สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2561

สนช. เห็นชอบร่างพ.ร.บ. ภาษีที่ดินฯ บังคับใช้ 1 ม.ค. 63

สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เห็นชอบร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ….ด้วยมติเอกฉันท์ 169 เสียง มีผลบังคับใช้ ม.ค. 63  กำหนดเก็บภาษี ประเภท  ด้านรมช. คลังเผยกฎหมายดังกล่าว ช่วยอุดช่องโหว่ กระตุ้นการใช้ประโยชน์ที่ดิน เอื้อองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเก็บรายได้

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561  ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่ประธานในการประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว  ซึ่งเป็นการพิจารณาในวาระ 2 และวาระ 3 ต่อเนื่องจากวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ผ่านมา โดยในที่สุดที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. …. ด้วยคะแนนเสียง 169 เสียง ต่อ 0 งดออกเสียง 2 ให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป

 

สำหรับร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวมีสาระสำคัญ คือ การให้ร่างพระราชบัญญัติ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่การจัดเก็บภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตามร่างพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. พ.ศ. 2563 เป็นต้น ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการยังได้บัญญัติบทเฉพาะกาล มาตรา 90 ขึ้นมาใหม่ เป็นการกำหนดให้ในสองปีแรก ของการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้อัตราภาษีตามมูลของฐานภาษีตามที่ มาตรา 90 บัญญัติไว้

กฎหมายดังกล่าวมีสาระสำคัญ คือ การกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม หากมีมูลค่า 0-75 ล้านบาท คิดอัตราภาษี 0.01 %  มูลค่า 75-100 ล้านบาท คิดอัตราภาษี 0.03 % มูลค่า 100-500 ล้านบาท คิดอัตราภาษี 0.05 %

 

 2. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย หากมีมูลค่า 0-50 ล้านบาท คิดอัตราภาษี 0.02 % มูลค่า 50-75 ล้านบาท คิดอัตราภาษี 0.03 % มูลค่า 75-100 ล้านบาท คิดอัตราภาษี 0.05 % มูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป คิดอัตราภาษี 0.1 % ทั้งนี้ในกรณีบ้านหลังหลัก หากเป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของที่ดิน ให้ได้รับการยกเว้นภาษี 50 ล้านบาทแรก  ส่วนกรณีเป็นเจ้าของเฉพาะบ้านอย่างเดียว ได้รับการยกเว้นภาษี 10 ล้านบาท

 

3. ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม หากมีมูลค่า 0-50 ล้านบาท คิดอัตราภาษี 0.3 % มูลค่า 50-200 ล้านบาท คิดอัตราภาษี 0.4 % มูลค่า 200-1,000 ล้านบาท คิดอัตราภาษี 0.5 % มูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท คิดอัตราภาษี 0.6 % มูลค่าตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป คิดอัตราภาษี 0.7 %

 

 4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า คิดอัตราภาษีเริ่มต้น 0.3 % และเพิ่มขึ้น 0.3 % ทุก 3 ปี หากยังไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์ แต่รวมทั้งหมดแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 3

ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้หลังจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ยกเว้นอัตราการจัดเก็บภาษีและสิ่งปลูกสร้างที่ให้เริ่มบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 2563 ทั้งนี้ยังมีบทเฉพาะกาลว่า ใน 3 ปีแรกของการจัดเก็บภาษีตามกฎหมายฉบับนี้ให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีแก่เจ้าของที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างที่เป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรกรรม

 

โดยร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว ที่ประชุมสนช. รับหลักการในวาระ 1 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา จากนั้นได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา 1 ชุด ซึ่งระหว่างนั้นได้ขอขยายระยะเวลาการพิจารณา จำนวน 9 ครั้ง โดยล่าสุด คือเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2561 จากนั้นร่างพ.ร.บ. ได้กลับเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมใหญ่สนช. อีกครั้ง ในวาระ 2 และวาระ 3 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ดังนั้น ร่างพ.ร.บ. ภาษีที่ดินฯ ใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 1 ปี 7 เดือน 16 วัน

