‘ลาดพร้าว’ทาวน์เฮาส์-คอนโดรุ่ง
จากแผนพัฒนาของกรุงเทพมหานคร ระยะ 20 ปี ได้กำหนดวิสัยทัศน์ “กรุงเทพฯ 2575: กรุงเทพฯ มหานครแห่งเอเชีย” เมืองชั้นนำในด้านเศรษฐกิจภาคบริการความปลอดภัย สวยงาม สะดวกสบาย น่าอยู่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีเอกลักษณ์เฉพาะ
วิสัยทัศน์ดังกล่าวทำให้ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับเดิม ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2556 มีความจำเป็นต้องปรับปรุงเป็นผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับใหม่ (ปรับปรุงครั้งที่ 4) เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปแบบ “ไร้รอยต่อ” เพิ่มการใช้ประโยชน์
เพิ่มใช้ประโยชน์ที่ดิน
สำหรับทำเลที่น่าจับตา “DDproperty Property Index” ตัวกลางการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ พบว่า เขตลาดพร้าวมีสัดส่วนทาวน์เฮาส์เกิดขึ้นสูงสุดต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2561 โดยคิดเป็นสัดส่วน7.8%ของทาวน์เฮาส์ทั้งหมดในเขตกรุงเทพฯ หากโฟกัสไปในแขวงลาดพร้าวที่มี ปริมาณสูงถึง 80.37% ของซัพพลายทาวน์เฮาส์ทั้งหมดในเขตลาดพร้าว
ทาวน์เฮาส์รุ่ง-คอนโดฯพุ่ง
สัดส่วนทาวน์เฮาส์ราคา 1.5-5 ล้านบาท และ 5-10 ล้านบาท ยังเป็นสินค้าหลักที่มีจำนวนใกล้เคียงกันทั้งนี้ คาดว่าหลังจากผังเมือง กทม. ใหม่ ประกาศใช้ คาดว่าปี 2563 จะส่งผลให้เกิดการพัฒนามากขึ้น
ขณะที่นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์จำกัด ระบุว่า อนาคตลาดพร้าว จะมีศักยภาพสูงพัฒนาเป็นตึกสูงคอนโดมิเนียมได้ จากเดิมผังเมืองมีข้อจำกัดพื้นที่ส่วนใหญ่ พัฒนาได้เฉพาะบ้านแนวราบ
ผังกทม.ใหม่เปิดช่อง
อย่างไรก็ตามผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ (ปรับปรุงครั้งที่ 4) จะเป็นการเปิดช่องให้เกิดการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กับการขยายตัวเมืองตามแนวโครงข่ายคมนาคมทั้งในปัจจุบันและอนาคตมากขึ้น
โดยเฉพาะการปรับ “สี” ผังเมืองรองรับการอยู่อาศัยมากขึ้นในหลายพื้นที่สำคัญเพื่อให้สอดรับกับการพัฒนารถไฟฟ้าสายใหม่และส่วนต่อขยาย
ขอบคุณข้อมูลจาก terrabkk.com
3 สิ่งที่ดีเวลลอปเปอร์ยุคนี้ต้องมี หากอยากสร้างบ้าน-คอนโด ให้น่าอยู่
เพราะที่อยู่อาศัยที่ดี คือจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตที่ดีและเป็นรากฐานของความสุขที่ยั่งยืน การเลือกซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างรอบด้าน ท่ามกลางดีเวลลอปเปอร์จำนวนมากที่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยออกมาแข่งขันกันในตลาดขณะนี้ จึงต้องมีหลักเกณฑ์สำคัญ 3 ข้อมาเป็นตัวช่วยในการพิจารณาเพื่อให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
3 กลยุทธ์นี้มีอะไรบ้าง
1.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product)
เริ่มจากการเลือกทำเลโครงการที่ตั้งอยู่บนศักยภาพทำเลที่ดี เดินทางสะดวก สร้างความแตกต่างด้วยดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ มีพื้นที่ใช้สอยที่โดดเด่น ออกแบบอาคารที่ทันสมัย และทำที่อยู่อาศัยให้สะท้อนความใส่ใจในรายละเอียดนอกจากนี้ยังรวมถึงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครัน เพื่อให้สามารถตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยต้องใช้งานได้จริง รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในโครงการด้วย เพราะสมัยนี้แล้วถ้าไม่มีเอี่ยวกับ Smart Home ถือว่าตกเทรนด์
2.การพัฒนาบุคลากร (People)
เรื่องการพัฒนาคนในองค์กรก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องเสริมความเป็นมืออาชีพในการบริการ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งขององค์กรโดยปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานที่สร้างแรงจูงใจ และให้ความสำคัญต่อการสร้างเสริมพัฒนาบุคลากรให้มีคุณค่า มีความสามารถเติบโตไปสู่ความสำเร็จพร้อมกับองค์กร และดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมทำงานเพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาโครงการและบริการในอนาคต โดยยึดถือความต้องการลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดบรรยากาศในการทำงานที่ดี มีการบริการที่น่าประทับใจ ทำให้องค์กรเป็นที่ยอมรับของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
