“CHEWA” เดินหน้าเปิดตัวโครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์
“ชีวาทัย” เปิดโครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์ จับมือกับ COMMAX โชว์เทคโนโลยี Home Automation พร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอีกมากมาย พร้อมลุยเปิดโครงการในช่วงครึ่งปีหลังอีก 7 โครงการ หนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์ โดยบริษัทยังได้ร่วมมือกับบริษัท COMMAX Company Limited เพื่อนำเทคโนโลยี Home Automation เช่น Smart Home Control, Gate Barrier Camera, Bluetooth Lift Control พร้อมฟังก์ชันเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกโครงการดังกล่าวอีกมากมาย และนอกจากโครงการดังกล่าวบริษัทยังได้ร่วมมือกับ COMMAX เพื่อนำเทคโนโลยี Home Automation เข้าไปใช้ในโครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า อีกด้วย
สำหรับโครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์ เป็นคอนโดมิเนียมแบบอาคารสูง 25 ชั้น โดยมีจำนวนห้อง 649 ยูนิต พร้อมร้านค้า 5 ร้านในโครงการ ซึ่งมีที่จอดรถอยู่ที่ 49% ของโครงการ พร้อมทั้งโครงการดังกล่าวมีพื้นที่โครงการ 5-0-42.1 ไร่
อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการอีกมากมาย ได้แก่ Stylish Lobby, Sky Infinity Edge Pool, Serene Garden, Private Vertical Garden, Active Studio, Inspirational Library,Co-Learning& Co-Working Hub, Lifestyle Shop, Home Automation และ Shuttle Service รวมทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัย ได้แก่ ระบบคีย์การ์ดบริเวณทางเข้าอาคาร, ระบบกล้อง CCTV พร้อมพนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมทั้งยังมีสถานที่ใกล้เคียง ได้แก่ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว,เมเจอร์รัชโยธิน,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยศรีปทุม,โรงพยาบาลวิภาวดี, โรงพยาบาลเปาโล,รถไฟฟ้าสถานีแยกเกษตร, รถไฟฟ้าสถานีบางบัว และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เป็นต้น
ขณะที่ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยปีนี้ โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลายประการ ทั้งมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เข้มงวดมากขึ้น ทั้งความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐฯที่อยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงภาษี ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ที่คาดว่าจะประกาศใช้ในปี 2563 ซึ่งยังคงอยู่ขั้นตอนการวางแผนและยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจากการที่ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้นด้วย และตลาดอสังหาฯในกรุงเทพมหานครมีการแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดคอนโดมีเนียมระดับบน ทำให้ต้องระมัดระวังในการสรรหาที่ดินที่มีศักยภาพมากขึ้น รวมไปถึงการมองหาที่ดินเพื่อขยายตัวไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ โดยมีแผนการสำรวจข้อมูลการขายและการตลาดในย่านนั้นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้ออย่างละเอียด
พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนในการเปิดตัวโครงการสำหรับครึ่งปีหลังของปี 2562 โดยในไตรมาส3/62 บริษัทวางแผนเปิดโครงการ 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์ มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท, 2. โครงการชีวารมย์ นครอินทร์ มูลค่าโครงการ 1,593 ล้านบาท และ 3. โครงการชีวา บิซ โฮม เอกชัย-บางบอน มูลค่าโครงการ 765 ล้านบาท
ส่วนโครงการที่จะเปิดตัวในไตรมาส4/62 มีจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า มูลค่าโครงการ 1,587 ล้านบาท, 2.โครงการฮอลล์มาร์ค จรัญ13 มูลค่าโครงการ 430 ล้านบาท, 3.โครงการชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุมธานี มูลค่าโครงการ 903 ล้านบาท, และ4.โครงการ ฮาร์ท สุขุมวิท 36 มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท
“ปฏิเสธไม่ได้ว่าปีนี้เป็นปีที่ท้าทายสำหรับดีเวลล็อปเปอร์มาก และคาดว่าจะได้เห็นสงครามราคาในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อเร่งระบายสินค้าคงเหลืออย่างแน่นอน แต่สำหรับชีวาทัยเราไม่มีนโยบายเทขายตัดราคา เนื่องด้วยบริษัทสามารถบริหารจัดการสินค้าคงเหลือได้ดี โดยจะเห็นได้ว่าหลายๆ โครงการได้ชะลอการเปิดตัวโครงการไปบ้างเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม ซึ่งชีวาทัยได้เตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์เพื่อให้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ในเชิงรับตามภาวะตลาดในปัจจุบัน”นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ตลาดบ้าน-คอนโดโคราช เหลือขายกว่า 40%
คอลัมน์พร็อพเพอร์ตีโฟกัส
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานผลการสำรวจอุปทานและอุปสงค์โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดนครราชสีมา ครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่อำเภอเมืองนครราชสีมา และอำเภอปากช่อง พบว่ามีจำนวน 139 โครงการ มีหน่วยในผังของทุกโครงการรวมกัน 16,882 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 77,338 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 6,939 หน่วย หรือ 41.1% ของหน่วยในผังโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 32,840 ล้านบาท
แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 97 โครงการ มีจำนวนหน่วย 11,789 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 47,016 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายเป็นอุปทานในตลาด 4,775 หน่วย หรือ 40.5% ของหน่วยในผังโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 19,220 ล้านบาท
โครงการอาคารชุด จำนวน 28 โครงการ มีจำนวนหน่วย 4,562 หน่วย มูลค่าโครงการรวม15,812 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 1,881 หน่วย หรือ 41.2% ของหน่วยในผังโครงการอาคารชุดทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 5,707 ล้านบาท
โครงการวิลล่า จำนวน 14 โครงการ มีหน่วยในผังจำนวน 531 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 14,510ล้านบาท หน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 283 หน่วย หรือ 53.3% ของหน่วยในผังโครงการวิลล่าทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 7,913 ล้านบาท
