สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 24 เมษายน 2562

ตลาดผู้ซื้อต่างชาติยังคึก ขยายตัว 30%

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าต่างชาติหันมาสนใจลงทุนและซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะห้องชุดหรือคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครมากขึ้น จากอดีตที่สนใจซื้อคอนโดมิเนียมและวิลล่าตากอากาศตามหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต พัทยา สมุย เชียงใหม่ และระยอง เพื่อการอยู่อาศัย เป็นบ้านหลังที่สอง หรือเพื่อการลงทุน

ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย รายงานว่ากำลังซื้อของผู้ซื้อต่างชาติต่ออาคารชุดของไทยเร่งขึ้นมาก สะท้อนจากข้อมูลมูลค่าเงินโอนเพื่อซื้ออาคารชุดของชาวต่างชาติของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ สิ้นปี 2561 อยู่ที่ 92,000 ล้านบาท สูงกว่าปี 2560 ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 70,758 ล้านบาท คิดเป็นการขยายตัวที่ 30% สูงกว่าการขยายตัวปี 2555-2559 ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 10%

การขยายตัวของอุปสงค์ต่างชาติ ในปี 2561 มาจากประเทศจีน (Mainland และฮ่องกง) ซึ่งสูงถึง 12% จากสัดส่วนมูลค่าของการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดทั่วประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในปี 2560ถึง 3% เป็นหลักซึ่งส่วนใหญ่นิยมซื้อเพื่ออยู่จริงและเพื่อลงทุนปล่อยเช่าโดยทำเลที่นิยมคือบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑลตามแนวรถไฟฟ้าและแหล่งงาน ส่วนราคาอาคารชุดที่นิยมซื้อมากที่สุดคือราคาตํ่ากว่า 5 ล้านบาทสำหรับในปีนี้ต้องจับตา เนื่องจากปัจจัยลบต่างๆมากมาย ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอยู่ในช่วงขาลง หรือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีนที่ยังไม่มีบทสรุป แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยสำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากราคาของภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยยังคงถูก และให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังคงให้ความสนใจลงทุนอย่างต่อเนื่องแต่คงไม่หวือหวามากเหมือนช่วงครึ่งแรกปี 2561 ที่ผ่านมา
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com

คอนโดฯกรุงเทพฯ ติดโผราคาถูกสุดในโลก

ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก รายงานว่า ฮ่องกงยังครองอันดับ 1 เมืองที่มีราคาที่พักอาศัยแพงที่สุดในโลก  ขณะที่กรุงเทพมหานครอยู่ที่อันดับ 33 จาก 35 เมืองใหญ่ทั่วโลกที่ซีบีอาร์อีทำการสำรวจ

จาก รายงานการใช้ชีวิตทั่วโลก (Global Living Report) โดยแผนกวิจัย ซีบีอาร์อี ประจำปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่ 5  ที่ซีบีอาร์อีได้รวบรวมข้อมูลตลาดที่พักอาศัยจาก 35 เมืองสำคัญทั่วโลก พบว่า การลงทุนในเขตเมือง เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การเชื่อมต่อ ค้าปลีก ศูนย์วัฒนธรรม และตลาดที่พักอาศัย เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

โดยเจนเนต ซีบริทส์ หัวหน้าแผนกวิจัย ตลาดที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี สหราชอาณาจักร ระบุว่า “ในรายงานการใช้ชีวิตทั่วโลกฉบับที่ 5  ซีบีอาร์อีได้เพิ่มจำนวนเมืองหลักที่สำรวจข้อมูลจาก 29 เมืองเป็น 35 เมือง ซึ่งรวมถึงเมืองที่มีความน่าสนใจทั่วโลก ตั้งแต่เมืองใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างเซินเจิ้นและกรุงเทพฯ   เมืองหลวงแบบดั้งเดิม เช่น โรมและลิสบอน ไปจนถึงศูนย์กลางเมืองสมัยใหม่ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างดูไบและโจฮันเนสเบิร์ก”