3.การพัฒนาการบริหารจัดการดูแลลูกค้า/ลูกบ้าน (CRM)
มีการสานต่อและสร้างสรรค์กลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อให้เกิด Loyalty กับลูกค้า และลูกบ้านอย่างต่อเนื่องทั้งช่วงระหว่างการขายและหลังจากได้เข้าอยู่อาศัยภายในโครงการแล้ว โดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกัน เช่น การจัดกิจกรรมทั้งในด้านสุขภาพ การท่องเที่ยว กิจกรรมเวิร์คช็อป หรือการเชิญชวนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกัน
ทั้งนี้ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนักพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มุ่งมั่นออกแบบที่อยู่อาศัย เพื่อความสุขของคนอยู่ด้วยดีไซน์ ฟังก์ชัน พื้นที่ส่วนกลาง และเทคโนโลยี ที่เต็มเต็มความต้องการทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า มีความมุ่งมั่นในการสานต่อความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจโดยชูกลยุทธ์ทั้ง 3 ด้าน คือ Product, People และ CRM เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมส่งต่อความสุขไปยังลูกบ้าน ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ในการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องตลอดปี 2562 โดยมีแผนที่จะเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 8,800 ล้านบาท
แอสเซทไวส์ ส่งโครงการแนวสูง 5 โครงการ และแนวราบ 2 โครงการ ลงสู่ตลาดปี 62
สำหรับไฮไลท์ที่น่าสนใจ มีทั้งโครงการที่เป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุด ได้แก่ “IVORY” (ไอโวรี่) คอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ตั้งอยู่ซอยรัชดาภิเษก 32 บนพื้นที่กว่า 600 ตารางวา มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท และโครงการที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมาพร้อมกับ New Business คือโครงการ “KAVE Town” (เคฟ ทาวน์) ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่โดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากถึง 20 โซน มาพร้อมคอมมูนิตี้มอลล์ บริเวณด้านหน้าโครงการซึ่งเป็น ครั้งแรกของแอสเซทไวส์ในการรุกตลาด Mix Used บนทำเลรังสิต
ปิดท้ายด้วย โครงการสวยที่สุดกับโครงการ “MODIZ” (โมดิซ) บางโพ ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่ใกล้โค้งน้ำเจ้าพระยาที่สุดในย่านบางโพ
ซี่งนอกจากจะสานต่อการพัฒนาโครงการดีมีคุณภาพออกมารองรับความต้องการผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องแล้ว ปี 2562 นี้ จะเป็นปีแห่งก้าวย่างสำคัญของแอสเซทไวส์ ที่พร้อมเดินหน้าเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งขององค์กร พร้อมทั้งจะจะสานต่อกิจกรรมดี ๆ เพื่อสังคมต่อเนื่อง
จากเมื่อปีที่ผ่านมาแอสเซทไวส์ได้ริเริ่มกิจกรรม “วิ่งปันความสุข” โดยทุกระยะการวิ่ง 1 กิโลเมตรของทุกคนที่ร่วมกิจกรรม แอสเซทไวส์จะสมทบเงินบริจาคเพื่อนำไปจัดหาของใช้ที่จำเป็นให้แก่เด็กยากไร้ในจังหวัดต่าง ๆ ที่ขาดแคลน และต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิต รวมถึงในการโอนทุกยูนิตของลูกค้า แอสเซทไวส์จะบริจาคเงินจำนวน 500 บาท เพื่อมอบให้แก่มูลนิธิต่าง ๆ ซึ่งลูกค้ายังสามารถร่วมบริจาคเพิ่มได้ตามสะดวกเพื่อเป็นการร่วมสร้างสรรค์สังคมแห่งการแบ่งปันร่วมกันด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ddproperty.com
รีดภาษีเกินเป้าทุกตัว สรรพากรโชว์ประสิทธิภาพมั่นใจทั้งปีได้เกิน2ล้านล้าน
สรรพากรแรงไม่ตกรีดภาษีทะลุเป้า 4 เดือนติด มั่นใจทั้งปีได้เกินเป้าหมาย 2 ล้านล้าน รับเศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การเก็บภาษีของกรมสรรพากรเดือน ม.ค. 2562 ซึ่งเป็นเดือนที่ 4 ของปีงบประมาณ 2562 ยังเกินกว่าเป้าหมายเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจและกรมเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี
ทั้งนี้ การเก็บภาษี 4 เดือนของปีงบประมาณ 2562 ได้จำนวน 5.55 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 2.76 หมื่นล้านบาท หรือ 5.2% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 4.74 หมื่นล้านบาท หรือ 9.3% ซึ่งถือว่าเป็นการเก็บภาษีที่ขยายตัวได้ในระดับที่สูงค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ การเก็บภาษีของกรมสรรพากรยังเกินกว่าเป้าหมายทุกตัว ตั้งแต่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเก็บได้ 1.05 แสนล้านบาท เกินกว่าเป้าหมาย 1,058 ล้านบาท 1% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 7% ภาษีเงินได้นิติบุคคลเก็บได้ 1.3 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1,908 ล้านบาท หรือ 1.5% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 5.8%
ด้านการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีแวต เก็บได้ 2.76 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 6,837 ล้านบาท หรือ 2.5% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 6% และภาษีธุรกิจเฉพาะเก็บได้ 2.15 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1,479 ล้านบาท หรือ 7.4% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 7%
“การเก็บภาษีของกรมสรรพากรได้เกินเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณทุกตัวถือเป็นเรื่องที่ดี แต่การเก็บได้ภาษีทุกตัวขยายตัวได้มากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน แสดงให้เห็นว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยยังดี มีการบริโภคและภาคเอกชนยังมีผลประกอบการที่ดี” นายเอกนิติ กล่าว
นายเอกนิติ กล่าวว่า เป้าหมายการเก็บภาษีของกรมสรรพากรปีงบประมาณ 2562 อยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท คาดว่าจะเก็บได้เกินกว่าเป้าหมายภายใต้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ ไม่มีการรีดภาษี แต่จะเป็นการให้ความรู้ให้ผู้เสียภาษีถูกต้อง สำหรับปีงบประมาณ 2563 กรมมีเป้าเก็บภาษีให้ได้ 2.11 ล้านล้านบาท คาดว่าจะทำได้ เพราะเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ระดับ 4% และกรมสรรพากรได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อให้การเก็บภาษีมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้าน นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2563 ให้กรมสรรพสามิตแล้วจำนวน 6.26 แสนล้านบาท เชื่อมั่นว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง และกรมสรรพสามิตได้เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี ที่ผ่านมาได้มีการตั้งสำนักตรวจสอบราคาขายปลีก และสำนักงานการตรวจการเสียภาษีย้อนหลัง ทำให้การเก็บภาษีของกรมได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพสามิตมีเป้าเก็บภาษี 6.22 แสนล้านบาท แต่คาดว่าจะเก็บภาษีได้ 5.8 แสนล้านบาท เนื่องจากมีปัญหาตอนเริ่มใช้กฎหมายใหม่ มีภาษีน้ำมัน และภาษีเบียร์ ถูกเก็บล่วงหน้าในปีงบประมาณ 2561 ทำให้การเก็บภาษีปีงบประมาณ 2562 จะเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป็นจริง
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
การอ่านเวลาในภาษาอังกฤษ (How to read time)
การอ่านเวลา สามารถแบ่งออกเป็นสองวิธีด้วยกัน คือ
ระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง (12-hour clock) เป็นวิธีการบอกเวลาที่นิยมใช้ในภาษาอังกฤษทั่วไป โดยใช้เลข 1 ถึง 12 ตามด้วย a.m. (ante meridiem) หรือ p.m. (post meridiem) ต่อท้าย โดยมีหลักการอ่านดังนี้
It’s six O’clock now. = ขณะนี้เป็นเวลาหกนาฬิกา
See you tomorrow at six o’clock sharp = แล้วเจอกันพรุ่งนี้ ตอนหกโมงตรง
หากเป็นเวลาที่ผ่านชั่วโมงมาแล้ว แต่ไม่เกินสามสิบนาที ให้ใช้คำว่า “past” เข้ามาช่วยในการบอกเวลา เช่น
6.10 = Ten (minutes) past six / Six ten
6.15 = A quarter past six / Six fifteen
6.30 = Half past six / Six thirty