ทั้งนี้ หน่วยในผังโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุด จำนวน 6,656 หน่วย เป็นบ้านเดี่ยวมากที่สุด52.3% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท รองลงมาเป็นอาคารชุด 28.3% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1.5 – 2 ล้านบาท เป็นที่ดินเปล่า 7.1% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท เป็นทาวน์เฮาส์ 4.9% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และบ้านแฝดตามลำดับ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
หุ้นสหรัฐปิดพุ่ง/ทองบวก/น้ำมันร่วงแรง
ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 311.78 จุด ทองคำบวก 7.70 ดอลลาร์ น้ำมันร่วงแรง 1.06 ดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,029.52 จุด พุ่งขึ้น 311.78 จุด หรือ +1.21% ขณะที่ดัชนี เอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,881.77 จุด เพิ่มขึ้น 37.03 จุด หรือ +1.30% ส่วนดัชนี แนสแดค ปิดที่ 7,833.27 จุด พุ่งขึ้น 107.23 จุด หรือ +1.39%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนวันที่ 6 ส.ค. หลังจากจีนได้ออกมาเคลื่อนไหวในเชิงบวกด้วยการสร้างเสถียรภาพเงินหยวน ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนจะใช้หยวนเป็นเครื่องมือในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงเปิดกว้างในการทำข้อตกลงการค้ากับจีน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 53.63 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 58.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,484.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
สัตวแพทย์ยัน “หมัดแมว” กัดไม่ทำให้ตาย
สัตวแพทย์ยืนยัน “หมัดแมว” กัดไม่ทำให้ตาย แต่อาจคัน เกิดตุ่ม หรือมีอาการแพ้จากน้ำลาย-ขี้หมัดได้ อาจเกิดทันทีใน 2-4 ชม.หรือเป็นวัน แต่ไม่เคยพบแพ้รุนแรงถึงขั้นตาย แต่หมัดนำเชื้อโรคอื่นได้ ทั้งไข้รากสาดใหญ่ พยาธิตัวตืด ย้ำต้องป้องกันไม่ให้สัตว์มีหมัด
สพ.ญ.รัตนพร ตั้งวังวิวัฒน์ นายสัตวแพทย์ กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีนักเรียนหญิง ม.5 ถูกหมัดแมวกัด ติดเชื้อในกระแสเลือดเสียชีวิต ว่า โดยปกติแล้วยังไม่มีรายงานว่า หมัดกัดแล้วทำให้เสียชีวิต ส่วนตามข่าวที่ว่าติดเชื้อในกระแสเลือด ก็ยังไม่แน่ใจว่า เกิดจากหมัดแมวจริงหรือไม่ ต้องสอบสวนโรคและวินิจฉัยเพิ่มเติม แต่ยืนยันว่าการถูกหมัดกัดไม่ทำให้เสียชีวิต แต่ส่วนใหญ่จะมีอาการคัน เกิดตุ่มแดงบริเวณที่ถูกกัด โดยอาจเกิดขึ้นทันที หรือ 2-4 วันหลังจากถูกกัด บางรายอาจเกิดอาการแพ้บริเวณผิวหนัง จากการสัมผัสน้ำลายหมัดหรือขี้หมัด โดยเฉพาะบริเวณข้อมือ ข้อเท้า ที่สัมผัสกับสัตว์ โดยอาการแพ้อาจเกิดขึ้นภายใน 2-4 ชั่วโมงหลังถูกกัดหรือใช้เวลาเป็นวัน แต่ยังไม่พบรายงานการแพ้อย่างรุนแรง ที่ทำให้ช็อกหรือเสียชีวิตเลย
สพ.ญ.รัตนพร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เห็บและหมัดถือเป็นพาหะนำเชื้อโรคไปสู่สัตว์ตัวอื่นและนำมาติดต่อสู่คนได้ ผ่านทางน้ำลายหมัด เช่น เชื้อโรคไข้รากสาดใหญ่ที่ติดมาจากหนู ทำให้ปวดศีรษะ มีไข้ คลื่นไส้ หรือโรคพยาธิตัวตืด เป็นต้น เพราะหมัดไม่ได้อยู่แค่ในแมว แต่อยู่ได้ทั้งในสุนัข สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ฟันแทะ และสัตว์มีกีบ หรือแม้แต่การติดเชื้อในสัตว์เอง เช่น พยาธิเม็ดเลือดที่ทำให้สุนัขตาย เป็นต้น ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ การป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงไปสัมผัสกับหมัด เพราะหากมีหมัดแล้วก็จะวนเวียนอยู่ในบ้าน และเกิดขึ้นเรื่อยๆ ต้องรีบกำจัดหมัดทั้งในตัวสัตว์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำได้โดยการอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง และใช้ยาป้องกันเห็บหมัด ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อ โดยออกฤทธิ์อยู่ได้นาน 30-40 วัน โดยสามารถให้สัตว์แพทย์หยอดให้หรือซื้อยาหยอดที่ได้มาตรฐานมาหยอดทุกเดือน ที่สำคัญอย่าเห็นแก่ของราคาถูกและไม่ได้มาตรฐาน เพราะอาจทำให้สัตว์พิการหรือตายอย่างที่เคยเป็นข่าวได้
