สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 6 กันยายน 2561

Joint Venture กลยุทธ์สร้างจุดแข็งภาคอสังหาฯ ของเหล่าดีเวลลอปเปอร์

Joint Venture กลยุทธ์สร้างจุดแข็งภาคอสังหาฯ ของเหล่าดีเวลลอปเปอร์

 

จากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคก็มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะในกลุ่มของผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุน ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างหันมาให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างธุรกิจ ให้มีความยืดหยุ่นพร้อมรองรับได้กับทุกการเปลี่ยนแปลง

และเพื่อให้สามารถรักษาระดับอัตราการเติบโตของธุรกิจ และตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยได้อย่างครอบคลุมและตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการ การร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์กับกลุ่มทุนต่างชาติ หรือบริษัทที่มีศักยภาพในการต่อยอดธุรกิจ เพื่อสร้างรายได้จากส่วนอื่น เช่น ธุรกิจเช่า ธุรกิจรีเทล มาเสริม เป็นแนวทางที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะเป็นการรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต เป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ยังเป็นผลดีสำหรับผู้ซื้อ ที่จะมีโครงการที่มีความทันสมัย มีนวัตกรรมใหม่ๆ มีคุณภาพที่ดี มี Concept ที่ตรงกับความต้องการมาให้เลือกเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าโครงการของผู้ประกอบการจะสามารถพัฒนาได้ตลอดรอดฝั่งด้วย

ความเคลื่อนไหวในการเข้าร่วมทุนในโครงการต่างๆ จากกลุ่มทุนหรือนักลงทุนจากต่างชาติ มีให้เห็นชัดเจนจากการดำเนินโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-โคราช รถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น ช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่, โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ที่อยู่ระหว่างการประมูลหาเอกชนมาลงทุนการให้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูงควบคู่กับพัฒนาที่ดินย่านมักกะสัน ยังมีความร่วมมือพัฒนาธุรกิจและสร้างนวัตกรรมทางด้านพลังงานและดิจิตอล เทคโนโลยี ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เพื่อพัฒนาไปสู่กรุงเทพเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ด้วย ซึ่งมีผลดีต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอย่างอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากต่างชาติกลุ่มต่างๆ มากยิ่งขึ้น

เอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ

                                 เอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ

โดยหนึ่งในบริษัทที่น่าจับตา คือ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML บริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยมชั้นนำของประเทศไทย ที่นอกจากจะมีการประกาศร่วมทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ บนทำเลย่านสาทร และบนถนนสุขุมวิท กับบริษัทโตเกียว ทาเทโมโนะ (Tokyo Tatemono) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ล่าสุดยังมีดีลสุดเซอร์ไพรส์กับ บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด (KPNL) โดยเข้าลงทุนในทรัพย์สินของบริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด (KPNL) ประกอบด้วย โครงการ S19 ถนนสุขุมวิท ซอย19 และ โครงการ S28 ถนนสุขุมวิท ซอย 28 แล้วเสร็จในปี 2566 นอกจากนี้ทางคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้อนุมัติในการเข้าซื้อยูนิตที่เป็นยอดขายรอโอนและยูนิตที่ยังเหลืออยู่จากโครงการ Diplomat 39 และ Diplomat สาทร ตีเป็นมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท

จากกรณีดังกล่าวนอกจากจะเป็นการปรับโครงสร้างเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ขยายฐานลูกค้าครั้งสำคัญของ RML ยังเป็นที่น่าจับตาด้วยว่าโครงการที่จะมีขึ้นในอนาคตจะมีความโดดเด่นล้ำสมัยเพียงใด

ขอบคุณข้อมูลจาก www.ddproperty.com


แจง อีอีซี เอื้อประโยชน์ชาติ

“คณิศ” ชี้เมืองใหม่ ไม่กระตุ้นกว้านซื้อที่

“คณิศ” ชี้แจง พ.ร.บ.อีอีซี ไม่เอื้อประโยชน์ต่างชาติไล่ซื้อที่ดินในไทย ย้ำหลักเกณฑ์คลอดแผนก่อนวางผังเมืองเป็นไปตามกฎหมาย คาด 6-12 เดือนนี้ เห็นภาพผังเมืองชัด ก่อนเดินหน้าพัฒนาพื้นที่จริง ระบุเงื่อนไขต่างชาติถือครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เกิน 49% ได้เฉพาะพื้นที่ไข่แดง 3 จังหวัด และต้องส่งคืน หากไม่ได้ประกอบธุรกิจเกิน 3 ปี

