สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 13 มิถุนายน 2561

พร็อพเพอร์ตีโฟกัส  กรุงเทพฯ ติดอันดับโลก! เมืองที่มีศักยภาพในการเติบโต

รายงาน City Momentum Index (ดัชนีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเมือง) ฉบับประจำปี 2561 โดยบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล ซึ่งได้วิเคราะห์กลุ่มเมืองที่มีศักยภาพสูงสุดในการเติบโตจากปัจจัยหลากหลายด้าน ที่แสดงถึงศักยภาพในการประสบความสำเร็จของเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจ 131 เมืองทั่วโลก ในแง่มุมของความเข้มแข็งทางด้านสังคม-เศรษฐกิจ และการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงธุรกิจ

ทั้งนี้ การจัดอันดับดัชนีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ดัชนีระยะสั้นและดัชนีระยะยาว โดยดัชนีระยะสั้นพบว่า ในกลุ่มเมืองที่มีดัชนีสูงสุด 30 อันดับแรกของโลก เป็นเมืองของเอเชีย-แปซิฟิก 25 เมือง รวมถึงเมืองที่มีดัชนีสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 2 เมืองของอินเดีย คือ ไฮเดอราบัด (อันดับ 1) และบังกาลอร์ (อันดับ 2) และนครโฮจิมินห์ของเวียดนาม (อันดับ 3)

สำหรับดัชนีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะสั้น มีเมืองของอินเดียหลายเมืองที่ติด 30 อันดับแรกของโลก เนื่องจากอยู่ในกลุ่มเมืองที่มีการเติบโตของจำนวนประชากรและเศรษฐกิจรวดเร็วมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากมาตรการของภาครัฐ ในการทำให้เป็นแหล่งธุรกิจที่มีความน่าสนใจ และการลงทุนในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

ส่วนเวียดนามได้อานิสงส์จากการหลั่งไหลเข้ามาของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เนื่องจากหัวเมืองหลัก ๆ ของเวียดนาม อาทิ นครโฮจิมินห์และฮานอย กลายเป็นแหล่งผลิตและกระจายสินค้าไฮเทคที่สำคัญของภูมิภาคและของโลก ส่งผลให้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจและรายได้

เมืองใหญ่ ๆ ของจีน มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีจำนวนมากถึง 11 เมือง ที่ิติดอยู่ 30 อันดับแรก ในรายงานดัชนีฉบับนี้ โดยเฉพาะเมืองที่ถูกใช้เป็นฐานการผลิตสินค้าที่สำคัญของโลก ซึ่งติดอันดับต้น ๆ ได้แก่ หนานจิง (อันดับ 7) และหังโจว (อันดับ 9)

สำหรับกรุงเทพฯ ติดอันดับ 1 ใน 30 เมืองของโลกที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งสูงสุดในระยะสั้น โดยอยู่ในอันดับที่ 28 ต่อจากดูไบ (อันดับ 27) และสิงคโปร์ (อันดับ 26) และมีค่าดัชนีสูงกว่าซีแอตเติลของสหรัฐฯ (อันดับ 29) และบูคาเรสต์ เมืองหลวงของโรมาเนีย (อันดับ 30) นอกจากนี้ ยังมีมะนิลา จาการ์ตา และกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเมืองเหล่านี้ยังคงมีการเติบโตตามแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ และทำหน้าที่เป็นประตูสู่ภูมิภาค มีความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยว นวัตกรรม และทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถ การมีศักยภาพการเติบโตสูง ยังทำให้เมืองเหล่านี้เป็นแหล่งธุรกิจที่มีบริษัทต่าง ๆ ขยายกิจการ อีกทั้งยังสามารถดึงดูดบริษัทของจีนที่กำลังขยายการลงทุนออกนอกประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ เมืองเหล่านี้ยังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วของภาคอสังหาริมทรัพย์ ตามการสร้าง-ขยายเพิ่มขึ้นของโครงข่ายระบบสาธารณูปโภค

