สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 23 พฤษภาคม 2562

รับเหมา-ที่ปรึกษาไทยโกยงานอื้อ หลังเนด้ากางแผนลงทุนกลุ่มGMS

กลุ่มรับเหมาและบริษัทที่ปรึกษาไทยยังเนื้อหอมหันคว้างานกลุ่มประเทศอนุภาคลุ่มนํ้าโขง (GMS) ที่สพพ.หรือเนด้าสนับสนุนงบประมาณรวมกว่า 1.2 หมื่นล้าน เผย 5 โครงการเริ่มเห็นภาพชัดเจนแล้ว กลุ่ม ช.ทวีก่อสร้าง, ฟินเทคนิค, บัญชากิจ, เสริมสงวน แบ่งเค้กรับงาน ส่วนกลุ่มทีมฯ และเอเชี่ยนเอ็นจิเนียริ่งโกยงานที่ปรึกษา

นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน)หรือสพพ. (เนด้า)เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการจัดทำแผนโครงการเชิงรุกกับ 3 ประเทศเพื่อนบ้าน(กัมพูชา-สปป.ลาว-เมียนมา)เพื่อคัดเลือกโครงการที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านโดยเปิดให้ภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบูรณาการข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจคัดลือกโครงการต่างๆ

พีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์

ปัจจุบันสพพ.ได้ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่กลุ่มประเทศอนุภาคลุ่มนํ้าโขงในการผลักดันโครงการต่างๆ ดังนี้คือ 1. โครงการก่อสร้างถนนจากเมืองหงสา-บ้านเชียงแมน (เมืองจอมเพชร แขวงหลวงพระบาง) สปป.ลาว วงเงิน 1,977 ล้านบาท 2. โครงการรถไฟสายท่านาแล้ง- เวียงจันทน์ ระยะที่ 2 ส่วนที่ 2 วงเงิน 1,650 ล้านบาท 3. โครงการพัฒนาถนนหมายเลข 11 (R11) ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านนํ้าสังข์ สปป.ลาว วงเงิน 1,826 ล้านบาท 4. โครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5(บึงกาฬ-บอลิคำไซ) สปป.ลาว วงเงิน 1,380 ล้านบาท 6. โครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5 ราชอาณาจักรกัมพูชา วงเงิน 928 ล้านบาท

สำหรับกรณีให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการนั้น ประกอบไปด้วย 1. โครงการพัฒนาเส้นทางหมายเลข 12 (R12) ช่วงเมืองท่าแขก- จุดผ่านแดนนาเพ้า สปป.ลาว คิดเป็นวงเงิน 18 ล้านบาท 2. โครงการปรับปรุงถนน 2 เลนเชื่อมพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย สู่ชายแดนไทย-เมียนมา วงเงิน 4,500 ล้านบาท 3. โครงการปรับปรุงถนนหมายเลข 67 ช่วงเสียมราฐ-อันลองเวง-จวม/สะงำ ราชอาณาจักรกัมพูชา วงเงิน 13.8 ล้านบาท

“ปีนี้สพพ.ครบรอบ 14 ปียังมีแผนขับเคลื่อนโครงการออกไปพัฒนากลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่องพร้อมกับดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีของเนด้าให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลโดยปีนี้มีแผนระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรจำนวน 1,000 ล้านบาทเพื่อนำไปดำเนินการตามแผนเชิงรุกใน 3 ประเทศ คือ สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชาเพื่อให้เห็นภาพชัดในแผนระยะ 5 ปี หรือ 10 ปีนี้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างไรบ้าง”

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากสพพ.รายหนึ่งกล่าวว่า โครงการของเนด้าที่สนับสนุนด้านการเงินให้นั้นมีบริษัทรับเหมาของไทยและบริษัทที่ปรึกษาไทยได้รับงาน (บางส่วนรอการตรวจสอบจากสปป.ลาว) ดังนี้คือ 1. โครงการก่อสร้างถนนจากเมืองหงสา-บ้านเชียงแมน (เมืองจอมเพชร แขวงหลวงพระบาง) สปป.ลาว วงเงิน 1,977 ล้านบาท โดยบริษัท ช. ทวี ก่อสร้างฯ และบริษัท บัญชากิจ ก่อสร้าง จำกัด รับงานโยธา ส่วนบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด รับงานที่ปรึกษา 

