เพิ่มการใช้ประโยชน์ที่ดินทั่วกรุง หวังฉุดราคาบ้านถูกลง
ผ่าร่างผังเมืองกทม.ฉบับใหม่ ปรับการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพิ่ม FAR ยกแผง ส่งเสริมการพัฒนาเมือง คลายต้นทุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้คนชั้นกลางมีโอกาสเข้าถึง เผยทำเลเด่นหนีไม่พ้น แนวรถไฟฟ้า-จุดตัดทั่วกรุง ฝั่งธนฯ บางซื่อ พระราม 9 และ 8 ทำเลชุมชนชานเมือง อนาคตสดใสแน่
นายศักด์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร เปิดเผยในงานสัมมนาเรื่อง “กรุงเทพจตุรทิศ : ผ่า! ผังเมืองใหม่ พลิกโฉมกรุงเทพฯสู่มหานครโลก” จัดโดยเว็บไซต์ www.prop2morrow ว่า สำนักผังเมืองอยู่ระหว่างจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 คาดว่าจะประกาศใช้ได้ประมาณปลายปี 2562 โดยแนวคิดหลักของการจัดทำผังเมืองฉบับปัจจุบัน คือ จะทำอย่างไรให้การพัฒนาเมืองไม่เป็นการพัฒนาเฉพาะตามแนวถนน แต่ต้องเป็นการพัฒนาทั้งพื้นที่ โดยกำหนดให้กทม.เป็นเมืองกระชับ กำหนดจุดศูนย์กลางอยู่ในเขตเมืองชั้นใน และให้กระจายออกไปรอบนอกตามแนวรถไฟฟ้าที่เกิดขึ้น
ปรับการใช้ประโยชน์เพิ่มFAR/ลดต้นทุนบ้าน
ทั้งนี้ในร่างผังเมืองฉบับใหม่ได้มีการปรับระดับของการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับพื้นที่ที่มีการปรับเปลี่ยนมากที่สุด คือ พื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย หรือพื้นที่สีเหลืองในผังเมือง กับพื้นที่เกษตรกรรม หรือพื้นที่สีเขียว จะมีการปรับการใช้ประโยชน์ เพิ่มขึ้นเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง(สีส้ม) หรือพื้นที่หนาแน่นมาก(สีน้ำตาล) นอกจากนี้ ยังเพิ่มสัดส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน (Floor Area Ratio : FAR) ของการใช้ประโยชน์ที่ดินในแต่ละพื้นที่ด้วย
“แนวคิดของการเพิ่มการใช้ประโยชน์ที่ดินให้มากขึ้น เพื่อจะช่วยทำให้ราคาที่อยู่อาศัยถูกลง จากการที่สามารถพัฒนาได้ขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับคนชั้นกลางสามารถมีที่อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้เมืองได้มากขึ้น” นายศักดิ์ชัยกล่าว
บูมทำเลแนวรถไฟฟ้าและจุดตัด-ฝั่งธนฯ
สำหรับพื้นที่ที่มีปรับในทิศทางที่ดีขึ้นมาก เช่น พื้นที่ในย่านฝั่งธนบุรี ที่มีการปรับจากพื้นที่เกษตร พื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง และที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก เช่น บริเวณตลิ่งชัน ที่ผังเมืองปัจจุบันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม หรือพื้นที่เขียวลายจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย-ปานกลาง ต่อเชื่อมกับจังหวัดนนทบุรี และพื้นที่พาณิชยกรรม หรือพื้นที่สีแดง เพื่อส่งเสริมให้เป็นศูนย์ชุมชนชานเมืองฝั่งตะวันตกตลิ่งชัน
นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อรองรับความเป็นศูนย์กลางธุรกิจ การค้า บริการ และนันทนาการ บริเวณโดยรอบเขตการให้บริการขนส่งมวลชน และส่งเสริมพื้นที่พาณิชยกรรมริมน้ำ บริเวณเขตคลองเตย วัฒนา วังทองหลาง เป็นต้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อรองรับการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน สายสีเหลือง สายสีน้ำตาล สายสีชมพู บริเวณฝั่งเหนือของกทม. บริเวณเขตลาดพร้าว บึงกุ่ม จัตุจักร วังทองหลาง จากพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลางและที่อยู่อาศัยหนาแน่นมากในบางบริเวณ เพื่อส่งเสริมศูนย์ชุมชนชานเมืองฝั่งเหนือตลาดสะพานใหม่
