5 ปัจจัย เลือกลงทุนคอนโดฯ อย่างไร ให้ผลตอบแทนไว
ในยุคที่การลงทุนแบ่งออกเป็นหลายแบบหลายประเภทนั้น การลงทุนใน “อสังหาริมทรัพย์” ยังคงมีผลตอบรับที่ดีเสมอ โดยเฉพาะการลงทุนกับ “คอนโดมิเนียม” ที่เรียกได้ว่ามาแรงที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเพราะคนเชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่มีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีความเสี่ยงสูงหากปราศจากการศึกษาที่มากพอ เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านั้น การมีหลักเกณฑ์ที่ดีในการเลือกลงทุนจึงช่วยให้การลงทุนมีความปลอดภัยมากขึ้น
1. ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
แน่นอนว่าการลงทุนคอนโดมิเนียม ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องของ “ทำเล” เป็นอันดับต้น ๆ เพราะทำเลจะเป็นตัวกำหนดกลุ่มเป้าหมายและอัตราค่าเช่า หากเลือกลงทุนโครงการบนทำเลที่มีความต้องการสูงก็ยิ่งส่งผลให้สามารถทำกำไรได้มาก แต่อย่างไรก็ตามนอกจากปัจจัยเรื่องทำเลแล้วก็ยังต้องนำปัจจัยอื่น ๆ มาประกอบกันด้วย อาทิ สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการอย่างห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล หรือร้านสะดวกซื้อ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตทั้งสิ้น
2. พื้นที่ส่วนกลางทั่วถึง คำนึงถึงผู้อยู่อาศัย
การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ดึงดูดผู้อยู่อาศัย นักลงทุนที่ดีควรคำนึงถึงจุดนี้อย่างมากเพราะปัจจุบันที่อยู่อาศัยไม่ใช่เพียงเพื่ออาศัยเท่านั้น แต่ยังต้องมีพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้ดีอีกด้วย ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่สระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือพื้นที่สีเขียวเท่านั้น แต่รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามามีส่วนช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
3. ไทป์ห้องหลากหลาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิต
เรื่องของไทป์ห้องนั้นขึ้นอยู่กับนักลงทุนว่ามีกลุ่มเป้าหมายระดับใด บางคนมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนโสด หรือคู่รักที่ยังไม่มีลูก ก็อาจเลือกซี้อห้อง Studio หรือ 1 Bedroom ก็เพียงพอต่อการใช้ชีวิต แต่หากกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มครอบครัวขนาดไม่ใหญ่มากก็อาจซื้อเป็น 1 Bedroom Plus หรือ 2 Bedroom ก็ตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังเป็นตัวกำหนดอัตราค่าเช่าอีกด้วย เช่น ในย่านทำเลสุขุมวิท-เทพารักษ์ สำหรับคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี ห้อง Studio จะมีอัตราปล่อยเช่าอยู่ที่ 9,000-10,000 บาท หากเป็น Type 1 Bedroom Plus หรือ 2 Bedroom อัตราปล่อยเช่าจะขยับไปถึง 12,000-14,000 บาท ซึ่ง Type เหล่านี้ยังคงมีดีมานด์เข้ามาเติมอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากสุขุมวิท-เทพารักษ์ เป็นย่านที่มีการขยับขยายมาจากเส้นสุขุมวิทที่ใกล้แนวรถไฟฟ้า ทำให้ย่านนี้เริ่มเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น
นอกจากไทป์ห้องที่ตรงตามความต้องการแล้ว การตกแต่งห้องก่อนปล่อยเช่าก็ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับห้อง และยังช่วยดึงดูดความสนใจให้กับผู้เช่าอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบิลท์อินตกแต่งเพิ่มความสวยงาม ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ รวมไปถึงการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทันสมัยเข้ามาใส่เพิ่ม ล้วนมีส่วนในการทำให้ปล่อยเช่าได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
4. มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้
ปัจจุบันต้องยอมรับว่าธุรกิจอสังหาฯ มีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นจุดเด่นและสร้างเอกลักษณ์ให้ตัวโครงการเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Smart Home ที่ช่วยควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ทำให้ประหยัดการใช้พลังงานภายในห้อง ระบบ EV Charger ที่ตอบโจทย์เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต อีกทั้งยังตอบสนองนโยบายด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงระบบ Auto Parking เป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับความปลอดภัย ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตของการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมให้ดีมากยิ่งขึ้น
5. คำนึงถึงการลงทุนระยะสั้น-ยาว
เมื่อมีการลงทุนเกิดขึ้น แน่นอนว่าต้องมีความคาดหวังของผลตอบแทน สำหรับการลงทุนในคอนโดมิเนียมนั้นมักมาในรูปแบบของการขายใบจองหรือปล่อยเช่า ซึ่งก็มีความเสี่ยงว่าจะมีผู้ซื้อหรือคนมาเช่าได้ตลอดหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดให้น้อยที่สุดในการลงทุน จึงควรคำนึงถึงระยะเวลาการลงทุนว่าต้องการลงทุน ”ระยะสั้น” หรือ ”ระยะยาว”
สำหรับ ”การลงทุนระยะสั้น” เป็นการลงทุนที่หวังส่วนต่างจากการขาย ดังนั้นการเลือกลงทุนประเภทนี้จึงต้องซื้อให้ได้ในราคาถูก เช่น การซื้อรอบพรีเซล นอกจากนี้การเลือกลงทุนระยะสั้นควรเลือกลงทุนในคอนโดมิเนียมที่มีทำเลดี มีความต้องการอยู่อาศัยสูงหรือกำลังมาแรงในขณะนั้น เรียกได้ว่าการลงทุนประเภทนี้ต้องอาศัยความเร็วและความแม่นยำเพื่อที่จะศึกษาและสามารถซื้อลงทุนได้เร็วกว่าคนอื่น ซึ่งหากมีความเชี่ยวชาญระดับหนึ่งก็สามารถทำกำไรจากการลงทุนประเภทนี้ได้สูง
ส่วน “การลงระยะยาว” เป็นการลงทุนที่หวังใน cash flow หรือกระแสเงินสดจากค่าเช่า ดังนั้นการลงทุนประเภทนี้จะต้องให้ผลตอบแทนค่าเช่าที่ค่อนข้างดีและมีความต้องการเช่าอยู่อาศัยสูง ซึ่งผลตอบเเทนจากค่าเช่าควรมากกว่า 6% และมีอัตราการถือครอบครองห้องมากกว่า 80% ขึ้นไป
ทั้งนี้ หากใครที่ยังไม่แน่ใจกับการลงทุนประเภทนี้ ปัจจุบันโครงการต่าง ๆ มีการใช้กลยุทธ์ในการการันตีผลตอบแทน (Yield Guarantee) ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนเพราะสามารถคืนผลประโยชน์กลับมาให้นักลงทุนได้จริง รวมไปถึงมีบริการในการนำห้องของนักลงทุนไปปล่อยเช่าให้ แล้วคืนผลกำไรโดยคิดคำนวนเป็น % ต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะได้ผลกำไรตามจริงหรือใกล้เคียงกับที่โครงการการันตีไว้ โดยการลงทุนรูปแบบนี้ก็มีข้อดีต่างจากการลงทุนระยะสั้น คือ ค่อนข้างมั่นคง สามารถถือได้ยาว ๆ และถ้าไม่ซีเรียสเรื่องระยะเวลาสุดท้ายก็จะเป็นหนทางสู่ Passive income ที่แท้จริง
- เจาะลึกแนวโน้มที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ 2019 และ ติดตามสภาพตลาดอสังหาฯ 2019 ผ่านรายงานจาก DDproperty
ลงทุนคุ้มค่า ไม่พลาดสักเหตุผล กับ ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์
จาก 5 หลักในการเลือกลงทุนคอนโดฯ ให้คุ้มค่าข้างต้นนั้น ทำให้บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดโครงการ ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ จากบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด (มหาชน) ด้วยเหตุผลหลากประการ