2. โครงการรถไฟสายท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ ระยะที่ 2 ส่วนที่ 2 วงเงิน 1,650 ล้านบาท งานโยธาคาดว่าจะเป็นบริษัทเสริมสงวน จำกัด ส่วนที่ปรึกษาได้แก่ บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด 3. โครงการพัฒนาถนนหมายเลข 11 (R11) ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านนํ้าสังข์ สปป.ลาว วงเงิน 1,826 ล้านบาท (รอยืนยันจากสปป.ลาว) 4. โครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) สปป.ลาว วงเงิน 1,380 ล้านบาท (รอยืนยันจากสปป.ลาว) 6. โครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและ ถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5 ราชอาณาจักรกัมพูชา วงเงิน 928 ล้านบาท บริษัท ฟินเทคนิค จำกัด รับงานโยธา และบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง แอนด์แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษา

“ส่วนหนึ่งยังรอการตรวจสอบจากสปป.ลาวเนื่องพบว่ามีบางบริษัทเกิดความผิดพลาดทางด้านระบบทะเบียนผู้รับเหมาช่วงระหว่างรอการยื่นประมูลและมีการร้องเรียนเกิดขึ้น” 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


พราวฯฉีกแนวรุกอสังหา ตั้งเป้ายอดขาย 1 หมื่นล้านใน 5 ปี

พราวพุธ-พสุ สองทายาทลิปตพัลลภ นำ PROUD รุกตลาดอสังหาฯเชิงที่อยู่อาศัย ภายใต้แนวคิด “MORE THAN JUST LIVING: ชีวิตที่มากกว่า”  เริ่ม 2 โครงการทำเลทองในหัวหิน เจาะกลุ่มไฮเอนด์ – ลักชัวรี่ ตั้งเป้ายอดขาย 1 หมื่นล้านใน 5 ปี

พราวพุธ ลิปตพัลลภ

พราวพุธ ลิปตพัลลภ

นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในการทำธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวในหัวเมืองหลักๆของประเทศ อย่างหัวหิน และภูเก็ต ทำให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่มาจากการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นคนไทยที่ต้องการบ้านพักผ่อนหลังที่สอง หรือ ตลาดนักท่องเที่ยว ทั้งกลุ่มอายุ 50 ขึ้น ที่มีกำลังซื้อสูง หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวแถบเอเซีย โดยเฉพาะ กลุ่มพรีเมี่ยม มิลเลเนียล จึงทำให้ที่ผ่านมาตลาดนี้ หรือ Resort homes มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
 

เห็นได้จากข้อมูล REIC มูลค่าโอนห้องชุดรวมของหัวเมืองหลักๆ อย่าง เชียงใหม่  สมุย (สุราษฎ์ธานี) กระบี่ ภูเก็ต พัทยา (ชลบุรี) และหัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์ ) โตเฉลี่ยปีละ 29% ระหว่างปี 2558-61 เทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศที่ปีละ 20%  และในปีที่ผ่านมามีมูลค่ารวมถึง  51,656 ล้านบาท โดยมีดีมานด์มาจากทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังไม่มีใครในท้องตลาดที่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าในกลุ่มนี้ได้อย่างแท้จริง 
 

ทางบริษัทฯ จึงมีแนวคิดที่จะทำอสังหาฯ แนวใหม่  โดยผสมผสานประสบการณ์การพักผ่อน และการให้บริการระดับโรงแรม เข้ากับการดีไซน์ ของที่พักอาศัย ซึ่งยังคงต้องมีความคุ้มค่า ในแง่ของการลงทุน ออกมาในรูปแบบ ลิฟวิ่ง โซลูชั่น คอนเซปต์ “MORE THAN JUST LIVING” เน้นย้ำทำเลทอง  – พื้นที่ส่วนกลาง และ การให้บริการระดับโรงแรม -การออกแบบเชิงรีสอร์ท- การทำการตลาดเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้ผู้พักมีความสะดวกสบายมากขึ้น 

