“ไอคอนสยาม”ทุ่มเชื่อมรถ-ราง-เรือ 3 พันล. บูมเมืองใหม่ฝั่งธนเร่งเปิดรถไฟฟ้าสายสีทอง
“ไอคอนสยาม” ทุ่มกว่า 3 พันล้านบูรณาการโครงข่ายคมนาคม “รถ-ราง-เรือ” เชื่อมโครงการ บูมเมืองใหม่ฝั่งธนบุรี รับมือปัญหา จราจร กทม.เร่งสร้างรถไฟฟ้าสายสีทองเฟสแรก ระยะทาง 1.7 กม. จากบีทีเอสกรุงธนบุรี-คลองสาน เปิดหวูดปลายปี”62 ค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย ส่วนเฟส 2 คลองสาน-ประชาธิปก ยังไม่มีผู้ลงทุน รอความชัดเจนสายสีแดงและสีม่วงใต้ กรมเจ้าท่าเท 40 ล้าน ปรับโฉม 8 ท่าเรือหนุนอีกแรง
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวในงานสัมมนา “Thailand 2019” ตอนหนึ่งว่า การพัฒนาโครงการไอคอนสยาม ที่ร่วมกับบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) โครงการมิกซ์ยูส มูลค่า 54,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 50 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เท่ากับเป็นการพัฒนาเมืองใหม่ที่ฝั่งธนบุรี ท่ามกลาง 13 ชุมชนเดิมที่อยู่โดยรอบ ดังนั้น จึงต้องคิดถึงผลกระทบ การเปลี่ยนแปลง การจราจรที่จะเกิดขึ้น
ทุ่มเชื่อมรถ-ราง-เรือ
โดยใช้เงินลงทุนมากกว่า 3,000 ล้านบาท พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง “รถ-ราง-เรือ” เชื่อมเข้ากับโครงการ อาทิ ลงทุน 2,000 ล้านบาท สร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีทอง พัฒนาท่าเรือ 4 ท่า วงเงิน 500 ล้านบาท ที่ทุกคนสามารถใช้จอดได้ เพื่อสร้างความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมายังไอคอนสยาม และบรรเทาปัญหารถติดบนถนนเจริญนคร
“ขอบคุณคุณคีรี กาญจนพาสน์ ที่เสนอแนะให้สร้างรถไฟฟ้าสายทอง เพื่อทำเป็นระบบฟีดเดอร์ไลน์ เชื่อมรถไฟฟ้า 3 สาย คือ สายสีเขียว (บีทีเอส) สายสีแดง และสายสีม่วงใต้ในอนาคต ซึ่งได้ขอกู้แบงก์เพิ่มเพื่อลงทุนฟีดเดอร์ไลน์ โดยเราให้เงินทุนสนับสนุน กทม. ดำเนินการผ่านกรุงเทพธนาคม จริง ๆ สายสีทองจะต้องสร้างเสร็จก่อนที่ไอคอนสยามจะเปิด ถึงจะใช้เวลานานแต่เราก็ภูมิใจ และอนาคตแนวเส้นทางจะไปถึงประชาธิปก เชื่อมกับสายสีม่วงใต้” นางชฎาทิพกล่าวและว่า
“การมาของไอคอนสยาม คือ การเปิดพื้นที่ให้ทุกคนมาพักผ่อน มาใช้บริการ ซึ่งเราได้กันพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 5-6 ไร่ จัดเป็นพื้นที่สาธารณะริมแม่น้ำ”
นอกจากนี้ ยังสร้างจุดเชื่อมต่อการคมนาคมทางน้ำเพื่อบรรเทาการจราจรทางน้ำ โดยร่วมกับผู้ประกอบการท่าเรือ 73 แห่ง ในระยะทาง 10 กม. ปรับปรุงท่าเรือใหม่ให้สวยงามและปลอดภัย โดยไอคอนสยามได้จ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษารายละเอียดโครงการ และทำงานร่วมกับกรมเจ้าท่า (จท.)มา 2 ปี พร้อมกับส่งมอบผลศึกษาให้กรมเจ้าท่า เพื่อใช้เป็นแผนพัฒนาท่าเรือต่าง ๆ และกรมเจ้าท่าได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2562 ปรับปรุงแล้ว
รถไฟฟ้าสายสีทองคืบ 10.54%
นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) วิสาหกิจกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การเปิดบริการไอคอนสยาม เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ต้องเร่งรัดผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทองระยะแรก 1.7 กม. จากบีทีเอสกรุงธนบุรี-คลองสานให้เสร็จโดยเร็ว มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสกรุงธนบุรี วิ่งไปตามถนนกรุงธนบุรี เลี้ยวเข้าถนนเจริญนคร ผ่านวัดสุวรรณ จากนั้นแนวเส้นทางเกาะไปตามถนนเจริญนคร ถนนเจริญรัถ จนถึงแยกคลองสาน และสิ้นสุดบริเวณหน้าโรงพยาบาลตากสิน
โดยมี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ผู้รับเหมาก่อสร้าง และมี บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) เป็นผู้ติดตั้งและจัดหาระบบพร้อมรับจ้างเดินรถให้เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยบีทีเอสเสนอใช้ระบบอาณัติสัญญาณ และรถไฟฟ้าของบอมบาร์ดิเอร์ รุ่นอินโนวา 300 จำนวน 2 ขบวน ขบวนละ 3 ตู้ รวม 6 ตู้ เป็นระบบขนส่งมวลชนนำทางอัตโนมัติ (AGT) ระบบล้อยาง ควบคุมการเดินรถด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบไร้คนขับ ซึ่งรถ 1 ตู้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 80-100 คน และต่อพ่วงได้ถึง 6 ตู้ วิ่งด้วยความเร็ว 3 นาทีต่อขบวน
ปัจจุบันภาพรวมงานก่อสร้างโครงการอยู่ที่ 10.54% มีผลงานก่อสร้างงานโยธา 4.99% และงานระบบเดินรถ 18.28% ตามแผนจะสร้างเสร็จพร้อมเปิดบริการปลายปี 2562 จะเก็บค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย มี 3 สถานี ได้แก่ 1.สถานีกรุงธนบุรี เชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอส 2.สถานีเจริญนคร (ไอคอนสยาม) อยู่บริเวณเจริญนคร 6 บริเวณสะพานข้ามคลองวัดทองเพลง และ 3.สถานีคลองสาน อยู่เยื้องกับโรงพยาบาลตากสิน มีทางเดิน หรือ sky walk เดินทางเข้าสู่โรงพยาบาลตากสินได้ และจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดง (หัวลำโพง-บางบอน-มหาชัย) ในอนาคต
เร่งสร้างเสร็จเร็วขึ้น
“จะให้นักศึกษาด้านระบบรางของมหาวิทยาลัยนวมินทร์สังกัด กทม. มาช่วยอิตาเลียนไทยและบีทีเอสดูเรื่องการก่อสร้างและงานระบบต่าง ๆ เพื่อให้งานสามารถเดินหน้าได้เร็วขึ้น”
นายมานิตกล่าวอีกว่า สำหรับรถไฟฟ้าสายสีทองระยะแรก ทางไอคอนสยามเป็นผู้สนับสนุนวงเงินลงทุนโครงการ 2,080 ล้านบาท ด้วยการซื้อพื้นที่โฆษณาภายในสถานีเป็นระยะเวลา 30 ปี มีสถานีอยู่หน้าไอคอนสยาม โดยสร้างสกายวอล์กเชื่อมเข้าโครงการ รวมถึงโครงการหอชมเมืองที่อยู่ติดกันอีกด้วย
เฟส 2 รอสายสีแดง-สีม่วงใต้
ส่วนการสร้างระยะที่ 2 เป็นส่วนต่อขยายเริ่มจากโรงพยาบาลตากสิน-วัดอนงคารามวรวิหาร ระยะทาง 0.9 กม. มี 1 สถานี ได้แก่ สถานีประชาธิปก อยู่บริเวณซอยสมเด็จเจ้าพระยา 6 กับซอยสมเด็จเจ้าพระยา 8 อนาคตจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ตามแผนจะดำเนินการระยะถัดไป ใช้เงินลงทุน 1,333 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดการก่อสร้าง และผู้ที่จะลงทุนก่อสร้างโครงการ เนื่องจากไอคอนสยามร่วมกับ กทม.แค่ระยะแรก อีกทั้งยังไม่ได้ออกแบบรายละเอียดและต้องรอความชัดเจนของสายสีแดงและสีม่วงใต้ที่จะสร้างไปเชื่อมต่อด้วย
ทุ่ม 40 ล้านปรับโฉมท่าเรือรับ
นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า กรมได้รับแผนพัฒนาท่าเรือจากไอคอนสยามแล้ว ซึ่งทางไอคอนสยามได้ปรับปรุงท่าเรือทั้งหมด 5 ท่า แยกเป็นท่าเก่า 2 ท่า และท่าสร้างใหม่ 3 ท่า บริเวณหน้าโครงการ ทั้งนี้ ไอคอนสยามเสนอจะปรับปรุงท่าเรือสาทร ท่าดินแดง และท่าราชวงศ์ใหม่ โดยจะออกเงินให้ที่ท่าสาทร เช่น สร้างโป๊ะ และศาลาที่พักผู้โดยสารใหม่ ขนาด 72 ตารางเมตร
ส่วนที่เหลือกรมจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งในปี 2562 กรมได้รับงบประมาณจำนวน 40 ล้านบาท ปรับปรุงพัฒนา 8 ท่า ได้แก่ ท่าสาทร ท่าดินแดง ท่าราชวงศ์ ท่าโอเรียนเต็ล ท่าราชินี ท่าสี่พระยา ท่าเทเวศร์ และท่าน้ำนนท์ เช่น ปรับปรุงพื้นที่ท่าเทียบเรือให้เป็นทางเรียบและที่พักผู้โดยสารใหม่ โดยใช้แบบที่ไอคอนสยามเป็นผู้ออกแบบไว้ให้
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
ที่อยู่อาศัยในยุค 5จี
เรื่อง…อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (anukul_r@plus.co.th)
ในปี 2562 หลายประเทศจะเริ่มทดลองใช้ 5จี โดยเฉพาะญี่ปุ่น เพื่อเตรียมพร้อมรับมือโอลิมปิก 2020 ซึ่งการมาของ 5จี จะเปลี่ยนโลกและพฤติกรรมผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นเครือข่ายที่ใช้กับอุปกรณ์สื่อสารเท่านั้น แต่ 5จี จะถูกนำมาใช้กับรถ บ้าน และโรงงานอุตสาหกรรม และอุปกรณ์ต่างๆ อย่างแพร่หลาย ยกตัวอย่างเช่น รถแบบไร้คนขับ หรือรถที่เชื่อมคนขับเข้ากับซอฟต์แวร์ของรถ รวมถึงอุตสาหกรรมการแพทย์ที่จะมีการผ่าตัดทางไกล
บ้านในยุค 5จี เองก็มีความแตกต่างจากยุคปัจจุบัน เพราะเทคโนโลยีสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกอย่างในบ้านให้ส่งข้อมูลถึงกัน เจ้าของบ้านเองสามารถเช็กเรื่องพลังงาน การใช้น้ำ ใช้ไฟฟ้า กลายเป็นบ้านอัจฉริยะที่ช่วยลดความสูญเสียให้กับเจ้าของบ้านได้อย่างมหาศาลทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่สูญเปล่า ค่าใช้จ่ายด้านระบบรักษาความปลอดภัย และยังช่วยลดปัญหาด้านอัคคีภัยได้อย่างมาก เพราะเจ้าของบ้านสามารถมอนิเตอร์ได้จากระยะไกล และสามารถสั่งการระบบแก้ไขปัญหาเบื้องต้นผ่านเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว เทรนด์นี้จะทำให้บ้านกลายเป็นสมาร์ทโฮม และนี่เองทำให้ค่ายโทรศัพท์กำลังมุ่งเน้นพัฒนาสมาร์ทโฟนเพื่อรองรับ Internet of Things (IoT) อย่างจริงจัง เพราะสมาร์ทโฟนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสมาร์ทโฮม เป็นศูนย์กลางควบคุมการทำงานบ้านอัจริยะ
สมาร์ทโฮมไม่เพียงแต่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์ได้โดยเฉพาะอาคารใหม่ๆ อาคารสำนักงานให้เช่าและอาคารมิกซ์ยูสที่ปัจจุบันมีลักษณะเป็น Smart Building มากขึ้น มีการใส่เทคโนโลยีและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารจำนวนมาก นอกจากจะช่วยในเรื่องประสิทธิภาพในการบริหารอาคารแล้ว เทคโนโลยียังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาพลักษณ์และเพิ่มมูลค่าให้กับอาคารอีกด้วย อีกทั้งมีผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัทหรือองค์กรที่มาเช่าพื้นที่เช่นกัน ทำให้อาคารใหม่เหล่านี้สามารถเพิ่มราคาค่าเช่าและดึงดูดความต้องการใหม่ๆ ได้ จากที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีอาคารสำนักงานเปิดใหม่เพิ่มขึ้นไม่มาก ข้อมูลจากการสำรวจของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่าโครงการใหม่เหล่านี้สามารถเก็บค่าเช่าได้มากกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดในทำเลเดียวกันสูงถึง 20-30% และมีอัตราการเช่าที่สูงมากกว่า 90%
ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ก็เริ่มนำเทคโนโลยี IoT มาใช้ในโครงการอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เช่น แสนสิรินำ IoT มาใช้ในหลายระดับเริ่มจากระดับพื้นฐานคือการใช้เทคโนโลยี IoT เข้ามาควบคุมระบบส่วนกลางของโครงการ ระดับปานกลางคือการใช้เทคโนโลยี IoT เข้ามาควบคุมระบบพร้อมด้วยระบบ Building Automation System (BAS) ในการสั่งการระบบพื้นที่ส่วนกลาง ระดับสูงสุดคือ Smart Condo ที่นำเทคโนโลยี IoT เข้ามาร่วมบริหารจัดการอาคารในการคาดการณ์ความเสียหายของอุปกรณ์ต่างๆ (Preventive Maintenance) เพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือโครงการสามย่านมิตรทาวน์พัฒนาโดยโกลเด้นแลนด์เป็นโครงการมิกซ์ยูส อยู่บนมุมถนนพญาไทและพระราม 4 ที่ในส่วนของอาคารสำนักงาน มีคอนเซ็ปต์เป็นอาคารสำนักงานระบบอัจฉริยะ (Artificial Intelligence Building : AI) ซึ่งอาคารสามารถคิดและประมวลผลได้อย่างอัตโนมัติ ใช้งานโดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฟนผ่านอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงนำสุดยอดเทคโนโลยีที่ยังคงความผูกพันกับลูกค้าด้วยมนุษย์มาใช้ (Hi-Technology with Human Touch) โดยได้วางแผนงานระบบบริหารอาคาร การให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ลิฟต์ที่สามารถรองรับผู้โดยสารแบ่งโซนการใช้งานได้อย่างเหมาะสม ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ระบบบริหารสื่อภายในอาคารอัจฉริยะ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนเป็นแค่จุดเริ่มต้นของการก้าวสู่ยุค 5จี และในอนาคตอันใกล้คงจะมีการต่อยอดที่สร้างมูลค่าให้กับทุกวงการรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมหาศาล
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
หมดยุคดอกเบี้ยต่ำ ธปท.ส่งสัญญาณชัดปรับขึ้นไม่กระทบเศรษฐกิจ
ธปท.ส่งสัญญาณปรับขึ้น ดอกเบี้ย มั่นใจไม่เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจ เชื่อสภาพคล่องในระบบการเงินสูง ธนาคารพาณิชย์จะไม่เร่งปรับขึ้น
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ล่าสุด มองว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมีความจำเป็น แต่มีความจำเป็นน้อยลง และมองว่าหากอัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นจากปัจจุบันที่ระดับ 1.5% นั้น จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