ขณะเดียวกัน ได้เปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อรองรับการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเหลือง บริเวณฝั่งตะวันออก ของกทม. ได้แก่ บริเวณพื้นที่เขตสวนหลวงที่มีเปลี่ยนจากพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก และเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อรองรับการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม และสีม่วงบริเวณฝั่งตะวันตกของกทม. บริเวณเขตราษฎร์บูรณะ เขตจอมทอง และเขตบางขุนเทียน จากพื้นที่เกษตรกรรม เป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย และที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง
ลดฟลัดเวย์-เพิ่มมาตรการจูงใจการพัฒนา
สำหรับพื้นที่รองรับน้ำฝั่งตะวันออกของกทม. หรือที่เรียกกันว่าพื้นที่ฟลัดเวย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ชนบท และเกษตรกรรม หรือพื้นที่สีเขียวลาย ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม ประมาณ 2 ใน 3 ของพื้นที่เดิม เนื่องจากปัจจุบันมีระบบระบายน้ำที่ดีขึ้น
นายศักด์ชัย กล่าวอีกว่า ในผังเมืองฉบับปรับปรุงใหม่จะเพิ่มมาตรการทางผังเมืองใหม่ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างเป็นธรรมให้กับผู้ถือครองที่ดิน ได้แก่ มาตรการสำหรับโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ (Planned Unit Development : PUD )ให้ผู้พัฒนาโครงการขนาดใหญ่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินในโครงการที่จะพัฒนาได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด มาตรการโอนสิทธิการพัฒนา (Transfer of Development Right : TDR) ให้สามารถขายสิทธิทางอากาศบนที่ดินให้กับคนอื่นได้
ส่งเสริมพระราม 9-บางซื่อ-8 ชุมชนชานเมือง
รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟฟ้า โดยเฉพาะในจุดเปลี่ยนถ่ายที่สำคัญ เช่น สยาม บางหว้า ตลิ่งชัน ท่าพระ บางกะปิ โดยการเพิ่มระยะส่งเสริมการพัฒนารอบสถานีรถไฟฟ้าจาก 500 เมตร เป็น 800 เมตร และ 1,000 เมตร นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดศูนย์กลางคมนาคมบางซื่อ การส่งเสริมย่านพระราม 9 การส่งเสริมพื้นที่พาณิชยกรรมพิเศษด้านนวัตกรรมสร้างสรรค์ บริเวณเจริญกรุง การส่งเสริมศูนย์ชุมชนชานเมือง 8 แห่ง ได้แก่ มีนบุรี ลาดกระบัง ศรีนครินทร์ บางขุนเทียน บางมด ตลิ่งชัน และสะพานใหม่
ทั้งนี้ยังได้มีการเพิ่ม FAR โบนัส เงื่อนไขใหม่ๆ เช่น การจัดให้มีพื้นที่เพื่อประโยชน์ในการสัญจรในพื้นที่เปลี่ยนถ่ายการสัญจรของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน การจัดให้มีพื้นที่ว่าง เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือสวนสาธารณะริมแม่น้ำ ลำคลอง หรือแหล่งน้ำสาธารณะ และการจัดให้มีพื้นที่สำหรับใช้เป็นสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือสถานดูแลผู้สูงอายุในเวลากลางวัน เป็นต้น
