สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 7 มิถุนายน 2561

สิงห์จ่อเปิดตัวแบรนด์คอนโดฯใหม่ หลังThe ESSEยอดขายหมื่นล้าน

ยอดขายหมื่นล้าน คอนโดมิเนียมสุดหรู The ESSE ล่าสุด “สิงห์ เอสเตท” เตรียมเปิดตัวแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ แบบ Row Rise

หลังจากประสบความสำเร็จในแบรนด์คอนโดมิเนียมสุดหรู The ESSE ที่เปิดตัวมา 3 โครงการ และมียอดขายไปแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท ล่าสุด “ณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์” หัวเรือใหญ่ที่ดูแลธุรกิจพักอาศัยของ สิงห์ เอสเตท กระซิบมาว่า พร้อมเปิดตัวแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ของสิงห์ เอสเตท ที่จะมาพร้อมกับคอนเซปท์ใหม่แล้วเร็วๆ นี้ โดยจะเป็นแบบ Low Rise ในทำเลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซอยสุขุมวิท 43 ส่วนชื่อโครงการการตอนนี้ต้องขออุบเอาไว้ก่อน แต่รับรองว่ากลางเดือนหน้าได้ว้าวกันแน่นอน

2_5

สำหรับ THE ESSE SUKHUMVIT 36 นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันย่านทองหล่อนับว่าเป็นทำเลใจกลางเมืองที่ได้รับความสนใจ จากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวญี่ปุ่น เพราะเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งยังอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทองหล่อ ทำให้ง่ายและสะดวกต่อการเดินทาง นอกจากนี้ ยังเป็นย่านที่มีตลาดเช่าที่พักอาศัยเพื่อการลงทุนที่มีความโดดเด่นเมื่อเทียบกับทำเลอื่นๆ ในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับราคา 2.5-3.5 แสนบาทต่อตารางเมตร

“THE ESSE SUKHUMVIT 36” ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่ 3 ของสิงห์ คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี ที่ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “สมดุลแห่งความต่าง” หรือ A Harmony of Contrast ที่หล่อหลอมอัตลักษณ์การออกแบบสไตล์ไทยกับเทรนด์ที่อยู่อาศัยในยุคปัจจุบันไว้ด้วยกัน ด้วยสถาปัตยกรรมที่สร้างในเขตร้อน หรือทรอปิคอล เฮ้าส์

พร้อมกันนี้ได้จัดงาน Grand Opening เปิดโครงการ “THE ESSE SUKHUMVIT 36” ด้วยการจัดกิจกรรมสุดพิเศษ ภายใต้แนวคิด “A Harmony of Tropical Senses” ที่จะนำพาทุกท่านสัมผัสกับความสมดุลแห่งความต่างที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติกับชีวิตเมือง ผ่าน 4 สัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษมูลค่ารวมสูงสุดถึง 2 ล้านบาท เมื่อจองในงาน

เพลิดเพลินไปกับสัมผัสแรก “A HARMONY OF TROPICAL SIGHT” ผ่านการตกแต่งบรรยากาศสำนักงานขายด้วยการนำแมกไม้เขตร้อนนานาพันธุ์มาผสมผสานกันอย่างลงตัว สัมผัสที่สอง“A HARMONY OF TROPICAL TASTE” สัมผัสรสชาติอาหารระดับ 1 ดาว มิชลินสตาร์ จากร้านอาหาร “เสน่ห์จันทร์” ที่นำวัตถุดิบชั้นเลิศมารังสรรค์พร้อมเสิร์ฟเป็นเมนูสุดพิเศษ พร้อมร่วมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ “A HARMONY OF TROPICAL SCENT” เวิร์คช็อปสุดสร้างสรรค์กับการปรุงน้ำหอมในแบบเฉพาะของตนเอง สัมผัสสุดท้ายกับ “A HARMONY OF TROPICAL SOUND” เพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีไพเราะ ที่ถ่ายทอดผ่านเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลกจากประเทศเดนมาร์ก อย่าง “Bang & Olufsen” ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการผลิตเครื่องเสียงมานานกว่า 91 ปี

http://www.bangkokbiznews.com


ผังเมืองใหม่กทม. ชู3เมืองเศรษฐกิจ

กรมโยธาฯยํ้าผังเมืองใหม่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลยึดโครงข่ายรถไฟฟ้าเป็นหลัก โดยศูนย์กลางยังอยู่ที่ย่านสาทร-สีลม พร้อมบูม 3 ทำเล มักกะสัน บางซื่อ และตากสิน เป็นเมืองเศรษฐกิจ รองจากสาทรและสีลม

