4 บิ๊กรับเหมา ตุนงานเมกะโปรเจ็กต์ ประมูลส่งท้าย “รัฐบาล คสช.”
ปี 2562 นอกจากจะเป็นปีที่ประเทศไทยจะมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งนั่งบริหารประเทศ ว่ากันว่าจะเป็นปีทองของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง หลังเมกะโปรเจ็กต์ที่ตกค้างมาแรมปี กำลังถูกจัดแถว
กดปุ่มพรึ่บทะลุ 1 ล้านล้าน
ขณะที่ 4 ยักษ์รับเหมาแถวหน้าของประเทศ ต่างมองว่าจะเป็นอีกปีที่ดีของวงการ หากรัฐบาลสามารถผลักดันโครงการได้จริง ITD-CK รับอานิสงส์ไฮสปีด ด้านนักวิเคราะห์ต่างเชื่อมั่นว่าจะทำให้แบ็กล็อกหรืองานในมือของบริษัทรับเหมามหาชนโดยเฉพาะรายใหญ่เพิ่มขึ้น
โดยประเมินว่า “บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์” พี่ใหญ่ของวงการ ถึงปี 2561 จะมีข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับ เปรมชัย กรรณสูต นายใหญ่ของบริษัท แต่ก็ยังตุนงานในมือทั้งขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ เช่น มอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) สีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) สุวรรณภูมิเฟส 2 โครงการวัน แบงค็อก
ล่าสุดร่วมกับกลุ่ม ซี.พี. คว้างานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 2.24 แสนล้านบาท อภิโปรเจ็กต์รัฐบาล คสช. ทำให้อิตาเลียนไทยฯมีแบ็กล็อกเพิ่มขึ้น จาก 190,000 ล้านบาท เป็น 220,000 ล้านบาท สามารถรับรู้รายได้อีกกว่า 4 ปี เฉลี่ยปีละ 4-5 หมื่นล้านบาท จากผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 44,739 ล้านบาท ยังไม่นับรวมงานใหม่ที่กำลังรอคิวประมูลอีกหลายโครงการ ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าสารพัดสี ที่อิตาเลียนไทยฯตั้งเป้าจะเข้ามาเติมเต็มงานในอีก 20-25%
ด้านเบอร์ 2 ของวงการ “บมจ.ช.การช่าง” ของ ปลิว ตรีวิศวเวทย์ ก็ได้งานใหญ่ส่งท้ายปีไปครอง หลังตัดสินใจร่วมทุน 15% กับกลุ่ม ซี.พี.ลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน หวังสร้างโปรเจ็กต์แลนด์มาร์ก
ซิโนไทยฯงานล้น 1.2 แสนล้าน
ฝั่งบิ๊กทรีของวงการ “บมจ.ซิโนไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น” ถึงจะไม่ได้งานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และต้องควักเนื้อร่วม 3,000 ล้านบาท กัดฟันสร้างอาคารรัฐสภา
เกียกกายให้เสร็จในปี 2562 นี้ ยังมีงานล้นหน้าตัก ทั้งรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองที่นอกจากจะลงแรงยังร่วมลงขันกับ บมจ.บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี รวมถึงสายสีเขียว รถไฟทางคู่ และสายสีส้มที่ผนึกกับ ช.การช่างคว้างานก่อสร้าง 3 สัญญา วงเงิน 46,971 ล้านบาท
นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทยฯ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ถึงสิ้นปี 2561 บริษัทมีงานในมือประมาณ 110,000-120,000 ล้านบาท เท่ากับปี 2560 จะสามารถรับรู้ไปได้อีก 3-4 ปีข้างหน้า โดยปี 2561 ที่ผ่านมา คาดว่ามีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 28,000 ล้านบาท
หวังเมกะโปรเจ็กต์ปลุกลงทุน
“สถานการณ์ปี”62 เป็นปีที่ค่อนข้างจะคาดเดาได้ลำบาก เนื่องจากการเลือกตั้ง และรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นจะเป็นตัวแปรสำคัญของการลงทุนภาคเอกชน”
นายภาคภูมิกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ด้วยโมเมนตัมของการลงทุนภาครัฐที่ยังคงใช้นโยบายในการลงทุนโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคอย่างต่อเนื่อง น่าจะยังทำให้ปี 2562 ยังเป็นปีที่ดีสำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ ส่วนทางภาคเอกชน ก็เริ่มเห็นแนวโน้มการลงทุนในโครงการใหญ่ ๆ มากขึ้น และคงมีความต่อเนื่องไปในปี 2562 เช่นกัน
ยูนิคฯโดดชิงเค้กสนามใหญ่
มาดูพอร์ตของ “บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น” ที่ไต่ระดับจากรับเหมางานถนนมาถึงรถไฟฟ้าสารพัดสีจนขึ้นแท่นบิ๊กโฟร์ของวงการ จากการที่ได้งานใหญ่หลายโปรเจ็กต์ ที่ผ่านมาได้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเองที่สระบุรี 2,000 ไร่ โรงประกอบเหล็กที่กบินทร์บุรี 120 ไร่ และศูนย์เครื่องจักร 200 ไร่ที่นวลฉวี และลงทุนซื้อหัวรถจักรเพื่อใช้ขนส่งเซ็กเมนต์ทางรถไฟจากสระบุรีมาที่บางซื่อ
ข้อมูลล่าสุดจากบอสใหญ่ “ประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย” ระบุว่า ปี 2561 บริษัทมีรายได้ 12,000-13,000 ล้านบาท กำไร 6-7% มีงานในมือประมาณ 30,000 ล้านบาท เช่น งานสถานีกลางบางซื่อ สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สายสีเขียว สายสีส้ม อุโมงค์ส่งน้ำแม่งัด-แม่กวง สามารถรับรู้รายได้อีก 2 ปี
“ปลายปีที่ผ่านมา ได้สร้างถนนต่อเชื่อมราชพฤกษ์-วงแหวนกาญจนาภิเษกแนวเหนือ-ใต้เสร็จแล้ว ปี”62 สถานีกลางบางซื่อจะเสร็จ ซึ่งเป็นงานของรถไฟที่ใหญ่ที่สุด ยังมีสายสีน้ำเงินช่วงเตาปูน-ท่าพระจะเสร็จ จะโยกคนมาที่ไซต์รถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ สีเขียว สีส้ม”
สำหรับงานใหม่ในปี 2562 นายประสงค์กล่าวว่า สนใจจะเข้าร่วมประมูลงานขนาดใหญ่หลายโครงการ เช่น สายสีม่วงใต้ สีส้มตะวันตก ทางคู่เฟส 2 ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก ระบบเก็บเงินมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราชและบางใหญ่-กาญจนบุรี ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ท่าเรือมาบตาพุด สนามบินอู่ตะเภา มีทั้งยื่นประมูลเองและร่วมกับพันธมิตรไทยและต่างชาติ ทั้งจีน ญี่ปุ่น ยุโรป โดยตั้งเป้าจะได้งาน 25%
งานนี้ต้องลุ้นใครจะได้งานใหญ่ส่งท้ายรัฐบาล คสช.ไปตุนไว้ในมือมากที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
The NEXT Real รุ่นที่ 7-8 ชวนนักอสังหาฯ เข้าคอร์สติวกูรูมือเก๋า ฝ่าสถานการณ์ปี 62
The NEXT Real เปิดรับสมัครผู้เรียนหลักสูตรนักอสังหาฯ รุ่นที่ 7 และ 8 ชูจุดแข็ง “Experience Sharing” ดึงกูรูชั้นนำร่วมแบ่งปันประสบการณ์สุดพิเศษแบบไม่มีกั๊ก ตัวช่วยคนทำงานใน Real Estate Ecosystem คาดอสังหาฯปี 62 เข้าสู่วัฏจักรช่วงชะลอตัว แนะขายสินค้าเจาะเรียลดีมานด์ พร้อมหาความรู้รับมือสถานการณ์