สำหรับโครงการโครงการ ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ นั้นเป็นโครงการใหม่ล่าสุดที่ตั้งอยู่บน ถ.เทพารักษ์ โดดเด่นด้วยการเดินทางที่หลากหลาย เชื่อมต่อกับถนนเส้นหลัก 2 เส้น ได้แก่ สุขุมวิทและศรีนครินทร์ ใกล้ทางด่วน-วงแหวนอุตสาหกรรม รองรับการเดินทางในอนาคตอย่างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง โดยตัวโครงการห่างเพียง 0 เมตร จากสถานีทิพวัล และสามารถเชื่อมต่อ Interchange สายสีเขียว ส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ ที่สถานีสำโรง
นอกจากนี้ รอบตัวโครงการ ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งอย่างปาล์ม ไอส์แลนด์, อิมพิเรียลเวิลด์ สำโรง, ตลาดธรรมโรจน์พินิจ, เซ็นทรัลพลาซา บางนา, บิ๊กซี และเมกาบางนา สถานพยาบาลใกล้เคียง เช่น โรงพยาบาลจุฬารัตน์ และโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ รวมไปถึงสถานศึกษา เช่น โรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ, โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล และโรงเรียนอนุบาลบุษยมาส
ในส่วนของตัวโครงการเป็นคอนโดมิเนียม High Rise จำนวน 474 ยูนิต ซึ่งถือว่ามียูนิตน้อยเมื่อเทียบกับบริเวณโดยรวม ทำให้มีความสงบและเป็นส่วนตัวสูง นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่จัดมาให้อย่างครบครันเต็มอิ่มกว่า 15 รายการ ตั้งแต่สวนสีเขียว ล็อบบี้เพดานสูงถึง 2.8 เมตร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Rooftop Facility สวนชั้นดาดฟ้า พร้อมจุดชมวิวได้รอบทิศ 360 องศา สวนส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ รวมไปถึงการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต ทั้งระบบ Auto Parking ที่ช่วยในการจอดรถ ระบบ EV Charger รองรับอนาคต ระบบ Home Automation ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้อง และ Smart Mirror กระจกอัจฉริยะ พร้อมต่อเข้ากับระบบ Android ให้ผู้อยู่อาศัยได้เชื่อมต่อโลกดิจิตัลได้ตามใจต้องการ
มีรูปแบบห้องให้เลือกหลากหลายถึง 4 แบบ ทั้ง Studio ขนาด 23 ตารางเมตร, 1 Bedroom ขนาด 27 ตารางเมตร ซึ่ง Type นี้จะมีความพิเศษกว่า Type อื่น ๆ เพราะมีครัวแบบปิด และ 1 Bedroom Plus ขนาด 31-39 ตารางเมตร ทำให้มีตัวเลือกมากมายที่สามารถตอบโจทย์กับความต้องการทั้งในเรื่องของราคา การใช้งาน และขนาดครอบครัวตามความเหมาะสมของผู้อยู่อาศัย มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่ครบครันตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย
ตัวอย่าง Unit Type
จากศักยภาพดังกล่าวทำให้โครงการ ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ มีแนวโน้มที่จะได้รับ Capital Gain ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นหลังรถไฟฟ้าเสร็จ รวมทั้งยังส่งผลต่ออัตราค่าเช่าที่สูงขึ้นในอนาคตอีกด้วย โดยกลุ่มลูกค้ามีทั้งชาวไทยและต่างชาติ อาทิ เอเชียและยุโรป ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยทำเลใกล้เมือง และใกล้แนวรถไฟฟ้าที่สามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว
