ตลาด‘รับสร้างบ้าน’ฟื้น ปีหน้าจ่อปรับราคา
ธุรกิจรับสร้างบ้านส่งสัญญาณฟื้น ผู้ประกอบการอัดโปรโมชั่น-แบงก์แข่งปล่อยสินเชื่อ กระตุ้นโค้งสุดท้าย จับตาต้นทุนแรงงาน-วัสดุก่อสร้างขยับ จ่อปรับราคาปีหน้า “ซีคอนโฮม-พีดีฯ”อัดแคมเปญชิงยอดโค้งสุดท้าย
สัญญาณบวกเศรษฐกิจฟื้นตัวและดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 ที่ผ่านมา กระตุ้นความต้องการสร้างบ้านและแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านขยายตัวต่อเนื่อง
นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทซีคอนโฮม ผู้ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่าหลังจากตลาดชะลอตัวในปีก่อน เห็นสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้ สะท้อนจากการร่วมออกบูธ งานแฟร์ที่เกี่ยวกับบ้าน ทำยอดขายได้เกินเป้าหมาย 30% โดยกำลังซื้อที่กลับมาอย่างชัดเจน คือ บ้านหลังใหญ่ ราคา 6-10 ล้านบาทเพิ่มขึ้นมาจากปีที่ผ่าน ซึ่งเป็นการสร้างบ้านหลังที่ 2 หรือสร้างบ้านให้บุตรหลาน กลุ่มนี้ใช้เงินสด 80%
“อีกปัจจัยกระตุ้นการตัดสินใจสร้างบ้านปีนี้ มาจากกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีที่ดิน จึงตัดสินใจสร้างบ้านเพิ่มขึ้น”
สำหรับการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท 10 เดือนแรก ทั้งซีคอนโฮม ตลาดบน ราคา 6-30 ล้านบาท, คอมแพคโฮม ระดับกลาง ราคา 3-7 ล้านบาท และบัดเจท โฮม กลุ่มแมส ราคา 1.5-3 ล้านบาท มียอดขายรวม
รวม 213 หลัง มูลค่า 1,041 ล้านบาท เติบโตในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะซีคอนโฮม บ้านขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ แต่ที่ผ่านมาไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ จึงยังไม่ตัดสินใจสร้างบ้าน
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าปี 2560 จะสร้างยอดขายรวมได้ตามเป้า 1,300 ล้านบาท วางเป้าหมายปี2561 อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5-7%
เล็งใช้วัสดุสำเร็จรูปลดแรงงาน
นางสาวศุภิชชา กล่าวว่าปีนี้ราคาวัสดุก่อสร้างจากสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปีที่ผ่านมา พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยรวมเฉลี่ยที่ 1.4% หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ราคาสูงขึ้นถึง 8.2% หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้สูงขึ้น 3.3% หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีตสูงขึ้น 0.3% ส่งผลให้ซีคอนโฮม ต้องปรับราคาบ้านซีคอนโฮมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนการสร้างบ้านเพิ่มสูงขึ้น
ปีหน้ายังต้องรอดูทิศทางการปรับราคาของกลุ่มวัสดุก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัจจัยการก่อสร้างโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐ ,การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่จะส่งผลให้มีการใช้วัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ปริมาณมาก รวมทั้งการใช้แรงงานก่อสร้าง ที่จะทำให้เกิดภาวะขาดแคลน และส่งผลต่อต้นทุนดังกล่าว
“หากต้นทุนวัสดุและค่าแรงมีแนวโน้มปรับขึ้นในครึ่งปีแรก กลุ่มบริษัทอาจพิจารณาปรับขึ้นราคารับสร้างบ้านช่วงขึ้นปีหลัง 2561”
ปัจจุบันได้พัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้างด้วยการใช้วัสดุสำเร็จรูป เช่น บันได ซึ่งช่วยลดเวลาในการก่อสร้างได้ราว 2 สัปดาห์ อีกทั้งช่วยลดการจ้างแรงงานและกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาการใช้วัสดุสำเร็จรูปอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น รั้วบ้าน ห้องน้ำ
“มองว่าการแข่งขันของธุรกิจรับสร้างบ้านปีหน้าจะเน้นไปที่บริการหลังการขาย บริการครบวงจร การเสนอขายแบบบ้านผ่านเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งบ้านที่ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุ บ้านประหยัดพลังงาน และการออกแบบบ้านที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์แต่ละกลุ่ม” นางสาวศุภิชชา กล่าว
