สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 12 กรกฎาคม 2562

“แสนสิริ” ทุ่มงบกว่า 12 ลบ. เปิดตัว “THE CLOUD” เซลล์ เซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ ครั้ง

“แสนสิริ” ทุ่มงบกว่า 12 ลบ. เปิดตัว “THE CLOUD” เซลล์ เซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ ครั้งแรกในไทย!

ครั้งแรกในวงการอสังหาฯ! แสนสิริ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ฉีกกรอบวงการตลาดอสังหาฯ ทุ่มงบกว่า 12 ลบ. เปิดตัว “THE CLOUD” เซลล์ เซ็นเตอร์รูปแบบใหม่แห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ A Healthy Leisure Space ฉายวิสัยทัศน์ผู้นำที่เข้าใจและใส่ใจไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ผ่านกลยุทธ์ Inclusive Experience และตอบโจทย์เทรนด์คนรักสุขภาพทั่วโลกและในไทย ด้วยการผนึก THE COFFEE CLUB (เดอะ คอฟฟี่ คลับ) แบรนด์ร้านอาหารและคาเฟ่สัญชาติออสเตรเลียร่วมเสริมแกร่ง ครีเอทเมนูเอาใจคนรักสุขภาพ สร้างประสบการณ์ผ่านการรับประทานอาหาร พร้อมต่อยอดปั้น “THE CLOUD” เป็นเซลล์ เซ็นเตอร์ที่แรกของอสังหาฯ ที่ขายทุกโครงการของบริษัทได้ ชูไฮไลท์สร้างประสบการณ์ผ่านการผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย ในแบบแสนสิริ อาทิ “แสนรู้” (SANROO) หุ่นยนต์พนักงานคนใหม่ของแสนสิริให้ข้อมูลด้านนวัตกรรมในโครงการ แสนสิริและ Experience Panels โชว์ 4 นวัตกรรมการอยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ตั้งเป้ายอดผู้ใช้บริการและสัมผัสความเป็นแสนสิริกว่า 50,000 รายในครึ่งปีหลังปี 2562 นี้

คุณอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “แสนสิริ ต้องการฉีกกรอบวงการ อสังหาฯไทย เพื่อตอกย้ำผู้นำด้านนวัตกรรมในการอยู่อาศัยที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในปีนี้ภายใต้วิสัยทัศน์ For Greater Well-being ผนวกกับการที่แสนสิริตระหนักถึงเทรนด์ของโลกปัจจุบันที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เราจึงได้เปิดตัว THE CLOUD พื้นที่แห่งประสบการณ์การใช้ชีวิตแนวใหม่ ภายใต้แนวคิด “A Healthy Leisure Space” ซึ่งเป็นเซลล์ เซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทยหรือเป็นอีกหนึ่ง touch point ด้วยกลยุทธ์ Inclusive Experience สร้างประสบการณ์ที่เปิดกว้างให้ทุกคนและลูกบ้านแสนสิริ เข้ามาใกล้ชิดกับแบรนด์แสนสิริมากขึ้นต่อเนื่องจาก SIRI HOUSE ที่สิงคโปร์และซอยสมคิด กรุงเทพฯ โดยมาพร้อมกับนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่สร้างสุขภาพชีวิตที่ดี เราเชื่อเสมอมาว่า นอกเหนือจากที่อยู่อาศัยที่ดีแล้ว การดำเนินชีวิตที่ดีนั้นยังเป็นที่มาของสุขภาพดี โดยในครั้งนี้ แสนสิริ ยังได้ร่วมมือกับ THE COFFEE CLUB ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ร้านอาหารและคาเฟ่ชั้นนำระดับโลกร่วมสร้างสรรค์เมนูอาหารเอาใจคนรักสุขภาพอีกด้วยเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ขีวิตของคนในยุคปัจจุบันที่อาหารเป็นปัจจัยสำคัญของการมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ”

คุณชุมพจน์ ตันติสุนทร ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือกับแสนสิริว่า “นับเป็นครั้งแรกในเอเชียที่ THE COFFEE CLUB ได้ปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด A Healthy Leisure Space ของ THE CLOUD จากวิสัยทัศน์ของทั้งสองแบรนด์ที่สอดคล้องกันและร่วมแบ่งปันความรู้ในการมอบประสบการณ์เพื่อสุขภาพให้กับทุกคนได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ในครั้งนี้ THE COFFEE CLUB จึงยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมเติมเต็มโปรเจ็กต์ THE CLOUD ร่วมกับทางแสนสิริ ซึ่งเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยที่มุ่งสร้างสรรค์โปรเจ็กต์ดีๆ ที่ประสบความสำเร็จออกมามากมาย ทาง THE COFFEE CLUB จึงมั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการที่ THE CLOUD จะได้รับการบริการอย่างครบถ้วนที่สุด”

