เพอร์เฟค โชว์ยอดขายคอนโด“ยู คิโรโระ” ในญี่ปุ่น 50%
เพอร์เฟค โชว์ยอดขายคอนโด“ยู คิโรโระ” ในญี่ปุ่น 50%
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค โชว์ผลงานคอนโดโครงการแรกในประเทศญี่ปุ่น “ยู คิโรโระ” ทำยอดขายได้แล้ว 1,800 ล้าน หรือกว่า 50% ของยูนิตขาย ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ โดยเฉพาะนักลงทุนชาวเอเชียและไทยเกินคาด กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จธันวาคมนี้ คาดปิดการขายได้ในปีหน้า โครงการอยู่ใจกลางฮอกไกโด บริเวณเดียวกับ “คิโรโระ” สกีรีสอร์ทที่สงบเงียบ พร้อมศูนย์กลางกิจกรรมและที่พักชั้นนำระดับโลก
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้วางโรดแมปในการพัฒนา คิโรโระ รีสอร์ต อย่างเต็มศักยภาพ ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยมีมาสเตอร์แพลนในการสร้างแหล่งท่องเที่ยวและที่พักอาศัยครบวงจร ประกอบด้วย วิลล่าหรู ทาวน์โฮม และอพาร์ตเมนต์ ที่รายล้อมบริเวณทางเข้า และใกล้กับศูนย์สกีและคลับสกีชั้นนำแห่งแรกของฮอกไกโด ที่สามารถเดินทางจากที่พัก ไปร้านค้า ร้านอาหาร หน่วยบริการอื่น ๆ ด้วยการใช้สกี ในบริเวณรีสอร์ตยังมีร้านอาหารที่หลากหลาย ร้านค้าต่างๆ ศูนย์อุปกรณ์สำหรับกิจกรรมบนเขา และสามารถออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ หรือเดินทางไปสถานท่องเทียวใกล้เคียงได้อย่างสะดวก
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจาก “คิโรโระ” สกีรีสอร์ทที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในกลุ่มนักท่องเที่ยวแล้ว บริษัทฯ ยังพัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการแรก คือ “ยู คิโรโระ” เป็นคอนโดมิเนียมสูง 7 ชั้น บนพื้นที่ 3.88 ไร่ มูลค่าโครงการ 3,880 ล้านบาท ความคืบหน้าโครงการขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 50% เป็นมูลค่า 1,800 ล้านบาท ถือเป็นยอดขายที่สูงเกินความคาดหมายสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศโครงการแรกของบริษัท โดยกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในเดือนธันวาคม 2562 คาดว่าจะสามารถปิดการขายโครงการได้ภายในปีหน้า
“โครงการตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับ “คิโรโระ” สกีรีสอร์ทใจกลางฮอกไกโด จึงได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าระดับ ไฮเอนด์อย่างมาก โดยห้องชุดขนาด 1-2 ห้องนอน ช่วงราคา 24-40 ล้านบาท เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นอกจากเพื่อพักอาศัย ยังเป็นการซื้อเพื่อลงทุน ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีเนื่องจากขณะนี้ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงอ่อนตัว จึงมีกลุ่มนักลงทุนที่มองการณ์ไกลเข้ามาจับจองตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการก่อสร้าง โดยเฉพาะนักลงทุนจากเอเชียซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ของ ยู คิโรโระ ทั้งจากฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน เนื่องจากฮอกไกโดเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ เดินทางสะดวกด้วยเที่ยวบินตรงมากกว่า 30 เที่ยวบินจากหลากหลายประเทศในเอเชียที่ตรงมายังท่าอากาศยานนิวชิโตเสะ นอกจากนี้ยังมีกระแสตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าชาวไทย ซึ่งเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของลูกค้าทั้งหมด ถือว่าได้รับการตอบรับจากคนไทยเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้”
“ยู คิโรโระ” ยังได้รับรางวัลการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดแห่งปี 2561 ของญี่ปุ่น ประกอบด้วยห้องพักหรูขนาด 1-3 ห้องนอนและเพนท์เฮ้าส์ รวม 108 ห้อง สำหรับแบบ 1 ห้องนอน 62 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 24 ล้านบาท, ขนาด 2 ห้องนอน 84-127 ตร.ม. เริ่ม 35 ล้านบาท และ ขนาด 3 ห้องนอน 127-140 ตร.ม. เริ่ม 50 ล้านบาท ทุกห้องตกแต่งครบพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที พร้อมบริการชั้นเลิศ อาทิ บริการรับฝากอุปกรณ์เล่นสกี, ออนเซนทั้งภายในอาคารและกลางแจ้ง, บริการคอนเซียร์จตลอด 24 ชม,ฟิตเนสและเลาจน์ และห้องอาหารที่ให้บริการตลอดทั้งวัน
