สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 02 พฤษภาคม 2562

มิกซ์ยูสดันพื้นที่ค้าปลีกพุ่ง เปิดใหม่3แสนตร.ม.เจาะที่อยู่อาศัยกลางกรุง

โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ดันพื้นที่ค้าปลีกพุ่ง รองรับที่อยู่อาศัยใจกลางกรุงเผย ปี 62 คาดเปิดใหม่ เกือบ 3 แสนตร.ม.

ปี 2562 พื้นที่ค้าปลีกในกรุงเทพมหานครตลอดจนพื้นที่โดยรอบขยายตัวในอัตราที่เริ่มลดลงอาจเป็นเพราะว่ามีโครงการพื้นที่ค้าปลีกเปิดให้บริการใหม่ค่อนข้างมากในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้หลายโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้างกำหนดแล้วเสร็จหลังปี 2564 

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ฯ วิเคราะห์ว่า หลังจากปี 2562-2564 พื้นที่ค้าปลีกเปิดให้บริการใหม่มีไม่มาก แต่หลังจากนั้นคาดว่าจะมีมากขึ้นจากโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างหลายทำเลโดยเฉพาะทำเลใจกลางเมือง

                                                                                                                            สุรเชษฐ กองชีพ

สำหรับพื้นที่ค้าปลีกสะสมในเขตกทม.และปริมณฑลไตรมาสแรกปี2562อยู่ที่ประมาณ 8,238,000 ตารางเมตร ในจำนวนนี้อยู่ในเขต กทม. 59% คาดว่าปี 2562 จะมีพื้นที่ค้าปลีกเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีกไม่น้อยกว่า 271,000 ตารางเมตร และอีกมากกว่า 272,000 ตารางเมตร อยู่ระหว่างก่อสร้างมีกำหนดเปิดให้บริการปี 2563 -2564 ส่วนอีกส่วนหนึ่งเปิดให้บริการหลังจากนั้น

ทั้งนี้พื้นที่ค้าปลีกจะเปิดให้บริการใหม่ปี 2561 เป็นต้นมามีแนวโน้มลดลงชัดเจน อาจจะเพราะการเริ่มได้รับความนิยมของระบบการซื้อสินค้าออนไลน์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาและเริ่มมีมากขึ้นต่อเนื่องแบบที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อโครงการพื้นที่ค้าปลีกรูปแบบต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

ขณะคอมมิวนิตีมอลล์เป็นรูปแบบโครงการพื้นที่ค้าปลีกที่มีอัตราการขยายตัวมากที่สุด โดยอัตราการขยายตัวรายปีอยู่ประมาณ 30% ต่อปี เพราะมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น 3 เท่าจากปี2550 แม้พื้นที่รวมจะมีไม่มากเมื่อเทียบกับศูนย์การค้าแต่เพิ่มขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับไฮเปอร์มาร์เก็ตที่แทบไม่มีการเปลี่ยน แปลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สเปเชียลตี สโตร์หรือโครงการพื้นที่ค้าปลีกที่ขายสินค้าประเภทเดียว เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน อุปกรณ์เครื่องมือช่าง วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น โครงการพื้นที่ค้าปลีกรูปแบบนี้เป็นอีกรูปแบบที่มีการขยายตัวค่อนข้างมากโดยเฉพาะในพื้นที่กทม.รอบนอก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการขยายตัวโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก

ส่วนคอมมิวนิตีมอลล์บางโครงการไม่ประสบความสำเร็จแต่อาจจะยังต้องรอดูต่อไปอีก 1-2 ปีว่าสถานการณ์ของโครงการจะเป็นอย่างไร เพราะโครงการส่วนใหญ่เพิ่งเปิดให้บริการจะตัดสินว่าคอมมิวนิตีมอลล์โครงการใดประสบความสำเร็จนั้นควรรอให้ผ่านช่วง 3 ปีแรกไปก่อน เพราะสัญญาเช่าของผู้เช่าจะทำไว้ที่ 3 ปี หลังจากนั้นถ้ารายได้ไม่เป็นไปตามที่คิดก็อาจจะไม่ต่อสัญญา สำหรับค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยในโครงการศูนย์การค้าในพื้นที่เมืองชั้นในค่อนข้างสูงเมื่อเทียบโครงการรูปแบบอื่นในทำเลอื่นๆ เพราะด้วยศักยภาพของที่ดินที่สูงกว่าส่งผลให้ราคาที่ดินสูงกว่า รวมไปถึงการเข้าถึงกำลังซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่เมืองชั้นในมากกว่าพื้นที่อื่นๆ อีกทั้งการที่มีศูนย์การค้าบางโครงการมีทางเดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT ยิ่งมีผลให้ค่าเช่าพื้นที่ในโครงการเหล่านี้สูงกว่าโครงการที่อยู่ไกลออกไปหรือโครงการที่ไม่มีทางเดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าค่าเช่าเฉลี่ยของโครงการพื้นที่ค้าปลีกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนักในปี 2562 อาจจะประมาณ 3-5% เพราะด้วยสถานการณ์ทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจที่มีผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นต่างๆ ซึ่งมีผลต่อเนื่องมายังผู้บริโภคที่อาจจะชะลอการใช้เงินหรือลดการใช้เงินในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาและต่อเนื่องมาถึงรายได้ของร้านค้าและผู้เช่าต่างๆ ในโครงการ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ปฎิวัติวงการอสังหาฯ สร้าง AI เจาะข้อมูลเตือนฟองสบู่