THE CLOUD ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของสยามพารากอน ประกอบด้วย SANSIRI GALLERY เซลล์ เซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ แห่งแรกในประเทศไทย ที่นำเสนอความเป็นอยู่ที่ดีในแบบของแสนสิริในรูปแบบแปลกใหม่ผ่านการใช้งานศิลปะและเทคโนโลยี อาทิ วินโดว์ ดิสเพลย์ที่จัดแสดงงานศิลปะอินสตัลเลชั่น รูปทรงก้อนเมฆสีขาวโปร่งแสงที่เชิญชวนให้เข้ามา ชื่นชม เพื่อถ่ายทอดคอนเซ็ปต์ A Healthy Leisure Space ของ THE CLOUD โดยที่วินโดว์ดิสเพลย์นี้ จะเป็นพื้นที่แห่งความสร้างสรรค์ที่แสนสิริ เป็นผู้ทำหน้าที่เหมือนภัณฑารักษ์ (curator) เลือกสรรงานออกแบบศิลปะมาจัดแสดงอย่างหลากหลายหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปตลอดทั้งปี แต่แน่นอนว่าจะยังคงสอดแทรกแนวคิดของ THE CLOUD อยู่เสมอ

“แสนสิริ” ทุ่มงบกว่า 12 ลบ. เปิดตัว “THE CLOUD” เซลล์ เซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ ครั้งแรกในไทย!

นอกจากนี้ พบกับ Experience Panels ที่นำเอาเทคโนโลยีและดีไซน์ที่รังสรรค์ขึ้นใหม่มาใช้ในการนำเสนอ 4 นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกบ้านของแสนสิริ ได้แก่ Dust-Free House นวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น สร้างสุขภาพที่ดีให้ผู้อยู่อาศัย Cooliving Designed Home นวัตกรรมบ้านเย็นเพื่อการหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน Green Living การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยคลายอุณหภูมิความร้อนและลดมลพิษภายในที่อยู่อาศัย และ Educational Playground สนามเด็กเล่นที่ช่วยเสริมสร้างทักษะและการเรียนรู้โดยร่วมมือกับโรงพยาบาล สมิติเวช “น้องแสนรู้” (SANROO) หุ่นยนต์พนักงานคนใหม่ของแสนสิริ ที่จะบอกเล่าและให้คำตอบเกี่ยวกับนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยของแสนสิริ นอกเหนือไปจากนั้น แสนสิริ ยังวางแผนที่จะใช้พื้นที่ของ SANSIRI GALLERY จัดกิจกรรมและเวิร์กช็อปเพื่อนำเสนอประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แบบใหม่ที่จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดปี

THE CLOUD ยังมีโซนคาเฟ่และร้านอาหาร โดย THE COFFEE CLUB ที่นำเสนอ “Feel Good Menu” 10 เมนู สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งได้ เชฟเจมส์ แบรดบิวรี่ (James Bradbury) Global Head of Culinary ของ THE COFFEE CLUB เพื่อรังสรรค์เมนูดังกล่าวขึ้นใหม่เพื่อ THE CLOUD โดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับหมอผิง-พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล คุณหมอนักบริหารจากโรงพยาบาลสมิติเวช มาช่วยแนะนำและปรับเปลี่ยนวัตถุดิบบางส่วน สำหรับคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเมนูอาหารเหล่านี้ดีต่อสุขภาพ โดยเมนูไฮไลท์ ได้แก่ “Vegan Garden Burger” เบอร์เกอร์มังสวิรัติถั่วและผักโขมอบ ซึ่งเกิดจากเทรนด์ระดับโลกที่ให้ความสนใจกับการทานอาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงเบอร์เกอร์ที่ไม่ใช้เนื้อสัตว์ซึ่งยังหาทานได้ยากในประเทศไทย

