เอกชนวอนธปท.อย่าออกมาตรการเหวี่ยงแห-ทำตลาดป่วน
นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรเตรียมแนะธปท.กำหนดกฎเกณฑ์ชัดเจน ระบุเพิ่มวงเงินดาวน์เป็น20% กระทบตลาดคอนโดฯเต็มสูบ ส่วนบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปลอยตัว ทั้งกำหนดผู้ซื้อที่ไม่มีภาระหนี้กู้บ้าน ต้องไม่รวมเป็นบ้านหลังที่สอง เชื่อหลังประกาศมาตรการส่งผลผู้ประกอบการชะลอเปิดตัวโครงการใหม่ ยอดโอนอาจไม่เป็นตามเป้า
นายอธิป พีชานนท์ นายกธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ในวันที่ 11 ตุลาคม 2561 นี้ จะเข้าไปรับฟังกฎเกณฑ์ใหม่ของการกำหนดวงเงินดาวน์การซื้อบ้านหลังที่ 2 และการซื้อบ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะมีข้อเสนอแนะให้กับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เช่น การกำหนดความชัดเจนของประเภทสินค้า ที่ต้องมีการระบุให้ชัดเจน ซึ่งอาจจะกระทบกับกลุ่มสินค้าแนวราบที่เป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่มีผู้ซื้อมาเพื่อเก็งกำไร อีกทั้งจะกระทบกับผู้ซื้อบ้านหลังแรกที่เป็นคอนโดมิเนียม และต้องการเปลี่ยนเป็นอยู่โครงการบ้านจัดสรร ซึ่งมองว่าการเพิ่มวงเงินดาวน์จาก 10% เป็น 20% สำหรับบ้านจัดสรร ผู้ซื้อจะต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นมาก และระยะเวลาการดาวน์โครงการบ้านจัดสรรเพียง 6 เดือน ซึ่งมีระยะเวลาสั้น จะมีผลกระทบหากเหมารวมโครงการบ้านจัดสรรไปด้วยส่วนผู้ซื้อบ้านที่ราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเกณฑ์ที่กำหนดเป็นเกณฑ์เดิมที่วางเงินดาวน์อย่างน้อย 20%
รวมไปถึงการกำหนดกฏเกณฑ์จะต้องมีการระบุเกี่ยวกับผู้ซื้อชำระเงินกู้ธนาคารหมดแล้วหรือซื้อบ้านเป็นเงินสด จะต้องไม่รวมเป็นบ้านหลังที่ 2 ซึ่งจะต้องนับเฉพาะการผู้ซื้อที่ซื้อบ้านหลังแรก และยังผ่อนธนาคารอยู่ และซื้อบ้านหลังที่ 2 และการทำสัญญาการการวางเงินดาวน์ที่ยุติธรรมจะต้องเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่เกณฑ์ใหม่เริ่มมีผลบังคับใช้ ส่วนสัญญาที่เริ่มมาก่อนวันที่ 1 มกราคม 2562 จะต้องอนุโลมเป็นเกณฑ์เดิมไปก่อน เพื่อให้เกิดความยุติธรรม ซึ่งโดยในภาพรวมแล้วทางธนาคารแห่งประเทศไทยควรจะระบุเงื่อนไขให้ชัดเจนและตรงจุด ไม่ควรที่จะออกเกณฑ์มาแบบเหมารวม
ทั้งนี้มองว่าโครงการคอนโดมิเนียมจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่จะซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ซึ่งมีสัดส่วนลูกค้าที่ซื้อโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็นบ้านหลังแรกและหลังที่ 2 ที่ 50:50 ขณะที่โครงการบ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัดก็จะกระทบตามไปด้วย เพราะการซื้อบ้านพักตากอากาศส่วนใหญ่ก็ซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 เช่นเดียวกัน โดยที่แนวโน้มหลังจากวันนี้ที่เกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศออกมาในช่วงบ่ายวันที่ 4 ตุลาคม 2561 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562 จะทำให้การเปิดตัวโครงการใหม่ชะลอตัวลง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 นี้เป็นต้นไป และการโอนกระกระทบในปี 2562 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าการโอนโครงการคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการหลายรายอาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายได้ โดยที่การโอนโครงการคอนโดมิเนียมทั้งตลาดในแต่ละปีเฉลี่ยอยู่ที่ 250,000ล้านบาท/ปี