 

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กล่าวว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปโครงสร้างภาษี อุดช่องว่างช่องโหว่ของกฎหมายเดิม กระตุ้นการใช้ประโยชน์ที่ดิน และเป็นประโยชน์แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดเก็บรายได้

ขอบคุณข้อมูลจาก prop2morrow.com


“อนันต์ อัศวโภคิน” ฟันธง!อสังหาฯปี’62 อ่วม เหตุปัจจัยเสี่ยงเพียบ

“อนันต์ อัศวโภคิน” ออกโรงเตือนปีหน้าอสังหาฯเผชิญปัจจัยลบเพียบ แนะลดการขยายงาน ชะลอการลงทุนหันมาเน้นระบบงาน เพิ่มศักยภาพของคน หวั่นลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะจีนซื้อแล้วไม่โอน

 

นายอนันต์ อัศวโภคินเจ้าของและผู้ก่อตั้งบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) หรือ LH และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวในงานเปิดตัวสมาคมอสังหาริมทรัพย์ฉะเชิงเทรา ถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 ว่า จะเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้านทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศที่จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจ อาทิ

  • สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อโครงการ
  • กำลังซื้อที่ยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มตลาดกลางและล่าง
  • มาตรการคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)หรือแบงก์ชาติประกาศออกมาล่าสุด
  • ภาคการท่องเที่ยวที่ลดลงอย่างผิดปกติ คนจีนหายไปยังไม่กลับมาทั้งที่เข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว
  • ธุรกิจค้าปลีกไม่ดี เห็นได้จากยอดขายของโฮมโปร ธุรกิจในเครือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่มีสาขาในต่างจังหวัดหลายแห่ง ยอดขายตกมากในไตรมาส3 ปี 2561 สะท้อนกำลังซื้อรากหญ้าไม่ดี

จากปัจจัยลบต่างๆดังกล่าวที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ นายอนันต์ ยังได้แนะว่าควรชะลอการลงทุน และการขยายงาน  ควรหันมาให้ความสำคัญเรื่อบุคคลากร เพิ่มศักยภาพของคน รวมถึงควรให้ความสำคัญระบบการทำงานมากว่าเรื่องที่ดิน “ปีหน้าพวกเรามีปัญหาแน่ ให้ไปหาแบงค์เพื่อหารือปัญหาในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า ควรหาแบงค์ที่เชื่อใจกันได้ กู้ให้เต็มอัตรา ไม่ต้องกลัวดอกเบี้ยจะแพง ดอกเบี้ยไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับนักธุรกิจ แต่กลัวไม่มีเงินสด”

 

อีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงและต้องระวัง! คือ เรื่องโอนของลูกค้าต่างชาติ เพราะ ที่ผ่านมามีลูกค้าต่างชาติซื้ออสังหาฯมาก บริษัทอสังหาฯหลายรายขายลูกค้าต่างชาติจำนวนมาก ปัญหาเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าที่เกิดขึ้นอาจกระทบลูกค้าที่ซื้อไว้แล้วเมื่อถึงกำหนดโอนก็อาจไม่โอนได้ โดยเฉพาะตลาดคนจีน ที่ขณะนี้เริ่มมีปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ การส่งออกเริ่มไม่ดี และรัฐบาลก็มีความเข้มงวดมาก

 

ส่วนมาตรการที่แบงก์ชาติออกมาเพื่อควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยนั้น แม้จะกระทบต่อตลาดโดยรวม แต่ส่วนตัวเห็นด้วยกับนโยบายนี้ เพราะหนี้เสียเกิดขึ้นไม่หยุด โดยเฉพาะหนี้เสียที่เกิดจากการผ่อนบ้าน การที่ไม่มีเงินดาวน์ หรือการดาวน์ต่ำ ทำให้คนไม่รู้จักออมหรือเก็บเงิน บางคนผ่อนแบงก์มา 5 ปีแล้วยังเป็นหนี้เสียเลย แบงก์ชาติ เห็นตัวเลข เพราะถ้าปล่อยไว้จะกลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่