นอกจากเมนูอาหารซิกเนเจอร์ที่รังสรรค์ขึ้นพิเศษแล้ว แสนสิริและ THE COFFEE CLUB ยังใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การออกแบบภายในร้านที่คำนึงถึงความสะดวกสบาย โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานสะดวกไร้เหลี่ยมคม การตกแต่งโดยคุมโทนสีเอิร์ธโทนโดยผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำผึ้งที่ให้อารมณ์ผ่อนคลายและเป็นกันเอง รวมทั้งการควบคุมแสงและเสียงในร้านเพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายต่อทุกประสาทสัมผัส ทั้งหมดนี้ เพื่อให้ทุกก้าวย่างใน THE CLOUD ช่วยเติมเต็มให้ผู้ที่เข้ามาสัมผัสได้รู้สึกถึงการพักผ่อนและสุนทรียะในการใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริง

“แสนสิริ หวังว่าการเปิดตัว THE CLOUD ในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งทัชพอยต์ที่ให้ลูกบ้านแสนสิริและคนทั่วไปได้เข้ามารับประสบการณ์ความเป็นอยู่แนวใหม่ในแบบของแสนสิริ และได้รู้จักกับความเป็นแสนสิริมากยิ่งขึ้น และหวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมสุขภาพอย่างยั่งยืนให้กับคนไทย โดยเราเชื่อว่า ภายในระยะเวลา 6 เดือนจนถึงสิ้นปี 2562นี้จะมีผู้เข้ามาสัมผัสความเป็น Well-being ในรูปแบบของแสนสิริกว่า 50,000 รายอันก่อให้เกิดการรักในแบรนด์และเปลี่ยนไปสู่การเป็นลูกค้าในที่สุด โดยเซลล์ เซ็นเตอร์ที่นำเสนอทุกโครงการของแสนสิริครั้งแรกในไทยก็จะมาช่วยให้ข้อมูลโครงการและทำให้การซื้อขายโครงการทำได้ง่ายขึ้น ” อภิชาติ กล่าวสรุป

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com


คอนโดเช่ากลางเมืองแข่งดุซับพลายใหม่ทะลักกดค่าเช่า-ลูกค้าหนีออกชานเมือง

”พรีโม่” เผยห้องชุดปล่อยเช่าตลาดบนแข่งดุ ผลตอบแทน-ค่าเช่าหด หลังคอนโดระดับบนย่านกลางเมืองทยอยแล้วเสร็จ ส่งผลซัพพลายในเมืองขยับสูง กดราคาค่าเช่าตกต่ำ ขณะห้องชุดปล่อยเช่า 6,000-7,000 บาท ต่อเดือนย่านชาญเมืองรับอานิสงส์ลูกค้าน้ายออกไปเช่าห้องชุดชานเมือง

ธนา ต่อสหะกุล


นายธนา ต่อสหะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม่ เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ในเครือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาวะตลาดคอนโดมิเนียมปล่อยเช่า ในงานสัมมนา Exploring Property Rental In Bangkok ว่า ตลาดคอนโดปล่อยเช่าระดับราคาต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น สวนทางกลับตลาดคอนโดปล่อยเช่าระดับบนราคา 10,000 – 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งพบว่ามีการหดตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่สูงขึ้น หลังจากห้องชุดใหม่ๆในยานกลางเมืองทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จ ประกอบกับผู้บริโภคมีทยอยย้ายออกไปเช่าห้องชุดในย่านชาญเมืองเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากค่าเช่ามีระดับราคาที่ถูกกว่า แม้ระยะห่างจากแหล่งงานจะเพิ่มขึ้น แต่ก็มีระบบรถไฟฟ้ารองรับการเดินทาง ทำให้สามารถเดินทางได้สสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น 

ทั้งนี้ ห้องชุดปล่อยเช่าในโซนสุขุมวิทตอนต้นต่อเนื่องไปจนถึงพระโขนง ถือว่าเป็นตลาดที่มีคอนโดปล่อยเช่าราคาค่อนข้างสูงโดยมีราคาตั้งแต่ 10,000 – 30,000 บาทต่อเดือน หรือค่าเช่าเฉลี่ยต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ต่อเดือนอยู่ที่ 700- 1,000 บาทต่อ ตร.ม. โดยเฉพาะในช่วงถนนเพลินจิตซึ่งมีค่าเช่าจะอยู่ที่ 1,000 บาทต่อ ตร.ม. ขณะที่โซนอ่อนนุช แบริ่ง และซอยลาซาล ไปจนถึง สำโรง ระดับค่าเช่าเฉลี่ยต่อ ตร.ม. ค่อนข้างต่ำ โดยมีค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 300 – 600 บาทต่อ ตร.ม.ต่อเดือน ซึ่งตลาดในโซนดังกล่าว ณ ปัจจุบันเป้ฯตลาดที่มีอัตราการขยายตัวที่ดีมาก 

