กลยุทธ์ดึงงานศิลปะ ปั้นคอนโดฯ ลักชัวรี
การออกแบบคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรีในปัจจุบัน นอกจากการแข่งขันในเรื่องทำเลที่ต้องเป็น “ไพร์ม แอเรีย” เป็นที่สุดจริงๆ แล้ว การดีไซน์เหนือระดับยังดึงดูดให้กลุ่มคนกำลังซื้อต้องซื้อเก็บไว้ ซึ่งในปัจจุบันมีกลุ่มนักซื้อคอนโดมิเนียมที่มองมากกว่าแค่เรื่องการอยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน แต่ซื้อเพื่อสะสม เก็บไว้เป็นหนึ่งในไอเท็มที่ต้องมี ซึ่งในหลายโครงการลักซ์ชัวรีระดับโลก จะต้องนำยูนิตที่ดีที่สุดให้กับคนกลุ่มนี้เลือกก่อนเป็นกลุ่มแรก
หนึ่งในกลยุทธ์ที่ถูกนำมาใส่ไว้ในดีไซน์เหนือระดับของตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี นั่นก็คือ ศิลปะ ความงดงาม ล้ำค่าของงานศิลปะที่อาจจะหาซื้อไม่ได้ เป็นสิ่งที่ถูกนำมาไว้ในแบบ “เอ็กซ์คลูซีพ” ให้กับคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ โดยงานศิลปะถือได้ว่าเป็นงานที่มีคุณค่าทางจิตใจ เป็นสิ่งที่ช่วยจุดประกายความสร้างสรรค์ให้กับชีวิต ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สงบ ซึ่งหลายคนได้แรงบันดาลใจที่ดีจากการเสพงานศิลปะต่างๆ
ศิลปะจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตใครหลายคน โดยงานศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของกลุ่มคนมีกำลังซื้อสูงมาก เพราะนอกจากจะสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับการใช้ชีวิตแล้ว งานศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงย่อมสร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้ที่ครอบครอง จึงจะเห็นว่าบ้านของกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อจำนวนไม่น้อยนิยมนำงานศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงประดับเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งภายในบ้าน
เช่นเดียวกัน ในคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี ก็นำวิถีชีวิตความต้องการเสพศิลปะของคนกำลังซื้อมาใส่ไว้ โดยนำผลงานศิลปะมาตกแต่งตั้งแต่บริเวณล็อบบี้ พื้นที่ส่วนกลางต่างๆ จนถึงห้องชุดบางห้องที่นำเสนอในการ Fully Fitted ก็มีภาพงานศิลปะจากศิลปินดังไปตกแต่งไว้ ซึ่งคนที่เป็นเจ้าของห้องชุด หรืออยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมเหล่านี้ ก็จะมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในเจ้าของผลงานชิ้นเอกจากศิลปินชื่อดังและส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับคนที่เป็นเจ้าของด้วย
โครงการวิตโตริโอ สุขุมวิท 39 พัฒนาโดยบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ก็นำแนวคิดดังกล่าวมาใช้ โดยเริ่มจากงานออกแบบที่นำแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมอันเลื่องชื่อแห่งเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี การเลือกใช้หินอ่อน ‘Palissandro Bluette’ จากประเทศอิตาลีมารังสรรค์พื้นที่ส่วนกลางของโครงการอย่างมีศิลปะ พร้อมกับคัดเลือกศิลปะหายากที่มีมูลค่าสูงของ 9 ศิลปินชาวไทยที่โด่งดังในต่างประเทศ อาทิ อาจารย์เขียน ยิ้มศิริ อาจารย์นุกูล ปัญญาดี ซึ่งเฉพาะมูลค่างานศิลป์นั้นไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท มาตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางภายในตัวอาคาร พร้อมกับดึงนักสร้างสรรค์งานคราฟต์ระดับโลกอย่างอเล็กซานเดอร์ ลามอนต์ มาออกแบบลักซ์ชัวรีเฟอร์นิเจอร์ ดีไซน์พิเศษให้กับวิตโตริโอ สุขุมวิท 39