รศ.ดร.บุญสม เลิศหิรัญวงศ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยชินวัตร กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้เปิดหลักสูตรสำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตัวจริง ภายใต้ชื่อ “The NEXT Real” เป็นหลักสูตรระยะเวลา 4 เดือน เพื่อช่วยบ่มเพาะองค์ความรู้ มุมมอง และทักษะทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการในแวดวงที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ผ่านรูปแบบการแบ่งปันประสบการณ์ (Experience Sharing) จากวิทยากรชั้นนำ มุ่งเน้นสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากตำรา
โดยในปี 2562 นี้ เปิดรับสมัครผู้เรียนรุ่นที่ 7 และ 8 โดยรุ่น 7 เปิดรับสมัครถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ส่วนรุ่น 8 เปิดรับสมัครถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2562
“6 รุ่นที่ผ่านมา มีบุคคลในแวดวงอสังหาริมทรัพย์จากทั่วประเทศหลากหลายช่วงวัย โดยมากกว่า 50% จะเป็นกลุ่มผู้เรียนในช่วงอายุ 35-50 ปี และผู้เรียนที่อายุมากที่สุดที่มาเรียนคือ 65 ปี จากหลากหลายธุรกิจในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเจ้าของกิจการ และผู้บริหารระดับสูง รวมกว่า 700 คน เข้ามาร่วมเรียนกับเรา นี่คือสิ่งที่ตอกย้ำว่าความรู้และประสบการณ์คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคน ทุกช่วงวัย ทุกอาชีพ โดยเฉพาะในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว” รศ.ดร.บุญสม กล่าว
นายบริสุทธิ์ กาสินพิลา ผู้อำนวยการหลักสูตร The NEXT Real และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมบายเออร์ไกด์ จำกัด กล่าวว่า จุดแข็งของ The NEXT Real คือมีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้า ซึ่งเป็นตัวจริงเสียงจริงของวงการจำนวนมาก มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ทั้งที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวแบบที่ไม่สามารถหาจากที่อื่นได้ ประสบการณ์เหล่านี้จะเป็นเสมือนทางลัดให้แก่ ผู้เรียนในการนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตัวเองได้
“หลักสูตร The NEXT Real เปิดโอกาสให้ทุกคนได้รู้จักกัน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน และได้ก้าวเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือ Real Estate Ecosystem อย่างเต็มตัว เพื่อจะได้มีทักษะพร้อมรับมือทุกความท้าทายของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต” นายบริสุทธิ์กล่าว
ด้านนายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ก่อตั้งหลักสูตร The NEXT Real กล่าวว่า ทุกๆ 8-10 ปี ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะก้าวเข้าสู่สภาวะชะลอตัว โดยในปี 2562 ถือเป็นปีที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะก้าวเข้าสู่สภาวะชะลอตัวจากหลายปัจจัย เช่น สถาบันการเงินคุมเข้ม การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Post-finance) มากขึ้น ตลาดผู้ซื้อชาวต่างชาติชะลอตัวลง กำลังซื้อภายในประเทศ ไม่เติบโตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มมีสัญญาณโอเวอร์ซัพพลายในบางทำเลและมีอัตรา การดูดซับช้าลงจากช่วงที่ผ่านมา