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ตลาดในโซน ชานเมืองมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้เช่าห้องชุดในย่านใจกลางเมืองเริ่มทยอยย้ายออกไปเช่าห้องชุดในย่านอยู่อาศัยในย่านชานเมืองเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มตระหนักว่าการขยับออกมาเช่าห้องชุดอยู่ในโซนชานเมือง ซึ่งห่างออกไปจากย่าน ใจกลางเมือง หรือ ซีบีดี ไปอีกเพียง 5-6 สถานีรถไฟฟ้า สามารถลดค่าเช่าได้ห้องต่อเดือนกว่า50% 

จากการจัดเก็บข้อมูลของบริษัทพบว่า ตลาดห้องชุดปล่อยเช่าที่มีระดับราคาต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือนในปัจจุบัน มีอัตราการขยายตัวดีมาก เพราะได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าทั้งในกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าอัตราการปล่อยเช่าห้องชุดราคาต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน มีอัตราการปล่อยเช่าค่อนข้างเร็ว เมื่อเทียบกับห้องชุดที่มีราคา10,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ซึ่งมีอัตราการปล่อยเช่าที่ช้าลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น เพราะการเพิ่มขึ้นของซับพลายในพื้นที่ย่านใจกลางเมือง ส่งผลให้แนวโน้มราคาปล่อยเช่าห้องชุดในใจกลางเมืองปรับตัวลดลง 

“ห้องชุดปล่อยเช่า 10,000 – 20,000 บาทต่อเดือน มีอัตราการปล่อยเช่าช้าลง เมื่อเทียบกับห้องชุดราคาปล่อยเช่า 6,000 – 8000 บาท ซึ่งมีอัตราการปล่อยเช่าหรือระบายออกที่ดีมาก จากสถิติการปล่อยเช่าห้องชุดพบว่าอัตราว่างของห้องชุดระดับราคา 6,000 – 8,000 บาทต่อเดือน จะว่างเว้นการจัดการเช่าไม่เกิน 1 เดือน ขณะที่ห้องชุดที่มีค่าเช่า 10,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไปจะมีระยะเวลาว่างเว้นจากการเช่าที่เพิมมากขึ้นหรือปล่อยเช่าได้ยากขึ้น”

นายธนากล่าวว่า ทำเลที่มีอัตราการปล่อยเช่าของคอนโดที่ดีและรวดเร็ว คือ ทำเลยที่อยู่ติดกับสถาบันการศึกษา หรือมหาวิทยาลัย และทำเลที่ใกล้กับศูนย์การค้า เช่น ทำเลในย่าน ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว ต่อเนื่องไปจนถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และต่อเนื่องไปถึงย่านสะพานใหม่ และอีกโซนคือ ทำเลย่านรังสิต ซึ่งมีอัตราการปล่อยเช่าที่ดีมาก โดยกลุ่มลูกค้าที่นิยม เช่าห้องชุดในการพักอาศัยและเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด คือกลุ่มของนักเรียน นักศึกษา และพนักงานห้างสรรพสินค้าต่างๆ ซึ่งกลุ่มนี้จะมีกำลังในการซื้อหรือเช่าอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน

สำหรับผู้ซื้อคอนโดลงทุนปล่อยเช่า หากต้องการผลตอบแทนที่สูงต้องคำนึงว่าอัตราการปล่อยเช่าในกลุ่มตลาดระดับบนจะค่อนข้างช้า ขณะที่กลุ่มห้องชุดซื้อเพื่อลงทุนจับตลาดระดับกลาง – ล่าง กลับเป็นกลุ่มที่น่าลงทุนมากกว่า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้พัฒนาโครงการคอนโดพยายามหนีตลาดล่างขยับขึ้นไปพัฒนาห้องชุดในตลาดบน ทำให้ซับพลายตลาดบนมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โครงการที่เปิดตัวในช่วงก่อนหน้านั้นเริ่มทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จออกสู่ตลาดอย่างต่อนเนื่อง ทำให้ภายในตลาดมีปริมาณซับพลายทยอยเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดห้องชุดปล่อยเช่าปรับตัวสูงขึ้นไปด้วย แนวโน้มที่ลูกค้าจะมีการย้ายออก เพื่อไปเช่าห้องชุดใหม่เริ่มมีสูงขึ้น เนื่องจากโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จใหม่ส่วนใหญ่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีและหลากหลาย ซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าโครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้า