‘รับสร้างบ้าน’จ่อปรับราคาปี61
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THBA) เปิดเผยว่าปีนี้ตลาดรับสร้างบ้านมีแนวโน้มฟื้นตัวจากปีก่อน โดยเฉพาะตั้งแต่ปลายไตรมาส3 ที่ผ่านมา สมาคมฯประเมินมูลค่าปีนี้อยู่ที่ 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นราว 5-10% เช่นเดียวกับค่าจ้างแรงงานที่ขยับ 10-15% ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายได้ปรับราคารับสร้างบ้านไปแล้ว 3-5%
“หากต้นทุนวัสดุก่อสร้างและค่าแรงยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เชื่อว่าผู้ประกอบการที่ยังไปปรับราคาปีนี้ มีโอกาสจะปรับขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกที่ราว 5-10%”
อย่างไรก็ตามจากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว และธนาคารกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อบ้านโค้งสุดท้าย รวมทั้งความกังวลของผู้บริโภคต่อการปรับขึ้นราคาตลาดรับสร้างบ้านในปีหน้า ทำให้ช่วง 2 เดือนสุดท้าย ลูกค้าตลาดบนและตลาดกลางตัดสินใจสร้างบ้าน สะท้อนจากยอดกู้สินเชื่อของทั้ง 2 ตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่ปีหน้ายังเห็นสัญญาณบวกตลาดขยายตัวต่อเนื่อง
นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA) กล่าวว่าช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีและต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2561 ตลาดรับสร้างบ้านมีความคึกคักมากขึ้น สะท้อนจากช่วงที่สมาคมฯจัดงาน Home Builder & Materials Expo 2017 เดือนส.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ปัจจัยบวกมาจากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว รวมถึงการส่งออกของไทยที่ขยายตัวค่อนข้างสูง ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการเติบโตของตลาดส่งออกของประเทศในภูมิภาคเอเชียที่ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นกำลังซื้อของผู้ประกอบการและธนาคาร คาดปีนี้เติบโตใกล้เคียงปีก่อน ที่ราว 5-10%
อัดโปรโมชั่นโค้งสุดท้าย
นางสาวศุภิชชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 45 วันสุดท้ายก่อนปิดปี 2560 กลุ่มซีคอนโฮม ได้จัดบิ๊กโปรโมชั่นส่งท้ายปี พร้อมเปิดศูนย์บริการรับสร้างบ้านโฉมใหม่ วันที่ 24-26 พ.ย. ที่สำนักงานใหญ่สี่พระยา คาดว่าจะสร้างยอดขายจากการจัดงาน 150 ล้านบาท
งานดังกล่าวให้ข้อเสนอฟังก์ชั่นพิเศษ อาทิ ซีซีทีวี ,ทางลาดสำหรับวีลแชร์ , Seacon Home Elder Care สำหรับบ้านใหม่ 6 แบบในราคาพิเศษ พร้อมรับนวัตกรรมคุณภาพจาก “เอสซีจี”
นางมาลี สุวรรณสุต รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่าได้จัดโปรโมชั่นแรงๆ ส่งท้ายปี สำหรับลูกค้าที่สนใจปลูกสร้างบ้านภายในปีนี้ ด้วยแคมเปญ “The Perfect 10” กับ “10 แบบบ้านสไตล์โมเดิร์น” รับส่วนลด10% สำหรับลูกค้าที่จอง-เซ็นสัญญาปลูกสร้างบ้านกับ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ – 10 ธ.ค.นี้
http://www.bangkokbiznews.com
คอนโด-ทาวน์เฮาส์ดันอสังหาโต19% จับตาสิ้นปี”60 มูลค่าตลาดรวมทะลัก 4 แสนล้าน
เปิดผลสำรวจอสังหาฯ 9 เดือนแรก ตลาดรวมโตเกินคาดหมาย 16-19% ชี้ผลประกอบการบิ๊กแบรนด์ดันตลาดโตเกินคาด เผยช่วง 2 เดือนสุดท้ายปีนี้ (พฤศจิกายน-ธันวาคม 60) โหมแข่งขันจัดโปรโมชั่นระบายสต๊อกบ้าน-คอนโดฯพร้อมอยู่ “ไซมิสแอสเสท” ขนคอนโดฯใหม่เจาะตลาดจีน-อินเดีย “พฤกษาฯ-แสนสิริ” เปิดตัวโครงการใหม่ไม่ยั้งมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดขาย 9 เดือนแรกปีนี้เป็นไปในทิศทางบวกหรือเติบโตเกินความคาดหมาย โดยตลาดรวมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 400,500 ล้านบาท เทียบกับปี 2559 ที่มีมูลค่าตลาดรวมทั้งนี้ 362,456 ล้านบาท เท่ากับมีอัตราเติบโต 10-11% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าน่าจะมีอัตราเติบโต 5% ทำให้เป็นแรงเหวี่ยงที่มองไปถึงปีหน้าตลาดที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มคึกคักต่อเนื่อง