“นี่คือเรื่องที่เราต้องตระหนัก แต่ไม่ต้องตระหนก เพราะสถานการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่คือเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่เป็น “วัฏจักร” สิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการคือ ต้องรู้ว่าจะปรับตัวอย่างไร จะพลิกเกมอย่างไร และต้องหันมาพัฒนาและขายสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาดจริงๆ ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องไม่หยุดเรียนรู้ เพราะยิ่งธุรกิจ มีปัญหา ยิ่งต้องหาความรู้” นายอนันต์กล่าว
สำหรับหลักสูตร The NEXT Real เปิดรับผู้เรียนจากทั้งสิ้น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 60% 2.กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ 20% 3.กลุ่มผู้มีที่ดินที่ต้องการพัฒนาหรือ Pre-developer 10% และ 4.กลุ่มผู้สนใจทั่วไป 10%
โดยรุ่นที่ 7 เรียนทุกวันศุกร์ตลอดเดือนมีนาคม-มิถุนายน 2562 ขณะที่รุ่นที่ 8 เรียนทุกวันศุกร์ ตลอดเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน 2562 ทั้ง 2 รุ่นจะมีโอกาสดูงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย และร่วมกิจกรรมมากมายกับเครือข่ายนักเรียน The NEXT Real จากทั่วประเทศ ผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมหลักสูตรหรือคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thenextreal.com หรือ โทร.095-691-5422, 095-175-2818, 0-2650-6018
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
ความหมาย ความสำคัญ ความเป็นมา พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ชาวไทยได้รับข่าวดีอันเป็นมหามงคลรับปีใหม่ เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 นับเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของคนไทย และอาจจะเป็นเพียงครั้งเดียวในช่วงชีวิตของหลายคนที่จะได้อยู่ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์อันสำคัญยิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ในโอกาสนี้ “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมานำเสนอให้คุณผู้อ่านได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชพิธีสำคัญนี้มากขึ้น
ความหมาย : สถาปนากษัตริย์อย่างเป็นทางการ
“พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” เป็นการประกอบพระราชพิธีสถาปนาพระมหากษัตริย์ หลังจากที่ทรงขึ้นครองราชย์มาก่อนหน้านั้นแล้ว
ดร.นนทพร อยู่มั่งมี อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เขียนไว้ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรมฉบับเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 ว่า นามของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก คำสำคัญ คือ “อภิเษก” และ “รดน้ำ” เดิมทีคำนี้มิได้หมายถึงการรดน้ำเฉพาะพระเจ้าแผ่นดิน แต่มีความหมายเพียงการรดน้ำเท่านั้น แต่เมื่อนำมาใช้ในภาษาไทยกลับมีการบัญญัติให้เป็นราชาศัพท์เฉพาะ
พิธีบรมราชาภิเษกอันเกี่ยวเนื่องด้วยพระมหากษัตริย์มีการกำหนดวาระและโอกาสไว้ 5 ประการ เรียก “ปัญจราชาภิเษก” ได้แก่
1.อินทราภิเษก หมายถึง การรดน้ำเพื่อเป็นพระอินทร์อันแสดงถึงสถานะของพระมหากษัตริย์ที่มีความยิ่งใหญ่ คือ พระราชาธิราช 4
2.โภดาภิเษก คือ ผู้ที่จะได้เป็นพระมหากษัตริย์นั้นเป็นเชื้อสายตระกูลพราหมณ์มหาศาล เป็นตระกูลมหาเศรษฐี มีโภคทรัพย์บริบูรณ์ พร้อมทั้งมียศ มีบริวาร พรั่งพร้อม นอกจากนี้ ยังเป็นผู้รู้จักในราชธรรมตราชูธรรม และทศกุศล อันจะเป็นประโยชน์ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎร
3.ปราบดาภิเษก คือ ผู้ที่อยู่ในตระกูลกษัตริย์ขัตติยราช มีฤทธิ์อำนาจและความสามารถในการสู้รบชนะข้าศึกศัตรูได้ครอบครองบ้านเมืองและทรัพย์สมบัติทั้งหลาย ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะกล้ำกรายหรือทำอันตรายได้ อย่างไรก็ดี คำว่าปราบดาภิเษกไม่ได้มีความหมายถึงการรบชนะผู้อื่นเพื่อขึ้นครองราชสมบัติเสมอไป แต่ยังหมายถึงการรดน้ำเพื่อขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกับคำว่าราชาภิเษกอีกด้วย
4.ราชาภิเษก คือ การขึ้นเป็นกษัตริย์ของพระราชโอรส เมื่อพระราชบิดา พระราชมารดาทรงพระชราแล้ว บรรดาพระญาติพระวงศ์เห็นสมควรจะยกพระราชโอรสขึ้นเป็นกษัตริย์จึงให้จัดพระราชพิธีราชาภิเษกขึ้น
5.อภิเษกหรืออภิเสก คือ การที่พระราชบิดา พระราชมารดา หาหญิงที่มีตระกูลเสมอกันมาอภิเษกสมรสกับพระราชโอรส ซึ่งหญิงนั้นอาจจะมีเชื้อสายกษัตริย์ในแว่นแคว้นอื่น ๆ ที่มีวงศ์ตระกูลดี ซึ่งเป็นสวัสดิชาติ
ส่วนจุลสารการจัดองค์ความรู้ สำนักพระราชวัง ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกไว้ว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษก คือ พระราชพิธีที่แสดงความสมบูรณ์แห่งพระมหากษัตริย์ตามที่กําหนดในโบราณราชประเพณี เป็นแบบแผนอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
ความสำคัญ : ประกาศสถานภาพสูงสุดด้านการปกครองในราชอาณาจักร
การประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมีความสำคัญด้วยนัยที่เป็นพระราชพิธีที่ประกอบขึ้นเพื่อประกาศสถานภาพความเป็นพระมหากษัตริย์ให้สาธารณชนได้ทราบโดยทั่วกัน ดังที่ ดร.นนทพร อยู่มั่งมี เขียนไว้ว่า การขึ้นครองราชสมบัติของพระมหากษัตริย์จำเป็นที่จะต้องมีการประกาศสถานภาพความเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ให้เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง และเหล่าราษฎรภายใต้พระราชอำนาจ และยังรวมถึงรัฐหรือเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้พระราชอำนาจ และยังรวมถึงรัฐหรือเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้ขอบขัณฑสีมาได้รับทราบ ดังนั้นจึงมีการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกซึ่งมีเนื้อหาอันแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และอำนาจแห่งสถานภาพที่สูงสุดด้านการปกครองในราชอาณาจักร
ความเป็นมา : อิทธิพลจากอินเดียสู่ราชสำนักสยาม
ดร.นนทพร อยู่มั่งมี เขียนไว้ว่า พิธีบรมราชาภิเษกในไทยสันนิษฐานว่ารับรูปแบบมาจากพิธีราชสูยะของอินเดีย ซึ่งมีการประกอบพิธี 3 อย่าง คือ การอภิเษกหรืออินทราภิเษก การกระทำสัตย์ และการถวายราชสมบัติ โดยจะประกอบพิธีขึ้นในพระราชมณเฑียร หรือท้องพระโรง ในพื้นที่ราชอาณาจักรไทย พบหลักฐานเบื้องต้นราวพุทธศตวรรษที่ 12 บริเวณจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงการอภิเษกเพื่อขึ้นครองราชสมบัติของเจ้าชายจิตรเสน เพื่อปกครองรัฐซึ่งสันนิษฐานว่าคืออาณาจักรเจินละ ซึ่งมีดินแดนส่วนหนึ่งอยู่ที่ประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน
การประกอบพระราชพิธีดังกล่าวยังปรากฏหลักฐานสืบเนื่องในอาณาจักรสุโขทัยเมื่อพุทธศตวรรษที่ 19 สมัยพระยาลือไทยราช มีการมอบเครื่องราชกกุธภัณฑ์ในการอภิเษก ได้แก่ มกุฎ หรือพระมหาพิชัยมงกุฎฉัตร และพระแสงขรรค์ชัยศรี
จวบจนสมัยกรุงศรีอยุธยา ปรากฏหลักฐานถึงขั้นตอนการพระราชพิธีแบบย่นย่อในคำให้การชาวกรุงเก่าเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาใน พ.ศ. 2310 โดยมีรายละเอียดและลำดับของพระราชพิธี ดังนี้
1.เครื่องราชูปโภคที่ใช้ในพระราชพิธี เช่น ตั่งไม้มะเดื่อ พระที่นั่งภัทรบิฐ
2.เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ ได้แก่ พระมหามงกุฎ พระแสงขรรค์ พัดวาลวิชนี ธารพระกร และฉลองพระบาท
3.การประกอบพระราชพิธี เช่น การเป่าสังข์ การตีกลองอินทเภรี และการประโคมเครื่องดุริยางค์
4.ราชบัลลังก์ปูลาดด้วยหนังพระยาราชสีห์ ซึ่งต่อมาได้ใช้แผ่นทองคำเขียนรูปราชสีห์ด้วยชาดหรคุณแทน
5.พระสุพรรณบัฏที่จารึกอันมีการประดับกรอบด้วยอัญมณี โดยประดิษฐานอยู่บนพานทอง
6.การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยกระบวนพยุหยาตรา
7.การสมโภชพระนคร
8.เมื่อเสด็จการพระราชพิธีแล้วจะทรงสร้างพระพุทธรูป เงินพดด้วง งดเว้นไม่เก็บส่วยเงินอากร 3 ปี กับทั้งทรงปล่อยนักโทษด้วย
ส่วนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ จุลสารการจัดองค์ความรู้ สำนักพระราชวัง ให้ข้อมูลไว้ว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2325 การเสด็จขึ้นครองราชย์ครั้งนั้น เรียกว่า ปราบดาภิเษก ถือว่า การพระราชพิธียังไม่สมบูรณ์ เมื่อทรงสร้างพระบรมมหาราชวัง รวบรวมรูปแบบการพระราชพิธี สร้างเครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระมหาเศวตฉัตร เครื่องราชูปโภค และพระแสงอัษฎาวุธ สำหรับพระนครแล้ว พ.ศ. 2328 จึงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อความสมบูรณ์แห่งพระมหากษัตริย์
การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนั้น เป็นแบบแผนที่ถือปฏิบัติมาในรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 ขั้นตอนสำคัญของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอยู่ที่การสรงมรุธาภิเษก คือ ทรงรับน้ำอภิเษกโดยพระราชครูพราหมณ์ ด้วยเชื่อในคติว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสมมติเทพที่อุบัติมาเพื่อขจัดทุกข์เข็ญอาณาประชาราษฎร์ ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ให้มีความร่มเย็นและทรงบำรุงอาณาจักรให้เจริญรุ่งเรืองอุดมสมบูรณ์
รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีสัมพันธไมตรีกับประเทศยุโรป ทรงรับคติการวมพระมหาพิชัยมงกุฏในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างราชสำนักยุโรป นอกจากนั้น โปรดเกล้าฯ ให้เพิ่มพระราชพิธีสงฆ์ ดังนั้นน้ำอภิเษกจึงมีทั้งน้ำพระพุทธมนต์และน้ำพระเทพมนต์ และกำหนดให้มีการบำเพ็ญพระราชกุศลสมโภชเครื่องราชกกุธภัณฑ์ในวันคล้ายวันบรมราชาภิเษกประจำปี เรียกว่าวันฉัตรมงคล ถือปฏิบัติต่อมาในรัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนการพระราชพิธีบ้าง ตามความเหมาะสมในแต่ละสมัย