สพ.ญ.รัตนพร กล่าวว่า ส่วนวงจรชีวิตของหมัดมี 4 ระยะ คือ ตัวไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย ตัวที่กัดเราคือโตเต็มวัย สามารถอยู่ในบ้านในสิ่งแวดล้อมได้นาน ส่วนใหญ่ถ้าบ้านรกๆ หมัดจะชอบขึ้นไปสะสมตามมุมบ้าน จึงต้องทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมในบ้านด้วย ส่วนสัตว์เลี้ยงก็ต้องคอยสำรวจไม่ให้หมัด อย่างเจ้าของบางคนไม่รู้ว่าสัตว์ตัวเองมีหมัด โดยเฉพาะตัวขนยาว อย่างแมวเปอร์เซีย ต้องทำการเปิดขนใต้ท้อง ซึ่งอาจเห็นเป็นขีดเล็ก บางคนคิดว่าอาจเลอะอะไร แต่จริงๆ แล้วคือหมัด ส่วนการกำจัดหากจับทิ้งข้างๆ หมัดก็มีโอกาสกระโดดกลับเข้ามาอีก แต่ต้องทิ้งในน้ำผสมสบู่หรือยาเพื่อให้ตาย ทั้งนี้ ย้ำว่าเราอยู่กับสัตว์เลี้ยงได้ แต่ต้องป้องกันไม่ให้มีหมัด และต้องระวังการแพ้ในทารก หรือคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ส่วนหมัดและเห็บจะต่างกัน คือ หมัดจะเคลื่อนไหวเร็ว ตัวแบน ส่วนเห็บจะเคลื่อนไหวช้ากว่า มีตัวผู้ตัวเมีย ส่วนใหญ่ที่เห็นดูดเลือดจนตัวใหญ่จะเป็นตัวเมีย
สพ.ญ.รัตนพร กล่าวว่า สำหรับยากำจัดหมัดนั้นหากเป็นแบบฉีดพ่นจะต้องรอให้หมัดมาติดและกัดสัตว์เลี้ยงก่อน ไม่ได้มีผลในการป้องกัน ส่วนยาหยอดจะช่วยป้องกันหมัดได้ โดยจะหยอดที่หลังคอ โดยยาจะไปที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนังและออกฤทธิ์ช่วยฆ่าและป้องกันหมัด
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
“สามัคคีวิทยาคม” ซิวแชมป์บาสฯสพฐ.-โมโน ภาคเหนือ
สรุปผลศึกบาสเกตบอลเยาวชน “สพฐ.-โมโน แชมเปียนคัพ 2019” (ครั้งที่3) ภาคเหนือ ทั้ง 6 รุ่น…
วันที่ 6 ส.ค. 62 การแข่งขันบาสเกตบอลนักเรียนชิงชนะเลิศระดับภูมิภาคและระดับประเทศ “สพฐ.-โมโน แชมเปียนคัพ 2019” (ครั้งที่ 3) เพื่อสนับสนุนให้เด็กไทยทั่วทุกภูมิภาค มีศักยภาพในการเล่นกีฬาบาสเกตบอล และพัฒนานักกีฬาบาสเกตบอล ให้ก้าวสู่กีฬาบาสเกตบอลอาชีพได้ในอนาคต ซึ่งเปิดรับสมัครทีมบาสเกตบอลเยาวชนและนักเรียนทั้งชายและหญิง จำนวน 6 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุ 14 ปี, อายุ 16 ปี, อายุ 18 ปี ทั่วประเทศ
การแข่งขันคัดเลือกใน “ภาคเหนือ” มี 17 จังหวัด คือ เชียงราย, เชียงใหม่, พะเยา, แพร่, น่าน, ลำพูน, ลำปาง, แม่ฮ่องสอน, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, สุโขทัย, กำแพงเพชร, ตาก, อุตรดิตถ์, เพชรบูรณ์ และอุทัยธานี ได้สิ้นสุดการแข่งขันลงแล้ว โดยภาคเหนือจัดแข่งเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม-5 สิงหาคม 2562 โดยมี 2 สนามการแข่งขันคือ สนามที่โรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี และสนามกีฬากลางจังหวัดอุตรดิตถ์
สรุปทีมแชมป์ทั้ง 6 รุ่นของภาคเหนือ มีดังนี้
รุ่นอายุ 14 ปีหญิง ชนะเลิศ ร.ร.ดาราวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
รุ่นอายุ 14 ปีชาย ชนะเลิศ ร.ร.พะเยาพิทยาคม จ.พะเยา
รุ่นอายุ 16 ปีหญิง ชนะเลิศ ร.ร.ดาราวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