จึงไม่แปลกที่โครงการวิตโตริโอ สุขุมวิท 39 จะคว้ารางวัล Best Condo Interior Design (Bangkok) และรางวัล Best Condo Development (Thailand) จากงาน Thailand Property Awards 2018 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา และในงานเดียวกัน บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ยังได้รับรางวัลในส่วนของบริษัทเอง อีก 3 รางวัล ได้แก่ รางวัล Special Recognition for Design and Construction รางวัล Best Developer รางวัล Special Recogonition in CSR และรางวัล Special Recognition in Sustainable Development
ขอบคุณที่มา ddproperty.com
เมื่อเสียงระฆัง…ดังสะเทือนถึงการปล่อยเช่าคอนโดฯ ให้ชาวต่างชาติ
จากการร้องเรียนเรื่องเสียงระฆังรบกวนการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง สะเทือนไกลไปถึงการตรวจสอบการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมให้กับชาวต่างชาติอย่างผิดกฎหมาย ทำให้ผู้ที่กำลังปล่อยเช่า หรือกำลังมีความคิดที่จะซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อนำมาปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติ เพราะมองว่าเป็นการลงทุนที่หอมหวานและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการปล่อยเช่าคนไทยด้วยกันเอง มาถึงต้อนนี้อาจจะต้องหนาว ๆ ร้อน ๆ ไปตาม ๆ กัน
สถานการณ์กลุ่มชาวต่างชาติในไทย
จากสถิติของสำนักงานบริหารแรงงานต่างด้าว (เดือนมกราคม 2561) พบว่า มีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานและพำนักอยู่ในประเทศไทยถึง 2.15 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเกือบเท่าตัว โดยชาติที่เข้ามาทำงานมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน และฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 25% ต่อประเทศต่อปี ทั้งนี้ จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (เดือนกันยายน 2560) พบว่า ชาวต่างชาติส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ใน 3 ทำเลหลัก ได้แก่ สุขุมวิทถึง 40% รัชดา-พระราม 9 อยู่ที่ 16% และฝั่งธนบุรี 9%
ขั้นตอนการปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติ
จากจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย ทำให้เกิดดีมานด์ด้านที่อยู่อาศัยจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสในการปล่อยเช่าสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของคอนโดมิเนียม ซึ่งการปล่อยเช่าให้ถูกต้องตามกฎหมายมีขั้นตอนดังนี้
แจ้งการเข้าพักอาศัยภายใน 24 ชั่วโมง
พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ระบุไว้ว่า เจ้าบ้าน เจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหสถาน หรือผู้จัดการโรงแรมซึ่งรับคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเข้าพักอาศัย จะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ที่บ้าน เคหสถาน หรือโรงแรมนั้นตั้งอยู่ “ภายใน 24 ชั่วโมง” นับแต่เวลาที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ถ้าท้องที่ใดไม่มีที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองตั้งอยู่ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ณ สถานีตำรวจท้องที่นั้น ๆ
