ราคาที่พุ่ง8% สยาม-ชิดลม วาละ1ล้าน
กรมธนารักษ์เตรียมประกาศราคาประเมินที่ดินใหม่รองรับการจัดเก็บภาษี โดยเฉลี่ยทั่วประเทศราคาปรับเพิ่ม 8% ย่านชิดลม-สยามยังครองแชมป์ราคาสูงสุดที่ตารางวาละ 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ราคาประเมินที่ดินทั่วประเทศที่เตรียมจะประกาศในปี 2563 ราคาเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ 8% ลดลงจากราคาประเมินรอบปี 2559-2562 ที่มีค่าเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น 11% เนื่องจากฐานที่ดินที่นำมาประเมินเพิ่มขึ้น โดยที่ดินทั้งหมด 33.4 ล้านแปลงนั้นราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง 70% ขณะที่ราคาเพิ่มขึ้น 29% และมีเพียง 1% ที่ราคาปรับลดลง ซึ่งอยู่ในพื้นที่อยู่ลึกมากๆ โดยราคาที่ดินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับเพิ่มขึ้น 8-10% ส่วนที่ดินที่ราคาประเมินสูงที่สุดในประเทศ ยังคงอยู่ย่านถนนพระราม 1 ช่วงจากแยกสยาม ราชดำริ ไปจนถึงชิดลม ที่ราคาขยับขึ้นจากตารางวาละ 9 แสนบาท แตะ 1 ล้านบาทเป็นครั้งแรก
“ราคาประเมินปรับขึ้นสูงสุดอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร เพิ่มขึ้น 200% เนื่องจากไม่มีการปรับราคามา 2 ปี แต่ราคาไม่ได้สูงมาก เพิ่มขึ้นจากหลักพันเป็นหลักหมื่นบาทต่อตารางวาเท่านั้น ส่วนที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าราคาปรับเพิ่มไม่มาก เพราะราคาขึ้นไปก่อนหน้าแล้ว ยกเว้นย่านชานเมือง เช่น หนองจอก มีนบุรี ที่ราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8% เพราะได้รับอานิสงส์จากการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีส้ม และการปรับผังเมืองใหม่”
ขณะที่ราคาที่ดินในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พบว่าราคาปรับเพิ่มไม่มาก แต่หลังจากมีโครงการต่างๆเกิดขึ้นในพื้นที่อาจต้องมีการสำรวจและประเมินราคาใหม่อีกครั้ง โดยต่อไปอำนาจในการประเมินราคาที่ดินใหม่จะอยู่ที่คณะกรรมการประจำจังหวัด โดยที่กรมธนารักษ์จะดูในภาพรวมทั่วประเทศ เพื่อให้ราคาประเมินใกล้เคียงกับราคาตลาดมากที่สุด กรณีที่มีการใช้ราคาประเมิน ซึ่งตํ่ากว่าราคาตลาดใช้จดจำนอง เพื่อสิทธิภาษีนั้น กรมธนารักษ์ จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับธนาคารพาณิชย์ด้วย เพื่อใช้เป็นราคาสอบทาน
“กรมธนารักษ์จะจัดส่งราคาประเมินที่ทำเสร็จแล้ว ให้กับหน่วยงานรับผิดชอบคือ กรมที่ดินและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อใช้เป็นราคาอ้างอิงในการจดทะเบียน ส่วนราคาที่ซื้อขายกันในตลาดนั้น กฎหมายใหม่เปิดโอกาสให้เราตรวจสอบปัจจัยราคาซื้อขายว่า มีการแจ้งราคาจริงหรือไม่ โดยจะมีองค์ประกอบอื่นๆ ซึ่งวันนี้เราเก็บข้อมูลของราคาประกาศขายไว้แล้วว่า สามารถติดตามได้ว่าแปลงนี้เคยประกาศขายราคาเท่าไหร่ เมื่อมาจดทะเบียนราคาเท่าไหร่ เราสามารถเก็บฐานข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตได้หมด จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการราคาประเมินทรัพย์สินแห่งชาติ ซึ่งจะเก็บฐานข้อมูลเหล่านี้ไว้ แล้วนำกลับมาตรวจสอบเพื่อใช้เป็นราคาประเมินต่อไป”