 

อสังหาฯปี’ 62 เติบโตลดลงจากปีนี้ 2-3%

ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวให้ความเห็นต่อภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 ว่า โดยภาพรวมตลาดมีการเติบโต แต่การเติบโตจะน้อยกว่าปี 2561 อยู่ประมาณ 2-3% ทั้งนี้เป็นผลมาจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงผลจากมาตรการการควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)หรือ แบงก์ชาติ ที่ประกาศมาล่าสุด ส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวในการเร่งโอนที่อยู่อาศัยให้ลูกค้าในช่วงปลายปีต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2562 ผู้ประกอบการอสังหาฯต้องปรับตัวรับมือกับผลกรทบต่างๆที่จะมีต่อธุรกิจในปีหน้า

อีกประเด็นที่กระทบต่อกำลังซื้อและตลาดอสังหาฯนั่นคือ แนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย รวมถึงความกังวลที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธปท. มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการออกหุ้นกู้ในระบบที่ออกโดยบริษัทอสังหาฯอาจเกิดปัญหาเรื่องการชำระหนี้ ในประเด็นนี้มองได้จาก ตลาดหุ้นทั่วโลกตกลงอย่างต่อเนื่อง เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนประกอบกับรัฐบาลจีนได้มีการปล่อยพันธบัตรของสหรัฐฯออกมามากและมีแนวโน้มที่รัสเซียและญี่ปุ่น จะดำเนินตามจีนด้วยเช่นกัน

 

“เรื่องสภาพคล่องของบริษัทอสังหาฯรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ 7 รายไม่น่าห่วง มีเงินสดเยอะ ได้ลงทุนซื้อที่ดินรับแผนพัฒนา แต่ขณะเดียวกันก็มีบางรายเริ่มชะลอการพัฒนาโครงการใหม่เพื่อรอดูสถานการณ์”นายพรนริศ กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก prop2morrow.com


กฎหมายรีดภาษีนายทุน – ปฏิรูปเศรษฐกิจแท้ง รัฐเข็น 50 ฉบับฝ่าเส้นตายสภานิติบัญญัติ

การเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 8 ปี ตาม “ไทม์ไลน์” ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) งวดเข้ามาทุกขณะ

จากวันจุติของแม่น้ำ 5 สาย โดยมีแม่น้ำสายใหญ่ คสช.เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 ถึงวันนี้สามารถทำคลอดกฎหมายสำคัญ 438 ฉบับ สามารถประกาศราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว 297 ฉบับ รอประกาศราชกิจจานุเบกษา 24 ฉบับ

28 ธ.ค. 61 คือ “วันสุดท้าย” ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะสามารถเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติ (สนช.) ทว่า ยังมีร่างกฎหมายที่ “ค้างท่อ” อยู่ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์หลายสิบฉบับ โดยเฉพาะกฎหมายปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ-ลดความเหลื่อมล้ำ กระทรวงการคลังของ “ขุนคลัง” อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เตรียมเข็นกฎหมายเศรษฐกิจ 20 ฉบับ อาทิ กลุ่มแรกกฎหมายเศรษฐกิจ อาทิ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ. … หรือ”ภาษีลาภลอย” ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่กำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ในต่างประเทศ ร่าง พ.ร.บ.กองทุนบําเหน็จบํานาญแห่งชาติ พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล พ.ศ. … (ดิจิทัลไอดี)

ร่าง พ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.ประกันชีวิต (ฉบับที่…) พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย (ฉบับที่…) พ.ศ….