โดยสถานการณ์เข้าสู่ 2 เดือนสุดท้ายของปี 2560 คาดว่าผู้ประกอบการแข่งขันจัดกิจกรรมการตลาดกระตุ้นยอดขายกันเป็นระลอกสุดท้ายก่อนจบปี หลังจากประเมินแล้วว่ายังมีโอกาสกระตุ้นกำลังซื้อ ประกอบกับภาวะปกติถือเป็นช่วงไฮซีซั่นในการผลักดันยอดขาย ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจภาพรวมอยู่ในทิศทางขาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากรัฐบาลประกาศจุดยืนให้มีการเลือกตั้งในช่วงปลายปี 2561
9 เดือนแรกปีนี้โต 19%
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วงไตรมาส 3/60 (กรกฎาคม-กันยายน 2560) มีการเติบโตสูงถึง 16% มูลค่าตลาดรวม 116,777 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีมูลค่าตลาดรวม 101,035 ล้านบาท
ในขณะที่มูลค่าตลาดรวมช่วง 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2560) อยู่ที่ 315,339 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตถึง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีมูลค่าตลาดรวม 265,777 ล้านบาท
ในจำนวนนี้ คอนโดมิเนียมมีอัตราเติบโตคึกคักต่อเนื่องอยู่ที่ 37% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ที่รักษาอัตราเติบโตที่ 15% โปรดักต์ที่ต้องจับตาคือสินค้าบ้านเดี่ยว มีอัตราเติบโตติดลบ -3% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อบ้านเดี่ยวที่กลายเป็นสินค้าราคาสูงในขณะนี้พฤกษาฯเปิดคอนโดฯเพิ่มช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี พฤกษาฯเน้นระบายสต๊อกโครงการบ้านและคอนโดฯ ซึ่งมีสต๊อกในมือมูลค่ารวม 5,000-6,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเหลือขาย 2 เดือน
“ภาพรวมจะได้เห็นการแข่งขันจัดโปรโมชั่นเพื่อผลักดันยูนิตพร้อมอยู่ เช่น ทำโปรฯ เคลียแรนซ์เซล ในส่วนของพฤกษาฯ เราก็มีแคมเปญออกมาชนในตลาด มีทั้งแจกรถยนต์ ทองคำ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพราะฉะนั้นผู้บริโภคมีโอกาสในการเลือกช็อปเยอะ ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีมาก”
นอกจากเน้นการขายการโอนยูนิตพร้อมอยู่แล้ว นายปิยะกล่าวว่าพฤกษาฯยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ตามแผนธุรกิจที่ได้ประกาศไว้ โดยเฉพาะคอนโดฯ ราคายูนิตละ 2-3 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวใหม่ 2-3 โครงการ อาทิ พลัมคอนโด รามคำแหง 60 สถานีลำสาลี โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม จุดเชื่อมต่อกับสายสีเหลือง เริ่มต้นยูนิตละ 1.35 ล้านบาท, เดอะไพรเวซี่ เฟส 2 แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการรวมกัน 3,000 ล้านบาท
แสนสิริเปิดใหม่ 11 โครงการ
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไตรมาส 4/60 เป็นช่วงที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยอย่างคึกคัก ภาพรวมเศรษฐกิจคาดว่าเติบโต 3-4% โดยมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศและภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง
บริษัทมีแผนเปิดตัวใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 7 โครงการ 13,000 ล้านบาท คอนโดฯ 4 โครงการ 13,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการพัฒนาภายใต้แผนร่วมทุน “บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง” 1 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท และคอนโดฯแสนสิริ 3 โครงการ มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท ส่งผลให้ปีนี้แสนสิริพัฒนาที่อยู่อาศัย 19 โครงการ มูลค่า 44,700 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้