อย่างไรก็ดี การจัดอันดับดัชนีเมืองที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว พบว่า มีเมืองของเอเชีย-แปซิฟิกเพียง 5 เมืองเท่านั้น ที่ติดอยู่ในกลุ่ม 30 อันดับแรกของโลก ได้แก่ โตเกียว โซล ซิดนีย์ เมลเบิร์น และสิงคโปร์

http://www.thansettakij.com


ตลาดบ้านหรูยังคงมาแรงบนย่านบางนา

ตลาดบ้านหรูยังคงมาแรงบนย่านบางนา

จากข้อมูลของฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด ที่ระบุว่า ในปี 2561 นี้มีดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่กำหนดแผนพัฒนาโครงการบ้านหรูรวมกันเกือบ 100 หน่วย มูลค่าการลงทุนรวมกันคาดว่าเกิน 15,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าตลาดบ้านหรู ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับเทรนด์ของบ้านระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ สิ่งที่จะดึงดูดใจลูกค้าได้ อันดับแรกคือ ต้องเป็นทำเลที่ดี อยู่บนไพร์มโลเคชั่น มีเส้นทางคมนาคมที่สะดวก แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สามารถรองรับได้กับทุกไลฟ์สไตล์ ต้องเป็นที่อยู่อาศัยที่มีความทันสมัย มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน มีพื้นที่ใช้สอยมากพอที่จะรองรับกิจกรรมสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มีกำลังและความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยราคาแพง และต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ต้องการความโดดเด่นและความแตกต่าง ทั้งเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ และคุ้มค่าทั้งต่อการอยู่อาศัยรวมถึงเพื่อลงทุนในอนาคตด้วย

ซึ่งหนึ่งในทำเลที่มีความโดดเด่นด้านการขยายตัวของบ้านหรู คือ พื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก อย่าง “บางนา” ที่เป็นย่าน CBD (Centric Business Distric) ด้วยศักยภาพของพื้นที่ ที่สะดวกด้วยเส้นทางคมนาคม มีถนนสายหลักหลายเส้นทางให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น ถนนสุขุมวิท ถนนพระราม 9 (ทางด่วนศรีรัช) เชื่อมต่อไปถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนบางนา-ตราด (ทางด่วน บางนา-ชลบุรี/ทางด่วนบูรพาวิถี) และถนนกรุเทพกรีฑาตัดใหม่ (ถ.ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) ยังมีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว หมอชิต-สำโรง

รวมทั้งยังมีเมกะโปรเจกต์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและจะมีขึ้นตามมาในอนาคตอันใกล้ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง, โครงการรถไฟฟ้า Light Rail ช่วงบางนา-สุวรรณภูมิ, รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-บึงกุ่ม, โครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 และ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะทำให้พื้นที่กรุงเทพฯ ตะวันออก สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ ใน กทม. รวมถึงเชื่อมโยงไปยังพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

Issara-BaanIssaraBangna-HouseA-01

ในส่วนของบ้านระดับซูเปอร์ลักชัวรี่นั้น ล่าสุดทาง บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัวบ้านหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ บ้านอิสสระ บางนา ภายใต้คอนเซปต์ “ความภูมิใจที่ส่งต่อได้ The New Legacy Of Freedom” โดยมูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพที่พร้อมจะตอบโจทย์ได้ตรงกับทุกความต้องการ ผ่านแนวคิดความเป็น Modern Tropical ทำให้เกิดความรู้สึกอยู่สบายน่าพักอาศัย มีความเรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 24 ไร่ บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.8 จำนวน 44 หลัง บนพื้นที่ดินขนาด 100-238 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 380-697 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 38-94 ล้านบาท พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

https://www.ddproperty.com


เปิด 7 อุตสาหกรรม กำลังผลิตพุ่งเกิน 80%

Big Data Analysis เปิด 7 อุตสาหกรรม กำลังผลิตพุ่งเกิน 80%

เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้ 4.8% สูงกว่าที่สำนักวิจัยหลายแห่งคาดการณ์เอาไว้ ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นผลจากอัตราการใช้ “กำลังการผลิต” ของภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยอุตสาหกรรมที่สำคัญ 21 กลุ่ม มี 7 กลุ่มที่ใช้กำลังการผลิตเกินกว่า 80% ถือเป็นสัญญาณที่นำไปสู่การลงทุนเพิ่มเติม