นอกจากนี้ ในส่วนของภาคเอกชน ยังสามารถเสนอแผนในการพัฒนาพื้นที่ของตัวเองได้ โดยการรวมกลุ่มกันวางแผนพัฒนาพื้นที่เสนอให้กทม. เป็นผู้ดำเนินการ และ จะมีการตั้งกรรมการร่วมกันเพื่อดูแล บริหารจัดการในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเมืองอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ โดยขณะนี้มีพื้นที่ราชประสงค์ได้มีการดำเนินการมาแล้ว และยังมีพื้นที่สีลม พระราม 4 และบางกะปิ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ขณะเดียวกัน กทม.มีแนวคิดที่จะสร้างถนนควบคู่ไปกับการพัฒนารถไฟฟ้าใต้ดินในทุกเส้นทางที่กำลังก่อสร้าง หากสามารถพัฒนาได้จะเป็นโครงการที่มีมูลค่านับแสนล้านบาท และเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้กับประชาชน
ขอบคุณที่มา baania.com
ราคาที่ดินพหลฯพุ่ง แรงเทียบชั้นสุขุมวิท
พลัส เผยผลสำรวจพบคอนโดย่านพหลโยธิน-ห้าแยกลาดพร้าว ราคาย้อนหลัง 4 ปีขยับ 8% ขณะที่ราคาที่ดินใกล้เคียงย่านสุขุมวิท
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยผลสำรวจพบว่าราคาเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ย่านพหลโยธินปัจจุบันอยู่ที่ 1.51.7 แสนบาท/ตารางเมตร สูงกว่าโครงการเก่าประมาณ 8% ซึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ต่อปี อีกทั้งคาดว่าในอนาคตคอนโดใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจะมีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากข้อจำกัดของที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งราคาที่ดินที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนับตั้งแต่ปี 2556 เริ่มต้นที่ 5 แสน-1 ล้านบาท/ตารางวา ราคาในปัจจุบันจึงขยับเข้าใกล้ราคาที่ดินทำเลสุขุมวิท
นอกจากนี้ ที่ดินย่านพหลโยธินยังถูกแบ่งเป็นที่ดินแปลงเล็กที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้นความต้องการที่เพิ่มขึ้นบนที่ดินที่หายากมากขึ้นนี้ จึงเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการ ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาคอนโดมิเนียมย่านพหลโยธินปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนั้น เนื่องจากสามารถเดินทางได้โดยรถไฟฟ้าบีทีเอส เชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที มีห้างค้าปลีกสมัยใหม่และคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมธนาคาร ร้านอาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ต
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทำเลพหลโยธินมีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8.4% ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมากกว่าการซื้อเพื่อลงทุน เนื่องจากปัจจุบันมีอาคารสำนักงานจำนวนมาก จึงเกิดความต้องการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริง (เรียลดีมานด์) ของกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่มองหาคอนโดที่ไม่ไกลจากที่ทำงาน และยังมีความต้องการจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยดั้งเดิม ที่จะขยายครอบครัว แต่ยังคงต้องการอาศัยอยู่ในบริเวณที่อยู่อาศัยปัจจุบัน คอนโดมิเนียมจึงเป็นอีกทางเลือก โดยผลตอบแทนปล่อยเช่าอยู่ที่ 5-7% ต่อปี