“เมืองที่มีขนาดใหญ่ทั่วโลกยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม เพิ่มจำนวนประชากรในวัยทำงานและประชากรที่ใช้ชีวิตในเมือง และสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ๆ สำหรับธุรกิจ”

นอกจากนี้ ยังระบุว่า เป็นอีกครั้งที่เมืองที่มีราคาที่พักอาศัยแพงที่สุดในโลกสามอันดับแรกอยู่ในเอเชีย  ฮ่องกงยังคงเป็นเมืองที่มีราคาที่พักอาศัยแพงที่สุดในโลกด้วยราคาเฉลี่ย 39.52 ล้านบาท   สิงคโปร์ยังคงอยู่อันดับ 2 ด้วยราคาเฉลี่ย 27.97 ล้านบาท และเซี่ยงไฮ้อยู่ในอันดับที่ 3 ด้วยราคาเฉลี่ย 27.92 ล้านบาท   ซึ่งรายงานของซีบีอาร์อีในปีที่แล้วระบุว่าทั้ง 3 เมืองนี้ได้มีการออกมาตรการเพื่อควบคุมราคาที่พักอาศัยไม่ให้ร้อนแรงจนเกินไป

 ขณะที่กรุงเทพฯ อยู่ในอันดับที่ 33 ด้วยราคาเฉลี่ย 3.4 ล้านบาท ตามด้วยโฮจิมินห์ ซิตี้ซึ่งมีราคาเฉลี่ยที่ 3.29 ล้านบาท และอิสตันบูลที่อยู่ในอันดับสุดท้าย มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.11 ล้านบาท

 สำหรับเมืองที่มีอัตราการเติบโตของราคาเฉลี่ยที่พักอาศัยต่อปีมากที่สุด ซึ่งสูงกว่าระดับ 10% จากปีก่อนหน้า ได้แก่ บาร์เซโลนา (16.9%) ดับลิน (11.6%)เซี่ยงไฮ้ (11.2%) และมาดริด (10.2%)  ขณะเดียวกันแม้ว่าราคาเฉลี่ยที่พักอาศัยในลอนดอนจะเติบโตเพียง 1.1% แต่ยังคงติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองใหญ่ทั่วโลกที่มีราคาที่พักอาศัยโดยเฉลี่ยสูงสุด โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 20.7 ล้านบาท

 “มี 30 เมืองจาก 35 เมืองใหญ่ที่ซีบีอาร์อีสำรวจที่ราคาที่พักอาศัยปรับตัวสูงขึ้นแม้จะปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจากในอดีต ซีบีอาร์อีมองว่าเกิดจากการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเมืองต่างๆ กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ปลายวัฏจักรของการเติบโตที่มีมาอย่างยาวนาน  ซีบีอาร์อีคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา และมาตรการควบคุมต่างๆ จะส่งผลต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แม้ว่าเซี่ยงไฮ้จะยังคงมีการเติบโตที่แข็งแกร่งก็ตาม”

 “6 ใน 10 เมืองที่มีอัตราการเติบโตของราคาที่พักอาศัยสูงสุดตั้งอยู่ในยุโรป ซึ่งมี 3 เมืองคือบาร์เซโลนา มาดริด และดับลิน ที่ต้องประสบกับปัญหาราคาที่พักอาศัยตกต่ำอย่างรุนแรงในช่วงวิกฤตทางการเงิน และใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นตามมา   ปัจจุบันเมืองเหล่านี้กำลังฟื้นตัวและกำลังเติบโตเป็นอย่างมาก   หากเปรียบเทียบกันจะพบว่าลอนดอนฟื้นตัวเร็วกว่ามากหลังจากภาวะตลาดชะลอตัว และปัจจุบันเข้าสู่รอบวัฏจักรของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไปได้ไกลกว่า” นางสาวเจนเนตกล่าวเพิ่มเติม

