สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 03 กรกฎาคม 2562

เผย 3 จังหวัดที่พักอาศัยขายดี

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจความต้องการซื้อและขายของโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมาคือ ภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต ภาคตะวันตก ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี โดยโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในภูเก็ต มี 210 โครงการ จำนวน 30,416 ยูนิต มูลค่า 176,366 ล้านบาท เหลือขาย 7,698 ยูนิต มูลค่า 41,925 ล้านบาท โดยทำเลบ้านจัดสรรที่ขายดี อาทิ หาดบางเทา-หาดสุรินทร์ ทำเลอาคารชุดที่ขายดี อาทิ บริเวณตลาดใหญ่-ตลาดเหนือ
ขณะที่ในประจวบคีรีขันธ์ มี 108 โครงการ จำนวน 8,555 ยูนิต มูลค่า 43,458 ล้านบาท เหลือขาย 2,266 ยูนิต มูลค่า 12,096 ล้านบาท ทำเลบ้านจัดสรรที่ขายดีคือ ทำเลเขาตะเกียบ ทำเลอาคารชุดที่ขายดีคือ ทำเลหัวหิน ขณะที่ในเพชรบุรี มี 63 โครงการ จำนวน 14,418 ยูนิต มูลค่า 59,985 ล้านบาท เหลือขาย 3,101 ยูนิต มูลค่ารวม 11,604 ล้านบาท ทำเลบ้านจัดสรรที่ขายดีคือ หาดเจ้าสำราญ ทำเลอาคารชุดที่ขายดีคือ ชะอำตอนใต้.
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th

รฟท.เร่งส่งมอบพื้นที่ 3 สนามบิน ปิดทางฟ้องค่าโง่

รฟท.เร่งส่งมอบพื้นที่แนวรถไฟเชื่อม3 สนามบินประมาณ850 ไร่เผยพื้นที่ส่วนใหญ่พร้อมส่งมอบกว่า80% ส่วนที่เหลือเร่งเคลียร์ผู้บุกรุกทั้งช่วงดอนเมืองและฉะเชิงเทรา-อู่ตะเภาวงในเผยไม่มีสิทธิ์โดนฟ้องค่าโง่หากส่งมอบพื้นที่ล่าช้าเหตุรฟท.กำหนดเงื่อนไขไว้ชัดเจนแล้ว

แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ร่วมกับกลุ่มซีพีและพันธมิตรเพื่อสำรวจพื้นที่แนวเวนคืนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) โดยมีพื้นที่ตามแนวเวนคืนประมาณ850 ไร่คิดเป็นมูลค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินประมาณ3,570 ล้านบาท

สำหรับพื้นที่ที่จะเวนคืนจะอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆและมีพื้นที่บุกรุกอาทิพื้นที่กรมธนารักษ์พื้นที่กรมทางหลวงพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์กรมชลประทานอาทิพื้นที่ของกรมธนารักษ์ช่วงถนนกำแพงเพชร5 จำนวน2 งาน90.5 ตร.ว. พื้นที่ช่วงถนนพระราม6 จำนวน1 ไร่2 งาน24.7 ตร.ว. พื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จำนวน2 ไร่10.6 ตร.ว.ซึ่งเป็นช่วงของการปรับลดความโค้งก่อนเข้าสู่พญาไทและสามเสน 

เช่นเดียวกับพื้นที่ของกรมทางหลวงช่วงใกล้สถานีลาดกระบังจำนวน. 7 ไร่1 งาน36 ตร.ว. พื้นที่ใกล้เข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิจำนวน  8ไร่1 งาน48.2 ตร.ว.  พื้นที่ของกรมชลประทานเลียบอ่างเก็บน้ำห้วยตู้อ.สัตหีบจ.ชลบุรีจำนวน  3 ไร่3งาน85.88 ตร.ว.และพื้นที่ใกล้สนามบินอู่ตะเภาจำนวน  56 ไร่1 งาน83.32 ตร.ว. 

“ได้ลงพื้นที่ไปแล้ว1 รอบเมื่อวันที่1 กค.2562 ที่ผ่านมาในล่วงดอนเมืองและวันที่3 กค. นี้จะลงพื้นที่สถานีศรีราชาจ.ชลบุรีหลังจากนี้จะเร่งส่งมอบพื้นที่ส่วนใหญ่ให้กับกลุ่มซีพีและพันธมิตรเพื่อให้พร้อมลงนามสัญญาอย่างเป็นทางการก่อนที่จะทยอยส่งมอบพื้นที่ในส่วนที่เหลือต่อไป”