ขอบคุณที่มา หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
ยกระดับบัตรแมงมุม พ่วงบัตรเดบิต เพิ่มความสะดวกทุกการใช้จ่าย
ข่าวดีสำหรับผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เมื่อบัตรแมงมุมเตรียมร่วมกับ ขสมก. แอร์พอร์ตลิงค์ และรถไฟฟ้า BTSเพื่อใช้ในการจ่ายค่าโดยสาร รวมถึงรองรับการจ่ายชำระค่าสินค้าในรูปแบบบัตรเดบิต
โครงข่ายคมนาคมขนส่งมวลชนที่ทั้งหลากหลายเส้นทาง และยังหลายประเภท ทำให้ผู้ใช้บริการต้องพกตั๋วโดยสารมากกว่า 1 ใบ “ระบบตั๋วโดยสารร่วม” (common Ticketing System) ในรูปแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์จึงช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทาง เช่นในฮ่องกง ที่เริ่มต้นใช้ระบบ Contactless Smart Card ในชื่อ “บัตร Octopus” ในปี 1993 ใช้ชำระค่าเดินทางทุกระบบ ครอบคลุมทั้งรถไฟฟ้า รถโดยสารสาธารณะ รถบัส รถแท็กซี่ ไปจนถึงเรือข้ามฟาก และจากจุดเริ่มต้นเพื่อชำระค่าเดินทางขนส่งมวลชนระบบต่างๆ ต่อมาได้ต่อยอดให้สามารถใช้จ่ายค่าสินค้า-บริการต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน ไม่ว่าจะจ่ายค่าสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าที่รองรับการใช้งานมากกว่า 23,000 ร้านค้า เช่นเดียวกับ สิงคโปร์ ที่รัฐบาลมีนโยบายผลักดันประเทศเข้าสู่ยุค Cashless Society ด้วยการใช้บัตร “EZ-Link” ภายใต้การควบคุมของธนาคารกลางสิงคโปร์และสภาขนส่งสาธารณะมานานกว่า 10 ปี ทั้งในรูปแบบบัตรแข็งและแอปพลิเคชัน สำหรับชำระค่าเดินทาง ค่าสินค้าและบริการต่างๆผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งมีจุดให้บริการมากกว่า 33,000 จุดรอบเกาะสิงคโปร์
ขณะที่ประเทศไทย “สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร” (สนข.) มีแนวคิดพัฒนาระบบตั๋วร่วมอิเล็กทรอนิกส์ หรือ “บัตรแมงมุม” เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางทุกระบบ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รถโดยสารสาธารณะ เรือโดยสารสาธารณะ และทางพิเศษ ซึ่งจะสร้างความสะดวกในการใช้บริการให้กับประชาชนในการเชื่อมต่อการเดินทาง และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2561 บัตรแมงมุมสามารถใช้ได้กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) และรถไฟฟ้าสายสีม่วง แต่ในเดือนตุลาคม 2561 นี้จะมีการเชื่อมต่อเพื่อให้สามารถใช้งานได้กับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ และรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รวมถึงวางแผนขยายไปยังรถไฟฟ้าสายสีต่างๆที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนรถไฟฟ้า BTS ที่ขณะนี้มีระบบการชำระเงิน “Rabbit” อยู่ระหว่างการพิจารณา เนื่องจากเป็นความร่วมมือในระยะยาว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนระบบเพื่อให้รองรับกับบัตรแมงมุม คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายปีนี้