“เกณฑ์วางเงินดาวน์ใหม่จะทำให้ผู้ซื้อสับสนและกังวลใจ ก็สงสัยว่าแบงก์ชาติเลือกเวลาการกำหนดมาตรการมาเหมาะสมกับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 39หรือไม่ เมื่อข่าวแบบนี้ออกมาชาวบ้านก็เกิดความสับสน อะไรที่ไม่เข้าใจก็จะ wait and see ไม่รู้ว่าแบงก์ชาติคุยกับรัฐบาลหรือไม่ เพราะเมื่อตลาดอสังหาฯได้รับผลกระทบ ภาพรวมเศรษฐกิจก็จะกระทบตามไปด้วย และการป้องกันของแบงก์ชาติก็ไม่รู้ว่าระวังมากเกินไปหรือเปล่า เหมือนกับเมืองไทยยังไม่มีหิมะแต่เอาโซ่มารัดล้อรถ หลังจากนี้ก็จะเห็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ชะลอการเปิดตัว เพราะการปรับ LTV(loan-to-value ratio) ใหม่ต้องใช้เงินดาวน์สูง และต้องรอดูลูกค้าตอบรับโครงการปัจจุบันอย่างไรบ้าง”นายอธิป กล่าวในที่สุด
ขอบคุณที่มา prop2morrow.com
ชาวปากน้ำเฮ! 5 ธ.ค.นี้ กทม.เปิดใช้บีทีเอส “แบริ่ง-สมุทรปราการ” นั่งฟรีถึงต้นปีหน้า
วัยรุ่น วัยทำงาน ออมอย่างไรให้ทันเกษียณ
“ยิ่งออมเร็ว ยิ่งมีระยะเวลาออมเงินที่นานขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนออมเงินต่อเดือนไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับการออมเงินเมื่อตอนอายุมากขึ้น ที่ต้องเก็บเงินด้วยสัดส่วนที่สูงขึ้น”
“เก็บออมเงินเพื่ออะไร” เป็นคำถามที่ตอบได้ไม่ยาก และหลายคนคงทราบดีว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะการที่เราออมเงินในวันนี้ ก็เพื่อเป็นเงินออมไว้ใช้จ่ายในอนาคต หรือยามเกษียณ ในช่วงที่เราอาจไม่มีรายได้จากงานประจำแล้ว
“เก็บออมเงินเท่าไรดี” เมื่อตั้งใจจะเก็บเงินแล้ว ก็ควรมีเป้าหมายที่เป็นตัวเลขสักหน่อยว่า ควรออมเงินเท่าไร เพื่อให้มีเงินเพียงพอใช้จ่ายสบายๆ ในวัยเกษียณ เพราะถ้าบอกว่า ออมให้เยอะที่สุด อาจดูเป็นนามธรรมไปหน่อย และยิ่งถ้าไม่กำหนดเป็นตัวเลขให้ชัดลงไป บางเดือนอาจเผลอใช้จ่ายจนหมด จนไม่เหลือออมเลยก็ได้
แล้วตัวเลขหรือสัดส่วนเงินออมเท่าไรที่เรียกว่าเหมาะสม ไม่มากเกินไปจนเบียดเบียนการใช้จ่ายในปัจจุบัน และไม่น้อยเกินไปจนกระทั่งถึงวันที่ต้องนำเงินออมมาใช้จ่าย แล้วพบว่า เงินไม่พอใช้ ต้องนึกเสียใจว่า “รู้งี้” เก็บเงินให้มากกว่านี้อีกหน่อยก็ดี ลองมาดูกันเลย
เกษียณต้องใช้เงินเท่าไร
ก่อนอื่นต้องรู้ว่า เมื่อเกษียณแล้ว ใช้เงินเท่าไร เพื่อรู้ว่าต้องออมเงินเท่าไรต่อเดือน
สำหรับบทความนี้จะขออ้างอิงค่าใช้จ่ายหลังเกษียณจากการสำรวจของ K-Expert ซึ่งพบว่า ค่าใช้จ่ายประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายในบ้านอย่างค่าน้ำค่าไฟ และค่าหมอสำหรับเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ จะตกเดือนละ 15,500 บาท หรือคิดคร่าวๆ ใช้จ่ายประมาณวันละ 500 บาท
แต่เงินที่ใช้หลังเกษียณต้องไม่ลืมบวกเงินเฟ้อเข้าไปด้วย เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า ราคาสินค้าข้าวของต่างๆ ในวันนี้กับในอนาคตย่อมไม่เท่ากัน (ลองย้อนเวลากลับไปสัก 20 ปีที่แล้ว ก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งราคา 20-25 บาท แต่วันนี้ ถ้าจะซื้อก๋วยเตี๋ยวชามเดิม ต้องใช้เงินอย่างน้อยๆ 40-50 บาท)