“ยู คิโรโระ” มีจุดเด่นด้วยการเป็นที่พักอาศัยที่สามารถสกีเข้า-ออกได้จากด้านหน้าของอาคาร มีความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว สามารถมาพักผ่อนได้ตลอดทั้งปี ตั้งอยู่ภายใน “คิโรโระ” สกีรีสอร์ทบนภูเขาใจกลางของฮอกไกโด เงียบสงบ มีทิวทัศน์ที่คงความงดงามตามธรรมชาติ มีชั้นหิมะที่หนานุ่มและตกสะสมหนาถึง 20 เมตรต่อปีในช่วงฤดูหนาว พร้อมกิจกรรมสันทนาการที่ครบครันสำหรับช่วงฤดูร้อน คิโรโระจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเดินทางทุกประเภทจากทวีปเอเชียอย่างรวดเร็ว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เวนคืนสะพาน ‘เกียกกาย’ งบบวม สายสีนํ้าเงินดันจรัญฯที่พุ่ง 4 แสน
สะพานเกียกกาย-ถนนเชื่อมต่อ รับ รัฐสภาใหม่ งบเวนคืน บวม เกือบ 10 เท่า กทม.ระบุสาเหตุใหญ่จาก รถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินทำที่พุ่ง จรัญสนิทวงศ์ จาก ราคาหลักหมื่นทะลุ 3-4 แสน บาทต่อตารางวา ผวาซํ้ารอย มอเตอร์เวย์บางใหญ่ รถไฟสายสีม่วง
นอกจากความล่าช้าของโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่นํ้าเจ้าพระยาบริเวณเกียกกาย และถนนเชื่อมต่อรองรับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จะกระทบต่อการเสียโอกาสการสร้างความเจริญ ในพื้นที่แล้ว ยังกระทบต่องบประมาณเวนคืน ที่เพิ่มสูงขึ้นจากผลพวงของรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน ที่มาที่หลังแต่สร้างเสร็จก่อน ทำให้ราคาที่ดิน ตลอดแนวถนนจรัญ สนิทวงศ์ ขยับสูงขึ้นเกือบ 10 เท่าตัว ซึ่งเป็นจุดพาดผ่านทับซ้อน บริเวณบางอ้อ โรงพยาบาลยันฮี กลายเป็นผลดีสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืน เรียกรับค่าชดเชยสูง เท่ากับราคาปัจจุบัน
ทั้งนี้จากการสอบถาม บริษัท พฤกษา จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ได้ซื้อที่ดินบริเวณถนนจริญสนิทวงศ์ ขึ้นคอนโดมิเนียม ตารางวาละ 3 แสนบาท ช่วง 2-3 ปีก่อนและปัจจุบันราคาไม่ตํ่ากว่า 4 แสนบาทต่อตารางวา
แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ที่ผ่านมา มีการคัดค้านการก่อสร้างสะพานข้ามแม่นํ้าเจ้าพระยา โดยเฉพาะนายทุนใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาที่ดินบริเวณ ถนนจรัญสนิทวงศ์ ทำให้พระราชกฤษฎีกาเวนคืน หมดอายุลงและมีการต่ออายุใหม่ ซึ่งใช้เวลานานเกือบ 10 ปี ล่าสุด กทม.ได้รับงบจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินวงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท จากงบประมาณเวนคืนทั้งหมดกว่า 6,000 ล้านบาท แต่ปัญหามีบางบริเวณ ราคาที่ดินขยับสูงจากหลักหมื่น ขยับเป็นหลักแสนบาทต่อตารางวา โดยเฉพาะบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งเป็นเส้นทางทับซ้อนกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน พาดผ่านอีกทั้งยังสร้างความเจริญตลอดแนว ส่งผลทำให้ต้องปรับค่าชดเชยสูงขึ้น ประมาณเกือบ 10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้พื้นที่โดยรอบแนวถนนเชื่อมต่อจากสะพานเกียกกายยังมีความเจริญ มีทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย รถไฟฟ้าสายสีแดง มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นโดยเฉพาะบริเวณถนนราชพฤกษ์ พุทธมณฑล แน่นอนว่าต้องเจรจากับเจ้าของที่ดินเพิ่ม ขณะที่งบประมาณต้องปรับเพิ่ม เกือบ 10 เท่า รวมทั้งค่าก่อสร้างเกรงว่าจะซํ้ารอยโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) บางใหญ่-กาญจนบุรี ของกรมทางหลวงในปัจจุบัน เนื่องจาก มีรถไฟฟ้าสายสีม่วง ก่อสร้าง และเปิดใช้เส้นทาง ทำให้ราคาที่ดินขยับขึ้นหลักแสนบาทต่อตารางวา