ทั้งนี้ธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ และมีส่วนร่วมในการสนับสนุนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มให้บริการบัตรเดบิตสำหรับเดินทาง ซึ่งนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย บอกว่า วันที่ 27 กันยายน 2561 นี้ จะเริ่มให้บริการ “กรุงไทย บัตรเดบิตแมงมุม” (Krungthai Metro Link) ที่ผู้ใช้บริการสามารถใช้บัตรได้ใน 2 ลักษณะคือ
1. บัตรเดบิต ใช้เบิก-ถอน-โอนเงินสด ซื้อสินค้าและบริการได้ทั่วโลก (ที่มีสัญลักษณ์ Mastercard)
2. บัตรแมงมุม (โครงการพัฒนาระบบตั๋วร่วม-Common Ticketing System) ที่ตอนนี้ใช้จ่ายค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วงได้แล้ว
>>อ่านต่อ..คลิ๊ก! รวมปัญหาเรื่องกู้บ้าน หนึ่งในนั้นคือ “หนี้บัตรเครดิต”
ที่สำคัญแม้จะไม่ใช้บัญชีธนาคารกรุงไทยแล้ว “กรุงไทย บัตรเดบิตแมงมุม” ก็ยังใช้เดินทางได้ตามปกติ ส่วนการเติมเงินตอนนี้ยังไม่สามารถตัดเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จึงยังต้องเติมเงินได้ช่องทางเดียวคือ ที่สถานีในระบบขนส่งมวลชนทุกสาขา แต่เติมได้ 3 วิธี คือ
1. ตัดเงินผ่านจาก กรุงไทย บัตรเดบิตแมงมุมได้ทันที
2. ตัดจากบัตรเครดิต
3.ใช้เงินสด
หากการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนด้วยบัตรแมงมุมครอบคลุมขนส่งสาธารณะหลักๆ ของกรุงเทพฯและปริมณฑล การใช้บัตรเพียงใบเดียวจะช่วยให้ประชาชนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ทั้งค่าใช้จ่ายในการออกบัตร การบริหารเงินที่คงค้างอยู่ในบัตร อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยที่ลดลง ที่สำคัญบัตรแมงมุมยังรองรับบนโยบายของภาครัฐเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (National e-Payment) ทำให้คนคุ้นเคยกับการจ่ายเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้เข้าใจเรื่องสังคมไร้เงินสด อีกทั้งการเดินทางที่สะดวกสบายก็ช่วยให้ประชาชนที่ทั้งอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีทางเลือกในการเดินทางสัญจรมากขึ้น ไม่เกิดการกระจุกตัวของที่อยู่อาศัย ส่งผลให้มีการกระจายรายได้ไปยังพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น
ขอบคุณที่มา ddproperty.com
เคล็ดลับ “จัดสวนอย่างไรให้เป็นมงคล” ตามหลักฮวงจุ้ย
เดิมวิถีของคนเราจะอิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติ ทั้งแสงแดด สายลม สายน้ำ ด้วยความใกล้ชิดกับธรรมชาติจึงส่งผลให้จิตใจของคนในยุคก่อนมีอ่อนโยน เอื้ออาทร ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน และก็พร้อมจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติโดยไม่ต่อต้านหรือฝืนกฎธรรมชาติ
พอความเจริญทางด้านวัตถุมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันความใกล้ชิดกับของคนเรากับธรรมชาติก็นับวันจะห่างถอยออกไปทุกที ด้วยสังคมที่เร่งรีบทำให้เราแบ่งเวลาพาตัวเองไปหาธรรมชาติน้อยลง คนยุคนี้จึงมีแนวคิดนำเอาธรรมชาติที่อยู่ไกลตัวกลับมาอยู่ใกล้ตัวด้วยการจัดสวนดอกไม้ ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ของตน
การจัดสวนไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ล้วนช่วยให้ก่อเกิดพลังธรรมชาติขึ้นได้ตามขนาดและความสวยงาม เพราะยิ่งสวนมีขนาดใหญ่แน่นอนว่าพลังแห่งธรรมชาติย่อมมีมากขึ้นตามลำดับ แต่ไม่ใช่ว่าสวนขนาดเล็กจะไม่มีพลังธรรมชาติที่มาเกื้อกูลชีวิตนะครับ
