สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 08 กรกฎาคม 2562

อสังหาฯกระจายเสี่ยงรับขาลง ตามรอย ‘แลนด์แอนด์เฮ้าส์’

อสังหาฯยุคขาลง กระจายเสี่ยง เดินตามรอยพี่เบิ้ม แลนด์แอนด์เฮ้าส์ หลังยังรักษาแชมป์ รายได้อันดับ 1 ทั้งโรงแรม อาคารสำนักงาน เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ค้าปลีก

ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นแต่การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมเพียง 2 ประเภทในปัจจุบันอาจจะไม่เพียงพอแล้ว เพราะรายได้จากการขายที่อยู่อาศัยนั้นไม่แน่นอนผันแปรตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย ผู้ประกอบการบางรายเริ่มเห็นภาวะไม่แน่นอนนี้ตั้งแต่หลายปีก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการกลุ่มนี้จึงขยายธุรกิจของตนเองให้ออกมาจากการสร้างรายได้จากการขายที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว โดยเพิ่มการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่สามารถสร้างรายได้แบบต่อเนื่อง และไม่ได้พึ่งพากำลังซื้อเพียงกลุ่มเดียว เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โครงการค้าปลีก สนามกอล์ฟ โกดังสินค้าให้เช่า โรงพยาบาล ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ หรือขยายเข้าสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย เช่น อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

การขยายธุรกิจของผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์หลายรายเริ่มชัดเจนมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลังจากที่เศรษฐกิจในประเทศไทยมีความผันผวนค่อนข้างมากจากปัญหาเรื่องของการเมืองและภาวะเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อรายได้และการขยายตัวของบริษัท ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มขยายฐานรายได้ของตนเองให้ครอบคลุมธุรกิจอื่นๆ มากขึ้น

จากการวิเคราะห์ของ นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด ระบุว่าผู้ประกอบการที่ขยายธุรกิจของตนเองออกจากการขายที่อยู่อาศัยรายแรกๆ และประสบความสำเร็จคือ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพราะพวกเขาสามารถรักษาการเติบโตของรายได้และครองเป็นอันดับที่ 1 ในแง่ของรายได้ในกลุ่มผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขายมายาวนาน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เปิดขายโครงการใหม่มากมายเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการบางราย เนื่องจากแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีรายได้จากธุรกิจรูปแบบอื่นๆ ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจค้าปลีกที่พวกเขามีการพัฒนาโครงการเทอร์มินอล 21 ขึ้นมาหลายสาขา หรือก่อนหน้านี้พวกเขาก็เป็นผู้พัฒนาโฮมโปร และเมกาโฮมที่มีสาขาทั่วประเทศไทย ซึ่งโครงการเหล่านี้สร้างรายได้ให้แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ไม่น้อยในแต่ละปี ควอลิตี้ เฮ้าส์เป็นผู้ประกอบการอีกรายที่ขยายธุรกิจของตนเองตามหลังแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์มาติดๆ

ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่ขยายธุรกิจของตนเองออกมานอกเหนือการขายที่อยู่อาศัยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่มีการเปิดตัวโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 4 โครงการเพื่อสร้างฐานรายได้ที่คงที่ให้กับกลุ่มของตนเอง ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เป็นผู้ประกอบการอีกรายที่มีการขยายธุรกิจ
ของตนเองเพราะพวกเขามีการพัฒนาโครงการที่มีการสร้างรายได้ต่อเนื่องทั้งโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ รวมไปถึงธุรกิจอาหาร เพียงแต่หลายโครงการยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ก่อนหน้านี้บริษัทอย่าง ลุมพินี ดีเวลลอปเม้นท์ ชาญอิสสระ เอสซี แอสเสทคอร์ปอเรชั่น พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เสนา ดีเวลลอปเม็นท์ ศุภาลัย และแสนสิริก็มีการพัฒนาอาคารสำนักงาน คอมมิวนิตีมอลล์ โรงแรมเพื่อเข้ามาสร้างรายได้ให้กับพวกเขา เพียงแต่จำนวนหรือขนาดของโครงการยังไม่สามารถสร้างรายได้ในสัดส่วนที่มากมายให้กับพวกเขาเมื่อเทียบกับรายได้จากการขายที่อยู่อาศัย

ผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างพฤกษาเรียลเอสเตทที่สร้างรายได้มากมายจากการขายที่อยู่อาศัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังมีการสร้างอาคารสำนักงานของตนเองเพื่อสร้างภาพลักษณ์องค์กรและเป็นการให้บริษัทในเครือทั้งหมดของตนเองเข้ามาเช่าพื้นที่ภายในอาคารสำนักงานแห่งนี้แทนที่จะไปเช่าอาคารสำนักงานอื่นๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


มั่นคงยึดแนวราบ สร้างแบรนด์ชัดเจน

มั่นคงเคหะการ จ่อแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ปรับสมดุลพอร์ต รายได้ระยะยาว 5 ปีเห็นผล จับเทรนด์โลก Well-being แข่งตลาดแนวราบ สู้ศึกรายใหญ่ ชูโปรดักต์-ทำเล จุดแข็ง ตั้งเป้าโตปีละ 10%

นางสาวดุษฎี ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย เพื่อเช่าและเพื่อการบริการ กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า หลังจากก่อนหน้ามีความเคลื่อนไหวเรื่องการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ ทั้งในแง่ผู้บริหารและพอร์ตรายได้อย่างต่อเนื่อง ว่าสำหรับการดำเนินงานในช่วงปี 2562 – 2566 บริษัทยังคงเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในกลุ่มแนวราบ ซึ่งมีความถนัด ชำนาญ และได้รับการยอมรับจากลูกค้ามาโดยตลอด โดยเฉพาะตลาดหลักในกลุ่มทาวน์เฮาส์ระดับราคา 2-3 ล้านบาท, บ้านเดี่ยวราคา 4-5 ล้านบาท และตลาดใหม่กลุ่มบ้านแฝดราคา 3-4 ล้านบาท พบภาพรวมยอดขายเติบโตจากลูกค้าบอกต่อสูงถึง 35% และจากตลาดออนไลน์อีก 30-40% โดยปี 2562 เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ บ้านแฝด 1 โครงการ และทาวน์โฮม 3 โครงการ รวมมูลค่า 4.56 พันล้านบาท ในทำเล บางนา, บางบัวทอง และชัยพฤกษ์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดแนวราบที่มีความรุนแรงจากผู้ประกอบการรายใหญ่และรายใหม่ จำเป็นต้องเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ หาจุดต่างและสร้างจุดขายให้ชัด บริษัทจึงนำแนวคิด Well-Being หรือ การมีสุขภาวะที่ดี บวกกับเรื่องสิ่งแวดล้อม เข้ามาใช้เป็นโมเดลหลักในการพัฒนาโครงการหลังจากนี้ ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ใส่ใจเรื่องความเป็นอยู่ และการดูแลสุขภาพมากขึ้น ตั้งแต่การออกแบบผังโครงการ การเลือกใช้วัสดุ จัดสรรโปรแกรม ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะกับคนทุกช่วงวัย รวมถึงการเปิดพื้นที่ให้สถานพยาบาลเข้ามาเปิด OPD รองรับการเจ็บป่วยของลูกบ้านในโครงการที่มีขนาดใหญ่ เช่น โครงการ “ชวนชื่น ไพร์มวิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาท จับตาผลของการพบปะของทรัมป์และสี จิ้นผิงต่อตลาด