ดังนั้น ค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่รวมเงินเฟ้อ และเงินก้อนที่ต้องเตรียมไว้ ณ วันเกษียณ เป็นเท่าไรนั้น สามารถดูได้จากตารางด้านล่าง
หมายเหตุ: สมมติอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยปีละ 3% และหลังเกษียณสร้างผลตอบแทนให้กับเงินออมได้เท่ากับอัตราเงินเฟ้อหรือ 3% ต่อปี
การคำนวณเงินก้อน ณ วันเกษียณ ขอใช้วิธีอย่างง่าย คือ สมมติให้หลังเกษียณสร้างผลตอบแทนให้กับเงินออมได้เท่ากับอัตราเงินเฟ้อ เมื่อรู้ว่าหลังเกษียณใช้เดือนละเท่าไร ก็คูณกับจำนวนเดือนที่คาดว่าจะอยู่หลังเกษียณได้ออกมาเป็นเงินก้อนที่ต้องเตรียมไว้
ยกตัวอย่าง ถ้าตอนนี้อายุ 30 ปี ต้องการมีเงินใช้หลังเกษียณเดือนละ 15,500 บาท ถ้าวางแผนเกษียณเมื่ออายุ 60 ปี เงิน 15,500 บาท จะมีมูลค่าประมาณ 37,623 บาทในอีก 30 ปีข้างหน้า แล้วถ้าใช้จ่ายหลังเกษียณ 25 ปี หรือ 300 เดือนเท่ากับว่า เงินก้อนที่ต้องเตรียมไว้ ณ วันเกษียณ จะเท่ากับ 37,623 x 300 = 11.3 ล้านบาท
ออมเงินแค่ไหน ถึงจะเพียงพอ
ตัวเลขหรือสัดส่วนเงินออม จะขึ้นอยู่กับ 3 องค์ประกอบหลัก คือ (1) รายได้ต่อเดือน (2) ระยะเวลาออมเงิน และ (3) อัตราผลตอบแทน
สำหรับรายได้ต่อเดือนนั้น K-Expert ต้องขอขอบคุณข้อมูลของผู้เข้าร่วมสัมมนา Workshop ที่ K-Expert Center จำนวน 500 ท่าน ที่ให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม โดยจะพบว่า รายได้มักสัมพันธ์กับอายุ (อาจมีบางท่านที่ความสามารถสูง รายได้จึงสูงกว่าค่าเฉลี่ยจากผลสำรวจได้)
ที่มา: ผลสำรวจผู้เข้าร่วมสัมมนา Workshop ที่ K-Expert Center จำนวน 500 ท่าน ณ มกราคม 2560
ทั้งนี้ อัตราการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนที่ใช้คำนวณ อ้างอิงจากผลสำรวจบริษัท วิลลิส ทาวเวอร์ส วัทสัน ประเทศไทย ที่คาดว่า ปี 2561 อัตราเงินเดือนในประเทศไทยจะปรับขึ้นเฉลี่ย 5.5%
เมื่อคำนวณจำนวนเงินออมต่อเดือน ณ ระดับผลตอบแทน 5% ต่อปี โดยเก็บเงินทุกเดือนจนถึงอายุเกษียณที่ 60 ปี พบว่า สัดส่วนเงินออมของรายได้ต่อเดือนที่ทำให้บรรลุเป้าหมายเก็บเงินเกษียณ ปัดเป็นตัวเลขกลมๆ ได้ดังนี้
เริ่มออมก่อนอายุ 40 ปี ควรออม 20% ต่อเดือน
เริ่มออมเมื่ออายุ 40-44 ปี ควรออม 30% ต่อเดือน
เริ่มออมเมื่ออายุ 45-48 ปี ควรออม 40% ต่อเดือน
เริ่มออมเมื่ออายุ 49-50 ปี ควรออม 50% ต่อเดือน
จากการคำนวณสัดส่วนการออมเงินต่อเดือนตามช่วงอายุ พอจะสรุปได้ว่า ยิ่งออมเร็ว ยิ่งมีระยะเวลาออมเงินที่นานขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนออมเงินต่อเดือนไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับการออมเงินเมื่อตอนอายุมากขึ้น ที่ต้องเก็บเงินด้วยสัดส่วนที่สูงขึ้น
ดังนั้น ถ้าออมเงินตั้งแต่อายุยังไม่มาก (ไม่เกิน 40 ปี) เมื่อเงินเดือนออก หรือมีรายได้เข้ามา ก็ออมก่อนเลยอย่างน้อย 20%
สำหรับการลงทุนให้ได้รับผลตอบแทน 5% ต่อปี ต้องบอกว่า ไม่ได้ยากเกินไป เพียงแบ่งเงินลงทุนในหุ้น และตราสารหนี้ อย่างเหมาะสม เช่น ลงทุนในหุ้นสัก 30% ที่เหลืออีก 70% ลงทุนในตราสารหนี้ หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ การลงทุนในกองทุนผสมที่ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง
