ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,850.00 | 19,950.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,286.00 | 19,495.76 | 20,450.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,157.40 | 17,546.18 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 579.00 | 8,777.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 450.00 | 6,822.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,333.00 | 20,208.28 | n/a |
‘ทรูลิงค์ฯ’ เตรียมการใหญ่! ผุดไซซ์เล็กทั่วกรุงเทพฯ
ทรูลิงค์ พร็อพเพอร์ตี้ ปลื้มตลาดโฮมออฟฟิศหรูกับที่พักอาศัย โครงการแรก ‘เดอะ ควอเทียร์’ ตอบรับดี เล็งเปิดโครงการใหม่ที่พระราม 3 พร้อมสร้างแบรนด์ใหม่รุกย่านรังสิต ตั้งเป้าปี 63 มีรายได้ 500 ล้านบาท
คมสัน วุฒิพงศ์
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูลิงค์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
นายคมสัน วุฒิพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูลิงค์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเปิดขายโครงการ เดอะ ควอเทียร์ รัชดา 32 โฮม ออฟฟิศพร้อมส่วนพักอาศัยไฮเอนด์ สูง 6 ชั้น จำนวน 8 หน่วย บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ ราคาเริ่มต้นหน่วยละ 28 ล้านบาทขึ้นไป มีลูกค้าสนใจซื้อแล้วประมาณ 25% ถือเป็นสัญญาณการตอบรับที่ดี และขณะนี้ บริษัทวางแฟนเตรียมเปิดตัวโครงการที่ 2 ในคอนเซ็ปต์เดียวกัน รวมถึงใช้แบรนด์เดิมด้วย
สำหรับโครงการใหม่ยังคงให้ความสำคัญกับทำเลที่เป็นวงแหวนธุรกิจในโซน 2 จากศูนย์กลางของเมือง หรือ City Connector แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญ เป็นแหล่งที่เหมาะกับการเป็นที่พักอาศัยและทำธุรกิจไปพร้อมกัน เช่นเดียวกับรัชดาภิเษก ทั้งนี้ ทำเลที่เลือกไว้ คือ ย่านพระราม 3 พื้นที่เพียง 1-2 ไร่เท่านั้น ซึ่งการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาไม่มีปัญหา เนื่องจากโครงการเล็กใช้เนื้อที่ไม่มาก ทำให้สามารถเปิดได้ทั่วกรุงเทพฯ
“จากการศึกษาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มโฮมออฟฟิศเป็นตลาดที่มีการเติบโตทางด้านซัพพลายสูง เป็นแนวคิดการผสมผสานระหว่างการอยู่อาศัยกับสำนักงาน ซึ่งเราถูกใจในไอเดีย แต่พบโครงการส่วนใหญ่ยังไม่สมบูรณ์พอ เช่น ที่จอดรถไม่เพียงพอ คุณภาพยังไม่ดี ฟังก์ชันใช้งานไม่ครบ จึงกลายเป็นช่องว่างที่เรามองเห็นว่า สามารถทำโครงการที่ตอบโจทย์และพัฒนาได้มากกว่าโปรดักต์ที่เห็นทั่วไป โดยเฉพาะในระดับลักชัวรี”
นอกจากนี้ มีแผนจะเปิดแบรนด์ใหม่ 1 แบรนด์ เป็นโครงการที่อยู่อาศัยบนเนื้อที่ใหญ่ขึ้น ประมาณ 3 ไร่ขึ้นไป รูปแบบแนวราบ เจาะพื้นที่โซนที่ 3 ของเมือง เช่น รังสิต ที่เป็นชุมชนที่อยู่อาศัย เป็นคนในพื้นที่ที่อยากมีบ้าน แต่ยังอยากอยู่ในพื้นที่เดิม โดยในพื้นที่ไม่ค่อยมีซัพพลายรองรับ จึงมองเห็นโอกาส ฉะนั้นจะเปิดโครงการที่รูปแบบกับราคาไปด้วยกันได้
นายคมสัน ระบุว่า ตั้งเป้าเปิดให้ได้ปีละ 2 โครงการ โดยในปี 2561-2562 จะมีรายได้จาก เดอะ ควอเทียร์ รัชดา 32 มูลค่า 250 ล้านบาท ถัดมาปี 2562-2563 จะมีรายได้จากโครงการ ‘เดอะ ควอเทียร์ พระราม 3’ กับแบรนด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้น รวมมูลค่า 500 ล้านบาท และอนาคตจะต้องมีการเติบโตขึ้นอีก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรก ที่จะเตรียมพร้อมเพื่อนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ
“ผมเคยมีประสบการณ์ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนทั้งคอนโดมิเนียมและที่ดิน รวมถึงการร่วมทุนกับกลุ่มบิ๊กเกอร์แลนด์ มินิแฟคตอรี่ ประกอบธุรกิจอสังหาฯ ที่รองรับกลุ่มลูกค้าใหม่ คือ พัฒนาคลังสินค้าดีไซน์ใหม่ที่เป็นทั้งสำนักงาน โรงงาน และที่พักอาศัยในที่เดียวกัน ทำให้เห็นถึงช่องว่างในอนาคต จึงร่วมทุนกับเพื่อนเปิดบริษัท ทรูลิงค์ พร็อพเพอร์ตี้ฯ ประกอบธุรกิจโดยจับกลุ่มตลาดเฉพาะและมีขนาดโครงการไม่ใหญ่นัก” นายคมสัน กล่าว
