
จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส กายถูกต้อง ใจรู้อารมณ์ มันก็ต้องคิดเป็นธรรมดา แต่ถ้าเรารู้ทันความคิดได้รู้ทันจะคิดได้นี่มันไม่ธรรมดา คนฉลาดเท่านั้นแหละเขาจึงจะทำได้ ตาเห็นรูปกำหนดว่า
เห็นหนอๆ หูได้ยินว่าได้ยินหนอๆ กลิ่นหนอๆ รสหนอๆ ถูกหนอๆ คิดหนอๆ คนเก่ง รู้ทันได้แม้แต่จะคิดหนอๆ ดูลมหายใจ
เข้าออกเป็นหลักก็ได้ ลมหายใจเข้ากำหนดว่าเข้าหนอ
ลมหายใจออกกำหนดว่าออกหนอ พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่าต้องรู้ทันทุกอย่าง ยืน เดิน นั่งนอน คู้ เหยียด ก้ม เงย พูด นิ่ง ใจสงบหรือไม่สงบ คิดหรือไม่คิด ต้องรู้ทันทุกอย่าง เพื่ออะไร รู้ทันแล้วหยุดมันได้น่าซิ คนเราชั่วก็เพราะคิดอยากก็เพราะคิด โกรธก็เพราะคิด รู้ไม่ทันก็เพราะคิดเผลอไป ความคิดนั้นไม่ใช่
ของหยาบเป็นของละเอียดยากที่จะรู้ทันได้ง่าย มีถึงสามขั้น ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นละเอียด แต่ขั้นต้นคนทั่วไปก็รู้ไม่ทันซะแล้วอย่างเช่นกำลังคิดอยู่แต่ก็พูดหน้าตาเฉยว่าฉันไม่ได้คิดอะไร เพราะขาดความรู้ทันตรวจดู บางคนคิดมากจนเป็นบ้าไป
หยุดคิดไม่เป็นขาดการฝึกความรู้ทันในปัจจุบัน คือต้องรู้ทันที
ไม่รีรอ รู้หนอ ไม่ทันหนอ ลืมหนอ เราจะได้เป็นผู้มีสติรู้ทันอยู่
คนมีสติเข้าไม่บ้ากันหรอก บางคนก็อยากได้ บางคนก็อยากไป บางคนก็อยากหยุด ล้วนแล้วเกิดจากความคิดทั้งนั้น อยากได้ทุกอย่างในโลก อยากไปทุกแห่งทั้งนรก สวรรค์ อยากหยุด
ทุกอย่างที่ทำให้ตนทุกข์ คนฉลาดเขาได้เรียนรู้พระธรรมของพระพุทธเจ้าที่รู้ทันทุกอย่างได้แล้วเขาจึงฝึกความรู้ทันแล้วหยุดความคิดซะ ก็เป็นอันพ้นทุกข์ พ้นบาป พ้นชั่ว พ้นความโศก
พ้นนรก ด้วยความไม่ประมาท รู้ทันทั้งวันทั้งคืนจึงได้เห็น
ความเปลี่ยนแปลงของการปรุงแต่งทั้งปวงแล้วไม่ยึดถือ รู้ทันอย่างเดียว