“ดอกเบี้ยของไทยตอนนี้ต่ำเป็นพิเศษ เพื่อช่วยเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมา แต่ ในปัจจุบันพบว่าหากดอกเบี้ยที่สูงกว่านี้ไม่ได้ เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัว เพราะที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยรองรับความเสี่ยงต่างๆ ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าหลังจากนี้จะหมดยุคดอกเบี้ยต่ำ แต่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดความเปราะบางและสร้างความเสี่ยงในระยะยาว” นายวิรไท กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ดอกเบี้ยทั่วโลกขาขึ้น ซึ่ง ธปท.ยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ดอกเบี้ยพันธบัตรทยอยปรับขึ้นแล้วสอดคล้องกับตลาดเงินตลาดทุนโลก ประกอบกับสภาพคล่องในระบบการเงินยังอยู่ในระดับสูง จึงเชื่อว่าจะไม่มีแรงกดดันให้ธนาคารพาณิชย์เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยตาม
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเป็นหน้าที่ของ ธปท. ซึ่งการจะขึ้นดอกเบี้ยต้องดูปัจจัยหลายอย่างทั้งความมั่นคงและเสถียรภาพเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังต้องดูเรื่องภาระต้นทุนการเงินด้วย เพราะหากขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงเป็นหมื่นล้านบาท
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยมีความเข้มแข็งและมีการขยายตัว แต่ข้างหน้าเศรษฐกิจไทยก็ยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งปัจจัยทางการเมือง
ต้องลอง! “มหานคร สกายวอล์ค” จุดชมวิว360กลางกรุงและพื้นกระจกลอยฟ้าสูงสุดในประเทศไทย
คิง เพาเวอร์ มหานคร เปิดตัว “มหานคร สกายวอล์ค” จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศากลางกทม. และพื้นกระจกลอยฟ้าที่สูงที่สุดในไทย
คิง เพาเวอร์ มหานคร เปิดตัว “มหานคร สกายวอล์ค” (Mahanakhon Skywalk) มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวเหนือระดับรูปแบบใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน กับการเปิดตัวแลนด์มาร์คท่องเที่ยวระดับโลกแห่งใหม่ของประเทศไทยใจกลางกรุงเทพมหานครที่เป็นจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่ความสูงถึง 314 เมตร พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว
มหานคร สกายวอล์ค ตั้งอยู่บนชั้น 74, 75 และ 78 ของอาคารคิง เพาเวอร์ มหานคร โดยมีไฮไลท์อยู่ที่จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ตื่นตาตื่นใจไปกับหนึ่งในพื้นกระจกลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ รูฟ ท็อปบาร์ (Rooftop Bar) ที่สูงที่สุดในประเทศไทย พร้อมโดยสารลิฟท์ความเร็วสูงที่มาพร้อมจอแอนิเมชั่นขนาดใหญ่ ที่จะพาทุกท่านขึ้นไปยังจุดชมวิวชั้น 74 ภายในระยะเวลาเพียง 50 วินาที! โดยตั้งเป้าสร้างปรากฎการณ์จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับสากลแห่งใหม่ และเป็น Global Landmark Destination ที่จะพลิกโฉมวงการท่องเที่ยวไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลกอย่างแท้จริง