ศุภาลัยปั๊มพรีเซล 93%
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนสุดท้ายปีนี้ บริษัทไม่เปิดตัวโครงการใหม่ เนื่องจากได้มีการเร่งเปิดขายไปตั้งแต่ไตรมาส 3/60 ไปแล้ว และสามารถทำยอดขาย (พรีเซล) ได้อย่างน่าพอใจ ขณะที่เดียวกัน ช่วง 9 เดือนแรกทำยอดขายรวม 2.5 หมื่นล้านบาท จากเป้ายอดขายทั้งปี 2.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 93% จึงมั่นใจว่าปีนี้สามารถทำยอดพรีเซลได้ตามเป้าแน่นอน
“ปีนี้จะเห็นผู้ประกอบการรายใหญ่ระดับท็อป 10 ในตลาดทำยอดขายได้เข้าเป้า โดยส่วนใหญ่เติบโตไม่ต่ำกว่าตัวเลขสองหลัก เพราะได้ประเมินแล้วว่าภาวะตลาดในปีนี้ไม่เอื้ออำนวย จึงได้เร่งทำ การขายตั้งแต่ต้นปี” นายไตรเตชะกล่าว
แข่งระบายสต๊อกพร้อมอยู่
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท กล่าวว่า เตรียมนำ 2 โครงการใหม่ คอนโดฯ ไซมิส จอยญ่า สุขุมวิท 87 และไซมิส เอ็กซ์คลูซีฟ รัชดาภิเษก ห่าง MRT สถานีรถไฟฟ้ารัชดาภิเษก 120 เมตร ติดอาคารโอลิมเปีย ไปโรดโชว์ขายเจาะลูกค้าในประเทศจีนและอินเดียช่วงต้นพฤศจิกายน 2560 ก่อนเปิดตัวเป็นทางการปี 2561 เนื่องจากตลาดลูกค้าต่างชาติมีความต้องการลงทุนอสังหาฯในประเทศไทยมากขึ้น ที่ผ่านมามีอัตราผลตอบแทนการเช่าเฉลี่ย 5% ต่อปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจบรรยากาศจัดกิจกรรมการตลาดพบว่ามีความคึกคักเป็นอย่างมาก โดยกลยุทธ์การโละสต๊อกเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย เริ่มจากบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จัดโปรโมชั่น “สายเปย์ จ่าย 0 คืน คูณ 2” สำหรับผู้ที่จองบ้านและคอนโดฯสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ รับสิทธิประโยชน์ค่าใช้จ่าย 0 บาททุกรายการ พร้อมรับเงินคืน 2 เท่า ได้คืนส่วนลด ณ วันจอง และได้คืนส่วนลด ณ วันโอน โปรโมชั่นมีผลถึงวันที่ 15 ธ.ค.นี้
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ฟื้นอีเวนต์ใหญ่หลังจากห่างหายไป 2 ปีเต็ม ภายใต้กิจกรรมแคมเปญ “แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม 2017” 24-26 พ.ย. ที่แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน รวมทั้งการประกาศเปิดตัว 2 คอนโดมิเนียมใหม่แบรนด์ HAUS ควบคู่กิจกรรมบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้กับวงการด้วยการแถงเปิดประสบการณ์ตรงกับ 6 นวัตกรรมจาก SIRI LIFE TECH เพื่อชีวิตแนวใหม่
บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กิจกรรมการตลาดช่วงไตรมาส 4/60 เตรียมเปิดขายคอนโดฯ LIFE Asoke-Rama 9 มูลค่าโครงการ 9 พันล้านบาท โดยเปิดขายครั้งแรกผ่านช่องทางออนไลน์ AP-iBooking ผ่านเว็บไซต์ apthai.com ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2560 และจะเปิดขายเป็นทางการ ณ สำนักงานขายโครงการวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2560 ตั้งเป้ายอดขาย 50% ในช่วงอีเวนต์พรีเซล หรือ 4.5 พันล้านบาท
http://www.bkkcitismart.com
ลดหย่อนภาษีด้วยประกัน วิธีที่ขาดไม่ได้ ก่อนขอคืนภาษีครั้งต่อไป
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องภาษี เชื่อแน่ว่าต้องมีหลายคนมองบน หรืออยากจะหันหน้าหนีภาระก้อนนี้แน่ๆ เพราะกว่าจะทำงานหาเงินมาได้ก็เหนื่อยแทบแย่แล้ว ยังจะต้องมาหักเงินได้ของเราไปอีก อย่างนี้เป็นใครก็คงไม่อยากจ่ายใช่ไหมล่ะ จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าบางคนจะมองหาวิธีลดหย่อนภาษี หรือเลือกซื้อประกันชีวิตเพื่อใช้ประโยชน์ในการวางแผนลดหย่อนภาษี ทำให้ได้รับเงินคืนจากการยื่นภาษีและได้รับความคุ้มครองไปในตัวพร้อมๆ กัน สำหรับใครที่กำลังหาวิธีลดหย่อนภาษีอยู่ เรามีคำแนะนำดีๆ มาฝาก
ก่อนลดหย่อนภาษี มาดูวิธีคำนวณภาษีกันก่อน