ถ้าเจ้าของห้องรายใดไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายได้กำหนดให้มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ในกรณีธุรกิจโรงแรม ผู้จัดการโรงแรมจำเป็นต้องแจ้งที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองเช่นกัน หากไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 10,000 บาท
สถานที่รับแจ้ง
- หากคอนโดมิเนียมตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ให้แจ้งที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ซ.แจ้งวัฒนะ 7 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
- ในกรณีที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด ให้แจ้ง ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในเขตพื้นที่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งสามารถแจ้งด้วยตนเอง หรือแจ้งผ่านไปรษณีย์ และอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์สำนักงานตรวจเข้าเมือง
เอกสาร
ผู้ปล่อยเช่าต้องแจ้งข้อมูลและยื่นเอกสารเกี่ยวกับผู้เช่า (ชาวต่างชาติ) ให้เจ้าหน้าที่นิติบุคคลเก็บไว้เป็นหลักฐานเสมอ ตามระเบียบของนิติบุคคลอาคารชุดที่ 002/2555 ว่าด้วยเรื่อง การใช้ประโยชน์ห้องชุดสำหรับบริการเช่าพักอาศัย โดยเอกสารประกอบการเช่าพักอาศัยกรณีปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติ มีดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวคนต่างด้าว หรือหนังสือเดินทาง และสำเนาใบสำคัญแสดงถิ่นที่อยู่ ของผู้เช่าพักอาศัยและบริวารในห้องชุด
- สำเนาใบรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยที่กองตรวจคนเข้าเมืองรับแจ้งเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่นิติบุคคลสามารถตรวจสอบได้กรณีผู้เช่ามีพฤติกรรมน่าสงสัย
- กรณีผู้เช่าเป็นบุคคลต่างด้าว จะเข้าพักได้ไม่เกิน 3 คน/1 ห้องชุด ทั้งนี้ เจ้าของร่วมต้องส่งข้อมูลผู้เช่าที่เป็นปัจจุบันให้นิติบุคคล และเพื่อความสงบปลอดภัยนิติบุคคลจะทำการตรวจสอบเป็นประจำทุก 6 เดือน
แน่นอนว่าการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมให้กับชาวต่างชาติถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง แต่สิ่งสำคัญคือการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังช่วยเรื่องความปลอดภัยของทรัพย์สินของเจ้าของห้องด้วยเช่นกัน
ขอบคุณที่มา ddproperty.com
มีร้อนๆ หนาวๆ! กรมศุลฯ เพิ่มเครื่องเอ็กซเรย์ จ่อจับแบรนด์เนมเลี่ยงภาษี
- กรมศุลกากรจึงได้เตรียมสั่งซื้อเครื่องเอ็กซเรย์สินค้าเพิ่มเติมอีก 2 เครื่อง หวังตรวจสอบสินค้าเลี่ยงภาษี ที่ปัจจุบันรอดพ้นการตรวจสอบมาเป็นจำนวนมาก อาทิ สินค้าแบรนด์เนม ยาเสพติด และชิ้นส่วนสัตว์ป่า เป็นต้น
- กรมศุลกากรกำลังพัฒนาระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกในเสียภาษีนำเข้าจากอีคอมเมิร์ซ โดยจะเริ่มชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด ระยะแรกช่วงต้นปี 2562
กรมศุลฯ เข้มงวด สินค้าเลี่ยงภาษี
ล่าสุดความคืบหน้าจากทางกรมศุลากรพบว่า ปัจจุบันมีความพยายามเลี่ยงภาษีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมที่มีการสำแดงราคาเท็จ แจ้งราคาต่ำกว่า 1,500 บาท รวมถึงสินค้าที่เป็นยาเสพติด และสินค้าต้องห้ามว่าด้วยอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) เป็นต้น กรมศุลกากรจึงได้เตรียมสั่งซื้อเครื่องเอ็กซเรย์สินค้าเพิ่มเติมอีก 2 เครื่อง ที่จากเดิมมีเพียง 1 เครื่อง
