Blog Post

เหมาคอนโดฯเชียงใหม่! จีนแห่ซื้อลงทุนให้เช่า

จีนแห่ซื้อคอนโดฯเชียงใหม่ ชี้ 2 ทำเลฮอต ‘นิมมานเหมินทร์และซุปเปอร์ไฮเวย์’ เผย บางโครงการซื้อเต็มเพดาน 49% ด้าน คอลลิเอร์สแจงจีนแผ่นดินใหญ่ครองตลาด 60%

น.ส.อัญชนา วัลลิภากร เลขาธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในเชียงใหม่ยังไปได้ ขึ้นกับทำเลที่ตั้ง ซึ่งต้องเป็นพื้นที่ที่นิยมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนจีน ที่ก็ยังขายได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อลงทุนเกือบ 100% เห็นสัญญาณชัดเจนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยย่านหลัก ๆ ที่ลูกค้าคนจีนให้ความสนใจมี 2 ย่าน คือ 1.ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ตั้งแต่สี่แยกรินคำไปจนถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และ 2.ถนนนิมมานเหมินทร์ ซึ่งเป็นย่านท่องเที่ยวที่คนไทยและนักท่องเที่ยวรู้จัก

ด้าน น.ส.นาขวัญ พงศ์พฤกษทล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เค เรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า ได้ร่วมกับนักลงทุนจีน (the 8 estate) เปิดโครงการดิ เอท คอนโดมิเนียม (The 8 Condominium) เป็นอาคารชุดสูง 4 ชั้น 2 อาคาร รวม 66 ห้อง ตั้งอยู่ที่ถนนเทวัญ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ปัจจุบัน มียอดจองถึง 60% เป็นชาวต่างชาติเกือบทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นคนจีน แต่ละรายซื้อจำนวนมาก 4-5 หน่วย ทำให้สัดส่วนต่างชาติเต็มโควตา 49% แล้ว

ด้าน ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล พบว่า ปัจจุบัน ตลาดลูกค้าคนจีนกลายเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของตลาดคอนโดมิเนียมในเชียงใหม่ มากกว่าลูกค้าชาวไทยด้วยซ้ำ หากพิจารณาจำนวนลูกค้าชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมในเชียงใหม่ 60% คือ กลุ่มลูกค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ 20% คือ กลุ่มลูกค้าในย่านเอเชียประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะฮ่องกงและเกาหลี อีก 20% เป็นชาติยุโรปและอเมริกา

ช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 มีหน่วยเปิดขายใหม่ 109 หน่วย ในเขตเมืองชั้นใน โดยมีหน่วยที่อยู่ระหว่างการขายรวมทั้งสิ้น 10,468 หน่วย ขายไปแล้ว 7,664 หน่วย หรือประมาณ 73.2% เหลือขาย 2,804 หน่วย หรือคิดเป็น 26.81% หากพิจารณาจากทำเลที่ตั้ง จะเห็นว่า คอนโดมิเนียมเขตเมืองชั้นใน ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 4,001 หน่วย ขายไปแล้ว 2,908 หน่วย หรือคิดเป็น 72.7% เหลือขาย 1,093 หน่วย หรือคิดเป็น 27.3% และในเขตพื้นที่เมืองชั้นนอกมีคอนโดมิเนียมเปิดขายประมาณ 6,467 หน่วย ขายไปแล้ว 4,755 หน่วย หรือคิดเป็น 73.5% เหลือขาย 1,712 หน่วย หรือคิดเป็น 26.5%

http://www.thansettakij.com

ทุนยักษ์ฮุบที่พระราม 3! LH ปักหมุดเทอร์มินอล 21 – ‘ซีเล็คทูน่า’ ซื้อดะ รับสายสีเทา