ทั้งนี้ ตามร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กำหนดให้ยกเว้นบ้านหลังหลักและที่ดินเกษตรกรรม ที่เป็นของบุคคลธรรมดา ที่มีมูลค่าราคาประเมินไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี ส่วนใน 2 ปีแรกของการจัดเก็บภาษี กำหนดอัตราที่เป็นอัตราการจัดเก็บสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็น 4 ประเภท คือ 1. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย คิดอัตราภาษี 0.02-0.1% 2. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมคิดอัตรา 0.01-0.10% 3. ที่ดินประเภทอื่นๆ คิดอัตราภาษี 0.3-0.7% และ 4.ที่ดินรกร้างว่างเปล่า คิดอัตราภาษีเริ่มต้น 0.3% และเพิ่มขึ้น 0.3% ทุก 3 ปี
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
‘สงครามราคา’ แก้ผิดจุด เมื่อรัฐ-แบงก์ชาติยังเดินสวนทาง
คอลัมน์ผ่ามุมคิด
หลังเผชิญความเปลี่ยน แปลงหลายด้านทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามการค้า แต่ที่ ร้ายสุดหวั่นสงครามราคา รายใหญ่ ลด แลก แจก แถม เพื่อเคลียร์สต๊อก ทำภาพรวมเสียหาย นายบุญชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชีวาทัย หรือ CHEWA ระบุว่า ตลาดอสังหาฯเหนื่อยสุดทางออกรัฐบาล และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จับมือเดินทางเดียวกัน แก้อัตราสินเชื่อต่อมูลค่าที่อยู่อาศัย (LTV) ให้ซื้อ-ขายคล่องกระตุ้นยอด ขณะเดียวกันใส่เกียร์เดินหน้า 7 โครงการใหม่ บูมซัพพลาย เกษตร-นวมินทร์ ชูจุดแข็งไลฟ์สไตล์บวกนวัตกรรมอยู่อาศัยลํ้าสุดสู้ศึกโหด
เผชิญสงครามราคา
ยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่ท้าทายมาก สำหรับดีเวลอปเปอร์ หลังจากเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลายประการ ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ ตลาดอสังหาฯในกทม. มีการแข่งขันกันสูงมาก นักลงทุนหายไปจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวจีนที่มีผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนไทยที่แข็งค่า จากเดิม 1 หยวน มีค่าเท่ากับ 5 บาท แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 4.37 บาท หายไปเกือบ 10% ทำให้ยอดขายหายไปมาก ซึ่งนอกจากผู้ประกอบการจะต้องระมัดระวังในการสรรหาที่ดินใหม่ ใช้แผนการขาย และโปรดักต์แปลกๆ รวมถึงชะลอ รอจังหวะที่เหมาะสมในการเปิดโครงการใหม่แล้ว อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือเริ่มเห็นผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ เล่นสงครามด้านราคา เร่งระบายสินค้าคงเหลือหนีความเดือดร้อน แต่ส่วนตัวมองว่า ในระยะยาวจะเป็นผลเสียต่อตลาด
“แม้บริษัทมีแผน กลยุทธ์ รับมือกับทุกสถานการณ์ของภาวะตลาด แต่ก็กังวลเมื่อหลายค่ายหันมาทำสงครามด้านราคา ลดนู่นแถมนี่ เพื่อระบายสต๊อก ด้วยนโยบายเราไม่ทำ เพราะสุดท้ายมองว่าจะไม่เป็นผลดีต่อตลาด”
ธปท.-รัฐเดินสวนทาง
มองว่าภาพรวมตลาดที่แย่ลง นอกจากจะมาจากเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในกระบวนการ รายละเอียดไม่ชัดเจน, เรื่องมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่ที่มีวี่แววว่าจะเข้มงวดเพิ่มเติมมากขึ้นอีกจากเงื่อนไข LTV ที่ซํ้าเติมอยู่ก่อนแล้ว ปัจจัยที่ทำลายร้ายที่สุด คือความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐ ที่อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะใช้มาตรการอย่างไรออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดหวังให้มองมาถึงภาคอสังหาฯ แต่อย่างไรก็ตาม ยังกังวลเมื่อสิ่งที่ ธปท. กำลังดำเนินการยังสวนทางไม่สอดคล้องกัน