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ระบุว่า การนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายในชั้นศุลกากรกับ 3-4 ประเภท เช่น สินค้าเกษตรบางประเภท สินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าต้องห้ามของไซเตส แต่เดิมหากมีการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายและถูกจับกุม ผู้ทำผิดก็จะยอมเสียค่าปรับและระงับคดีในชั้นศุลกากร จากนั้นก็จะมากระทำผิดเช่นเดิม ดังนั้นกรมศุลกากรจึงออกกฎหมายใหม่เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำซากเป็นคร้ังที่ 2 จะต้องส่งฟ้องดำเนินคดีทางกฎหมายต่อทันที จะเสียค่าปรับอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
ทุกวันนี้สินค้าผิดกฎหมายเล็ดลอดออกมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมที่มีการสำแดงราคาเท็จเพื่อหวังหลีกเลี่ยงภาษี เพราะตามกฎหมายแล้วระบุว่า สินค้าที่มีราคาเกิน 1,500 บาทต้องเสียภาษี รวมถึงยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอื่น ๆ ด้วย
ชอปปิ้งออนไลน์ก็ต้องเสียภาษี
ยอดสั่งซื้อสินค้าอีคอมเมิร์ซของคนไทยขยายตัวเพิ่มอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสินค้าแบรนด์เนมชิ้นละหลายหมื่นบาทที่จัดส่งเข้ามา เช่น แว่นตา กระเป๋า รองเท้า เป็นต้น ซึ่งในแต่ละวันมีการสั่งนำเข้ามากกว่า 1 แสนรายการ และพบว่ามีความพยายามหลบเลี่ยงภาษีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมากกว่าครึ่งมักแจ้งเป็นสินค้าราคาต่ำกว่า 1,500 บาทเพื่อหลบภาษี ดังนั้นกรมศุลกากรจึงต้องเพิ่มระบบตรวจสอบให้เข้มข้นมากขึ้น
อธิบดีกรมศุลกากร ได้บอกเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้กำลังพัฒนาระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกในเสียภาษีนำเข้าจากอีคอมเมิร์ซ โดยระยะแรกช่วงต้นปี 2562 จะเริ่มชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดที่ส่งมาพร้อมกับใบแจ้งรับสินค้าได้เลย จากนั้นให้นำใบรับพร้อมข้อมูลการจ่ายภาษีมารับของที่ไปรษณีย์ได้ หลังจากนั้นช่วงเดือนเมษายน 2562 จะสามารถตัดรอบรายการที่เสียภาษีได้ผ่านระบบการชำระได้ทันที และจะนำของมาส่งให้ถึงบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปจ่ายภาษีหรือไปรับของที่ไปรษณีย์หลักสี่
สำหรับปีงบประมาณ 2562 กรมศุลกากร ตั้งเป้าหมายเก็บภาษี 1.11 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากที่ผ่านมามีการเร่งประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีในหลายด้าน ขณะที่ปีที่ผ่านมา (2561) จัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 1.08 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กระทรวงการคลังปรับลดลงมาจาก 1.1 แสนล้านบาท เนื่องจากมีการผู้นำเข้าใช้สิทธิอัตราภาษีนำเข้าต่ำ จากการข้อตกลงเขตเสรีการค้าอาเซียน (อาฟต้า)
One Day Trip : ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา วันเดียวแบบไม่งง
ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา… แล้ววัดไหนก่อน วัดไหนหลัง? หิวๆ แวะกินร้านอะไร? นี่เราขับรถวกไปวนมารึเปล่า? แล้ววันนี้จะทันครบ9 วัดไหมเนี่ย คุณพระช่วย?!!