“โฮมดอทเทค” ผนึกวิศวฯ จุฬาฯ และ REIC “สร้าง AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลอสังหาฯ”  ชี้ผลวิจัยมีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาฯ ทุกระดับ  ระยะแรกเตรียมแสดงผลการหา “insight” ด้านความต้องการผู้ซื้อบ้าน (Demand Side) และเรื่อง “ระบบเตือนภัยฟองสบู่อสังหาฯ”ด้วยเทคนิค Data Science เป็นครั้งแรกของประเทศไทย

รองศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์  เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าโครงการ AI กับข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป็นการต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมในโครงการความร่วมมือ Chula – HOME dot TECH ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ซึ่งครั้งนี้มีองค์กรภาครัฐ คือ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เข้ามาร่วมโครงการด้วย นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย ขณะที่โครงการ Chula – HOME dot TECH มุ่งเน้นอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคเป็นหลัก โดยนำความรู้ Data Science และ Machine Learning มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  เริ่มจากข้อมูลจาก www.home.co.th และสร้างเครื่องมือใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภคได้ “ค้นหา” และ “เลือกซื้อ” ที่อยู่อาศัยให้ตรงกับความต้องการ เหมาะสม ในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม จึงลดความเสี่ยงในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคได้

รองศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการสร้าง AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลอสังหาฯ ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อมหภาคเป็นหลัก เช่น ภาครัฐที่เป็นผู้กำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจ สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนทั่วไปก็ได้ประโยชน์เช่นกัน โดยข้อมูลที่จะนำมาวิเคราะห์จะมีทั้งข้อมูลแบบมีโครงสร้าง (Structured Data) ข้อมูลแบบไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data) ข้อมูลเชิงสถิติและข้อมูลจากการสำรวจของ REIC รวมถึงข้อมูลพฤติกรรมของผู้ซื้อตลอดจนผู้สนใจซื้อที่อยู่อาศัยจากอินเทอร์เน็ตที่ดำเนินการโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และHOME dot TECH  

ด้านดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) กล่าวว่า REIC ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการใช้เทคโนโลยียุคใหม่ ทั้งData Science, Machine Learning และ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ทำให้งานสนับสนุนด้านข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แก่หน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ REIC ก้าวหน้าไปอีกขั้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 “เรามีแผนจะทำหลายอย่าง เช่น สร้างแบบจำลองพยากรณ์สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากผลกระทบหรือปัจจัยด้านต่างๆ พัฒนาดัชนีชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯ โดยเฉพาะการวิเคราะห์ Demand หรืออุปสงค์ความต้องการของตลาดอสังหาฯ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เราจะได้ข้อมูลความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่แท้จริงในแต่ละช่วงเวลาหรือแต่ละปี รวมถึงระบบเตือนภัยภาวะฟองสบู่อสังหาฯ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญมากต่อผู้ประกอบการในการวางแผนลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และคนซื้อบ้านเองก็สามารถใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจซื้อได้อย่างแม่นยำ”