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยถึงรายละเอียด ของ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 ที่มีการท้วงติงของการเปิดกว้างต่างชาติดำเนินธุรกิจ โดยระบุว่าเมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมา การลงทุนของต่างชาติต่ำมาก และสิ่งที่เห็นคือรัฐบาลพยายามส่งเสริมการลงทุน โดยปรับหลักเกณฑ์หลายอย่าง ผ่าน พ.ร.บ. ส่งเสริมการลงทุน และสร้างกลไกใหม่เป็น กองทุนพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขัน ทำให้สิทธิประโยชน์ทันสมัยขึ้น และ เป็นผลให้มีการลงทุนของต่างชาติเพิ่มขึ้น มากกว่า 122% ในปัจจุบัน

สำหรับประเด็นที่หลายฝ่ายสงสัย เรื่องการทำผังเมืองในอีอีซี ซึ่ง กพอ.มีส่วนร่วม และเร่งรัดการจัดทำผังเมือง โดยขณะนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการตาม ข้อระเบียบที่เคยมีมา ซึ่งในฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยอง มีผังเมืองของเดิมอยู่แล้ว แต่เมื่อ มีการวางโครงสร้างพื้นฐานผ่าน ทำให้พื้นที่จัดใช้ประโยชน์ปรับเปลี่ยนไป จึงต้องปรับผังเมืองใหม่ ซึ่งคาดว่า 6-12 เดือนหลังจากนี้ จะแล้วเสร็จ

นอกจากนี้ ข้อกำหนดที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. อีอีซี กำหนดในมาตรา 29 ให้จัดทำแผนภาพรวมของการพัฒนาอีอีซีให้แล้วเสร็จก่อน โดย กพอ.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้อนุมัติ ภาพรวมโครงการไปเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ขั้นตอนหลังจากนี้ จึงเริ่ม เดินหน้าตามมาตรา 30 ว่าด้วยการจัดทำผังเมืองได้

ชี้ราคาที่ดินขึ้นตามกลไก

นายคณิศ กล่าวว่า เรื่องการกว้านซื้อที่ดิน ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะที่ดินที่นำมา พัฒนาโครงการอีอีซีนั้น ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของเอกชนที่มีอยู่แล้ว เดิมเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยรวมเป็นเขตอุสาหกรรม 21 แห่ง บนพื้นที่ 2.8 หมื่นไร่ และขณะนี้ยังไม่มี การซื้อที่ดินใหม่ ส่วนการปรับขึ้นของราคาที่ดิน ในบริเวณโดยรอบก็เป็นไปตามกลไกตลาด ก็เกิดเป็นทั้งประโยชน์ของคนที่มีที่อยู่ เพราะบางคนมีธุรกิจที่ดีก็จะยอมจ่ายซื้อที่ดินในราคาสูง

“พ.ร.บ.อีอีซี ไม่ได้อนุมัติให้ต่างชาติถือครองที่ดิน แต่ในกฎหมายฉบับอื่นให้ต่างชาติถือครองได้ เช่น พ.ร.บ.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ร.บ.ส่งเสริม การลงทุน ดังนั้นเวลาลงทุนต้องไปขอที่บีโอไอ ไม่ได้มาขอที่สำนักงานอีอีซี”

ส่วนเรื่องต่างชาติถือครองอาคารชุดจะถูกตีความวัตถุประสงค์เพื่ออยู่อาศัย ซึ่งกำหนดให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองได้ 49% แต่สำหรับพื้นที่อีอีซี มีโอกาสที่จะเอาอาคารชุดมาพัฒนา หรือแนวโน้มเอาอาคารชุด มาประกอบกิจการอุตสาหกรรมได้ เช่น อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมนวัตกรรม ที่ไม่จำเป็นต้องพัฒนาภายใต้โครงการแนวราบ ส่งผลให้ พ.ร.บ.อีอีซี เปิดโอกาสให้ต่างชาติ นิติบุคคลถือครองอาคารพวกนี้เพื่อ ประกอบกิจการและอยู่อาศัยได้

ลดข้อจำกัดธุรกิจอสังหาฯ

ทั้งนี้ มีข้อจำกัดต้องเป็นอาคารชุดที่ถูกพัฒนาอยู่ในพื้นที่จำกัด 3 จังหวัดไข่แดง และต่างชาติต้องทำงานใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพราะเป้าหมายให้เกิดประโยชน์ต่อคนในพื้นที่ ที่พัฒนาโครงการ หากกำหนดตามกฎหมายทั่วไป จำกัดให้ต่างชาติถือได้แค่ 49% หากไม่มี คนไทยเข้ามาถือครองในสัดส่วน 51% อาจทำให้โครงการอสังหาริมทรัพย์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ อีกทั้งเพื่อป้องกันปัญหาการพัฒนาคอนโดมิเนียมทั่วพื้นที่อีอีซี เพราะการ จำกัดพื้นที่อยู่อาศัย และปลดล็อกกฎหมายถือครองของต่างชาติ จะทำให้มีโครงการคอนโดมิเนียมเฉพาะจุด