ค่าเงินบาท จับตาผลของการพบปะของทรัมป์และสี จิ้นผิงต่อตลาด

กสิกรไทยคาดค่าบาทแข็งค่า ธปท. ลดปริมาณพันธบัตรชะลอการเก็งกำไรค่าเงินบาท ชะลอเงินบาทแข็งค่าได้ชั่วคราว
************************คมลัมน์ มันนี่วีก (Money week)โดยพีรพรรณ สุวรรณรัตน์, มนัสวิน ฐิติสมบูรณ์ สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยมองว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 30.50-30.80 ในช่วงต้นสัปดาห์ เงินบาทคาดว่าจะเคลื่อนไหวจากปัจจัยของเงินดอลลาร์ เนื่องจากสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขตลาดแรงงานเมื่อวันศุกร์นอกจากนี้ ปัจจัยที่ตลาดให้ความสำคัญคือคำแถลงนโยบายการเงินของนายโพเวล ประธานเฟดต่อสภาคองเกรส อีกทั้งการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดเมื่อเดือนที่แล้ว โดยตลาดรอสัญญาณยืนยันการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงต่อได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ อยู่ในระดับแข็งค่ามากที่สุดตั้งแต่ปี 2013 ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐเปิดตลาดแข็งค่าขึ้นมากจากราคาปิดในสัปดาห์ก่อน โดยแม้ว่าทั้งตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดไทยจะขาดดุลเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 4 ปีในเดือนพฤษภาคม และทรัมป์และสี จิ้นผิงตกลงที่จะเริ่มการเจรจาการค้ารอบใหม่
โดยทรัมป์ได้ยุติแผนการที่จะขึ้นภาษีอีกระลอกกับจีน แต่ค่าเงินบาทยังไม่ได้อ่อนค่าลงแต่มีการชะลอการแข็งค่าลง สำหรับค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นตอบรับกับข่าวดีจากการเจรจาของทรัมป์และสี จิ้นผิง ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งขึ้น ทั้งจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ (ISM) และดัชนีฯ โดย Markit ในเดือนมิถุนายนนอกจากนี้ ด้านค่าเงินยูโรค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันหลังจากสหรัฐฯ กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่มเติมกับสหภาพยุโรปเพื่อตอบโต้มาตรการอุดหนุนบริษัท Airbus โดยรวมค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบในช่วงสัปดาห์มาปิดตลาดที่ระดับ 30.65 (ณ เวลา 17.15 น.)ตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มต้นด้วยประเด็นของการหารือนอกรอบการประชุม G-20 ซึ่งดูเหมือนว่าความตึงเครียดของสงครามการค้าดูผ่อนคลายลง ภายหลังจากที่จีนและสหรัฐอเมริกาตกลงที่จะกลับมาเจรจาการค้าใหม่อีกรอบ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าตลาดจะไม่ได้ตอบรับในเชิงบวกต่อประเด็นนี้มากนัก เพราะการเจรจายังไม่ได้มีข้อสรุปที่ออกมาเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ในขณะที่การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของยูโรโซนและสหรัฐอเมริกา บ่งบอกถึงสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมไปการที่ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ระดับ 1% ยิ่งสนับสนุนว่าประเทศเศรษฐกิจหลักกำลังต้องการนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาดเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังส่งสัญญาณชะลอตัวลง เป็นปัจจัยหนุนในอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ทั่วโลกปรับตัวลดลงสำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาคือการประกาศอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมิถุนายนอยู่ที่ระดับ 0.87% ลดลงจากเดือนก่อนที่ระดับ 1.15% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ระดับ 0.48% ลดลงจากเดือนก่อนที่ระดับ 0.54%นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ถูกกล่าวถึงกันมากคือการที่ ธปท. ได้ลดปริมาณพันธบัตรที่จะออกประมูลในเดือนกรกฎาคม เพื่อชะลอการเก็งกำไรค่าเงินบาท กล่าวคือเมื่อปริมาณพันธบัตรในตลาด (Supply) มีปริมาณลดลง ในขณะที่ความต้องการ (Demand) ถือครองพันธบัตรทั้งจากนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศมีเท่าเดิมหรือมากขึ้น จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง ซึ่งจะช่วยชะลอเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาทอย่างไรก็ตามจากข้อมูลในอดีตช่วง เมษายน 2560 – เมษายน 2561 พบว่า ธปท. เคยใช้วิธีนี้ในการชะลอการเก็งกำไรค่าเงินบาทมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ท้ายสุดก็ยังเห็นเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยกดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าผิดจากเป้าหมายของธปท. ครั้งนี้นักลงทุนคงต้องติดตามว่าผลลัพธ์จะออกมาในรูปแบบไหนหรือ ธปท. จะมีมาตรการอื่นๆมาช่วยดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าไปมากกว่านี้ด้วยเหตุนี้จากทั้งปัจจัยภายนอกประเทศและปัจจัยภายในประเทศยังคงสนับสนุนให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลง โดยความชันของเส้นอัตราผลตอบแทนมีความชันลดลง (Bull Flattening) ซึ่ง ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2562 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 1, 2, 3, 5, 7 และ 10ปี อยู่ที่ 1.76% 1.72% 1.73% 1.78% 1.86% และ 2.04% ตามลำดับ
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com