ทั้ง 7 กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว ได้แก่การผลิตน้ำตาล ใช้กำลังผลิตในช่วงไตรมาสแรกปี 2561 ที่ 134.1% การผลิตพลาสติกและยางกำลังการผลิต 98.5% การผลิตรถยนต์ 93.4% การผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 88.1% การแปรรูปและถนอมเนื้อสัตว์ 86.3% การผลิตจักรยานยนต์ 80.2% และ การผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง 80.1%

1_3

ส่วนอุตสาหกรรมที่ใช้กำลังการผลิตในช่วง 70-79% มี 1 อุตสาหกรรม คือการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และแผ่นวงจร ใช้กำลังการผลิต 76.2% ขณะที่ อุตสาหกรรมที่ใช้กำลังการผลิตช่วง 60-69% มี 5 อุตสาหกรรม คือการผลิตยางล้อและยางใน 69.1% การผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย 67.2% การผลิตเครื่องจักรอื่นๆ 66.8% การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก 63.8% และการผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือน 63.7%

การใช้อัตรากำลังการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นสัญญาณบ่งใช้ให้เห็นถึงแนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนที่น่าจะเริ่มกลับมาได้ในเร็วๆ นี้ หลังจากที่การลงทุนเอกชนชะลอตัวลงต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

http://www.bangkokbiznews.com


การพบกันระหว่างทรัมป์และคิมไม่สร้างความน่าสนใจเพิ่มขึ้นให้กับเศรษฐกิจ ตลาดรอจับตาท่าทีเฟดในคืนวันนี้

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.10บาทต่อดอลลาร์  ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดสิ้นวันทำการก่อน

ในคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกกลับมาซื้อขายอย่างไม่คึกคักหลังจากที่การพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และนายคิมจองอึนของเกาหลีเหนือ ไม่ได้สร้างความน่าสนใจเพิ่มขึ้นให้กับภาพรวมเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดก็จับตาไปที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีมติ “ขึ้นดอกเบี้ย” ในคืนวันนี้

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือภาพรวมเงินเฟ้อ (CPI) ในสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 2.2% ในเดือนล่าสุด เป็นการเร่งตัวขึ้นเร็วที่สุดในรอบกว่าหกปี ขณะที่ราคาน้ำมันก็ยังมีทิศทางเป็นบวก กลุ่มโอเปคมองปริมาณการบริโภคยังความผันผวน ในระยะสั้นก็จะต้องลดกำลังการผลิตตามแผนเดิมไปจนกว่าจะเห็นเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

โดยรวมแล้วปัจจัยทั้งหมดถือว่าไม่ได้ส่งผลบวกมากนักกับตลาดการเงิน สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ยังคงอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และวันนี้ต้องติดตามท่าทีของเฟดว่าจะมีการขยับดอกเบี้ยขึ้นเร็วหรือไม่ ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นไปอีก

มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 32.05-32.15 บาทต่อดอลลาร์

http://www.bangkokbiznews.com


9 ผลไม้ที่คนทำงานควรทาน บูทพลังงานให้เต็มหลอด เร่งสมองให้พุ่งปรี๊ด

ผลไม้เพื่อสุขภาพ

วิธีเพิ่มพลังให้มนุษย์ออฟฟิศ ด้วยผลไม้เพิ่มพลังที่รับรองว่ากินแล้วสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ไม่ง่วงเหงาหาวนอนอีกต่อไป !