“เคยประเมินว่าตลาดอสังหาฯจะโตได้ เมื่อจีดีพีแตะ 4% แต่ล่าสุดเหลือเพียง 3% ต้นๆ อาจแย่ฉะนั้นหาก ธปท.และรัฐบาลยังไปคนละทิศคนละทาง เดินสวนทางกันเช่นนี้ ตลาดแย่แน่ การปรับตัวใดๆของผู้ประกอบการก็ไม่เป็นผล”
บูมเกษตร-นวมินทร์
สำหรับในช่วงครึ่งหลังปี 2562 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ รวมมูลค่ามากกว่า 7.2 พันล้านบาท รวมทั้งแนวราบและแนวสูง เช่น โครงการชีวารมย์ นครอินทร์,ชีวาทัยปิ่นเกล้า, ชีวาโฮม กรุงเทพฯ- ปทุมธานี และโครงการไฮไลต์ “ชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์” มูลค่า1.7 พันล้านบาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ 25 ชั้น 649 หน่วย ตั้งเป้ายอดขายช่วงพรีเซลเดือนสิงหาคม 40-60% เจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งนักลงทุนและผู้ซื้ออยู่จริง เนื่องจากใกล้สถานศึกษาชื่อดัง ทั้ง ม.เกษตรศาสตร์, ศรีปทุม มีไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์จากห้าง- ตลาดนัดดังหลายแห่ง ได้แก่เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ เมเจอร์รัชโยธิน เซ็นทรัลลาดพร้าว ประกอบกับใกล้เคียงกับโรงพยาบาลหลายแห่ง คาดจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทั้งนิสิต-นักศึกษา-คนทำงาน เจน Y อายุ 25-40ปี
“ทำเลใกล้สถานศึกษาเป็นที่สนใจของนักลงทุนเมื่อนึกถึงผลตอบแทนจากการปล่อยเช่ามักคุ้มค่าขณะที่ในอนาคตจะได้อานิสงส์จากรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) และรถไฟฟ้าโมโนเรล (สายสีนํ้าตาล แคราย-ลำสาลี) ไม่นับรวมตอม่อเก่าที่จะเปลี่ยนโฉมเป็นถนนยกระดับใหม่ สร้างความเจริญให้ทำเล”
ชูจุดแข็งใหม่
นายบุญ ยังกล่าวต่อว่า นอกจากทำเลที่ตั้งที่ดี มีแหล่งไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์แล้วหลังจากนี้ในทุกๆโครงการ บริษัทยังเตรียมนำเทคโนโลยี Home Auto mation มาชูเป็นจุดแข็งใหม่ด้วย หลังจากจับมือกับบริษัทด้านเทคโนโลยีชื่อดังของโลกสัญชาติเกาหลี COMMAX ร่วมพัฒนานวัตกรรมยกระดับการอยู่อาศัยให้กับลูกบ้านด้วยความทันสมัยและสมบูรณ์แบบที่สุดเป็นเจ้าแรกๆของไทยสั่งการการเข้า-ออกโครงการและห้องพักผ่านระบบแอพพลิเคชันมือถือ เช่นเดียวกับการสั่งเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องพัก วิดีโอโฟนกับเพื่อนบ้าน หรือแม้กระทั่งตรวจเช็กความหนาแน่นของผู้ใช้งานส่วนกลางด้วยกล้องวงจรปิดในแอพ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและให้การใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อ คาดจะเป็นฟังก์ชันที่อำนวยความสะดวกและตอบโจทย์สำหรับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้อย่างดี
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
กู้บ้านเฮ ธอส.ลดดอกเบี้ยเงินกู้0.125%มีผล16ส.ค.นี้
ธอส.ไม่รอช้า ลดดอกเบี้ยกู้บ้านช่วยเหลือคนรายได้น้อย
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ให้ ธอส. ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านทุกอัตรา เพื่อช่วยเหลือผู้กู้บ้านของธนาคารที่ส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย หรือ มีรายได้ปานกลาง ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 สค. นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
5 อาหารต้องห้าม สำหรับผู้ป่วย ไขมันในเลือดสูง ควรเลี่ยงซะ!!