ถ้าคุณมีคำถามเหล่านี้คาใจ “เต่าตาหวาน” จะพาไปเดินสายไหว้พระ 9 วัดที่อยุธยา ทำบุญ เสริมสิริมงคล ให้อิ่มเอมใจ แบบไม่ต้องงกันอีกต่อไป ปักหมุดฟันธงชัดๆ กันไปเลย ใครเดินทางมาจากทิศไหน ไกลเท่าไหร่ ลองคำนวนเวลากันดูนะครับ ควรมาถึงอยุธยาไม่เกิน 9 โมงเช้าจะดีที่สุด ป่ะ เริ่มกันเลย
1 วัดใหญ่ชัยมงคล
9:00 น. มาถึงวัดใหญ่ชัยมงคล ปัดหมุดจุดแรกกันที่วัดใหญ่ฯ อยู่นอกเกาะเมือง หาง่าย ใกล้สุด ควรแวะเป็นจุดแรก หากขับรถเข้ามาจากถนนสายเอเชีย เจอวงเวียนวัดสามปลื้มที่มีเจดีย์อยู่ตรงกลาง ให้เลี้ยวมาทางซ้ายครับ ประมาณ 900 เมตรก็จะถึงวัดใหญ่ชัยมงคลอยู่ทางซ้ายมือ ไหว้พระพุทธชัยมงคลในพระอุโบสถ ไหว้พระนอนที่วิหารพระพุทธไสยาสน์ ขึ้นไปไหว้พระรอบๆ พระเจดีย์ชัยมงคล ปิดท้ายด้วยการสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เสร็จสรรพด้วยเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง ถ้าเริ่มหิวถือว่าเป็นลางดี เพราะมาวัดใหญ่ฯ ทั้งที ต้องลอง “ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก” หน้าวัดใหญ่ฯ ไม่ต้องขับรถไปไหน เดินข้ามถนนมาทานมื้อเช้ากันเลย รวมเวลาที่อยู่ตรงนี้ 1 ชั่วโมง
2 วัดพนัญเชิงวรวิหาร
10:00 น. เดินทางสู่วัดพนัญเชิงวรวิหาร ใกล้กันแค่ 1.5 กิโลเมตร ออกจากวัดใหญ่ชัยมงคลเลี้ยวซ้ายขับรถลึกเข้ามาตามถนนเดิม (ถ้าได้ข้ามทางรถไฟแปลว่ามาถูกทางแล้ว) แล้วเราก็จะพบเป้าหมายที่ 2 ของเรา วัดพนัญเชิงวรวิหาร อยู่ทางขวามือ ป้ายใหญ่ชัดเจน ไหว้พระพุทธไตรรัตนนายกหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงพ่อโต รับพรจากพระสงฆ์ รับสายสิญจน์ รับการพรมน้ำมนต์ ไหว้ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก และให้อาหารปลาบริเวณท่าน้ำเป็นการทำทาน
3 วิหารพระมงคลบพิตร
10:30 น. เดินทางสู่วิหารพระมงคลบพิตร ห่างจากวัดพนัญเชิงวรวิหารประมาณ 6 กิโลเมตร โดยย้อนกลับไปทางวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม คราวนี้เจอวงเวียนให้เลี้ยวซ้าย ข้ามสะพานปรีดี-ธำรง (ข้ามแม่น้ำป่าสัก) ตรงไปจนสุดทางเจอสามแยกให้เลี้ยวขวา เจอวงเวียนเล็กๆ ให้ตรงไป จะเห็นวิหารพระมงคลบพิตรอยู่ซ้ายมือ อยู่ติดกับพระราชวังโบราณ วิหารพระมงคลบพิตรนี้สันนิษฐานกันว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นราวแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เราเริ่มด้วยนมัสการหลวงพ่อมงคลบพิตร ต่อด้วยเข้าไปเดินชมพระราชวังโบราณก็ได้ แล้วไปเดินตลาดบริเวณหน้าวิหารพระมงคลบพิตร ซึ่งมีร้านค้าตั้งเรียงรายมากมายหลายร้าน จำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองแทบทุกชนิด เช่น ปลาตะเพียน เครื่องจักสาน เครื่องหวาย มีด ผลไม้กวน และขนมชนิดต่างๆ มีอะไรเยอะแบบนี้ ให้เวลา 1 ชั่วโมงเลย
4 วัดแม่นางปลื้ม
11:30 น. เดินทางสู่วัดแม่นางปลื้ม ห่างจากจุดนี้ราวๆ 2.5 กิโลเมตร ขับรถต่อไปตามทางเดิมที่เข้ามา (ไม่ต้องย้อนกลับ) เลี้ยวคดโค้งไปตามทางจนเจอสี่แยกที่มีเกาะกลางเป็นรูปสามเหลี่ยม ให้เลี้ยวซ้าย ตรงไปผ่านอีก 2 สี่แยก ข้ามสะพานข้ามคลองเล็กๆ แล้วเลี้ยวขวา ขับไปอีกนิดก็จะเจอวัดแม่นางปลื้มอยู่ขวามือ วัดแม่นางปลื้มเคยเป็นที่ตั้งค่ายของพม่า จึงเป็นวัดหนึ่งที่ไม่ถูกทำลาย ปัจจุบันยังมีเนินค่ายปรากฏอยู่ และยังมีโบรานสถานต่างๆ เหลือให้ชมหลายจุด มาที่นี่ต้องนมัสการหลวงพ่อขาว พระประทานอันสวยงาม แล้วเดินชมวัดกันไปสักพัก