รุ่นอายุ 16 ปีชาย ชนะเลิศ ร.ร.มงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
รุ่นอายุ 18 ปีหญิง ชนะเลิศ ร.ร.สตรีนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์
รุ่นอายุ 18 ปีชาย ชนะเลิศ ร.ร.สามัคคีวิทยาคม จ.เชียงราย
ทั้งนี้ การแข่งขัน “รอบชิงชนะเลิศในระดับประเทศ” แข่งระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน 2562 ที่สนามจีเอสบี สเตเดียม 29 ถนนชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
สิริ เวนเจอร์ส โชว์ล้ำ“รถยนต์ไร้คนขับ”-“โดรนเดลิเวอรี่”
สิริ เวนเจอร์ส เผยแผนทดสอบนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยใน SIRI VENTURES Private PropTech Sandbox เปิดตัว 3 สตาร์ทอัพแห่งอนาคต AIROVR เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ Fling นวัตกรรมโดรนเดลิเวอรี่ และ SoundEye ระบบเซนเซอร์รักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ตรวจสอบเสียงผิดปกติ นำร่องพัฒนาและทดลองใช้จริงเป็นกลุ่มแรก จับมือ สวทช. สร้าง 3D Mapping เชื่อมโยงรถยนต์ไร้คนขับ เตรียมทดลองวิ่งจริงไตรมาส 4 นี้ ครึ่งปีหลังจ่อลงทุนในสตาร์ทอัพ 4 ด้าน รวมมูลค่าการลงทุนกว่า600 ล้านบาท
นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด (SIRI VENTURES)เปิดเผยว่า หลังจากได้ประกาศแผนจัดพื้นที่เฉพาะสำหรับทดสอบ พัฒนา และประมวลเสมือนจริงของเหล่าสตาร์ทอัพเพื่อต่อยอดนวัตกรรมสำหรับการพักอาศัยสำหรับลูกบ้านแสนสิริ ภายใต้ชื่อ “SIRI VENTURES Private PropTech Sandbox” เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ 3 สตาร์ทอัพศักยภาพ เพื่อเข้าร่วมพัฒนาและทดลองใช้นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยแห่งอนาคตในช่วงครึ่งปีหลัง ภายในพื้นที่ SIRI VENTURES Private PropTech Sandbox ที่โครงการ T77
สำหรับนวัตกรรมที่จะเข้ามาพัฒนาและทดลองใช้ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ 1.รถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Car)ภายใต้ความร่วมมือกับ AIROVR สตาร์ทอัพผู้พัฒนาระบบสำหรับรถยนต์ไร้คนขับสัญชาติไทย และ สวทช. ในฐานะหน่วยงานชั้นนำของประเทศในด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ โดยAIROVR จะพัฒนาระบบที่จำเป็นสำหรับ “รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ” ในการขนส่งผู้โดยสารจากโครงการที่อยู่อาศัยไปยังรถไฟฟ้า (First Mile Transportation) และการขนส่งจากรถไฟฟ้ากลับมายังโครงการที่อยู่อาศัย (Last Mile Transportation) ขณะที่ สวทช. จะช่วยพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่จำเป็น ได้แก่ ระบบ Drive-by-Wire การบูรณาการเซนเซอร์สำหรับรถยนต์ไร้คนขับ ระบบบ่งชี้ตำแหน่งและการนำทาง ระบบควบคุมและสั่งการ และ แผนที่ 3D ความละเอียดสูง เพื่อให้สามารถวิ่งได้จริงในโครงการ T77
“เรื่องการขนส่ง First Mile and Last Mile Transportation เป็นเรื่องที่เริ่มเกิดขึ้นจริงแล้วในต่างประเทศ เรามองเห็นโอกาสที่จะร่วมส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริงในไทย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายของการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิต เริ่มต้นจากการนำร่องทดลองวิ่งเฉพาะภายในโครงการT77 ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งถือเป็นการทดลองวิ่งรถยนต์ไร้คนขับเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในไทย” นายจิรพัฒน์ กล่าว
