สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 4 มิถุนายน 2561

เจาะกลยุทธ์! อสังหาฯรายเล็กฝ่าวงบิ๊กเนม ลุย ‘อีอีซี’

“ทำอย่างไรให้อยากอยู่บ้าน” นี่คือ หัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ ของ ‘เอสเตท กูรู’ ซึ่งถือเป็นรายย่อยที่โดดเข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์หลังประกาศแผนขยายตลาดไปยังต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก ด้วยการฝ่าวงเจ้าถิ่นและรายใหญ่ เจาะลูกค้าใน 3 จังหวัดระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี …“ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์ นายสรวุฒิ มานะสมจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเตท กูรู จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็ก ถึงมุมมองและทิศทางการพัฒนาโครงการ ดังนี้

สรวุฒิ มานะสมจิตร
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเตท กูรู จำกัด

เป้าหมายและทิศทาง
นายสรวุฒิ ระบุว่า ได้ประกาศแผนขยายฐานตลาดไปยังต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก มุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งที่ จ.ระยอง และชลบุรี จำนวน 2 โครงการ มูลค่า 760 ล้านบาท ลักษณะบ้านแฝดและทาวน์โฮม ‘วิสทาวน์ พัทยา-เขาตาโล’ และ ‘วิสทาวน์ แม่น้ำคู้-ปลวกแดง’ เริ่ม 9.99 แสนบาท ขณะเดียวกัน มีที่ดินในสต๊อกรอการพัฒนาอีกหลายแปลงที่ได้รับอานิสงส์จาก EEC ซึ่งส่งผลต่อดีมานด์แหล่งที่อยู่อาศัยชัดเจน

ขณะที่ รายใหญ่เน้นพัฒนากลุ่มคอนโดฯ หรือ อพาร์ตเมนต์ บ้านราคาแพง ซึ่งมองว่า ไม่ใช่โปรดักต์ที่คนในพื้นที่ต้องการจริง ๆ หรือแม้แต่เจ้าถิ่นอยากพัฒนาโครงการ ก็ติดข้อจำกัดหาที่ดินไม่ได้ เพราะราคาสูง อีกส่วนได้แรงหนุนจากโครงการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงินของรัฐ อย่าง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่รองรับกลุ่มคนในพื้นที่ชัดเจน จึงถือเป็นโอกาสในการทำธุรกิจ และสร้างความแตกต่างให้กับตลาด

“เอสเตท กูรู แม้เป็นรายเล็กในตลาด แต่มีจุดแข็งที่ต่างจากรายใหญ่ คือ ไม่เน้นทำโครงการการขนาดใหญ่เกินกว่า 100 หน่วย สร้างเสร็จ ปิดการขายเร็วภายใน 18 เดือนต่อโครงการ เน้นมาร์จินต่ำ แต่เทิร์นโอเวอร์เร็ว สร้างเสร็จไวเข้าอยู่ได้เร็ว ซึ่งลูกค้าชอบ และทำให้ส่วนกลางดูแลได้ง่าย ที่สำคัญ แต่ละโครงการนั้นจะมีกลุ่มเป้าหมายที่ผ่านการลงพื้นที่ศึกษาความต้องการมาแล้ว จึงขายออกง่ายและเร็ว เน้นกลุ่มคนที่มีระดับรายได้อาจไม่มากนัก 25,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีกำลังผ่อนจ่ายบ้านกับธนาคารเทียบเท่ากับค่าเช่าที่จ่ายให้อพาร์ตเมนต์ สำหรับหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ คือ ทำอย่างไรให้คนอยากอยู่บ้านการเข้าไปอยู่ในหัวใจของ Consumer ขาดสิ่งไหนเติมสิ่งนั้น”