ผู้ที่มีระดับ ไขมันในเลือดสูง ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดแข็ง ตีบ อุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆของคนไทย เราสามารถลดไขมันในเลือดโดยการลดการทานอาหารที่มีไขมันสูง ก็จะช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายให้ลดลงได้
หลีกเลี่ยงอาหารพวกเนื้อสัตว์ที่ติดมัน
ควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ไขมันสูง อย่าง หมูสามชั้น สันคอหมู ขาหมูติดมัน หนังไก่ เบคอน แฮม ไส้กรอก ควรรับประทานเนื้อสัตว์มีไขมันอิ่มตัวน้อยอย่าง ปลาและอกไก่
หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมัน อาหารทอด
ควรกินน้ำมันแต่น้อยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะนอกจากจะทำให้อ้วนแล้วยังก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมา ดังนั้นควรลดอาหารที่มีไขมันสูง อย่าง ไก่ทอด กล้วยแขก ทอดมัน คุกกี้ เกี๊ยวทอด หมูแดดเดียวทอด เฟรนช์ฟรายส์
หลีกเลี่ยงขนมหวาน
เช่น ช็อคโกแลต โดนัท เบเกอรี่ ครีมเทียม วิปปิ้งครีม ไอศครีม เพราะเป็นอาหารที่มีไขมันสูงจะสะสมกลายเป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์ได้
เลี่ยงรับประทานขนมหวานกะทิ
ควรงดอาหารจำพวกกะทิเพราะจะมีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น บัวลอยไข่หวาน กล้วยบวชชี แกงบวชฟักทอง ลอดช่องน้ำกะทิ ทับทิมกรอบมะพร้าวกะทิ ครองแครงน้ำกะทิ ขนมเปียกปูนกะทิสด
เลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง
เช่น ไข่แดง ไข่นกกระทา ปลาหมึก หอยนางรม หอยแครง สำหรับไข่ขาวสามารถรับประทานได้เพราะไม่มีคอเลสเตอรอล และควรหลีกเลี่ยงเครื่องในสัตว์อย่าง ตับไก่ ตับหมู เพราะมีคอเลสเตอรอลสูงมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com
“ต๋อง” ชนสายแข็ง จับติ้วศึกสอยคิว 6 แดงชิงแชมป์โลก
“ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม อยู่ในสายสุดหินรอบแรก ศึกสอยคิว 6 แดงชิงแชมป์โลก 2019 ซึ่งจะระเบิดความมันระหว่างวันที่ 2-7 ก.ย.นี้
วันที่ 14 ส.ค.62 ที่เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ได้มีพิธีจับสลากแบ่งสายการแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดง ชิงแชมป์โลก “แสงโสม 6 เรด เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2019” โดยมี นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน พร้อมด้วย นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ตัวแทนผู้สนับสนุนและนักสนุกเกอร์ทีมชาติไทยร่วมงานอย่างพร้อมหน้า
โดยผลการจับสลากแต่ละสาย มีดังนี้ สาย เอ แชมป์เก่า คีย์เรน วิลสัน มือ 8 ของโลก (อังกฤษ), แอนโทนี แม็คกิลล์ มือ 23 (สกอตแลนด์), “กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ แชมป์ประเทศ ไทย, โมฮัมเหม็ด ชีฮับ (ยูเออี), สาย บี ลูกา เบลเซล มือ 15 โลก (เบลเยียม), สตีเฟน แม็กไกวร์ มือ 16 (สกอตแลนด์), “นุ้ก สากล” กฤษณัส เลิศสัตยาทร มือ 1 ประเทศไทย, วู ยี่ ซี (จีน)
สาย ซี ติง จุน ฮุย มือ 10 ของโลก (จีน), โจ เพอร์รี มือ 19 (อังกฤษ), “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ มือ 38 ของโลก, เรียนนี อีแวนส์ แชมป์โลก 12 สมัย (อังกฤษ), สาย ดี มาร์ค เซลบี มือ 6 โลก (อังกฤษ), แกรี วิลสัน มือ 20 (อังกฤษ), “ซันนี่ อาร์แบค” อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ มือ 52 ของโลก, เบอร์นาร์ด เทย์ ชุน เคียท (สิงคโปร์)
