สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 05 กรกฎาคม 2562

รุมต้านผังเมืองภูเก็ต บีบคอนโด สร้างที่จอดรถ 100%

บิ๊กอสังหาฯ-5สมาคม อาทิ ท่องเที่ยว-โรงแรม หอการค้า อุตสาหกรรม รุมสับผังเมืองใหม่ภูเก็ต บีบสร้างที่จอดรถจำกัดความสูง พื้นที่รอบป่าตอง ถูกปรับลดจากพื้นที่สีเหลือง เป็นเกษตรกรรมสกัดการพัฒนา ขณะราคาที่ดินแพงโด่ง ไร่ละ 200-300 ล้าน

การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนเกาะภูเก็ตขยายตัวอย่างรวดเร็วตามการเติบโตของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ แม้จะสร้างรายได้เข้าพื้นที่ แต่อีกด้านกลับสร้างผลกระทบ จากการรุกรานทรัพยากรทางธรรมชาติ ปัญหาการจราจรคับคั่ง ไร้ระเบียบ อีกทั้งปัญหาขยะ นํ้าเสีย สร้างผลกระทบตามมา จึงตั้งกฎระเบียบข้อบังคับมากมาย ทั้งประกาศจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กฎหมายควบคุมอาคาร ผังเมือง

ล่าสุด กรมโยธาธิการและผังเมือง ปรับปรุงผังเมือง รวมจังหวัดภูเก็ต ออกมา มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งแหล่งข่าวจาก หอการค้าจังหวัดภูเก็ตระบุว่า ผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต ฉบับใหม่ มีข้อดีคือการยกระดับ ภูเก็ตให้เป็นสมาร์ทซิตี มีความเป็นระเบียบ สร้างตึกสูงได้ในทำเลเศรษฐกิจใจกลางเมือง 
เทียบชั้นประเทศสิงคโปร์ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวนักลงทุนเข้าพื้นที่ โดยเฉพาะการนำสัดส่วนพื้นที่ก่อสร้างอาคารต่อพื้นที่ดิน (Floor Area Ratio: FAR) และพื้นที่ว่าง เหมือนผังเมืองรวมกรุงเทพ มหานครมาใช้ ไม่ให้เกิดความหนาแน่น ป้องกันการขยายตัวของเมืองไปในทิศทางที่บิดเบี้ยว ไร้การควบคุม เบื้องต้นการสร้างที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ต้องจัดทำพื้นที่จอดรถ 100% จากที่ผ่านมา กำหนดให้ จัดพื้นที่จอดรถเพียง 30% จึงมีพื้นที่อีกมากที่จะซอยเป็นห้องขายเชิงพาณิชย์ ประเด็นนี้จึงมีบริษัทอสังหาฯรายใหญ่จากส่วนกลางรวมตัวกันคัดค้าน โดยอ้างว่าราคาที่ดินแพง จากราคาคอนโดมิเนียมที่ขายปัจจุบัน 1.3 ล้านบาทต่อหน่วยอนาคตราคาอาจขยับเป็น 2 ล้านบาทต่อหน่วย เนื่องจากต้องนำพื้นที่ขายไป
สร้างที่จอดรถ

“ยกตัวอย่าง คอนโดมิเนียม 400 ห้อง ต่อไปต้องจัดที่จอดรถ 400 คัน ทำให้พื้นที่ขายหายไปกลายเป็นที่จอดรถ ต่างจากผัง เมือง เดิม ที่กำหนดให้มีที่จอดรถเพียง 30% 400 ห้องมีที่จอดรถ เพียง 120 คัน จึงเกิดปัญหาการแย่งชิงพื้นที่ ทำให้ทุกวันนี้ไหล่ทางตามท้องถอนกลายเป็นที่จอดรถ”

ขณะเดียวกัน ประกาศสิ่งแวดล้อมใหม่ กำหนดให้ทั้งเกาะสร้างสูงได้เพียง 23 เมตร หรือไม่เกิน7-8 ชั้น แต่ต่อไป ภูเก็ต สามารถสร้างสูงได้ โดยเฉพาะย่านหนาแน่น ตามขนาดพื้นที่ และสัดส่วนFAR  (สัดส่วนพื้นที่อาคารต่อพื้นที่ดิน) ทำให้ สามารถสร้างตึกได้สูง เฉลี่ย 45 เมตร กว่า 10 ชั้นมองเห็นวิวทะเล โดยเฉพาะโซนชุมชนหนาแน่น อย่างป่าตอง และตลอดแนวถนนเทพกระษัตรี ฯลฯขณะบางทำเลที่ ผู้ประกอบการไม่เห็นด้วย และต้องการขอปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่ นั้นคือพื้นที่ที่เคยเป็นพื้นที่สีเหลือง (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) ซึ่งสามารถพัฒนา อาคารพาณิชย์ได้แต่กลับถูกปรับลดการใช้ที่ดินลงเป็นพื้นที่สีเขียวเกษตรกรรม (ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม)ทำให้คนที่ซื้อที่ดินมาในราคาแพงกลับไม่สามารถพัฒนาได้ แต่หากจะเร่งขออนุญาตก่อสร้างตามกฎหมายในปัจจุบัน เกรงว่าจะเกิดปัญหาล้นตลาด เพราะความรีบร้อน อาทิ พื้นที่รอบป่าตอง ทั้งที่ราคาที่ดินตกไร่ละ 200-300 ล้านบาท