ประการสำคัญการเร่งสำรวจพื้นที่เวนคืนในครั้งนี้เนื่องจากทางกลุ่มซีพีและพันธมิตรต้องการให้มั่นใจในการรับมอบพื้นที่ให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบต่อการก่อสร้างโครงการเนื่องจากในสัญญาระบุเอาไว้ชัดเจนว่ากลุ่มซีพีและพันธมิตรไม่สามารถฟ้องร้องจนเกิดเป็นค่าโง่ของรฟท.ได้เช่นโครงการต่างๆที่ผ่านมาได้หากเกิดความล่าช้าจากการส่งมอบพื้นที่ของรฟท. ดังนั้นกลุ่มซีพีจึงต้องเร่งสำรวจพื้นที่ให้ได้มากและรวดเร็วชัดเจนเพื่อที่จะไม่ให้ส่งผลกระทบในภายหลังนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


รายย่อยเทกระจาดหุ้น SP ส่องงบการเงินชัดๆก่อนตัดสินใจช่วงที่เหลือ

รายย่อยเทกระจาดหุ้น SP กดดันราคาหุ้นร่วงวันแรกกว่า 90% มีเพียง 2 หลักทรัพย์ BLISS และ PRO  เหนือราคาก่อนขึ้นเครื่องหมาย ส่องฐานะงบการเงิน 16 หลักทรัพย์ชัดๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ-ขายถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ตลท.ได้ปลดเครื่องหยุดการซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว (SP) สำหรับ 16 หลักทรัพย์ เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยตั้งแต่เปิดการซื้อขาย ราคาลดลงทันที 14 หลักทรัพย์ และเพิ่มขึ้น 2 หลักทรัพย์ ซึ่งระหว่างวัน ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อในราคาที่ถูกเพื่อเก็งกำไรในระยะยาว หลังจากคาดว่าบางบริษัทจะสามารถกลับมาดำเนินงาน ส่งงบการเงิน รวมถึงแก้ไขเหตุของการเพิกถอนได้ และจะกลับมาซื้อขายได้เป็นปกติ

สำหรับหลักทรัพย์ที่ราคาเปิดซื้อขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับราคาปิดซื้อขายก่อนถูกขึ้นเครื่อง หมาย SP คือ บมจ.บลิส-เทล (BLISS) ราคาเปิดที่ 0.11 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 175% จากราคาปิดก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP อยู่ที่ 0.04 บาท และบมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (NBC) ราคาเปิดที่ 0.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท หรือ 48.14% จากราคาปิดก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP อยู่ที่ 0.54 บาท 

ส่วนหลักทรัพย์ที่ราคาเปิดลดลงมากที่สุด คือ บมจ.ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง (STHAI) ราคาเปิดที่ 0.01 บาท ลดลง 0.90 บาท หรือ 98.90% จากราคาปิดก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP อยู่ที่ 0.91 บาท รองมาได้แก่บมจ.ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) (CHUO) ราคาเปิดที่ 0.21 บาท ลดลง 4.21 บาท หรือลดลง 95.24% จากราคาปิดก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP อยู่ที่ 4.42 บาท, บมจ. อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น  (IFEC) ราคาเปิดที่ 0.21 บาท ลดลง 2.89 บาทหรือลดลง 93.22%  จากราคาปิดก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP ที่ 3.10 บาท และบมจ.เคเทค คอนสตรัคชั่น (KTECH) ราคาเปิดที่ 0.12 บาท ลดลง 1.04 บาท หรือลดลงถึง 89.65% จากราคาปิดก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP ที่ 1.16 บาท 

จากการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัสฯ  16 หลักทรัพย์ที่ติด SP พบว่ามี 6 หลักทรัพย์ ที่ส่งงบการเงินต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปี 2562 แล้วคือ บมจ.บลิส-เทล (BLISS), บมจ.บางกอกสหประกันภัย (BUI), บมจ.โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) (PRO), บมจ.แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป (A5) และบมจ.วีรีเทล (WR) และ บมจ. จี สตีล (GSTEL)

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีกำไรสะสมเป็นบวกมี 2 หลักทรัพย์ คือ บมจ.บางกอกสหประกันภัย (BUI) และบมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) และมี 3 หลักทรัพย์ที่มีกำไรสุทธิงวดล่าสุด ( Q1/2562 )เป็นบวก ได้แก่บมจ.บางกอกสหประกันภัย (BUI), บมจ. โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) (PRO) และ บมจ.บลิส-เทล (BLISS)  

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัสฯ ระบุว่า เนื่องจากหุ้นดังกล่าวยังไม่มีความสมบูรณ์ในรายละเอียดของฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน รวมไปถึงปัจจัยความเสี่ยง หากต้องการลงทุนควรทำการศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน

“หุ้นที่ถูกติดเครื่องหมาย SP ส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูหรือเข้าข่ายเพิกถอนอยู่แล้ว  นักลงทุนที่จะมาซื้อรอบนี้ ต้องเป็นผู้ที่สามารถถือยาวได้นานมาก เนื่องจากต้องรอจนกว่าบริษัทจะพลิกฟื้นกิจการมาใหม่  ผู้ที่จะเข้าไปลงทุนจึงควรพิจารณาให้รอบคอบ”  นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


4 สมุนไพรแก้ไข้ ตัวร้อน รักษาแบบธรรมชาติ และได้ผลชะงัด!!