ขอบคุณข้อมูลจาก mgronline.com


ผวาผังเมืองกทม.  เอื้อทุนใหญ่ ยึดเมืองท่าเรือคลองเตย

สืบเนื่องจาก เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ปั้นอภิมหาโปรเจ็กต์มิกซ์ยูส ให้กลายเป็นทำเลทองแพงระยับ ตลอดแนวบนถนนพระราม 4 ไม่ว่าจะเป็นโครงการวันแบงค็อกมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท โครงการเดอะปาร์ค มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ฯลฯ ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง ล่าสุดยังแผ่ความเจริญออกไปยังพระราม 4 ฝั่งคลองเตย จากอานิสงส์ของอภิมหาโปรเจ็กต์ที่ว่า ด้วยการปรับปรุงผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครครั้งที่ 4 กำหนดให้ที่ดินบริเวณท่าเรือคลองเตย เป็นพื้นที่สีแดง พาณิชยกรรมสร้างตึกสูงมิกซ์ยูสได้เช่นเดียวกับย่านพระราม 4 ศูนย์กลางธุรกิจ

แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากความเจริญที่เกิดขึ้นบนถนนพระราม 4 ส่งผลให้ย่านพระราม 4 -คลองเตย ถูกยกระดับให้เป็นย่านธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะผังเมืองส่งเสริมให้พัฒนาได้มากขึ้น เพื่อความคุ้มค่าในแปลงที่ดิน โดยเฉพาะที่ดินของการท่าเรือฯ กว่า 2,000 ไร่ มีแผนพัฒนาเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยโรงแรมที่อยู่อาศัย ค้าปลีก โดยเฉพาะ ได้ปรับจากผังสีนํ้าเงิน (หน่วยงานราชการ) ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นพื้นที่สีแดง พาณิชยกรรม ขึ้นตึกสูงไม่จำกัด

จากปัจจุบันมีการใช้ที่ดินไม่เต็มศักยภาพ ทั้งที่แปลงที่ดินอยู่ในใจกลางเมือง ติดแม่นํ้าเจ้าพระยา แต่ติดปัญหาชาวชุมชนคลองเตย คัดค้านไม่เห็นด้วย หลังจากได้รับฟังความคิดเห็น โดยอ้างว่า กทม. วางผังเอื้อต่อนายทุน และเชื่อว่าทุนใหญ่ย่านพระราม 4 น่าจะสนใจพัฒนาให้ต่อเป็นเนื้อเดียวกัน

ด้านแหล่งข่าวจากการท่าเรือฯ สะท้อนว่าที่ดินกว่า 2,000 ไร่ การท่าเรือฯมีแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ ให้เอกชนร่วมลงทุน คอมเพล็กซ์ริมนํ้าขนาดใหญ่ ทั้งอาคารสำนักงาน ค้าปลีก โรงแรม รูปแบบมิกซ์ยูสแต่ไม่ละทิ้งชาวชุมชนอีกกว่า 10,000 ครอบครัว ที่อยู่อาศัยบนที่ดินของการท่าเรือฯมานาน โดยจะจัดหาที่อยู่อาศัยรองรับ

“คลองเตย (Smart Community) โครงการที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนโดยรอบพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ ตามนโยบายพัฒนาและบริหารพื้นที่โดยรวม บริเวณรอบนอกเขตรั้วกรมศุลกากร โดยพัฒนาเป็นอาคาร สูงสําหรับอยู่อาศัย ตามกรอบยุทธศาสตร์ 20 ปีของรัฐบาล เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน นำไปสู่การพัฒนาให้คนไทยมีความสุข สังคมมีความมั่นคง เสมอภาคและเป็นธรรม”

ที่ผ่านมาได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยส่วนใหญ่ยินยอมย้ายไปอยู่ที่ใหม่ แต่มีบางส่วนยังไม่ให้ความร่วมมือ

อย่างไรก็ตามปี 2563 หาก ผังเมืองกทม. บังคับใช้ ปรับพื้นที่คลองเตยเป็นย่านพาณิชย์ก็สามารถออกแบบรายละเอียด งบประมาณการลงทุน การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ก่อนที่จะเสนอขอจัดสรรงบประมาณไปดำเนินการในปี 2565 ต่อไป นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัทโมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนส์ จำกัด กล่าวว่า ราคาที่ดินบริเวณคลองเตย อยู่ที่ 5-7 แสนบาทต่อตารางวา ยังไม่สูงเท่ากับถนนพระราม 4 ทำเลของเจ้าสัวเจริญ ที่ที่ดินตกตารางวาละ 1-2 ล้านบาท แต่หากมีการพัฒนาเป็นเชิงพาณิชย์ปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นพาณิชยกรรมแล้วประเมินว่าราคาจะไม่ต่างจาก พระราม 4 สยามสแควร์ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