ที่ดินพระราม 3 ร้อนเป็นไฟไม่แพ้พระราม 4 … สนข. ลากรถไฟสายสีเทาจากเดอะมอลล์ท่าพระทับเส้นทางบีอาร์ที บนถนนพระราม 3 เชื่อมใต้ดินเอ็มอาร์ที … บิ๊กทุนกว้านซื้อดะ LH ซื้อที่ 15 ไร่ ผุดห้างยักษ์เทอร์มินอล 21 ขณะกลุ่มซีเล็คทูน่ากว้านซื้อไม่อั้น

พระราม 3 เป็นถนนสายเดียวที่ไม่มีรถไฟฟ้าผ่าน ส่งผลต่อราคาที่ดินขยับเบาและความสนใจปักหมุดลงทุนของผู้ประกอบการไม่สูงนัก หากเทียบกับสุขุมวิท และล่าสุด เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงจากการเคลื่อนของบิ๊กทุนเข้าพื้นที่ ทั้งคอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า จากกระแสการผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเทา ซึ่งบรรจุอยู่ในแผนของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และอยู่ในขั้นตอนการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม มีระยะทาง 39.91 กิโลเมตร แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ วัชรพล-ทองหล่อ / พระโขนง-พระราม 3 และพระราม 3-ท่าพระ

“ฐานเศรษฐกิจ” สำรวจความเปลี่ยนแปลงบนถนนพระราม 3 โดยใช้ทางลงของทางด่วนบางโคล่ เข้าสู่ถนนจันทน์ตัดกับเจริญราษฎร์ บริเวณใต้ทางด่วนเชื่อมเข้ากับถนนพระราม 3 เขตบางคอแหลม พบว่า ทำเลนี้มีโครงการคอนโดมิเนียมของค่ายศุภาลัย แอลพีเอ็น ขึ้นโครงการอยู่ก่อนหน้านี้ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีรถไฟฟ้าเหมือนกับสุขุมวิท มีเพียงรถเมล์ด่วนบีอาร์ที ทำให้ความร้อนแรงของทำเลและราคาที่ดินไม่หวือหวา และเมื่อรถไฟฟ้าสายสีเทามีความชัดเจนขึ้น จากผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ระบุว่า จะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาลากผ่านจากห้างเดอะมอลล์ท่าพระ ผ่านไปตามเส้นทางของบีอาร์ที บนถนนพระราม 3 ทำให้ทำเลนี้มีแนวโน้มสดใสไม่แพ้สุขุมวิทและพระราม 4

ดูจากที่ดินแปลงใหญ่ เริ่มล้อมรั้วเตรียมก่อสร้างหลายแปลง จากเดิมเป็นที่ดินว่างเปล่าถูกทิ้งร้าง ซึ่งบริเวณด้านข้างโรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ มีที่ดินแปลงใหญ่เนื้อที่ 16 ไร่ ด้านหน้าติดถนนพระราม 3 ยาวไปจดแม่น้ำเจ้าพระยา ติดถนนพระราม 3 และคุ้งน้ำเจ้าพระยา … นายสง่า ชื่นชม ผู้ดูแลที่ดิน เล่าว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นของ บริษัท ไทยสมุทร ประกันภัยฯ ซึ่งบางส่วนให้บริษัทปูนซิเมนต์เช่า ขณะเดียวกัน ได้มีบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่สนใจอีกแปลง เนื้อที่ 15 ไร่ ห่างจากสถานีรถโดยสารด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) เจริญราษฎร์ … นายช้าง ความมั่น พนักงานศูนย์ฮอนด้าพระราม 3 ระบุว่า เป็นของ บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ซื้อที่ดินต่อจากแลนด์ลอดจ์ในพื้นที่ เตรียมพัฒนาโครงการเทอร์มินอล 21 พระราม 3 สูง 6 ชั้น ภายในมีทั้งโรงมหรสพ อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน มูลค่าโครงการรวมที่ดินน่าจะกว่า 1 หมื่นล้านบาท