ผู้สนใจสามารถมาสัมผัสทำเลแห่งอนาคตได้แล้ววันนี้ที่ โครงการ ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ใจกลางสุขุมวิท-เทพารักษ์ คุ้มค่าทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ตั้งอยู่บนทำเลสุดไพร์มที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตอย่างลงตัว พร้อมเชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว เพียง 0 ม. จากสถานีทิพวัล และเชื่อมต่อกับ สถานี Interchange สำโรง เพียง 1 สถานี ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.09 ล้านบาท* พร้อมชมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้ Pre-sale 17 มีนาคม 2562 ลงทะเบียนออนไลน์ คลิก https://bit.ly/2RDmI4I หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2030-0000 #Origin #Knightsbridge #อัศวินติดเพชร
ขอบคุณข้อมูลจาก ddproperty.com
บูมมิกซ์ยูส “ธนบุรี-ศิริราช” ผุดสถานีทำเลทองรถไฟฟ้า 3 สาย
พลิกโฉมทำเลธนบุรี-ศิริราช รับรถไฟฟ้า 3 สี ผุดศูนย์กลางระบบราง-เวลเนสใหญ่สุด เปิดกรุที่รถไฟ 21 ไร่ ติดสถานีธนบุรี ดึงเอกชนสร้างมิกซ์ยูส 3.3 พันล้าน ลงทุนห้าง-บัดเจตโฮเทล ศูนย์พักฟื้นสุขภาพ อพาร์ตเมนต์ รองรับกลุ่มแพทย์ ญาติผู้ป่วย ผู้สูงวัย “เซ็นทรัล-เดอะมอลล์-ทีซีซี-ทุนโรงพยาบาล” เล็งปักหมุด ปิยะเวทมาแบบข้ามห้วย
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.จะนำที่ดินย่านสถานีธนบุรี เนื้อที่ประมาณ 21 ไร่ จากทั้งหมดกว่า 120 ไร่ พัฒนาเชิงพาณิชย์หารายได้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น ตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนฯ 2556 จะแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.นี้ จากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน PPP net cost ระยะเวลา 34 ปี แยกเป็นก่อสร้าง 4 ปี และจัดหาประโยชน์ 30 ปี
ดึงเอกชนผุดมิกซ์ยูสสถานีธนบุรี
โดย ร.ฟ.ท.จะได้ผลตอบแทนตลอดอายุสัญญาคิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน 992 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมการเช่า 20% จำนวน 198 ล้านบาท ค่าเช่ารายปีเริ่มต้น 32 ล้านบาท ปรับขึ้นค่าเช่าทุก ๆ ปี ปีละ 5% รวมค่าเช่าตลอดสัญญา 30 ปี อยู่ที่ 2,439 ล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จจะมีรายได้รวม 2,638 ล้านบาท
“ที่ดินจะพัฒนาปัจจุบันเป็นบ้านพักพนักงานรถไฟ จำนวน 305 ครัวเรือน แต่เพราะอยู่ในทำเลมีศักยภาพและเป็นสถานีจอดรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ซึ่งคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้สร้างวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา อยู่ใกล้โรงพยาบาลศิริราช ชุมชน น่าจะเป็นทำเลที่จูงใจให้เอกชนมาลงทุนพัฒนาโปรเจ็กต์มิกซ์ยูส ศูนย์กลางด้านสุขภาพและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโรงพยาบาล หรือ health & wellness hub มูลค่าโครงการ 3,369 ล้านบาท ตั้งเป้าจะให้เสร็จในปี 2565 พร้อมรถไฟฟ้าสายสีแดงตลิ่งชัน-ศิริราช และตลิ่งชัน-ศาลายา เปิดให้บริการ”
พัฒนา 4 โซนฮับเวลเนส
นายวรวุฒิ กล่าวอีกว่า รูปแบบการพัฒนาทางบริษัทที่ปรึกษาออกแบบพื้นที่ 21 ไร่ แบ่งพัฒนา 4 โซน มีพื้นที่ก่อสร้างรวม 110,458 ตร.ม. ประกอบด้วย 1.โซนโรงแรมและรีเทล พื้นที่ 6 ไร่ เงินลงทุน 1,309 ล้านบาท พื้นที่ก่อสร้าง 40,360 ตร.ม. พัฒนาเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือบัดเจตโฮเทล สูง 13 ชั้น จำนวน 720 ห้อง ที่จอดรถ 501 คัน และด้านหน้าสร้างมอลล์สูง 3 ชั้น พื้นที่ 10,000 ตร.ม. รองรับญาติผู้ป่วยจากโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลธนบุรี จำนวน 8,000-10,000 คน ค่าห้องไม่เกิน 1,000 บาท/คืน
