ดีเวลลอปเปอร์ เอาตัวรอด แตกไลน์ธุรกิจ รับอสังหาฯ ชะลอตัว
อสังหาริมทรัพย์ถือเป็นภาคธุรกิจที่ต้องเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่อง เพราะมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวอย่างในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว รวมถึงมาตรการควบคุมสินเชื่อของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะต้อง “เอาตัวรอด” เพื่อผลประกอบการที่ยั่งยืน โดยจะเห็นได้ว่าปัจจุบันนอกจากธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยแล้ว หลายบริษัทเริ่มแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจอื่น และปรับกระบวนทัพกันยกใหญ่
- แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562
อนันดาฯ ลงทุนเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ โกยรายได้
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งบริษัทที่แตกไลน์ไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยจับมือพันธมิตรระดับโลกอย่างดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ระดับลักซ์ชัวรีชั้นนำของโลก พัฒนาโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ 5 โครงการ ได้แก่ Somerset Rama 9, Ascott Embassy Sathorn, Ascott Thonglor, LYF Sukhumvit 8 และโครงการล่าสุดบริเวณชายหาดพัทยากลาง บนที่ดินขนาด 4 ไร่ มีจำนวนห้องพัก 324 ห้อง ซึ่งถือเป็นโครงการไฮไลต์ของปีนี้ที่จะเป็นการลงทุนที่สร้างรายได้ต่อเนื่องให้อนันดาฯ ในระยาว
ฮาบิแทท กรุ๊ป ขยายพอร์ตธุรกิจ เปิด 2 โรงแรมใหม่
ด้าน บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด วางเป้าหมายเตรียมขยายพอร์ตรายได้ประจำของบริษัทฯ ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน 10% เพิ่มเป็น 30% ภายใน 3 ปี เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านรายได้และสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยวางแผนเตรียมเปิดตัวโรงแรมที่พัทยาเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ ครอสทู พัทยา โอเชียนเฟียร์ ในไตรมาส 2 และเบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา ในไตรมาส 3 มาเสริมทัพ 2 โรงแรมที่เปิดบริการแล้ว คือ เดอะ วิลล์ จอมเทียน และครอสทู ไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์
เสนาฯ เดินหน้าธุรกิจพลังงาน-โรงแรม
สำหรับบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่หันไปจับธุรกิจพลังงานภายใต้ บริษัท เสนา โซลาร์ เอเนอร์ยี่ จำกัด มีการเติบโตในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยปีก่อน ๆ บริษัทเป็นผู้รับจ้างติดตั้งให้กับเจ้าของพื้นที่เพื่อให้เจ้าของได้ใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของตัวเอง แต่ในปีนี้เสนาฯ จะเป็นผู้ลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ของเจ้าของพื้นที่ (เช่น โรงงาน ห้างฯ) เพื่อขายไฟฟ้าให้กับเจ้าของพื้นที่เองในราคาที่ถูกกว่าการไฟฟ้า
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมี recurring income จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า โดยมีการถือหุ้นในโครงการออฟฟิศบิลดิ้งแอสไพเรชั่น วัน และอยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาอพาร์ทเมนท์และโรงแรมระดับกลางด้วย