 “การบุกตลาดในครั้งนี้ เน้นกลุ่มลูกค้าในระดับบน ทั้ง พรีเมี่ยม และลักชัวรี่ โดยถ้าเป็นตลาดเมืองรีสอร์ท ราคาจะเริ่มที่ประมาณ 1 แสนบาท  และสามารถขึ้นไปถึง 3 แสนบาท ต่อ ตรม. และถ้าเป็นตลาดในเมือง อย่างกรุงเทพ ราคาจะเริ่มประมาณ  1.5 แสนบาท ถึง 3.5 แสนบาท ต่อ ตรม. ราคาต่อห้องสามารถเริ่มที่ประมาณ 4 ล้านบาท โดยขนาดห้องจะต้องเน้นเรื่องของขนาดที่ใช้ได้จริง และมีฟังก์ชั่นที่คุ้มค่าแก่การลงทุน ทั้งนี้กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้  เป็นกลุ่มที่ยังมีกำลังการซื้อ เพียงแต่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์คุ้มค่า”

พสุ ลิปตพัลลภ

พสุ ลิปตพัลลภ

นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร ของ PROUD กล่าวเสริมว่า ช่วง 2 ปีแรกจะเปิด 2 โครงการในหัวหิน บนที่ดิน 2 แปลง  โดยโครงการแรก ริมทะเลหัวหิน เปิดตัวประมาณไตรมาส 4 ปี 2562 และโครงการที่สอง ติดรีสอร์ท สวนน้ำ วานา นาวา เปิดตัวต้นปี 2563  ซึ่งยอดขายรวม 2 โครงการแรกอยู่ที่ประมาณ 5,500 ล้านบาท และมีเป้าหมายจะหาโครงการใหม่ เพื่อเพิ่มยอดขายอีกอย่างน้อยประมาณ 4,000-6,000 ล้านบาท รวมเป็นประมาณ 10,000 ล้านบาท ภายใน  5 ปี   
 

“แนวคิด “MORE THAN JUST LIVING” จะเป็นจุดขาย ที่แข็งแรง ได้ทั้งโครงการในเมืองอย่างกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวหลักๆของประเทศ”
 ทั้งนี้เพื่อรองรับโครงการฯ ใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารอย่างเต็มที่  PROUD ได้เสริมทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ เข้ามาร่วมงาน

 ด้านนายศรัฐ ปวรเดชาพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่  PROUD กล่าวถึงกลยุทธ์การตลาดและแผนการขายว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวในหัวหินมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เติบโตไปด้วย โดยเฉพาะทำเลที่ดินติดชายหาดหัวหินความต้องการซื้อมีมาก แต่ห้องชุดที่ขายค่อนข้างขาดแคลน เนื่องที่ดินมีจำนวนจำกัด  
 

“สภาพตลาด ในปี 2561 จำนวนยูนิตที่เกินกว่า  10 ล้านบาท ที่มีค้างอยู่ในตลาดหัวหิน- ชะอำ มีเพียงแค่ 65 ยูนิต  แสดงให้เห็นถึง ความต้องการของตลาดบนซึ่งยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และจากการศึกษาตลาดของบริษัท พบว่าคอนโดในตลาดบนมีการปล่อย Resale น้อยมาก และ พอมีหลุดมาตลาดก็รับทันที ในราคากว่า 250,000 ต่อ ตรม. ทำให้ทาง PROUD มั่นใจศักยภาพในการพัฒนาโครงการะดับ ไฮเอนด์ – ลัคชัวรี่  ในหัวหิน”
 

ในการทำการตลาดและการขายในครั้งนี้ จะมีการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ ในหัวหิน  เตรียมพร้อมทำ Co-promotion และ มอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกบ้านของ PROUD เพื่อมอบประสบการณ์ “ชีวิตที่มากกว่า” ภายใต้แนวคิด “MORE THAN JUST LIVING” ให้แก่กลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ภาษีครึ่งปี บริหารจัดการได้

ภาษีครึ่งปี บริหารจัดการได้

การบริหารจัดการเสียภาษีให้ถูกต้องไม่ใช่เรื่องยาก ที่สำคัญไม่ควรพลาดการลงทุนเพื่อการลดหย่อนภาษี ซึ่งได้ทั้งการออมเงินและเสียภาษีลดลง
***************************คอลัมน์ ตลาดนัดการเงิน โดย…บุษยพรรณ วัชรนาคา, CFP K-Expert ธนาคารกสิกรไทยภาษีครึ่งปี บริหารจัดการได้คนส่วนใหญ่รู้กันดีว่า เราจะยื่นภาษีกันปีละครั้งช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือน หรือคุณมีรายได้ประเภทอื่นๆ รู้ไหมว่าคุณมีหน้าที่ต้องยื่นภาษีครึ่งปีด้วยนะ วันนี้เราลองมาทำความเข้าใจกันหน่อยว่า ใครบ้างต้องยื่นภาษีครึ่งปี แล้วเรามีวิธีบริหารภาษีกันได้อย่างไรบ้าง

เช็กก่อนว่าใครเข้าข่ายบ้าง?