แปลงติดกันมีการไล่รื้อที่เช่ากว่า 10 ไร่ จากผู้เช่าประกอบกิจการต้นไม้ ซึ่งสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นนายทุนรายเดียวกัน ที่จะลงมือพัฒนาห้างยักษ์ อีกด้านติดสถานีบีอาร์ทีเจริญราษฎร์ และอนาคตจะเป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีเทา

ถัดจากสถานีบีอาร์ทีเจริญราษฎร์ไปยังสถานีพระราม 3 ก่อนข้ามสะพานกรุงเทพ หรือ สะพานพระราม 3 ไปฝั่งธนฯ … นายสนั่น แจ่มมณี ผู้ดูแลที่ดินให้กับกลุ่มซีเล็คทูน่า เล่าว่า กลุ่มซีเล็คทูน่าสนใจที่ดินทำเลนี้ เนื่องจากติดแม่น้ำเจ้าพระยา โดยรวมแปลงจากบริเวณสถานีพระราม 3 เชื่อมกับถนนเจริญกรุงไปจดแม่น้ำเจ้าพระยา หรือ ตั้งแต่คลองภาชีไปจนถึงคลองบางคอแหลม จำนวน 50 ไร่เศษ และยังรับซื้อบ้านเก่าที่เสนอขายอีก 4-5 หลัง ตารางวาละ 8 หมื่นบาท เพื่อพัฒนาเป็นโรงแรมและคอนโดมิเนียม รวมทั้งที่อยู่อาศัยส่วนตัว

นายสนั่น เล่าต่อว่า ราคาที่ดินย่านพระราม 3 ฝั่งเจริญราษฎร์ ก่อนข้ามฝั่งไปฝั่งธนฯ ราคาไม่สูง เพราะยังไม่มีรถไฟฟ้า มีเพียงช่วงสาธุประดิษฐ์ ซึ่งมีธนาคารกรุงเทพและธนาคารกรุงศรี ซึ่งเป็นตึกใหญ่ มีคอนโดมิเนียมบ้าง ราคาที่ดินบอกขายกัน 5 แสนบาทต่อตารางวา ซึ่งราคาจริงน่าจะอยู่ที่ 2 แสนบาทต่อตารางวา แต่หากรถไฟฟ้ามาราคาขยับสูงแน่นอน

สอบถามพนักงานขายโครงการคณาพญาไท ทำเลใต้สะพานพระราม 9 ซึ่งระบุว่า ทำเลนี้อนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาผ่าน ทำให้มีผู้ประกอบการซื้อที่ดินขึ้นคอนโดมิเนียมกันมาก อาทิ ศุภาลัย , แอล.พี.เอ็น , แกรนด์ยู , สตาร์วิลล์ ฯลฯ ในทำเลยานนาวา สาธุประดิษฐ์ เย็นอากาศ คลองเตย รวมทั้งเจริญราษฎร์ แต่บริษัทเน้นกลุ่มไฮเอนด์ตารางเมตรละ 3 แสนบาท

และจากการสำรวจถนนพระราม 3 วิ่งต่อไปจนจดคลองเตย ซึ่งอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน สถานีศูนย์ฯสิริกิติ์ ซึ่งมีโครงการเดอะปาร์คและวันแบงค็อก ของ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง ประเมินว่า อนาคตถนนนพระราม 3 จะเป็นทำเลที่น่าสนใจไม่แพ้ทำเลอื่น

http://www.thansettakij.com

‘สมคิด’ ชี้หุ้นร่วงแค่ชั่วคราว ยันเศรษฐกิจไทยยังแข็งแรง

“สมคิด” ชี้หุ้นร่วงแค่ปัจจัยชั่วคราว ยันเศรษฐกิจไทยยังแข็งแรง สะท้อนจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.61 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงดัชนีหุ้นไทยที่ปรับลดลงกว่า 22 จุด ว่า ดัชนีหุ้นไทยเมื่อมีการปรับขึ้น ก็ต้องมีการปรับลดลงได้ และเชื่อว่าคงเป็นปัจจัยชั่วคราว ที่เกิดช่วงห่างของอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้น ส่งผลให้มีเงินไหลออกไปบ้าง แต่นักลงทุนอย่ากังวล หรือตกใจ