“พ.ร.บ.อีอีซี เดิมกำหนดไว้ว่าระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก แต่ถูกอนุมัติออกมาเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพราะรัฐบาลต้องการให้พัฒนาทุกอย่าง รอบด้านไม่เพียงเรื่องเศรษฐกิจ เพราะเป้าหมาย เรามองโอกาสที่จะเอาโมเดลเหล่านี้ไปพัฒนาพื้นที่อื่น เช่น ภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคตะวันตก ภาคเหนือ โดยเชื่อว่าการทำอีอีซีไม่ได้ทำเพียง 3 จังหวัด อาจจะขยายในอนาคต แต่ขอให้เรา ได้ลองทำก่อน เชื่อว่า 2 ปีจะสามาถบอกได้ว่า อันไหนดี อันไหนไม่ดี และเอาอันไหนไปใช้ กับพื้นที่อื่นได้บ้าง”

ส่วนขณะที่การให้เช่าที่ดิน 99 ปี ยืนยันว่า ไม่เคยมีข้อมูลเขียนไว้ โดยอ้างอิงตาม พ.ร.บ. เช่าที่ดินประกอบการกิจการและพาณิชยการ ตั้งแต่ปี 2549 กำหนดให้เช่าที่ดิน 50 ปี และอาจ ขยายได้อีกไม่เกิน 50 ปี แต่ในส่วนของ พ.ร.บ.อีอีซี ให้เช่า 50 ปี แต่อาจขยายให้ได้ อีกไม่เกิน 49 ปี

กำหนดต่างชาติขายที่คืนใน1ปี

นางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการสายงานปฏิบัติการเชิงพื้นที่ สกพอ.กล่าวว่า พ.ร.บ.เรื่องยกเว้น สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม มีการกำหนดใช้เฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัด ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ ผู้เชี่ยวชาญ กำหนดตั้งแต่ มาตรา 48-59 เป็นต้นไป ทุกข้อเขียนชัดเจน โดยเฉพาะมาตรา 49 เรื่องถือครองที่ดิน และอาคารชุดก็มีขอบเขต และมาตรานี้ยังกำหนดชัดว่าถ้าไม่ประกอบกิจการภายใน 3 ปี ต้องคืนภายใน 1 ปี ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของการนิคมที่ทำอยู่แล้ว

ส่วนประเด็นของสิทธิประโยชน์ที่จะมอบ ให้ผู้เชี่ยวชาญ ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ 10อุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมการท่องเที่ยวและ บริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ และเทคโนโลยีเท่านั้น เป็นไปตามมาตรา 39 เพราะเป้าหมายของ ประเทศไทย ต้องการสนับสนุน 10 อุตสาหกรรม เป้าหมาย เช่น อาชีพหมอ ต้องการการแพทย์เก่งๆ แต่ไทยเขียนข้อจำกัดว่าอาชีพแพทย์ต้องเป็นสัญชาติไทย ทำให้ พ.ร.บ.อีอีซี เขียนไว้ว่า สามารถเอามาจากประเทศอื่นได้ แต่ยังไงก็ต้อง ผ่านจากคณะกรรมการนโยบายก่อน และต้อง ทำงานในเขตเล็กพื้นที่ไข่แดงเท่านั้น

ทั้งนี้ ภาพรวมโครงการพัฒนาอีอีซี ในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา มี 5 เรื่องที่ทำ 1. โครงสร้างพื้นฐาน เป็นไปตามเป้าหมาย รถไฟความเร็วสูงออกเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) แล้ว และคาดว่าภายในปีนี้จะได้ตัวผู้ลงทุน หลังจากนี้จะมีโครงการสนามบิน อู่ตะเภาพัฒนาเป็นเมืองการบิน คาดว่าทีโออาร์ จะออกได้ไม่เกินเดือน ต.ค.นี้ เช่นเดียวกับท่าเรือมาบตาพุด และท่าเรืออู่ตะเภา อยู่ระหว่าง ขั้นตอนดำเนินงาน คาดว่าจะออกทีโออาร์ได้ ไม่เกินเดือน ต.ค.เช่นเดียวกัน สุดท้ายโครงการ ที่เกี่ยวกับการบินไทย และแอร์บัส ก็กำลังดำเนินการอยู่ รวมไปถึงการพัฒนาด้านดิจิทัลด้วย

  1. การลงทุน โดยเชื่อว่า60% ของมูลค่าที่ขอส่งเสริมการลงทุนจะเริ่มต้นลงทุนในปีหน้า 3. การท่องเที่ยวที่ผ่านมาก็มีความร่วมมือกับภาคท้องที่เป็นหลัก 4. โครงสร้างพื้นฐานเมือง ได้ยกระดับโครงการระดับล่างขึ้นมาและแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วแล้ว และ 5. การศึกษา ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้เข้ามาช่วย เอาคอนเซปต์การสร้างคนให้มีงานทำ เข้าไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งกระทรวงแรงงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ช่วยทำเทรนนิ่งระบบแรงงาน และทดสอบความต้องการของตลาดแรงงานด้วย