สาย อี จอห์น ฮิกกินส์ มือ 5 ของโลก (สกอตแลนด์), หยาน บิง เต๋า มือ 21 (จีน), “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม, เคิร์ต ดันแฮม แชมป์ 6 แดงโอเชียเนีย (ออสเตรเลีย), สาย เอฟ เดวิด กิลเบิร์ต มือ 12 (อังกฤษ), ไรอัน เดย์ มือ 18 (เวลส์), จิมมี ไวส์ (อังกฤษ), โมฮัมเหม็ด ไครีย์ แชมป์แอฟริกา(อียิปต์),
สาย จี สจ๊วต บิงแฮม มือ 13 (อังกฤษ), อลิสเตอร์ คาร์เตอร์ มือ 18 (อังกฤษ), เคน โดเฮอร์ตี (ไอร์แลนด์), อเล็กซิส เคลลีวาร์ต แชมป์ 6 แดงยุโรป (ฝรั่งเศส), สาย เอช มาร์ค วิลเลียม มือ 3 โลก (เวลส์), แกรม ดอตต์ มือ 22 (สกอตแลนด์), “เอฟวัน” เทพไชยา อุ่นหนู มือ 37 ของโลก และ อึ๊ง อองยี นักสอยคิวสาวมือ 2 ของโลกจากฮ่องกง.
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
เปิดมหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ BIDC 2019 ดันไทยสู่ฮับเอเชีย
ภาครัฐผนึกภาคอุตสาหกรรมเปิดมหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์“Bangkok International Digital Content Festival 2019” หรือ BIDC 2019 ครั้งที่ 6 ภายใต้แนวคิด Digital Co-creation เป็นการผนึกพลังความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมเพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ให้เข้มแข็งและยั่งยืนหนุนไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางด้านดิจิทัลคอนเทนต์ในภูมิภาคเอเชียพร้อมเปิดเวทีจับคู่เจรจาการค้า หวังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายจักรินทร์ โกมลสิริ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจัดงาน“Bangkok International Digital Content Festival 2019” หรือ BIDC 2019 ครั้งที่6 เป็นการผนึกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมโดยมีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์กับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือTCEB และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดีป้า(depa) ร่วมกับภาคเอกชน LINE CREATORS MARKET โดยบริษัทไลน์คอมพานี(ประเทศไทย) จำกัด และ 5 สมาคมจากภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยประกอบด้วยสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย(TACGA) สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย(DCAT) สมาคมอีเลิร์นนิ่งแห่งประเทศไทย (e-LAT) และสมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ(BASA) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย(TGA) เพื่อแสดงศักยภาพความพร้อมของอุตสาหกรรมผู้ประกอบการไทยและยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดความเข้มแข็งและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ BIDC 2019 นับเป็นงานด้านดิจิทัลคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและสร้างโอกาสในธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ทั้งด้านแอนิเมชัน, เกม, คาแรกเตอร์,อี-เลิร์นนิ่ง, คอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์,เวอรชวลเอฟแฟ็กท์รวมถึงเทคโนโลยีใหม่และการศึกษา(Emerging Technology & education) ให้เป็นที่รู้จักและนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลที่สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 และเศรษฐกิจดิจิทัล ไทยเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลคอนเทนต์ในภูมิภาคเอเชีย
