Blog Post

เอกชนดิ้น “ปรับตัว-พลิกเกม” !! 3 ดีเวลอปเปอร์กลาง-เล็ก ชูไม้เด็ด ลดเสี่ยง

อสังหาฯ แห่ปรับตัว พลิกเกมรับมรสุมปีนี้ 3 ค่าย รายกลาง-เล็ก-ร่วมทุนบริษัทข้ามชาติ โชว์วาทะเด็ด เตือนเพื่อนร่วมอาชีพ อย่าตื่นตระหนกลดราคาซํ้าเติมตลาด ปีที่ผ่านมาพลาดอย่าซํ้ารอย

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ก้าวขาเข้าสู่สภาวะชะลอตัว ทำให้หลายบริษัทต้องปรับทัพ ยกเครื่องแผนงานเปิดโครงการใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางตลาด ดีมานด์ที่ฝืดจากปัจจัยดอกเบี้ย มาตรการแอลทีวี หนี้ครัวเรือนสูง ยังเป็นความท้าทายสำหรับการขายของดีเวลอปเปอร์ โดยเฉพาะรายนอกตลาดที่สายป่านยังสั้น เงินทุนไม่หนา คลื่นมาอาจเซก่อน … “ฐานเศรษฐกิจ” รวมวาทะ-กลยุทธ์รับมือมรสุม ผ่าน 3 ดีเวลอปเปอร์ ร่วมต่างชาติ-กลาง-เล็ก

นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ดับเบิ้ลยู-ชินวะ จำกัด กล่าวในเวที : กลยุทธ์การรับมืออสังหาฯ ชะลอตัว ปี 2562 งานเปิดตัวหลักสูตรเน็กซ์เรียล ว่า หากมองในสายตาของผู้ประกอบการที่ร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ แม้ปีนี้แนวโน้มเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าความต้องการคนมีบ้านยังมีอยู่ ฉะนั้น ยังเป็นโอกาสของผู้พัฒนา ซึ่งใน “การปรับตัว” ผู้ประกอบการควรต้องศึกษาถึงความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันอย่างแท้จริง และลดความเสี่ยงด้วยการลดขนาดโครงการให้เล็กลง พัฒนาโปรดักต์ตอบสนองลูกค้า 2 กลุ่มใหญ่ เรียลดีมานด์ หรือ สำหรับนักลงทุน ให้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะดีมานด์ในกลุ่มนักลงทุนที่เริ่มชะลอตัว ผู้พัฒนาควรหาช่องทางสนับสนุนในการช่วยปล่อยเช่า หรือ ใน ‘ญี่ปุ่น’ ที่ผู้พัฒนาจะสร้างโครงการเฉพาะขายเพื่อนักลงทุนยกตึก หรือ รับจ้างออกแบบและพัฒนาโครงการให้เจ้าของที่ดิน

“อย่าสร้างแล้วปล่อยขายตามมีตามเกิดแบบที่ผ่านมา ต้องช่วยให้นักลงทุนปล่อยเช่าง่ายขึ้นด้วย เช่น สร้างแอพบุ๊กกิ้ง ที่สำคัญในสถานการณ์เช่นนี้ ขออย่างเดียวอย่าตกใจและแห่กันลดราคา ยิ่งซํ้าเติมตลาด”

ด้าน นายต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า ในสถานการณ์ที่ตลาดมีหลายปัจจัยรุมเร้า ในการดำเนินธุรกิจก็ต้องเดินต่อ แต่จะเดินอย่างไรให้ปลอดภัยและไม่เสี่ยง คือ สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคิด ซึ่งหากมองย้อนดูปัญหา พบที่ผ่านมาตลาดมีความหลากหลายของโปรดักต์มากเกินไป มีแฟชั่น มีฟังก์ชันที่เสริมเข้ามาเยอะเกินความจำเป็น หลังจากนี้ควรศึกษาว่า ลูกค้าที่มีความต้องการจัดอยู่ในกลุ่มกำลังซื้อใด ตลาดไหนสามารถตอบสนองได้ ยิ่งหากเป็นรายขนาดกลางและเล็ก เรื่องทำเล-โปรดักต์จะมีความสำคัญมาก ในหลักคิดของตนเองนั้น สามารถป้องกันความเสี่ยงได้ โดยศึกษาจากเจ้าใหญ่ ๆ ในตลาด