การออมเงินไม่ใช่เรื่องยาก หากเรารู้ว่าเป้าหมายการออมของเราคืออะไร เพียงแบ่งเงินสักส่วนหนึ่งของเงินเดือน โดยอดทนไม่ใช้จ่ายเงินจนหมดในวันนี้ มาเก็บสะสมไว้ เพื่อบั้นปลายชีวิตที่ไม่ต้องลำบาก เพราะเมื่อถึงเวลานั้น คงไม่สามารถย้อนเวลากลับมาออมเงินให้มากขึ้นได้แล้ว
ขอบคุณที่มา ddproperty.com
ตามส่อง Best Places ปลายฝน ต้นหนาว สำหรับนักเที่ยวสายชิลล์
หลายคนอาจไม่ทราบว่า ปลายฝนต้นหนาว หรือ ช่วงเวลาประมาณต้นเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนตุลาคม เป็นฤดูกาลที่น่าเที่ยวสุดๆ เพราะสภาพอากาศดี ฝนบางๆ ลมเย็นๆ ต้นไม้เขียวชอุ่ม ที่สำคัญยังไม่เข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ รวมทั้งค่าตั๋วเครื่องบินจึงยังไม่สูงปรี๊ดจนน่าใจหาย
วันนี้ rabbit finance มีสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ ทั่วประเทศไทยที่เหมาะกับช่วงปลายฝนต้นหนาวมาฝากกันถึง 7 แห่ง รับรองว่าควรค่าแก่การยื่นจดหมายลางาน 2-3 วัน เพื่อตามไปเก็บความประทับใจ ที่สำคัญแพลนการเที่ยวของทริปนี้จะไม่ทำให้กระเป๋าตังค์ของคุณฉีกอย่างแน่นอน!
ปักหมุด 7 สถานที่ยอดฮิตสำหรับสายชิลล์
1.ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย
ดอยแม่สลอง ดินแดนแห่งไร่ชาที่ใครๆก็ใฝ่ฝันอยากไปเดินชิลล์ๆ ถ่ายรูปสวยๆ กับฉากเขียวชอุ่มของต้นไม้นานาชนิด ดอยแม่สลองสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,200 เมตร อากาศเย็นสบายตลอดปี กิจกรรมเด็ดที่ไม่ควรพลาดคือการเดินตามชาวบ้านไปเก็บยอดชา แล้วนั่งจิบชาอุ่นๆ สู้กับฟ้าฝนเย็นชุ่มฉ่ำ
นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรีเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมชมวิวสวยๆ ได้อีกด้วย โดยเฉพาะช่วงปลายฝนแบบนี้ ต้นไม้ดอกไม้แข่งกันออกดอกสวยๆ ให้ฟินกันตลอดสองข้างทางเลยล่ะค่ะ
2.ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่
ดอยอ่างขาง หรือ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร เป็นพื้นที่กลางหุบเขา มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ยิ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ เพื่อนๆ สามารถตื่นมาชมทะเลหมอกสุดตระการตาได้ทุกวัน
นอกจานี้บนดอยอ่างขางยังมีสถานที่ที่น่าสนใจเยอะแยะมากมาย อาทิ จุดชมวิวม่อนสน, หมู่บ้านหลวง, สวนดอกไม้ 80 ปี, สวนบ๊วย, แปลงผักผลไม้เมืองหนาว, สวนกุหลาบอังกฤษ, ไร่ชา 2000 และสวนสตรอเบอร์รี่บ้านนอแล รับประกันความฟินเต็มพิกัด
3.ดอยเสมอดาว จ.น่าน
ดอยเสมอดาว เป็นอีกหนึ่งยอดดอยที่คนชอบดูดาวต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต ดอยเสมอดาวสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 888 เมตร สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา มีทั้งป่าไม้เขียวขจีเบื้องล่าง รวมทั้งแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดน่าน
ดอยเสมอดาวเป็นจุดกางเต๊นท์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีบรรยากาศดีตลอดทั้งวัน เริ่มตั้งแต่ตื่นเช้ามาดูทะเลหมอกขาวเนียน รอพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาทักทาย ช่วงบ่ายก็นั่งทอดสายตาชมธรรมชาติได้อย่างเพลิดเพลิน พอตกกลางคืนก็นอนดูดาวสุดโรแมนติก