ขณะ 5 สมาคม เอกชน ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, สมาคมโรงแรม, สมาคมอุตสาหกรรม, สมาคมท่องเที่ยว และหอ การค้าจังหวัด รวมตัวคัดค้าน ผังเมืองภูเก็ต ที่กำหนดโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยระบุว่า จะสร้างผลกระทบต่อการลงทุน เนื่องจาก ที่ดินซึ่งเป็นต้นทุนหลัก มีราคาแพง โดยเฉพาะป่าตอง และเขตใจกลางเมืองภูเก็ต

นายบุญ ยงสกุล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต ยํ้าว่า ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก จาก ผังเมืองฉบับใหม่บังคับใช้เนื่องจากหลายพื้นที่ถูกปรับลดจากพื้นที่สีเหลืองเป็นพื้นที่สีเขียว เกษตรกรรมรอบเมือง ป่าตอง ทั้งที่เป็นย่านอยู่อาศัยมีนักท่องเที่ยวให้ความนิยม

แหล่งข่าวจาก เทศบาลเมืองภูเก็ตยอมรับว่า เอกชนไม่พอใจผังเมืองฉบับปรับปรุงใหม่ เนื่องจากย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองภูเก็ต บริเวณวงเวียนม้านํ้า ถูกจำกัดความสูงลงครึ่งหนึ่งจากเดิมประกาศสวล.กำหนดให้สร้างได้ 60 เมตร แต่ผังเมืองใหม่ ซึ่งมีอำนาจมากกว่า ให้สร้างได้ไม่เกิน30 เมตร และกำหนดสัดส่วนพื้นที่ว่างมากขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


หุ้นกู้ช.การช่างสำเร็จเกินคาด สะท้อนเชื่อมั่น ยอดลงทุนสูงกว่าเป้า 5 เท่า

หุ้นกู้ ช.การช่าง สําเร็จเกินคาดยอดความต้องการลงทุนในหุ้นกู้สูงกว่า 5 เท่าสะท้อนศักยภาพความเชื่อมั่น หลังนำเงินไปใช้ชําระคืนหนี้เดิม-รองรับการลงทุนสาธาร ณูปโภคขั้นพื้นฐาน

น.ส.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จํากัด (มหาชน) หรือ “CK” เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท ช.การช่าง จํากัด (มหาชน) มีแผนระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ ภายในเดือนมิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา เดิมบริษัทมีความต้องการออกหุ้นกู้ประมาณ4,500ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากผลการสํารวจความต้องการลงทุนในหุ้นกู้ (Bookbuild) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2562 มีผู้ลงทุนแสดงความจํานงลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทมากกว่ามูลค่าที่บริษัทมีแผนเสนอขายเดิมรวมกว่า 5 เท่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนต่อศักยภาพ ธุรกิจและผลการดําเนินงานของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจ เพิ่มจำนวน การออกหุ้นกู้รวมทั้งสิ้นเป็น 10,000 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชําระคืนหนี้เดิม และรองรับการลงทุนโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

ทั้งนี้หุ้นที่เสนอขาย มีจำนวน 3 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.46% จำนวน 3,000 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.90% จำนวน 3,500 ล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 10 ปี ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดตั้งแต่วันครบกำหนด 5ปีนับจากวันออกหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ย 3.66% จำนวน 3,500 ล้านบาท รวมมูลค่าเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด รวมทั้งสิ้น 10,000 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ จากบริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “A” แนวโน้มอันดับเครดิต Stable เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 และบริษัทได้แต่งตั้งให้ธนาคารกรุงเทพและธนาคารกรุงไทยเป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ดังกล่าว

