ENLIGHTEN GROUP » สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 24 กันยายน 2561

สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 24 กันยายน 2561

ญี่ปุ่นสนใจลงทุนอีอีซีเล็งนิคมสมาร์ทปาร์ค

กนอ.นำคณะ นักลงทุนญี่ปุ่นลงพื้นที่อีอีซี เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เผยสนใจลงทุน “นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ค-ท่าเรือมาบตาพุดระยะ 3” สูงสุด

นายจักรรัฐ เลิศโอภาส รอง ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ กนอ.ได้ลงนามความร่วมมือร่วมกับ Japan Industrial Location Center (JILC) เพื่อส่งเสริมการดำเนินกิจกรรมด้านการลงทุนของนักธุรกิจ และสนับสนุนผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นในการแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ รวมถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุนระหว่าง 2 หน่วยงานในโครงการต่างๆ เช่น เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โครงการในพื้นที่เขตพัฒนา เศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) และนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่อื่นๆ เพื่อขยายการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ กนอ.จึงได้นำคณะนักลงทุนจากญี่ปุ่นที่เป็นสมาชิกของ JILC เข้าเยี่ยมชมพื้นที่ EEC และ SEZ เพื่อให้ได้รับทราบถึงรายละเอียดและข้อมูลเชิงลึกของนิคมอุตสาหกรรม เช่น สิทธิประโยชน์ โปรโมชั่น ความคืบหน้า การอำนวยความสะดวกและความเป็นไปได้ต่างๆ ซึ่งมุ่งหวังให้เกิดความสนใจในการลงทุนบนพื้นที่ดังกล่าวต่อไป

โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-21 ก.ย.2561 ซึ่งได้นำคณะผู้ประกอบการและนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าชมนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC และ SEZ ได้แก่ จ.ชลบุรี ระยอง สระแก้ว และสงขลา โดยได้นำเสนอพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่มีความพร้อมและมีศักยภาพในการรองรับการลงทุนทั้งอุตสาหกรรมเดิมและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม

ทั้งนี้ พบว่าในพื้นที่ EEC โครงการนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ค และโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ใน จ.ระยอง เป็นพื้นที่ที่นักลงทุนให้ความสนใจในการเข้าร่วมลงทุนมากที่สุด ส่วนพื้นที่ SEZ นิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว และนิคมอุตสาหกรรมยางพาราใน จ.สงขลา เป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจในการประกอบกิจการเช่นเดียวกัน เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงการค้าและ การลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ของไทยได้ มีจุดยุทธศาสตร์ ที่ดีเยี่ยมทางด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ รวมทั้งยังเป็นพื้นที่ ที่มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค สำหรับคณะนักลงทุนและ ผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นที่เดินทางมาครั้งนี้เป็นนักลงทุนในหลากหลาย กลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ ซึ่งนับเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับ กนอ.และหน่วยงานส่งเสริมอุตสาหกรรมของไทยในการพบปะหารือและเจรจาธุรกิจ พร้อมนำไปสู่การเป็นพันธมิตรทางการส่งเสริมการลงทุนร่วมกันในอนาคต

ขอบคุณที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

โกลเด้นกรุ๊ปปลื้ม”คีนเซ็นเตอร์ ศรีราชา”กระแสเยี่ยม

โกลเด้นกรุ๊ป กางแผนลงทุน 3 ปี ปักหมุด”อีอีซี”เผยปี 61 ผุด 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 3,237 ล้านบาท พร้อมปลื้ม”คีน เซ็นเตอร์ ศรีราชา” มูลค่า 2,716 ล้านบาท โกยยอดขายกว่า 65% คาดก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 2 ปี 63

นางสุนทรา คำภูสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเด้น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ว่า ภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับพื้นที่ในทำเลอีอีซี ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ 3 จังหวัดหลักคือ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็น มืองใหม่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ฐานการผลิตอุตสาหกรรม และศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ อย่างไรก็ตามบริษัทเชื่อมั่นว่าจากการที่ภาครัฐได้มีการพัฒนาโครงการ อีอีซี จะเป็นการกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยราว 5% ต่อปี