อย่างที่พอทราบกันว่า เงินได้ที่ได้จากการทำงานประเภทต่างๆ มีการแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม หรือที่คุ้นเคยว่าเป็นเงินได้มาตรา 40(1) – 40(8) แต่มีรายได้อยู่ 4 ประเภทที่เข้าข่ายต้องยื่นเสียภาษีครึ่งปี ซึ่งนั่นก็คือ เงินได้ 40(5) – 40(8) โดยเงินได้แต่ละประเภทหมายถึง

● ค่าเช่า หรือ เงินได้ 40(5) ถ้าคุณมีรายได้จากการปล่อยเช่าทรัพย์สินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด ที่ดิน หรือรถยนต์ ก็ถือว่าเข้าข่ายเงินได้ประเภทนี้
● ค่าวิชาชีพอิสระ หรือ เงินได้ 40(6) สำหรับคนที่เข้าข่ายมีรายได้จากวิชาชีพอิสระนั้น มีด้วยกัน 6 ประเภท คือ นักบัญชี หมอ/พยาบาล วิศวกร สถาปนิก นักกฎหมาย ช่างประณีตศิลป์ ซึ่งต้องเป็นเงินได้ที่ไม่ใช่เงินเดือนประจำ
● ค่ารับเหมา หรือ 40(7) รับเหมาในที่นี้ต้องเป็นการรับเหมาที่คุณต้องจัดหามาตั้งแต่คนงาน เครื่องไม้เครื่องมือ วัสดุต่างๆ ไม่ใช่แค่รับเฉพาะค่าแรงเท่านั้น
● เงินได้อื่นๆ หรือ 40(8) ข้อนี้ค่อนข้างกว้าง แต่หมายถึงเงินได้ที่ไม่เข้ากลุ่มไหนเลยใน 7 ประเภท ยกตัวอย่างเช่น รายได้จากการขายของออนไลน์ เปิดร้านขายอาหารเครื่องดื่ม รับงานเป็นพิธีกร ดารา นักแสดง หรือมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ หรือทำธุรกิจในนามบุคคลธรรมดา เป็นต้น
ดังนั้น ถ้าคุณมีเงินได้ 4 ประเภทข้างต้น และจำนวนเงินรวมกันเกิน 60,000 บาท (กรณีเป็นคนโสด) หรือ 120,000 บาท (กรณีแต่งงานจดทะเบียนสมรส) ก็เอาเป็นว่า คุณมีหน้าที่ต้องยื่นภาษีครึ่งปีนั่นเองต้องยื่นที่ไหน ยื่นอะไรเมื่อเช็กประเภทเงินได้แล้ว ก็สามารถยื่นแบบ ภ.ง.ด.94 ในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. ของทุกปี โดยยื่นแบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ก็ได้ หรือจะยื่นที่สำนักงานกรมสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศ และที่ทำการไปรษณีย์ก็ได้เช่นกันทีนี้เมื่อยื่นช่วงกลางปีไปแล้ว ตอนสิ้นปีต้องยื่นอีกไหม? คำตอบคือ ก็ยังต้องยื่นอยู่ แต่ช่วงสิ้นปีจะเป็นการสรุปยอดเงินได้รวมของทั้งปี ไม่ใช่แค่เงินได้ที่เกิดในช่วงครึ่งปีหลังถ้ายื่นช้า เป็นอะไรไหมสำหรับใครที่มีรายได้เข้าเกณฑ์ต้องยื่นเสียภาษีครึ่งปี แล้วไม่ได้ยื่น หรือกะว่าจะรอไว้ยื่นทีเดียวตอนสิ้นปีเลย ถามว่าอันนี้ผิดไหม คำตอบคือ ผิด แถมยังมีค่าปรับอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของภาษีที่ค้างจ่าย (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน) และมีโทษอีกไม่เกิน 2,000 บาทด้วยนะสามารถใช้ตัวช่วยลดหย่อนได้ไหมการยื่นภาษีครึ่งปีนั้น คุณสามารถใช้สิทธิลดหย่อนตามสถานภาพต่างๆ ได้ เพียงแต่จะสามารถใช้สิทธิได้ครึ่งเดียวจากการใช้สิทธิเต็มปี เช่น ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ใช้สิทธิได้ 30,000 บาท (จากเต็มปี 60,000 บาท) เป็นต้นนอกเหนือไปจากค่าลดหย่อนตามสถานภาพต่างๆ แล้ว คุณสามารถบริหารจัดการค่าลดหย่อนได้เหมือนกันการยื่นภาษีสิ้นปีปกติ ดังนั้น คุณสามารถนำเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวม LTF หรือ RMF มาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ โดยลดหย่อนได้สูงสุดตามที่จ่ายจริงในช่วงครึ่งปีแรก และยอดลดหย่อนสูงสุดเท่ากับแบบเต็มปี เช่น ค่าซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวม LTF ใช้ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีช่วงครึ่งปีแรก และไม่เกิน 500,000 บาท เป็นต้นเห็นแบบนี้แล้ว แนะนำให้นำเงินได้ครึ่งปีแรกมาทดลองคำนวณก่อนจะถึงช่วงยื่นภาษีในเดือนกรกฎาคม ใครที่ยังไม่ได้จัดเตรียมเรื่องค่าลดหย่อนต่างๆ ก็จะได้วางแผนจัดการตั้งแต่เนิ่นๆ ส่วนใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะต้องยื่นภาษีครึ่งหรือเปล่า อาจจะลองโทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมสรรพากร หรือโทร 1161
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