“ใครประสบความสำเร็จ ใครพลาด ก็อย่าไปเหยียบซํ้ารอย อะไรที่วางแผนไว้ก่อน ไม่มีตกใจแน่นอน แต่ถ้าทำไปเรื่อย ๆ ไม่ปรับตัว ปีนี้ก็อาจแย่ได้”

ขณะที่ นางสาว กฤศธนฎา สื่อไพศาล บริษัท พีพร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ ฐานะรายใหม่ในตลาด กล่าวเสริมว่า กังวลถึงทิศทางการชะลอตัวของตลาด เพราะที่ผ่านมาดีมานด์เทียมก่อตัวเยอะ ทำให้ราคาที่ดินและราคาขายปรับตัวขึ้นสูงมาก ส่งผลกลุ่มที่เป็นเรียลดีมานด์รับราคาดังกล่าวไม่ไหว และดีดตัวเองไปอยู่ในทำเลที่ไกลออกไป แต่ยังเดินทางได้ตามกำลังซื้อ ฉะนั้น หากพิจารณาเรียลดีมานด์ในตลาดยังมี เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง สร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งและผู้บริโภคเกิดความเชื่อถือเพื่อเป็นใบเบิกทาง และต้องไม่ลืมควบคุมต้นทุนผลิตด้วย

“สิ่งที่ดีเวลอปเปอร์รายใหม่หรือเล็กต้องโฟกัส ต้องหาโปรดักต์ที่ใช่ ในแพ็กเกจที่ใช่ และโลเกชันที่ดี”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com

ผ่ามุมคิด | “ต้นไม้ … ไม่งอกถึงสวรรค์” รุ่นใหญ่ย้อนวิกฤติปี 40

“ปี 2562 ตลาดอสังหาฯ ชะลอตัวแน่นอน เพราะเห็นสัญญาณเมฆดำมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ปลายปีฝนเริ่มตก ปีนี้ฝนคงตกเต็ม ๆ อยากให้ระวังตัวกันหน่อย” คือ คำเปรียบเทียบที่เห็นภาพชัดเจนถึงสถานการณ์ความน่ากังวลช่วงขาลงของตลาดอสังหาฯ ตามวัฏจักร ทั้งยังถูกปัจจัย “ดอกเบี้ย-แอลทีวี-หนี้ครัวเรือน-เศรษฐกิจโลก” กระหน่ำซํ้าเติม สถานะการเงินไม่มั่นคง มีดับ … ถอดบทเรียนวิกฤติ ปี 2540 จากรุ่นใหญ่ ผู้ก่อตั้ง “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” ที่ยํ้าให้ตระหนัก แต่อย่าตระหนก

➣ วัฏจักรเติบโตสู่ชะลอ

นายอนันต์ กล่าวว่า ทุก ๆ 8-10 ปี ธุรกิจอสังหาฯ จะก้าวเข้าสู่สภาวะชะลอตัว โดยตลาดปีนี้จะชะลอตัวจากหลายปัจจัย เช่น กรณีแบงก์คุมเข้มปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น – ตลาดผู้ซื้อชาวต่างชาติชะลอตัวลง – กำลังซื้อภายในประเทศไม่เติบโต ขณะที่ ตลาดหลักคอนโดฯ เริ่มมีสัญญาณโอเวอร์ซัพพลายในบางทำเลและมีอัตราดูดซับช้าลงจากช่วงที่ผ่านมา