นางสาวสุภามาสกล่าวว่า ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ ถือว่าบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงโดยนับว่า เป็นการออกหุ้นกู้มูลค่าสูงที่สุดที่บริษัทเคยจัดออกมา และเป็นการออกหุ้นกู้ครั้งแรกที่จัดออกภายหลังจากที่บริษัทได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ระดับ A จากเดิมที่ระดับ A- เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา

การที่หุ้นกู้ของบริษัทได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างมากในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน ในผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยผลประกอบการสิ้นปี 2561 มีรายได้รวม 29,499 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,487 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 83,501 ล้านบาท และหนี้สินรวม 57,672 ล้านบาท รวมถึงการมองเห็นถึงศักยภาพของบริษัท ในการลงทุนในธุรกิจสัมปทานโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ที่มีความมั่นคงและมีอนาคตที่ดี อาทิ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยทั้ง 3 บริษัท ดังกล่าวดำเนินการที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อาทิ ระบบขนส่งมวลชนและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งอยู่ภายใต้สัญญา สัมปทานหรือสัญญาซื้อขายระยะยาว นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำในประเทศไทยตลอดจนความสามารถในการรับงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่, โครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมทั้งความแข็งแกร่งในการดำเนินโครงการ และความยืดหยุ่นทางการเงินที่เกิดจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัท 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


นักช้อปของหรูหนาว ศุลกากรเอ็กซเรย์กระเป๋าทุกใบสิ้นปีนี้

นักช้อปของหรูหนาว ศุลกากรเอ็กซเรย์กระเป๋าทุกใบสิ้นปีนี้

กรมศุลกากรดีเดย์เครื่องเอ็กซเรย์คร่อมสายสะพานลำเลียงกระเป๋าสนามบินสุวรรณภูมิ ตรวจของผิดกฎหมายและของหรูเลี่ยงภาษี
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผย กรมศุลกากรได้ดำเนินการจัดหาและติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์ค่อมสายสะพานลำเลียงกระเป๋าที่สนามบินสุวรรณภูมิทั้ง 23 สายพานแล้ว เพื่อดำเนินตรวจสแกนสิ่งของผิดกฎหมายในกระเป๋าเดินทางที่โหลดมาในใต้ท้องเครื่องบินทุกใบ เพื่อเป็นการป้องกันหลบเลี่ยงภาษีนำเข้าสินค้าแบรนด์เนม กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา รวมถึงการนำของต้องห้าม ยาเสพติด ของที่ผิดอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) เช่น งาช้าง นอแรด เข้ามาในประเทศทั้งนี้ คาดว่าจะติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์ค่อมสายพานแล้วและจะเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งช่วยให้การสแกนสิ่งของมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถมองเห็นสิ่งของในกระเป๋าได้ทั้งหมด หากเป็นของต้องห้ามก็จะมีการจับกุม หรือหากเป็นสินค้าแบรนด์เนม ที่ต้องเสียภาษี ผู้นำเข้ามาต้องชำระภาษีให้ถูกต้อง โดยภาษีของแบรนด์เนมที่กรมศุลกากรเก็บก็ไม่ได้เก็บแพงเกินไป เป็นอัตราที่เหมาะสม“อัตราภาษีศุลกากร หากเป็นการนำเข้านาฬิกาเข้ามา เสียอากรนำเข้า 5% และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% แต่หากเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเสีย 30% และภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งปกติหากไปซื้อเมืองนอกก็ได้รับการคืนภาษี 20% อยู่แล้ว ก็เข้ามาเสียในประเทศเพิ่มอีก10% ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้มาก”นายกฤษฎา กล่าวว่า กรมจะเพิ่มการตรวจเข้มระบบเอ็กซเรย์ให้มากที่สุด โดยนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เข้ามาใช้ตรวจสอบภาษีแทนการใช้ดุลยพินิจเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับต่างประเทศเพื่อใช้ในการตรวจสอบให้แม่นยำกว่าเดิม เช่น การนำรูปภาพสิ่งของต้องห้ามส่งเข้าระบบเอไอ หากพบภาพใกล้เคียงก็จะเปิดตรวจสอบ
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th