กินถูกหลัก ช่วยสร้างเสริมตับได้จริงนะ

กินถูกหลัก ช่วยสร้างเสริมตับได้จริงนะ thaihealth

ตับ เป็นอวัยวะสำคัญ และใหญ่ที่สุดของร่างกายที่มีเพียงหนึ่งเดียว แต่มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ทั้งทำลายสารพิษต่างๆ ที่เข้าไป หรือสร้างขึ้นภายในร่างกาย ทำลายหรือทำให้ยาต่าง ๆ ออกฤทธิ์ดีขึ้น สร้างน้ำดี สารที่ทำให้เลือดแข็งตัว และฮอร์โมนหลายชนิด รวมทั้งมีบทบาทสำคัญต่อภูมิต้านทานของร่างกาย ควบคุมการเผาผลาญและสร้างสารอาหารหลาย ๆ

ชนิดในภาวะปกติ : ไม่จำเป็นต้องเลือกกินอาหารแบบใดเป็นพิเศษเพื่อบำรุงตับ เพียงแค่กินอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างเหมาะสม และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีผลเสียต่อตับ ตามที่ได้กล่าวถึงไว้แล้วเท่านั้น
ในกรณีที่มีตับอักเสบ :หรือผู้ป่วยตับแข็งระยะต้น ๆ ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างเพียงพอ เพื่อช่วยการซ่อมแซมตับและทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ป้องกันภาวะทุพโภชนาการ ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องงดไขมันยกเว้น มีอาการท้องอืดหลังกินอาหารมัน ๆ และไม่ต้องกินคาร์โบไฮเดรตเพิ่ม ในขณะที่มีตับอักเสบตามความเชื่อสมัยก่อน เพราะทำให้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งมีไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้นมากได้ในระยะที่มีตับอักเสบ แพทย์อาจให้ผู้ป่วยกินวิตามินเสริม เพื่อช่วยในการซ่อมแซมตับ แต่ไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกินเองในช่วงนี้ เพราะอาจมีผลข้างเคียงต่อการทำงานของตับได้ถนอมตับไว้ไม่ให้สึกหรอก่อนวัย วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันโรคที่ป้องกันได้ เช่น
– ฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบ
– ระวังการกินยา หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อาจมีผลข้างเคียงต่อตับ
– งดหรือลดการดื่มสุรา
– งดกินปลาดิบ เพื่อป้องกันพยาธิใบไม้ในตับ
– ลดหรือหลีกเลี่ยงอาหารซึ่งจะมี “อฟลาทอกซิน” ปนเปื้อน
สำหรับการกินอาหารเพื่อถนอมรักษาตับ ประเด็นที่สำคัญ คือ ป้องกันโรคอ้วนและหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีคาร์โบโฮเดรตสูงต่อเนื่องในปริมาณมาก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุกระตุ้นให้มีไขมันแทรกในตับได้มากขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


SP Smartplants ทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่บริการสมาร์ทฟาร์มครบวงจร

จากสตาร์ตอัพผู้ให้บริการแอพพลิเคชันเพื่อควบคุมการเปิดปิดนํ้าสำหรับดูแลสวนภายในบ้านที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อราว 4 ปีที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ SP Smartplants กลับพบว่าปัญหาหรือความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของการควบคุมการเปิดปิดนํ้าผ่านแอพพลิเคชัน นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทรานส์ฟอร์มไปสู่รูปแบบธุรกิจใหม่ด้วยการนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่มีผนึกกับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรมาปรับใช้เพื่อให้บริการระบบสมาร์ทฟาร์มแบบครบวงจร

มุ่งบริการโทเทิลโซลูชัน

พิสิฐไชย สุวรรณเรือง ผู้ก่อตั้ง SP Smartplants กล่าวว่า SP Smartplants ได้มีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจมาสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านการเกษตร ดูแลจัดการด้านสมาร์ทฟาร์ม และให้ คำปรึกษาด้านการเกษตรด้วยการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการเพาะปลูกพืช เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร (Total solution) ที่มีตั้งแต่ระบบท่อนํ้าไปจนถึงระบบสมาร์ท อีกทั้งได้มีการจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดเมื่อปีที่ผ่านมา โดยให้บริการหลักๆ 2 ประเภท คือ การดูแลบ้านและสวน และการทำสมาร์ทฟาร์มด้านการเกษตร โดยแบ่งเป็น 3 ชนิดคือ 1.การทำสวนแบบเปิดโล่ง 2. การทำแบบเรือนกระจก ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิ ความชื้นในการเพาะปลูก และ 3. การปลูก พืชในร่ม (indoor farming) ด้วยการปลูกพืชโดยใช้แสงสีชมพู