ตัวร้อน สมุนไพร สมุนไพรแก้ไข้ แก้ไข้ ไข้ ไข้หวัด

เข้าสู่หน้าฝนทีไรหลายคนก็จะเริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน มีไข้ และนี่คือสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นจึงสามารถดับร้อน ช่วยลดความร้อนภายในร่างกายได้ มาดูกันเลยว่ามีสมุนไพรแก้ไข้ชนิดไหนกันบ้าง

บอระเพ็ด

บอระเพ็ด

บอระเพ็ด มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ แก้ร้อนใน ขับเหงื่อ เพียงนำบอระเพ็ดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเทใส่ขวดเพื่อนำมาหมัก จากนั้นใส่น้ำผึ้งลงไปให้ท่วม ไม่ควรปิดฝาแน่นมาก หมักทิ้งไว้ 7 วัน ถึงจะรับประทานได้ ควรรับประทานครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 1 แก้ว ดื่มวันละ 2-3 ครั้ง จะช่วยลดไข้ บรรเทาอาการปวดหัว ตัวร้อน ลดอาการไอ และขับเสมหะได้

สมุนไพรแก้ไข้

ขิง

มีฤทธิ์แก้ไอและรักษาอาการหวัด น้ำขิงร้อนๆยังช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย โดยรับประทานยาแก้ไอสมุนไพรที่มีส่วนผสมของขิงภายใน 7 วัน อาการไอจะลดลงได้ และขิงสดยังมีประสิทธิภาพต่อต้านการสะสมของเชื้อไวรัสได้ดีกว่าขิงแห้งอีกด้วย โดยให้นำขิงสดกับน้ำมะนาวผสมกันแล้วใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ทานครั้งละ 1 ช้อนชา วันละ 2 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการหวัดและไอให้ดีขึ้น

ฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจร

มีฤทธิ์เย็น จึงช่วยทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง โดยได้รับการรับรองจากองค์ การอนามัยโลกว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการหวัด บรรเทาอาการไอ เจ็บคอ ฟ้าทะลายโจรสามารถลดอาการเจ็บคอได้ดี เพราะมีฤทธิ์ลดการอักเสบ นำใบฟ้าทะลายโจรมาล้างให้สะอาดประมาณ 2-3 กำมือ ต้มกับน้ำประมาณ 10 – 15 นาที ดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง

ใบบัวบก

เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นจึงสามารถดับร้อน ช่วยลดความร้อนภายในร่างกายได้ มีสรรพคุณช่วยแก้ร้อนใน แก้ไข้ ตัวร้อน อ่อนเพลีย ได้มีการค้นพบว่ามีสารสำคัญในใบบัวบก ที่มีฤทธิ์ในการลดความดันโลหิตสูงได้ โดยช่วยให้การไหลเวียนของหลอดเลือดดำและเส้นเลือดฝอยมีการไหลเวียนดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด

ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com


เอชพีเสิร์ฟบริการเช่าใช้ไอที หนุนSMEsทรานส์ฟอร์มธุรกิจ

เอชพี เผยเทรนด์การทำงานในอนาคต ปี 63 องค์กรมีคนทำงานร่วมกันถึง 5 เจเนอเรชัน มีความต้องการเทคโนโลยีต่างกัน ล่าสุดเปิดตัวโซลูชันการพิมพ์ เจาะตลาดผู้ประกอบการ SMEs ไทยกว่า 3 ล้านราย ผลักดันธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน

นายปวิณ วรพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย)ฯ เปิด เผยว่าผลการวิจัยของไอดีซี ในปี 2561 พบว่าธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกตระหนักถึงการเตรียมพร้อมรองรับการทำงานในอนาคต แต่กว่า 86% ยังไม่ได้เริ่มทำหรืออยู่ในช่วงเริ่มต้นที่จะเตรียมเท่านั้น ทั้งนี้ในปี 2563 จะเป็นครั้งแรกที่ในองค์กรจะมีคนทำงานอยู่ร่วมกันถึง 5 เจเนอเรชัน โดยแต่ละเจเนอเรชันก็จะมีความต้องการด้านเทคโนโลยีที่แตกต่างกันในการใช้งานอุปกรณ์และโซลูชัน

