เกาะเทรนด์ตลาดเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ เห็นแววโต
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2562 เป็นช่วงปีที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงจากหลายปัจจัย ทั้งจากมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เข้มงวดมากขึ้น การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ตลอดจนมาตรการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ และผังเมืองฉบับใหม่ของกรุงเทพฯ ที่จะประกาศใช้ในปี 2563 ซึ่งส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง ระหว่าง คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนท์ และ เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์
อย่างไรก็ดี จากปัจจัยการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของระบบราง ตลอดจนการลงทุนและแผนพัฒนามหานครการบินในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ที่จะทำให้มีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ที่ยังคงสนใจพักในเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ จึงทำให้เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ยังคงมีโครงการใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ หรือ ANAN ผู้นำด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง และครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ยังมุ่งตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองให้ลงตัวอย่างที่สุด โดยการวางแผนเปิด 10 โครงการใหม่ในปี 2562 จำนวน 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 38,000 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ “บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด” 7 โครงการ และโครงการแนวราบอีก 2 โครงการ
นอกจากนั้น ยังเริ่มดำเนินโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ โดยจับมือกับพันธมิตรระดับโลก “ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด” ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ระดับลักชัวรี่ชั้นนำของโลก พัฒนาโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ 5 โครงการ ได้แก่ Somerset Rama 9, Ascott Embassy Sathorn, AscottThonglor, LYF Sukhumvit 8 และ โครงการล่าสุด อยู่ระหว่างดำเนินโครงการ ณ ชายหาดพัทยากลาง
สำหรับโครงการที่เป็นไฮไลท์ในปีนี้ ได้แก่
โครงการ ไอดีโอ คิว พหล-สะพานควาย ที่อยู่ติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสะพานควาย มี 3 อาคาร ห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,114 ห้อง มูลค่าโครงการประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยมีคอนเซ็ปต์ในการพัฒนามาจาก Urban – Human – Nature (เมือง – คน -ธรรมชาติ)
- Urban ตือ การเชื่อมต่อ 0 เมตรจากรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสะพานควาย
- Human ให้ความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของผู้อยู่อาศัย โดยจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงมีรูปลักษณ์โครงการ หรือ สังคมที่มุ่งเน้นถึงสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย
- Nature ผสมผสานธรรมชาติเข้าไปในรูปลักษณ์การดีไซน์ของตัวตึกอย่างกลมกลืน
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะมีการเปิด Presales กลางปีนี้ และนอกจากนี้ยังมีอีกโครงการหนึ่งที่น่าสนใจและสอดคล้องกับเทรนด์ของเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ ที่จะปักหมุดอยู่ที่ชายหาดพัทยากลาง บนที่ดินขนาดประมาณ 4 ไร่ มีจำนวนห้องพัก 324 ห้อง มูลค่าโครงการเกือบ 2,000ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก ddproperty.com
ตลาดอสังหาฯปี 62 ยังโตแบบชะลอตัว ชี้เอกชนต้องมีแผนรองรับ
1 มี.ค.2562 นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่ง (NC) เปิดเผยถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 ว่า เป็นปีที่ท้าทาย และเข้าสู่โหมดการปรับตัว ในหลายปัจจัยของธุรกิจที่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดมากมาย เช่น มาตรการคุมเข้ม LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาตรการคุมเข้มเงินดาวน์,สินเชื่อที่อยู่อาศัย ต้องวางเงินสูงขึ้นของผู้ซื้อบ้าน แต่เชื่อมั่นอสังหาริมทรัพย์ยังโตได้ แต่จะโตแบบทรงตัว ต้องมีความระมัดระวัง ทั้งนี้เชื่อว่าผู้ประกอบการจะต้องมีแผนรองรับเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับธุรกิจของตัวเอง
“เป็นปีที่ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายปัจจัยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าการพัฒนาด้านสาธารณูปโภคภาคคมนาคม ผลักดันให้เศรษฐกิจภาพรวมอสังหาริมทรัพย์กระเตื้องขึ้นตามลำดับ มีความคืบหน้าและเห็นอย่างเป็นรูปธรรมโครงการรถไฟฟ้า หลายสาย เขตเมือง และเชื่อมต่อปริมณฑลเข้าสู่เมืองชั้นในที่เร่งดำเนินการเกิดการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพ และปริมณฑลให้เติบโตควบคู่ ไปกับการขยายโครงการ”นายสมนึก กล่าว
อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทยังคงมุ่งนโยบายที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับลูกค้า ด้วยการพัฒนาโครงการ สินค้าและการบริการอย่างต่อเนื่อง สร้างความพึงพอใจทั้งก่อน และหลังการเข้าอยู่ โดยปีนี้ได้ขยายเพิ่มฐานลูกค้าในทำเลศักยภาพเพิ่ม ทั้งโซนเหนือ และโซนอื่นๆ มีการพัฒนาเปิดโครงการใหม่เพิ่ม พร้อมคอนเซ็ปต์โครงการที่สร้างความแตกต่าง และแข่งขันได้ในตลาดบ้านแนวราบ และปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 4-5 โครงการ มูลค่ารวมโครงการ กว่า 3,000 ล้านบาท ด้วยสัดส่วนการรุกสินค้าบ้านเดี่ยว เพิ่มขึ้นในระดับราคา 5 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัท ได้ตั้งเป้ามียอดขาย 2,800 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 1,800 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก terrabkk.com
“บินไทย” ขาดทุน 1.16 หมื่นล้าน เพิ่ม 451 % เหตุแข่งขันรุนแรง
การบินไทยแจ้งผลประกอบการขาดทุนปี 2561 รวม 11,625.169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 451.65% จากปี 2560 ที่มีผลขาดทุน 2,107.35 ล้านบาท
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน ) หรือ THAI แจ้งว่าในปี 2561 การแข่งขันในอุตสาหกรรมการบินรุนแรง ราคาน้ำมันตลาดโลกประบตัวสูงสุดในรอบ 4 ปี ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมจำนวน 199,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,554 ล้านบาท หรือ 3.9 % ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 208,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,468 ล้านบาท หรือ 10.3 % จากราคาน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น 9,881 ล้านบาท หรือ 19.7% จากราคาน้ำมันเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 30.1% ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมน้ำมันสูงขึ้น 9,802 ล้านบาท หรือ 7.3%
สาเหตุหลักจากค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงอากาศยาน ค่าเช่าแครื่องบิน และค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การดำเนินของบริษัทและบริษัทย่อยในปี 2561 ขาดทุนจากการดำเนินงาน 9,058 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2560 มีกำไร 2,856 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทและบริษัทย่อยยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์และเครื่องบินจำนวน 3,459 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 911 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินการบริษัทและบริษัทย่อยโดยรวมขาดทุนสุทธิ 11,625 ล้านบาท คิดเป็นการขาดทุนต่อหุ้น 5.33 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก terrabkk.com
ผ่านแล้ว ‘พ.ร.บ.ไซเบอร์ฯ’ ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ สามารถค้น ติดตาม และยืดคอมฯ ได้แทบทันที
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบร่าง ‘พ.ร.บ.ไซเบอร์ฯ’ หรือ พระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แล้ว เตรียมบังคับใช้เป็นกฎหมายเร็ว ๆ นี้
หลังผลักดันมาตั้งแต่ปี 2558 ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ร่างกฎหมาย พระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ หรือ พ.ร.บ.ไซเบอร์ฯ ได้ผ่านมติจากทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสทช.แล้ว โดยมีผลโหวตเห็นชอบ 133 เสียง ไม่เห็นชอบ 0 และงดออกเสียง 16 เสียง ในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง แบบไม่มีการคัดค้านใด ๆ เตรียมบังคับใช้เป็นกฎหมายเร็ว ๆ นี้ !!
สำหรับ พ.ร.บ.ไซเบอร์ฯ ก็เป็นร่างกฎหมายที่ว่าด้วย การสร้างความมั่นคงปลอดภัยในระบบหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ของประเทศ โดยป้องกันไม่ให้เกิดภัยคุกคาม ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบคอมพิวเตอร์ดังกล่าวนี้เอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางด้าน องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งทำงานกับภาคประชาสังคมและคนทั่วไปในสังคม หรือ iLaw เคยออกมาแสดง ความกังวลเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว โดยจุดที่กังวลหลัก ๆ คือ “ร่างกฎหมายจงใจใช้ถ้อยคำที่ตีความได้กว้างมาก” และสรุปความกังวลเป็น 8 ข้อดังนี้
- นิยามภัยคุกคามไซเบอร์ตีความได้กว้าง ครอบคลุม ‘เนื้อหา’ บนโลกออนไลน์
- เจ้าหน้าที่รัฐสามารถขอข้อมูลจากใครก็ได้เพื่อประโยชน์ในการทำงาน
- กฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่ ยึด-ค้น-เจาะ-ทำสำเนา คอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์