“เริ่มแรกที่เข้ามาทำธุรกิจนี้ เนื่องจากมีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี แต่ไม่ได้เข้าใจในตัวลูกค้าว่าจริงๆ แล้วลูกค้าต้องการอะไร จากเดิมที่ทำระบบการควบคุมนํ้าผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือ แต่พอลงสนามจริงปรากฏว่าลูกค้าไม่ได้มีความต้องการระบบนี้เท่าที่ควร เพราะเขาจะมีหรือไม่มีก็ได้ เราจึงได้มีการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ไปสู่อะไรที่เขาต้องการมากกว่า เช่น มีเซ็นเซอร์ที่สามารถบอกได้ว่าตอนนี้พืชไม่ต้องการนํ้าแล้ว โดยวัดจากอุณหภูมิความชื้นต่างๆ ที่ได้อ้างอิงจากงานวิจัยเพื่อมาพัฒนาเป็นซอฟต์แวร์”

ชูเทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์ม

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโต เช่น เมล็ดพันธุ์แบบไหนที่สามารถเติบโตได้ดีกว่า รวมไปถึงการปรุงดิน การทำดินให้เหมาะกับพืชแต่ละชนิด การแก้ปัญหาดินเสีย หรือปริมาณแสงสว่าง อย่างในฤดูฝน ปริมาณแสงอาจจะไม่เพียงพอทำให้ใบเหลืองโตไม่เต็มที่ ก็มีฟังก์ชันของ indoor farming โดยใช้แสงสีชมพูเข้ามาช่วยก็จะทำให้สามารถปลูกพืชได้โดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพแวดล้อม ซึ่ง SP Smartplants ได้พาร์ตเนอร์กับผู้เชี่ยวชาญที่เข้ามาร่วมให้คำปรึกษา“ผมจบวิศวะคอมพิวเตอร์ผมไม่ได้มีความรู้เรื่องการเกษตรแต่เนื่องจากความชอบอาจารย์ก็ได้แนะนำ วิธีกลไกต่างๆ ว่าต้องทำอย่างไรให้ปลูกได้ ผมได้ร่วมงานกับสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ที่มีอาจารย์เก่งๆ หลายท่านแต่ยังไม่มีเทคโนโลยี ซึ่งผมทำในเรื่องของเทคโนโลยีได้ และผมก็ได้องค์ความรู้จากเขา ว่าพืชต้องการอะไรและเราก็สามารถสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม สร้างสภาพแวดล้อมให้พืชเติบโตได้อย่างดีที่สุด”

ให้คำปรึกษาครบวงจร

ขณะที่โมเดลรายได้ของ SP นั้นมาจากการให้บริการปรึกษาเกี่ยวกับการทำสมาร์ทฟาร์ม Smart Farm และ Smart Box & Controller อุปกรณ์ ควบคุมการปลูก ควบคุมการจ่ายนํ้า และให้ปุ๋ยซึ่งเป็นกิจวัตรของพืชมากที่สุด และเป็นปัญหาที่มีอยู่ในหลายพื้นที่ มีเซ็นเซอร์ในการตรวจวัดความชื้นในดินและอากาศ หรือถ้าเป็นโรงเรือนเพาะปลูกหากมีอุณหภูมิสูงขึ้นก็สามารถเปิดพัดลมหรือพ่นหมอกได้แบบอัตโนมัติ โดยมีอัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ และระบบที่ผู้ใช้ต้องการโดยอัตราการประเมินเบื้องต้นคือ 1 ไร่ต่อราคา 49,000 บาท ไร่ต่อไปอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท สำหรับระบบสมาร์ท