หลักปฏิบัติรู้ทันอารมณ์ปัจจุบัน

กำหนดลมหายใจ ลมหายใจเข้ากำหนด เข้าหนอ ลมหายใจออกกำหนด ออกหนอ
ยืนขณะยืน กำหนด ยืนหนอๆ
เดิน ก่อนจะเดิน กำหนด อยากเดินหนอ ขณะเดิน กำหนด
เดินหนอๆ หรือขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ กำหนดจนกว่า
จะหยุดเดิน หากหยุดเดิน กำหนด ยืนหนอ
นั่ง ก่อนจะนั่ง กำหนด อยากนั่งหนอ ขณะหย่อนตัวลงนั่ง กำหนดนั่งหนอๆ ถ้าก้นติดกับพื้นหรือเก้าอี้ก็กำหนดติดหนอ
ขยับตัวถ้าอยากจะขยับตัว กำหนด จะขยับหนอ ขณะขยับก็กำหนด ขยับหนอๆ
นอนหากจะเอนตัวลงนอน กำหนด เอนหนอๆ หากจะหลับตากำหนด อยากหลับตาหนอ แล้วหรี่ตาลง กำหนด หรี่หนอๆ อย่างช้าๆ พอหลับตาสนิทก็กำหนดหลับหนอ แล้วกำหนด
นอนหนอๆ ไปจนกว่าจะหลับ
พูด หากจะพูดกับใครก็กำหนดจะพูดหนอ แล้วขณะพูดก็กำหนด พูดหนอๆ จนกว่าจะหยุดพูด
ได้ยิน หากได้ยินคนพูดกำหนด ได้ยินหนอๆ กำหนดจนกว่าเสียงหายไปกำหนด หายหนอ หากเสียงไม่หายให้กำหนดว่า
ไม่หายหนอ
กระพริบตาทุกครั้งที่กระพริบตา กำหนด กระพริบหนอ
ตามจำนวนครั้งที่กระพริบ
ความรู้สึก
– หากเริ่มคิด กำหนด จะคิดหนอ ขณะคิดอยู่ก็กำหนดคิดหนอๆ
ความคิดเป็นภาพ กำหนดภาพหนอๆ ความคิดเป็นเสียง กำหนด ได้ยินหนอๆหรือเสียงหนอๆ กำหนดจนกว่าความคิดนั้นหายไป หากความคิดหายกำหนด หายหนอหากความคิดเกิดขึ้นอีกแม้จะเป็นเรื่องเดิมหรือเรื่องใหม่ก็ตามกำหนด
จะคิดหนอ คิดหนอ และหายหนอ ต่อไป หากความคิดยัง
ไม่หายไปให้กำหนดว่าไม่หายหนอ
– หากเริ่มกังวล กำหนดจะกังวลหนอ ขณะกังวลอยู่กำหนด
กังวลหนอๆกำหนดจนกว่าความกังวลนั้นหายไป หากความกังวลนั้นหายไป กำหนด หายหนอ หากความกังวลเกิดขึ้นอีก แม้จะเป็นเรื่องเดิมหรือเรื่องใหม่ก็ตาม กำหนดจะกังวลหนอกังวลหนอๆ และหายหนอต่อไป หากความกังวลยังไม่หายไปให้กำหนดว่าไม่หายหนอ
– หากรู้สึกเริ่มดีใจ กำหนด จะดีใจหนอ หากความดีใจนั้นอยู่ กำหนด ดีใจหนอๆ หากความดีใจนั้นหายไป กำหนด หายหนอหากความดีใจยังไม่หายไปให้กำหนดว่าไม่หายหนอ
– หากรู้สึกเริ่มเสียใจ กำหนด จะเสียใจหนอ หากความเสียใจ
ยังอยู่ กำหนด เสียใจหนอๆกำหนดจนกว่าความเสียใจนั้นหายไป กำหนดหายหนอ หากความเสียใจยังไม่หายไปให้กำหนดว่าไม่หายหนอ
– หากรู้สึกเริ่มโกรธ กำหนด จะโกรธหนอ หากความโกรธยังอยู่กำหนด โกรธหนอๆ กำหนดจนกว่าความโกรธนั้นหายไป กำหนด หายหนอหากความโกรธยังไม่หายไปให้กำหนดว่า
ไม่หายหนอ
– หากรู้ว่าเผลอจากการลืมกำหนดรู้ทัน ขณะจะเริ่มเผลอ กำหนด จะเผลอหนอ ขณะเผลอกำหนด เผลอหนอๆ หากเผลอไปแล้วคิดได้ว่าเผลอ ก็กำหนด เผลอหนอ
– หากป่วยหรือไม่สบาย กำหนดป่วยหนอๆ ไม่สบายหนอๆ
ไม่ไหวหนอๆ แย่หนอๆ กำหนดอะไรก็ได้ตามความรู้สึกที่เรากำลังเป็นอยู่หากความป่วยยังไม่หายไปให้กำหนดว่า
ไม่หายหนอ
– หากปวดเมื่อยตามร่างกาย จะเริ่มปวดกำหนดจะปวดหนอ
หากความปวดนั้นมีอยู่ กำหนดปวดหนอๆ หากความปวดนั้นหายไปกำหนด หายหนอหากความปวดเมื่อยยังไม่หายไป
ให้กำหนดว่าไม่หายหนอ

