สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 18 กรกฎาคม 2561

อสังหาฯ หนุนผังใหม่ กทม. ปรับพื้นที่สีแดงทุกสถานี!

ดีเวลอปเปอร์พ้องเสียง! หวังรื้อผัง กทม.ใหม่ ปลดล็อกการพัฒนาเมือง … บิ๊กบีทีเอสดันเป็นพื้นที่สีแดงรอบสถานีทุกแห่ง … นายกสมาคมอสังหาฯนนท์ ชงลาดพร้าว-พหลโยธิน พื้นที่สีน้ำตาล ขึ้นตึกสูง เหตุราคาที่ดินแพง รายได้น้อยเข้าถึงยาก

การยกร่างกฎกระทรวงผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 4 กำลังเข้มข้น ประเมินว่า ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า จะเปิดเวทีใหญ่รับฟังความคิดเห็นจากดีเวลอปเปอร์ ตลอดจนประชาชนเจ้าของที่ดินที่มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

สุรพงษ์ เลาหะอัญญา
กรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ที่ผ่านมา ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครยังไม่สะท้อนข้อเท็จจริง ทั้งที่มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ กทม. ควรปรับพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าเป็นพื้นที่สีแดง หรือ ประเภทพาณิชยกรรม ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัยไฮเอนด์ เพื่อสอดรับกับแผนลงทุนระบบรางภาครัฐ ดังนั้น ควรส่งเสริมการพัฒนาทุกรูปแบบเฉพาะรอบสถานี เพื่อใช้รถไฟฟ้าเป็นจุดศูนย์กลาง อย่างไรก็ตาม หากผัง กทม. ปรับการพัฒนาให้เพิ่มความสูงขึ้น แต่กฎหมายควบคุมอาคารไม่ยืดหยุ่น ก็ไม่สามารถสร้างอาคารสูงเกิน 23 เมตร หรือเกิน 8 ชั้นได้ กรณีถนนในซอยมีเขตทางกว้างต่ำกว่า 10 เมตร

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทสนใจท่ีดินทุกแปลง แต่ต้องพิจารณาผังเมืองก่อนเป็นอันดับแรก ว่า พัฒนาได้มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะทำเลที่รถไฟฟ้าสายใหม่ผ่าน เช่น ลาดพร้าว ศรีนครินทร์ รามอินทรา หรือแม้แต่ฝั่งธนบุรี ถือว่ามีศักยภาพสูงต่อการอยู่อาศัย ส่วนการปรับผังใช้ที่ดินให้สอดรับกับระบบรางนั้น บริษัทเห็นด้วย เพราะราคาที่ดินขยับสูง

 

เลิศมงคล วราเวณุชย์
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดวา เรียลเอสเตท จำกัด นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์นนทบุรีและเลขาธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย

เช่นเดียวกับ นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดวา เรียลเอสเตท จำกัด นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์นนทบุรีและเลขาธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่า ปัจจุบันราคาที่ดินปรับตัวสูงตามโครงข่ายรถไฟฟ้า แต่ผังเมืองยังจำกัดการพัฒนา ไม่สะท้อนกับข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนจากการซื้อที่ดินสูง ราคาคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าจึงแพง ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงยาก

โดยเสนอว่า แนวรถไฟฟ้าใหม่ทุกเส้นทางควรปรับเป็นพื้นที่สีน้ำตาล ย.8-9 ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก ระดับ 8-9 เอฟเออาร์ 7 ต่อ 1 หรือ สร้างได้ 7 เท่าของแปลงที่ดิน ยกตัวอย่าง ลาดพร้าวทั้งเส้น รามคำแหง บริเวณสถานีจุดตัดใหญ่ ลำสาลี-บางกะปิ จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีส้มมาเจอกัน ทำให้อนาคตทำเลนี้จะเติบโตขึ้นอีก

©FB-โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต

อีกทำเลสำคัญ คือ เส้นพหลโยธิน ซึ่งปัจจุบันมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ แต่สีของการใช้ประโยชน์ที่ดินส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่สีส้ม ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง เฉลี่ย ย.5 สร้างได้ 4 เท่าของแปลงที่ดิน ทั้งที่ราคาที่ดินขยับไป 5-6 แสนบาทต่อตารางวา บางแปลงเรียกกันเกือบ 1 ล้านบาทต่อตารางวา โดยเฉพาะทำเลรัชโยธิน

นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับใช้ที่ดินรอบสถานีรถไฟฟ้าในผังเมืองใหม่ คงจะทำให้ตลาดมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ให้ความสนใจพัฒนาโครงการตามแนวรถไฟฟ้า และยังคงมีความต้องการอยู่อีกมาก หลังปัจจุบัน มีข้อจำกัดในการพัฒนา อีกทั้งน่าจะช่วยลดความร้อนแรงของราคาที่ดินที่ปัจจุบันปรับสูงขึ้นอย่างมาก

ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาฯ มองว่า รัฐบาลควรจะมีการจัดวางในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อเสริมศักยภาพของทำเลในแต่ละโซนให้เกิดความโดดเด่น และมีความแตกต่างออกไปและส่งเสริมให้เมืองเกิดได้อย่างเป็นรูปธรรม

“เชื่อการประกาศใช้ผังเมืองใหม่ไม่น่าจะดันให้ราคาที่ดินปรับสูงขึ้นมากนัก เพราะช่วงที่ผ่านมา ก็มีปรับเพิ่มขึ้นไปแล้วพอสมควร อย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วยเช่นกัน”

แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ข้อจำกัดผังเมืองรวม กทม.ใหม่ ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนารอบสถานีรถไฟฟ้า 500 เมตร ซึ่งอาจทำได้หลายกิจกรรม แต่ในซอยหากถนนกว้างไม่ถึง 10 เมตร ก็สร้างตึกสูงไม่ได้ เพราะติดกฎหมายควบคุมอาคาร

http://www.thansettakij.com


เทรนด์ก่อสร้างยังสดใส พรีบิลท์-ตั้งเป้าแบ็กล็อกหมื่นล้าน

แม้ “พรีบิลท์” จะร่วมลงทุนกับกลุ่มชินวะกรุ๊ป และยักษ์อสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่นพัฒนาโครงการ REN Sukhumvit 39 คอนโดฯหรูกลางเมือง ด้วยนวัตกรรมทันสมัยปลุกกระแสการปรับเปลี่ยนของวงการก่อสร้างไทย แล้ว ยังมองเทรนด์การก่อสร้างในครึ่งปีหลังและปี 2562 ค่อนข้างสดใส

ทั้งนี้ นายวิโรจน์ เจริญตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงแนวโน้มการเติบโตตลาดรับเหมาในพื้นที่กทม.-ปริมณฑล ช่วงครึ่งหลังปี 2561 ว่ายังเน้นรักษาระดับปริมาณงานในมือ (แบ็กล็อก) ไว้ในระดับ 8,000-1 หมื่นล้านบาทอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเน้นรับงานภาคเอกชน 80% อาทิ งานก่อสร้างโรงแรม ออฟฟิศบิลดิ้ง และสัดส่วนงานราชการ 20% ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารอุทยานป๋วย 100 ปี ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

มองงานเอกชนในปีหน้าอย่างไร

ยังเล็งเห็นว่าแนวโน้มการก่อสร้างในครึ่งหลังปี 2561 นี้และปีหน้าเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ เชื่อว่าจะมีปริมาณมากกว่าปีนี้อีกด้วย เนื่องจากจะมีภาคเอกชนเร่งผลักดันโครงการต่างๆ มาก ขึ้น ประกอบกับเอกชนจะเน้นคุณภาพ ส่งมอบได้เร็ว อาทิ งานโรงแรม อาคารสำนักงาน เพราะเห็นว่าจะสามารถสร้างรายได้ระยะยาวมากขึ้น เติบโตจากช่วงที่ผ่านมาซึ่งจะเป็นกลุ่มคอนโดฯที่เป็นรายได้ระยะสั้น ปรับเปลี่ยนเป็นการสร้างรายได้ระยะยาว สามารถบริหารที่ดินให้สร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น

“โซนสุขุมวิทยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่ราคาแพงขึ้น ยังมั่นใจว่าไม่ติดกับดักราคาที่ดิน เพราะเมื่อ เปรียบเทียบกับย่านซีบีดีของต่างประเทศราคาที่ดินของไทยยังจูงใจกว่า โดยจะพบว่าราคายังถูกกว่าในภูมิภาค จึง
พบว่ามีลูกค้าต่างประเทศเข้ามาซื้อ เป็นเจ้าของ และไทยซื้อให้ต่างชาติเช่าจำนวนมากในขณะนี้”