พ.ร.บ.อีอีซีไม่ได้อนุญาตให้ต่างชาติถือครองที่ดิน แต่ในกฎหมายฉบับอื่นอนุญาตให้ถือครอง คณิศ แสงสุพรรณ

ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


3 แนวคิดในการสร้าง “ความเพียร” เพื่อความสำเร็จในระยะยาว

Angela Duckworth กล่าวว่า ความเพียร คือความหลงใหลบวกกับความอุตสาหะของแต่ละบุคคล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในระยะยาว ความขยันทำให้คนวิ่งไล่ตามความฝัน ถึงแม้ว่าจะผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างที่นักธุรกิจหลาย ๆ คนเคยประสบในช่วงเริ่มต้น Duckworth พบว่า ความเพียร เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนมีวิธีการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น การแข่งขันขันสะกดคำในโรงเรียนมัธยมชิคาโก้ เธอพบว่านักเรียนที่มีความเพียรมากกว่า จะสามารถทำกิจกรรมนั้นออกมาได้ดีกว่า

โดยเราสามารถเพิ่มความเพียรให้กิจการที่เราทำได้ ด้วยการฝึกปฏิบัติทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตาม ด้วยการมุ่งเน้นที่แนวคิดหลักสามประการดังต่อไปนี้

1. ค้นหาสิ่งที่คุณหลงใหล

การขยายความสนใจออกไป การค้นหาเป้าหมายและความท้าทายในชีวิตล้วนช่วยให้ผู้คนยังคงมุ่งเป้าหมายไปในระยะยาวได้ โดยสำหรับผู้ประกอบการแล้ว นี่อาจหมายถึงการสร้างการมีส่วนร่วมภายใน โดยความหลงใหลนั้นจำเป็นต้องมีความสอดคล้องกับเป้าหมายหรือกิจการที่คุณกำลังทำอยู่ด้วย เนื่องจากถ้าหากความหลงใหลกับสิ่งที่ต้องทำสวนทางกันล่ะก็ คงเป็นเรื่องยากที่จะพบเจอกับความสำเร็จในระยะยาวได้

“ความหลงใหลจำเป็นต้องสอดคล้องกับเป้าหมาย”

2. สร้างเครือข่ายสังคม

การวิจัยเกี่ยวกับความเครียดได้แสดงให้เห็นว่า การมีสังคมหรือเครือข่ายที่กว้างขวางจะช่วยสนับสนุนการปรับตัวและสามารถช่วยลดความเครียดลงได้ เนื่องจากเครือข่ายที่แข็งแกร่งมักเต็มไปด้วยผู้คนที่แตกต่างกันซึ่งสามารถให้ข้อมูลในแต่ละด้านได้ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลทางเทคนิค ข้อมูลทางปฏิบัติ หรือแม้แต่ทางด้านอารมณ์ ซึ่งนับเป็นเรื่องยากในการจะหาคนที่มีความสามารถครบทั้งสามประเภท ดังนั้น คุณจึงจำเป็นต้องขยายเครือข่ายสังคมของคุณให้กว้างขวางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อช่วยให้คุณสามารถขอความช่วยเหลือได้ในเวลาที่เกิดวิกฤตปัญหา ทั้งยังเสมือนเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวในหลากหลายด้านอีกด้วย

“ขยายเครือข่ายสังคมของคุณให้กว้างขวางที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้”

3. โฟกัสที่เป้าหมาย ไม่ใช่วิธีการ

ผลการศึกษาล่าสุด ที่เฝ้าสังเกตการณ์บริษัทกว่า 112 แห่ง พบว่าความคล่องตัวในการทำงานของบริษัทนั้นมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาที่มีงานล้นมือ การคิดเร็วทำเร็ว ทำให้บริษัทเหล่านี้ทำงานได้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ตามไปด้วย

ถ้าความเพียรเป็นความสามารถในการโฟกัสกับเป้าหมายระยะยาวล่ะก็ ความคล่องตัวก็เป็นกุญแจสำคัญชิ้นหนึ่งในการไปให้ถึงจุดหมายเร็วยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าเราไม่ต้องการวิธีการที่มันไม่ได้ผล ดังนั้น จงหลีกเลี่ยงการเล็งเป้าหมายที่ผิดพลาดในระยะยาว ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง พร้อมปรับแต่งวิธีเหล่านี้ให้เหมาะกับกิจการของคุณ

“ถ้าความเพียรเป็นความสามารถในการโฟกัสกับเป้าหมายระยะยาว ความคล่องตัวก็เป็นกุญแจสำคัญในการไปให้ถึงจุดหมายเร็วยิ่งขึ้น”

ขอบคุณข้อมูลจาก www.sumrej.com


ชีวิตดี ภาษีแพง เปิดประเทศเก็บภาษีแพงที่สุดในโลก

ว่ากันว่า ยิ่งคุณจ่ายภาษีแพงเท่าไหร่ คุณภาพชีวิตที่คุณจะได้รับ ก็จะยิ่งดีเท่านั้น คุณว่าจริงไหม??