สำหรับมนุษย์ออฟฟิศทั้งหลายที่ต้องนั่งทำงานติดต่อกันวันละ 8-9 ชั่วโมง ก็คงหนีความอ่อนเพลียและเมื่อยล้าไปไม่พ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกง่วงเหงาหาวนอนเท่านั้น แต่ยังทำให้สมองตื้อ คิดอะไรไม่ออก ครั้นจะดื่มกาแฟแก้ง่วง ก็กลัวว่าตอนกลางคืนจะนอนไม่หลับ แต่จะให้นั่งกินขนมจุบจิบก็จะยิ่งทำให้อ้วนไปกันใหญ่ ถ้าอย่างนั้นขอแนะนำผลไม้เหล่านี้ ที่เหมาะสำหรับมนุษย์ออฟฟิศอย่างที่สุด เพราะทั้งช่วยเพิ่มพลังงาน บูทสมองให้แล่นปรี๊ด แถมบำรุงสุขภาพได้เป็นอย่างดี กินแล้วประโยชน์ 3 ต่อแบบนี้ ใครล่ะจะอดใจไหว

ผลไม้เพื่อสุขภาพ

1. แคนตาลูป

หากรู้สึกว่าเวลานั่งทำงานไม่ค่อยจะมีสมาธิในการทำงานเสียเท่าไร ขอแนะนำให้หาแคนตาลูปมารับประทานเลยค่ะ เพราะแคนตาลูปอุดมด้วยโพแทสเซียม ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้สมองได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ เมื่อได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอก็จะทำให้สมองของเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ผลไม้เพื่อสุขภาพ

2. แอปเปิล

จากการศึกษาทางการแพทย์ของโรงพยาบาล King’s College ในประเทศอังกฤษ พบว่า แอปเปิลเป็นผลไม้ที่ปลุกสมองและร่างกายจากความเหนื่อยล้าได้ดีกว่ากาแฟ เพราะแอปเปิลอุดมด้วยคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และไฟเบอร์ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากน้ำตาลมากขึ้น แต่จะถูกใช้ไปอย่างช้า ๆ เพราะมีไฟเบอร์เป็นตัวช่วย นอกจากนี้ยังเป็นผลไม้ที่ช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ใครที่กำลังง่วง ๆ และอยากจะหาอะไรหม่ำแบบไม่กลัวอ้วน ขอแนะนำแอปเปิลเลยค่ะ

ผลไม้เพื่อสุขภาพ

3. สตรอว์เบอร์รี

น้ำตาลในผลไม้ทุกชนิดเป็นน้ำตาลชนิดที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ในทันที ซึ่งสตรอว์เบอร์รีก็มีน้ำตาลไม่แพ้กับผลไม้ชนิดอื่น ๆ ทำให้รับประทานเข้าไปแล้วรู้สึกมีพลังมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมได้

ผลไม้เพื่อสุขภาพ

4. กล้วย

หากทำงานเครียด ๆ อยู่แล้วรู้สึกอยากผ่อนคลาย กล้วยก็ถือเป็นตัวช่วยที่ดีไม่น้อย เพราะกล้วยนั้นอุดมด้วยกรดอะมิโนที่ชื่่อว่าทริปโตเฟน ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับเข้าไปแล้วก็จะเปลี่ยนสารชนิดนี้ให้เป็นสารเซโรโทนิน ทำให้ความเครียดลดลง นอกจากนี้กล้วยยังถือเป็นสุดยอดอาหารเพิ่มพลัง อุดมด้วยคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที และยังมีไฟเบอร์ วิตามินบี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และสารอาหารอื่น ๆ ที่ดีกับร่างกายอีกเพียบ

ผลไม้เพื่อสุขภาพ

5. สับปะรด

รสชาติหวานฉ่ำของสับปะรดไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย แต่ยังช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นแถมยังดีต่อระบบการทำงานของสมอง นั่นก็เป็นเพราะว่าสับปะรดมีน้ำตาลจากธรรมชาติ แถมยังมีวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างสื่อประสาท เพิ่มการทำงานให้สมอง คราวหน้าถ้ารู้สึกง่วง ๆ ละก็ อย่าลืมหาสับปะรดมากินนะ