ขณะที่ นายบริสุทธิ์ กาสินพิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HOME dot TECH กล่าวว่า HOME dot TECH เป็นบริษัทในเครือ “โฮมบายเออร์ กรุ๊ป” (Home Buyers Group) เป็นเสมือนหน่วยวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคได้ซื้อที่อยู่อาศัยตรงความต้องการและมีความสะดวก ช่วยให้ผู้ประกอบการได้พบและสื่อสารตรงกับลูกค้าในอนาคต (Lead) โดยอาศัยเทคโนโลยี Data Science และ Machine Learning มาค้นหา fact จากข้อมูลขนาดมหาศาล เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้บางอย่างที่เดิมไม่สามารถตรวจสอบได้ ภายใต้โครงการ Chula – HOME dot TECH  ทั้งนี้ยังได้พัฒนา “Home Hop” แอปพลิเคชันค้นหาที่อยู่อาศัยจากการเดินทางและไลฟ์สไตล์ เป็นแอปฯ ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่เหนือความคาดหมายในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย (Beyond Personal Experience) เนื่องจากมีการใช้ AI เข้ามาวิเคราะห์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดให้ทดลองใช้ รวมถึง “Home Event App” เครื่องมือในการ Matching ผู้ซื้อและผู้ขายที่จะไปร่วมงานแสดงสินค้าที่อยู่อาศัย ซึ่งได้อัพเกรดเวอร์ชั่นให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและโครงการมากขึ้น
 นอกจากนี้ยังมี “รายงานภาวะตลาดที่อยู่อาศัย ด้าน Demand Side และรายงานพฤติกรรมผู้บริโภค จาก Big Data”  ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ธุรกิจอสังหาฯ จะได้ผลวิเคราะห์ใหม่ ๆ จากฝั่งผู้บริโภคโดยตรงและมีความแม่นยำ วิเคราะห์จากฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ www.home.co. th ที่มีปริมาณมาก เนื่องจากในแต่ละวันมีทราฟฟิคหรือ User ที่เข้ามาใช้บริการบนเว็บไซต์ถึงเดือนละกว่า 1,000,000 Session หรือปีละกว่า 12 ล้าน Session รวมถึงฐานข้อมูลโครงการที่อยู่อาศัยที่มากกว่า 4,000 โครงการ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


กระตุ้นศก.กระสุนด้าน ทรุดหนักลากยาวทั้งปี

กระตุ้นศก.กระสุนด้าน ทรุดหนักลากยาวทั้งปี

มาตรการพยุงเศรษฐกิจกลางปีที่รัฐบาลออกมาเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่ม 0.1% น่าจะเป็นกระสุนด้านเหมือนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต้นปีที่รัฐบาลออกมาแล้วไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจขยายตัวมากกว่า 4%
*********************
รายงานวิเคราะห์…โดยทีมข่าวการเงิน
ในที่สุดการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุดก็ได้ไฟเขียวมาตรการพยุงเศรษฐกิจกลางปี 2562 วงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท โดยมาตรการแบ่งออกเป็น 2 ส่วนที่สำคัญส่วนแรกเป็นมาตรการแจกเงินให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้พิการ เกษตรกร รวมถึงการลดภาระพ่อแม่ในช่วงเปิดเทอมวงเงิน 1.32 หมื่นล้านบาทส่วนที่สองเป็นมาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าเกี่ยวกับการศึกษาและกีฬา มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการอ่าน มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมซื้อสินค้า OTOP มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการมีที่อยู่อาศัย คาดว่าจะสูญเสียเงินภาษี 7,000 ล้านบาทกระทรวงการคลังคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่ม 0.1% ช่วยให้เศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงชะลอตัวขยายตัวเพิ่มขึ้น จากที่ล่าสุดกระทรวงการคลังปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2562 จาก 4% เหลือ 3.8% เพราะผลระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอ และปัญหาการเมืองภายในประเทศที่ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้

เมื่อเห็นสัญญาณชะลอตัวดังกล่าว กระทรวงการคลังจึงเสนอมาตรการพยุงเศรษฐกิจให้ ครม. เห็นชอบทันที เพราะเห็นว่าหากไม่เร่งดำเนินการ ปล่อยให้เศรษฐกิจชะลอตัวมากไปกว่านี้ การใช้เงินเพื่อพยุงเศรษฐกิจจะต้องใช้มากขึ้น และมาตรการที่ออกมาอาจจะไม่ได้ผลกว่าตอนที่เศรษฐกิจยังทรุดไม่มากอย่างไรก็ตาม มาตรการที่รัฐบาลออกมา เมื่อพิจารณาแล้วอาจจะไม่ได้ผลตามที่รัฐบาลตั้งใจไว้ เพราะจำนวนเงินน้อยเกินไป และมาตรการทั้ง 2 ส่วน มีข้อจำกัดและเงื่อนไขในการใช้จำนวนมาก จนทำให้มาตรการไม่ออกผล