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คิง เพาเวอร์ มหานคร กล่าวว่า มหานคร สกายวอล์ค เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญและความภาคภูมิใจของ คิง เพาเวอร์ บริษัทของคนไทย ที่พร้อมยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย ด้วยการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ด้านเดสติเนชั่นแห่งการท่องเที่ยวระดับโลก กับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดใจกลางกรุงเทพมหานคร กับจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา และ Rooftop Bar ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูงถึง 314 เมตร เหนือพื้นดิน พร้อมประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ และความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวให้ได้เห็นความงดงามของกรุงเทพมหานครในมุมมองใหม่
“เราตั้งเป้าให้มหานคร สกายวอล์ค เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายภายในประเทศในระยะยาว พร้อมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์อันดีให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย และธุรกิจค้าปลีกในประเทศอย่างยั่งยืน ผมเชื่อว่า การท่องเที่ยวไม่เพียงแต่เป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดัน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่การสร้างความเชื่อมั่นอย่างยั่งยืน และส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของประเทศไทยไปสู่สายตาประชาคมโลกอีกด้วย”อัยยวัฒน์กล่าว
มหานคร สกายวอล์ค ประกอบด้วย
1.ชั้น 1: ล็อบบี้ ทางเข้าหลัก และเป็นจุดจำหน่ายบัตรเข้าชมมหานคร สกายวอล์ค ตกแต่งด้วยเรื่องราวของกรุงเทพมหานครตลอดทางเดินก่อนถึงลิฟท์ความเร็วสูงที่จะนำท่านขึ้นไปยังชั้น 74 ภายใน 50 วินาที
2.ชั้น 74: จุดชมวิวภายในอาคาร (Indoor Observation Deck) เพลิดเพลินไปกับความงามของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพมหานครผ่านระบบเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) กับมุมมองกรุงเทพมหานคร แบบ 360 องศา พร้อมส่งโปสการ์ดจากตู้ไปรษณีย์ ที่สูงที่สุดในประเทศไทย
3.ชั้น 75: บริเวณชั้นลอย ห้องน้ำ และจุดขึ้นลิฟท์แก้ว
4.ชั้น 78: ชั้นดาดฟ้า (Rooftop) และจุดชมวิวภายนอกอาคาร (Outdoor Observation Deck) โดยมีไฮไลท์คือ
– พื้นกระจกลอยฟ้า (Glass Tray) ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นกระจกลอยฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สูงเหนือพื้น 310 เมตร
– จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา ซึ่งเป็นจุดสูงสุดที่ยืนได้ในกรุงเทพมหานคร เดอะ พีค (The Peak) ที่มีความสูงเหนือพื้นถึง 314 เมตร
– รูฟท็อปบาร์ (Rooftop Bar) ที่สูงที่สุดในประเทศไทย พร้อมเครื่องดื่มและค็อกเทลสูตรพิเศษ
มหานคร สกายวอล์ค เปิดให้บริการในเวลา 10.00 – 24.00 น. (เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้าย 23.00 น.) สามารถเดินทางมาโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีช่องนนทรี ทางออกหมายเลข 3
บัตรเข้าชม แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
ความมุ่งหมายของการฟังธรรม
ความมุ่งหมายของการฟังธรรมนั้น มีอยู่ ๕ ประการ คือ
- ฟังธรรมเอาบุญ
- ฟังธรรมเอาความรู้
- ฟังธรรมเพื่อเป็นอุปนิสัย
- ฟังธรรมเพื่อปฏิบัติ
