ส่องคาแร็กเตอร์คอนโดฯ รีเซล ทำเลไหนเหมาะกับใคร ทำเลไหนฮอต
คอนโดมิเนียมรีเซลในกรุงเทพฯ หลาย ๆ ทำเล เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นจากปัจจัยสำคัญคือ ราคาที่ถูกกว่าโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ ซึ่งตอบโจทย์กับผู้ซื้อกลุ่ม Real Demand หรือกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง นอกจากจะมีราคาที่ถูกกว่าแล้ว ยังเป็นโครงการสร้างแล้วเสร็จ ผู้ซื้อได้เห็นห้องจริง และได้เห็นรูปแบบโครงการได้โดยไม่ต้องนึกภาพเองหรือดูจากโบรชัวร์เท่านั้น รวมทั้งยังสามารถเข้าอยู่หรือลงทุนได้ทันทีด้วย
7 ทำเล 7 คาแร็กเตอร์คอนโดฯ รีเซล
ทำเลที่โครงการคอนโดมิเนียมรีเซลได้รับความสนใจหากพิจารณาเฉพาะคอนโดมิเนียมทำเลศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ หรือ CBD และคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย
- พหลโยธิน อารีย์ ลาดพร้าว ทำเลที่ Young Achiever ให้ความสนใจเลือกอยู่อาศัยมากที่สุด เนื่องจากยังเป็นทำเลที่ราคาคอนโดมิเนียมยังไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมกลางเมืองอื่น ๆ
- อโศก พระราม 9 รัชดา New CBD ใหม่ ตอบโจทย์คนทำงานรุ่นใหม่ไฟแรง เน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า รวมถึงเป็นทำเลที่ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยหรือกลุ่ม Expat ชาวเอเชียสนใจเป็นพิเศษ
- เพลินจิต ชิดลม ทำเลที่อยู่อาศัยสุดหรู เป็นที่ชื่นชอบของนักธุรกิจ ระดับผู้บริหารระดับสูงหรือ CEO
- สุขุมวิท เป็นทำเลอันดับต้น ๆ ที่ Expat หลากหลายเชื้อชาติเลือกเป็นที่อยู่อาศัย ทำให้ทำเลสุขุมวิทเป็นย่าน Cosmopolitan ตัวจริง
- ริมน้ำ กลุ่มคนที่สร้างสุนทรียภาพในการอยู่อาศัยด้วยการชมวิวริมน้ำในทุกวัน
- สีลม สาทร ย่านเศรษฐกิจหลักของกรุงเทพฯ มาหลาย 10 ปี เป็นศูนย์รวมอาคารสำนักงานชั้นนำและยังเป็นย่านที่มีสถาบันการศึกษามากมายทำให้ เป็นอีกทำเลที่เป็นที่นิยมของกลุ่มครอบครัวและพนักงานออฟฟิศระดับหัวหน้างานหรือ Senior และระดับ CEO
- พญาไท ราชเทวี ทำเลที่มีสถาบันการศึกษา และสถานที่ราชการกระจายอยู่บริเวณโดยรอบ ทำให้เป็นอีกทำเลที่มีการหมุนเวียนของกลุ่มนักศึกษาและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง
5 ทำเลฮอตที่คนหาคอนโดฯ รีเซลมากที่สุด
ส่วนทำเลฮอตที่มีผู้คนถามหาคอนโดมิเนียมรีเซลมากที่สุดจากข้อมูลของบริษัท บางกอกซิตี้สมาร์ท จำกัด ในเครือ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในทำเลพหลโยธิน-ลาดพร้าว, อโศก-พระราม 9, สุขุมวิทตอนกลาง, สุขุมวิทตอนปลาย และเพลินจิต-ชิดลม ซึ่งแต่ละทำเลก็มีจุดเด่นต่างกัน ดังนี้
- พหลโยธิน-ลาดพร้าว เป็นทำเลกรุงเทพฯ ทางตอนเหนือที่มีการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โดยจะเปิดให้บริการสถานีห้าแยกลาดพร้าวในช่วงมีนาคมที่จะถึงนี้เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการกันก่อน ซึ่งสถานีนี้จะอยู่บริเวณเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว
- อโศก-พระราม 9 เป็นทำเลที่นิยมของชาวต่างชาติโดยมีสัดส่วนของชาวจีนมากที่สุด โดยเข้ามาเป็นเจ้าของทั้งซื้อเพื่อลงทุน หรือเพื่อการอยู่อาศัยเอง รวมถึงยังเป็นทำเลที่พนักงานออฟฟิศที่มีที่ทำงานอยู่ในแนวรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ให้ความสนใจด้วย แถมยังเดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถไฟแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ทำให้ทำเลอโศกนี้ดึงดูดการอยู่อาศัย และสร้าง Work Life Balance ได้เป็นอย่างดี
- สุขุมวิทตอนกลาง เป็นที่สุดของทำเลกลางเมืองที่หลายคนต้องการอยู่อาศัย และเป็นทำเลที่ไว้วางใจของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นและยุโรป เนื่องจากเป็นย่านไลฟ์สไตล์ของเมือง มีศูนย์การค้า เช่น ดิเอ็มดิสทริค เรนฮิลล์ และดับเบิลยู ดิสทริค มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกินดื่มหลากหลายสไตล์ มีการเดินทางที่สะดวกทั้งรถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT และหากเลือกคอนโดมิเนียมในทำเลสุขุมวิทเพื่อลงทุนปล่อยเช่าจะเป็นทำเลที่สามารถทำผลตอบแทนได้สูง ทำให้มีคอนโดมิเนียมจำนวนมากในทำเลนี้
- สุขุมวิทตอนปลาย ขยับออกจากความวุ่นวายภายในเมือง มาสู่สุขุมวิทตอนปลาย ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวแม้จะอยู่ใกล้เมือง สะดวกในการเดินทาง
- เพลินจิต-ชิดลม ย่านที่เป็นนิยามของคำว่า Ultimate Luxury ที่แท้จริง จากการเป็นที่ตั้งของสถานทูต และการรวมตัวกันของการพัฒนาระดับ Hi-end ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัลเอ็มบาสซี โรงแรมชื่อดัง อาคารสำนักงานเกรดเอ คอนโดมิเนียมในย่านนี้จึงควรค่าแก่การครอบครอง และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือครองได้ไม่รู้จบ โดยโครงการส่วนใหญ่ในย่านนี้ราคาสูงเกือบ 200,000 บาทต่อตารางเมตร
อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่ต่างกันในแต่ละทำเล ทำให้ผู้ซื้ออาจไม่รู้ราคาคอนโดมิเนียมรีเซลจริง ๆ ในทำเลนั้นได้ ทำให้การซื้อขายในแต่ละครั้ง ผู้ขายและผู้ซื้ออาจไม่ได้ราคากลางที่เหมาะสมกับโครงการ หรือทำเลนั้น ๆ ซึ่งผู้ซื้ออาจจะต้องพึ่งตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการหายูนิตที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า พร้อมราคาและดีลพิเศษอื่น ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก ddproperty.com