“การเกิดโครงการ อีอีซี จะเป็นสร้างการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมและบริการ 100,000 อัตราต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคนต่อปี จึงทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออกนี้ ได้รับความนิยมมากตามไปด้วย ทั้งนี้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โครงการ EEC ได้รับความสนใจจากกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมญี่ปุ่นกว่า 500 ราย ที่ได้มาเยี่ยมชมและมีการตอบรับที่ดี ทำให้มั่นใจว่ากลุ่มโรงงานผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในการเช่าที่พักอาศัยในพื้นทีศรีราชาเป็นจำนวนมาก”นางสุนทรา กล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในทำเล ศรีราชา จังหวัดชลบุรีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า ระดับราคาที่ดินมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือปรับเพิ่มเฉลี่ย 50% โดยเฉพาะราคาที่ดินใกล้ชายหาด มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเปรียบเทียบจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่มีระดับราคาขายอยู่ที่ประมาณหลักมื่นบาทต่อตร.วา ปัจจุบันราคาขายที่ดินอยู่ที่ 2-3 แสนบาทต่อตร.วา และมีมูลค่าตลาดเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพ ซึ่งเป็นไปตามการขยายตัวของการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังพบอีกว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาพักอาศัยเพิ่มขี้น โดยเฉพาะ ญี่ปุ่นมีแนวโน้มสูงขึ้น ปัจจุบันมีแรงงานชาวญี่ปุ่นทำงานในพื้นที่ศรีราชาประมาณ 8,000 คน

ในส่วนของทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปี (2561-2563) บริษัทมีแผนขยายโครงการไปในทำเล อีอีซี โดยเฉพาะในจังหวัดระยอง ซึ่งมีแผนพัฒนาโครงการจำนวน 5 โครงการ แบ่งเป็น โครงการรีสอร์ตและบ้านพัก จำนวน 1 โครงการ มุ่งให้บริการนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ บนพื้นที่กว่า 252 ไร่ และอีก 4 โครงการจะเป็นการพัฒนาโครงการในรูปแบบแนวราบ ส่วนในปี 2561 นี้ บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 3,237 ล้านบาท แบ่งเป็นในทำเล ศรีราชา 2 โครงการ บางละมุง 2 โครงการ และหนองมน 1 โครงการ

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการรองรับความต้องการในที่อยู่อาศัยในทำเลศรีราชา บริษัทจึงได้พัฒนาที่อยู่อาศัยและได้เปิดตัวโครงการ”คีน เซ็นเตอร์ ศรีราชา”เป็นคอนโดมิเนียม สูง 38 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ จำนวน 625 ยูนิต มูลค่า 2,716 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.1 ล้านบาท เจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทย 90% โดย 80% ซื้อเพื่อปล่อยเช่า 20% ซื้อเพื่อพักอาศัย และต่างชาติ 10 % ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 65% โดยจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาสที่ 1 ปี 2561 และคาดว่าจะแล้วเสร็จ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2563

ขอบคุณที่มา banmuang.co.th

สหรัฐฯ จ่อขึ้นภาษีสินค้าจีน กระทบเศรษฐกิจไทยอย่างจัง

ทรัมป์เล็งเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มจากจีน พร้อมประกาศใช้ในเร็ววันนี้ ประชาชนหวั่นสินค้าราคาสูงขึ้น เพราะอัตราภาษีสูงขึ้นกระทบฐานการผลิตสินค้าของจีนที่มีอยู่ทั่วโลก
ค่าเงินบาทไทยอ่อนตัวลง เนื่องจากจีนเตรียมคว่ำบาตรสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าตามไปด้วย

ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีสินค้าจีน 2.67 แสนล้านดอลลาร์

เชื่อว่า 2 ยักษ์ใหญ่ที่ทั่วโลกต่างยกตำแหน่งนี้ให้ คงเป็นใครไม่ได้นอกจาก สหรัฐอเมริกา และ จีน ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจทั่วโลกก็ถูกขับเคลื่อนด้วย 2 มหาอำนาจนี้ ถ้าพวกเขาร่วมมือกันมันก็คงจะดี แต่ในความเป็นจริงทั้งคู่กำลังทำสงครามทางการค้า ที่ส่งผลกระทบไปทั่วทุกมุมโลก