2.โซนศูนย์พักฟื้นสุขภาพ พื้นที่ 4 ไร่ เงินลงทุน 879 ล้านบาท พื้นที่ก่อสร้าง 21,096 ตร.ม. เป็นอาคารสูง 13 ชั้น จำนวน 280 ห้อง ขนาดห้อง 35-52 ตร.ม. ที่จอดรถ 232 คัน รองรับผู้ป่วยพักฟื้นและดูแลสุขภาพจากโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลธนบุรี ค่าห้องประมาณ 40,000-60,000 บาท/เดือน
3.โซนเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และที่อยู่สำหรับผู้สูงวัย พื้นที่ 3 ไร่ เงินลงทุน 754 ล้านบาท พื้นที่ก่อสร้าง 22,108 ตร.ม. เป็นอาคารสูง 13 ชั้น จำนวน 300 ห้อง ที่จอดรถ 235 คัน รองรับกลุ่มแพทย์ และผู้สูงวัยในย่านฝั่งธนบุรี ค่าเช่า 30,000-50,000 บาท/เดือน
และ 4.โซนบ้านพักพนักงานรถไฟ พื้นที่ 6 ไร่ ซึ่งเอกชนจะรับภาระการลงทุน 425 ล้านบาท สร้างที่พักอาศัยรูปแบบตึกสูง 13 ชั้น จำนวน 315 ห้อง ขนาดห้อง 35-50 ตร.ม. ทดแทนจากเดิมเป็นบ้านพักแนวราบ พร้อมที่จอดรถ 265 คัน ซึ่ง ร.ฟ.ท.จะหักเงินลงทุนจากผลตอบแทนที่ ร.ฟ.ท.จะได้คืนให้เอกชนเป็นการทดแทน
ปิยะเวทปักหมุดวังหลัง-ปิ่นเกล้า
นายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลปิยะเวท เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มีแผนจะลงทุนสร้างโรงพยาบาล 2 แห่งในฝั่งธนบุรี ในปี 2563 จะนำที่ดิน 6 ไร่ อยู่บนถนนวังหลัง ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีน้ำเงิน พัฒนาเป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาด 40 เตียง ลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท และปี 2564 จะนำที่ดิน 6 ไร่ เยื้องกับพาต้าปิ่นเกล้า มาพัฒนาเป็นโรงพยาบาล อยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียด คาดว่าจะเป็นขนาด 400 เตียง เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท อีกทั้งยังสนใจจะลงทุนพัฒนาย่านสถานีธนบุรี เพื่อสนับสนุนการลงทุนโครงการใหม่ที่อยู่ใกล้กัน
ศิริราชลงทุนเพิ่ม 2 พันล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนที่สนใจลงทุนย่านฝั่งธนบุรี ทางโรงพยาบาลศิริราชก็มีแผนจะลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ โดยเมื่อปี 2560 ได้หารือร่วมกับกระทรวงคมนาคม จะขอใช้พื้นที่เหนือสถานีศิริราช เป็น 1 ในสถานีของสายสีแดง ส่วนต่อขยายช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ก่อสร้างอาคารหลังใหม่ เป็นอาคารสูง 12 ชั้น ค่าก่อสร้างประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการโรงพยาบาล
ความคืบหน้าล่าสุด นายวรวุฒิ มาลา ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า อยู่ระหว่างหารือและพิจารณาแบบรายละเอียดร่วมกัน ยังไม่ได้ข้อยุติ คาดว่าจะสรุปในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจาก ร.ฟ.ท.ต้องเปิดประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงต่อขยายที่ ครม.อนุมัติทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 วงเงินรวม 23,417 ล้านบาท ได้แก่ ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กม. วงเงิน 10,202.18 ล้านบาท, ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม. วงเงิน 6,645.03 ล้านบาท และช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6,570.40 ล้านบาท เพื่อเริ่มเดินหน้าก่อสร้างให้ทันปีนี้ ใช้เวลาสร้าง 5 ปี มีกำหนดเสร็จปี 2565-2566
ขอบคุณข้อมูลจาก bkkcitismart.com
อภิศักดิ์แนะธปท.คุมดอกเบี้ยเงินกู้เอ็มอาร์อาร์หวั่นสร้างปัญหาหนี้ครัวเรือน
“อภิศักดิ์” แนะ ธปท.ดูแลไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้เอ็มอาร์อาร์ ซ้ำเติมรายย่อยและทำให้เหลื่อมล้ำมากขึ้น