นายอนวัช สุวรรณเดช รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ระบุถึง การจัดทำผังเมืองรวมของประเทศ โดยเฉพาะผังเมืองของกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อรองรับการพัฒนาแหล่งที่อยู่อาศัย ว่า ปัจจุบันการจัดทำผังเมืองไม่ได้มีหลักการในการพิจารณาแตกต่าง จากอดีตมากนัก โดยจะคำนึงจากระบบสาธารณูปโภคของเมืองเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันยึดตามโครงข่ายของระบบคมนาคมเป็นหลัก โดยเฉพาะแนวของรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นมากถึง 10 สาย กระจายความเป็นเมืองที่กระจุกตัวแค่ในกรุงเทพฯไปยังเมืองบริวาร คือ จังหวัดปริมณฑล ทั้งปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร แต่เมืองหลักยังเป็นทำเลย่านสาทร-สีลมตามเดิม  โดยจะมีเมืองรอง คือ มักกะสัน บางซื่อ และตากสิน ซึ่งเป็น 3 จุดสำคัญที่กำลังมีแผนถูกพัฒนาความเป็นเมือง

นอกจากนี้ยังจะพิจารณาร่วมกับแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีของรัฐบาล, แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และโดยเฉพาะการวางผังเมืองเพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ อีอีซี หรือพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก ขณะนี้ร่างดังกล่าวอยู่ระหว่างจัดทำ คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณานานประมาณ 1 ปี

“ผังเมืองของกรุงเทพฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมิน หลังจากจะเป็นผังเมืองถาวรที่ไม่มีอายุการใช้งานต่างจากอดีต ทำให้คณะจัดทำ ต้องเพิ่มรายละเอียดให้มากขึ้นและชัดเจนขึ้น ใช้เวลายาวนาน ก่อนจะถึงขั้นตอนออกประกาศเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามจุดใหญ่ๆ ซึ่งส่วนตัวมองว่า อาจจะยังไม่เพียงพอ กำลังเสนอให้เพิ่มจุดเปิดรับฟังความเห็นให้ครอบคลุมมากขึ้น หลังจากขั้นตอนดังกล่าวแล้ว จะนำร่างเข้าสู่คณะกรรมการผังเมือง และจะเริ่มพิจารณาคำร้อง ปรับปรุงแก้ไขก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการ”

http://www.thansettakij.com


1 ก.ค.นี้ จ่ายเพิ่ม 15 บาทใช้ถนนวงแหวนรอบนอกช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน

รายงานจากฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมทางหลวง แจ้งว่าตั้งแต่ วันที่ 1 กรกฎาคม 2561 การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางแทนกรมทางหลวง ตามมติ ครม. ปี 2554 บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนพระประแดง – บางแค ช่วงพระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน อัตราค่าธรรมเนียมผ่านทางเป็นไปตามกฎกระทรวง ปี 2555 รถ 4 ล้อ, รถ 6 ล้อ และรถที่มีล้อเกิน 6 ล้อขึ้นไป ในอัตรา 15 บาท, 25 บาท และ 35 บาท ตามลำดับ
โดยค่าธรรมเนียมผ่านทางที่จัดเก็บได้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะนำส่งกรมทางหลวงเพื่อเข้าบัญชีเงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้เก็บรักษา และจะนำไปใช้ในการบำรุงรักษาทาง สะพาน ตลอดจนระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการจราจรให้แก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งไฟฟ้าแสงสว่าง กล้อง CCTV โทรศัพท์ฉุกเฉิน หน่วยกู้ภัย เป็นต้น รวมทั้งใช้สำหรับก่อสร้างขยายโครงข่ายมอเตอร์เวย์สายทางอื่น ๆ ในอนาคต ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระงบประมาณแผ่นดิน รักษาวินัยทางการเงินการคลังภาครัฐ พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ของประเทศ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป

http://www.bkkcitismart.com


ชี้ ‘เทคโนโลยีการก่อสร้าง’ อาวุธคู่ใจ ผู้รับเหมาไทย

EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์ Construction Technology (เทคโนโลยีการก่อสร้าง) อาวุธคู่ใจ ผู้รับเหมาไทย

ปัญหาด้านประสิทธิภาพในการดำเนินการ การขาดแคลนแรงงาน และต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้นเป็นความท้าทายที่สำคัญของอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งในไทยและต่างประเทศมาโดยตลอด และมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น สะท้อนจากประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ยังคงต่ำกว่าอุตสาหกรรมอื่น นอกจากนี้ อีไอซีประเมินว่าในปี 2018 ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างไทยต้องเผชิญกับการขาดแคลนแรงงานในภาคก่อสร้างถึงราว 5 หมื่นคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 3 ปี ข้างหน้า

ผู้ประกอบการไทยสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาเหล่านี้ โดยการนำ construction technology หรือ เทคโนโลยีด้านการก่อสร้างเข้ามาประยุกต์ใช้ในการทำงาน โดยอีไอซีมองว่า Building Information Modeling (BIM), Prefabricated building components และConstruction robotics เป็น 3 เทคโนโลยีด้านการก่อสร้างที่น่าจับตามองและมีศักยภาพสูง เมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้ในการนำมาประยุกต์ใช้ ระดับความครอบคลุมของฟังก์ชันการทำงานใน value chain และระดับความสามารถในการบรรเทาปัญหาที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมก่อสร้างต้องเผชิญทั้งปัญหาด้านประสิทธิภาพและด้านแรงงาน เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยลดการพึ่งพาแรงงาน ต้นทุนการก่อสร้าง และระยะเวลาที่ใช้ในการก่อสร้าง

อุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วโลกยังคงวนเวียนอยู่กับปัญหาด้านประสิทธิภาพและปัญหาแรงงานซึ่งล้วนทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยอุตสาหกรรมก่อสร้างยังคงมีอัตราการเติบโตของประสิทธิภาพการผลิต (productivity) ที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมอื่น รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการทำงานค่อนข้างน้อยเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น (รูปที่ 1) นอกจากนี้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับปัญหาด้านประสิทธิภาพในการดำเนินการ สะท้อนจากงานวิจัยของ Autodesk ซึ่งพบว่ากว่า 60% ของผู้ประกอบการก่อสร้างในประเทศต่างๆ ต้องเผชิญกับปัญหางบประมาณบานปลาย และปัญหาก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด ส่วนหนึ่งจากความจำเป็นที่จะต้องแก้งานระหว่างการก่อสร้าง

1_1

ในด้านแรงงาน อีไอซีประเมินว่า ช่วงปี 2018-2020 ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสที่จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานราว
5 หมื่นคนถึง 2 แสนคนต่อปี อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากความต้องการแรงงานที่เพิ่มขึ้นจากโครงการก่อสร้างภาครัฐ ขณะเดียวกันคาดว่าแรงงานต่างด้าวจะลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2561 นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เช่น ในปี 2018 ค่าแรงขั้นต่ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ปรับตัวสูงขึ้นราว 5% มาอยู่ที่ 325 บาทต่อคนต่อวัน

Construction technology หรือเทคโนโลยีด้านการก่อสร้างเป็นความหวังใหม่ที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาของอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยสามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) software platform เช่น Building Information Modeling (BIM) 2) equipment and system เช่น Prefabricated building components (Prefabs) และ Construction robotics และ 3) user interface เช่น Virtual Reality (VR) นอกจากนี้ เทคโนโลยีด้านการก่อสร้างยังสามารถถูกนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายกิจกรรมใน value chain ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง (Architecture, Engineering and Construction Industry หรือ AEC Industry) ที่ครอบคลุมตั้งแต่งานสถาปัตยกรรม วิศวกรรม งานก่อสร้าง ตลอดจนการบริหารจัดการงานอาคาร ซึ่งขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการทำงานของเทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง

อีไอซีประเมินว่า BIM, Prefabs และ Construction robotics เป็น 3 เทคโนโลยีที่มีโอกาสเข้ามาพลิกโฉมอุตสาหกรรมก่อสร้าง เมื่อพิจารณาปัจจัยด้านความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีจะถูกนำมาประยุกต์ใช้ ระดับความครอบคลุมของฟังก์ชันการทำงานใน value chain และระดับความสามารถในการแก้ปัญหาด้านประสิทธิภาพและแรงงาน (รูปที่ 3) เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการก่อสร้างได้อย่างมีนัยสำคัญ

1) BIM เทคโนโลยีต้นทุนต่ำ คุ้มค่า แต่ยังมีอุปสรรคด้านทักษะของพนักงานและการปรับระบบทั้งหมดให้สอดคล้องกันทั้ง value chain ที่ทำให้ผู้ประกอบการยังคงลังเลที่จะนำมาใช้ BIM เป็นเทคโนโลยีสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคารในรูปแบบ 3 มิติ ที่สามารถถอดปริมาณ BOQ (Bill of Quantities) ได้อย่างแม่นยำต่างจากการเขียนแบบ CAD (Computer Aided Design) แบบดั้งเดิม และช่วยบูรณาการการทำงานในทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบอาคารไปจนถึงการก่อสร้าง จึงช่วยลดความซ้ำซ้อนและความขัดแย้งของงานลง ส่วนฟังก์ชันการทำงานที่ครอบคลุมทั้ง value chain นี้ส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจออกแบบ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจตกแต่งภายใน จากงานวิจัยของ Autodesk พบว่าการนำ BIM มาประยุกต์ใช้ยังช่วยลดระยะเวลาที่ใช้ในขั้นตอนการออกแบบได้ถึง 30% และลดปริมาณแรงงานในไซต์ก่อสร้างลงได้ราว 25%

อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการต้องการลงทุนในเทคโนโลยีนี้ต้องลงทุนใน 2 ด้านคือ ซอฟท์แวร์ BIM และการฝึกอบรมบุคลากร ซึ่งมีต้นทุนราว 2.5 แสนบาทต่อซอฟท์แวร์ และ 3 หมื่นบาทต่อหลักสูตร ทั้งนี้ อีไอซีพบว่าหากผู้ประกอบการพัฒนาโครงการมูลค่า 100-1,000 ล้านบาท BIM จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 1 – 8.5 เท่าของมูลค่าการลงทุนใน BIM อย่างไรก็ตามถึงแม้ประโยชน์ของ BIM จะค่อนข้างคุ้มค่าต่อการลงทุน แต่ในปัจจุบันการใช้ BIM ในไทยยังจำกัดอยู่เพียงผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น เนื่องจากการใช้ประโยชน์จาก BIM ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ต้องอาศัยการฝึกอบรมพนักงาน และต้องเปลี่ยนจากระบบการจัดเก็บเอกสารในรูปแบบกระดาษมาเป็นแบบดิจิทัลซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ยิ่งไปกว่านั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใน value chain ให้ปรับเปลี่ยนมาใช้ BIM อีกด้วย

2) Prefabs ช่วยประหยัดทั้งต้นทุนและเวลาในการก่อสร้าง และหากผู้ประกอบการลงทุนผลิตเองจะคุ้มกว่าการสั่งซื้อเกือบ 3 เท่า Prefabs คือ ชิ้นส่วนอาคารสำเร็จรูป เช่น ผนังสำเร็จรูป เสาสำเร็จรูป ซึ่งถูกผลิตในโรงงานหรือในพื้นที่ก่อสร้าง ก่อนนำมาประกอบติดตั้งเป็นอาคาร โดยงานวิจัยในสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ และฮ่องกง รวมถึงผู้ประกอบการไทยบางรายที่มีการใช้ Prefabs แล้วพบว่าช่วยลดต้นทุนแรงงานได้ 5-20% ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างและประเภทอาคาร อีกทั้งยังลดระยะเวลาก่อสร้างไปได้ราว 20% จึงช่วยลดต้นทุนในการก่อสร้างโดยรวมได้มากกว่า 10%