- ฟังธรรมเพื่ออุทิศส่วนบุญ
๑. ฟังธรรมเอาบุญ หมายความว่า ฟังธรรมแล้วได้บุญ บุญแปลว่า ชำระ คือ ชำระกายวาจาใจให้สะอาด เพราะกายวาจาใจของคนเราเปื้อนบาป จึงจำเป็นต้องชำระด้วยน้ำ คือ บุญ ดุจชำระเสื้อผ้าที่สกปรกด้วยผงซักฟอกฉะนั้น บาปนั้นมีอยู่ ๓ ขั้น คือ บาปอย่างหยาบ ๑ บาปอย่างกลาง ๑ บาปอย่างละเอียด ๑
บาปอย่างหยาบ คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ล่วงออกมาทางกาย เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดประเวณี และล่วงออกมาทางวาจา เช่น พูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ เป็นต้น ต้องชำระด้วยบุญขั้นต้นคือ ศีล
บาปอย่างกลาง คือ นิวรณ์ทั้ง ๕ ได้แก่ กามฉันทะ พอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ๑ พยาบาท ใจโกรธ ใจขุ่น ๑ ถีนมิทธะ ง่วงเหงาหาวนอน ๑ อุทธัจจะกุกกุจจะ ฟุ้งซ่านรำคาญ ๑ วิจิกิจฉา สงสัยลังเลใจ ๑ บาปทั้ง ๕ นี้ ต้องชำระด้วยบุญอย่างกลาง คือ สมาธิ
บาปอย่างละเอียด คือ อนุสัย ได้แก่กิเลสที่นอนดองอยู่ในใจ ดุจขี้ตะกอนอยู่ก้นตุ่มฉะนั้น มีอยู่ ๑๒ ตัว คือโลภะ ๘ โทสะ ๒ โมหะ ๒ อันเป็นส่วนละเอียดติดมาแต่ภพก่อนชาติก่อน ต้องชำระด้วยบุญขั้นละเอียด คือ วิปัสสนาปัญญา
ในขณะที่ท่านทั้งหลายกำลังฟังธรรมอยู่ในขณะนี้ กายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ ของแต่ละท่านก็บริสุทธิ์เพราะอำนาจแห่งศีล ศีลแปลว่ารักษากายวาจาให้เรียบร้อย ศีลนี่แหละเป็นบุญขั้นต้น เป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นแม่ของคุณงามความดีทั้งหลาย และเป็นประมุขของกุศลธรรมทั้งปวง จะฟังรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องก็ตาม ถ้าตั้งใจฟังแล้วได้บุญทั้งนั้น เพราะจิตดวงนี้เป็นมหากุศล ถ้าตายลงในขณะนี้ก็มีผลให้ไปมนุษย์ก็ได้ ไปเกิดสวรรค์ก็ได้ เช่น แม่ไก่ฟังธรรมถูกฆ่าตาย ได้ไปเกิดเป็นพระราชธิดา กบฟังธรรมถูกฆ่าตายได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรชื่อว่า มัณฑูกเทพบุตร ค้างคาว ๕๐๐ ตัว ฟังพระอภิธรรม ตายแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ ผลสุดท้ายได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ได้ออกบวชเป็นพระ ได้ฟังพระอภิธรรม ก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด อย่างนี้เรียกว่า ฟังเอาบุญ
๒. ฟังธรรมเอาความรู้ หมายความว่า ฟังแล้วต้องจำได้ ใครจำได้มากเท่าไร ก็เป็นความรู้ของคนนั้น ถ้าจำไม่ได้ต้องจดไว้ บันทึกไว้ หรืออัดใส่เทปไว้ เปิดฟังบ่อยๆ ฟังจนจำได้ สมดังคำโบราณท่านสอนลูกหลานไว้ว่า “เห็นแล้วจดไว้ ทำให้แม่นยำ เหมือนทราบแล้วจำ ไว้ได้ทั้งมวล เมื่อหลงลืมไป จักได้สอบสวน คงไม่แปรปรวน จากที่จดลง”