ซึ่งองค์กรจะสามารถบูรณา การระหว่างชีวิตและการทำงานยุคใหม่เข้าด้วยกันได้ ต้องพิจารณาปัจจัยหลัก 3 ส่วน คือ 1. Personal เครื่องมือและอุปกรณ์จะต้องออกแบบมาเพื่อรองรับเฉพาะบุคคล และตอบสนองการทำงานร่วมกันระหว่างคนในแต่ละเจเนอเรชัน 2. Adaptive สภาพการทำงานที่มีความยืดหยุ่น คล่องตัว ทำงานได้ในทุกที่ ทุกเวลา แต่มีประสิทธิภาพและการเข้าถึงข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงสุด 3. Predictive-ส่งเสริมรูปแบบการทำงานที่เน้นประสิทธิภาพ เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ คาดการณ์ความต้องการได้

อย่างไรก็ตาม เอชพีได้วางโรดแมป เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทั้ง 3 ด้าน คือ คนทำงาน สถานที่ทำงาน และวิธีการทำงาน ให้สอดคล้องกัน ได้แก่ Workforce เข้าใจความต้องการของคนทำงานที่โตมากับเทคโนโลยี เป็นยุคที่คนหลายรุ่นต้องทำงานร่วมกัน, Workplace สถานที่ทำงานทันสมัย รองรับสภาพการทำงานทั้งที่เป็นฟิสิคัลและเวอชวล มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว และ Workstyle เพิ่มความสามารถในการทำงาน ระหว่างอุปกรณ์ไอทีกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่คาดการณ์ความต้องการของแต่ละบุคคลได้

กลยุทธ์ของเอชพี มุ่งเน้นการนำเสนอโซลูชันในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs เพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ล่าสุดได้เปิดตัวแพ็กเกจ บริการด้านการพิมพ์และคอมพิว เตอร์พีซีสำหรับธุรกิจ SMEs เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยลดความกังวลในด้านการลงทุนด้านสินทรัพย์ทางเทคโนโลยีมาเป็นค่าใช้จ่ายแบบรายเดือนเพื่อให้ SMEs สามารถเข้าถึงโซลูชันที่ปลอดภัย ด้วยแพ็กเกจครบวงจรพีซีและเครื่องพิมพ์ บริการโซลูชัน HP Print Subscription สมัครสมาชิกรายเดือน บริการนาน 3 ปี โดยแพ็กเกจเริ่มต้น HP DaaS Plan for SME เช่าใช้งานเครื่องคอมพิว เตอร์พีซีหรือโน้ตบุ๊ก 5 ชุดค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3,000 บาทต่อเดือน พร้อม บริการเช่าใช้เครื่องพิมพ์เริ่มต้น 2,000 บาทต่อเครื่องต่อเดือน (พิมพ์ ได้ 5,000 แผ่น) พร้อมบริการติดตั้ง เคลื่อนย้ายข้อมูล ติดตามการใช้งาน แพ็กเกจสำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีก รีเทล โซลูชัน เพื่องานหน้าร้าน ณ จุดขายด้วยเครื่อง HP rPOS รวมพีซี จอภาพ โน้ตบุ๊ก หรือ rPOS unit ซึ่งจะส่งคืนกลับเอชพีเมื่อครบอายุใช้งาน 3 ปี

“ปกติบริการเช่าใช้จะต้องทำผ่านรีเซลเลอร์แต่นี่เอชพีได้ให้บริการภายใต้แบรนด์ของเอชพีเอง มันอาจจะบอกไม่ได้ว่าลดต้นทุนได้มากกว่าการซื้อขาดกี่เปอร์เซ็นต์ แต่เราจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ ในเรื่องของการประหยัดเวลา และเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าได้”

นายปวิณ กล่าวต่อไปว่าปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี (SMEs) กว่า 3.3 ล้านรายสามารถสร้างงานให้คนกว่า 12 ล้านคน หรือกว่า 78% ซึ่งสัดส่วนของ GDP ที่มาจาก SMEs ไทยคิดเป็น 42% อีกทั้ง 50% ของ SMEs นั้นไม่จำเป็นต้องไปทำงานที่ออฟฟิศ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,450.00 20,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,325.00 20,087.00 21,050.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,192.50 18,078.30 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,060.00 16,069.60 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 596.00 9,035.36 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 464.00 7,034.24 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,373.00 20,814.68 n/a
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 03/07/2562 
ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85
แก๊สโซฮอล์ 91 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58
แก๊สโซฮอล์ E20 24.84 24.84 25.24 24.84 25.24 24.84 24.84 24.84 24.84
แก๊สโซฮอล์ E85 20.09 20.09 20.09
เบนซิน 95 35.26 35.71 35.76 35.56 35.56
ดีเซล 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59
ดีเซลพรีเมี่ยม 25.59 25.59
แก๊ส NGV 15.88 15.88
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า