ดิจิทัลไล่ล่าร้านซักรีด แอพฯออนดีมานด์สเปน ‘Mr Jeff’บุกไทย

ข้อมูลจากบริษัทซักอบรีด “วอชบ็อกซ์ 24” รายงานว่ามูลค่าธุรกิจซักอบรีดเมืองไทยเฉลี่ยสูงถึงปีละ 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล 32,000 ล้านบาท และต่างจังหวัด 8,000 ล้านบาท ร้านซักอบรีดในไทยมีจำนวนประมาณ 20,000 ร้าน 80% ร้านขนาดเล็ก มีรายได้ประมาณ 20,000-50,000 บาทต่อเดือน ค่า บริการ 10-12 บาทต่อชิ้น อีก 20% เป็นร้านขนาดกลางและใหญ่ มีรายได้ประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ค่าบริการ 20-50 บาทต่อชิ้น ขณะที่ข้อมูลของกสิกรไทย แสดงให้เห็นถึงโอกาสในธุรกิจซักอบรีด โดยพฤติกรรมการซักผ้าคนกรุงเทพฯ 65.8% ใช้บริการร้านซักอบรีด ส่วนอีก 34.2% ซักเอง

อย่างไรก็ตาม “ร้านซักแห้ง” หรือ “ร้านซักรีด”ในไทยกำลังเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ถูกเทคโนโลยีดิสรัปชัน ล่าสุด “Mr Jeff” ธุรกิจสตาร์ต อัพแอพพลิเคชันให้บริการซักอบรีดแบบออนดีมานด์ สัญชาติสเปน ที่เพิ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนระดับซีรีส์ A ประมาณ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในไทย การเติบโตในไทย เตรียมตัวเข้ามาหาผู้สนใจลงทุนแฟรนไชส์ เข้ามาในไทย โดยมีเป้าหมายเปลี่ยนแปลงรูปแบบการให้บริการซักรีดในไทย

มิสเตอร์จูลิโอ ซิวโร ผู้รับผิดชอบการขยายกิจการในภูมิภาคเอเชียของ Mr Jeff กล่าวว่านอกเหนือจากการให้บริการคุณภาพและสะดวกสบายแก่ลูกค้าแล้ว Mr Jeff ยังเสนอโอกาสแก่นักลงทุนในตลาดที่มีมูลค่ามากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยช่องทางดิจิทัลและแผน การรับสมัครสมาชิก ที่ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบเดิมๆ ของบริการ ซักรีด ประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศที่คาดว่าจะทำรายได้มากที่สุด

Mr Jeff  ให้บริการซักรีด และซักแห้ง สำหรับลูกค้าทุกประเภท โดยคนรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลา ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่เหนียวแน่นของ Mr Jeff ลูกค้าที่ใช้บริการผ่านแอพพลิเคชัน สามารถเลือกสถานที่ วัน และเวลา ในการรับส่งเสื้อผ้า ซึ่งพนักงานจะไปรับเสื้อผ้าตามที่นัดหมาย และนำกลับไปส่งให้ลูกค้าหลังจากซักรีดเสร็จเรียบร้อย

มิสเตอร์จูลิโอ ซิวโร  กล่าวต่อไปว่า Mr Jeff ขยายบริษัทไปกว่า 10 ประเทศ และมีแฟรนไชส์มากกว่า 370 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในสเปนและลาตินอเมริกา

ล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2562 ได้รับเงินสนับสนุนจากการระดมทุนระดับซีรีส์ เอ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 360 ล้านบาท (คิดที่ 30 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งมีเป้าหมายขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง ที่เปิด Mr Jeff Hubs ได้เปิดกิจการแห่งแรกไปแล้ว ทั้งนี้บริษัทนำเสนอ
บริการซักรีดและซักแห้ง ที่เรียกใช้บริการผ่านแอพพลิเคชันและเว็บไซต์ โดยแอพพลิเคชันเปิดให้ดาวน์โหลดได้ทั้งไอโอเอสและแอนดรอยด์ มีบริการแบบสมัครสมาชิกรายเดือน และการใช้บริการเป็นรายครั้ง ตามร้านที่เปิดบริการในเมืองต่างๆ เป็นเครือข่ายแฟรนไชส์ที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการซักรีดแบบเดิมๆ สำหรับในไทยตั้งเป้าจะเปิดแฟรนไชส์ Mr Jeff Hubs มากกว่า 50 แห่ง ภายในสิ้นปี 2562 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com 


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 05/07/2562

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,500.00 20,600.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,328.00 20,132.48 21,100.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,195.20 18,119.23 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,062.40 16,105.98 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 598.00 9,065.68 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 465.00 7,049.40 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,376.00 20,860.16 n/a
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 05/07/2562
ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85
แก๊สโซฮอล์ 91 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58
แก๊สโซฮอล์ E20 24.84 24.84 25.24 24.84 25.24 24.84 24.84 24.84 24.84
แก๊สโซฮอล์ E85 20.09 20.09 20.09
เบนซิน 95 35.26 35.71 35.76 35.56 35.56
ดีเซล 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59
ดีเซลพรีเมี่ยม 25.59 25.59
แก๊ส NGV 15.88 15.88

  

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า