2.โดรน เดลิเวอรี่ (Drone Delivery) ภายใต้ความร่วมมือกับ Fling สตาร์ทอัพผู้พัฒนาโดรนสัญชาติไทย โดย Fling จะนำโดรนมาใช้ทดลองส่งสินค้าจาก Habito Mall ไปยังโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริในพื้นที่โครงการ T77 คาดว่าจะเริ่มทดลองได้ หลังจากผ่านขั้นตอนการขออนุญาตหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3.การดูแลรักษาความปลอดภัย (Security) ภายใต้ความร่วมมือกับ SoundEye สตาร์ทอัพผู้พัฒนาแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (AI) พร้อมเทคโนโลยีเรียนรู้เสียงต่างๆ เพื่ออาคารอัจฉริยะ (Smart Building) รายแรกของโลก ที่ผ่านมา ไมโครโฟนเซนเซอร์ของ SoundEye ได้เข้าไปมีส่วนช่วยตรวจจับเสียงผิดปกติ อาทิ เสียงร้องขอความช่วยเหลือ เสียงน้ำรั่วซึม เสียงปืน ในอาคารประเภทต่าง ๆ มาแล้วหลายแห่งในสิงคโปร์ รวมถึงในสนามบินชางฮี โดยจะเริ่มทดลองในพื้นที่โครงการ T77ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งถือเป็นการทดลองใช้ระบบของ SoundEye ครั้งแรกในโครงการที่อยู่อาศัยอีกด้วย
“หากสามารถพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ได้จริงในอนาคต เราอาจเห็นรถยนต์ไร้คนขับ ไปจนถึงโดรนที่เป็น Air Taxi เข้ามา Disrupt เทรนด์การใช้ชีวิต (Living Trends) ให้มีความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจุดประกายแนวทางการยกระดับวงการขนส่งไทย และขณะเดียวกัน ยังสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย เพราะการเดินทางของผู้บริโภคจะสะดวกสบายมากขึ้น จนทำเลไม่ใช่ปัจจัยหลักของการเลือกที่อยู่อาศัย ดังนั้น การเป็นพันธมิตรระหว่าง สิริ เวนเจอร์ส สวทช. และสตาร์ทอัพทั้ง 3 ด้านในครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญ”นายจิรพัฒน์ ย้ำ
ด้าน ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สำนักงานได้มีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่มาอย่างต่อเนื่อง นับจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า จนมาถึงรถยนต์ไร้คนขับ นอกจากนี้ เรายังมีความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม เพื่อผลักดันนโยบายและกฎระเบียบต่างๆ ในการสนับสนุนและเตรียมความพร้อมประเทศไทยต่อการเข้ามาของเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับในอนาคตอันใกล้นี้ อีกทั้งเรายังได้เตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ เช่น ศูนย์เฉพาะทางด้านระบบรางและการขนส่งสมัยใหม่ (Focused Center on Rail and Modern Transport) ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและศูนย์ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) เป็นต้น ความร่วมมือกับ บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด และ AIROVR ในวันนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่จะได้นำเทคโนโลยีที่ สวทช. วิจัยและพัฒนา มาสาธิตการใช้งานในสภาพแวดล้อมจริง เพื่อประโยชน์แก่ทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชน อีกทั้งการจัดทำ 3D Mapping ของโครงการ T77 สามารถนำไปเชื่อมโยงกับ “รถยนต์ไร้คนขับ” ของ AIROVR และ “โดรน เดลิเวอรี่” ของ Fling เพื่อนำไปใช้ในโครงการนำร่องได้อย่างเป็นรูปธรรม
“วันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มาร่วมมือกับ สิริ เวนเจอร์ส และพันธมิตรสตาร์ทอัพ ทำให้โครงการนำร่องนี้เกิดขึ้นได้จริงเป็นครั้งแรกของไทย เพราะเรื่องรถยนต์ไร้คนขับและโดรนไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้ว หลายๆ ประเทศกำลังศึกษาและพัฒนาทั้ง 2 เรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม หากวันนี้เรามีก้าวแรกที่ดี เชื่อว่าเรายังสามารถพัฒนาและประยุกต์รถยนต์ไร้คนขับและโดรนไปพลิกโฉมการใช้ชีวิตของผู้คนได้อย่างมหาศาล” ดร.เจนกฤษณ์กล่าว
นายจิรพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 บริษัทยังมีแผนจะลงทุนในสตาร์ทอัพใน 4ด้าน ภายใต้งบลงทุน 600 ล้านบาท ได้แก่ 1.เทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง (ConsTech) ในสัดส่วน 20%ของงบลงทุน มุ่งเน้นเทคโนโลยีที่ช่วยควบคุมคุณภาพการก่อสร้าง (QC) 2.เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน (Sustainablity) ในสัดส่วน 30% มุ่งเน้นด้านการใช้ทรัพยากรอย่างฉลาดและการกำจัดของเสียที่มีประสิทธิภาพ 3.เทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ (PropTech) ในสัดส่วน 20% มุ่งเน้นด้านรูปแบบการใช้ชีวิตแบบใหม่และ Tokenization และ 4.เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยและสุขภาพ (LivingTech & HealthTech) ในสัดส่วน 30% มุ่งเน้นด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย โดยเฉพาะเรื่องการใช้เสียง ปัจจุบันมีสตาร์ทอัพหลายรายที่ผ่านการพิจารณามาถึงขั้นทดสอบความเป็นไปได้ (Proof of Concept)
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 การดำเนินงานของบริษัทถือว่าประสบความสำเร็จและมีความคืบหน้าอย่างมากในหลายด้าน สำหรับในด้านการลงทุน (Investment) สตาร์ทอัพหลายรายที่บริษัทเข้าไปลงทุนในช่วงก่อนหน้านี้ มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพึงพอใจ อาทิ Semtive สตาร์ทอัพผู้พัฒนากังหันลมพลังงานไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัย ได้เริ่มทยอยส่งมอบกังหันลมสำหรับใช้ในครัวเรือนมาให้กับบริษัทแล้ว Neuron สตาร์ทอัพ e-Scooter สัญชาติสิงคโปร์ เริ่มมีให้บริการแล้วในโครงการดีคอนโด พิงค์ และขยายการให้บริการไปในพื้นที่พร้อมพงษ์-อ่อนนุช ตลอดจนในพื้นที่รอบตัวเมืองเชียงใหม่ OnionShackได้พัฒนา “น้องแสนรู้” หุ่นยนต์พนักงานคนใหม่ของแสนสิริที่จะช่วยเข้ามาตอบเรื่องนวัตกรรมที่ The Cloud ชั้น 3 สยามพารากอน
สำหรับด้านระบบนิเวศสตาร์ทอัพและพันธมิตร (Ecosystem & Partners) บริษัทได้สร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) มหาวิทยาลัยชั้นนำซึ่งถือเป็นแหล่งกำเนิดของสตาร์ทอัพสิงคโปร์ ด้วยการพาสตาร์ทอัพที่โดดเด่นของไทยไปร่วมโชว์เคสและขึ้นพูดบนเวทีระดับภูมิภาค ช่วยส่งเสริมระบบนิเวศสตาร์ทอัพของไทยด้าน PropTech และ LivingTech ให้เข้าถึงโอกาสในระดับภูมิภาค พร้อมกันนี้ สิริ เวนเจอร์ส ยังเปิดโอกาสให้พนักงานแสนสิริก้าวสู่การเป็นสตาร์ทอัพและเจ้าของธุรกิจด้วยเงินทุนเริ่มต้นทำธุรกิจโดยให้การสนับสนุนทั้งด้านเวลา ทรัพยาการ การให้คำปรึกษาและเงินทุนเบื้องต้นกว่าหลายล้านบาทต่อทีม กับโครงการ THE FOUNDER