➣ เหมือน-ต่าง ปี 2540

ความน่ากังวลของตลาด หนัก ๆ มาจากแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ พบงบดุลของแต่ละบริษัท กำไรไม่โต แต่สินทรัพย์และหนี้โตขึ้น สต๊อกแน่น อยากให้ทุกบริษัทระมัดระวัง เพราะสภาพคล่องอาจมีปัญหาได้จากกำลังซื้อลดลง “กำไรไม่ขึ้น เพราะสต๊อกมีเยอะ พบรายใหญ่ยังมีความพยายามในการขยายกิจการ อาจได้เห็นบางรายมีปัญหาทางการเงิน เช่น จ่ายเงินผู้รับเหมาช้า หรือ ยกเลิกโครงการ” แต่อย่างไรก็ตาม ยังแตกต่างจากวิกฤติเมื่อปี 2540 เพราะขณะนั้น ตัวเลขหนี้ครัวเรือนภาคประชาชนสูงมาก แม้กระทั่งกลุ่มคนที่ผ่อนบ้านมาเป็นระยะเวลานานยังเกิดหนี้เสียขึ้น แบงก์ล้มหายตายจากไปเยอะ แต่ปัจจุบัน โดยรวมทุกแบงก์ยังมีสภาพคล่องดี เพียงแต่หนี้เสียที่เกิดขึ้นจะทำให้แบงก์ระมัดระวังในการปล่อยกู้ให้กับรายเล็ก อาจกู้ได้ยากกว่าเดิม ดอกเบี้ยสูง สินเชื่อกระจุกตัวกับรายใหญ่

➣ ตระหนักอย่าตระหนก

แต่เมื่อดูจากปัจจัยที่เกี่ยวพันกับการอยู่รอดของบริษัทอสังหาฯ โดยเฉพาะสภาพคล่องของแบงก์ ณ ปัจจุบัน จึงไม่น่ากังวลมากนัก เชื่อสถานการณ์ไม่ซํ้ารอย “ความจริงไม่ได้หดหู่มากนัก เพียงแต่พระอาทิตย์ 4 โมงเย็นแล้ว ก็ต้องระวังกันหน่อย ภาพที่เกิดขึ้น คือ ปลาในแม่นํ้าจะน้อยลง คัดกรองคนที่ทำไม่จริงออกไปบ้าง ซึ่งระยะยาวจะดีต่อตลาด เพราะขณะนี้ยังไม่พบปัญหาลูกค้าโวยวาย ว่า บริษัทล้มโครงการ ต่างจากช่วงปี 2540”

➣ โอกาสยังมี

นายอนันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้จะมีหลายปัจจัยรุมเร้า โดยเฉพาะประเด็นกำลังซื้อที่น่าห่วง แต่ตลาดมีขนาดใหญ่มาก จริงอยู่ที่บางทำเลชะลอตัวจากการแข่งขันกันมาก แต่ภาพรวมไม่ได้แย่ทั้งตลาด บางทำเล บางจังหวัด ยังมีโอกาส ต้องศึกษาให้ดี ทั้งยังมีปัจจัยบวกจากงานก่อสร้างของภาครัฐที่เกิดขึ้นทั้งเมือง ต่างจะช่วยสนับสนุนให้เกิดทำเลใหม่ ๆ หรือแม้แต่ประเด็นทางการเมือง ก็ไม่มีความน่าเป็นห่วง “ตลาดชะลอรอบนี้ ถ้ามีเลือกตั้งก็น่าจะดีขึ้น เพราะเงินจะสะพัด แต่ถึงไม่มีเลือกตั้ง 5 ปีผ่านมา ตลาดก็ยังไปต่อได้”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com