เอพีฯ ขยาย 3 ภาคธุรกิจใหม่
ตบท้ายด้วยบริษัท เอพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ขยายองค์กรสู่ 3 ภาคธุรกิจใหม่ ได้แก่ บริษัท วาริ จำกัด: ดำเนินธุรกิจสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการบริหารจัดการคุณภาพชีวิต บริษัท เคลย์มอร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ยังไม่ถูกค้นพบของคนในสังคม และ SEAC (เอสอีเอซี) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน โดยทั้ง 3 ภาคธุรกิจใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นลูกค้าเอพีเท่านั้น
จะเห็นได้ว่าภาคธุรกิจใหม่ ๆ ที่แตกไลน์จากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มตัวเลือกทางด้านการบริการให้กับผู้ซื้อแล้วยังเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคมอีกทางหนึ่งด้วย จากนี้คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ท่ามกลางความผันผวนต่าง ๆ ที่เป็นตัวแปรสำคัญต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ กับผู้ประกอบการที่ ‘ดิ้น’ ปรับกระบวนทัพเสริมความแกร่งไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และภาคธุรกิจอื่น ฝ่ายไหนจะแข็งแกร่งกว่ากัน
ขอบคุณข้อมูลจาก ddproperty.com
เทกระจาดคอนโดฯ 3 หมื่นยูนิต ลดราคา 30% ดอก 0% ยาว 3 ปี
การโหมแคมเปญร้อน ๆ กระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยระหว่างผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ฯ กับสถาบันการเงิน เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา เนื่องจากเดิมทีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมเข้ามาคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน แต่ในที่สุด ธปท. ได้เลื่อนการบังคับใช้เป็นวันที่ 1 เม.ย. 2562 นับตั้งแต่นั้นมา การเทกระจาดอัดแคมเปญแรงเกิดเป็นระลอกและต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน หวังระบายสต๊อกให้ได้มากที่สุด เพื่อชดเชยจากการชะลอเปิดตัวโครงการใหม่ออกไปครึ่งปีหลัง รวมถึงตั้งรับหลังมาตรการคุมสินเชื่อ LTV บังคับใช้ ทั้งนี้ ได้ประเมินสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ จะเกิดการชะลอตัวนับตั้งแต่ไตรมาส 2 และอาจพลิกฟื้นช่วงไตรมาส 3 หรือ ไตรมาส 4 ดังนั้น ผลดีจะตกอยู่กับผู้บริโภคทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและเพื่อลงทุนจะได้ของถูก
อย่างไรก็ตาม ไม้แข็งที่แบงก์ชาตินำออกใช้เกิดจากมีสัญญาณชัดว่า อาจจะเกิดฟองสบู่ เนื่องจากปี 2561 ผู้ประกอบการสร้างปรากฏการณ์เปิดตัวคอนโดมิเนียมมากถึงกว่า 60,000 หน่วย
ล้างสต๊อก 3 หมื่นหน่วย
นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า นอกจากบรรยากาศทางการเมืองกระทบความเชื่อมั่นต่อการตัดสินใจของลูกค้าแล้ว มาตรการแอลทีวีของแบงก์ชาติที่จะบังคับใช้ยังมีผลต่อการซื้อและโอนกรรมสิทธิ์อย่างมาก ขณะผู้ประกอบการต่างชะลอการเปิดโครงการใหม่ในไตรมาสแรกของปีนี้ออกไป และมุ่งระบายสต๊อกที่สร้างเสร็จพร้อมขายเฉพาะคอนโดมิเนียมรวม 2-3 หมื่นหน่วย