การจัดสวนก็เป็นศาสตร์และศิลป์ที่จะช่วยให้ใจเราเกิดความสงบเย็นและเบิกบาน หากการจัดสวนนั้นสอดคล้องกับพลังงานที่มีอยู่ในธรรมชาติด้วยละก็ สวนที่เราจัดขึ้นมานอกจากจะได้ความภูมิใจแล้ว เรายังคงได้รับพลังธรรมชาติที่สอดคล้องและเกื้อกูลชีวิตในด้านต่างๆ อีกด้วย
การจัดสวนสามารถดึงเอาพลังธรรมชาติที่มีอยู่แล้วมาเกื้อกูลชีวิตได้ โดยการใช้หลักวิชาฮวงจุ้ยเข้ามาเป็นพลังเสริมให้สวนที่เราจัดมีความเป็นมงคลได้ ด้วยการใช้สีสันและประเภทของไม้ดอกไม้ใบที่เราจะปลูกให้ตรงกับทิศทางที่เราจะจัดสวน เพียงเท่านี้การจัดสวนของเรานอกจากจะให้ความสวยความ ความภูมิใจแล้ว ยังจะให้พลังมงคลมาเสริมชีวิตอีกด้วย
ก่อนที่เราจะเริ่มจัดสวนเพื่อเสริมมงคลชีวิตนั้นเราต้องทราบก่อนว่าทิศทางที่เราจะจัดสวนนั้นอยู่ในทิศอะไร วิธีที่จะทราบได้คือเราต้องยืนตำแหน่งกลางบ้าน หันหน้าไปที่หน้าบ้าน แล้วใช้เข็มทิศวัดองศาดูว่าทิศที่เราจะจัดสวนนั้นอยู่ในทิศอะไร (สามารถดูวิธีการใช้เข็มทิศได้ในกูเกิ้ล) เพียงเท่านี้เราก็สามารถจัดสวนเสริมมงคลชีวิตได้แล้วครับ
หากสวนของเราอยู่ในทิศเหนือ ทิศนี้เป็นทิศที่มีพลังธาตุน้ำ แน่นอนว่าเมื่อสวนอยู่ในทิศน้ำก็สามารถจัดวางน้ำล้น น้ำพุ น้ำผุด ฯลฯ ได้ แต่ต้องจัดวางให้สมดุลกับขนาดพื้นที่ รวมถึงรูปทรงให้เหมาะสมสวยงามด้วย ไม้ดอกที่จัดบริเวณนี้สามารถใช้ไม้ดอกสีขาว สีฟ้า สีอมน้ำเงิน ส่วนไม้ใบที่จะปลูกให้เป็นไม้ใบกลม หนา ดูอุ้มน้ำจะดีมากครับ ทิศนี้จะเสริมเรื่องพลังด้านการงานของท่าน
หากสวนของเราอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือหรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทิศนี้มีพลังเป็นธาตุดิน เมื่อพลังของทิศคือความแข็งแกร่ง เราก็สามารถจัดสวนหินเพื่อเสริมพลังของธาตุดินได้ สวนบริเวณนี้ควรมีความสว่าง มีแสงไฟยามค่ำคืนจะยิ่งดี ไม้ดอกควรมีสีสันโทนร้อน เช่น สีแดง สีชมพู สีม่วง สีเหลืองสด ส่วนไม้ใบจะใช้ไม้ใบที่มีความเรียวแหลมหรือไม้ใบที่ดูใหญ่แข็งแรง ทิศนี้จะเสริมพลังเรื่องการเรียนรู้ การเปิดกว้างและความสัมพันธ์ในชีวิต
หากสวนของเราอยู่ในทิศตะวันออกหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทิศนี้มีพลังเป็นธาตุไม้ แน่นอนว่าทิศนี้ยิ่งปลูกต้นไม่ยิ่งดี ยิ่งต้นไม้มีความเขียวชอุ่มชุ่มชื่น มีดอกให้ชื่นชมยิ่งดี ทิศนี้ปลูกไม้ใบที่ดูสดชื่นสบายตาจะดีกว่าไม้ดอก ที่สำคัญทิศทางนี้ยังสามารถเสริมพลังของน้ำเพื่อสร้างความชุ่มชื่นให้กับต้นไม้และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับสวนได้อีกด้วย ทิศนี้จะเสริมพลังเรื่องความสำเร็จและการเงิน
หากสวนของเราอยู่ในทิศตะวันตกหรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศทางนี้เป็นพลังธาตุโลหะ การจัดสวนทิศทางนี้จะเน้นสวนที่มีสัญลักษณ์ทรงกลม การตัดแต่งต้นไม้หรือการปลูกต้นไม้ควรจัดรูปทรงกลมจะเหมาะสมกับพลังของทิศทาง หากจะปลูกไม้ดอกก็ควรปลูกไม้ดอกสีขาวที่มีกลิ่นหอม จะช่วยเสริมพลังของสวนให้เป็นมงคลมากยิ่งขึ้น อีกทั้งสวนในทิศนี้สามารถจัดสวนหินสวนๆ หรือนำหินที่มีรูปทรงสวยงาม (ออกกลมมน) มาจัดวางเพิ่มความสวยงามได้ ทิศนี้จะช่วยเสริมพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และพลังของความอุปถัมภ์เกื้อกูล