เสร็จแล้วเตรียมตัวออกเดินทางไปทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงเล็ก ขับรถกลับมาตามทางเดิม (ข้ามสะพานข้ามคลอง ผ่าน 2 สี่แยก) ข้ามสี่แยกที่ 2 แล้วให้รีบชิดซ้าย ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงเล็กจะอยู่ริมถนนเลย มีทั้งเนื้อ หมู สด เปื่อย เอ็น น้ำตก ส่วนเส้นที่ว่ากันว่าเด็ดที่สุด คือเส้นหมี่
5 วัดธรรมมิกราช
12:30 น. มาถึงวัดธรรมมิกราช จากหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวลุงเล็ก ให้ยูเทิร์นรถกลับไปทางเดิม ผ่าน 2 สี่แยกเหมือนเดิม แต่ตรงสี่แยกที่ 2 ให้เลี้ยวซ้าย ขับไปอีกแค่ 750 เมตร ก็ถึงวัดธรรมมิกราช อยู่ซ้ายมือ (มื้อเที่ยงอาจทำให้ตารางเวลาของคุณคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ยังไงก็อยากให้มาถึงวัดธรรมมิกราชไม่เกินเที่ยงครึ่งครับ) วัดธรรมมิกราชเป็นวัดหลวงเก่าแก่ที่พระมหากษัตริย์เสด็จมาฟังธรรมกันประจำในวันพระ และเป็นสถานที่สอบเปรียญธรรมสำหรับพระสงฆ์ในสมัยโบราณ ปัจจุบันยังเป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาและปฏิบัติธรรมอยู่
6 วัดหน้าพระเมรุ
13:00 น. เดินทางสู่วัดหน้าพระเมรุ ออกจากวัดธรรมมิกราช เลี้ยวซ้ายไปตามถนนไม่เกิน 300 เมตร จะเห็นสะพานข้ามคลองอยู่ขวามือ ข้ามสะพานนั้นกันเลย ขับไปแค่นี๊ดเดียวเลี้ยวซ้ายก็ถึงวัดหน้าพระเมรุแล้ว อยู่ขวามือ วัดนี้เป็นวัดโบราณวัดเดียวในอยุธยาที่ยังคงสภาพสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาที่สมบูรณ์มากที่สุด เนื่องจากเป็นวัดที่พม่าเคยใช้ตั้งกองบัญชาการรบ จึงไม่ได้ถูกพม่าเผาทำลาย นมัสการพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ พระประธานในอุโบสถซึ่งสร้างปลายสมัยอยุธยา เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหล่อสำริดมีความงดงามมาก
7 วัดเชิงท่า
13:30 น. เดินทางสู่วัดเชิงท่า ออกจากวัดหน้าพระเมรุ เลี้ยวขวาไปอีกหน่อยก็ถึงวัดเชิงท่าอยู่ซ้ายมือ ห่างกันแค่ 300 เมตรเอง วัดเชิงท่าเป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาอยู่นะครับ เข้าไปไหว้พระประธานในพระอุโบสถ แล้วสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากนั้นก็เดินชมโบราณสถานต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปรางค์ประธาน มุขปรางค์ วิหาร เจดีย์ราย ศาลาการเปรียญ ฯ สักครึ่งชั่วโมงก็น่าจะพอ
8 วัดท่าการ้อง
14:00 น. เดินทางสู่วัดท่าการ้อง ออกจากวัดเชิงท่าขับลึกต่อไปตามถนนเดิม (ออกจากวัดเลี้ยวซ้าย)ตรงมาประมาณ 160 เมตรจะเจอถนนใหญ่หน่อย เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนนั้น ขับมาประมาณ 250 เมตรจะเจอสามแยกประตูชัย เลี้ยวขวาสู่ถนนอู่ทอง ขับมาเรื่อยๆ เลียบแม่น้ำมาอีกประมาณ 1.6 กิโลเมตรจะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวขวาขึ้นสะพานกษัตราธิราช(ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ลงสะพานไป 150 เมตรเจอสี่แยกหัวแหลมให้เลี้ยวขวาเข้าซอย ขับเลียบคลองส่งน้ำไป (เราจะผ่านวัดกษัตราธิราชก่อนแต่ยังไม่แวะนะครับ) ขับเข้าไปประมาณ 800 เมตรจะเจอโค้งซ้าย พอหมดช่วงโค้งปั๊บให้สังเกต ขวามือให้ดีจะมีซอยทางเข้าวัดท่าการ้อง มีป้ายบอก ขับเข้าไปอีก 250 เมตรก็ถึงแล้ว วัดท่าการ้องนี้ทันสมัย ไฮเทค แปลกกว่าวัดอื่นๆ จนเรียกได้ว่าเป็นเอนเตอร์เม้นท์คอมเพล็กซ์ด้านศาสนา ทั้งตุ๊กตาปูนปั้น หุ่นคน หุ่นสัตว์ บางตัวมีกลไกลแมคานิคขยับได้และเครื่องทำบุญเสี่ยงทายออโตเมติกต่างๆ และที่เด็ดสุดคือห้องน้ำติดแอร์ด้าน หลังของวัดท่าการ้องได้จัดให้เป็นตลาดน้ำ ขายพวกของกินหลากหลายชนิด ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ ข้าวผัด ของกินเล่น ราคาของกินที่นี่ราคาก็ไม่แพง วัดนี้ให้เวลาไปเต็มๆ 1 ชั่วโมงเลย