“โดยภาพรวมทุกค่ายได้ออกแคมเปญประชันกันทุกทำเล และล่าสุด ในเดือน มี.ค. ช่วงสัปดาห์เดียวกันกับวันเลือกตั้ง 3 สมาคมบ้านฯ จัดงานมหกรรมบ้าน แม้จะมีบางค่ายไม่เข้าร่วม แต่เชื่อว่าจะช่วยผู้ประกอบการได้อย่างมากในโค้งสุดท้ายก่อนมาตรการแบงก์ชาติบังคับใช้”
อัดโปรแรง 0%
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ระบุว่า ทุกค่ายจัดแคมเปญระบายสต๊อกโครงการ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ซึ่งบริษัทมีคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ในมือเพียง 400-500 หน่วย มูลค่า 1,000-1,500 ล้านบาท จำนวน 30 โครงการ ตามแนวรถไฟฟ้า ถือว่าไม่มากหากเทียบกับค่ายใหญ่รายอื่นที่มีสต๊อกมากถึงกว่า 10,000 ล้านบาท จึงมั่นใจทุกโครงการของออริจิ้นน่าจะขายหมดทันก่อนแอลทีวีบังคับใช้ โดยร่วมกับ 4 แบงก์หลัก กู้ 100% ดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี
เช่นเดียวกับ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ได้ออกแคมเปญสินเชื่อร่วมกับแบงก์เพื่อระบายคอนโดมิเนียม ใกล้สถานีรถไฟฟ้า พร้อมอยู่ ออกให้มากที่สุด โดยผ่อนกับธนาคารเพียง 5,200 บาทต่อเดือน ในอัตราดอกเบี้ย 1% นาน 3 ปี ขณะที่ เพื่อแนะนำเพื่อนซื้อโครงการ ผู้แนะนำจะได้รับเงินทันที 1 แสนบาท
ขณะนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ระบุว่า แอลพีเอ็นฯ มีสต๊อกคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ประมาณ 10 โครงการ 1,000 หน่วย จึงจัดโปรฯ พิเศษดอกเบี้ย 3% นาน 3 ปี หากกู้ 1 ล้านบาท ลูกค้าผ่อนต่อเดือนเพียง 4,000-5,000 บาท เทียบแล้วถูกกว่าเช่า
“ไตรมาสแรกปีนี้ ทุกค่ายนำสินค้าในสต๊อกออกขายให้ได้มากที่สุด เพื่อทดแทนโครงการใหม่ที่ต้องชะลอการเปิดตัวออกไป ทำให้บรรยากาศช่วงนี้ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนจะเห็นป้ายโปรโมชันเกิดขึ้นอย่างมีสีสัน”
ผนึกแบงก์จัดโปรฯ เฉพาะกลุ่ม
ปรากฏการณ์ธนาคารพาณิชย์ในระบบและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จับมือกันอัดโปรโมชัน เพื่อจูงใจลูกค้าเร่งจดจำนอง-โอนภายในสิ้นเดือน มี.ค. 2562 โดยธนาคารกรุงเทพร่วมกับดีเวลอปเปอร์ชั้นนำจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทุกราย อาทิ AP, SC, QH, LH, SPALI, SIRI, PS และ LPN เป็นต้น เสนอแคมเปญพิเศษเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ ผู้พิพากษา-อัยการ และนักบิน ทั้งนี้ พนักงานที่มีบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงเทพ ซึ่งรายที่มีรายได้ 5 หมื่นบาทขึ้นไป จะมีทางเลือกที่เหมาะสม สำหรับพนักงานที่มีเงินเดือนประจำ จะมีทางเลือก 1.ตั้งแต่ดอกเบี้ย 1.99% เป็นเวลา 6 เดือนแรก 2.อิงดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อยชั้นดี หรือ MRR (MRR ปัจจุบันอยู่ที่ 7.125%) ปีแรกคิด MRR-5.375% ปีที่ 2 และปีที่ 3 MRR-2.5% และปีที่ 4 MRR-1.5% เฉลี่ย 3 ปี ดอกเบี้ยจะอยู่ที่อัตรา 3.67%
ด้าน ธนาคารกรุงศรีอยุธยาชูจุดขาย “ลูกค้าไม่ตกขบวน ถ้าตัดสินใจซื้อบ้านในทุกโครงการที่ธนาคารกรุงศรีฯ มีแคมเปญพิเศษอยู่แล้ว” ด้วยการเร่งพิจารณาและอนุมัติเพื่อให้ลูกค้าสามารถจดจำนองและโอนทันภายในสิ้นเดือน มี.ค.