หากสวนของเราอยู่ในทิศใต้ ทิศนี้มีพลังเป็นธาตุไฟ การจัดสวนจะเน้นความสว่าง แสงแดดส่องถึง ยามค่ำคืนก็ควรเปิดแสงไฟเพื่อกระตุ้นความเป็นมงคล ไม้ดอกที่เสริมพลังจะเป็นไม้ดอกสีแดง สีส้ม สีเหลืองสด สีม่วง สีชมพู ไม้ใบสีเขียวที่ดูสวยงามก็เสริมพลังในทิศนี้ด้วยเช่นกัน ทิศนี้ส่งผลใดด้านเครดิตและการยอมรับจากสังคม
หากสวนของท่านอยู่ในทิศกึ่งกลางบ้าน (ซึ่งโดยปกติเราไม่ควรจัดสวนอยู่กลางบ้าน) การจัดสวนกลางบ้านต้องใช้ความสมดุลของพลังเข้าช่วยเป็นสำคัญ เพราะพลังกึ่งกลางบ้านถือเป็นหัวใจของบ้านหากจัดสวนแล้วไม่ก่อเกิดพลังหรือไม่มีความสมดุลอาจก่อเกิดปัญหากับชีวิตของคนในบ้านได้ครับ ตรงนี้ผมขออนุญาตข้ามไปเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ
จะเห็นว่าการจัดสวนที่ดีก็สามารถเสริมสร้างพลังมงคลให้แก่ชีวิตได้เช่นกัน เมื่อเราทราบเทคนิคเบื้องต้นในการเลือกต้นไม้แล้วและการจัดสวนตามหลักฮวงจุ้ยแล้วจะรออะไรอยู่ละครับ มาจัดสวนเพื่อเสริมมงคลชีวิตให้กับตัวเองกันเถอะครับ….
เขียนโดย : อ.เก่ง เสริมชีวิต (พัศญ์ศภณ โยธินธรรมธร)
8 เรื่องน่ารู้ ที่โทรศัพท์มือถือ ส่งผลทั้งต่อร่างกายและจิตใจของคุณ จงระวัง!!
ในปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือดูเหมือนจะกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของมนุษย์ไปซะแล้ว เพราะมันเป็นทั้งที่ตรวจงาน เป็นสื่อบันเทิง สื่อการเรียนรู้ และจุดเชื่อมโยงทางสังคมให้กับคนทุกเพศทุกวัย
ด้วยความที่ชีวิตประจำวันของเราถูกผูกติดกับโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา นั่นอาจเป็ารทำร้ายสุขภาพได้อย่างไม่รู้ตัว และนี่คือเหตุผลที่คุณควรระวัง
1. รบกวนการนอนที่เป็นปกติ
คลื่นสั้น และแสงสีน้ำเงินที่ปล่อยออกมาจากโทรศัพท์มือถือ จะรบกวนการนอนหลับของคุณ ทั้งยังยับยั้งการผลิตเมลาโทนินซึ่งจะช่วยให้คุณหลับได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเล่นโทรศัพท์ ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 30 นาที
2.ทำให้คุณกลายเป็นคนขี้กังวล และหลุดโฟกัส
สัญญาณแจ้งเตือนใหม่บนโทรศัพท์ของคุณอาจทำให้ความสามารถในการโฟกัสไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งลดน้อยลง ทั้งยังทำให้คุณรู้สึกว้าวุ่นใจได้เสมอ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรเปิดโหมด “ห้ามรบกวน” บ้างในระหว่างวันเพื่อไม่ให้คุณจดจ่อกับโทรศัพท์มากเกินไป
3. ทำให้เกิดอาการปวดข้อมือ
ปัจจุบันชาวอเมริกันส่วนใหญ่ใช้เวลามากกว่า 5 ชั่วโมงในการเล่นมือถือ และเกิดอาการเจ็บหรือปวดตามข้อศอกและข้อมือ เนื่องจากกิจกรรมนี้ต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนดังกล่าวติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
4. แหล่งสะสมเชื้อโรค
มือถือส่วนใหญ่เป็นแหล่งรวบรวมเชื้อโรคนับสิบชนิดที่โดยมากมักพบตามห้องสุขา Charles Gerbaนักชีววิทยามหาวิทยาลัยอริโซนากล่าวว่า เพื่อสุขอนามัยที่ดี คุณควรใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดทุกวัน
5. ทำให้เมมโมรี่ความจำในสมองของคุณน้อยลง