9 วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
15:00 น. เดินทางสู่วัดกษัตราธิราชวรวิหาร มาถึงวัดที่ 9 ของเรากันแล้ว ออกจากวัดท่าการ้องขับรถย้อนกลับมาทางเดิม(จำได้ไหมครับเราขับผ่านวัดกษัตราธิราชวรวิหารไปก่อนแล้วตะกี้นี้) วัดกษัตราธิราชวรวิหารเป็นพระอารามหลวงเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งนอกเกาะเมืองทางด้านทิศตะวันตก และด้วยทำเลนี้เองพม่าจึงได้ยกทัพมาตั้งที่วัดและใช้เป็นที่ตั้งปืนใหญ่เพื่อใช้ยิงข้ามแม่น้ำเข้ามาในพระนคร แวะมาไหว้พระและให้อาหารปลากันได้ พร้อมชมวิวพระเจดีย์ศรีสุริโยทัยที่อยู่ฝั่งเกาะเมือง
ครบ 9 วัดแล้วเย้! เวลาที่เหลือ ขอชวนไปเที่ยวกันบ้าง
15:30 น. เดินทางสู่ตลาดน้ำอโยธยาจากวัดกษัตราธิราชไปสู่ตลาดน้ำอโยธยาจะมีระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ออกจากวัดขับกลับไปถนนใหญ่ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานเดิม(สะพานกษัตราธิราช) พอลงสะพานเจอสี่แยกเดิมให้เลี้ยวขวา ขับโค้งไปตามถนน (จะเจอถนนซ้ายมือที่มีคลอง ไม่ต้องเลี้ยวนะครับ) ขับไปจนผ่านหน้าโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา แล้วจะเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ขับตรงไปอีก 700 เมตรเจอสามแยกให้เลี้ยวขวา คราวนี้ขับตรงยาวมาจนข้ามสะพานปรีดี-ธำรง(ข้ามแม่น้ำป่าสัก) จนมาเจอวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้มอีกครั้ง คราวนี้เลี้ยวซ้าย ขับไป 1 กิโลเมตรก็จะเห็นตลาดน้ำอโยธยาทางขวามือ
ตลาดน้ำอโยธยาเป็นตลาดขายสินค้าล้อมรอบไปด้วยน้ำในรูปแบบของตลาดน้ำ มีร้านค้าหลากหลาย ทั้งร้านขายอาหารคาวหวาน อาหารทะเล เรือขายอาหาร ขนม ของฝาก ร้านขายสินค้า OTOP ร้านนวดเพื่อสุขภาพ มีบริการล่องเรือชมบรรยากาศรอบๆ ตลาดน้ำ มีกิจกรรมให้อาหารปลาคาร์ฟ ป้อนนมแพะ ป้อนอาหารแกะชมควายไทย ถ่ายรูปคู่กับเสือ วาดภาพเหมือน และตรงด้านหน้าจะเป็นปางช้างสามารถป้อนอาหารช้างได้
ให้เวลากับการเดินเที่ยวไปเลย 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่อย่าพึ่งกินอะไรจนอิ่มนะครับเพราะเดี๋ยวเราจะไปดินเนอร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยากัน อ้อ..และถ้าจะซื้อของฝากซื้อกันที่นี่เลยนะครับ ใช้เวลาที่นี่กัน 1 ชั่วโมงครึ่งไปเลย
17:00 น. เดินทางสู่ร้านอาหารไทรทองริเวอร์
ถึงเวลาอาหารเย็นกันแล้ว ขับรถออกจากตลาดน้ำฯ มาทางวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม เลี้ยวขวาป๊าบขึ้นสะพานปรีดี-ธำรง ลงสะพานไปประมาณ 1 กิโลเมตรจะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวซ้าย (ก่อนหน้าแยกนี้จะมีสี่แยกที่เป็นคลองลอดผ่าน ยังไม่ใช่นะครับ แยกที่เราจะเลี้ยว สังเกตขวามือจะมีปั๊มน้ำมัน) เลี้ยวซ้ายเข้ามา 270 เมตรก็จะเจอสามแยก เลี้ยวขวาไปนิดเดียวก็จะเจอร้านอาหารไทรทองริเวอร์อยู่ซ้ายมือ มีต้นไทรใหญ่กลางร้าน ร้านนี้เป็นร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศดี กว้างขวาง โล่งสบาย ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนแก่ก็พามาทานได้ เหมาะกับการมากินปิดท้ายทริปอาหารที่นี่จะเป็นอาหารไทย และถ้าจะให้สมกับมาอยุธยาก็ต้องสั่งเมนูพวกปลาน้ำจืดและกุ้งแม่น้ำชอบปรุงแบบไหนก็สั่งกันมาเลย อ้อ..ถ้าจะให้ชิลควรโทรจองโต๊ะ Open Air ริมแม่น้ำครับ 035-241-449 6