3_2

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถจัดหา Prefabs ได้จาก 2 ช่องทาง คือ การสั่งซื้อจากผู้ประกอบการรายอื่นและการลงทุนโรงงานผลิต ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน โดยการสั่งซื้อ ผู้ประกอบการต้องรับความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงราคาและการขนส่ง ขณะที่หากผู้ประกอบการเลือกลงทุนสร้างโรงงานผลิตจะต้องอาศัยเงินลงทุนสูง โดยเมื่อวิเคราะห์โรงงานตัวอย่างในไทยที่มีกำลังการผลิต 3 แสนตร.ม.ต่อปี ต้องใช้เงินลงทุนสูงถึงกว่า 1 พันล้านบาท จากการวิเคราะห์ของอีไอซีพบว่า หากผู้ประกอบการตัดสินใจลงทุนโรงงานผลิต Prefabs จะมี ROI สูงถึง 16% ซึ่งนับว่าสูงกว่าการสั่งซื้อที่อยู่ที่ราว 6% เนื่องจากต้นทุน Prefabs ที่แตกต่างกัน โดยต้นทุนของการผลิตจากโรงงานจะอยู่ที่ราว 700-780 บาทต่อตร.ม. ขณะที่ต้นทุนจากการสั่งซื้อจะสูงถึง 800-900 บาทต่อตร.ม. อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความคุ้มทุน ผู้ประกอบการต้องผลิต Prefabs ได้อย่างน้อย 60% ของกำลังการผลิตโดยรวม

3) Construction robotics เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ปัญหาแรงงาน ซึ่งคาดว่าจะถูกนำมาใช้ในไทยมากขึ้นในอีก 10 ปี ถัดจากนี้ Construction robotics หรือ หุ่นยนต์ที่ใช้ในการก่อสร้าง กำลังได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอังกฤษ โดยหุ่นยนต์ที่ใช้ในการก่อสร้างที่น่าจับตามองคือ หุ่นยนต์ผูกลวดเหล็กที่ใช้ในงานฐานราก และหุ่นยนต์เรียงอิฐ เนื่องจากช่วยให้สามารถก่อสร้างได้เร็วขึ้นถึง 10 เท่า และ 5 เท่า ตามลำดับ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนแรงงานได้ถึง 50% และ 30% ตามลำดับ
จากการวิเคราะห์ของอีไอซีพบว่า การนำหุ่นยนต์มาใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างในไทยยังไม่คุ้มที่จะลงทุนในขณะนี้ เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนในการลงทุนหุ่นยนต์ยังคงสูงกว่าต้นทุนการจ้างแรงงานในไทย โดยการลงทุน Construction robotics ในปัจจุบันจะคุ้มเมื่อค่าแรงอยู่ที่ 700 บาทต่อคนต่อวัน และ 600 บาทต่อคนต่อวัน สำหรับหุ่นยนต์ผูกลวดเหล็กและหุ่นยนต์เรียงอิฐตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ด้วยประสิทธิภาพของหุ่นยนต์ที่สูงขึ้น ประกอบกับราคาหุ่นยนต์ที่มีแนวโน้มลดลงจะทำให้การลงทุนใน Construction robotics คุ้มทุนในระดับค่าแรงที่ต่ำกว่าจุดคุ้มทุนในปัจจุบัน

นอกจากเทคโนโลยีด้านการก่อสร้างข้างต้น ยังมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น 3D printing, Internet of Things (IoT) และ Big data analytics ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ ผู้ประกอบการควรศึกษาข้อดีข้อเสียของแต่ละเทคโนโลยี เพื่อปรับตัวนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด

ผู้ประกอบการรายใหญ่ควรจับมือกับผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง เพื่อแบ่งปันความรู้และเทคโนโลยี เช่น ในกรณีของ MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จับมือกับ Autodesk ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ BIM พัฒนาแนวทางการออกแบบและการก่อสร้างที่สร้างความยั่งยืน โดย MQDC ได้นำ BIM มาใช้ในโครงการ WHIZDOM 101 จนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานและสร้างความยั่งยืนผ่านการจำลองสถานการณ์ในลักษณะต่าง ๆ เช่น รูปแบบของทิศทางลม จนได้รับรางวัล AEC Excellence Awards 2017 ประเภทความยั่งยืน จากการใช้เครื่องมือในการออกแบบที่มีเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อลดการใช้พลังงาน

ขณะที่ผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็กควรเริ่มจากการนำ Prefabs มาใช้ก่อน เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาด้านแรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ประกอบการด้านการก่อสร้าง อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในการนำมาใช้น้อยกว่าเทคโนโลยีอื่น โดยในระยะเริ่มต้นผู้ประกอบการสามารถเริ่มจากการสั่งซื้อก่อน แล้วค่อยขยับขยายมาเป็นการลงทุนโรงงานผลิตเองในภายหลัง เมื่อมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงพอ

ภาครัฐควรพิจารณามาตรการโดยเฉพาะด้านการพัฒนาบุคลากรเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการหันมาใช้เทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง ภาครัฐควรให้สิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษี เช่น การร่วมมือกับผู้พัฒนาซอฟท์แวร์จัดตั้ง training center ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและพนักงานด้านการใช้ BIM อย่างเช่นในสิงคโปร์ รวมถึงควรให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินทุนซึ่งช่วยลดภาระด้านต้นทุนของผู้ประกอบการ เพื่อให้ Construction robotics ถูกนำมาใช้ในไทยเร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคก่อสร้างของไทย และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

http://www.bangkokbiznews.com


กินอย่างไรจึงจะไม่เจ็บป่วย

กินอย่างไรจึงจะไม่เจ็บป่วย thaihealth

สุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญ  การกินก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่ควรระมัดระวัง เพราะปัจจุบัน ด้วยสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้อาหารที่รับประทานนั้น ไม่ปลอดภัย 100 % เสมอไป   อาหารที่ถูกสุขอนามัยนั้นเราไม่จำเป็นต้องซื้ออาหารแพงๆ หรือวิตามินมากิน เพียงแค่เราปฏิบัติตามกฎ 10 ข้อ ดังต่อไปนี้

1.กินอาหารหลายๆชนิดหมุนเวียนกันไปทุกวัน

2.กินอาหารให้เพียงพอ ไม่มากไม่น้อยไป

3.กินอาหารที่เป็นธรรมชาติดัดแปลงแต่น้อย

4.กินเป็นเวลา ไม่กินจุบจิบ ไม่กินระหว่างมื้อ

5.กินอาหารเช้าให้มาก และหนักที่สุด ส่วนมื้อเย็นกินน้อยๆและเบาๆ

6.กินช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด

7.ควรกินอย่างฉลาด หลีกเลี่ยงอาหารที่ปลอมปนและเป็นพิษเป็นภัยต่อร่างกาย

8.ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว

9.ไม่บริโภคสิ่งเสพติด

10.เวลากินข้าวระวังอย่าให้ตึงเครียด อารมณ์เสีย หรือเหนื่อยมากเกินไป

http://www.thaihealth.or.th


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 7/06/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,500.00 19,600.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,263.00 19,147.08 20,100.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,136.70 17,232.37 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 568.00 8,610.88 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 442.00 6,700.72 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,309.00 19,844.44 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  7/06/2561


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
แก๊สโซฮอล E-20
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
แก๊สโซฮอล E-85 21.14 21.14 21.14 21.14
แก๊สโซฮอล 91 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98
เบนซิน 95 36.36
36.81
36.86 36.86 36.86 36.86
ดีเซลหมุนเร็ว
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 31.79 31.79 31.79 31.79 31.79
มีผลตั้งแต่ 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า