ปัจจัยผลกระทบธุรกิจก่อสร้าง

ประการสำคัญยังเห็นว่าประเทศ ไทยมีปัจจัยบวกด้านแนวโน้มการเมืองชัดเจนขึ้น การลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐชัดเจนขึ้น จึงมีเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบมากขึ้น อีกทั้งเชื่อว่างานก่อสร้างในพื้นที่การพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) มีมากขึ้น อสังหาริมทรัพย์จะกลับมาฟื้นอีกครั้ง ประกอบกับโครงการรถไฟฟ้ามีการก่อสร้างเพิ่มอีก 2-3 เส้นทาง งานก่อสร้างเริ่มเห็นภาพชัดเจนกว่าปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ยังกังวลเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองที่ยังมองไม่เห็นว่าต่อจากนี้ไปจะเกิดเหตุการณ์อะไรตามมาอีกโดยเฉพาะช่วงก่อนการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในต้นปีหน้า เช่นเดียวกับกรณีสงครามการค้า เศรษฐกิจโลก อาจหยุดชะงัก แนวโน้มดอกเบี้ยขึ้น ราคาวัสดุเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันราคาเหล็กขยับเพิ่มแต่ยังพอรับได้

นอกจากนั้นยังเป็นห่วงเรื่องกฎหมายแรงงานต่างด้าว ที่อาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลน ดังนั้นบริษัทรับเหมารายใหญ่ รายกลางจึงต้องเร่งปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีก่อสร้าง เป็นระบบใหม่ สำเร็จรูปมากขึ้น ให้ใช้แรงงาน คนน้อยลง แต่จะต้องลงทุนเพิ่ม

“ปัจจุบันจะพบว่า บริษัทรับ เหมาชั้นนำของไทยได้พัฒนานวัตกรรมการร่วมลงทุนด้านเทคโนโลยีการก่อ สร้างยังเชื่อว่าจะเข้าไปมีส่วนปฏิรูปวงการรับเหมาไทยได้ไม่มากก็น้อย เนื่องจากปัจจัยค่าแรงสูงขึ้นจะทำให้เกิดการพัฒนาจากโรงงานสำเร็จรูป  (พรีแฟบ) มากขึ้น ผลิตในไซต์งานน้อยลง เพราะหวั่นเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมในเมือง ซึ่งบริษัทรับเหมาต้องเร่งหาพันธมิตรรับเหมารายใหม่มากขึ้น เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันและรับงานขนาดใหญ่ได้มากกว่า”

http://www.thansettakij.com


“อาลีบาบา กรุ๊ป” เปิดโครงการ ลาซาด้า สตาร์ ติดปีกอีคอมเมิร์ซไทย

“อาลีบาบา กรุ๊ป” เปิดโครงการ ลาซาด้า สตาร์ ติดปีกอีคอมเมิร์ซไทย

ลูอิส หลิว ประธานฝ่ายโกลบอล เทรนนิ่ง มหาวิทยาลัยเถาเป่า กล่าวถึง โครงการ “ลาซาด้า สตาร์” (LAZADA) ว่าเป็นความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา มหาวิทยาลัยเถาเป่า และลาซาด้า เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ค้าอีคอมเมิร์ซให้กลายเป็นวิทยากรมืออาชีพ เพื่อให้สามารถนำไปสอนผู้ค้าลาซาด้าคนอื่นๆได้ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ อาลีบาบา กรุ๊ป ได้มีการจัดบรรยาย อาลีบาบา โกลบอล คอร์ส ครั้งที่ 1 ไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ล่าสุดได้จัดหลักสูตรอาลีบาบา โกลบอล คอร์ส ครั้งที่ 2 ในหัวข้อเส้นทางเปลี่ยนผ่านยุคดิจิทัล หรือ Path to Digital Transformation ซึ่งจัดขึ้นโดยวิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา และลาซาด้าประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