สำหรับบริเวณก่อสร้างสะพานข้ามแม่นํ้าเจ้าพระยา บริเวณเกียกกายและถนนต่อเชื่อม ขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ตัวสะพาน มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร วิ่งตรงผ่านตลาดบางอ้อแล้วตัดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งเป็นอีกจุดที่จะสร้างทางต่างระดับขึ้นลงจากถนนจรัญสนิทวงศ์แนวจะตรงไปตัดกับแนวทางด่วนบางซื่อ-สะพานพระราม 6-ถนนบรมราชชนนี จะมีทางต่างระดับขึ้นลงเชื่อมกับถนนโลคัลโรดและทางด่วน แล้วค่อยๆ ลดระดับลงพื้นดิน โดยแนวเส้นทางจะ ตวัดไปด้านซ้าย คู่ขนานไปกับถนนนครอินทร์ และไปเชื่อมกับถนนราชพฤกษ์และถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ “ฐานเศรษฐกิจ” ได้สอบถาม ทีมสำรวจจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยใช้แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ พบว่ามีสิ่งปลูกสร้างของเอกชนที่ถูกกระทบ 284 หลังคาเรือน และที่ดินจำนวน 405 แปลง โดยบริเวณฝั่งธนหรือถนนจรัญสนิทวงศ์ทั้ง 2 ฟากถนนได้รับผลกระทบมากที่สุดอาทิ โครงการบ้านสวนฉัตรของนายรังสรรค์ ต่อสุวรรณ อดีตสถาปนิกชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังทางรถไฟฟ้าสายสีแดงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จรัญสนิทวงศ์ซอย 95/1 อาคารบ้านเรือนย่านจรัญ สนิทวงศ์ข้างโรงพยาบาลยันฮี ส่วนฝั่งเกียกกายเขตดุสิตจากถนนทหารไปยังจตุจักรถนนกำแพงเพชรกระทบไม่มากเพราะส่วนใหญ่เป็นแนวถนนเดิม ส่วนโครงข่ายแนวราบ ซึ่งเป็นถนนเดิมจะมีการปรับปรุงเขตทางให้กว้างขึ้นพร้อมทั้งบางสายทางจะเวนคืน และก่อสร้างใหม่เพิ่มเติมให้สอดรับกับปริมาณจราจรในอนาคต ประกอบด้วยโครงการขยายถนนสามเสน-ถนน ประชาราษฎร์สาย 1 โดยขยายจาก 4 ช่องจราจรเป็น 8 ช่องจราจร ซึ่งจะเวนคืนด้านละ 1 ช่องจราจร ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่ชิดริมถนน ตัวอย่างบ้านที่ถูกเวนคืนจะพิจารณาจากบ้านหลังละ 4 เมตร หากถนนยาว 40 เมตร เท่ากับเวนคืนบ้านที่ติดริมถนน 10 หลัง
จีนหนุนอสังหาฯไทย
สกัดโอเวอร์ซัพพลาย
แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัว 3-5% เกิดจากกำลังซื้อลดลง รายได้ไม่เพิ่มขึ้น ปัญหาหนี้สินครัวเรือนพอกพูน ขณะราคาที่อยู่อาศัยแพงจากตลาดโลคัลไปสู่อินเตอร์มากขึ้น ทำให้ลูกค้าระดับล่าง-ระดับกลางล่างเอื้อมไม่ถึง แต่ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลับพบว่า ลูกค้าจากจีนเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมมากขึ้น ทดแทนตลาดคนไทยที่หายไป ยังไม่นับตลาดซีเนียร์ และตลาดรีไทร์ของชาวต่างชาติที่เข้ามารุกตลาดในประเทศไทยเพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่ 2
ทั้งนี้ นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ได้จัดสัมมนาฉายภาพรวมของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย ตลาดหุ้น อสังหาริมทรัพย์ว่าสถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร จะลงทุนอย่างไรต่อไป
สำหรับ ตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนขึ้นในปัจจุบัน คือ ตลาดจากฮ่องกง ที่หลายคนเริ่มมองหาที่อยู่อาศัย บ้านหลังที่ 2 ไว้มากขึ้นซึ่งตลาดฮ่องกงถือว่ามีกำลังซื้อสูงไม่น้อยไปกว่าอีกหลายประเทศ ตลาดบ้านเดี่ยวจะได้รับความสนใจจากฮ่องกงอย่างมาก แน่นอนว่าตลาดโลคัลจะเปลี่ยนไปขายตลาดนานาชาติมากขึ้น รูปแบบที่อยู่อาศัยหรือโปรดักต์จะเปลี่ยนไปด้วย อีกทั้งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯขายทั่วประเทศปีละราว 6 แสนล้านบาท (กทม.-ปริมณฑล 3 แสนล้านบาท และต่างจังหวัด 3 แสนล้านบาท) ล่าสุดพบว่ามีร่วมทุนกับต่างประเทศไปแล้วราว 3 แสนล้านบาท
“ตลาดซื้อของชาวต่างชาติในประเทศไทย มีฮ่องกงติดโผด้วยเสมอ ราคาของไทยราว 3-5 แสนบาทจะอยู่ในระดับครึ่งราคาในฮ่องกง จึงพบว่าจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เข้ามารุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยมากขึ้น เข้าใจกับคำว่าบ้านหลังที่ 2 และยังเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในอาเซียนที่พบว่าที่อยู่และสำนักงานของบริษัทต่างประเทศเหล่านี้จะอยู่ในไทยมากกว่า ไทยจึงเป็นศูนย์กลางการลงทุนของอาเซียน อีกทั้งในอนาคตจีนและกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คงจะต้องค้าขายร่วมกัน จะต้องพึ่งพาการค้าร่วมกันมากขึ้น นั่นคือล้วนชูไทยเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคนี้ได้อีกด้วยนั่นเอง”