ความยากในการทำธุรกิจ
คงเป็นเรื่องรายได้หลักของลูกค้า ที่ไม่ขยับตามค่าใช้จ่าย ทำให้มีข้อจำกัดในการกู้สินเชื่อ แต่มีปัจจัยบวกคอยหนุน เช่น โครงการพัฒนาของรัฐ ขณะเดียวกัน เงินทุนจากต่างประเทศก็จะเป็นส่วนที่จะกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจและส่งผลมายังตลาดอสังหาฯ เช่นกัน เช่นเดียวกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่ผู้ประกอบการต้องจับให้ถูกจุด เพราะที่อยู่อาศัยไม่ใช่โรงแรม ที่แม้อยู่ไกล แต่ดี คนก็ไปหา แต่บ้านนั้น คนซื้อจะเลือกด้วยทำเลเป็นหลัก ฉะนั้นทำเลต้องดี ราคาต้องไหว ส่วนกลางต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไป

วางเป้าเติบโต
ขณะที่ เป้าหมายระยะสั้น 2-3 ปีข้างหน้านั้น เอสเตท กูรู พยายามจะสร้างรากฐานให้มั่นคงก่อน เพื่อหวังให้เติบโตอย่างยั่งยืน เรากำลังค้นหาจุดแตกต่างของตนเองให้เจอ เพื่อสู้กับรายใหญ่ในตลาด โดยที่ไม่เคยวาง Positioning ของตนเอง ว่า อยู่ส่วนไหนของตลาด ไม่ใช่กลุ่มกลาง-ล่าง ไม่ใช่กลุ่มพรีเมียมใด ๆ แต่ในการวางแผนโครงการ จะเน้นความเหมาะสมของที่ดินว่า ควรถูกพัฒนาเป็นแบบใดและกลุ่มเป้าหมาย คือ ใคร แต่ตั้งเป้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก 5 ปีข้างหน้า ขณะนี้ ตั้งเป้าเปิดขายให้ได้อย่างน้อยปีละ 2-3 โครงการ แม้จะมียอดรับรู้รายได้ไม่มาก แต่ไม่มี Backlog เหลือขาย

ทั้งนี้ บริษัท เอสเตท กูรูฯ ก่อตั้งเมื่อปี 2547 ด้วยทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายปี 2561 รวม 250 ล้านบาท ยอดขายรอรับรู้รายได้ประมาณ 200 ล้านบาท

นายสรวุฒิ ทิ้งท้ายว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังโตต่อเนื่อง แม้วันนี้ค่ายใหญ่จะครองตลาดมากกว่า 70% แต่สำหรับ ‘เอสเตท กูรู’ สามารถสู้ได้ด้วยความแข็งแกร่งและความศรัทธาของลูกค้า

http://www.thansettakij.com


สภาวิศวกรยืนยันจุดยืนไม่ควรเปิดเสรีต่างด้าวทำอาชีพโยธา

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมกับสภาสถาปนิก สภาวิชาชีพบัญชี วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน โดยยืนยันจุดยืนของสภาวิศวกรไม่เห็นด้วยกับการเปิดเสรีต่างด้าวเข้ามาประกอบวิชาชีพวิศวกรรมโยธา เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและสาธารณะ เนื่องจากอาชีพวิศวกรรมโยธา ถือว่าเป็นอาชีพสงวนตามพระราชกฤษฎีกากำหนดอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 และตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ.2542 กำหนดให้วิศวกรรมโยธา เป็นวิศวกรรมควบคุม อีกทั้งในมาตรา 45 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากสภาวิศวกร อันเป็นเจตนารมณ์ของ พระราชบัญญัติวิศวกรที่ต้องการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนและสาธารณะเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นที่ต้องให้มีต่างด้าวเข้ามาประกอบวิชาชีพวิศวกรรมโยธา เช่น ในกรณีที่เกิดความขาดแคลนวิศวกรอย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศหรือความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือ กรณีที่ต้องรับถ่ายโอนเทคโนโลยีจากต่างชาติ หรือเป็นกรณีที่เป็นข้อผูกผันตามข้อตกลงระหว่างประเทศ เช่น ข้อตกลงยอมรับร่วมในเรื่องคุณสมบัติของนักวิชาชีพอาเซียนหรือ MRA ที่ไทยได้ทำไว้กับชาติสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ก็ต้องกำหนดเงื่อนไขให้ชัดเจนโดยคำนึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ

“ได้เรียนกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานว่า ในกรณีต่างด้าวเข้ามาทำอาชีพวิศวกรรมโยธา ต้องไม่ใช่การเปิดเสรีโดยเด็ดขาด แต่จะต้องกำหนดเงื่อนไขให้ชัดเจน ว่าสามารถเข้ามาได้ในกรณีใดบ้าง และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เพื่อขอรับใบอนุญาตหรือใบรับรองจากสภาวิศวกรเสียก่อน เพื่อให้สภาวิศวกรมีมาตรการในควบคุมและกำกับการทำงาน และจะต้องเข้ามาในฐานะลูกจ้างในสาขาที่ขาดแคลนเท่านั้น และเสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง กระทรวงแรงงาน และสภาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดเงื่อนไขในการเข้ามาของต่างด้าวให้ชัดเจน ซึ่งกระทรวงแรงงานจะรับเรื่องนี้ไปพิจารณาต่อไป”ศ.ดร.อมร กล่าวทิ้งท้าย

http://www.thansettakij.com


ธปท.ชี้ศก.ต้นไตรมาส2 ดีต่อเนื่อง

 

“แบงก์ชาติ” เผยเศรษฐกิจไทยเม.ย.โตดี จากการส่งออก สอดรับดีมานด์ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ขณะ บริโภคเอกชน ขยายตัวเกือบทุกหมวด

นายจิตเกษม พรประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือนเม.ย.2561 ขยายตัวดี โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวสูง สอดคล้องกับการขยายตัวของอุปสงค์ต่างประเทศ และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก

ด้านการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในเกือบทุกหมวดการใช้จ่าย ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวตาม ส่วนการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวจากการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยอยู่ที่ 7% สูงสุดในรอบกว่า 5 ปี การใช้จ่ายภาครัฐกลับมาขยายตัวจากรายจ่ายลงทุนเป็นสำคัญ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวชะลอตัว ส่วนหนึ่งจากการเหลื่อมเดือนของวันหยุดอีสเตอร์

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในประเทศ และราคาอาหารสดที่กลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 14 เดือน แต่ก็ไม่แน่ว่าจะสูงต่อไปหรือไม่ เพราะปริมาณน้ำที่มากทำให้อาจมีผลผลิตออกมามาก โดยเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 1.07% เพิ่มขึ้นจาก 0.79%ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.64% ทรงตัวจากเดือนก่อน

“การส่งออกในเดือนนี้ ขยายตัว 14.6% ขยายตัวเกือบทุกสินค้า รวมถึงสินค้าเกษตรตามการส่งออกผลไม้ที่ขยายตัวทั้งปริมาณและราคา เช่นทุเรียนเป็นต้น ส่งผลให้รายได้ภาคเกษตรฟื้นตัวตามไปด้วย อย่างไรก็ตามรายได้ภาคเกษตรยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน”

สำหรับค่าเงินบาทในเดือนเม.ย.อ่อนค่าลงเล็กน้อย ตามการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ และณ วันที่ 21 พ.ค. เงินบาทก็ยังอ่อนค่าเทียบจากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งเพราะนักลงทุนเชื่อมั่นในเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น ตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาด

http://www.bangkokbiznews.com


เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ อ่อนค่า 32.03 บาทต่อดอลลาร์

คาดสัปดาห์ตลาดเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น บาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่า หากไม่มีปัญหาการเมืองระหว่างประเทศรอบใหม่