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า หากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นห่วงว่าหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ก็ควรจะต้องดูแลอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสม ไม่ควรปล่อยให้ธนาคารพาณิชย์ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (เอ็ม อาร์อาร์) เพราะปัจจุบันก็คิดดอกเบี้ยลูกค้ากลุ่มนี้สูงกว่าลูกค้ารายใหญ่ที่เมื่อขยับดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) ลูกค้ารายใหญ่ก็หนีไปที่อื่น แต่ลูกค้ารายย่อยไม่มีที่ไป
“คุณเป็นห่วงหนี้ส่วนบุคคลก็ไม่ควรขึ้นดอกเบี้ย ดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อยเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แบงก์บีบได้ ตั้งแต่ กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ธนาคารพาณิชย์ก็ขยับขึ้นแต่ดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ ไม่แตะเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่เลย คุณบอกว่าเกิดความเหลื่อมล้ำ คุณทำแบบนี้มันยิ่ง เกิดการเหลื่อมล้ำมากขึ้นหรือเปล่า” รมว.คลัง กล่าว
ก่อนหน้านี้ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ 0.125% ตั้งแต่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา และก็ได้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในเวลาต่อมา
รมว.คลัง ระบุว่า หนี้ครัวเรือนเยอะไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจไม่ดี คนที่บอกเรื่องนี้ก็ไม่ได้บอกทางแก้ไข ธปท.เป็นผู้ดูแลสินเชื่อในระบบ ซึ่งคุมมานานแล้วปล่อยให้สูงได้ยังไง และเมื่อสูงแล้วยังไง ทางกระทรวงการคลังบอกว่าหนี้ครัวเรือนสูงเทียบจีดีพีไม่มีปัญหา หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 3-4% ก็เป็นอัตราปกติ ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นหนี้เสียก็จะมีภาวะที่ดีขึ้น
ด้านหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) นั้น ยังไม่ถึง 80% ต่อจีดีพี การที่หนี้ครัวเรือนเพิ่มนั้นมาจาก 2 เหตุผล คือ เกิดจากการที่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงแหล่งเงินได้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่การเพิ่มขึ้นของหนี้ส่วนบุคคลนั้นจะสร้างความเปราะบางในระบบเศรษฐกิจ
สำหรับอีกสาเหตุหนึ่งมาจากการที่รัฐบาลกวาดล้างหนี้นอกระบบ เปลี่ยนหนี้นอกระบบเป็นหนี้ในระบบผ่านพิโกไฟแนนซ์ และนาโนไฟแนนซ์ ทำให้หนี้ในระบบเพิ่มขึ้นแต่หนี้นอกระบบหายไป ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า เพราะดอกเบี้ยถูกกว่าและไม่มีการทวงหนี้โหด
“รัฐบาลได้มีนโยบายให้ประชาชน ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านอยู่อาศัย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ก็ให้เงินกู้ วันนี้เขาซื้อบ้านได้ก็ควรซื้อ หากรอไปอีก 10 ปี เขาก็ซื้อไม่ได้แล้ว เวลาดูหนี้ครัวเรือนต้องแยก ถ้าเป็นหนี้ที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นหนี้สินที่จำเป็น และสร้างทรัพย์สินให้มีมากขึ้น เปลี่ยนจากการเช่าบ้านเป็นผ่อนบ้าน แต่ถ้าเป็นหนี้ครัวเรือนที่กู้ไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เอาไปซื้อมอเตอร์ไซค์ ไม่ได้นำเงินไป สร้างรายได้ หนี้แบบนี้ต้องควบคุม” นายอภิศักดิ์ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
เกร็ดความรู้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
เวลาได้ยินประโยคพวกนี้จะได้เข้าใจว่าเขาถามเราว่า
How’re you?
How’s it been?
How have you been?
How have you been up to?
How’s it going?
How’s everything?