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างย่นย่อ ตัดทอนพิธีการหลายประการ คงไว้เฉพาะที่จำเป็น กำหนดการพระราชพิธี 3 วันคือ วันที่ 3-5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 การประกอบพระราชพิธีในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 นี้เอง ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ที่เราชาวไทยได้ยินคุ้นหูมานานเกือบ 70 ปี
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
“ความล้มเหลว” สปริงบอร์ดไปสู่ความสำเร็จ
ใครก็ตามที่กำลังนั่งเศร้าหลังจากการประมวลผลงานรวมตลอดปี แล้วพบว่า ปี 2018 เป็นปีที่ล้มเหลว มากกว่าสำเร็จ จนเริ่มรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า ขอให้ลองเปิดใจให้กว้าง แล้วมองความล้มเหลวที่คุณเจอมานับไม่ครั้งไม่ถ้วนในมุมใหม่
แทนที่จะคิดว่าเป็นวายร้าย หรือสิ่งที่น่ารังเกียจ แต่พลิกมุมมองใหม่ว่า ความล้มเหลว คือ สปริงบอร์ดที่จะพาคุณไปสู่ความสำเร็จที่ไกลกว่าเดิม แล้วคุณจะเข้าใจว่า ทำไมแม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จของโลกมากมาย ถึงยกย่อง “ความล้มเหลว” เป็นคุณครูคนสำคัญชีวิต เหตุผลง่ายๆ ก็เพราะเบื้องหลังความโหดร้ายและน่ากลัวของคุณครูคนนี้มักฝากบทเรียนที่เหมือนเป็นวิชาตัวเบาให้นักเรียนทุกคนเสมอ
1.ประสบการณ์ชีวิต ทันทีที่คุณเผชิญหน้ากับความล้มเหลว นั่นหมายความว่าคุณกำลังเทกคอร์สการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิต ทักษะที่จะทำให้คุณเข้าใจความเป็นจริงมากขึ้น แม้บางครั้งความล้มเหลวนั้นจะนำมาซึ่งความสูญเสียหรือเจ็บปวด แต่ก็ตอบแทนมาด้วยประสบการณ์ที่ต่อให้เงินมหาศาลหรือมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดแห่งไหนของโลกก็สอนให้ไมได้ ซึ่งประสบการณ์ที่ว่านี้อาจเปลี่ยนมุมมองความคิด หรือ การใช้ชีวิตของคุณไปตลอดกาล
2.ให้ความรู้ โลกแห่งการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดก็จริงๆ แต่เชื่อเถอะว่า หนึ่งในเคล็ดวิชาไปสู่ความสำเร็จที่คุณจะอุตสาหะขวนขวายมาใส่ตัวนั้น ไม่มีความรู้ไหนจะยูนีคจนแทนที่ความรู้ที่เกิดจากความล้มเหลวได้เด็ดขาด ดูอย่างโทมัส อัลวา เอดิสัน ก่อนจะเป็นนักประดิษฐ์ชื่อก้องโลก เขาผ่านประสบการณ์ล้มเหลวมาถึงเกือบ 10,000 ครั้ง กว่าจะประดิษฐ์หลอดไฟได้สำเร็จ ซึ่งผลลัพธ์ที่เลอค่านี้ ตกผลึกจากการร้อยเรียงชุดความรู้ที่ได้จากความผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วนมาพัฒนา ปรับปรุง จนสำเร็จในที่สุด
3.วิชาอดทน อีกหนึ่งกุญแจสำคัญของชีวิตสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องล้มแล้วพร้อมลุก แน่นอนว่าไม่มีใครอยากหลงทางจนเผลอไปสู่ปลายทางแห่งความล้มเหลว แต่ชีวิตคนเราก็ไม่ได้เป็นดั่งที่หวังไว้เสมอไป บางครั้งหนทางที่คิดว่าใช่มาถูกทางแน่ๆ อาจเป็นทางตันที่ลวงให้เสียเวลาก็เป็นได้ ไม่สำคัญว่าทางที่คุณเดินอยู่จะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญกว่าเมื่อคุณจะกล้าที่จะเริ่มต้นก้าวแรกแล้ว คุณไม่กลัวที่จะลุกขึ้นใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมบอกกับตัวเองว่าต่อให้มาผิดทาง ก็แค่จดจำและเรียนรู้กับความผิดพลาดนั้น จากนั้นก็แค่เปิดจีพีเอสหรือกางแผนที่เพื่อหาเส้นทางไปสู่จุดหมายใหม่ต่อไป