เพราะผู้เสียภาษีทุกคน รู้กันดีอยู่แล้วว่า เงินทุกบาทที่คุณได้เสียภาษีไป ล้วนแต่เป็นเงินที่เอาไปพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะด้านความปลอดภัยในชีวิต ระบบการเดินทาง สาธารณูปโภค หรือรวมถึงทางด้านการแพทย์ เอาเป็นว่าวันนี้ rabbit finance จะพาทุกคนไปรู้จักกับประเทศที่เสียภาษีแพงที่สุดในโลก มาดูกันว่าประเทศเหล่านั้นเป็นอย่างไร และแอบส่องสักหน่อยว่า เมื่อพวกเขาต้องเสียภาษีแพงขนาดนี้ คุณภาพชีวิตที่ได้รับจะดีมากหรือน้อยขนาดไหน

เปิดวาร์ป 5 ประเทศ ที่เสียภาษีแพงที่สุดในโลก

เชื่อเถอะว่า แม้การเสียภาษีจะเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ของประชาชนในประเทศ แต่ก็คงไม่มีใครอยากที่จะเสียภาษี หรือควักเงินออกจากกระเป๋าไปง่ายๆ หรอก ไม่เช่นนั้นจะเกิดกรณี คนยักยอกภาษี โกงภาษี ไม่จ่ายภาษี กันหรือ? เอาเป็นว่า หากคุณคิดว่าประเทศไทยเสียภาษีแพงแล้วล่ะก็ มาดูประเทศต่างๆ เหล่านี้กันดีกว่า ว่าเขาต้องเสียภาษีกันเท่าไหร่

ภาษีแพง
5. สโลวีเนีย Slovenia

มาเริ่มกันที่ลำดับ 5 กันก่อน กับ สโลวีเนีย หรือ สาธารณรัฐสโลวีเนีย ประเทศจากยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ธรรมชาติที่สวยงาม และสถาปัตยกรรมที่มีมนต์เสน่ห์

คุณภาพชีวิตในประเทศ : 70%

ระบบการขนส่งในประเทศ : รถยนต์ส่วนตัว จักรยาน รถไฟใต้ดินหรือรถไฟฟ้า และรถโดยสารสาธารณะ

สภาพการจราจร : ติดขัดเพียง 11% คิดดูแล้วจำนวนเปอร์เซ็นต์เท่านี้ ดูจะเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับประเทศไทย ผู้เป็นเจ้าครองนครรถติดที่สุดในโลก

ด้านการแพทย์ : คุณภาพและการดูแลทางด้านการแพทย์ 64% ซึ่งก็นับว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการดูแลทางด้านการแพทย์ของสโลวีเนียก็อยู่ในระดับที่ดี
ประเทศสโลนีเวียเก็บภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ : 33.4%

จากการวิเคราะห์แล้ว จะเห็นได้ว่า จากค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์การเก็บภาษีที่ 33.4% สอดคล้องกับคุณภาพชีวิตและการดูแลในด้านต่างๆ ที่มีให้บริการในประเทศ ไม่ว่าจะการจราจร การแพทย์ รวมถึงความปลอดภัยในชีวิต ที่อยู่ในระดับสูงทั้งสิ้น
ภาษีแพง
4. ฮังการี Hungary

มาต่อกันที่ลำดับ 4 ประเทศฮังการี อีกหนึ่งประเทศจากยุโรปกลาง ดินแดนแห่งความสวยงาม และแหล่งท่องเที่ยวที่มีมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชม

คุณภาพชีวิตในประเทศ : 53%

ระบบการขนส่งในประเทศ : โดยส่วนใหญ่คนในประเทศมักจะเดินทางโดยใช้รถส่วนตัว และรถโดยสารประจำทาง

สภาพการจราจร :  ความติดขัดอยู่ที่ 12% แม้จะสูงกว่าประเทศสโลวีเนีย แต่ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยอยู่ดี

ด้านการแพทย์ : ทั้งคุณภาพการรักษา การดูแลผู้ป่วย รวมถึงอุปกรณ์ในการรักษา อยู่ที่ระดับ 52% ซึ่งเป็นตัวเลขในระดับปานกลาง เนื่องด้วยฮังการีไม่ได้ใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุด

ประเทศฮังการีเก็บภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ : 33.5%

จะเห็นได้ว่า ประเทศฮังการี เป็นอีกประเทศที่ค่อนข้างมีคุณภาพชีวิตที่ดี จากการเก็บภาษีที่แพง อีกทั้งฮังการียังมีการดูแลในเรื่องของความสะอาดได้อย่างดีเยี่ยม เอาเป็นว่าแม้ฮังการีจะเก็บภาษีแพง แต่คุณภาพชีวิตที่ได้กลับมาก็คุ้มค่าที่จะเสียภาษีมากค่ะ
ภาษีแพง