What’s new? (informal) = ไงว่ะ (ใช้กับเพื่อนหรือคนที่สนิทกัน)
What’s up? (informal) = เป็นไง (ใช้กับเพื่อนหรือคนที่เรารู้จักเป็นอย่างดี)
เคยบ้างไหมที่บางทีเราเดินเล่นอยู่ดีๆ ก็เจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานมากๆๆๆ อยากรู้ไหมว่าสถานการณ์แบบนี้เขาทักทายกันอย่างไร มาดูกันเลย……… I haven’t seen you in year! = ไม่เจอกันนานเลยนะ
Long time no see! (informal) = ไม่เจอกันนานเลยนะ (ใช้กับเพื่อน)
I haven’t seen you in an age!
หลังจากที่ทำการทักทาย และมีการถามว่าสบายดีไหม เราก็ต้องตอบออกไปทำนองว่า ดี งั้นๆ หรือแย่ ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของเรา ไม่ใช่ตอบ I’m fine. อย่างเดียว มาดูกันนะครับว่าที่อเมริกาเขาตอบกันอย่างไร ตอบในแง่สุขภาพหรือไม่ก็ สบายดี แข็งแรง
ถ้าในกรณีที่เราจะตอบว่า สบายดีมาก I’m fine. Fine.
Okay. All right.
Great. Keeping cool.
I’m cool. (slang)
สบายดีว่ะ
ตอบในแง่บวก ประมาณว่า ดี ไม่มีปัญหาเลย Keeping out of trouble. = ไม่มีปัญหา
Been keeping out of trouble.
Keeping busy. =ดี (แบบทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยๆ)
Keeping myself busy.
Been keeping myself busy.
ตอบในกลางๆ ประมาณว่า งั้นๆ ไม่ดีมาก Same as always. = เหมือนเดิม
Same as usual.
Getting by. = ก็อยู่ได้นะ
Been getting by.
So-so. (informal) = งั้นๆว่ะ
ตอบในแง่ลบ ประมาณว่า แย่ ไม่ดี
Not so good. = ไม่ดีเอามากๆ
Not well.
Not very well.
Not so well.
Not great.
Not so great.
Crummy. (slang) = แย่ว่ะ
Kind of crummy. (slang) = เเย่ว่ะ
ไทยอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ อีสาน-ตอ.ฝนฟ้าคะนอง
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ประจำวันที่ 11 มีนาคม 2562 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวันกับมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนในตอนกลางวันไว้ด้วย
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-16 มีนาคม 2562 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง เกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกที่จะเกิดขึ้น และควรอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรระมัดระวัง และป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในระยะนี้ สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่า ในช่วงวันที่ 13-16 มีนาคม 2562 จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ มีเมฆบางส่วน และมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 16-24 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียสลมตะวันตก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวันโดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญและอุบลราชธานีอุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียสลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวันโดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียสลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูลอุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียสลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียสลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,350.00 | 19,450.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,253.00 | 18,995.48 | 19,950.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,127.70 | 17,095.93 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,002.40 | 15,196.38 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 564.00 | 8,550.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 439.00 | 6,655.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,298.00 | 19,677.68 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 12/03/2562
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 28.45 | 28.45 | 28.45 | 28.45 | 28.45 | 28.45 | 28.45 | 28.45 | 28.45 | 28.45 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 28.18 | 28.18 | 28.18 | 28.18 | 28.18 | 28.18 | 28.18 | 28.18 | 28.18 | 28.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 25.44 | 25.44 | 25.84 | 25.44 | 25.44 | – | 25.44 | 25.44 | 25.44 | 25.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.44 | 20.44 | – | – | – | – | – | 20.44 | – | – |
เบนซิน 95 | 35.86 | – | – | – | 36.31 | – | 36.36 | 36.16 | – | 36.16 |
ดีเซล | 27.59 | 27.59 | 27.59 | 27.59 | 27.59 | 27.59 | 27.59 | 27.59 | 27.59 | 27.59 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 31.19 | 31.46 | 31.65 | 31.65 | 31.65 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 16.44 | 27.59 | – | – | – | – | – | – | – | – |