สิ่งแรกที่เราต้องรู้ คือวิธีการคำนวณภาษี ว่าเรามีรายได้เท่าไหร่ สามารถนำมาหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนได้อย่างไร แล้วเงินภาษีที่เราต้องจ่ายเป็นเงินกี่บาท โดยมีสูตรคำนวณง่ายๆ คือ
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา = (รายได้ต่อปี – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อนภาษี) x อัตราภาษี (%)
จากสูตรคำนวณนี้ ควรทราบว่า “ค่าใช้จ่าย” นั้น โครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ประกาศใช้ในปี 2560 ระบุว่า สามารถหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 50 แต่รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท เราก็นำจำนวนรายได้ต่อปีมาหักลบค่าใช้จ่ายจำนวนนี้และค่าลดหย่อนภาษี เหลือเงินได้สุทธิเท่าไหร่ ก็เทียบอัตราภาษีแล้วคิดคำนวณออกมาได้เลย
อยากลดหย่อนภาษี อ่านตรงนี้เลย
เมื่อเห็นยอดเงินภาษีที่ต้องจ่ายในแต่ละปี หลายคนคงคิดว่า คงถึงเวลาเสียทีที่ต้องมองหาตัวช่วยลดหย่อนภาษีแบบจริงจัง ซึ่งคนส่วนมากก็จะกำเงินไปธนาคารแล้วซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี แต่เดี๋ยวก่อน การลดหย่อนภาษียังมีวิธีอื่นให้ตัดสินใจ เพราะทุกวันนี้เราสามารถซื้อประกันชีวิตเพื่อใช้ประโยชน์ในการวางแผนภาษีได้ ภายใต้เงื่อนไขคือ ต้องเป็นประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท หรือเป็นประกันชีวิตแบบบำนาญ ก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
อย่างไรก็ดี มีข้อควรคำนึงเล็กน้อยก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิตเพื่อใช้ประโยชน์ในการวางแผนภาษี นั่นคือ ต้องถามตัวเองก่อนว่า เราซื้อประกันนี้ด้วยวัตถุประสงค์ใดนอกจากต้องการนำไปลดหย่อนภาษี เพราะข้อดีของการทำประกันเหล่านี้ควบคู่ไปด้วยก็คือ ได้รับความอุ่นใจจากการคุ้มครองสุขภาพหรืออุบัติเหตุขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ ถ้าต้องการประโยชน์จากประกันในส่วนนี้ด้วย ก็ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ลดหย่อนจนพอใจ ก็ได้เวลาขอคืนภาษี
ในที่สุดก็ถึงเวลายื่นภาษีประจำปี ซึ่งมีขั้นตอนที่ไม่ยากเลย เพราะเราสามารถทำเรื่องผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้สะดวกและรวดเร็ว โดยเริ่มจากเว็บไซต์กรมสรรพากร หรือค้นหาเว็บไซต์ผ่าน Google ได้เลย แล้วจึงเข้ามาลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วอย่าลืมตรวจสอบชื่อ ที่อยู่ให้ถูกต้อง โดยเฉพาะคนที่ขอคืนภาษีเป็นเช็ค เพราะที่อยู่นี้มีผลต่อการนำส่งเช็คถึงมือคุณ จากนั้นก็เลือกสถานะในการยื่นภาษี ตรงนี้สำหรับคนที่มีคู่สมรสสามารถเลือกได้ว่าจะยื่นภาษีแยกกัน หรือยื่นร่วมกันอย่างไรบ้าง แล้วจึงเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกประเภทเงินได้และค่าลดหย่อน
สำหรับคนทำงานอย่างเราๆ ส่วนมากประเภทของรายได้คือข้อ มาตรา 40(1) เงินได้จากการจ้างแรงงาน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง บำนาญ โบนัสฯ หรือหากใครมีรายได้ทางอื่น ก็เลือกเพิ่มเติมได้ จากนั้นให้เลือกค่าลดหย่อนภาษีที่เราวางแผนเอาไว้ว่ามีอะไรบ้าง อย่างเช่นประกันชีวิตเพื่อใช้ประโยชน์ในการวางแผนภาษีที่เราซื้อไว้ เสร็จแล้วก็กรอกข้อมูลรายได้ของเราลงไป ซึ่งข้อมูลนี้ได้มาจากหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือที่เราเรียกสั้นๆ ว่า 50 ทวิ แล้วก็บันทึกรายการค่าลดหย่อนลงในระบบ ระบบก็จะคำนวณภาษีให้เราเสร็จสรรพ หน้าที่เราก็แค่ตรวจสอบข้อมูล เผื่อว่ามีรายการไหนที่หลงลืมไป ถ้าคิดว่าครบถ้วนแล้วก็ยืนยันข้อมูล รอรับเงินคืนภาษีได้เลย
การยื่นภาษีไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะทำอย่างไรให้ยื่นแล้วได้เงินคืนภาษีกลับมาตามที่คุณต้องการ เป็นเรื่องที่เราต้องวางแผนให้ดี อะไรลดหย่อนได้ควรเลือกมาให้ครบ อย่างประกันชีวิตที่ใช้ประโยชน์ในการวางแผนภาษีถือเป็นตัวเลือกที่ขาดไม่ได้ ใครยังไม่มีไอเดียว่าจะซื้อประกันชีวิตตัวไหน ก็อาจเลือกจากความคุ้มครองที่ต้องการก็ได้ เช่น