ขณะที่ด้านการวิจัยและพัฒนา (Lab & Development) บริษัทยังคงตอกย้ำความมุ่งมั่นของแสนสิริในการมอบบริการภายใต้แนวคิด “บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน” และการเติมเต็มไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ครอบคลุมทุกมิติเพื่อตอบโจทย์ลูกบ้าน ผ่านฟังก์ชั่นใน Sansiri Home Service Application (HSA) เช่นHomestore แพลตฟอร์มออนไลน์แมกกาซีนที่ผู้อ่านสามารถซื้อสินค้าที่ชอบได้ การจับมือกับเครือสมิติเวช ขยายขอบเขตการให้บริการให้ครอบคลุมด้านสุขภาพแก่ลูกบ้านผ่าน HSA การเปิดให้บริการด้านPayment เพื่อให้ลูกบ้านสามารถผ่อนดาวน์ตรงกับธนาคาร รวมไปถึงค่าส่วนกลางโดยเชื่อมต่อตรงกับแอพธนาคารดังไม่วาจะป็น KPlus และ SCB Easy การติดตั้งเซนเซอร์คุณภาพอากาศกว่า 60 พื้นที่ในโครงการทั่วประเทศ เพื่อบอกสภาพค่าฝุ่น ค่าความชื้นและข้อมูลเชิงลึก พร้อมให้คำแนะนำด้านสุขภาพตามสภาพอากาศแก่ลูกบ้าน ขณะเดียวกัน กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา Smart Meter เพื่อให้ลูกบ้านสามารถตรวจสอบสถานะการใช้น้ำประปาและไฟฟ้าของตัวเองได้ตลอดเวลา
“เราเชื่อมั่นว่า พันธกิจหลักทั้ง 3 ด้านที่ สิริ เวนเจอร์ส ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จะเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงแก่วงการอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ก้าวล้ำไปในทางที่ดี โดยเราจะยังคงทำงานร่วมกับแสนสิริอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาและผลักดันสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ในที่อยู่อาศัยจนสำเร็จใช้งานได้จริง ตลอดจนตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยยุคใหม่และสังคมที่เปลี่ยนไป เติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยแห่งอนาคตให้แก่ลูกบ้านแสนสิริอย่างรอบด้าน” นายจิรพัฒน์ กล่าวสรุป
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชนิดทอง |
ราคารับซื้อ กรัมละ |
ราคารับซื้อ บาทละ |
ราคาขาย บาทละ |
ทองคำแท่ง 96.5% |
n/a |
21,450.00 |
21,550.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% |
1,389.00 |
21,057.24 |
22,050.00 |
ทองรูปพรรณ 90% |
1,250.10 |
18,951.52 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 80% |
1,111.20 |
16,845.79 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 50% |
625.00 |
9,475.00 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 40% |
486.00 |
7,367.76 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% |
1,439.00 |
21,815.24 |
n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 07/08/2562
|
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
แก๊สโซฮอล์ 95 |
27.55 |
27.55 |
27.55 |
27.55 |
27.55 |
27.55 |
27.55 |
27.55 |
27.55 |
27.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 |
27.28 |
27.28 |
27.28 |
27.28 |
27.28 |
27.28 |
27.28 |
27.28 |
27.28 |
27.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 |
24.54 |
24.54 |
24.54 |
24.54 |
24.54 |
– |
24.54 |
24.54 |
24.54 |
24.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 |
19.94 |
19.94 |
– |
– |
– |
– |
– |
19.94 |
– |
– |
เบนซิน 95 |
34.96 |
– |
– |
– |
35.41 |
– |
35.46 |
35.26 |
– |
35.26 |
ดีเซล |
25.99 |
25.99 |
25.99 |
25.99 |
25.99 |
25.99 |
25.99 |
25.99 |
25.99 |
25.99 |
ดีเซลพรีเมี่ยม |
24.99 |
24.99 |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
แก๊ส NGV |
15.85 |
15.85 |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
– |