“ภายในงานยังได้จัดกิจกรรมเจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบการด้านดิจิทัลคอนเทนต์ของไทยและต่างชาติเข้าร่วมกว่า39 บริษัทจาก12 ประเทศได้แก่ ญี่ปุ่นเกาหลีจีนสิงคโปร์อินเดียอินโดนีเซียไต้หวันฟินแลนด์โปแลนด์สเปนฮ่องกงและมาเลเซียที่จะเข้าร่วมเจรจาการค้าหรือBusiness Matching อาทิเช่นบริษัทวอลล์ดีสนีย์(Walt Disney Company) ผู้ผลิตภายนตร์และแอนิเมชันระดับโลก, CCTV Animation เป็นสถานีโทรทัศน์รายใหญ่ที่มีผู้รับชมมากที่สุดในจีน, Bandai Namco Studios และGrasshopper Manufacturing ทีมพัฒนาเกม LET IT DIE เป็นต้นและมีผู้ประกอบการไทย 67 ราย อาทิ บริษัทกันตนาแอนิเมชั่นสตูดิโอจำกัดซึ่งสร้างผลงานภาพยนตร์แอนเมชันที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักฝีมือคนไทย “ก้านกล้วย” , RiFF Studio ทีมสร้างแอนิเมชันไทยที่ได้ร่วมสร้างผลงานแอนิเมชันตอนสั้นกับสตูดิโอจากญี่ปุ่นที่จะร้อยเรียงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันในโปรเจกต์The Force of Will และYGGDRAZI สตูดิโอผลิตผลงานด้านแอนิเมชันเวอรชวลและผู้พัฒนาเกม VR Home Sweet Home และทูสปอร์ตสตูดิโอเจ้าของคาแรกเตอร์กระต่าย Bloody Bunny ร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจรวม480 นัดหมายในครั้งนี้โดยหวังว่าการสนับสนุนจากภาครัฐจะต่อยอดจากงานครั้งนี้และจะยังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จมีการเจรจาการค้าคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า850 ล้านบาททั้งนี้การดำเนินงานในส่วนนี้นับเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกรมส่งเสริมฯในการสนับสนุนและส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์”
ทางด้านนายนพธรรม วานิช ผู้แทนสมาคมจากภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยในฐานะผู้แทนภาคอุตสาหกรรม กล่าวว่าสำหรับงาน“Bangkok International Digital Content Festival 2019” หรือ BIDC 2019 ภายใต้แนวคิด Digital Co-creation ซึ่งสื่อถึงการผนึกพลังความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมเสมือนจิ๊กซอร์เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ให้เข้มแข็งและยั่งยืน โดยมีภาครัฐเป็นฟันเฟืองในการสนับสนุนและส่งเสริมด้านเครือข่ายในต่างประเทศสำหรับภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลฯมาเติมในส่วนของการคิดและพัฒนาชิ้นงานในสาขาต่างๆทั้งด้านแอนิเมชัน, เกม,คาแรกเตอร์, อี-เลิร์นนิ่ง, คอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์ และเวอรชวลเอฟแฟ็กท์ รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่และการศึกษา (Emerging Technology & education)
สำหรับบทบาทสำคัญของกลุ่มสมาคมได้ดำเนินการสนับสนุนช่วยเหลือด้านธุรกิจการค้าและการพัฒนาสินค้าแก่สมาชิกรวมถึงสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศรวมถึงยังเป็นตัวกลางระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการในการเชื่อมโยงทั้ง 2 ส่วนเพื่อให้การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมดิจิทัลเป็นหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอาทิเช่นการผสมผสานเทคโนโลยีแห่งอนาคต AI ปัญญาประดิษฐ์ AR-VR ความเป็นจริงเสมือนสภาพแวดล้อมเสมือน ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมใหม่ในหลายๆกลุ่มอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมกรรมด้านการเงินเกมและการศึกษานอกจากนี้ยังมีกลุ่มแอนนิเมชันและเกมซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตและยังเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยรวมทั้งกลุ่มคาแรกเตอร์ที่สามารถต่อยอดและสร้างมูลค่าให้กับภาคอุตสาหกรรมไม่น้อยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์หลักๆของ 5 สมาคมเป็นกลไกสำคัญของการอุตสาหกรรมด้านดิจิทัลเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