นักวิเคราะห์ชื่อดังชี้! iPhone ปี 2020 จะมีติ่งหน้าจอเล็กลง และอาจใช้จอเต็มไร้ติ่งในปี 2021

นักวิเคราะห์ชื่อดังชี้! iPhone ปี 2020 จะมีติ่งหน้าจอเล็กลง และอาจใช้จอเต็มไร้ติ่งในปี 2021

Ming-Chi Kuo น้กวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ Apple ชื่อดังจาก TF Securities ได้เปิดเผยว่า iPhone ที่จะเปิดตัวในปี 2020 จะมีกล้องหน้าเล็กลง ซึ่งจะส่งผลทำให้ส่วนเว้าด้านบนหน้าจอมีขนาดเล็กลง และเพิ่มพื้นที่การทำงานบนหน้าจอมากขึ้น

เขาได้กล่าวเสริมว่า iPhone ที่จะเปิดตัวในปี 2020 จะมีกล้องหลังระบบเลนส์ 7 ชิ้น อีกด้วย

นอกจากนี้ Ming-Chi Kuo ยังได้คาดการณ์ว่า iPhone รุ่นแรกที่จะใช้ดีไซน์จอเต็ม ไม่มีส่วนเว้าใดๆ บนหน้าจอ จะได้รับการเปิดในปี 2021 ซึ่งสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า Apple มีแผนจะติดตั้งเซนเซอร์สแกนนิ้วลายนิ้วมือบนหน้าจอสำหรับ iPhone ที่จะวางจำหน่ายในประเทศจีน

ถ้าหากข้อมูลดังกล่าวเป็นจริง ก็จะทำให้ iPhone ที่จะวางจำหน่ายในประเทศจีนมีราคาถูกลง เพื่อแข่งกับสมาร์ตโฟนเรือธงระบบ Android ในช่วงราคา 5,000 หยวน (ประมาณ 22,300 บาท) ได้

Apple เตรียมเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ปี 2019 (อาจเรียกว่า iPhone 11, iPhone 11R และ iPhone 11 Max) ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2019 นี้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ส่องทำเนียบ 5 นักเตะไทยที่มีมูลค่ามากสุด

ส่องทำเนียบ 5 นักเตะไทยที่มีมูลค่ามากที่สุดในปัจจุบัน โดยอันดับหนึ่งเป็นไปตามที่คาด นั่นคือ “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ห้องเครื่องร่างเล็กจาก “ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร”

เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮาเมื่อ “Transfermarkt” เว็บไซต์ประเมินค่าตัวนักฟุตบอลทั่วโลก ที่ออกมาตีค่าตัวของ “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางทีมชาติไทยแห่งค่าย “เจ้านกฮูก” ฮอกไดโด คอนซาโดเล ซัปโปโร ทีมดังแห่งศึกเจลีก ลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น จากเดิมที่มีมูลค่า 1.5 ล้านยูโร พุ่งไปเป็น 2.2 ล้านยูโร ในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น และเขาคือนักเตะที่มีมูลค่ามากที่สุดของประเทศไทย

ต่อมารายที่สองนั่นคือ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าจาก “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (โตโยต้า ไทยลีก) 900,000 ยูโร จากนั้นอันดับที่ 3 ได้แก่ ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายตัวยืมจาก โยโกฮามา เอฟ มารินอส (เจลีก) 800,000 ยูโร

ขยับมาที่รายที่สี่อย่าง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองหน้าสัญญาเช่าจาก ทรินิตะ โออิตะ (เจลีก) 600,000 ยูโร และปิดท้ายด้วย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ แห่งค่าย โอเอช ลูเวิน 500,000 ยูโร (ดิวิชั่น 2 เบลเยียม)

แต่ทว่าข้อมูลตัวเลขดังกล่าวนั้นเป็นเพียงการประเมินคร่าวๆ เท่านั้น ซึ่งการย้ายทีมอาจมีมูลค่าสูงมากกว่านี้โดยขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย ทั้งฟอร์มการเล่น, ภาพลักษณ์ทั้งในและนอกสนาม และอื่นๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