3. เดนมาร์ก Denmark

ผ่านมาครึ่งทางกับประเทศที่เสียภาษีแพงที่สุดในโลก กับลำดับที่ 3 ประเทศเดนมาร์ก ประเทศในยุโรปตอนเหนือที่มีระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม เป็นประเทศที่ติดอันดับมีรายได้เข้าประเทศสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก

คุณภาพชีวิตในประเทศ : 76%

ระบบการขนส่งในประเทศ : ชาวเดนมาร์กมักจะเดินทางกันโดย รถยนต์ส่วนตัว, จักรยาน, รถโดยสารประจำทาง ด้วยสภาพการจราจรที่ดีไม่มีปัญหาการจราจรติดขัด ทำให้การเดินทางยิ่งสะดวกสบายมาก

สภาพการจราจร : 9% ถือว่าเป็นตัวเลขสภาพการจราจรติดขัดที่น้อยมากๆ

ด้านการแพทย์ : 75% แน่นอนว่า ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่า การดูแลทางด้านการแพทย์ของเดนมาร์ก มีการดูแลที่ดีพร้อม

ประเทศเดนมาร์กเก็บภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ : 39.2%

เดนมาร์กประเทศเล็กๆ ที่เคยติดลำดับเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก แน่นอนว่าจะขึ้นชื่อเรื่องความแพงของภาษี แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือ คุณภาพชีวิตที่แสนจะลงตัว และเพอร์เฟค ทั้งทางการแพทย์ การศึกษา รวมไปถึงความปลอดภัยในชีวิต
ภาษีแพง
2. เยอรมนี Germany

ใกล้ลำดับ 1 เข้าไปทุกที แต่ขอแวะมาที่ลำดับ 2 ซึ่งอยู่ในฝั่งยุโรปกลางกันก่อน นั่นก็คือ ประเทศเยอรมนี อีกหนึ่งประเทศที่มีอิทธิพลต่อยุโรป มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก รวมไปถึง ด้านวิศวกรรม อุตสาหกรรม การแพทย์ และการทหารด้วย

คุณภาพชีวิตในประเทศ : 75%

ระบบการขนส่งในประเทศ : ประชาชนชาวเยอรมนีส่วนใหญ่นิยม ใช้รถยนต์ส่วนตัว, จักรยาน ในการเดินทางภายในประเทศ

สภาพการจราจร : 10% หากดูการจราจรในเหล่าประเทศภาษีแพงที่กล่าวมาแล้ว เยอรมนีดูเหมือนจะมีสภาพการจราจรที่ ติดขัดอยู่ในระดับปานกลาง

ด้านการแพทย์ : 79% ไม่ว่าจะคุณภาพ การบริการ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ที่ใช้ในการรักษา พูดได้เลยว่ามีคุณภาพสูงทั้งสิ้น

ประเทศเยอรมนีเก็บภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ : 39.7%

ยอรมนี เป็นประเทศที่เก็บภาษีแพงเป็นลำดับที่ 2 ของโลก ก็นับว่าเหมาะสมกับคุณภาพชีวิตที่ดี จ่ายไปแพง ก็ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า  ที่สำคัญเยอรมนีก็ติดลำดับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกอีกด้วย 
ภาษีแพง
1. เบลเยี่ยม Belgium

และแล้วก็มาถึงประเทศที่เสียภาษีแพงที่สุดในโลก นั่นก็คือ ประเทศเบลเยี่ยม นั่นเอง เบลเยี่ยมอยู่ในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ มีความหลากหลายทางภาษา อีกทั้งใครที่หลงรักและหลงใหลในช็อกโกแลต และสถานที่ท่องเที่ยว ศิลปะ วัฒนธรรม ก็ควรที่มาสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง

คุณภาพชีวิตในประเทศ : 62% เมื่อเทียบกับประเทศเก็บภาษีแพง ในด้านของคุณภาพชีวิตโดยรวม เบลเยี่ยมอาจจะยังมีการจัดการในการดูแลในหลายๆ จุด ที่ยังไม่ดีพอ ส่งผลให้เปอร์เซ็นต์คุณภาพชีวิตที่ออกมาอาจจะยังดูน้อยไป

ระบบการขนส่งในประเทศ : ประชาชนในประเทศเบลเยี่ยมส่วนใหญ่นิยมใช้ รถยนต์ส่วนตัว, จักรยาน, รถโดยสารประจำทาง ในการเดินทางภายในประเทศ

สภาพการจราจร : 14% จะเห็นได้ว่า จากเปอร์เซ็นต์ในสภาพจราจร เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่จัดเก็บภาษีแพงๆ ในข้างต้น เบลเยี่ยมอาจจะยังมีการจัดการในส่วนนี้ได้ไม่ดีเท่าไรนัก