ดึงกำลังซื้ออนาคต
“ขณะนี้ เหลือเวลาเดือนกว่าที่มาตรการคุมแอลทีวีจะมีผลบังคับใช้ โดยที่ผ่านมา เราได้เตรียมกระบวนการทั้งก่อนเดือน เม.ย. และหลังเดือน เม.ย. เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะ 2 เดือน (มี.ค. และ เม.ย.) เชื่อว่าตลาดจะเติบโตมาก โดยเฉพาะความต้องการจดจำนองและโอนกรรมสิทธิ์ให้ทันภายในเดือน มี.ค. จำนวนมาก สาเหตุ 2 เดือนนี้คึกคัก เพราะกำลังซื้อในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ที่เข้ามาก่อนแล้ว”
ชี้สินเชื่อบ้านโต 4-6%
แหล่งข่าวจากสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้แนวโน้มเติบโต 4-6% จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 10% จากปี 2560 สำหรับปีนี้ไตรมาสแรกมีโอกาสขยายตัวถึง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากนั้นตั้งแต่ไตรมาส 2-4 อัตราการเติบโตจะติดลบ 1% ซึ่งช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะเห็นตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากลูกค้าและดีเวลอปเปอร์เร่งกระบวนการปิดการขายและโอน โดยจะมีกำลังซื้อทั้งคนไทยและจีน สำหรับลูกค้าจีนนั้น เชื่อว่ายังมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมสัดส่วน 27%
“ก่อน มี.ค. แบงก์กับโครงการร่วมกันปิดการขายให้เร็วและเตรียมวงเงินเพียงพอ เพราะโครงการต่าง ๆ จะเร่งสร้างและเร่งโอน ทำให้ไตรมาสแรกปีนี้เติบโตกว่าปีก่อน แต่ทั้งปีสินเชื่อใหม่อาจติดลบ ขณะที่ ตลาดยังกระตุ้นกำลังซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 3 ไม่ให้หายไป ส่วนแคมเปญดอกเบี้ยต่ำต้องดูไส้ในเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 3.5% ก็ได้ (คำนวณจากดอกเบี้ย 0% 6 เดือน) ซึ่งจะเห็นแบงก์ใหญ่ไม่เน้นเติบโตสินเชื่อบ้าน ส่วนหนึ่งเพราะมาร์จินบาง เนื่องจากที่ผ่านมา แข่งขันดอกเบี้ยกันและมีแบงก์รัฐเข้ามาทำตลาดด้วย”
ขอบคุณข้อมูลจาก terrabkk.com
ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 443.86 จุด ขานรับเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนคืบหน้า
ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ (15 ก.พ.) โดยนักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน จะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ หลังจากทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเจรจากันต่อไปในสัปดาห์นี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) รอบ 2
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,883.25 จุด พุ่งขึ้น 443.86 จุด หรือเพิ่ม 1.74% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,775.60 จุด บวก 29.87 จุด หรือเพิ่ม1.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,472.41 จุด เพิ่มขึ้น 45.46 จุด หรือเพิ่ม 0.61%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น หลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน มีความคืบหน้าที่สำคัญ และทั้งสองฝ่ายจะยังคงเจรจาต่อไปที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ ขณะที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ทวีตข้อความระบุว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีผลลัพธ์ที่ดี
นอกจากนี้นักลงทุนยังได้คลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ชัตดาวน์รอบ 2 หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณ และแผนการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนแล้ว ก่อนถึงเส้นตายในเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวจะให้เงินทุนแก่หน่วยงานรัฐบาลจำนวน 9 แห่งเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.
โดยหุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ปิดในแดนบวก โดยหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นนำตลาด พุ่งขึ้นมากกว่า 2% ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.73% และหุ้น 3M เพิ่มขึ้น 1.92%
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชวนโรงทานงานบุญปรุงอาหารเน้น สุก สะอาด เลี่ยงใช้โฟม
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขแนะโรงทานที่ปรุงอาหารงานบุญในช่วงวันมาฆบูชา ให้ปรุงอาหารด้วยความร้อนจนสุกอย่างทั่วถึง ล้างและเก็บอาหารให้สะอาด เลิกปรุงอาหารสุกๆดิบๆ และไม่ใช้โฟมบรรจุอาหาร เพื่อป้องกันโรคอาหารเป็นพิษและรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วันมาฆบูชาซึ่งถือเป็นวันพระใหญ่หลายวัดในหลายพื้นที่อาจจะมีงานบุญโดยใช้โรงทานทำอาหารแจกจ่ายคนในงานซึ่งในงานบุญส่วนใหญ่มีการจัดเตรียมอาหารล่วงหน้าในปริมาณมากโดยเฉพาะภาคเหนือและอีสานที่นิยมอาหารสุกๆ ดิบๆ เช่น พล่า ยำ ลาบ ก้อยและเน้นรสชาติที่เผ็ดจัดหรือเปรี้ยวจัดเมื่อเก็บไว้นาน 2-4 ชั่วโมงไม่ได้อุ่นก่อนรับประทานทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคอุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษได้การป้องกันที่ดีจึงควรปรุงอาหารให้สุกอย่างทั่วถึงด้วยความร้อนโดยล้างวัตถุดิบให้สะอาดทุกครั้งก่อนปรุง ผู้ปรุงประกอบอาหารต้องมีสุขวิทยาส่วนบุคคลที่ดีสวมผ้ากันเปื้อนใส่หมวกคลุมผม เล็บสั้นใช้ถุงมือหรือภาชนะอุปกรณ์ในการหยิบจับอาหารหากมีบาดแผลต้องปิดพลาสเตอร์ให้มิดชิดส่วนอาหารที่ปรุงเสร็จต้องใส่ในภาชนะบรรจุที่สะอาด มีการปกปิดมิดชิดวางสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 เซนติเมตร
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า หากพบมีลักษณะที่เปลี่ยนไป เช่น มีฟองอากาศ กลิ่นเหม็นบูดสีและรสชาติเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ควรนำมารับประทานหลีกเลี่ยงการใช้โฟมบรรจุอาหารเพราะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ควรเลือกใช้ภาชนะที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ชานอ้อย หรือกล่องกระดาษ (Foodgrade) แทนจะเหมาะสมกว่าส่วนน้ำดื่มหากเป็นน้ำประปาควรมีคลอรีนหลงเหลืออยู่สังเกตุง่ายๆโดยจะได้กลิ่นคลอรีนในน้ำประปาหากไม่ชอบกลิ่นคลอรีนอาจจะใส่ภาชนะทิ้งไว้ 30 นาทีให้กลิ่นคลอรีนหายไปหรือกรองผ่านเครื่องกรองที่มีถ่านกัมมันต์เป็นสารกรองเพื่อดูดซับเอาคลอรีนออกและถ้าน้ำประปาไม่มีคลอรีนหลงเหลืออยู่อาจจะนำไปต้มให้เดือดก่อนนำมาบริโภค หากเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดปิดสนิทและน้ำแข็งต้องมีเลขสารบบอาหาร (อย.) ซึ่งมั่นใจได้ว่ามีมาตรฐานรับรองสำหรับการบริโภคและที่สำคัญเมื่อรับประทานอาหารร่วมกันควรใช้ช้อนกลาง ล้างมือก่อนรับประทานอาหารให้สะอาดทุกครั้งเพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคติดต่อจากอาหารและน้ำ
“นอกจากนี้ หากเป็นอาหารกระป๋องทั้งก่อนเลือกซื้อและนำมาปรุงประกอบควรอ่านฉลากข้างกระป๋องให้ละเอียดโดยต้องมีเลขสารบบอาหาร (อย.) ฉลากควรระบุ ชื่อ ที่ตั้ง สถานที่ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตหรือหมดอายุ ลักษณะของกระป๋องต้องไม่บวม ไม่บุบบู้บี้ ไม่เป็นสนิม ตะเข็บกระป๋องต้องไม่มีรอยรั่วเพราะหากมีแสดงว่าเกิดการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียคอสทีเดียม โบทูลินัม จะสร้างสารพิษโบทูลินัมที่ส่งผลต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนกลืนอาหารไม่สะดวก ลิ้นและคออักเสบ เพราะไม่สามารถกลืนน้ำลายได้ กล้ามเนื้อต้นคออ่อนแรงจนยกหัวไหล่ไม่ขึ้น จะแสดงอาการให้เห็นภายใน 2-4 ชั่วโมง แต่สำหรับบางรายอาจใช้เวลานานถึง 12-36 ชั่วโมง หากไม่ได้รับการรักษาทันทีอาจเสียชีวิตด้วยระบบหายใจล้มเหลว ดังนั้น หากพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
นักวิจัยความปลอดภัยพบข้อความที่ถูกลบบนทวิตเตอร์ ถึงแม้บัญชีนั้นจะถูกปิดการใช้งานไปแล้วก็ตาม!