 การสำรวจนี้ยังเผยให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมากของค่าเช่าที่พักอาศัยในยุโรปหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นลิสบอน มาดริด ดับลิน และบาร์เซโลนา    ที่พักอาศัยที่มีจำนวนจำกัดและความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นต่างเป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าเช่าที่พักอาศัยในลิสบอนและมาดริดเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงกว่า 10% อย่างต่อเนื่อง

 “เมืองในยุโรป 6 เมือง รวมถึงลอนดอน ติดอันดับ 10 เมืองที่มีอัตราการเติบโตของค่าเช่าที่พักอาศัยสูงสุด  ซึ่งเมืองเหล่านี้ล้วนแต่กำลังเผชิญกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นและการขาดแคลนที่พักอาศัย    นอกจากนี้เมืองในแคนาดา 3 เมืองอย่างแวนคูเวอร์ โตรอนโต และมอนทรีออลยังติด 10 อันดับแรกด้วย ซึ่งได้เกิดจากการจ้างงานที่เติบโตเป็นอย่างมากและอัตราว่างของที่พักอาศัยให้เช่าในระดับที่ต่ำ” นางสาวเจนเนตกล่าวสรุป

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


SCB กำไร Q1 ต่ำกว่าคาด ส่วนรายได้สูงกว่าคาด

© Reuters.

Investing.com – บริษัท ธนาคารไทยพาณิชย์ รายงานผลกำไรประจำไตรมาสที่ 1 พลาดเป้าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีรายได้สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์

กำไรต่อหุ้น (EPS) ของ ธนาคารไทยพาณิชย์ (BK:SCB) อยู่ที่ ฿2.69 จากรายได้ ฿58.87B ทั้งนี้ ความเห็นของนักวิเคราะห์ที่รวบรวมโดย Investing.com ก่อนหน้านี้ มองว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะอยู่ที่ ฿2.9 ต่อหุ้น บนพื้นฐานรายได้ ฿35.14B

ช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว กำไรต่อหุ้นของ ธนาคารไทยพาณิชย์ นั้นอยู่ที่ ฿3.34 โดยมีรายได้ ฿35.38B ขณะที่ในไตรมาสก่อนหน้านี้ บริษัทได้รายงานผลกำไรที่ ฿2.08 ต่อหุ้น จากรายได้ ฿33.78B

นอกจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ ยังมีบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มทางการเงินที่รายงานผลประกอบการในช่วงเดือนนี้

ก่อนหน้านี้ Bangkok Bank F ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 โดยมีกำไรอยู่ที่ ฿4.73 ต่อหุ้น จากรายได้ ฿41.44B เทียบกับคาดการณ์ที่ ฿4.77 และรายได้ ฿29.71B

ขณะที่ผลการดำเนินงานของ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จากรายงานล่าสุดนั้นตรงกับการพยากรณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีผลกำไรประจำไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ ฿0.83 ต่อหุ้น และมีรายรับ ฿28.48B เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์โดยนักวิเคราะห์ของ Investing.com ซึ่งมองว่าตัวเลขกำไรต่อหุ้นน่าจะอยู่ที่ราว ฿0.83 บนพื้นฐานรายรับ ฿28.45B

ขอบคุณข้อมูลจาก investing.com


Shift Work ผลกระทบจากทำงานเป็นกะ

Shift Work ผลกระทบจากทำงานเป็นกะ thaihealth

Shift Work หรือการทำงานเป็นกะ ส่งผลเสียต่อสุขภาพในเรื่องของการกินไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา โดยเฉพาะคนที่ทำงานกะดึก ย่อมมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ทำให้ส่งผลต่อการทำงานโดยตรง ทั้งยังส่งผลต่อสุขภาพในระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย

ทำความเข้าใจกับการทำงานเป็นกะ (Shift Work)