4.เขาพะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี
เขาพะเนินทุ่ง เป็นยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,207 เมตร เพื่อนๆ สามารถชมวิวเทือกเขาน้อยใหญ่ที่เรียงรายสลับซับซ้อนได้อย่างสวยงาม แนะนำให้มานอนกางเต็นท์และนั่งล้อมวงผิงกองไฟอุ่น แล้วค่อยตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกที่ปกคลุมทั้งหุบเขา พร้อมจิบกาแฟเข้มๆ
ยิ่งเป็นช่วงปลายเดือนกันยายนที่ยังมีฝนตกประปราย เพื่อนๆ จะได้เห็นทะเลหมอกสีขาวหนาแน่นเป็นพิเศษ ตัดกับสีเขียวเข้มของต้นไม้ ที่สำคัญยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปฟอกปอดให้สดชื่นอีกด้วย การเดินทางขึ้นไปเขาพะเนินทุ่งก็ค่อนข้างสะดวก ไม่ลาดชันจนน่ากลัว
5.ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน
ปางปุ๋ง หรือชื่อเต็มๆ โครงการพระราชดำริปางตอง 2 ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เดิมเป็นพื้นที่ติดชายแดนที่อันตราย เพราะมีทั้งการขนส่งยาเสพติดและกองกำลังติดอาวุธคอยดักซุ่ม ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงมีพระราชดำริให้พัฒนาความเป็นอยู่และส่งเสริมอาชีพ จนตอนนี้ปางอุ๋งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมไปแล้ว
สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากมาเที่ยวปางอุ๋ง เราขอแนะนำเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้เลยค่ะ เพราะอากาศเย็นสบาย มีหมอกบางๆ ให้เห็นตั้งแต่เช้ามืดจนถึงช่วงสายๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปพักค้างคืนที่ปางอุ๋งเพื่อซึมซับบรรยากาศ จะกางเต๊นท์นอนชิลล์ๆ หรือพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านก็ฟินไม่น้อย
6.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
เขาค้อก็เป็นอีกที่เที่ยวยอดฮิตในช่วงปลายฝนต้นหนาว และบูมสุดๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะมีที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ป่าเขาเขียวขจี อีกทั้งยังมีวัดสวยๆ คาเฟ่น่ารัก และที่พักน่าเช็คอินเอาใจนักท่องเที่ยวผุดขึ้นเรื่อยๆ การเดินทางไปยังเขาค้อก็หลากหลาย และสะดวกสบายขึ้นกว่าสมัยก่อน
หากเพื่อนๆ ได้ลองไปเที่ยวเขาค้อในช่วงปลายฝน ก็จะตื่นเช้ามาพบภาพหมอกบางๆ ปกคลุมทั่วทั้งภูเขา จากนั้นก็ไปแวะทานอาหารเช้าสไตล์ชาวเขาเอาแรงกันหน่อย นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ที่นักเที่ยวต้องตามเก็บอีกเพียบ อาทิ วัดผาซ่อนแก้ว ทุ่งกังหันลม พระตำหนักเขาค้อ และอนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ บอกเลยว่าสนุกครบรสแน่นอน
7.เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี
ปิดท้ายกับที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวทางภาคใต้กันบ้าง นั่นคือ เขื่อนเชี่ยวหลาน นั่นเอง นี่เป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อน อากาศเย็นสบาย ต้นไม้ป่าเขาเขียวชอุ่ม ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝน ตื่นเช้ามาเจอทะเลหมอกฟุ้งๆ ได้ทุกวัน