มันคงจะไม่ใช่เรื่องดีเลยหากข้อมูลการสนทนาที่เราไม่ต้องการนั้นไม่ได้หายไปไหนอย่างที่เราเข้าใจ แต่กลับถูกเก็บไว้อีกเป็นเวลาหลายปี แม้ว่าเราจะลบบัญชีผู้ใช้ไปแล้วก็ตาม
Karan Saini นักวิจัยด้านความปลอดภัย บอกกับ TechCrunch ว่าเขาพบข้อความที่มีอายุนานหลายปีในการจัดเก็บข้อมูลของทวิตเตอร์ของเขา ไม่ว่าจะมาจากบัญชีที่ถูกลบหรือระงับไปแล้วก็ตาม เมื่อเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ สื่อพิมพ์ต่าง ๆ พยายามเข้ามาตรวจสอบ โดยตรวจสอบจากไฟล์เก็บถาวรและค้นหาการสนทนากับบัญชีที่ถูกระงับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2016 และรายงานว่าสิ่งที่ Saini พูดเป็นเรื่องจริง
ภายใต้หลักเกณฑ์ของทวิตเตอร์ ที่ทางบริษัทเขียนไว้ตามเงื่อนไขทางกฏหมายว่า คุณสามารถกู้คืนบัญชีและข้อมูลทั้งหมดได้ภายใน 30 วันหลังจากบัญชีมีปัญหา และจะเก็บข้อมูลภาพรวมของบัญชีที่เกี่ยวข้องไว้เป็นเวลา 90 วันเท่านั้น
แต่สิ่งที่นักวิจัยความปลอดภัยเจอนั้น เป็นในส่วนของข้อความที่ถูกลบโดยผู้ใช้งาน (Direct messages) หรือบุคคลที่สนทนาด้วย การลบข้อความจึงสามารถลบได้เพียงแค่ข้อความในกล่องข้อความของคุณเท่านั้น แต่ทวิตเตอร์จะทำการสำรองข้อมูลด้วยการดึงข้อมูลมาจากแชทของคุณและคู่สนทนา ทำให้แพลตฟอร์มสามารถเก็บสำเนาได้จากสองช่องทาง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,500.00 | 19,600.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,263.00 | 19,147.08 | 20,100.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,136.70 | 17,232.37 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,010.40 | 15,317.66 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 568.00 | 8,610.88 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 442.00 | 6,700.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,309.00 | 19,844.44 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 18/02/
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 26.75 | 27.15 | 26.75 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.48 | 26.88 | 26.48 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.14 | 24.14 | 24.54 | 24.14 | 24.14 | – | 23.74 | 23.74 | 24.14 | 23.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.74 | 19.74 | – | – | – | – | – | 19.54 | – | – |
เบนซิน 95 | 34.56 | – | – | – | 35.01 | – | 35.06 | 34.46 | – | 34.46 |
ดีเซล | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.89 | 26.49 | 26.89 | 26.49 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 29.49 | 29.76 | 30.95 | 30.95 | 29.95 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 16.07 | 16.07 | – | – | – | – | – | – | – | – |