๓. ฟังธรรมเพื่อเป็นอุปนิสัย หมายความว่า ในขณะที่ฟังอยู่นั้น ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง มีเสียงอื่นรบกวน ทำให้หนวกหูบ้าง ง่วงนอนบ้าง กำลังทำกิจอย่างอื่น เช่น ล้างถ้วยล้างชามบ้าง โขลกหมากบ้าง ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นบุญอยู่ ตัวอย่าง ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ งูเหลือมตัวหนึ่งได้ยินเสียงพระนักอภิธรรมกำลังท่องอายตนะกถาอยู่ ถือเอานิมิตในเสียงนั้น ตายแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อพระพุทธเจ้าของเราปรินิพพานแล้ว ได้มาบังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ออกบวชเป็นอาชีวกชื่อว่า ชนะโสณะ ได้ฟังธรรมย่อๆในหัวข้อว่า “อายตนะ” จากพระอุปคุตตเถระ ก็เกิดความเลื่อมใสอย่างแก่กล้า ขอบวชเป็นพระในพระพุทธศาสนา เรียนพระกรรมฐาน เจริญวิปัสสนา จนได้บรรลุมรรคผลนิพพานเป็นพระอรหันต์
๔. ฟังธรรมเพื่อปฏิบัติ หมายความได้ ๒ อย่าง คือ ฟังแล้วจำไว้ มีโอกาสเมื่อใดก็นำไปปฏิบัติได้เมื่อนั้น นี้อย่างหนึ่ง ถ้าเป็นนักปฏิบัติวิปัสสนา สามารถฟังไปปฏิบัติไปพร้อมกันได้เลย เพราะในขณะที่ได้ยินเสียงพระแสดงธรรมอยู่นั้น ขันธ์ ๕ เกิดแล้ว อารมณ์ของวิปัสสนาเกิดแล้ว คือเสียงกับหูเป็นรูปขันธ์ ได้ยินเสียงธรรมะแล้วสบายใจ เป็นเวทนาขันธ์ จำได้เป็นสัญญาขันธ์ แต่งให้เห็นว่าดีหรือไม่ดีเป็นสังขารขันธ์ ได้ยินเป็นวิญญาณขันธ์ ย่อให้สั้นๆก็ได้แก่รูปกับนาม รูปนามนี้แหละเป็นอารมณ์ของวิปัสสนา ดังนั้น นักปฏิบัติวิปัสสนาจึงลงมือปฏิบัติได้ทันที โดยตั้งสติไว้ที่หู ตัวอย่าง พาหิยะทารุจีริยะ ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าที่ตรัสว่า “ได้ยินก็สักว่าแค่ได้ยิน” ไม่ช้าท่านก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์
๕. ฟังธรรมเพื่ออุทิศส่วนบุญ หมายความว่า เราตั้งใจฟังธรรมได้บุญแล้ว ก็อุทิศส่วนบุญนั้นให้แก่ บิดามารดา ครู อาจารย์ ท่านผู้มีบุญคุณ ท่านผู้มีพระคุณ.
ที่มา พระธรรมเทศนาอริยธนกถา โดย พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ กรุงเทพมหานคร ๒๕๒๔, อนุสรณ์ คุณหญิงเจือ นครราชเสนี
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 19,200.00 | 19,100.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 19,700.00 | 18,752.92 | 1,237.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 19,435.12 | 1,279.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 16,877.63 | 1,113.30 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 15,002.34 | 989.60 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,444.12 | 557.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,564.28 | 433.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 28.55 | 28.55 | 28.55 | 28.55 | 28.55 | 28.55 | 28.55 | 28.55 | 28.55 | 28.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 25.54 | 25.54 | 25.54 | 25.54 | 25.54 | – | 25.54 | 25.54 | 25.54 | 25.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.49 | 20.49 | – | – | – | – | – | 20.49 | 20.49 | – |
เบนซิน 95 | 35.96 | – | – | – | 36.41 | – | 36.46 | 35.96 | 35.76 | 35.96 |
ดีเซล | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 | 28.79 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 32.39 | 32.66 | 32.66 | 33.16 | 32.66 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 16.13 | 16.13 | – | – | – | – | – | – | – | – |