http://www.thansettakij.com
อสังหาโอน9แสนล. ปีนี้ราคาจ่อขึ้น4%
อีไอซีคาดเฉพาะกรุงเทพฯ ปริมณฑล ยอดโอนโต 7% หรือ 4.6 แสนล้าน พร้อมจับตาปัจจัยเสี่ยง นายวิธาน เจริญผล ผู้อำนวยการอาวุโสคลัสเตอร์ธุรกิจบริการ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่าปีนี้ยอดโอนที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมูลค่าคาดจะโต 7% หรือ 4.6 แสนล้านบาทจากปีก่อน ส่วนจำนวนหน่วยโอนจะโต 3% หรือ 1.69 แสนหน่วย
ด้านราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปีนี้ปรับขึ้นเฉลี่ย 4% ขณะที่ทั่วประเทศคาดจะมียอดโอน 7.5-9 แสนล้านบาท ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจและความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ยังมีสต๊อกที่อยู่อาศัยสะสมอยู่ 1.7 แสนหน่วย แบ่งเป็นคอนโดถึง 40% ซึ่งไม่น่ากังวลเพราะใช้เวลาดูดซับปีเศษก็จะหมดไปแม้มีการเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง/554496
สำหรับปัจจัยเสี่ยงต้องติดตาม เช่น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังทรงตัว หนี้สินต่อรายได้ยังสูง แบงก์เข้มงวดปล่อยกู้ บางเซ็กเมนต์อาจโอเวอร์ซัพพลายในบางทำเล และการเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มปรับขึ้น0.25% ในไตรมาส 4 คาดไม่กระทบเพราะยังต่ำ
https://www.posttoday.com
บาทเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่า 32.30 บาทต่อดอลลาร์
“อีซีบี” ลดคิวอีฝั่งเอเชียจับตาสงครามการค้า บาทอ่อนค่าลงตามดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากราคาปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 32.13 บาทต่อดอลลาร์ ในคืนที่ผ่านมาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติให้ “ลด” นโยบายการซื้อสินทรัพย์ (APP) ในปีนี้ลงเดือนละ 1.5 หมื่นล้านยูโร และตั้งเป้าหมายว่าจะ “หยุด” นโยบายดังกล่าวภายในต้นปีหน้า ขณะที่อีซีบีอาจเปลี่ยนไปใช้การให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยแทน (forward guidance) ในปีหน้า
แต่ปัจจัยดังกล่าวไม่ได้ส่งผลบวกกับค่าเงินยูโรเพราะภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น ล่าสุดอีซีบีปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจโดยเชื่อว่าการเติบโตของเศรษฐกิจยุโรปจะแย่ลง และจีดีพียุโรปปีนี้จะขยายตัวเพียง 2.1% จากเคยมองไว้ที่ระดับ 2.4% แต่เงินเฟ้อมีโอกาสสูงขึ้นไปที่ 1.7% จากที่อีซีบีคาดไว้ 1.4% ในเดือนมี.ค.ทำให้ตลาดเชื่อว่า อีซีบีจะใช้ดอกเบี้ย “ติดลบ” ต่อไปอีกอย่างน้อยทั้งปีหน้าสวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐที่ขยับดอกเบี้ยขึ้นเร็ว
นอกจากนี้ ในส่วนของฝั่งเอเชียจำเป็นต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน เพราะล่าสุดโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าได้ทำการอนุมัติกำแพงภาษีกับสินค้าจากจีนเป็นมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราเชื่อว่าจะมีการโต้ตอบด้วยการตั้งกำแพงภาษีของทางฝั่งจีนกลับเช่นกัน ในระยะสั้นสงครามการค้าจะกลับมาเป็นความเสี่ยงกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจเอเชียส่งผลให้ค่าเงินมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อ
สำหรับค่าเงินบาท ยังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ และการแข็งค่าของดอลลาร์ยังคงเป็นแนวโน้มหลัก ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินญี่ปุ่นในวันนี้ คาดว่าจะคงดอกเบี้ยและส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป อาจสร้างแรงกดดันค่าเงินเยนและค่าเงินเอเชียอื่นๆให้ค่าอ่อนค่าลงได้อีก มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 32.25-32.35 บาทต่อดอลลาร์
http://www.bangkokbiznews.com
รัฐบาลเตรียมผลักดัน 4 สุดยอดสมุนไพรเชิงเศรษฐกิจ ก. พบ ข.
กรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ยก 4 สุดยอดสมุนไพร ก.พบ ข.เป็นตัวชี้นำ สู่การทดลอง วิจัย และพัฒนา
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า สมุนไพรจะไปสู่สากล สิ่งที่ต้องทำคือ การทำให้คนทั่วไปรู้จักสมุนไพร มีความเชื่อมั่นในการแพทย์แผนไทย ชอบและนำไปสู่การใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์สมุนไพรรูปแบบต่างๆเพื่อให้ง่ายต่อการรู้จักกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้กำหนดผลิตภัณฑ์แชมเปี้ยนโปรดักส์(Champion Products)ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง จำง่ายๆคือ ก.พบ.ข. ได้แก่ ก.คือ กระชายดำ พ.คือ ไพล บ.คือบัวบก และ ข.คือ ขมิ้นชัน จึงเป็นที่มาของ คำว่า ก.พบ.ข.ให้เป็นสมุนไพรเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ ข้อมูลจากศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุว่า ประเทศไทยส่งออกสมุนไพรและสารสกัดปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะที่ข้อมูลของEuromonitor – Herbal/Traditional Products in Thailand ระบุว่าเมื่อปี 2559 ตลาดสมุนไพรทั้งเวชสำอาง อาหารเสริม เครื่องดื่มและสมุนไพรแห้ง สมุนไพรสด ในประเทศมีมูลค่าประมาณ 3.92 หมื่นล้านบาทและคาดว่าจะขยายตัวเป็น 5.69 หมื่นล้านบาทในปี 2564 ซึ่งถือว่าการขยายตัวมีแนวโน้มที่ดีในเชิงเศรษฐกิจ
ที่ผ่านมากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดงานประชุมวิชาการสมุนไพรแห่งชาติประจำปี 2561 เพื่อให้นักวิจัย ได้พบผู้ประกอบการด้านสมุนไพรกว่า 700ราย ถ่ายทอดองค์ความรู้ นวัตกรรมต่างๆ ให้ผู้ประกอบการนำไปพัฒนาต่อยอดเชิงเศรษฐกิจของประเทศให้มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัยและตรงความต้องการ พร้อมทั้งวางแผนการผลิตวัตถุดิบให้เพียงพอ โดยมียุทธศาสตร์จากแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2560 – 2564) เป็นเข็มทิศในการพัฒนา มีเป้าหมายพัฒนาสมุนไพรที่มีศักยภาพของประเทศ (Champion Products) ที่ตรงความต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ประเทศไทยมีความพร้อมของวัตถุดิบสมุนไพรไทย ซึ่งมีความหลากหลายของพันธุ์พืชจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าพันธุ์พืชในประเทศไทยที่ทราบชื่อวิทยาศาสตร์แล้วกว่า 20,000 ชนิด ซึ่งในจำนวนนี้ถูกนำมาใช้ประโยชน์เป็นสมุนไพรกว่า1,800 ชนิด กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ รวมถึงประเทศไทยมีความพร้อมในเรื่องของภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับการนำสมุนไพรมาใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมาก และรัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมสมุนไพรเชิงเศรษฐกิจ อีกทั้งผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและสมุนไพรได้รับความนิยมมากขึ้น จากปัจจัยต่างๆเหล่านี้ทำให้สมุนไพรและผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากสมุนไพรมีโอกาสและศักยภาพในตลาดโลกมากขึ้น
http://www.bangkokbiznews.com
10 วิธีคืนความสมดุลให้กับร่างกายรับหน้าฝน
10 วิธีคืนความสมดุลให้กับร่างกายรับหน้าฝน (ไทยโพสต์)
ความสมดุลในร่างกาย คือ การที่ระบบอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานอย่างสัมพันธ์กัน โดยความสมดุลของร่างกายอยู่ที่ประมาณ 37 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าอุณหภูมิภายนอกจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นร้อน เย็น หรือชื้น ร่างกายก็จะปรับอุณหภูมิภายในให้อยู่สภาวะคงที่ 37 องศา
แต่อากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยในช่วงหน้าฝน บางครั้งก็ร้อนอบอ้าว บางครั้งก็ร้อนชื้น ปริมาณความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้น ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันและเกิดความไม่สมดุล จึงแสดงอาการต่าง ๆ ออกมา เช่น เจ็บคอ เป็นหวัด น้ำมูกไหลตลอดเวลา ผื่นแพ้ผิวหนัง ฯลฯ