นอกจากนี้ข้อมูลสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดีป้าจากผลสำรวจแนวโน้มการเติบโตมูลค่าดิจิทัลคอนเทนต์ในไทยปี 2561 คาดว่าจะแตะระดับกว่า 27,005 ล้านบาท และมีมูลค่ากว่า 29,358 ล้านบาทในปี 2562 โดยสาขาอุตสาหกรรมแอนิเมชันมีคาดการณ์ว่าจะเติบโตประมาณ 9% และยังคงการเติบโตเป็น 9% ในปี 2562 ขณะที่สาขาเกมคาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 9% และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 9% ในปี 2562 สำหรับสาขาคาแรคเตอร์คาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 12% ในปี 2561 และ 11% ในปี 2562 ซึ่งจากตัวเลขการเติบโตแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของอุตสาหกรรมฯ ที่ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลคอนเทนต์ในภูมิภาคเอเชีย
“ภายใน“Bangkok International Digital Content Festival 2019” ประกอบด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ งานแสดงผลงานด้านดิจิทัลคอนเทนต์(Show Case) จากผู้ประกอบการไทยระดับแนวหน้าด้าน E -learning, Animation & VFX , Game, Original Character, Emerging technology กว่า40 บริษัทเพื่อเผยแพร่ผลงานให้เป็นที่รู้จักและนำไปสู่การต่อยอดทางธุรกิจให้ภาคอุตสาหกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่14-16 สิงหาคมและพิธีมอบรางวัลประจำปีด้านดิจิทัลคอนเทนต์ในสาขาต่างๆ “BIDC Awards 2019” ให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่มีผลงานโดดเด่นในรอบปีซึ่งเป็นเวทีนำเสนอผลงานที่มีความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดเชิงธุรกิจในอนาคตรวม 25 รางวัลจาก5 กลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อเป็นต้นแบบในอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ไทยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดความสำเร็จในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 22,050.00 | 22,150.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,428.00 | 21,648.48 | 22,650.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,285.20 | 19,483.63 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,142.40 | 17,318.78 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 643.00 | 9,747.88 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 500.00 | 7,580.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,480.00 | 22,436.80 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 15/08/2562
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.24 | 24.24 | 24.24 | 24.24 | 24.24 | – | 24.24 | 24.24 | 24.24 | 24.24 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.79 | 19.79 | – | – | – | – | – | 19.79 | – | – |
เบนซิน 95 | 34.66 | – | – | – | 35.11 | – | 35.16 | 34.96 | – | 34.96 |
ดีเซล | 25.59 | 25.59 | 25.59 | 25.59 | 25.59 | 25.59 | 25.59 | 25.59 | 25.59 | 25.59 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 24.59 | 24.59 | – | – | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.85 | 15.85 | – | – | – | – | – | – | – | – |