4.ฝึกความกล้า ทุกครั้งที่ผ่านพ้นเหตุการณ์หนักๆ ความผิดพลาด หรือ ความล้มเหลวมาแล้วมองย้อนกลับไป รู้สึกมั้ยว่า ราวกับคุณได้ข้ามผ่านประตูแห่งกาลเวลา ทำให้ตัวเองได้เติบโตและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นไม่ต้องแปลกใจหากคุณรู้สึกเช่นนั้น เพราะความล้มเหลวก็ไมต่างจากติวเตอร์ที่สอนให้คุณเข้าใจชีวิตและความเป็นจริงของชีวิตที่ไม่ได้ลองสัมผัสด้วยตัวเองไม่มีวันเข้าใจ
5.เรียนรู้คุณค่าของชีวิต จะเรียกว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่สุดที่ความล้มเหลวมอบให้ก็ไม่ผิด คุณค่าในที่นี้เป็นพื้นฐานไปสู่ความสำเร็จที่สำคัญ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเข้าใกล้ความสำเร็จมากเท่าไหร่ ความล้มเหลวจะเริ่มปรากฏตัวให้คุณเห็น ซึ่งยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้คุณได้เรียนรู้ จากการหาประโยชน์ หามุมมองที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เรียนรู้ว่าพลาดเพราะอะไร เพื่อจดจำและนำไปต่อยอดให้ได้นั่นเอง
รู้แล้วว่าอะไรคือข้อดีของความล้มเหลว ที่เหลือก็แค่บอกตัวเองว่า “สู้ต่อไป” ทำใจยอมรับความล้มเหลวที่ต่อให้คนที่เก่งมาจากไหนก็ต้องเคยเจอให้ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก terrabkk.com
Tip เป็นแนวให้เราใช้พลาสติกน้อ ยลง
ขอร่วมรณรงค์ด้วยคนค่ะ ขอแชร์ Tip เป็นแนวให้เราใช้พลาสติกน้อ
พี่พิมก็คนนึงล่ะที่ไม่ทิ้ง
อะว่าแล้วก็เก็บศัพท์กันซัก
reusable – นำกลับมาใช้ได้อีก
container – กล่อง
disposable – ประเภททิ้งได้ ใช้แล้วทิ้ง
produce – อาหารสด ผัก ผลไม้
dine in – ทานข้าวที่บ้าน
leftover – อาหารที่ทานเหลือ
ขอบคุณข้อมูลจาก FAB English
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 9/1/
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 19,500.00 | 19,400.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 20,000.00 | 19,056.12 | 1,257.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 19,753.48 | 1,303.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 17,150.51 | 1,131.30 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 15,244.90 | 1,005.60 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,580.56 | 566.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,670.40 | 440.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 9/1/
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 26.25 | 26.25 | 26.25 | 26.25 | 26.25 | 26.25 | 26.75 | 26.25 | 26.25 | 26.25 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 25.98 | 25.98 | 25.98 | 25.98 | 25.98 | 25.98 | 25.98 | 25.98 | 25.98 | 25.98 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 23.24 | 23.24 | 23.24 | 23.24 | 23.24 | – | 23.24 | 23.24 | 23.24 | 23.24 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.24 | 19.24 | – | – | – | – | – | 19.24 | – | – |
เบนซิน 95 | 33.66 | – | – | – | 34.11 | – | 34.16 | 33.96 | – | 33.96 |
ดีเซล | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 28.79 | 29.06 | 29.25 | 29.25 | 29.06 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 16.06 | 16.06 | – | – | – | – | – | – | – | – |