“หากเศรษฐกิจแข็งแกร่ง เดี๋ยวเงินที่ไหลออกก็กลับมา นักลงทุนอย่า PANIC หรือ อย่าตื่นตกใจ เพราะขณะนี้ เรามั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยกำลังไปได้ดีมาก รวมถึงสิ่งสำคัญคือ เราอยากได้ภาคเอกชนเข้ามาเป็นแรงหนุน ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างสมบูรณ์” นายสมคิด กล่าว

ขณะที่ปัญหาสงครามการค้านั้น ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่เชื่อว่า หากมีสงครามการค้าเกิดขึ้นจริงคงกระทบไปทั่วโลก ด้านสถานการณ์ตลาดเงินและตลาดทุนที่ผันผวนนั้น ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยืนยันว่า เศรษฐกิจไทยยังแข็งแรง สะท้อนจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง ด้านนโยบายดอกเบี้ยยังเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจของไทย และยืนยันว่า ขณะนี้ไม่มีอะไรน่ากังวล เนื่องจากไทยได้ผ่านวิกฤติมาแล้ว

บาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าขึ้นที่ 33.20 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ตลาดจับตาตัวเลขศก.สหรัฐ

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.20บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดตลาดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ33.24บาทต่อดอลลาร์

ในคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินสหรัฐกลับมาเป็นบวก นักลงทุนมีความมั่นใจกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าสงครามการค้าจะไม่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจมากนัก ขณะที่เฟดก็จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามที่ให้ความเห็นไว้ในรายงานการประชุมเดือนล่าสุด สวนกับราคาน้ำมันอ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจาก EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น 1.25 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีจึงยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.83% แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-on)

ในฝั่งของเศรษฐกิจก็เริ่มมีตัวเลขที่น่าสนใจเข้ามาช่วยพยุงความมั่นใจของนักลงทุนเช่นกัน ล่าสุดการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐ (ADP) ปรับเพิ่มขึ้น 1.77 แสนตำแหน่ง แม้จะต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูง ขณะที่ดัชนีผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ก็รายงานที่ระดับ 2.31 แสนตำแหน่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าดี เพราะสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้เพียงเล็กน้อยเช่นกัน

ในวันนี้เรายังมองภาพรวมเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ตลาดจะรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในคืนนี้ก่อน เชื่อว่าดอลลาร์จะไม่แข็งค่ามากถ้าตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐออกมาดีตามคาด แต่มีโอกาสกลับตัวแรงถ้าตัวเลขการจ้างงานน่าผิดหวัง มองกรอบบาทระหว่างวันที่ระดับ 33.15-33.25 บาทต่อดอลลาร์

http://www.bangkokbiznews.com

ปภ.แนะวิธีขับรถปลอดภัยช่วงเวลากลางคืน

ปภ.แนะผู้ขับขี่รู้หลักขับรถกลางคืนปลอดภัย ลดเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การขับรถในช่วงเวลากลางคืน มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง เนื่องจากความมืดทำให้ผู้ขับขี่มีขอบเขตในการมองเห็นเส้นทางจำกัด ประกอบกับความง่วง และความอ่อนล้าของผู้ขับขี่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติในการขับรถช่วงเวลากลางคืนอย่างปลอดภัย ดังนี้ การใช้สัญญาณไฟ เปิดใช้สัญญาณไฟให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง หากเส้นทางมืดมาก ให้เปิดไฟสูงเป็นระยะ จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น และเปลี่ยนเป็นไฟต่ำเมื่อมีรถวิ่งสวนทางมา การเว้นระยะห่าง เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้มากกว่าปกติ

เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ชัดเจน อาจส่งผลให้การกะระยะห่างผิดพลาด ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ การขับรถ หมั่นสังเกตป้ายต่างๆ บนเส้นทาง อาทิ ป้ายเตือน ป้ายบอกทาง พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับรถผ่านจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ ทางโค้ง ทางแยก ทางขึ้น – ลงสะพาน ทางลาดชัน จุดกลับรถ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ การใช้สายตา มองให้กว้างและไกลที่สุด โดยกวาดสายตามองให้รอบด้าน พร้อมหมั่นสังเกตจุดสำคัญบนเส้นทาง หลีกเลี่ยงการมองแสงไฟของรถคันอื่น เพราะทำให้สายตาพร่ามัว ให้มองเส้นทางข้างหน้า หรือเส้นแบ่ง ช่องจราจรเป็นหลัก รวมถึงไม่ใช้สายตาจ้องจุดเดียวเป็นเวลานาน ควรใช้สายตากวาดมองเส้นทางจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง จะช่วยป้องกันการหลับใน การใช้ความเร็ว ขับรถให้ช้ากว่าปกติ

โดยใช้ความเร็วตามป้ายจำกัดความเร็ว สัมพันธ์กับสภาพการจราจร และระยะที่แสงไฟหน้าส่องถึง หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้แก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที รวมถึงไม่เร่งความเร็ว เพื่อขับแซงบริเวณจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ ทางโค้ง ทางขึ้น – ลงสะพาน เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การใช้ช่องทาง ขับรถในช่องทางด้านซ้าย จะช่วยป้องกันแสงไฟของรถที่ขับสวนทางมาส่องตา และใช้ช่องทางด้านขวากรณีขับแซง พร้อมกลับเข้าช่องทางเมื่อรถอยู่ในระยะที่ปลอดภัย ทั้งนี้ ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงการขับรถในช่วงกลางคืน เพราะสายตาไม่สามารถปรับสภาพ ให้มองเห็นเส้นทางได้ชัดเจน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 6/07/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง	ราคารับซื้อต่อกรัม	ราคารับซื้อ/บาท	ราคาขายออก/บาท
ทองคำแท่ง 96.5%	n/a	19,650.00	19,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5%	1,273.00	19,298.68	20,250.00
ทองรูปพรรณ 90%	1,145.70	17,368.81	n/a
ทองรูปพรรณ 50%	573.00	8,686.68	n/a
ทองรูปพรรณ 40%	446.00	6,761.36	n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%	1,319.00	19,996.04	n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  6/07/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร
	ปตท PTT	บางจาก BCP	เชลล์ Shell	เอสโซ่ Esso	คาลเท็กซ์ Caltex	ไออาร์พีซี IRPC	พีทีจี เอนเนอยี่ PTG	ซัสโก้ Susco	ระยองเพียว Pure	ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95	29.25	29.25	34.29	29.25	29.25	29.25	29.25	29.25	30.30	29.25
แก๊สโซฮอล E-20	26.74	26.74	27.39	26.74	26.74	–	26.74	26.74	27.79	26.74
แก๊สโซฮอล E-85	21.14	21.14	–	–	–	–	–	21.14	21.14	–
แก๊สโซฮอล 91	28.98	28.98	28.98	28.98	28.98	28.98	28.98	28.98	28.98	28.98
เบนซิน 95	36.36	–	–	–	36.81	–	36.86	36.86	36.86	36.86
ดีเซลหมุนเร็ว	28.79	28.79	28.79	28.79	28.79	28.79	28.79	28.79	28.79	28.79
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม	31.79	31.79	31.79	31.79	31.79	–	–	–	–	–
มีผลตั้งแต่	29 May 05:00	29 May 05:00	14 Jun 05:00	29 May 05:00	29 May 05:00	29 May 05:00	29 May 05:00	29 May 05:00	29 May 05:00	29 May 05:00