ด้านการแพทย์ : 80% แต่ต้องบอกว่าในด้านการแพทย์ การดูแลสุขภาพของชาวเบลเยี่ยมไม่ว่าจะการบริการ ความรวดเร็วในการดูแล อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ล้วนแล้วแต่มีคุณภาพดีทั้งสิ้น

ประเทศเบลเยี่ยมเก็บภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ :  40.7%

อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศเบลเยี่ยม จะเป็นประเทศที่เก็บภาษีแพงที่สุด แต่ระบบการดูคุณภาพชีวิตในประเทศนั้น ก็อาจจะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง เมื่อเทียบกับในประเทศที่เก็บภาษีแพงประเทศอื่นๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก finextra.com


How to : เพิ่ม บัตรประกันสังคม ลงสมาร์ทโฟนแบบง่ายๆ

ในปี 2561 นี้ กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม เริ่มปรับตัวให้เข้ากับ ยุค 4.0 มากขึ้นโดยการ ยกเลิกการออกบัตรประกันสังคม และให้ผู้ประกันตนสามารถใช้เพียงแค่ บัตรประชาชน ในการยื่นเพื่อขอรับสิทธิ์การรักษาได้เลย ถือว่าเป็นการเพิ่มความสะดวกต่อผู้ประกันตนอย่างมาก

และนอกจากการใช้บัตรประชาชนแล้ว สำนักงานประกันสังคมยังเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ประกันตนอีกช่องทางหนึ่ง โดยการให้บริการ แอปพลิเคชั่น SSO Connect ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิ์การรักษา และเพิ่มบัตรประกันสังคมเข้าไปไว้ในสมาร์ทโฟนได้ง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส

วิธีตรวจสอบและรับสิทธิประกันสังคมแบบเก่า

ถ้าเป็นในสมัยก่อนนั้น เราสามารถตรวจสอบสิทธิประกันสังคมของเราได้ผ่าน 4 ช่องทาง คือ

หากผู้ประกันตน ต้องการจะรับสิทธิ์การรักษาจากสถานพยาบาลในกรณีที่เจ็บป่วย ผู้ประกันตนสามารถเข้าไปยื่นบัตรประกันสังคม หรือบัตรประชาชนเพื่อรับการรักษาที่สถานพยาบาลที่ได้ลงทะเบียนไว้ได้เลย

ระบบนี้ทำให้บางคนมีปัญหาเรื่อง ลืมพกบัตรมาหรือบัตรหาย ทำให้ไม่สามารถรับสิทธิ์การรักษาได้ นอกจากนั้น การตรวจสอบสิทธิ์การรักษาหรือการตรวจสอบยอดเงินสะสมต่างๆ ก็ไม่สะดวกเท่าที่ควร เพราะ ข้อมูลในเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคมนั้นไม่ได้มีการอัพเดตตลอดเวลา หากจะต้องเดินทางไปที่สำนักงานประกันสังคมทุกๆ เดือนก็คงลำบาก

การมีช่องทางใหม่ๆ อย่าง แอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ มาช่วยอำนวยความสะดวก ก็ถือเป็นเรื่องดีที่จะช่วยให้เราตรวจสอบข้อมูลประกันสังคมได้้ตลอดเวลา และยังทำให้เราสามารถรับสิทธิการรักษาได้ง่ายมากขึ้นด้วย

แอปพลิเคชั่น SSO Connect คืออะไร

SSO Conect เป็นบริการใหม่จากสำนักงานประกันสังคม เพื่อต้อนรับนโยบาย Thailand 4.0 ด้วยการเข้าสู่ยุค Digital SSO เพื่อรองรับการให้บริการแบบ e-self Service อย่างครบวงจร เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการประกันสังคมได้ง่ายขึ้นและได้รับความพึงพอใจที่มากขึ้น

แอปพลิเคชั่น SSO Connect ทำหน้าที่เหมือนบัตรประกันสังคมทุกประการ เพียงอยู่ในโทรศัพท์มือถือเราเท่านั้นเอง

หมดปัญหาลืมบัตรหรือบัตรหาย แค่พกโทรศัพท์มือถือก็สามารถรับสิทธิ์การรักษาได้ทันที นอกจากนั้น ในแอปพลิเคชั่นยังมีประโยชน์ในการตรวจสอบยอดเงินสะสมต่างๆ หรือรับข่าวสารจากสำนักงานประกันสังคม อีกมากมาย เช่น

เรียกได้ว่า ลืมยุคแห่งการพกบัตรหลายๆ ใบให้ยุ่งยากไปเลย ใครที่อยากใช้แอปพลิเคชั่นแสนสะดวกนี้ ตามมาดูวิธีการ เพิ่มบัตรประกันสังคมลงในสมาร์ทโฟนคู่ใจของเราแบบง่ายๆ กันดีกว่าค่ะ 