เขื่อนเชี่ยวหลานมีที่พักเป็นแพลอยน้ำให้เลือกเยอะแยะมากมาย พร้อมกิจกรรมทางธรรมชาติที่หลากหลาย อาทิ นั่งเรือชาวบ้านออกไปชมวิว กิจกรรมเดินป่า ล่องแพไม้ไผ่ เล่นน้ำเขื่อน รวมทั้งออกไปตกปลาชิลล์ๆ แบบวิถีชาวบ้าน เชื่อว่าจะเป็นสถานที่บำบัดความเครียดให้เพื่อนๆ ได้อย่างดี
ขอบคุณที่มา rabbitfinance.com
เปิดตำรา! เคล็ดลับง่ายๆ สร้างกำลังใจ ได้ด้วยตัวเอง
ทำงานผิด สอบตก โดนอาจารย์ว่า โดนหัวหน้าด่า ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย มันเหนื่อยใจและเหนื่อยกายเหลือเกิน เกิดอาการท้อแท้ ถ้าคุณเจอเหตุการณ์แบบนี้ อย่าปล่อยให้ชีวิตตัวเองอมทุกข์ค่ะ เรามาเปลี่ยนตัวเองด้วยการ สร้างกำลังใจ ให้ตัวเองไปพร้อมกับกันค่ะ
เริ่มต้นที่เลือกมองมุมที่ต่างออกไป
- นึกถึงความสุข
ให้นึกถึงภาพความสุข เมื่อเราได้เลื่อนตำแหน่ง หรือลดน้ำหนักได้สำเร็จ หรือนึกภาพที่ให้เห็นผลลัพธ์ดีๆ ที่ได้จากการบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จแทนที่จะท้อแท้ ให้เห็นว่าเป้าหมายอยู่ใกล้เเค่เอื้อม
- นึกถึงแต่ความสำเร็จ
อย่าคิดถึงแต่ความล้มเหลว หรือความยากลำบาก เพราะมันจะทำให้คุณท้อใจหนักกว่าเดิม ให้นึกถึงแต่ความสำเร็จและการกระทำที่จะนำเราไปสู่การบรรลุเป้าหมาย
- มองความพ่ายแพ้เป็นโอกาสในการเรียนรู้
คนเราต่างก็เคยผิดพลาดกันทั้งนั้น แต่ให้เราคิดไว้เสมอว่า ถึงแม้เราจะผิดพลาด ไม่เป็นไปตามที่หวัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราล้มเหลว ความผิดพลาดจะเป็นโอกาสให้เราได้เรียนรู้ ปรับปรุงตัวเอง แก้ไขจุดบกพร่อง และป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก
- ตั้งเป้าหมายตามความเป็นจริง
เป้าหมายที่ยากจะทำให้เราท้อแท้ และหมดกำลังใจ ดังนั้น เราควรตั้งเป้าหมายที่เราอยากทำให้สำเร็จไปตามเป้าหมายและความสามารถของเรา ให้คิดไว้เสมอว่าต้องใช้เวลากว่าจะสำเร็จได้
ปรับเปลี่ยนทัศนคติ ทำให้เราเป็นคนคิดบวก
- มองโลกในแง่ดีไว้ก่อน
มองโลกในแง่ดี และเชื่อว่าตัวเองทำได้ คือการสร้างกำลังใจให้ตัวเอง ทำในสิ่งที่มุ่งหวังได้สำเร็จ ถ้าได้ลงมือทำทีละเล็กละน้อย และมุ่งมั่นทำไปเรื่อยๆ ต้องสำเร็จแน่นอน
- ละความโกรธ
โกรธเพราะทำอะไรผิดพลาด บั่นทอนจิตใจตัวเอง และรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติพอ ถึงแม้ความโกรธเราไม่สามารถทิ้งได้หมดสิ้น พยายามหาวิธีคลายเครียด เพื่อให้ความโกรธหมดไป
- คลายความกลัว
ความกลัวก็เหมือนความโกรธ ทำให้เรารู้สึกท้อแท้และไม่มีความสุข ถ้าเราเกิดกลัวที่จะล้มเหลว หรือทำเป้าหมายไม่สำเร็จ เราจะไม่กล้าทำอะไรเลย ให้คุณหาวิธีคลายความกลัว คลายความเครียด เอาชนะตัวเอง สร้างกำลังใจ กล้าที่จะเผชิญกับความยากลำบาก
- อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
การเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อน พี่น้อง หรือ เพื่อนร่วมงาน จะก่อให้เกิดความวิตกกังวล และความท้อแท้ คิดว่าเราทำได้แย่กว่าเขา ทางที่ดีอย่าไปเทียบกับใครให้เราทำตัวเองให้ดีที่สุด
สร้างกำลังใจ ให้ตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก
- หาเวลาออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้เราหายจากโรคซึมเศร้า และทำให้อารมณ์ดีขึ้น พยายามหาเวลาออกกำลังกายประมาณ 20 นาทีทุกวัน ไม่ว่าจะเดินเล่น วิ่ง เล่นกีฬา ก็ช่วยคุณได้ค่ะ
- หาที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำ
ถ้ารู้สึกท้อแท้จนไม่สามารถขุดตัวเองขึ้นมาได้ ให้เราลองหาที่ปรึกษา ขอคำแนะนำจากเพื่อนร่วมงาน พ่อแม่ หรือเพื่อนสนิท โดยผู้แนะนำควรเป็นคนมองโลกในแง่ดี เพื่อสร้างกำลังใจให้กับคุณ ถ้ามันเกินจะทน การเข้าพบจิตแพทย์ ก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนะคะ
- เขียนบันทึกทุกวัน
การบันทึกเป้าหมาย ความล้มเหลว และความรู้สึกจะช่วยให้เรารู้สึกถึงความก้าวหน้าของตัวเอง วันไหนเหนื่อย วันไหนท้อแท้ ให้ลองหยิบบันทึกมาอ่าน รับรองสร้างกำลังใจให้คุณได้แน่นอนค่ะ
- ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสำเร็จ
เมื่อเราทำได้ตามเป้าหมายสำเร็จ และพอใจกับผลงานของตัวเอง ให้เราหารางวัลให้ตัวเอง อย่างเช่น ออกไปกินอาหารมื้อพิเศษ ซื้อของให้ตัวเอง หรือวางแผนพักผ่อน ไม่ว่าจะเป้าหมายของคุณจะเล็กหรือใหญ่ ถ้าทำสำเร็จตามเป้าหมาย อย่าลืมให้รางวัลตัวเองนะคะ
- พบปะคุยกับเพื่อนที่มีความคิดคล้ายกัน
นอกจากหาที่ปรึกษาแล้ว ให้คุณออกไปคุยกับเพื่อนที่มีความคิดเหมือนคุณ เพราะคุณจะได้ความคิดดีๆ และกำลังใจที่เพื่อนให้คุณ รวมถึงได้ความคิดหรือไอเดีย ที่เราอาจคิดไม่ถึง แต่อย่าคบเพื่อนที่ดูถูกเป้าหมายของเราและพยายามกดเราให้ตกต่ำนะคะใครที่กำลังท้อแท้ หมดกำลังใจ ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน วิธีเปลี่ยนตัวเองง่ายๆ ก็คือการสร้างกำลังใจให้กับตัวเองนะคะ เมื่อไหร่ที่เรามีกำลังใจ สิ่งที่เราทำอยู่ตรงหน้า จะสำเร็จไปได้ด้วยดี หรือหากใครกำลังขาดกำลังใจ หมดหนทาง อย่างน้อยคุณก็มี rabbit finance คอยอยู่ข้างๆ เสมอนะคะ สู้ๆ ค่ะ ?
ขอบคุณที่มา rabbitfinance.com
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2561
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 18,600.00 | 18,500.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 19,100.00 | 18,161.68 | 1,198.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 18,813.56 | 1,241.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 16,345.51 | 1,078.20 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 14,529.34 | 958.40 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,171.24 | 539.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,352.04 | 419.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2561
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 31.95 | 31.95 | 31.95 | 31.95 | 31.95 | 31.95 | 31.95 | 31.95 | 31.95 | 31.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 31.68 | 31.68 | 31.68 | 31.68 | 31.68 | 31.68 | 31.68 | 31.68 | 31.68 | 31.68 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 28.94 | 28.94 | 28.94 | 28.94 | 28.94 | – | 28.94 | 28.94 | 28.94 | 28.94 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 22.34 | 22.34 | – | – | – | – | – | 22.34 | 22.34 | – |
เบนซิน 95 | 39.06 | – | – | – | 39.51 | – | 39.56 | 39.36 | 39.16 | 39.36 |
ดีเซล | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 32.89 | 33.76 | 33.76 | 33.76 | 33.76 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.13 | 15.13 | – | – | – | – | – | – | – | – |