- เมื่อมีภัยคุกคามไซเบอร์ร้ายแรงขึ้นไป เจ้าหน้าที่รัฐสามารถสอดส่องข้อมูลได้แบบ Real-time
- ในกรณีจำเป็นเร่งด่วน เจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจได้โดยไม่ต้องขอหมายศาล
- การใช้อำนาจยึด ค้น เจาะ หรือขอข้อมูลใดๆ ไม่สามารถอุทธรณ์เพื่อยับยั้งได้
- เมื่อมีภัยคุกคามไซเบอร์ระดับวิกฤติ ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ
- ผู้ใดฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งมีทั้งโทษปรับและโทษจำคุก
ขอบคุณข้อมูลจาก aripfan.com
ปิดเทอมใหญ่อย่าให้เด็กจมน้ำตาย
กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้วันเสาร์แรกของเดือนมีนาคมของทุกปี เป็นวันรณรงค์ป้องกันเด็กจมน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเสียชีวิตสูงเป็นอันดับหนึ่ง มากกว่าโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ ในรอบ 10 ปี พบว่าเด็กจมน้ำเสียชีวิตสูงถึงปีละ 904 คน หรือวันละ 2.5 คน ช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตสูงสุดทุกปี เดือนมีนาคมพฤษภาคมปีที่ผ่านมามีเด็กจมน้ำเสียชีวิต 231 คน คิดเป็นร้อยละ 34 ของเด็กจมน้ำเสียชีวิตทั้งปี
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เกือบ ครึ่งหนึ่งของเหตุการณ์เด็กจมน้ำเสียชีวิตพบว่าชวนกันไปเล่นน้ำเป็นกลุ่มตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ส่วนใหญ่ขาดทักษะการเอาชีวิตรอดในน้ำ ไม่รู้วิธีช่วยเหลือที่ถูกต้อง แหล่งน้ำที่เด็กจมน้ำมากที่สุด คือแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้ให้ทุกจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลดอัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ลงร้อยละ 50 ในปี 2564 หรือเสียชีวิตไม่เกิน 360 คน
กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำโครงการ “บ้าน เริ่ม ชุมชนร่วม ป้องกันเด็กจมน้ำ” ช่วงปิดเทอมฤดูร้อน เพื่อให้ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก และชุมชนตระหนักถึงโอกาสเสี่ยง วิธีป้องกันการจมน้ำ สอนหลักสูตรว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด ฝึกปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) และแนะนำวิธีการช่วยคนจมน้ำ โดยใช้มาตรการ “ตะโกน โยน ยื่น” ตะโกนให้ผู้ใหญ่มาช่วย โยนอุปกรณ์ใกล้ตัวให้คนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว และยื่นอุปกรณ์ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับและดึงขึ้นจากน้ำ พร้อมเน้นย้ำห้ามจับคนจมน้ำอุ้มพาดบ่าหรือกระแทกเอาน้ำออก เนื่องจากเป็นวิธีการช่วยเหลือที่ผิด
ปัญหาที่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่กลาย เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิตพุ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 จนกระทรวงสาธารณสุขต้องเร่งรณรงค์อย่างจริงจัง น่าจะช่วยกระตุ้นเตือนให้ทุก ๆ คน โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีลูกหลานระดับชั้น ม.3 ลงไป ต้องระวังให้มากขึ้น แม้เราจะเชื่อมั่นว่าลูกเราว่ายน้ำเป็น แต่เด็กที่เสียชีวิตจำนวนมาก ก็เพราะเข้าไปช่วยเพื่อนแล้วโดนดึงจมน้ำไปด้วย กระทรวงสาธารณสุขจึงแนะนำวิธีการช่วยเหลือ “ตะโกน โยน ยื่น” แทนที่จะเข้าไปช่วยเอง เพราะทักษะการว่ายน้ำ หรือการเอาตัวรอดในน้ำของเด็กยังไม่เพียงพอที่จะช่วยใครได้.
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,450.00 | 19,550.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,260.00 | 19,101.60 | 20,050.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,134.00 | 17,191.44 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,008.00 | 15,281.28 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 567.00 | 8,595.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 441.00 | 6,685.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,306.00 | 19,798.96 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 04/03/2562
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.55 | 27.95 | 27.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.28 | 27.68 | 27.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.94 | 24.94 | 25.34 | 24.94 | 24.94 | – | 24.94 | 24.54 | 24.94 | 24.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.14 | 20.14 | – | – | – | – | – | 19.94 | – | – |
เบนซิน 95 | 35.36 | – | – | – | 35.81 | – | 35.86 | 35.26 | – | 35.26 |
ดีเซล | 27.69 | 27.69 | 27.69 | 27.69 | 27.69 | 27.69 | 27.69 | 27.29 | 27.69 | 27.29 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 31.29 | 31.56 | 31.75 | 31.75 | 31.75 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 16.44 | 27.69 | – | – | – | – | – | – | – | – |