เดิมกระทรวงการคลังจะเสนอมาตรพยุงชนิดยาแรง คือ การแจกเงินให้ประชาชนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป คนละ 1,500 บาท ไปใช้จับจ่ายท่องเที่ยวผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ในร้านที่ขายสินค้าและบริการในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองทั่วประเทศมาตรการดังกล่าวคาดว่า จะมีคนเข้าร่วม 10 ล้านคน เป็นวงเงินใช้ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นมาตรการที่ฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้เร็ว และกระจายลงสู่เศรษฐกิจฐานรากเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นได้เร็วแต่มาตรการดังกล่าวถูกโจมตีจากสังคมอย่างมาก เป็นประเด็นร้อนทางการเมือง จนรัฐบาลยอมถอย และปรับมาตรการออกมาเป็นรูปร่างหน้าตาใหม่อย่างที่เห็น ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจริงไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท ตามที่รัฐบาลคาดไว้เมื่อเป็นเช่นนั้น การที่จะทำให้เศรษฐกิจโตได้เพิ่ม 0.1% จากมาตรการดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่ยากไปด้วย

สำหรับเศรษฐกิจไทยตอนนี้ต้องยอมรับว่าอยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่อง เห็นได้ชัดจากการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจของหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์วิจัยกสิกรไทยลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2562 เหลือ 3.7%ธนาคารโลกลดการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2562 เหลือ 3.8% ขณะที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดการขยายตัวเศรษฐกิจลงลึกถึง 3.6%ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ออกมาส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ต่ำกว่า 3.8% ที่ประมาณการไว้เดิม และศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเริ่มมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะลงลึกไปถึง 3.5%ทุกสำนักทางเศรษฐกิจให้เหตุผลเดียวกันว่า เศรษฐกิจไทยชะลอตัวมากจากเศรษฐกิจโลกผันผวน พิษสงครามการค้ากระทบการส่งออกรุนแรง และปัญหาการเมืองที่ตั้งรัฐบาลได้ช้า กระทบการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศเกิดการชะงักสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว เป็นเรื่องที่รัฐบาลเห็นมาตั้งแต่ปลายปี 2561 เพราะมีการประกาศการเลือกตั้งในเดือนมี.ค. 2562 ซึ่งการเลือกตั้งเป็นผลดีทางการเมือง แต่เป็นผลร้ายทางเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนรัฐบาลใหม่รัฐบาลก็เห็นปัญหาและได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในต้นปี 2562 ทั้งมาตรการช็อปช่วยชาติลดหย่อนภาษีได้ 1.5 หมื่นบาท แต่ซื้อสินค้าได้แค่ยางรถยนต์ สินค้าโอท็อป และหนังสือ รวมถึงมาตรการแจกเงินเพิ่มให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มจำนวนกว่าหมื่นล้านบาทเช่นกันอย่างไรก็ตาม ถึงวันนี้เห็นแล้วว่ามาตรการที่ออกมาไม่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ยืนขยายตัวเหนือ 4% ตามที่รัฐบาลต้องการ เพราะมาตรการที่ออกมาเหมือนการให้ยาที่อ่อนและน้อยเกินไป ทำให้รักษาไข้ไม่หายสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปีที่ออกมาล่าสุด ก็มีแนวโน้มเหมือนกับมาตรการต้นปีที่ผ่านมา ไม่ได้ช่วยเศรษฐกิจดีขึ้นหรือทรงตัวอยู่ได้ แต่จะชะลอตัวเพิ่มมากขึ้นไปอีก เพราะมาตรการที่ออกมาเหมือนยาหมดอายุ และคนไข้เกิดการดื้อยาล่าสุด ครม. เห็นชอบเลื่อนการพิจารณางบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท อออกไปไม่มีกำหนด เพื่อให้ ครม. ของรัฐบาลใหม่เข้ามาพิจารณา ยิ่งกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนมากขึ้นสำนักเศรษฐกิจต่างๆ จึงมองว่าปัญหาเก่าแก้ไม่ตก ปัญหาใหม่ก็เข้ามาซ้ำเติมความเชื่อมั่น โดยตอนนี้ปัจจัยการเมืองภายในประเทศเรื่องการตั้งรัฐบาลช้าถูกจับตามองเป็นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจอันดับต้นๆหากตั้งรัฐบาลใหม่มาบริหารประเทศไม่ได้ภายในเดือน มิ.ย. 2562 คาดว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจไทยให้ชะลอตัวมากขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเป็นกระสุนด้านเช่นนี้ เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลากยาวทั้งปีขยายตัวได้ไม่ถึง 3.5% ก็มีความเป็นไปได้สูงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามที่บางสำนักเศรษฐกิจเริ่มคาดการณ์ไว้แต่ยังไม่กล้าบอกออกมาเป็นทางการ
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com