ล่าสุดก็มีนโยบายขอขึ้นภาษีสินค้าจีนของทรัมป์ ที่มีเค้าโครงมานานหลายเดือน ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มจากจีน มูลค่า 267,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเรียกเก็บเพิ่ม (On-Top) จากปกติเก็บภาษีอยู่ที่ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมเบ็ดเสร็จแล้วสหรัฐจะได้ภาษีจากจีนถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยมูลค่าภาษีเท่านี้จะเทียบได้กับสินค้าที่สหรัฐนำเข้าจากจีนทั้งหมด

หากนโยบายขอขึ้นภาษีสินค้าจีนจะเกิดขึ้นในเร็ววัน ถ้าจีนสู้ไม่ไหว ก็คงลดสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ เท่ากับเป็นการเปิดช่องทางให้ประเทศอื่นๆ เดินหน้าส่งสินค้าเข้าสหรัฐมากขึ้น หรือหากจีนจะยืนกรานพร้อมสู้ค่าภาษีที่เพิ่งขึ้น สภาพคล่องทางการเงินอาจมีฝืดเคืองไปบ้าง หรือไม่ก็อาจทำให้สินค้าจากประเทศจีนมีราคาขายที่สูงขึ้น

แต่ใช่ว่าพี่จีนของเราจะไม่มีวิธีแก้เผ็ดนะคะ เพราะเราอย่าลืมว่าจีนก็มาเปิดโรงงานรายย่อยในบ้านเราไม่น้อย ถ้าสหรัฐฯ ขอขึ้นภาษีจริงๆ สินค้าที่ผลิตในไทยอาจได้รับผลตอบรับที่ดีก็เป็นได้ แต่ก็เสี่ยงจะโดนขึ้นภาษีเหมือนจีนเช่นกัน หรือจีนอาจจะใช้ไม้เด็ดคว่ำบาตรสหรัฐฯ ไปเลยก็ได้

ทั้งนี้การขอขึ้นภาษีสินค้าจีน ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวจากประเทศไทยเท่าไหร่ เพราะอย่างที่กล่าวไป การทำสงครามทางการค้านี้ มันส่งผลกระทบไปทั่วโลกจริงๆ รวมถึงประเทศไทยเองก็ด้วย

จับตาดูเศรษฐกิจไทย ในสงคราม สหรัฐฯ vs จีนความน่าจะเป็นของนโยบายสหรัฐฯ ที่จะขอขึ้นภาษีสินค้าจีน ทำให้เหล่านักธุรกิจ นักลงทุน หลายคนต้องจับตาดูเศรษฐกิจไทยจะออกมาเป็นรูปแบบไหน ไม่ว่าจะในแวดวงตลาดหุ้น หรือค่าเงินบาทไทยโดยตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้จะซึมๆ แกว่งไปในแดนลบหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก เพราะปัจจัยหลายอย่างในประเทศค่อนข้างแข็งแกร่ง และอาจเนื่องจากนโยบายนี้ยังไม่มีผลประกาศใช้นั่นเองในส่วนของค่าเงินบาทวันนี้ ทางด้านนักค้าเงินธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ค่าเงินบาทวันนี้อ่อน เนื่องจากจีนเตรียมโต้ด้วยการคว่ำบาตรสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงตามไปด้วย

โดยค่าเงินบาทแนวรับอยู่ที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนแนวต้านคงอยู่ที่ 32.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ด้วยความที่สหรัฐฯ และจีนเป็น 2 มหาอำนาจยักษ์ใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจ ทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็ส่งผลกระทบไปยังประเทศอื่นๆ ดังนั้นเราจำเป็นต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ยิ่งจีนกับไทยก็เป็นคู่ค้าทางด้านเศรษฐกิจกันมาช้านาน หากเกิดอะไรขึ้นประเทศเราก็ได้รับผลเช่นกัน อยู่ที่จะมากหรือน้อย นักลงทุนเองก็ต้องศึกษาให้ดี และหาทางรับมือกันต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก ประชาชาติ และ ฐานเศรษฐกิจ