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยอุปสงค์คอนโดกรุงเทพฯชั้นในโต โซนตากอากาศภูเก็ต-หัวหิน ยังไปได้
สศช.สั่งเกาะติดพฤติกรรมธุรกิจรายใหญ่เอาเปรียบรายย่อยผูกขาดการค้า
สภาพัฒน์ฯสั่งสำนักงานแข่งขันทางการค้า เกาะติดพฤติกรรมธุรกิจรายใหญ่เอาเปรียบรายย่อย
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าที่แยกตัวออกจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ มาเป็นองค์กรอิสระเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2562 ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบกรอบวงเงินตามคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ของสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า วงเงินรวม 404 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะบรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 และสำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ต่อไป
ขณะที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีความเห็นในที่ประชุม ครม.ว่า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าจะต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับการกำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้าที่มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและรายย่อย ติดตามพฤติกรรมของผู้ประกอบธุรกิจที่มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดการผูกขาด การส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเสมอภาค สะดวก และรวดเร็ว เพื่อสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันทางการค้าที่เสรีและเป็นธรรม ส่งเสริมบรรยากาศการค้าและการลงทุน
ขณะที่ด้านกระทรวงการคลัง ระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าต้องให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับดูแลการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับยุทธศาสตร์การกำกับการแข่งขันทางการค้า ในปี 2563-2564 มี 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.กำกับดูแลโครงสร้างตลาดและการประกอบธุรกิจให้มีการแข่งขันเสรีและเป็นธรรม ใช้งบประมาณ 30.16 ล้านบาท 2.เพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับมาตรฐานการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นสากล 18.06 ล้านบาท 3.ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าทั้งในและนอกประเทศ 12.62 ล้านบาท 4.ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการประกอบธุรกิจและผู้เกี่ยวข้องมีความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายแข่งขันทางการค้า 95.49 ล้านบาท และ 5.สร้างระบบการบริหารจัดการและพัฒนาบุคลากร 78.10 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าที่ตั้งขึ้นภายใต้ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ซึ่งปรับปรุงจากกฎหมายปี 2542 สามารถสรรหาคณะกรรมการครบ 7 คน เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2561 ซึ่งความจำเป็นในการแก้ไขกฎหมายและแยกตัวออกมานี้ เนื่องจากกฎหมายเดิมไม่สอดคล้องกับธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ขาดเครื่องมือในการดูแลให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมและเป็นสากล รวมถึงการถูกแทรกแซงซึ่งกระทบต่อประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ขอบคุณข้อมูลจาก terrabkk.com
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 12/02/
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 19,450.00 | 19,350.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 19,950.00 | 18,995.48 | 1,253.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 19,677.68 | 1,298.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 17,095.93 | 1,127.70 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 15,196.38 | 1,002.40 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,550.24 | 564.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,655.24 | 439.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 12/02/
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 23.74 | 23.74 | 24.14 | 23.74 | 23.74 | – | 23.74 | 23.74 | 23.74 | 23.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.54 | 19.54 | – | – | – | – | – | 19.54 | – | – |
เบนซิน 95 | 34.16 | – | – | – | 34.61 | – | 34.66 | 34.46 | – | 34.46 |
ดีเซล | 25.09 | 25.09 | 25.09 | 25.09 | 25.09 | 25.09 | 25.09 | 25.09 | 25.09 | 25.09 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 28.69 | 28.96 | 30.15 | 30.15 | 29.15 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 16.07 | 16.07 | – | – | – | – | – | – | – | – |