กลุ่มที่สอง บทบัญญัติเกี่ยวกับการเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงของบริษัท อาทิ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่…) พ.ศ. … (การจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม) ร่าง พ.ร.บ.ทรัสต์เพื่อการจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคล พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับใหม่

ร่าง พ.ร.บ.สถาบันการเงินชุมชน พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่…) พ.ศ. … (การกำหนดฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ ตามมาตรา 49 ทวิ)

ด้านร่าง พ.ร.บ.อยู่ระหว่างคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา 6-7 ฉบับต่อวัน อาทิ ร่าง ร่าง พ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน พ.ศ. …

ร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่…) พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ (ฉบับที่…) พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. …

ทั้งนี้ มีร่างกฎหมายที่ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นแล้ว อยู่ระหว่างคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. 10 ฉบับ ร่าง พ.ร.บ.แรงงานในการทำการประมง พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.การประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน พ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.กระจายหน้าที่และอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพ.ศ. … ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน พ.ศ. …

ยังไม่นับกฎหมายรอที่รอการพิจารณาของ สนช.ในวาระที่ 1 อีก 5 ฉบับ เช่น ร่าง พ.ร.บ.ข้าว พ.ศ…..

อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายสำคัญที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช.ในวาระที่ 2 ขั้นกรรมาธิการ ซึ่งถูก “เตะถ่วง” มาแล้ว 14 ครั้ง อาทิ ร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. … หรือ “ซูเปอร์บอร์ด” ซึ่งจะเป็นกฎหมายปฏิรูปหน่วยงานวิสาหกิจครั้งใหญ่ จนถึงขณะนี้ขอขยายออกไปอีก 60 วัน หรือครบกำหนดวันที่ 23 ม.ค. 62

เช่นเดียวกับร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่ขอขยายไป 13 ครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก www.prachachat.net


“ไบโพลาร์” ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ปัญหาจิตเวชที่ต้องเข้าใจและรักษา

“เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เป็นอะไรเนี่ย ไบโพลาร์เหรอ ?” เรามักได้ยินคำพูดในเชิงหยอกล้อเกี่ยวกับโรคไบโพลาร์ทำนองนี้ ไม่ว่าจะพูดด้วยความไม่ได้คิดมาก ไม่ได้คิดว่าจะเป็นประเด็น หรือพูดเพราะคิดว่าเป็นมุขตลกที่เรียกเสียงหัวเราะได้ รวมถึงพูดเพราะไม่ได้รู้จักและเข้าใจโรคนี้อย่างดีพอ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ การนำโรคทางจิตเวชมาพูดในลักษณะดังกล่าวสร้างผลกระทบอย่างมหาศาล ทำให้เกิดความเข้าใจต่อรายละเอียดของโรคอย่างผิด ๆ ซ้ำร้ายยังทำให้ผู้ป่วยหลายรายไม่กล้าเผชิญกับโรคโดยการพบแพทย์เพราะกลัวจะเจอคำครหาว่า เป็นบ้า ประสาท หรือโรคจิต

รู้จักไบโพลาร์

โรคไบโพลาร์ เป็นชื่อเรียกของอาการอารมณ์ 2 ขั้ว บางครั้งอารมณ์ดีสุด ๆ และไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็อาจจะโมโหร้ายและดำดิ่งได้สุด ๆ เช่นกัน แต่อาการแบบนี้ไม่ได้เกิดจากอุปนิสัยความเกรี้ยวกราดส่วนตัวดังที่หลายคนเข้าใจ

ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ข้อมูลว่า ระยะไบโพลาร์แบ่งออกเป็น 2 ขั้วได้แก่ ขั้วอารมณ์เศร้า (depressed) และขั้วอารมณ์ดีมากกว่าปกติ (mania)

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการที่ว่ามีหลัก ๆ 3 ประการ ได้แก่ 1.ความผิดปกติของระบบโมเลกุลพันธุกรรมและการเปลี่ยนแปลงสารเคมีในสมอง 2.พันธุกรรม และ 3.สภาพสังคมและความเครียดส่วนตัว