Financial Ratio 2 : Capital Gain กำไรสะท้อนศักยภาพทำเล

ที่ดิน เป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างที่อยู่อาศัย หนึ่งในปัจจัย 5 ในการดำรงชีวิต จึงไม่แปลกใจที่ยิ่งนานวัน ที่ดินยังคงรักษามูลค่าของตัวเองได้อย่างดี และพร้อมที่จะปรับมูลค่าขึ้นตลอดเวลา ภายใต้สถาณการณ์ที่เหมาะสม ไม่เหมือนกับมูลค่าของเงินที่ลดลงเรื่อยๆตามอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้น ที่ดิน จึงดูน่าสนใจมาก เพียงแค่ซื้อแปลงที่ดินสักผืนทิ้งไว้ เมื่อเวลาผ่านไป ก็มีโอกาสที่จะขายในราคาที่สูงขึ้นได้ ซึ่งกำไรที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายนี้ เรียกว่า

“กำไรส่วนเกินทุน (Capital Gain) เป็นกำไรที่เกิดขึ้น จากผลต่าง ระหว่างระดับราคาซื้อและราคาขาย
กล่าวคือ สามารถขายได้ใน ราคาที่สูงกว่า ราคาทุนตอนซื้อมา”

ซึ่งสามารถคำนวณเป็นเปอร์เซนต์เปรียบเทียบสัดส่วนกำไรและต้นทุน เรียกว่า อัตรากำไรส่วนเกิน ได้ดังนี้

TerraBKK ขอยกตัวอย่างการใช้ประยุกต์ใช้ เพื่อทำความเข้าใจอย่างง่ายๆ ดังนี้

“คุณนาย ซื้อที่ดินย่านลาดกระบัง จำนวน 10 ไร่ ไร่ละ 10 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 100 ล้านบาท
10 ปีต่อมา มีผู้สนใจขอซื้อไร่ละ 14 ล้านบาท
คุณนายตัดสินใจขายทั้งหมด 10 ไร่ ได้เงินทั้งสิ้น 140 ล้านบาท”

จากตัวอย่าง พบว่า เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี เจ้าสัวสามารถทำกำไรได้ 40 ล้านบาท และมีอัตรากำไรส่วนเกิน 40% คำนวณได้ ดังนี้

กำไร = 140 – 100 ล้านบาท = 40 ล้านบาท
อัตรากำไรส่วนเกินได้ (Capital Gain ) = (กำไร / ต้นทุน) X 100 = (40 /100) x 100 = 40%

สำหรับกำไรส่วนเกินทุนนี้ สามารถเกิดขึ้นได้กับการลงทุนอื่นๆ เช่น หลักทรัพย์ กองทุนรวม เป็นต้น
ทั้งนี้ หากต้องการลงทุนที่ดินตลอดจนอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้ได้ “กำไรส่วนเกิน” นั้น คือ การพยายามเพิ่มความต่างของราคาซื้อกับราคาขายให้กว้างที่สุดนั้นเอง

ท้ายนี้ TerraBKK ขอกล่าวว่าที่ดิน เป็นสินทรัพย์ที่สามารถรักษามูลค่าของตนเองได้ดี การเลือกซื้อที่ดิน แม้ไม่ได้นำมาพัฒนาสร้างสิ่งปลูกสร้าง
ก็สามารถขายได้ “กำไรส่วนเกินทุน” ตามศักยภาพทำเล

ขอบคุณข้อมูลจาก  terrabkk.com

5 วิธีคิด กำจัด “ความวิตกกังวล” ของคุณอย่างได้ผล

เวลาคนเราได้ยินคำว่า วิตกกังวล มักจะนึกถึงเรื่องจำพวก การขึ้นแสดงบนเวที การกล่าวสุนทรพจน์ การยิงจุดโทษ หรือแม้แต่เรื่องการมีเซ็กซ์ ความรู้สึกวิตกกังวล มันสามารถส่งผลเสียกับงานนั้น ๆ ที่คุณทำอยู่ได้ ยกตัวอย่างเช่น การขึ้นไปพูดบนเวที ที่มีสายตานับร้อยจ้องมองมาที่คุณ ทั้ง ๆ ที่คุณเตรียมบทพูดมาอย่างดีแล้ว แต่พอคุณก้าวขึ้นไปบนเวทีคุณกลับรู้สึกวิตกกังวล ถึงมันจะเป็นความรู้สึกเพียงไม่กี่วินาที แต่มันก็สามารถทำให้คุณเสียสมาธิไปกับการพูดได้