การกำหนดรู้ทันควรทำอย่างต่อเนื่องทั้งวันและทั้งคืน
ทั้งหลับ หลับหนอๆ ทั้งตื่น ตื่นหนอๆ ทั้งยืน ยืนหนอๆ ทั้งนอน นอนหนอๆ ทั้งนั่ง นั่งหนอๆ ทั้งคู้เข้า คู้หนอๆ ทั้งเหยียดออก เหยียดหนอๆ ทั้งก้ม ก้มหนอๆ ทั้งเงย เงยหนอๆ ทั้งพูด
พูดหนอๆ ทั้งนิ่ง นิ่งหนอๆ ทั้งการก้าวไป ก้าวหนอๆ
การถอยกลับ ถอยหนอๆ การแลดู แลหนอๆ การเหลียวดู
เหลียวหนอๆ การกิน กินหนอๆ การดื่ม ดื่มหนอๆ การเคี้ยว เคี้ยวหนอๆ และลิ้มรส รสหนอๆ การถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ ถ่ายหนอๆ ไม่ว่าจะทำอะไรต้องเก็บมากำหนดทั้งหมด การที่เรากำหนดอยู่ตลอดเวลาเรียกได้ว่าเรามีสติสัมปชัญญะ
การกำหนดรู้ทันจะทำให้เรารู้ว่าตอนนี้ทุกข์เพราะอะไร ลำบากเพราะอะไร จนเพราะอะไร ป่วยเพราะอะไร บาปเพราะอะไร
ดวงตกเพราะอะไร เค้าเรียกว่ารู้ไปถึงต้นเหตุ ต้นเหตุอยู่ตรงที่เรากำหนดไม่ทันอารมณ์ปัจจุบัน ไม่ยอมกำหนดอารมณ์ปัจจุบันเพื่อดับความคิดทั้งหลาย จึงทำให้ตัวเราเข้าไปยึดความคิดไว้ จนเกิดความเครียด ความวิตก กังวลใจ และหาทางออกไม่ถูก แต่ถ้าเรากำหนดรู้ทันได้เราก็รู้ต้นเหตุได้ ในเมื่อเรารู้ต้นเหตุเราก็แก้ไขปัญหาได้ การแก้ไขปัญหา คือ การกำหนดรู้ให้ทัน
ต้น กลาง สุด ของสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป กำหนดตัวรู้ทันเพื่อเปลี่ยนของเสียให้เป็นของดี ก็จะทำให้จิตใจของเราผ่องใส สบายใจ เมื่อจิตใจผ่องใส ความทุกข์ ความเครียด ความป่วยไข้ทางจิตใจก็จะหายไป เมื่อสภาพจิตใจดี สภาพร่างกายก็ดีตาม ซึ่งผู้ที่ปฏิบัติจริงจะพิสูจน์ได้ด้วยตนเองเท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลจาก dpadipa.org

ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561

	ปตท.	บางจาก	เชลล์	เอสโซ่	คาลเท็กซ์	ไออาร์พีซี	พีที	ซัสโก้	เพียว	ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95	29.45	29.45	29.45	29.45	29.45	29.45	29.45	29.45	29.45	29.45
แก๊สโซฮอล์ 91	29.18	29.18	29.18	29.18	29.18	29.18	29.18	29.18	29.18	29.18
แก๊สโซฮอล์ E20	26.44	26.44	26.44	26.44	26.44	–	26.44	26.44	26.44	26.44
แก๊สโซฮอล์ E85	20.94	20.94	–	–	–	–	–	20.94	20.94	–
เบนซิน 95	36.56	–	–	–	37.01	–	37.06	36.86	36.66	36.86
ดีเซล	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59
ดีเซลพรีเมี่ยม	32.89	33.46	33.46	33.46	33.46	–	–	–	–	–
แก๊ส NGV	15.73	15.73	–	–	–	–	–	–	–	–