“ความเครียดที่ว่ามักเกี่ยวพันกับอาการผิดหวังอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะซึมเศร้า ดำดิ่งไปกับความผิดหวัง บางครั้งก็เกิดสลับกับอารมณ์มีความสุขสุดขีด นี่จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกไบโพลาร์ในภาษาไทยว่า ภาวะอารมณ์แปรปรวน หรือภาวะอารมณ์ 2 ขั้ว”

อาการของระยะ depressed จะมีอารมณ์เศร้า ซึม ความสนใจต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันลดลง นอนไม่หลับติดต่อกันหลายคืน จนไปถึงความรู้สึกสิ้นหวัง หมดกำลังใจ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเกิดภาวะคิดฆ่าตัวตายในขั้วอารมณ์นี้ ซึ่งอาการที่ว่าจะเกิดขึ้นติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์

ส่วนข้อสังเกตของระยะ mania ที่แม้จะเป็นขั้วอารมณ์ร่าเริงสนุกสนาน ทว่ากลับเป็นการมีความสุขที่สุดโต่งจนขาดความยับยั้งชั่งใจ หากถูกห้ามปรามหรือขัดขวางในสิ่งที่ต้องการจะเกิดอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียว หรือบางรายที่รุนแรงมักมีอาการหลงผิดคิดว่าตนมีพลังวิเศษ หูแว่ว ประสาทหลอน สามารถเข้าทรง หรือติดต่อด้วยพลังจิตได้ ระยะนี้จะมีอาการคึกคักติดต่อกันอย่างน้อย 4 วัน

ความ “สุดโต่ง” ที่ไม่ควรปล่อยผ่าน

ถ้าพูดถึงความสุดโต่งของไบโพลาร์แล้วหลายท่านอาจจะนึกถึงพฤติกรรมโลดโผนดังที่เคยเห็นกันตามหน้าข่าว แต่แท้จริงแล้วพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราไม่ทันสังเกตก็นับว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ให้เฝ้าระวังคนใกล้ชิดได้เป็นอย่างดี

ศ.นพ.รณชัยกล่าวว่า เด็กหลายคนมีพฤติกรรมซุกซน ก้าวร้าว และฉุนเฉียวง่าย แต่พ่อแม่ผู้ปกครองกลับคิดว่าคงเป็นนิสัยก้าวร้าวทั่วไปของวัยรุ่นจึงปล่อยไปเรื่อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเด็กหลายคนที่เรียนหนังสือเก่งมาก มีความเป็นระเบียบเคร่งครัดอย่างสุดโต่งก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของโรค

เช่นเดียวกัน ทำให้โดยเฉลี่ยแล้วไบโพลาร์มีการวินิจฉัยล่าช้าไปถึง 11 ปี นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ของโรคนี้เลยก็ว่าได้

รศ.นพ.ชวนันท์ ชาญศิลป์ นายกสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า แม้แต่ในวงวิชาการจิตแพทย์ อาการไบโพลาร์ในวัยรุ่นก็ถือเป็นเคสที่วินิจฉัยยากพอสมควร ตรงกับที่ผู้ปกครองหลายท่านคิดว่า พฤติกรรมฉุนเฉียวของลูกอาจเป็นไปด้วยอายุ ทำให้การวินิจฉัยในวัยผู้ใหญ่ที่มีภาวะทางอารมณ์คงที่กว่าวัยรุ่นเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งตัวผู้ป่วยและคนรอบข้างจึงสามารถสังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปได้ง่าย

ไบโพลาร์ก็เหมือนหวัด เป็นได้-รักษาได้

ศ.นพ.รณชัยให้ข้อมูลว่า โรคไบโพลาร์สามารถรักษาได้หากได้รับการติดตามและดูแลอย่างเหมาะสม ในขณะเดียวกันก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ถึงร้อยละ 80-90 โดยมีหลายปัจจัยเป็นตัวกระตุ้น เช่น เหตุการณ์สะเทือนใจ เหตุการณ์พลิกผันในชีวิต ภาวะเครียดรุมเร้า รวมถึงการใช้สารเสพติด ดังนั้นการรักษาโดยการทานยาอย่างต่อเนื่องจึงสำคัญที่สุด