ดังนั้นสถานการณ์ในวันนี้จึงจะพึ่งตลาดโลคัลอย่างเดียวคงไม่ได้แล้ว ช่วง 2-3 ปี มีจีนเข้ามาหนุนตลาดจึงไม่โอเวอร์ซัพพลายตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ธนาคารธนชาตเสนอขายหุ้นกู้ราชธานีลิสซิ่ดอกสูงสุด 3.50%
โรคเพมฟิกอยด์ ไม่ใช่โรคติดต่อ รักษาให้หายได้
สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ชี้โรคเพมฟิกอยด์ (Bullous pemphigoid) หรือโรคตุ่มน้ำพองใสไม่ใช่โรคติดต่อสามารถสัมผัสและอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยได้ตามปกติ แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาอย่างต่อเนื่อง
แซมเทลฯคว้างานกองทัพ มูลค่า 767 ล้าน
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษทั สามารถเทลคอม จำกัด(มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันนี้ ว่า บริษทั สามารถคอมเทค จำกัดซึ่งเป็น บริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 99.99 ได้งานรับจ้างงานโครงการต่างๆ รวมทั้งสิ้น 2 โครงการ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ได้รับหนังสือแจ้งตกลงซื้องานติดตั้งระบบเครือข่ายโทรคมนาคมทหาร และอุปกรณ์ประกอบระบบ ตามโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมทหาร ประจำปี งบประมาณ 2562-2564 จากกองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อวันที่ 17มิถุนายน2562 เพื่อดำเนินการติดั้งระบบเครือข่ายโทรคมนาคมทหารและอุปกรณ์ประกอบระบบโดยมี มูลค่างานรวมทั้งสิ้น 598.8 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิม) ระยะเวลาดำเนินการ 910 วันนับจากวันลงนาม ในสัญญาและให้บริษัทย่อยนำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการจัดทำสัญญา และลงนามใน สัญญาต่อไป
2. ได้รับหนังสือแจ้งงานจ้างจัดหาพร้อมติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV) บริเวณสวนสาธารณะในพื้นนกรุงเทพมหานคร กับ กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน2562 เพื่อดำเนินการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด พร้อมอุปกรณ์เกี่วข้องโดยมีมูลค่างานรวมทั้งสิ้น 168.64 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิม) ระยะเวลาดำเนินการ 270 วันนับจากวันลงนามในสัญญาและให้บริษัทย่อยนำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการจัดทำสัญญา และลงนามในสัญญาต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 20,400.00 | 20,500.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,321.00 | 20,026.36 | 21,000.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,188.90 | 18,023.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,056.80 | 16,021.09 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 594.00 | 9,005.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 462.00 | 7,003.92 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,369.00 | 20,754.04 | n/a |
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 27.45 | 27.45 | 27.45 | 27.45 | 27.45 | 27.45 | 27.45 | 27.45 | 27.45 | 27.45 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 27.18 | 27.18 | 27.18 | 27.18 | 27.18 | 27.18 | 27.18 | 27.18 | 27.18 | 27.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.44 | 24.44 | 24.84 | 24.44 | 24.84 | – | 24.44 | 24.44 | 24.44 | 24.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.89 | 19.89 | – | – | – | – | – | 19.89 | – | – |
เบนซิน 95 | 34.86 | – | – | – | 35.31 | – | 35.36 | 35.16 | – | 35.16 |
ดีเซล | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 | 26.19 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 25.19 | 25.19 | – | – | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.88 | 15.88 | – | – | – | – | – | – | – | – |