สถานที่ที่มักพบการทำงานแบบ Shift Work เป็นสถานที่ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เช่น โรงพยาบาล ร้านสะดวกซื้อ สนามบิน เป็นต้น คนทำงานส่วนหนึ่งตามสถานที่ดังกล่าวมีการทำงานแบบ Shift Work หรือการทำงานเป็นกะ เป็นการทำงานที่ไม่ตรงกับนาฬิกาชีวิตของร่างกายที่เป็นธรรมชาติ โดยปกติช่วงเวลากลางวันจะต้องตื่นเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ และช่วงเวลากลางคืนเป็นช่วงเวลาของการพักผ่อน

คนทำงานเป็นกะ (Shift Work) ควรปฏิบัติตนอย่างไร?

การนอนหลับพักผ่อน ช่วงที่ไม่ได้อยู่กะควรพักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับให้ครบ 8 ชั่วโมง หากพักผ่อนไม่เพียงพอสมรรถภาพการทำงานของสมองจะลดลง ที่สำคัญควรจัดที่นอนให้เหมาะสม เพราะการนอนตอนกลางวัน จะมีสิ่งรบกวนค่อนข้างมาก อาจปิดผ้าม่านและหน้าต่างเพื่อส่งผลให้การนอนหลับพักผ่อนได้เต็มที

การรับประทานอาหาร หากต้องอยู่กะดึก ไม่ควรรับประทานอาหารที่หนักเกินไป หรือรับประทานอาหารควรกินแค่ไม่ให้รู้สึกหิวเท่านั้น แล้วไปกินมื้อเช้าหนัก ๆ เพื่อการนอนหลับให้เต็มอิ่ม จากนั้นเมื่อนอนครบ 8 ชั่วโมงแล้วตื่นมาในช่วงบ่าย ก็ให้กินมื้อกลางวัน และมื้อเย็นตามปกติก่อนเข้างาน ที่สำคัญคือควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

การออกกำลังกาย สำหรับคนที่ทำงานกะดึก ไม่ควรออกกำลังกายหนักจนเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าในช่วงเวลางาน ส่วนคนที่ทำงานกะเช้าและกะบ่าย ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การเปลี่ยนกะ ควรเปลี่ยนไปข้างหน้าเสมอ อย่าเปลี่ยนย้อนหลังหรือกลับไปกลับมา เพราะจะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า รู้สึกอดนอนมากขึ้น เช่น เปลี่ยนจากกะเช้าไปเป็นกะบ่าย เปลี่ยนจากกะบ่ายไปเป็นกะดึก อย่าเปลี่ยนจากกะดึกไปเป็นกะบ่าย เป็นต้น  และไม่ควรเปลี่ยนกะทุกสัปดาห์ เพราะปกติแล้วเมื่อปรับเวลานอนต่อเนื่อง 1 สัปดาห์ ร่างกายจะเริ่มชินกับเวลานอนนั้น หากต้องเปลี่ยนควรเปลี่ยนทุก 2-3 สัปดาห์ หรือไม่ก็ให้เปลี่ยนทุก 2-3 วัน

การแบ่งเวลา คนทำงานเป็นกะมักมีช่วงเวลาชีวิตที่ไม่ตรงกับผู้อื่น ทำให้ไม่มีเวลาในการพบปะเพื่อนฝูง หรือไม่มีเวลาให้ครอบครัว ดังนั้นควรแบ่งเวลาหรือวางแผนในเรื่องของเวลาให้ดีทั้งนี้เพื่อรักษาสุขภาพจิตใจของตนเอง

ผลกระทบของการทำงานเป็นกะ (Shift Work)

การทำงานเป็นกะส่งผลต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

– ระยะสั้น ได้แก่ รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ง่วงในเวลางาน ส่งผลต่อสมรรถภาพการทำงานที่ลดลง และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน

-ระยะยาว มีงานวิจัยเผยว่าคนที่ทำงานเป็นกะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคบางอย่างมากกว่าคนอื่น เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง สมรรถภาพของสมองเสื่อมลง มีอาการกล้ามเนื้อตาล้า ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีความเครียด อ่อนเพลียเรื้อรัง นอนไม่กลับ โรคอ้วน

ทั้งนี้คนทำงานเป็นกะควรดูแลรักษาสุขภาพให้ดีและมีแบบแผน จากวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากนาฬิกาชีวิตของร่างกายที่เป็นธรรมชาติ ทั้งในด้านการกิน การนอน รวมถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจของตนเอง

ขอบคุณข้อมมูลจาก thaihealth.or.th


ซัมซุมจอพับ เลื่อนวางขาย เหตุเพราะนักรีวิวพบจุดตำหนิใหญ่

ซัมซุมจอพับ

  • ซัมซุงเลื่อนการวางขาย Galaxy Fold เหตุเพราะนักรีวิวพบจุดตำหนิ
  • จุดตำหนิคือ ตำหนิรอยนูนบนจอ หลังจากที่นักริวเอาไปใช้ทดลองใช้ได้เพียงสองวัน
  • เลื่อนขายออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากที่เคยประกาศว่าจะวางขายในวันที่ 26 เมษยายนนี้
  • ติดตามข่าวสารไอทีอื่น ๆ ได้ที่ ARIPFAN.Com

ซัมซุมจอพับ เลื่อนเปิดตัว เหตุนักทดสอบพบจุดตำหนิใหญ่ หลังจากเอาไปใช้งานได้เพียงสองวัน โดยซัมซุงได้ออกแถลงข่าวว่า การเปิดตัว Galaxy  Fold  หรือโทรศัพท์รุ่นใหม่ของซัมซุงที่พับจอได้อาจล่าช้า เพราะพบปัญหาจอมีรอยนูน

“ซัมซุงให้ข้อมูลว่า ผู้ตรวจสอบ หรือ Reviewer จำนวนมากบอกเล่าถึงศักยภาพต่าง ๆ ของมือถือรุ่นใหม่นี้  แต่บางคนก็แสดงให้เห็นว่า Galaxy Fold ต้องการ การปรับปรุงเพิ่มเติมที่สามารถรับประกันประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเพื่อประเมินผลตอบรับนี้อย่างเต็มที่และดำเนินการทดสอบภายในเพิ่มเติมเราได้ตัดสินใจชะลอการเปิดตัว Galaxy Fold ออกไป”

ก่อนหน้านี้ซัมซุงมีการแถลงเปิดตัว Galaxy Fold ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทว่าในวันงานเป็นเพียงแค่เปิดให้สื่อเข้าชมแต่ไม่ได้ให้ลองทดสอบการพับจอ  มาวันนี้เมื่อนักทดสอบพบจุดตำหนิ ทำให้ซัมซุงต้องเลื่อนการวางขายออกไป หลังจากที่เคยประกาศไว้ว่าจะวางขายในวันที่ 26 เมษยายน

ขอบคุณข้อมูลจาก aripfan.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,200.00 19,300.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,244.00 18,859.04 19,800.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,119.60 16,973.14 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 995.20 15,087.23 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 560.00 8,489.60 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 435.00 6,594.60 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,289.00 19,541.24 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 24/04/2562

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 30.15 30.15 30.15 30.15 30.15 30.15 30.15 30.15 30.15 30.15
แก๊สโซฮอล์ 91 29.88 29.88 29.88 29.88 29.88 29.88 29.88 29.88 29.88 29.88
แก๊สโซฮอล์ E20 27.14 27.14 27.54 27.14 27.14 27.14 27.14 27.14 27.14
แก๊สโซฮอล์ E85 21.34 21.34 21.34
เบนซิน 95 37.56 38.01 38.06 37.86 37.86
ดีเซล 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19
ดีเซลพรีเมี่ยม 31.79 32.06 32.25 32.25 32.25
แก๊ส NGV 16.01 27.79
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า