ถ้าอยากสร้างมรดกไว้ให้คนรุ่นหลัง สามารถเลือกประกันสร้างมรดก iProtect ที่พร้อมจ่ายมรดกให้คนที่คุณรักเมื่อคุณจากไป เพียงจ่ายเบี้ยประกันสั้นๆ แค่ 5 ปี หรือ 10 ปี หรือค่อยๆ จ่ายจนถึงอายุ 85 ปี โดยเบี้ยประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท**
หากอยากเตรียมพร้อมสู่วัยเกษียณให้ตัวเอง ก็เลือกประกันบำนาญอย่าง iRetire ที่สามารถเลือกระยะเวลาจ่ายเบี้ยได้ ว่าจะจ่าย 5 ปี หรือชำระเบี้ยเพียงครั้งเดียว (single premium) แถมตอบโจทย์เรื่องการลดหย่อนภาษีได้ด้วย เพราะเบี้ยประกันสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท**
และถ้าคุณต้องการวางแผนทางการเงินในระยะสั้นๆ ขอแนะนำประกันสะสมทรัพย์ iGen ด้วยเบี้ยประกันคงที่ จ่ายเพียง 6 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองถึง 10 ปี และเบี้ยประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท** ทั้งหมดนี้สามารถปรึกษาตัวแทนของกรุงไทย-แอกซ่า หรือจากเว็บไซต์ https://www.krungthai-axa.co.th/
ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันทุกครั้ง
เงื่อนไขเป็นไปตามกรมสรรพากรกำหนด
ท้ายสุด นอกจากสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีที่จะได้รับจากประกันของ กรุงไทย-แอกซ่า แล้ว สิ่งที่พิเศษกว่านั้นคือแบบประกันของ กรุงไทย-แอกซ่า ยังออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะใช้ชีวิตแบบไหน มีคู่ชีวิตอย่างไร กรุงไทย-แอกซ่าก็พร้อมให้ความคุ้มครอง ด้วยประกันที่ตอบโจทย์คนกลุ่ม LGBT ให้สามารถเลือกทำประกันและรับความคุ้มครองได้ไม่ต่างจากคนกลุ่มอื่นๆ ที่สำคัญ สามารถระบุชื่อคู่ชีวิตให้เป็นผู้รับผลประโยชน์ เช่นเดียวกับคู่สมรสชายหญิง
เพราะเรื่องเงินทองต้องวางแผน เราจึงต้องหาตัวช่วยที่ดีสุดให้กับตัวเอง กรุงไทย-แอกซ่า พร้อมเป็นหนึ่งในตัวช่วยเพื่อให้คุณก้าวสู่ความมั่นคงในอนาคต และสร้างความอุ่นใจให้คุณและคนที่คุณรัก
https://www.dailynews.co.th
ล้ำสมัยมากๆ กับ ยาเม็ดดิจิทัล ที่ฝังอุปกรณ์เซ็นเซอร์ไว้ในเม็ดยา เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้อนุมัติใหม่มีการใช้ยาเม็ดดิจิทัลเป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ความพิเศษของยาเม็ดดิจิทัลคือ มีการฝังเซ็นเซอร์ขนาดเล็กลงในเม็ดยา เพื่อการตรวจสอบว่าร่างกายได้รับยาอยู่ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ โดยยาเม็ดดิจิทัลมีชื่อว่า Abilify MyCite และเซ็นเซอร์ที่อยู่ภายในเม็ดยาจะสื่อสารข้อมูลกับอุปกรณ์ Patch ที่ผู้ป่วยสวมใส่อยู่ จากนั้น Patch จะส่งข้อมูลทางการแพทย์ไปยังแอพฯ บนสมาร์ทโฟน โดยที่ผู้ป่วยสามารถอัพโหลดข้อมูลไปให้คุณหมอ หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ทางการรักษา โดยที่ Abilify เป็นยาสำหรับรักษาอาการ โรคจิตเภท, โรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar disorder) และยังใช้รักษาอาการโรคซึมเศร้าด้วย
ภายในเม็ดยา Abilify MyCite มีการติดตั้งเซ็นเซอร์ที่มีขนาดเล็กเท่ากับเม็ดทรายที่ทำจากวัสดุซิลิคอน ทองแดง และแมกนีเซียม โดยที่สัญญาณทางไฟฟ้าจะถูกกระตุ้นให้ทำงาน เมื่อเซ็นเซอร์สัมผัสกับกรดในกระเพาะอาหาร และเมื่อเสร็จงานของมัน เซ็นเซอร์ก็จะถูกขับถ่ายออกมาตามธรรมชาติ อุปกรณ์ Patch จะถูกสวมใส่อยู่บริเวณซี่โครงซ้ายของผู้ป่วย และมันจะได้รับสัญญาณจากเซ็นเซอร์ที่อยู่ในร่างกายเป็นเวลาหลายนาทีหลังจากที่เม็ดยาถูกย่อย จากนั้น Patch จะส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างเช่น ช่วงเวลาที่ได้รับยา และข้อมูลปริมาณยา ไปยังสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณบลูทูธ นอกจากนี้อุปกรณ์ Patch ยังทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ Fitness tracker ไปด้วยในตัว ด้วยการวัดปริมาณกิจกรรมที่ผู้ป่วยทำในแต่ละวัน คุณภาพการนอนหลับ จำนวนก้าวเดิน และอัตราการเต้นของหัวใจ และต้องมีการเปลี่ยน Patch ใหม่ทุกๆ 7 วัน โดยผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ป่วยได้ก็มี คุณหมอ และคนอื่นๆ อีก 4 คนซึ่งอาจจะเป็นสมาชิกในครอบครัว หรือบุคคลอื่นๆ ที่ผู้ป่วยไว้วางใจจะให้เข้าถึงข้อมูล และผู้ป่วยสามารถยกเลิกสิทธิ์การเข้าดูข้อมูลของใครก็ได้ตามต้องการ