เตือนชาไข่มุก น้ำตาลสูง แนะบริโภคอย่างเหมาะสม

เตือนชาไข่มุก น้ำตาลสูง แนะบริโภคอย่างเหมาะสม thaihealth

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเผยผลสุ่มตรวจพบ 23 ตัวอย่าง มีน้ำตาลเกินมาตรฐาน มากสุดถึง 18.5 ช้อนชา หมอแนะเสี่ยงเบาหวานและโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการทำแก้วเล็กลดการบริโภค ทำฉลากสินค้าแบบสัญญาณไฟจราจร

ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดยโครงการเฝ้าระวังสินค้าและบริการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ สุ่มเก็บตัวอย่างชานมไข่มุกในเดือนพฤษภาคม 2562 จำนวน 25 ยี่ห้อ ขนาดแก้วปกติ แบบไม่ใส่น้ำแข็ง ที่มีราคาตั้งแต่แก้วละ 23-140 บาท ส่งตรวจวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ ได้แก่ ปริมาณพลังงาน น้ำตาล และไขมัน รวมถึงทดสอบหาโลหะหนักประเภทตะกั่ว และสารกันบูดในเม็ดไข่มุก

จากผลทดสอบ พบน้ำตาลเกินมาตรฐานกว่า 92% หรือ 23 ยี่ห้อ โดยปริมาณน้ำตาลต่อแก้วน้อยที่สุดเท่ากับ 16 กรัม (4 ช้อนชา) และยี่ห้อที่มีปริมาณน้ำตาลต่อแก้วมากที่สุดมีปริมาณน้ำตาลกว่า 74 กรัม (18.5 ช้อนชา) ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำปริมาณน้ำตาลที่ได้รับต่อวัน ไม่ควรเกิน 24 กรัม (6 ช้อนชา)

ขณะที่ผลการทดสอบสารกันบูดประเภทกรดเบนโซอิก (Benzoic Acid) และกรดซอร์บิก (Sorbic Acid) ในเม็ดไข่มุก พบในตัวอย่าง 100% โดยปริมาณสารกันบูดน้อยที่สุด มีปริมาณกรดซอร์บิก เท่ากับ 58.39 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และยี่ห้อที่พบปริมาณสารกันบูดรวมมากที่สุด พบปริมาณกรดเบนโซอิกและกรดซอร์บิกรวมกัน เท่ากับ 551.09 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แต่ไม่เกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฉลาดซื้อ กล่าวในงานแถลงข่าว ฉลาดซื้อ เผยผลทดสอบ “น้ำตาล และ สารกันบูด” ในชานมไข่มุก 25 ตัวอย่าง ว่า การทดสอบดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพสินค้าที่จำหน่ายในท้องตลาด ยกระดับคุณภาพ ความปลอดภัยด้านอาหารแก่ผู้บริโภค และเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการบริโภคได้มากขึ้น สังเกตว่าทุกยี่ห้อมีสารกันบูด แต่ไม่มียี่ห้อไหนที่ให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภค

“ในชานมไข่มุกมีสารกันบูด จึงขอให้ผู้ประกอบการระบุในฉลากให้ถูกต้อง ตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาด้วย ทั้งนี้ อยากฝากข้อเสนอไปถึงผู้ประกอบการให้ปรับลดขนาดปริมาณต่อแก้ว (Serving Size) ลงให้เหมาะสม เพื่อควบคุมไม่ให้ผู้บริโภคได้รับปริมาณพลังงานและน้ำตาลต่อแก้วสูงจนเกินไป เพราะเมื่อผู้บริโภคซื้อชานมไข่มุก ก็อาจบริโภคจนหมดแก้วเพราะความเสียดาย ทำให้พลังงานและน้ำตาลที่ได้รับในหนึ่งมื้อนั้นมากจนเกินความจำเป็น และ อย.ควรเร่งผลักดันให้เกิดฉลากสัญญาณไฟจราจร เขียว เหลือง แดง เพื่อทำให้เกิดการปรับปรุงคุณภาพอาหารให้เป็นมิตรกับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น” น.ส.สารี กล่าว

นายพชร แกล้วกล้า นักวิชาการด้านอาหาร มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวเสริมว่า ฉลากแบบสัญญาณไฟจราจร คือ ฉลากโภชนาการแบบจีดีเอ (Guidline Daily Amounts : GDA) หรือฉลากหวานมันเค็ม มีพื้นฐานในประเทศอังกฤษมากว่า 20 ปี ตอนนี้ทุกห้างติดสินค้าแบบนี้หมด หลักเกณฑ์ง่ายๆ คือ การนำข้อมูลโภชนาการหลังซองมาไว้หน้าซองให้เข้าใจง่าย