5 สิ่งที่ควรทำใน ‘เช้าวันจันทร์’ เพื่อความสำเร็จตลอดทั้งสัปดาห์

เคยรู้สึกไหมว่า วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี่มันช่างสั้นเหลือเกิน เผลอเพียงนิดเดียววันจันทร์ก็มาเยือนซะแล้ว พอเช้าวันจันทร์ทีไรก็จะเริ่มรู้สึกว่า “นี่เราต้องทำงานอีกตั้งหลายวันกว่าจะได้หยุด” ยิ่งคิดแบบนี้แล้วก็ยิ่งทำให้จิตใจห่อเหี่ยวได้ง่าย แต่ว่าเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกเสียจากเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่เราจะต้องเจอไปทั้งสัปดาห์ ดังนั้นแล้ว เช้าวันจันทร์จึงเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่คุณควรจะวางแผนเพื่อให้เวลาที่เหลือทั้งสัปดาห์ของคุณให้ราบรื่นขึ้น วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะมาช่วยให้คุณมองเช้าวันจันทร์เปลี่ยนไปจากเดิม

1. เริ่มต้นให้เร็วขึ้น

เช่น ลองไปถึงที่ทำงานให้เร็วขึ้นสักหน่อย แล้วใช้เวลาช่วงที่ว่างนั้นทบทวนว่าสัปดาห์นี้คุณมีอะไรต้องทำบ้าง อาจจะวางแพลนตั้งเป้าหมายไว้ทั้งสัปดาห์เพื่อให้เห็นภาพรวมชัดเจน มันจะช่วยให้การทำงานของคุณมีระเบียบและจัดการได้ง่ายขึ้น

2. กำหนดเป้าหมายใหม่ๆ

ในทุกวันจันทร์ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นสัปดาห์ อยากให้คุณลองกำหนดเป้าหมายใหม่ ๆ ของสัปดาห์นั้น แล้วพยายามเดินตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งจะช่วยให้คุณทำสิ่งที่ต้องการได้สำเร็จ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่ได้บรรลุเป้าหมาย ก็สามารถกลับมานั่งทบทวนว่าเราพลาดอะไรไป และจะพัฒนาให้ดีขึ้นได้อย่างไร

3. จัดแผนประชุมของทั้งสัปดาห์

วันจันทร์คือเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการจัดตารางประชุมกับทีมของคุณ ลองจัดแผนว่าคุณจะจัดประชุมกี่ครั้ง เรื่องอะไร อย่าลืมว่าการประชุมเพื่อปรึกษากับเพื่อนร่วมงานนั้นสำคัญมาก และการจัดตารางในเช้าวันจันทร์ก็จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมทั้งหมดของสัปดาห์อีกด้วย

4. แสดงความชื่นชมทีมงาน

คนที่คุณคิดว่าเขาทำงานได้ดีและมีส่วนช่วยเหลือบริษัทอย่างเต็มความสามารถ ลูกทีมของคุณย่อมอยากได้รับคำชมเพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้พวกเขาทำงานให้ดีขึ้น คุณอาจจะชื่นชมด้วยการส่งอีเมล์ พูดคุย หรือให้ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้แต่การพาไปเลี้ยงข้าวก็ใช้ได้เหมือนกัน วันจันทร์คือการเริ่มต้น เพราะฉะนั้นคำชมเพียงไม่กี่คำก็สามารถเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้พวกเขามีไฟไปทั้งสัปดาห์ได้เลยล่ะ

5. ประเมินความท้าทายที่กำลังจะเข้ามา

เพราะว่าความท้าทายนั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การใช้ช่วงเวลาของเช้าวันจันทร์สักเล็กน้อยมานั่งประเมินว่ามีความท้าทายอะไรที่อาจจะเกิดขึ้นได้บ้างนั้น จะช่วยให้คุณสามารถเตรียมตัวรับมือ และแก้ปัญหาเหล่านั้นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ถ้าคุณทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำในเช้าวันจันทร์แล้วล่ะก็ คุณจะค้นพบอย่างรวดเร็วว่าวันจันทร์ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป มันเป็นวันแห่งการเริ่มต้น และทำให้คุณสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ถ้าคุณวางแผนจัดการอย่างมีประโยชน์

ขอบคุณที่มา sumrej.com

Pre-Runner 6 steps: 6 สเตปเตรียมตัวก่อนเป็นนักวิ่ง เปลี่ยนชีวิตคุณให้ Active มากขึ้น