วิธีเพิ่มบัตรประกันสังคมลงบนโทรศัพท์มือถือ

เราสามารถใช้บริการแอปพลิเคชั่น SSO Connect ได้ในโทรศัพท์มือถือทั้งระบบปฏิบัตการ iOS และ Android เลยนะคะ

บัตรประกันสังคม SSO Connect

1.เข้าไปหน้าลงทะเบียน

เข้าไปลงทะเบียนที่ https://ssoconnect.mywallet.co ก่อน โดยกรอกเลขบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์ แล้วจึงกด “ส่ง”

บัตรประกันสังคม SSO Connect

จากนั้นระบบก็จะเข้าสู้หน้า เงื่อนไขและข้อกับหนดการใช้ SSO Connect และ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ของผู้ใช้บริการ ซึ่งเมื่ออ่านรายละเอียดต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ให้กด “ยอมรับ” ได้เลย


บัตรประกันสังคม SSO Connect

2.เลือกอุปกรณ์เพื่อรับบัตร

จากนั้นคุณก็จะเข้าสู่หน้าของการเลือกอุปกรณ์ในการใช้งาน ซึ่งก็สามารถเลือกได้ตามระบบปฏิบัติการในโทรศัพท์มือถือของคุณค่ะ


การรับ QR Code ถือเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกรวดเร็วมากๆ ค่ะ ไม่ต้องจำตัวเลขเยอะๆ เพียงแต่กดรับ QR Code ก็จะทำให้มือถือของคุณมีข้อมูลใน บัตรประกันสังคม เลยล่ะค่ะ แบ่งออกได้เป็น 2 ระบบปฎิบัติการในโทรศัพท์มือถือนะคะ คือ

บัตรประกันสังคม SSO Connect

3.1 ระบบปฏิบัติการ iOS

สำหรับ iPhone เราสามารถเปิดแอปพลิเคชั่น Wallet ในเครื่องแล้วกดปุ่มเครื่องหมายบวก ที่มุมขวาบนเพื่อสแกน QR Code ได้เลย

บัตรประกันสังคม SSO Connect

3.2 ระบบปฏิบัติการ Android

สำหรับโทรศัพท์ Android คุณจะต้องทำการโหลดแอปพลิเคชั่น Mywallet จาก Play Store ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นจึงเข้าไปที่แอปพลิเคชั่น และกดเครื่องหมายบวก ที่มุมขวาบนเพื่อสแกน QR Code

แค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ คุณก็จะได้บัตรประกันสังคมมาอยู่ในหน้าจอโทรศัพท์มือถือของคุณแล้ว เพียงแสดงบัตรนี้ให้เจ้าหน้าที่ดู ก็จะสามารถรับสิทธิ์รักษาได้ทันที ง่าย สะดวกและรวดเร็วมากๆ เลย

ถึงช่องทางการขอรับรับสิทธิ์ประกันสังคมใหม่จะออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ช่องทางการทางยื่นบัตรแบบเก่าจะต้องหายหรือเลิกใช้ไปนะคะ เพราะ เราต้องยอมรับว่าคนที่ไม่ได้มีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ หรือผู้สูงอายุ ที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องการใช้เทคโนโลยีนั้น การยื่นบัตรประกันสังคมหรือบัตรประชาชนเพื่อขอรับสิทธิ์การรักษาก็ยังเป็นช่องทางที่สามารถทำให้พวกเขาได้รับสิทธิ์การรักษาได้เหมือนกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก  rabbitfinance.com


ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 6 กันยายน 2561

 

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง ราคาขาย/บาท ราคารับซื้อ/บาท ราคารับซื้อ/กรัม
ทองคำแท่ง 96.5% 18,650.00 18,550.00 n/a
ทองรูปพรรณ 96.5% 19,150.00 18,222.32 1,202.00
ทองรูปพรรณ 99.99% n/a 18,889.36 1,246.00
ทองรูปพรรณ 90% n/a 16,400.09 1,081.80
ทองรูปพรรณ 80% n/a 14,577.86 961.60
ทองรูปพรรณ 50% n/a 8,201.56 541.00
ทองรูปพรรณ 40% n/a 6,382.36 421.00

 

ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 6 กันยายน 2561

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 30.55 30.55 30.55 30.55 30.55 30.55 30.55 30.55 30.55 30.55
แก๊สโซฮอล์ 91 30.28 30.28 30.28 30.28 30.28 30.28 30.28 30.28 30.28 30.28
แก๊สโซฮอล์ E20 27.54 27.54 27.54 27.54 27.54 27.54 27.54 27.54 27.54
แก๊สโซฮอล์ E85 21.59 21.59 21.59 21.59
เบนซิน 95 37.66 38.11 38.16 37.96 37.76 37.96
ดีเซล 29.89 29.89 29.89 29.89 29.89 29.89 29.89 29.89 29.89 29.89
ดีเซลพรีเมี่ยม 32.89 33.76 33.86 33.76 33.76
แก๊ส NGV 14.58 14.58

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า