สำหรับเนื้อหาการบรรยายนั้นจะเป็นภาพรวมเชิงกลยุทธ์ของอาลีบาบา ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทย รวมถึงแนวทางของลาซาด้าในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านความเชี่ยวชาญของผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และยังครอบคลุมถึงบทบาทของการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-payment) และโซลูชั่นส์โลจิสติกส์อัจฉริยะ (Intelligent logistics Solutions) เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆทางการค้าระหว่างประเทศในยุคค้าปลีกยุคใหม่ด้วย

เนื้อหาการบรรยายจะพูดถึงภาพรวมเชิงกลยุทธ์ของ Alibaba ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในระดับ SME รวมถึงแนวทางของ Lazada ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านความเชี่ยวชาญของผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ครอบคลุมถึงบทบาทการชำระเงินอิเล็ทรอนิกส์ (E-Payment), Intelligent Logistics Solution และการสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการค้าระหว่างประเทศของค้าปลีกยุคใหม่ด้วย โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมอบรมในปีถึง 3,000 ราย

https://www.sanook.com


บาทเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่า 33.32 บาทต่อดอลลาร์

หลังเฟดไม่มีท่าทีชะลอขึ้นดอกเบี้ย แนวโน้มดอลลาร์ยังแข็งค่า ตลาดพร้อมจับตาค่าเงินเยนและยูโรกำลังอ่อนค่า ดึงบาทอ่อนค่าตาม

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.32บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงปิดตลาดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 33.24 บาทต่อดอลลาร์

ในคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk on) แม้ว่าการเมืองสหรัฐจะร้อนแรงมากหลังจากการพบกันระหว่างทรัมป์และปูติน โดยดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.4% และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น 0.6% ขณะที่ราคาทองยังคงปรับตัวลงต่ออีก 1.1% ส่งผลให้โดยรวมค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักทั่วโลก

นอกจากนี้ฝั่งดอกเบี้ยก็ค่อนข้างชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่มีทีท่าที่จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ล่าสุดในการให้ถ้อยแถลงของประธานเฟด นายเจอโรมโพเวลล์กับสภาสหรัฐ คงคำชี้แจงว่าไม่เห็นถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลง และยังไม่มีความเสี่ยงจากสงครามการค้าในระยะสั้น

บอนด์ยิลด์สหรัฐจึงมีความผันผวนเพียงเล็กน้อย และในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ดอกเบี้ยระยะสั้นในสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้นตามแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และเราเชื่อว่าบอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 2 ปีจะปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 2.88% (ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.62%) แต่บอนด์ยิลด์ 10 ปีอาจอยู่ในระดับต่ำเพียง 3.10% (ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.86%) เนื่องจากภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจยังไม่เปลี่ยนแปลง

ค่าเงินบาทช่วงนี้มักมีความผันผวนในช่วงตลาดนิวยอร์กในตอนกลางคืน ขณะที่ช่วงเปิดตลาดกรุงเทพในตอนกลางวันปรับตัวบวกลบเพียงเล็กน้อยซึ่งเกิดจากแรงซื้อจากการนำเข้าและแรงขายจากการส่งออกมีความใกล้เคียงกัน แต่ภาพรวมค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มแข็งค่า ทำให้เงินบาทอ่อนค่าตามในระยะสั้น นักลงทุนจึงควรจับตาค่าเงินเยนและยูโรซึ่งกำลังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์เพราะเป็นปัจจัยหลักที่ดึงให้เงินบาทอ่อนค่าตามในช่วงนี้ มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 33.25-33.35 บาทต่อดอลลาร์

http://www.bangkokbiznews.com


เรียนรู้ 15 ตัวย่อภาษาอังกฤษในวงการธุรกิจ ให้อ่านเข้าใจ และใช้งานได้อย่างมืออาชีพ

สำหรับคนที่เรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจ หรือได้มีโอกาสคลุกคลีทำงานในวงการนี้ น่าจะต้องเคยผ่านตากับ 15 ตัวย่อภาษาอังกฤษในวงการธุรกิจต่อไปนี้มากันบ้าง แต่สำหรับใครที่ไม่มีความรู้ หรือยังไม่เข้าใจตัวย่อต่างๆ ที่มีใช้ในการทำงาน หรือเอกสารต่างๆ วันนี้เราก็มีลิสคำศัพท์สำคัญๆ มาฝากด้วยกันทั้งสิ้น 15 คำให้ทุกคนได้เรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจ จะได้นำไปใช้งานได้อย่างมืออาชีพ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปการเจรจา

 

 

1. SWOT

ย่อมาจาก Strengths, Weaknesses, Opportunities, Threats

ความหมาย: จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคาม ใช้สำหรับการวิเคราะห์ในด้านธุรกิจ หรือวิเคราะห์บุคคล

 

2. KPI

ย่อมาจาก Key Performance Indicator

ความหมาย: เป็นตัวที่ใช้ในการชี้วัดสำหรับการประเมินผลในด้านการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน หรือธุรกิจ

 

3. TBA

ย่อมาจาก To be announced

ความหมาย: จะประกาศให้ทราบในภายหลัง

 

4. TBC

ย่อมาจาก To be confirmed

ความหมาย: จะยืนยันในภายหลัง

 

5. HQ

ย่อมาจาก Head quarter

ความหมาย: สำนักงานใหญ่

 

6. ROI

ย่อมาจาก Return or investment

ความหมาย: เป็นคำที่คนเป็นเจ้านายมักจะนำมาใช้กับเรา ประมาณว่า คุณต้องมั่นใจว่าที่ลงทุนไปจะได้กำไรตอบแทน

 

7. FYI

ย่อมาจาก For your information

ความหมาย: ข้อมูลที่(คุณ)ควรรู้

 

8. R.S.V.P.

ย่อมาจาก Répondez s’il vous plaît

ความหมาย: คำนี้เป็นคำที่ย่อมาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า กรุณาตอบกลับ ในภาษาอังกฤษคือ Please respond

 

9. P.S.

ย่อมาจาก Post Script

ความหมาย: ป.ล. หรือ ปัจฉิมลิขิต

 

10. N/A

ย่อมาจาก Not applicable, Not available หรือ No answer

ความหมาย: ไม่ระบุคำตอบ

 

11. ETA / ETD

ย่อมาจาก Estimated time of arrival/departure

ความหมาย: เวลาที่คาดว่าจะมาถึง และเวลาที่คาดว่าจะไปถึง ใช้กับพวกพาหนะต่างๆ

 

12. i.e.

ย่อมาจาก i.e. ย่อมาจากคำว่า id est ในภาษาละติน

ความหมาย: i.e. หมายถึง ‘กล่าวคือ’ หรือ in other words ‘หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า’

 

13. e.g.

ย่อมาจาก exempli gratia ในภาษาละติน

ความหมาย: ส่วน e.g. ซึ่งแปลว่า for example หรือ ‘ยกตัวอย่างเช่น’

 

14.  ASAP

ย่อมาจาก As soon as possible

ความหมาย: เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

15. AM / PM

ย่อมาจาก AM ย่อมาจาก Ante Meridiem และ PM ย่อมาจาก Post Meridiem

ความหมาย: AM=ใช้เวลา หลังเที่ยงคืน ถึง ก่อนเที่ยงวัน เริ่มที่ 00.01 น.ไปจนถึง 11.59 น. และ PM= ใช้เวลา หลังเที่ยงวัน ถึง ก่อนเที่ยงคืน เริ่มตอน 12.01 น.ไปจนถึง 23.59 น.

https://www.scholarship.in.th


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 18/07/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,350.00 19,450.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,253.00 18,995.48 19,950.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,127.70 17,095.93 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 564.00 8,550.24 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 439.00 6,655.24 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,298.00 19,677.68 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  18/07/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95
29.15
29.15
29.15
29.15
29.15
29.15
29.15
29.15
29.15
29.15
แก๊สโซฮอล E-20
26.24
26.24
26.24
26.24
26.24
26.24
26.24
26.24
26.24
แก๊สโซฮอล E-85 20.84 20.84 20.84 20.84
แก๊สโซฮอล 91 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88
เบนซิน 95 36.26
36.71
36.76 36.26 36.26 36.26
ดีเซลหมุนเร็ว
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 31.59 32.46 32.96 32.46 32.46
มีผลตั้งแต่ 17 Jul 05:00 17 Jul 05:00 17 Jul 05:00 17 Jul 05:00 17 Jul 05:00 17 Jul 05:00 17 Jul 05:00 17 Jul 05:00 17 Jul 05:00 17 Jul 05:00

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า