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.03บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงปิดท้ายสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดการเงินในสัปดาห์นี้มีตัวเลขเศรษฐกิจให้ติดตามไม่มาก แต่มีเรื่องการเมืองระหว่างประเทศที่ค่อนข้างร้อนแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโต้ตอบทางการค้าด้วยกำแพงภาษี และการเมืองในอิตาลีที่พึ่งตั้งรัฐบาลได้ แม้เรื่องการเมืองจะไม่ส่งผลบวกกับเศรษฐกิจและการลงทุนโลก แต่ก็ถือว่าไม่ได้เป็นความเสี่ยงใหม่ ขณะที่ตลาดแรงงานสหรัฐก็ยังแสดงให้เห็นว่าภาคธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมือง

ค่าเงินบาทในช่วงนี้เคลื่อนไหวตามสกุลเงินเอเชียและไม่มีแนวโน้มชัดเจน ในระยะสั้นการฟื้นตัวของค่าเงินยูโร และการกลับมาแข็งค่าของเงินเยน เป็นปัจจัยหลักที่ถ่วงดุลให้ดอลลาร์ไม่สามารถแข็งค่าเร็ว เชื่อว่าในสัปดาห์นี้ตลาดมีโอกาสเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น (risk-on) ถ้าไม่มีปัญหาการเมืองระหว่างประเทศใหม่เกิดขึ้น และเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าพร้อมกับเศรษฐกิจและการค้าที่ยังแข็งแกร่งทั่วโลก กรอบเงินบาทวันนี้ 31.95-32.10 บาทต่อดอลลาร์ และกรอบเงินบาทรายสัปดาห์ 31.80- 32.30 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับในสัปดาห์นี้ สิ่งที่ต้องจับตาคือ การหารือของสหรัฐและญี่ปุ่นเรื่องเกาหลีเหนือในวันพุธ และการประชุมกลุ่ม G7 ในช่วงท้ายสัปดาห์

วันอังคาร ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนอกภาคการผลิตในสหรัฐ (ISM non-manufacturing PMI) คาดว่าจะปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 57.3 จุดจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมทั่วสหรัฐ

วันพุธ ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดการที่จะพบกับนายชินโซ อาเบะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยจะหารือเรื่องข้อตกลงที่จะยื่นให้กับกับเกาหลีเหนือเพื่อนำไปสู่การลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี

วันพฤหัส ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ในสหรัฐ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 แสนตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนเล็กน้อยเพราะมีการปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในมิชิแกน

การประชุมผู้นำกลุ่ม G7 ที่ประเทศแคนาดา จะเริ่มต้นในวันศุกร์ถึงวันเสาร์ โดยการหารือหลักมีสองเรื่องคือการรับมือกับกำแพงภาษีของสหรัฐ และนโยบายเศรษฐกิจยุโรปหลังมีความวุ่นวายจากการเมืองในแถบยุโรป

http://www.bangkokbiznews.com


กรมอนามัย ชวนคนไทยดื่มนมรสจืด 2 แก้วทุกวัน สร้างกระดูกแข็งแรง

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนไทยดื่มนมรสจืดวันละ 2 แก้วทุกวันควบคู่อาหารอื่นๆ ให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30นาที เพื่อกระดูกที่แข็งแรงสุขภาพที่ดี

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า นมเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมสำหรับทุกวัย เพราะในนมมีโปรตีนคุณภาพดีและมีปริมาณแคลเซียมสำหรับการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน โดยเฉพาะนมโคสด 100 เปอร์เซ็นต์ ไขมันต่ำรสจืด มีคุณค่าทางโภชนาการดีกว่านมที่มีการปรุงแต่งรสและกลิ่น เนื่องจากมีแคลเซียมในปริมาณมาก ช่วยสร้างกระดูกที่มีผลต่อพัฒนาการด้านความสูงโดยเฉพาะในวัยเด็กที่กำลังเจริญเติบโตและวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงโตเร็ว ซึ่งจะมีการสะสมมวลกระดูกเพิ่มขึ้นมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย  ส่วนวัยผู้ใหญ่ควรดื่มนมเป็นประจำเพราะมีวิตามินต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 บี 6บี 12 วิตามินดี แคลเซียม และฟอสฟอรัส ที่ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรงรวมถึงผู้สูงอายุซึ่งเป็นวัยที่ต้องการสารอาหารเพิ่ม จึงจำเป็นต้องดื่มนมทุกวัน เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและชะลอการสูญเสียมวลกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน

แพทย์หญิงอัมพร กล่าวต่อไปว่า คนไทยควรดื่มนมรสจืดทุกวัน โดยเด็กก่อนวัยเรียน1 ปีขึ้นไป และวัยเรียน     ควรดื่มนมรสจืด 2 แก้วต่อวัน ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง เด็กควรดื่มนมครบส่วนไม่ควรเลือกดื่มนมพร่องมันเนยหรือ   ไร้ไขมัน เพราะนมครบส่วนมีแหล่งพลังงานคือไขมันและวิตามินเอ ดี อี เค ซึ่งละลายในไขมัน และเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเด็กวัยนี้ ส่วนวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุแนะนำให้ดื่มนมรสจืดวันละ 2 แก้ว เพื่อให้ได้รับแร่ธาตุแคลเซียมเพียงพอ ป้องกันภาวะกระดูกพรุน ผู้ที่ปัญหาภาวะไขมันในเลือดสูง ควรเลือกดื่มนมรสจืดพร่องมันเนยหรือนมไร้ไขมัน  ผู้ที่มีปัญหาน้ำย่อยน้ำตาลแลคโตสไม่พอ อาจจะมีอาการถ่ายบ่อยเมื่อดื่มนม แนะนำให้เริ่มดื่มนมครั้งละน้อยหรือประมาณครึ่งแก้ว และสามารถเพิ่มเป็นครั้งละหนึ่งแก้วได้ในเวลาประมาณ 1–2 สัปดาห์ หรือดื่มนมหลังอาหารขณะที่ท้องไม่ว่าง หรือกินผลิตภัณฑ์นมที่ผ่านการย่อยน้ำตาลแลกโตสบางส่วนโดยจุลินทรีย์ เช่น ผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตเป็นต้น ส่วนผู้ที่ไม่นิยมดื่มนม มักได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ เพราะในอาหารอื่นมีแคลเซียมต่ำและร่างกายนำไปใช้ไม่ได้ดีเท่าแคลเซียมในนม สำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรควรดื่มนมรสจืดวันละ 2 แก้ว และบริโภคปลาเล็กปลาน้อย 2 ช้อนกินข้าวหรือ   ผักใบเขียวเข้ม 4 ทัพพี หรือเต้าหู้แข็ง 1 แผ่นเพิ่ม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกระดูกทั้งมารดาและทารกในครรภ์

“ทั้งนี้ การเลือกดื่มนมและผลิตภัณฑ์นมให้สังเกตวันหมดอายุ มีเครื่องหมาย อย.รับรองอย่างถูกต้องและอ่านฉลากข้างผลิตภัณฑ์ว่ามีน้ำนมโคสดแท้กี่เปอร์เซ็นต์ โดยให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำนมโคสดแท้ที่เปอร์เซ็นต์สูงกว่าจะได้รับสารอาหารจากนมมากกว่า นอกจากนี้ ควรบริโภคอาหารอื่นๆ ให้ครบ 5 หมู่อย่างหลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เพื่อการมีสุขภาพที่ดี” รองอธิบดี กรมอนามัย กล่าวในที่สุด

http://www.bangkokbiznews.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 4/06/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,550.00 19,650.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,266.00 19,192.56 20,150.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,139.40 17,273.30 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 570.00 8,641.20 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 443.00 6,715.88 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,312.00 19,889.92 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  4/06/2561


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
แก๊สโซฮอล E-20
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
แก๊สโซฮอล E-85 21.14 21.14 21.14 21.14
แก๊สโซฮอล 91 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98
เบนซิน 95 36.36
36.81
36.86 36.86 36.86 36.86
ดีเซลหมุนเร็ว
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 31.79 31.79 31.79 31.79 31.79
มีผลตั้งแต่ 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00

 

 

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า