ทริปนี้ทั้งอิ่มบุญ อิ่มใจ และอิ่มท้องครับ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า
ขอบคุณที่มา chillpainai.com
15 สำนวนภาษาอังกฤษสุดมีประโยชน์ เอาตัวรอดได้ในต่างแดน
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆทุกคน วันนี้เรามาเรียนรู้ 15 สำนวนสุดแสนจะมีประโยชน์กันดีกว่านะคะ สำนวนเหล่านี้เป็นสำนวนที่ใช้ได้จริงและไม่ยาวเกินความสามารถในการจำ เรามาลองดูกันเลยดีกว่าค่ะ
1. As well (แอส-เวล)คำนี้เป็น synonym ของคำว่า also, too มีความหมายว่า เช่นกัน, อีกด้วย
(ช็อกโกแลตสามารถทำให้เธออ้วนได้ และเค้กก็เช่นกัน)
ฉันกำลังจะไปอาบน้ำ แล้วก็มีคนโทรเข้าซะงั้น (แหมชีวิตจริงเลยนะนี่)
ฉันคิดว่าคุณเหนื่อยมากๆ คุณควรพักผ่อนนะ
หยุดพูดไม่เข้าเรื่องสักที บอกความจริงมาซะ !
แอนนายืมเงินฉัน เพราะเธอถังแตก
เดือนที่แล้วฉันติดลบเพราะฉันใช้เกินตัว
8. Black sheep (แบล็ก ชีพ)แปลว่า แกะดำ หรือรู้สึกแปลกแยกจากพวก จากครอบครัวหรือจากเพื่อนฝูง ซึ่งคำนี้ในภาษาไทยก็มีใช้เช่นกันค่ะ คงจะคุ้นหูคุ้นตากันนะคะ มาดูตัวอย่างกันดีกว่าค่ะ
ภรรยาของเขาไม่ทำงาน ดังนั้นณเดชน์จึงต้องหาเลี้ยงครอบครัว
ฉันอ่านหนังสือทั้งคืนเลย ดังนั้นฉันจึงจำบทเรียนได้ขึ้นใจ
ขอบคุณที่มา dailyenglish.in.th
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 11 ตุลาคม 2561
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 18,650.00 | 18,550.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 19,150.00 | 18,222.32 | 1,202.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 18,889.36 | 1,246.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 16,400.09 | 1,081.80 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 14,577.86 | 961.60 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,201.56 | 541.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,382.36 | 421.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2561
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 31.45 | 31.45 | 31.45 | 31.45 | 31.45 | 31.45 | 31.45 | 31.45 | 31.45 | 31.45 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 31.18 | 31.18 | 31.18 | 31.18 | 31.18 | 31.18 | 31.18 | 31.18 | 31.18 | 31.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 28.44 | 28.44 | 28.44 | 28.44 | 28.44 | – | 28.44 | 28.44 | 28.44 | 28.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 22.04 | 22.04 | – | – | – | – | – | 22.04 | 22.04 | – |
เบนซิน 95 | 38.56 | – | – | – | 39.01 | – | 39.06 | 38.86 | 38.66 | 38.86 |
ดีเซล | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 32.89 | 33.76 | 33.76 | 33.76 | 33.76 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.13 | 15.13 | – | – | – | – | – | – | – | – |