1. อย่าผูกคุณค่าของคุณไว้กับผลลัพท์

ถ้าหากคุณเป็นคนที่มักจะตีคุณค่าของตัวเองจากผลลัพท์ของสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ให้เลิกซะเถอะ เพราะคุณมีคุณค่ากว่านั้นมาก

2. กล้าเผชิญหน้ากับความรู้สึก

รู้สึกกลัว รู้สึกน่าสมเพช รู้สึกอาย ล้วนแล้วแต่เป็นความรู้สึกที่ใคร ๆ ก็ต้องเคย กล้าเผชิญหน้ากับความรู้สึกเหล่านี้สิ และจงเชื่อว่า ต่อให้คุณรู้สึกกลัว รู้สึกน่าสมเพช หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่คุณก็ยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม

เพียงกล้าเปิดใจยอมรับความรู้สึกแย่ ๆ เหล่านี้ เพราะยิ่งคุณต่อต้านความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้คุณรู้สึกวิตกกังวล

3. เชื่อในศักยภาพของตนเอง

อย่าด่วนตัดสินใจหลีกเลี่ยงงานหรือสถานการณ์ที่คุณมักรู้สึกว่า มันไม่เหมาะกับคุณ หรือ คุณไม่สามารถทำมันได้หรอก เพราะการกลัวสื่งที่ไม่รู้ มันจะทำให้คุณไม่รู้ไปตลอด

จงเชื่อในศักยภาพของตัวเอง แล้วให้ลองคิดว่า ดีเสียอีกที่จะได้เรียนรู้วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และได้รับประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น

4. การจัดลำดับความสำคัญ

หลายคนตัดสินใจเลือกทำงานที่ชอบและง่ายก่อนเป็นอันดับต้น ๆ แล้วเก็บงานที่ไม่ชอบไว้ทำตอนท้าย ๆ คุณจะตกอยู่ในวงโคจรของสิ่งที่ไม่ชอบต่อไปเรื่อย ๆ และก่อนิสัยผลัดวันประกันพรุ่งให้กับตัวเอง

ลองเปลี่ยนมาเป็น เริ่มทำงานชิ้นที่คุณไม่ชอบก่อนในตอนเช้าของวัน เพราะช่วงเช้าเป็นช่วงที่คุณยังกำลังสดชื่น และมีพลัง สมองทำงานได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังช่วยให้คุณไม่ต้องรู้สึกหนื่อยหน่ายกับงานยาก ๆ ที่กองตั้งไว้ตลอดทั้งวัน

5. จงมีสัจจะ และความรับผิดชอบ

สองสิ่งนี้สำคัญมากสำหรับการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับคนอื่น และการทำงานเป็นทีม หากคุณขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ความเชื่อมั่นในตัวคุณ ทั้งจากผู้อื่นและจากตัวเองก็จะลดน้อยลง จนในที่สุดคุณก็จะกลายเป็นจุดอ่อนของทีม จงเป็นคนรักษาคำพูดและรับผิดชอบในหน้าที่การงาน

ขอบคุณข้อมูลจาก sumrej.com

3R ภาษาอังกฤษรักษ์โลก Reduce – Reuse – Recycle ใช้ต่างกันอย่างไร

Reduce, Reuse, Recycle 3R ภาษาอังกฤษที่คนรักษ์โลกคุ้นเคยกัน ทั้ง 3 คำนี้นำมาผสมกับ Prefix ‘re’ ให้ความหมายว่า ทำอีก แต่ทั้ง Reduce – Reuse – Recycle มีการใช้ในความหมายที่แตกต่างกัน ดังนี้

Reduce (v.)