ก้าวแรกสู่การเป็นนักวิ่งที่สมบูรณ์แบบ เริ่มต้นจากเรื่องง่ายๆ ที่เรามักมองข้าม มันเริ่มจากการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างเช่น พฤติกรรมการกิน การนอน และการเคลื่อนไหวใช้งานร่างกายในแต่วัน ทั้งหมดนี้เป็นจุดเริ่มต้นหลักแรกในการปรับเปลี่ยนแนวคิดและโครงสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่ให้พร้อมกับการออกไปวิ่ง การวิ่งจะเป็นอิฐก้อนที่สองในการต่อยอดเปลี่ยนสุขภาพให้แข็งแรงต่อไป

Pre-Runner 6 steps: 6 สเตปเตรียมตัวก่อนเป็นนักวิ่ง เปลี่ยนชีวิตคุณให้ Active มากขึ้น

1. มื้อเช้าทานหรือยัง

อาหารมื้อเช้าก็เป็นมื้อสำคัญในการเริ่มต้นวันใหม่ เพราะหลังจากการนอนหลับนานหลายชั่วโมง ร่างกายต้องการพลังงานในการขับเคลื่อนทำงานต่อสู้กับวันใหม่

การศึกษาหลายสถาบันก็แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่าง อาหารมื้อเช้าและการควบคุมน้ำหนัก นั้นคือบุคคลที่รับประทานอาหารเช้าจะสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดี

2. ควบคุมอาหาร

วิธีการควบคุมอาหารที่ดี เริ่มจากการวางแผนอาหารที่จะรับในแต่ละมื้อ หากคุณสามารถเตรียมอาหารจากที่บ้านได้เอง การวางแผนเตรียมอาหารจะช่วยควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละวันได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่ คุณต้องใช้วิธีการเลือกกินเอา คิดก่อนจะสั่งซื้ออาหารแต่ละมื้อทุกครั้ง คำนวณดูคร่าวๆ ว่า อาหารแต่ละมื้อหากรับไปจะให้ปริมาณแคลอรี่มากน้อยแค่ไหน จำไว้ว่า เอาเข้ามากกว่าเอาออกจะอ้วน

3. อาหารที่มีคุณภาพ

เลือกอาหารที่มีคุณภาพ อย่างการเพิ่มโปรตีนและไฟเบอร์ลงไปในมื้ออาหาร เพราะการรับโปรตีนและไฟเบอร์จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่ม อยู่ตัวได้นานหลายชั่วโมง ช่วยลดอาการอยากขนมนมเนยลง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มแคลอรี่

การรับประทานผักผลไม้ก็เป็นการเพิ่มไฟเบอร์ลงไป และจากการศึกษาก็พบว่า ไฟเบอร์ช่วยลดอาการอยากลงได้ (reduced appetite) ช่วยเสริมการควบคุมน้ำหนักให้ง่ายขึ้น

4. เดิน เดินและเดิน

นอกจากชาวสแกนดิเนเวียและชาวญี่ปุ่นจะมีสุขภาพแข็งแรงเหมือนกันแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันอีกนั้นคือ พวกเขาขยันเดินกันมาก

การเดินเป็นหนึ่งในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน (กำจัดแคลอรี่ออกไป) ที่มีประสิทธิภาพและง่ายที่สุด การเดินให้มากขึ้นสำหรับมือใหม่ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือใครที่ไม่เคยวิ่งมาก่อนเลย จะเป็นการช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างกล้ามเนื้อขึ้นมา สร้างความพร้อมให้ร่างกายรับมือกับ Workload ที่จะเกิดจะการวิ่ง

เราแนะนำให้ลองซื้ออุปกรณ์ Tracking device หรืออุปกรณ์ตรวจวัดสเตปก้าวในแต่ละวัน ถ้าเราจะวางแผนวิ่งอยู่แล้วก็แนะนำให้ซื้อนาฬิกาวิ่ง GPS ไปเลย เพราะจะมีฟังค์ชั่นวัดสเตปในตัวอยู่แล้ว อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยทำงานเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ใส่ได้ตะหนักและรุ้สึกว่าต้องออกเดินขยับตัวให้มากขึ้น