พานาโซนิคงดทำธุรกิจกับหัวเว่ย

พานาโซนิคงดทำธุรกิจกับหัวเว่ย

บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งแห่ระงับทำธุรกิจกับหัวเว่ยภายใต้คำสั่งห้ามของสหรัฐ
บริษัทพานาโซนิค ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติญี่ปุ่นได้เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทจะระงับการทำธุรกิจกับทางหัวเว่ยและบริษัทในเครืออีก 68 แห่ง ภายใต้คำสั่งของรัฐบาลสหรัฐที่ห้ามธุรกิจของอเมริกันทำธุรกิจธุรกรรมร่วมกับหัวเว่ยด้วยเหตุผลความมั่นคงของชาติโฆษกของทางพานาโซนิคแจ้งว่า ความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างหัวเว่ยและพานาโซนิคนั้นเกี่ยวข้องกับการจัดหาชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงรายละเอียดพานาโซนิคแม้เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น แต่มีสำนักงานสาขาขนาดใหญ่ที่สหรัฐด้วย จึงต้องอยู่ภายใต้คำสั่งประกาศของรัฐบาลวอชิงตัน อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของพานาโซนิคที่จำหน่ายในสหรัฐนั้นยังมีชิ้นส่วนบางชิ้นที่ผลิตขึ้นโดยหัวเว่ยพานาโซนิกนับเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นขนาดใหญ่แห่งที่ 3 หลังจากที่เคดีดีไอและซอฟต์แบงก์ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหญ่อันดับสองและสามของญี่ปุ่นประกาศวานนี้ว่า จะชะลอการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของหัวเว่ยส่วนเอ็นทีที โดโคโม ผู้ให้บริการอันดับหนึ่งเผยว่า กำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,200.00 19,300.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,244.00 18,859.04 19,800.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,119.60 16,973.14 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 995.20 15,087.23 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 560.00 8,489.60 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 435.00 6,594.60 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,289.00 19,541.24 n/a
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 23/05/2562 
ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 29.55 29.55 29.55 29.55 29.55 29.55 29.55 29.55 29.55 29.55
แก๊สโซฮอล์ 91 29.28 29.28 29.28 29.28 29.28 29.28 29.28 29.28 29.28 29.28
แก๊สโซฮอล์ E20 26.54 26.54 26.94 26.94 26.94 26.54 26.54 26.94 26.54
แก๊สโซฮอล์ E85 20.99 20.99 20.99
เบนซิน 95 36.96 37.41 37.46 37.26 37.26
ดีเซล 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19 28.19
ดีเซลพรีเมี่ยม 31.79 32.06 32.25 32.25 32.25
แก๊ส NGV 15.94 28.19
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า