ขอบคุณข้อมูล thaihealth.or.th

สาวสายฝ. ห้ามพลาด! ประโยคเด็ดมัดใจหนุ่ม

hot คําศัพท์ภาษาอังกฤษ ประโยคภาษาอังกฤษ ประโยคมัดใจหนุ่ม ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว ภาษาอังกฤษน่ารู้ ภาษาอังกฤษพื้นฐาน สายฝ. เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง

ช่วงนี้อากาศร้อนมาก เลยอยากจะเสนอคำศัพท์คำว่า “Hot” นอกจากจะหมายถึง “ร้อน” แล้ว ยังมีอีกหลายความหมายก็คือ เผ็ด, รุนแรง, ฉลาด, ซึ่งได้รับความนิยม เป็นต้น

สาวสายฝ. ห้ามพลาด!
ประโยคเด็ดมัดใจหนุ่ม

เวลาที่มีคนมาพูดกับเราว่า “I’m so hot” อย่าเข้าใจผิดนะคะ เพราะว่ามันไม่ได้แปลว่า “ฉันร้อนมาก” แต่ความหมายคือ “ฉันแซ่บมาก” จ้า (สวย/หล่อร้อนแรงมีแต่คนมาชอบอะไรทำนองนั้น) แล้วถ้าจะบอกว่าอากาศร้อนมาก เราจะใช้ “It’s so hot.” แต่ถ้าเราอยากจะหลีกเลี่ยง ไม่อยากให้คนฟังคิดถึงเรื่องอื่นๆ ในเชิงที่ทะลึ่งหน่อย ก็แนะนำให้ใช้คำว่า warm แทนได้ค่ะ เช่น It is so warm today.

พักเรื่องอากาศกันไว้ก่อนมาดูการใช้คำว่า Hot ในบริบทที่เราต้องการสื่อถึงความเซ็กซี่แซ่บเผ็ดเด็ดดวงกันค่ะ

You are so freaking hot.  : คุณฮอตมากๆ เลย แซ่บอ่า

Ps. หากน้องๆ ถามฝรั่งว่า “Are you hot?” บางครั้งอาจจะไม่ได้แปลว่า “คุณร้อนมั้ย?” ในบางบริบทอาจะยังแปลได้ว่า “คุณกำลังมีอารมณ์ทางเพศใช่หรือมั้ย” ดังนั้นต้องระวังเรื่องนี้ให้ดีนะคะ แต่จริงๆ แล้วมันก็ขึ้นอยู่กับบริบทของบทสนทนาเรา ถ้าเรากำลังพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศ ฝรั่งเค้าจะเข้าใจได้เองว่า เราหมายถึงอากาศค่ะ

นอกจาก You’re so hot หรือ you are so freaking hot ถ้าเราอยากจะชมหนุ่มๆ สาวๆ ว่าเค้าฮอตมาก หล่อแซ่บ ดูดีสุดจะพูดยังไง ได้บ้างมาดูกันค่ะ

You are so sexy. : อันนี้ค่อนข้างตรงตัวเลยแปลว่าคุณเซ็กซี่มาก

You’re very attractive. : คุณมีเสนห์มาก

You are super duper cute. : คุณน่ารักมาก น่ารักสุดๆ (super duper เป็นคำที่พูดให้มันดูเท่ คล้องจองกันหมายถึงสุดๆ)

I have never seen someone so stunning like you before. : ฉันไม่เคยเห็นใครดูดีมากแบบคุณมาก่อนเลย

You have a beautiful smile that I can’t take my eye off you. : คุณมีรอยยิ้มที่งดงามมาก ซ่ะจนฉันไม่อาจะละสายตาไปจากคุณได้
ขอบคุณข้อมูล teen.mthai.com

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,250.00 19,350.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,247.00 18,904.52 19,850.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,122.30 17,014.07 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 997.60 15,123.62 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 561.00 8,504.76 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 436.00 6,609.76 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,292.00 19,586.72 n/a
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 02/04/2562
ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 30.05 30.05 30.05 30.05 30.05 30.05 30.05 30.05 30.05 30.05
แก๊สโซฮอล์ 91 29.78 29.78 29.78 29.78 29.78 29.78 29.78 29.78 29.78 29.78
แก๊สโซฮอล์ E20 27.04 27.04 27.44 27.04 27.44 27.04 27.04 27.04 27.04
แก๊สโซฮอล์ E85 21.29 21.29 21.29
เบนซิน 95 37.46 37.91 37.96 37.76 37.76
ดีเซล 28.09 28.09 28.09 28.09 28.09 28.09 28.09 28.09 28.09 28.09
ดีเซลพรีเมี่ยม 31.69 31.96 32.15 32.15 32.15
แก๊ส NGV 16.01 28.09
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า