Reduce หมายถึง ลดลง เช่น Karaoke is good for reducing stress. (คาราโอเกะดีสำหรับการลดความเครียด) หรือหากพูดในเรื่องรักษ์โลก เราใช้ Reduce ในความหมายว่า ใช้ให้น้อยลง ลดปริมาณการใช้ให้น้อยลง เช่น ใช้น้ำให้น้อยลง, ใช้พลังงานให้น้อยลง

Ex. I think I’m trying to reduce my use of water.
(ฉันคิดว่าฉันจะพยายามลดการใช้น้ำให้น้อยลง)

Ex. We should reduce electricity consumption of appliances.
(พวกเราควรลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า)

นอกจากนี้ Reduce ยังใช้ในความหมายว่า ลดราคา ได้อีกด้วย
Ex. The price of these shoes has been reduced.
(ราคาของรองเท้าเหล่านี้ถูกลดราคาลงแล้ว)

Reuse (v.)

Reuse หมายถึง นำกลับมาใช้ใหม่ หรือใช้มากกว่าหนึ่งครั้ง เป็นการนำวัสดุที่กำลังจะเป็นขยะหรือเป็นขยะแล้วกลับมาใช้ใหม่ตรง ๆ หรือเพิ่มความสร้างสรรค์ DIY ขึ้นเป็นของใช้ชิ้นใหม่

Ex. I reuses plastic shopping bags as trash bags for the trash cans in my room.
(ฉันนำถุงพลาสติกที่ได้ตอนซื้อของมาทำเป็นถุงขยะสำหรับถังขยะในห้องของฉัน)

Ex.  My mom reuses plastic bottles as flower pots.
(แม่ของฉันนำขวดพลาสติกมาใช้ใหม่เป็นกระถางปลูกดอกไม้)

Recycle (v.)

Recycle หมายถึง นำกลับมาใช้อีก หรือหมุนเวียนกลับมาใช้อีก ดูแล้วคล้าย ๆ Reuse แต่ความต่างคือ Recycle เป็นการนำวัสดุที่กำลังจะเป็นขยะหรือเป็นขยะแล้วไปผ่านกระบวนการหลอมใหม่แล้วนำกลับมาเป็นวัสดุเดิมหรือวัสดุชิ้นใหม่ โดยวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เช่น กระดาษ, พลาสติก, กระจก, กระป๋องโลหะ เป็นต้น

Ex. Aluminum pull tabs are recycled into prosthetic legs.
(ฝากระป๋องอะลูมิเนียมนำไปรีไซเคิลเป็นขาเทียม)

ขอบคุณข้อมูลจาก trueplookpanya.com

ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 16/01/2562

ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 16/01/2562

	ปตท.	บางจาก	เชลล์	เอสโซ่	คาลเท็กซ์	ไออาร์พีซี	พีที	ซัสโก้	เพียว	ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95	26.35	26.75	26.75	26.35	26.35	26.35	26.35	26.35	26.35	26.35
แก๊สโซฮอล์ 91	26.08	26.48	26.48	26.08	26.08	26.08	26.08	26.08	26.08	26.08
แก๊สโซฮอล์ E20	23.34	23.74	23.74	23.34	23.34	–	23.34	23.34	23.34	23.34
แก๊สโซฮอล์ E85	19.34	19.54	–	–	–	–	–	19.34	–	–
เบนซิน 95	34.16	–	–	–	34.61	–	34.66	34.46	–	34.46
ดีเซล	25.69	26.09	26.09	25.69	25.69	25.69	25.69	25.69	25.69	25.690
ดีเซลพรีเมี่ยม	29.29	29.96	30.15	29.75	29.75	–	–	–	–	–
แก๊ส NGV	16.06	16.06	–	–	–	–	–	–	–	–