โดย สีแดง หมายถึง มีปริมาณที่มากกว่าเกณฑ์ ควรหลีกเลี่ยงในการรับประทานครั้งต่อไป สีเหลือง หมายถึง สูงระดับพอดีเกณฑ์ ควรระมัดระวังในการรับประทานครั้งต่อไป หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง และสีเขียว หมายถึง สามารถรับประทานได้ แต่ไม่ควรเกิน 2 ครั้ง ใน 1 วัน เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกได้อย่างเหมาะสม และผู้ผลิตจะเกิดความตระหนักในการปรับลดสินค้าให้ปลอดภัยมากขึ้น

ด้าน ทพญ.มัณฑนา ฉวรรณกุล รองผู้จัดการโครงการ เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกแนะว่า ไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา (24 กรัม) แต่ผลทดสอบชานมไข่มุก ยี่ห้อที่มีน้ำตาลน้อยสุด คือ 16 กรัม (4 ช้อนชา) และมากสุด คือ 74 กรัม (18.5 ช้อนชา) ซึ่งเกินกว่าปริมาณที่ควรได้รับถึง 3 เท่า และแม้เครื่องดื่มจะมีน้ำตาลน้อยกว่า 24 กรัม แต่ก็พบว่า ในหนึ่งแก้วเราได้บริโภคน้ำตาลที่กำหนดต่อวันไปแล้ว 2 ใน 3 ยังไม่รวมน้ำตาลที่อยู่ในอาหารอื่นๆ เครื่องดื่มเหล่านี้เป็นเครื่องดื่มที่ควรงดการดื่ม เพราะเป็นแหล่งอุดมน้ำตาล ซึ่งปริมาณน้ำตาลที่สูงหากได้รับในคราวเดียว จะรบกวนระบบการ Metabolite สาเหตุของกลุ่มโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต (NCDs) รวมถึงฟันผุ และโรคอ้วนก็มีความเกี่ยวเนื่องเช่นกัน

“สิ่งที่ทางเครือข่ายพยายามรุกคืบ คือ สร้างความตระหนักให้สังคมรับรู้ว่าไม่ควรเอาสารพิษเหล่านี้เข้าไปในร่างกาย พร้อมชวนร้านกาแฟลดขนาดแก้วให้เล็กลง เพื่อลดการบริโภค ทั้งนี้ การลดปริมาณน้ำตาลลง คือ การลดต้นทุน แต่สิ่งที่ร้านยังกังวล คือ กลัวรสชาติไม่อร่อย เพราะลูกค้าหลายคนติดหวานกลัวขายไม่ได้” ทพญ.มัณฑนากล่าว

ทพญ.มัณฑนา กล่าวอีกว่า ขณะที่ผู้บริโภคเองควรตระหนัก วิธีที่ช่วยป้องกันคือ การออกกำลังกาย แต่อาจจะยากลำบากสำหรับหลายคน ดังนั้น อาจเลือกรับประทานในขนาดที่เล็กลง หรือเลือกหวานน้อย นอกจากนี้ ทางเครือข่ายยังทำโครงการโรงเรียนโรงอาหารอ่อนหวาน ดูปริมาณแคลอรี่ น้ำตาล ไขมัน ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม มีแกนนำนักเรียนให้ความรู้ และบริโภคตามคำแนะนำ สิ่งสำคัญคือผู้ปกครองที่ต้องช่วยดูแลโภชนาการนอกรั้วโรงเรียน

สำหรับชานมไข่มุกซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศไต้หวัน กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยและทั่วโลก ตลาดรวมชานมไข่มุกทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 6.25 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในปี 2566 มูลค่าจะอยู่ที่ 1.03 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดชานมไข่มุกในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 2.5 พันล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,400.00 20,500.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,321.00 20,026.36 21,000.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,188.90 18,023.72 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,056.80 16,021.09 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 594.00 9,005.04 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 462.00 7,003.92 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,369.00 20,754.04 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 12/07/2562 

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85
แก๊สโซฮอล์ 91 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58
แก๊สโซฮอล์ E20 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84
แก๊สโซฮอล์ E85 20.09 20.09 20.09
เบนซิน 95 35.26 35.71 35.76 35.56 35.56
ดีเซล 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59
ดีเซลพรีเมี่ยม 25.59 25.59
แก๊ส NGV 15.88 15.88
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า