ในเมื่อปัจจุบันนี้ ทุกคนบันทึกทุกสิ่งอย่างและเก็บรวบรวมมันไว้ในมือถือทั้งสิ้น ทำให้สมองส่วนความจำทำหน้าที่น้อยลง นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณสามารถจำสิ่งต่างๆ ได้น้อยลงด้วย
6. ทำร้ายดวงตาของคุณ
การเล่นมือถือนานๆ ส่งผลให้ดวงตาของคุณล้า ตาเเห้ง พร่ามัว และมีการระคายเคือง เนื่องจากการต้องจดจ้องกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน ทางที่ดีควรกระพริบตาบ่อยๆ เพิ่มขนาดตัวอักษร และละเว้นจากหน้าจอทุกๆ 20 นาที
7. เป็นอันตรายในขณะเดินทาง
ทุกวันนี้เรามักเห็นคนที่ใช้โทรศัพท์ไปด้วย เดินทางไปด้วยไม่ว่าจะด้วยพาหนะหรือการเดินด้วยเท้า สิ่งเหล่านี้ทำให้ความระมัดระวังลดน้อยลง และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้มากยิ่งขึ้น
8. กลายเป็นเรื่องที่ยากมากยิ่งขึ้นเมื่อขาดโทรศัพท์
การวางโทรศัพท์หรือไม่เล่นโทรศัพท์เป็นระยะเวลานานๆ กลายเป็นปัญหาสำหรับคนในยุคนี้ เนื่องจากการเสพติดการเล่นมือถือ
เมื่อต้องห่างจากโทรศัพท์ สมองของคุณจะปล่อยฮอร์โมนความเครียดซึ่งไม่ดีกับทั้งร่างกายและจิตใจ สิ่งที่ควรทำคือ ค่อยๆ ห่างจากโทรศัพท์ทีละน้อย หันไปทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย
ไม่ว่าอะไรก็ตามหากทำมากเกินไปหรือน้อยเกินไปย่อมไม่ส่งผลดี โทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากในยุคนี้ก็จริง แต่อย่าลืมวางหน้าจอแล้วหันมาคุยกับคนรอบข้างบ้างนะ 🙂
ขอบคุณที่มา scholarship.in.th
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 20 กันยายน 2561
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 18,550.00 | 18,450.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 19,050.00 | 18,116.20 | 1,195.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 18,768.08 | 1,238.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 16,304.58 | 1,075.50 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 14,492.96 | 956.00 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,156.08 | 538.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,336.88 | 418.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 20 กันยายน 2561
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 30.65 | 30.95 | 30.95 | 30.65 | 30.65 | 30.65 | 30.65 | 30.65 | 30.65 | 30.65 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 30.38 | 30.68 | 30.68 | 30.38 | 30.38 | 30.38 | 30.38 | 30.38 | 30.38 | 30.38 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 27.64 | 27.94 | 27.94 | 27.64 | 27.64 | – | 27.64 | 27.64 | 27.64 | 27.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 21.64 | 21.79 | – | – | – | – | – | 21.64 | 21.64 | – |
เบนซิน 95 | 37.76 | – | – | – | 38.21 | – | 38.26 | 38.06 | 37.86 | 38.06 |
ดีเซล | 29.59 | 29.89 | 29.89 | 29.59 | 29.59 | 29.59 | 29.59 | 29.59 | 29.59 | 29.59 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 32.59 | 33.76 | 33.76 | 33.46 | 33.46 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.13 | 15.13 | – | – | – | – | – | – | – | – |