สำหรับขั้นตอนการรักษา รศ.นพ.ชวนันท์บอกว่า ต้องใช้การกินยาเป็นหลักควบคู่ไปกับการเยียวยารักษาทางจิตใจ โดยแพทย์เจ้าของไข้จะให้การบ้านง่าย ๆ สำหรับผู้ป่วย อย่างการออกไปเดินเล่น ปลูกผักสวนครัว หากิจกรรมที่ช่วยให้ผู้ป่วยผ่อนคลาย บวกกับการมี support system หรือการเชื่อมโยงกับคนรอบข้างที่ดีโดยเฉพาะคนในครอบครัวที่ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจกับโรคไปพร้อม ๆ กับผู้ป่วยด้วย

หากถามว่า เมื่ออาการทุเลาลงแล้วสามารถหยุดกินยาได้หรือไม่ คุณหมอบอกว่า การกินยาเป็นตัวช่วยในการประคับประคองไม่ให้อาการของโรคปะทุหรือกลับมาเป็นซ้ำ ก็เหมือนกับอาการป่วยโรคอื่นอย่างเบาหวานหรือความดันที่ต้องอาศัยการกินยาเพื่อควบคุมให้ร่างกายอยู่ในระดับปกติเท่านั้นเอง

“อย่างคนที่เป็นโรคเบาหวาน จากเดิมที่มีภาวะน้ำตาลสูง 200 กว่ากินยาแล้วเหลือต่ำกว่า 110 ก็เท่ากับว่าคุมเบาหวานได้ดี แต่ต้องกินยาเพื่อให้คงความปกติไว้ สำหรับคนป่วยเมื่อได้รับยาร่างกายต้องตอบสนองกับยาก่อนจึงไปสู่ระดับอาการที่ดีขึ้น แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ การกลับมาเป็นใหม่ เพราะระหว่างทางสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก โดยเฉพาะไบโพลาร์ที่มันจะกลับมาโจมตีในวันที่เราอ่อนแอเสมอ”

นอกจากนี้ รศ.นพ.ชวนันท์ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า เหล้าหรือบรรดาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้อาการของไบโพลาร์รุนแรงขึ้น มีฤทธิ์ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีบางตัวในสมองทำให้การตอบสนองต่อยาลดลง ส่วนคนทั่วไปถ้ามีเรื่องกรรมพันธุ์มาเกี่ยวข้องแอลกอฮอล์ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคได้เช่นกัน

สิทธิ-ความคุ้มครองที่เสียไป ในวันที่สังคมยังไม่เข้าใจไบโพลาร์

“ประเทศนี้อนุญาตให้คนบ้าได้แค่ 15 วัน” ศ.นพ.รณชัยกล่าวถึงเงื่อนไขการรักษาพยาบาลในประเทศไทย ซึ่งครั้งหนึ่งคุณหมอเองเคยร่วมเดินขบวนประท้วงเกี่ยวกับข้อกำหนดสิทธิการรักษาประกันสังคมและประกันสุขภาพถ้วนหน้าแก่บุคคลที่มีอาการป่วยทางจิตที่ได้ระบุไว้ว่า หากพ้นกำหนด 15 วัน ผู้ป่วยจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

นอกจากนี้บริษัทประกันภัยเองก็ไม่รับลูกค้าที่มีประวัติหรือกำลังรักษาตัวด้วยอาการป่วยทางจิตทั้งไบโพลาร์หรือโรคซึมเศร้า รวมไปถึงตัวบทกฎหมายที่ไม่มีการคุ้มครองผู้ป่วย ยกตัวอย่างกรณีดังของเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซได้รับตัดสินโทษทั้งจากพระราชบัญญัติอาวุธปืน ขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และการมีสารเสพติดไว้ในครอบครอง ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในระยะ mania ของโรคไบโพลาร์ทั้งสิ้น

หากเรามาลองดูตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 65 ที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดในทางอาญาได้ระบุไว้ดังนี้

“มาตรา 65 ผู้ใดกระทำความผิดในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบ หรือไม่สามารถบังคับตนเองได้เพราะมีจิตบกพร่อง โรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือนผู้นั้นไม่ต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น แต่ถ้าผู้กระทำความผิดยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง หรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง ผู้นั้นต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น แต่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้”

ศ.นพ.รณชัยอธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่ออ้างอิงตามมาตรา 65 ไบโพลาร์จึงถูกตีตกไปเพราะผู้ป่วยยังสามารถพูดคุยซักถามรู้เรื่อง ศาลจึงพิจารณาตัดสินให้รับโทษจำคุกตามการกระทำผิด

“นี่คือสิ่งที่กฎหมายยังไม่เข้าใจโรคนี้ ในฐานะที่เขียนตำราเรื่องจิตเวชผมย้ำเสมอว่า ทนายความต้องอ่านหนังสือเล่มนี้เวลาบอกศาลจะได้บอกถูกว่า ขณะกระทำเป็นไบโพลาร์และมีอาการถึงขั้นโรคจิตแล้ว ศาลจึงจะเข้าใจตัดสินตามมาตรา 65 ซึ่งขณะนี้ยังมีผู้ป่วยไบโพลาร์อยู่ในคุกอีกมากมาย”

ไบโพลาร์ไม่ใช่เรื่องตลก

อีกประเด็นที่ควรเฝ้าระวังคือ การนำคำว่า “ไบโพลาร์” มาพูดเล่นเชิงติดตลก จะเห็นได้ตามสื่อละครหรือรายการโทรทัศน์ที่มักจะนำส่วนหนึ่งของอาการมาพูดเล่นออกอากาศบ่อยครั้ง รวมถึงในระดับบุคคลทั่วไปที่การใช้คำและอาการ “ไบโพลาร์” มาเปรียบเปรยหรือล้อเล่น นับเป็นการสร้างความเข้าใจผิด ๆ ให้แก่ผู้รับสื่อ

รศ.นพ.ชวนันท์ยกตัวอย่าง “การทดลองของพาฟลอฟ” ของอีวาน เปโตรวิช พาฟลอฟ นักจิตวิทยาชาวรัสเซียที่นำไปสู่ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิก ซึ่งคุณหมอมองว่า การที่สื่อหยิบคำว่าไบโพลาร์ไปพูดในความหมายที่บิดพลิ้วให้ความรู้สึกคล้ายกับการทดลองการสั่นกระดิ่งกับสุนัขของพาฟลอฟ

“การทดลองของพาฟลอฟทำให้เกิดการตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยมีเงื่อนไขหรือสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้น เช่นเดียวกับการนำโรคไบโพลาร์ไปพูดเล่นในสื่อ เรากำลังเทรนด์คนดูให้เกิดความรู้สึกด้านลบกับโรค ทำให้คนดูคิดว่าไบโพลาร์เป็นแบบนั้นแบบนี้ คนที่ป่วยจริง ๆ ก็จะยิ่งรู้สึกกลัวไม่กล้าไปพบแพทย์”

ด้าน ศ.นพ.รณชัยเห็นว่า นอกจากจะทำให้ผู้ป่วยไม่กล้าเปิดเผยตัวเองแล้วยังทำให้เกิดความรู้สึกเป็นสิ่งแปลกปลอมของสังคม ในความเป็นจริงไบโพลาร์ก็คือโรคชนิดหนึ่งไม่ต่างจากการป่วยไข้ เป็นหวัด หรือโรคความดัน-เบาหวาน

จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยที่มีความผกผันกับจำนวนผู้เข้ารับการรักษา รวมถึงสถานการณ์ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคในปัจจุบันก็นับว่าเป็นอีกประเด็นสำคัญที่น่าเป็นห่วง ไม่เฉพาะเพียงไบโพลาร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงโรคซึมเศร้าและโรคทางจิตเวชอื่น ๆ ที่ถูกตีตราจากสังคมไม่ต่างกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.prachachat.net


So Am I. แปลว่าอะไร และใช้อย่างไร 

สวัสดีครับเพื่อนๆที่ชอบภาษาอังกฤษทุกคน ผมชื่อเล้งขอต้อนรับสู่บล็อกสอนภาษาอังกฤษครับ

วันนี้ผมจะเอาคำว่า …”So Am I“… มาแต่งประโยคและก็แปลให้เพื่อนๆได้นำไปใช้ครับ

เรามาเริ่มดูประโยคภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ ซึ่งจะมีทั้งคำอ่านและคำแปลให้เบ็ดเสร็จซึ่งเหมาะกับผู้ที่ยังสะกดไม่ค่อยออก เรียกว่าเป็นภาษาอังกฤษพร้อมใช้(English ready to use)ก็ว่าได้ครับ…

ขณะที่ท่านพบกันเพื่อนคนหนึ่ง เขาพูดขึ้นว่า “วันนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกิน” ซึ่งภาษาอังกฤษก็คือ

I am so tired today.


ไอ แอท โซ ไทร์เอ็ด ทูเดย์


ฉันเหนื่อยมากเลยวันนี้

ตัวท่านเองก็รู้สึกเหนื่อยเช่นกัน ท่านก็สามารถตอบเพื่อนของท่านไปว่า

So am I, girl.


โซ แอม ไอ เกิร์ล 


ฉันก็เหนื่อยสุดๆเหมือนกันน่ะสาวน้อย

So am I เหมือนกับประโยค Me too (ฉันด้วย/ฉันก็เช่นกัน/ฉันก็เหมือนกัน) นั่นเอง

ประโยคที่เพื่อนท่านพูดเป็นประโยคที่ใช้กริยา verb to be คือ am ดังนั้น ประโยคคำตอบจึงใช้ verb to be เช่นกัน = So am I นั่นเองครับ

 

เรียนภาษาอังกฤษคำว่า so am I
Image source: britishgrammar.blogspot.com

 

ลองฝึกพูดบ่อยๆนะครับ พูดกับตัวเองในกระจกเงาก็ได้ครับ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ผมชอบมาก ผมจึงฝึกมันอยู่ตลอด ทำบ่อยๆแล้วมันก็จะสนุกและหลงไหลไปเองครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก titaek-english.blogspot.com


ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 17/12/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง ราคาขาย/บาท ราคารับซื้อ/บาท ราคารับซื้อ/กรัม
ทองคำแท่ง 96.5% 19,250.00 19,150.00 n/a
ทองรูปพรรณ 96.5% 19,750.00 18,798.40 1,240.00
ทองรูปพรรณ 99.99% n/a 19,480.60 1,285.00
ทองรูปพรรณ 90% n/a 16,918.56 1,116.00
ทองรูปพรรณ 80% n/a 15,038.72 992.00
ทองรูปพรรณ 50% n/a 8,459.28 558.00
ทองรูปพรรณ 40% n/a 6,579.44 434.00

ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 17/12/2561

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45
แก๊สโซฮอล์ 91 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18
แก๊สโซฮอล์ E20 24.44 24.44 24.44 24.44 24.44 24.44 24.44 24.44 24.44
แก๊สโซฮอล์ E85 20.09 20.09 20.09 20.09
เบนซิน 95 34.86 35.31 35.36 35.16 34.66 35.16
ดีเซล 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79
ดีเซลพรีเมี่ยม 30.39 30.66 30.66 30.66 30.66
แก๊ส NGV 16.13 16.13
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า