หากเป็นเวลาที่ผ่านชั่วโมง และเกินสามสิบนาทีมาแล้ว ให้ใช้คำว่า “to” เข้ามาช่วยในการบอกเวลา เช่น
6.45 = A quarter to seven / Six forty-five
6.50 = Ten (minutes) to seven / Six fifty
6.35 = Twenty-five (minutes) to seven / Six thirty-five
4.45 p.m. = four forty-five in the evening
4.00 a.m. = four o’clock in the morning
* หากเป็นเวลาเที่ยงตรงพอดีจะใช้คำว่า “at noon หรือ midday” และหากเป็นเวลาเที่ยงคืนตรง ก็จะใช้คำว่า “at midnight”
ระบบเวลาแบบ 24 ชั่วโมง (24-hour clock) เป็น วิธีการบอกเวลาที่ใช้ในหมู่ทหาร หรือ ในการประชุมทางการต่างๆ เพื่อป้องกันการสับสนในการบอกเวลา โดยใช้เลข 1 ถึง 23 และ เลข 00 ในเวลาเที่ยงคืน และไม่มี a.m. / p.m. ตามหลัง โดยมีวิธีการอ่านเวลาที่ต่างไปจากการอ่านเวลาทั่วไป เช่น
20.00 = twenty hundred
03.05 = oh three oh five / zero three zero five
00.35 = midnight thirty-five
ขอบคุณข้อมูลจาก tipsaboutenglishlanguage1.blogspot.com
กทม.และ26 จังหวัด มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ของกทม.และ26จังหวัด เหตุลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ประจำวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนเกิดขึ้นบางพื้นที่ ในขณะที่ลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า สำหรับอ่าวไทยและภาคใต้มีลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนบางพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวันและมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพิษณุโลก อุตรดิตถ์และเพชรบูรณ์อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียสสำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียสลมตะวันตก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบนของภาคมีอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวันโดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศีรษะเกษ และอุบลราชธานีตอนบนของภาค ลมตะวันตก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.ตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียสสำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี นครสวรรค์ สมุทรสงคราม และราชบุรีอุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 36-37 องศาเซลเซียสลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลา ยะลา และนราธิวาสอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียสลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูลอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียสลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียสลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 21/02/2562
ชนิดทอง
ราคารับซื้อ กรัมละ
ราคารับซื้อ บาทละ
ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%
n/a
19,650.00
19,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5%
1,273.00
19,298.68
20,250.00
ทองรูปพรรณ 90%
1,145.70
17,368.81
n/a
ทองรูปพรรณ 80%
1,018.40
15,438.94
n/a
ทองรูปพรรณ 50%
573.00
8,686.68
n/a
ทองรูปพรรณ 40%
446.00
6,761.36
n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%
1,319.00
19,996.04
n/a
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 21/02/2562
ปตท.
บางจาก
เชลล์
เอสโซ่
คาลเท็กซ์
ไออาร์พีซี
พีที
ซัสโก้
เพียว
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95
27.55
27.55
27.55
27.15
27.55
27.55
27.55
27.15
27.55
27.15
แก๊สโซฮอล์ 91
27.28
27.28
27.28
26.88
27.28
27.28
27.28
26.88
27.28
26.88
แก๊สโซฮอล์ E20
24.54
24.54
24.94
24.14
24.54
–
24.54
24.14
24.54
24.14
แก๊สโซฮอล์ E85
19.94
19.94
–
–
–
–
–
19.74
–
–
เบนซิน 95
34.96
–
–
–
35.41
–
35.46
34.86
–
34.86
ดีเซล
27.29
27.29
27.29
26.89
27.29
27.29
27.29
26.89
27.29
26.89
ดีเซลพรีเมี่ยม
29.89
30.16
31.35
30.95
30.35
–
–
–
–
–
แก๊ส NGV
16.44
16.44
–
–
–
–
–
–
–
–