5. ดื่มน้ำให้เยอะมากขึ้น

ว่ากันว่า ดื่มน้ำถึง หน้าอ่อนไปเจ็ดปีเลยนะ หนึ่งในทริคง่ายๆ ในการควบคุมน้ำหนักคือ การดื่มน้ำก่อนอาหารสัก 400-500 ml จะช่วยลดความอยากลงได้ และช่วยให้เราอิ่มเร็วขึ้น

นักวิ่งจะให้ความสำคัญในการดื่มน้ำก่อนและหลังการวิ่งทุกครั้ง เพราะน้ำทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่น นำพาสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์กล้ามเนื้อ พาของเสียออกไปและช่วยไหลเวียนความร้อนออกจากร่างกาย การรักษาระดับน้ำให้คงที่มีสมดุลจะช่วยให้การวิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

6. เสบียงต้องพร้อม

เราไม่รู้ว่าความหิวจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ ดังนั้นต้องมีการตั้งรับสู่ให้พร้อม การเตรียมขนมขบเคี้ยว อย่างพวกขนมธัญพืชสำรองไว้ใต้โต๊ะ จะเป็นตัวช่วยที่ดีมาก และพยายามเลี่ยงพวกขนมหวานซะ การเตรียมเสบียงเราสามารถเลือกควบคุมอาหารและแคลอรี่ที่นำเข้าร่างกายได้ ถ้าถามว่าไม่พกได้ไหม ก็ตอบว่าได้ครับ แต่โอกาสที่จะหน้ามืดตาลาย กวาดขนมทุกสิ่งในร้านสะดวกซื้อจะมีมากกว่ากินของที่ตุนไว้เอง

ก่อนจะเป็นนักวิ่งก็ต้องมีการฝึกวินัยก่อนกันสักนิดเป็นเรื่องธรรมดาครับ เพราะถ้าเป็นนักวิ่งจริงจังแล้ว จะมีการคิดคำนึงถึงอาหารที่จะรับประทานทุกครั้ง เวลาออกวิ่งแข่งขันก็ต้องตื่นแต่เช้า ตี 3 ถึงตี 4 มาเตรียมตัว การเป็น Pre-runner จึงเป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับการเป็นนักวิ่งเต็มตัว ฝึกไว้แต่เนินๆ ครับ เพราะเวลาต่อยอดการฝึกวิ่งเราจะไปได้ง่ายและเร็ว

ขอบคุณที่มา verywellfit.com

ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 24 กันยายน 2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง	ราคาขาย/บาท	ราคารับซื้อ/บาท	ราคารับซื้อ/กรัม
ทองคำแท่ง 96.5%	18,450.00	18,350.00	n/a
ทองรูปพรรณ 96.5%	18,950.00	18,025.24	1,189.00
ทองรูปพรรณ 99.99%	n/a	18,677.12	1,232.00
ทองรูปพรรณ 90%	n/a	16,222.72	1,070.10
ทองรูปพรรณ 80%	n/a	14,420.19	951.20
ทองรูปพรรณ 50%	n/a	8,110.60	535.00
ทองรูปพรรณ 40%	n/a	6,306.56	416.00

ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 24 กันยายน 2561

	ปตท.	บางจาก	เชลล์	เอสโซ่	คาลเท็กซ์	ไออาร์พีซี	พีที	ซัสโก้	เพียว	ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95	30.65	30.65	30.65	30.65	30.65	30.65	30.65	30.65	30.65	30.65
แก๊สโซฮอล์ 91	30.38	30.38	30.38	30.38	30.38	30.38	30.38	30.38	30.38	30.38
แก๊สโซฮอล์ E20	27.64	27.64	27.64	27.64	27.64	–	27.64	27.64	27.64	27.64
แก๊สโซฮอล์ E85	21.64	21.64	–	–	–	–	–	21.64	21.64	–
เบนซิน 95	37.76	–	–	–	38.21	–	38.26	38.06	37.86	38.06
ดีเซล	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59	29.59
ดีเซลพรีเมี่ยม	32.59	33.46	33.46	33.46	33.46	–	–	–	–	–
แก๊ส NGV	15.13	15.13	–	–	–	–	–	–	–	–