เม็ดยาดิจิทัลเป็นผลจากการวิจัยนานนับปี โดยความร่วมมือระหว่าง Otsuka ที่เป็นบริษัทยาของประเทศญี่ปุ่น และ Proteus Digital Health บริษัทที่เชี่ยวชาญทางด้านการให้ข้อมูลทางการแพทย์แบบดิจิทัล ซึ่งทำหน้าที่สร้างตัวเซ็นเซอร์ และเม็ดยาดิจิทัลถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ป่วยได้รับยาอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม โดยสถาบัน IMS มีการประเมินกันว่า ปัญหาการได้รับยาอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม ทำให้เกิดผลการรักษาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้ต้องเสียงบประมาณไปกับเรื่องยารักษาโรคสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2012 และการอนุญาตให้ใช้ยาเม็ดดิจิทัลในครั้งนี้ของ FDA ยังเป็นการเปิดประตูสำหรับการใช้ยาในรูปแบบอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการรักษาสุขภาพจิตด้วย
ผู้เชี่ยวชาญ ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลทางการแพทย์ โดยคุณ Ameet Sarpatwari อาจาร์ยแพทย์แห่ง Harvard Medical School กล่าวว่า “ยาเม็ดดิจิทัลมีความเป็นไปได้ที่ยกระดับสาธารณสุข แต่ถ้ามีการนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสม มันจะทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ ระหว่างผู้ป่วยกับบุคลากรทางการแพทย์ “
ทางฝั่งของ Otsuka ซึ่งเป็่นเจ้าของเทคโนโลยีนี้ ยังไม่ได้ระบุราคาของยาเม็ดดิจิทัล โดยสื่อ Wall Street Journal รายงานว่าทางบริษัทมองหาความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยที่ให้การคุ้มครอง และจะไม่เปิดสายการผลิตจนกว่าจะมีความร่วมมือกับบริษัทประกันภัย
https://news.thaiware.com
แนะนำ 6 ‘วัสดุปูพื้นห้องน้ำ’ พร้อมข้อดี – ข้อเสีย เลือกแบบที่ใช่ ชอบแบบไหนมาดูกัน…
ในการเลือก วัสดุปูพื้น ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายด้าน เช่น ราคา ความสวยงาม และความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังต้องดูความเหมาะสมในการนำไปใช้งานในแต่ละพื้นที่ด้วยเช่นกัน
สำหรับ วัสดุที่ใช้ปูพื้นห้องน้ำ นั้น มีความแตกต่างกับวัสดุที่ใช้ปูพื้นทั่วไปเป็นอย่างมาก เนื่องจากพื้นผิวของวัสดุบางชนิดไม่สามารถรองรับต่อการเปียกน้ำได้เป็นเวลานาน ซึ่งอาจจะทำให้พื้นสึกกร่อน และเกิดความเสียหายขึ้นมาได้
และสำหรับวันนี้ ในบ้าน ได้รวบรวม 6 วัสดุปูพื้นห้องน้ำ พร้อมข้อดีและข้อเสียมาฝากเพื่อนๆ ชาวเว็บ เพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ เลือกซื้อเลือกใช้วัสดุปูพื้นได้อย่างถูกต้องกันค่ะ จะมีวัสดุอะไรบ้างนั้น เราไปชมกันเลยค่ะ
1. กระเบื้องเซรามิคและกระเบื้องพอร์ซเลน
กระเบื้องพอร์ซเลนสร้างขึ้นจากกระเบื้องเซรามิค ซึ่งเป็นวัสดุที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นกระเบื้องปูห้องน้ำ เนื่องจากมันมีคุณสมบัติกันน้ำ ลวดลายสวยงาม แถมราคายังจับต้องได้
ข้อดีคือ ทำความสะอาดง่าย มีให้เลือกหลายแบบหลายชนิด อีกทั้งยังมีขนาดและรูปทรงที่ตายตัว สะดวกต่อการออกแบบตกแต่ง
ข้อเสีย กระเบื้องมีพื้นผิวเงา อาจเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้มขนาดพื้นเปียกได้ และอีกหนึ่งข้อเสียคือ เมื่อถึงช่วงอากาศหนาว แผ่นกระเบื้องจะมีความเย็นตามไปด้วย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ทนต่อความเย็นไม่ได้
2. ไวนิล
ไวนิลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมในคนหมู่มาก เนื่องจากเป็นวัสดุที่ใช้งานง่าย สามารถปูพื้นได้เองโดยไม่ต้องจ้างช่าง ช่วยประหยัดค่าแรงในการก่อสร้างลงไปได้ แต่ไวนิลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ไวนิลแผ่นที่กันน้ำได้ดีและไวนิลไม้กระดานที่มีขนาดเล็ก
ข้อดี ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างช่าง
ข้อเสีย ไวนิลแผ่น ยากต่อการติดตั้งด้วยตัวเอง
3. พื้นหินธรรมชาติ
พื้นหินธรรมชาติเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบโดยส่วนตัวเท่านั้น เพราะมันมีข้อเสียค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความชื้น ความเย็นจากพื้นผิว และมีราคาสูง หากใครที่รับข้อเสียเหล่านี้ไม่ได้ เราขอแนะนำให้เลือกใช้กระเบื้องเซรามิคลายหินอ่อนจะดีกว่าค่ะ
4. พื้นไม้เอนจิเนียร์
พื้นไม้เอนจิเนียร์ เป็นไม้ที่มีการผสมผสานเข้ากับไม้อัด ซึ่งเป็นวัสดุที่ช่วยลดความชื้นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีสีที่เป็นธรรมชาติ และลวดลายสวยงาม ทำให้ห้องน้ำของเราดูมีมิติมากขึ้น
5. พื้นลามิเนต
ลามิเนต อีกหนึ่งวัสดุที่ควรค่าแก่ห้องน้ำของเราเป็นอย่างยิ่ง โดยส่วนใหญ่พื้นผิวด้านหน้าของลามิเนตจะทำจากไม้โอ๊ค ไม้เชอร์รี่ หินชนวน หินอ่อน และวัสดุที่หาได้ทั่วไป แต่อาจจะไม่ทนต่อความชื้นมากพอจนเกิดเป็นราขึ้นมาได้ วิธีเดียวที่จะขจัดคราบราออกคือ หมั่นล้างทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดเป็นเชื้อโรคสะสม
6. ไม้เนื้อแข็ง
ไม้เนื้อแข็ง ให้ความอบอุ่นทุกก้าวที่สัมผัส แต่ข้อเสียคือ ไม้มีความชื้นสูง หากจำเป็นต้องปูพื้นห้องน้ำด้วยไม้เนื้อแข็งจริงๆ ติดตั้งให้เกิดช่องว่างน้อยมากที่สุด ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องอาศัยความชำนาญของช่าง ทำให้เราต้องบวกค่าใช้จ่ายในการจ้างช่างเพิ่มเข้าอีกไปนะคะ
www.naibann.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 17/11/2560
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง
|
ราคารับซื้อต่อกรัม
|
ราคารับซื้อ/บาท
|
ราคาขายออก/บาท
|
ทองคำแท่ง 96.5% |
n/a |
19,900.00 |
20,000.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% |
1,289.00 |
19,541.24 |
20,500.00 |
ทองรูปพรรณ 90% |
1,160.10 |
17,587.12 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 50% |
580.00 |
8,792.80 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 40% |
451.00 |
6,837.16 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% |
1,336.00 |
20,253.76 |
n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 17/11/2560
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ปตท
PTT |
บางจาก
BCP |
เชลล์
Shell |
เอสโซ่
Esso |
คาลเท็กซ์
Caltex |
ไออาร์พีซี
IRPC |
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG |
ซัสโก้
Susco |
ระยองเพียว
Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers |
แก๊สโซฮอล 95 |
28.25 |
28.25 |
– |
27.65 |
28.25 |
27.65 |
28.25
|
28.25
|
28.25
|
28.25
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
25.74
|
25.74
|
25.74
|
25.14
|
25.74
|
– |
25.74
|
25.74
|
25.74
|
25.74
|
แก๊สโซฮอล E-85 |
20.84 |
20.84 |
– |
– |
– |
– |
– |
20.84 |
20.84 |
– |
แก๊สโซฮอล 91 |
27.98 |
27.98 |
27.98 |
27.38 |
27.98 |
27.38 |
27.98 |
27.98 |
27.98 |
27.98 |
เบนซิน 95 |
35.36 |
– |
– |
– |
35.81 |
– |
35.86 |
35.36 |
35.36 |
35.36 |
ดีเซลหมุนเร็ว |
26.39 |
26.39 |
26.99 |
26.39 |
26.99 |
26.39 |
26.39 |
26.39 |
26.39 |
26.39 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม |
29.39 |
29.39 |
29.39 |
29.39 |
29.39 |
– |
– |
– |
– |
– |
มีผลตั้งแต่ |
08 Nov 05:00 |
08 Nov 05:00 |
08 Nov 05:00 |
08 Nov 05:00 |
08 Nov 05:00 |
08 Nov 05:00 |
08 Nov 05:00 |
08 Nov 05:00 |
08 Nov 05:00 |
08 Nov 05:00 |