แต่ในทางกลับกันอุณหภูมิ และสภาพอากาศเช่นนี้เป็นที่ชื่นชอบเหมาะในการเจริญเติบโตและแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดี คนที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้อากาศจึงมีโอกาสเป็นได้บ่อยและมากกว่าปกติ ดังนั้นเราจึงควรหาวิธีดูแลและเตรียมตัวรับมือกับอากาศที่แปรปรวนในช่วงหน้าฝน เพื่อคืนความสมดุลให้กับร่างกายเสียแต่เนิ่น ๆ
นายแพทย์ พลวิช กล้าหาญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับสมดุลสุขภาพและความงาม จาก ALIVE Wellness Solutions แนะวิธีคืนความสมดุลให้กับร่างกายในช่วงหน้าฝนว่า ช่วงนี้อากาศค่อนข้างแปรปรวน ไม่โปร่งโล่งสบาย เชื้อไวรัสจึงเติบโตได้ดี และมีอายุในการเจริญเติบโตได้นานกว่าช่วงอื่น ๆ ทำให้โรคที่พบส่วนใหญ่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไซนัส ภูมิแพ้ผิวหนัง ภูมิแพ้อากาศ เป็นต้น เมื่อไม่สามารถควบคุมสภาวะอากาศให้บริสุทธิ์สดชื่นและสมดุลได้ เราจึงควรสร้างสมดุลให้กับตัวเองเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ด้วย 10 วิธีง่าย ๆ ช่วยรับมือกับอากาศแปรปรวนในหน้าฝน
1. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 1.5 ลิตร เพื่อให้สมดุลของอุณหภูมิในร่างกายคงที่ จะช่วยทำให้โอกาสการติดเชื้อลดลง
2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ถ้านอนหลับยาก ลองรับประทานกล้วยหอมก่อนนอน ซึ่งกล้วยหอมจะมีสารทริปโตเฟน ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและหลับได้ง่ายขึ้น
3. หน้าฝนมักจะไม่ค่อยเสียเหงื่อ เพราะอากาศชื้น ควรออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายได้ขับของเสีย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายวิธีหนึ่งด้วย
4. อาหารที่ควรรับประทานอาหาร ได้แก่ ขิง ข่า ตะไคร้ ใบกะเพรา กระชาย เป็นต้น เพราะเป็นอาหารที่มีความเผ็ดร้อน เป็นการเพิ่มอุณหภูมิให้แก่ร่างกาย
5. อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงรับประทาน คือ อาหารที่มีฤทธิ์เย็น รสขม เพราะจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลงมากกว่าเดิม ส่งผลให้ระบบการย่อยทำงานหนัก ย่อยยาก
6. ไม่ควรอยู่ในที่อึดอัด เพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย ควรอยู่ที่อากาศแห้งและถ่ายเทสะดวก เปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ และทำตัวเป็นมนุษย์สะอาด ล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรมเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
7. หน้าฝนอากาศไม่ปลอดโปร่ง ทำให้คนมีจิตใจหดหู่ ควรหาเวลาไปพักผ่อนเพื่อเพิ่มออกซิเจนบริสุทธิ์ให้กับร่างกาย
8. อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้ง่าย เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วยการรับประทานวิตามินซีเสริมวันละ 500-1,000 มิลลิกรัม
9. ควรใส่เสื้อผ้าสีสดใส เพื่อเติมพลังงานให้กับจิตใจ ใครจะคิดบ้างว่าแค่การปรับเปลี่ยนสีเสื้อผ้าก็ทำให้อารมณ์คุณเปลี่ยนแล้ว
10. นอกจากเตรียมความพร้อมของร่างกายแล้ว ควรเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ทำจิตใจให้สงบนิ่ง ด้วยการนั่งสมาธิ เพื่อรับมือกับทุกสภาวะ
https://health.kapook.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 15/06/2561
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 15/06/2561
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 |
29.25
|
29.25
|
29.25
|
29.25
|
29.25
|
29.25
|
29.25
|
29.25
|
29.25
|
29.25
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
26.74
|
26.74
|
26.74
|
26.74
|
26.74
|
– |
26.74
|
26.74
|
26.74
|
26.74
|
แก๊สโซฮอล E-85 | 21.14 | 21.14 | – | – | – | – | – | 21.14 | 21.14 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 | 28.98 |
เบนซิน 95 | 36.36 | – | – | – |
36.81
|
– | 36.86 | 36.86 | 36.86 | 36.86 |
ดีเซลหมุนเร็ว |
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 31.79 | 31.79 | 31.79 | 31.79 | 31.79 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 29 May 05:00 | 29 May 05:00 | 14 Jun 05:00 | 29 May 05:00 | 29 May 05:00 | 29 May 05:00 | 29 May 05:00 | 29 May 05:00 | 29 May 05:00 | 29 May 05:00 |