ผลไม้เพื่อสุขภาพ

6. ส้ม

จะดีแค่ไหนถ้าหากในเวลาทำงานรู้สึกง่วง ๆ แล้วได้รับประทานส้มรสชาติอมเปรี้ยวอมหวานสักหน่อย แน่นอนล่ะว่าจะทำให้คุณรู้สึกตาสว่างอย่างแน่นอน ซึ่งนอกเหนือจากรสชาติของส้มแล้ว สิ่งที่ทำให้หายง่วงเป็นปลิดทิ้งก็คือปริมาณของน้ำตาล ไฟเบอร์ และน้ำที่อยู่ในส้มที่จะช่วยเพิ่มพลังให้คุณได้อย่างรวดเร็ว หรือจะเลือกทานผลไม้รสเปรี้ยวที่เป็นพี่น้องกับส้ม อย่าง เกรปฟรุต มะนาว และเลมอน ก็ช่วยได้เหมือนกัน

ผลไม้เพื่อสุขภาพ

7. บลูเบอร์รี

มหาวิทยาลัยทัฟส์ ในสหรัฐอเมริกาได้แนะนำว่าบลูเบอร์รีเป็นผลไม้ที่ควรรับประทานเป็นอย่างยิ่ง เพราะช่วยสร้างเสริมการทำงานของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยชะลอการสูญเสียความทรงจำในระยะสั้นอีกด้วย มนุษย์ออฟฟิศคนไหนที่มักจะขี้หลงขี้ลืมรีบหามากินด้วยค่ะ

ผลไม้เพื่อสุขภาพ

8. ทับทิม

ทับทิมเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะเข้าไปป้องกันไม่ให้เซลล์ต่าง ๆ ถูกทำลาย โดยเฉพาะเซลล์สมอง อีกทั้งในทับทิมยังมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วน้ำตาลในทับทิมก็จะถูกส่งไปเลี้ยงสมองและร่างกายทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น บอกลาปัญหาง่วงเหงาหาวนอนเวลาทำงานไปได้เลย

ผลไม้เพื่อสุขภาพ

9. แตงโม

การไม่ค่อยดื่มน้ำในขณะที่นั่งทำงานจะทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งการที่ร่างกายขาดน้ำก็เป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกไม่มีสมาธิและอ่อนเพลีย ดังนั้นถ้าอยากเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายละก็ นอกจากจะดื่มน้ำแล้วขอแนะนำให้รับประทานแตงโมค่ะ เพราะแตงโมมีส่วนประกอบของน้ำถึง 95% แถมยังมีวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างสมองให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ดีแบบนี้จะพลาดได้ยังไง

แม้ผลไม้เหล่านี้จะช่วยเพิ่มพลังงานให้กับเราได้ แต่ก็อย่าลืมว่าผลไม้บางชนิดก็มีน้ำตาลสูงไม่ใช่เล่น ดังนั้นควรรับประทานอย่างพอเหมาะนะคะ เพราะถ้ากินเยอะมากเกินไป แทนที่จะรู้สึกสดชื่น อาจจะยิ่งเพลียเพราะเกิดภาวะระดับน้่ำตาลผกผันได้เหมือนกัน 

https://health.kapook.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 13/06/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,650.00 19,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,273.00 19,298.68 20,250.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,145.70 17,368.81 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 573.00 8,686.68 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 446.00 6,761.36 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,319.00 19,996.04 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  13/06/2561


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95
29.25
29.25
29.65
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
แก๊สโซฮอล E-20
26.74
26.74
27.14
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
แก๊สโซฮอล E-85 21.14 21.14 21.14 21.14
แก๊สโซฮอล 91 28.98 28.98 29.38 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98
เบนซิน 95 36.36
36.81
36.86 36.86 36.86 36.86
ดีเซลหมุนเร็ว
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 31.79 32.66 32.66 32.66 32.66
มีผลตั้งแต่ 29 May 05:00 29 May 05:00 10 Jun 05:000 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00

 

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า