ทั้งนี้การทำการเกษตรในระบบสมาร์ทฟาร์มช่วยให้อัตราการประหยัดนํ้ามากขึ้น 40% จากระบบรดนํ้าที่เหมาะกับพืชแต่ละชนิดและเหมาะกับสภาพแวดล้อมพืชในแต่ละช่วง และสามารถคืนทุนได้เร็วขึ้น 30% เมื่อเทียบกับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมได้ รวมถึงช่วยลดอัตราการใช้แรงงานคนลงได้ นอกจากนี้ยังให้บริการวางระบบซัพพลายเชนกับลูกค้าโรงแรม ร้านอาหารที่ต้องการวัตถุดิบ โดยจะมีกระบวนการในการคำนวณว่าทำอย่างไรถึงจะสามารถ จัดหาวัตถุดิบให้ได้ตามที่ต้องการ

ตั้งเป้าสิ้นปีผู้ใช้กว่า50ฟาร์มทั้งนี้ในปี 2561 SP Smartplants มีผู้ใช้งาน หรือ โฮมยูส อยู่ที่ราว 40 หลังคาเรือน และครึ่งปีที่ผ่านมานี้มีลูกค้าที่เป็นฟาร์มขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นอีก 15 ฟาร์ม ตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจในปีนี้คือ จำนวนผู้ใช้ที่เป็นโฮมยูสขั้นตํ่า 260 หลังคาเรือน และฟาร์มจำนวน 50 ฟาร์มขึ้นไป นอกจากนี้ยังตั้งเป้าที่จะขยายบริการรับจ้างดูแลสวนด้วยอุปกรณ์สมาร์ท พร้อมกับผู้ดูแลสวนตัดหญ้า ใส่ปุ๋ย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ลูกค้ามีความต้องการ จึงได้เพิ่มบริการส่วนนี้เข้ามา โดยจะเปิดตัวในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ และหวังผลประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน“ปัจจุบันในตลาดมีผู้ให้บริการในธุรกิจที่คล้ายกันอยู่กว่า 10 ราย ซึ่งรายใหญ่ก็หันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับสมาร์ทฟาร์มมากขึ้น ภาพรวมตลาด Agri Tech ในไทย ผมมองว่าประเทศของเราอยู่ในจุดที่ดี เราใช้พลังงานหรือทรัพยากรไม่เยอะเท่ากับ ประเทศในโซนแอฟริกา อเมริกาหรือตะวันออกกลาง เราอยู่ในจุดที่มีทรัพยากรมากกว่า ถ้าเขาอยากจะปลูกพืชชนิดเดียวกับเรา บางครั้งเขาอาจจะต้องใช้เทคโนโลยีที่มากกว่าเรา ซึ่งในประเทศไทยที่ไหนก็สามารถทำเงินได้เรียกได้ว่าเป็นข้อได้เปรียบ แต่ยังขาดเรื่องของการจัดการ ถ้าเรามีระบบการจัดการที่ดีเราสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมนี้ได้ ดูได้จากรายใหญ่ๆ ที่มีระบบการจัดการที่ดีล้วนแต่อยู่ในอุตสาหกรรมด้านการเกษตรทั้งนั้น และหากพูดถึงในแง่ของสตาร์ตอัพปัจจุบัน เราเน้นเรื่องของการหารายได้ด้วยตนเองไม่ได้เน้นที่การระดมทุนเป็นหลัก ซึ่งยังรอดูจังหวะที่เหมาะสมก็อาจจะมีการระดมทุนอีกรอบ แต่ปัจจุบันโอเคแล้วกับสเตจนี้” 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,250.00 20,350.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,312.00 19,889.92 20,850.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,180.80 17,900.93 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,049.60 15,911.94 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 590.00 8,944.40 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 459.00 6,958.44 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,360.00 20,617.60 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 08/07/2562 

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55
แก๊สโซฮอล์ 91 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28
แก๊สโซฮอล์ E20 24.54 24.54 24.94 24.54 24.94 24.54 24.54 24.54 24.54
แก๊สโซฮอล์ E85 19.94 19.94 19.94
เบนซิน 95 34.96 35.41 35.46 35.26 35.26
ดีเซล 26.29 26.29 26.29 26.29 26.29 26.29 26.29 26.29 26.29 26.29
ดีเซลพรีเมี่ยม 25.29 25.29
แก๊ส NGV 15.88 15.88
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า