คอนโดติดMRTสุทธิสารราคาไม่ถึง1.6ล้าน
เทกระจาดทรัพย์มือสอง ทำเลกลางเมืองคอนโดฯ ติด MRT สถานีสุทธิสารราคาเพียง 1.59ล้านบาท หากเทียบกับคอนโดฯใหม่ทำเลเดียวกัน ไม่ตํ่ากว่า 3-5 ล้านบาท
มีคอนโดมิเนียมจำนวนมาก เหลือขายในกรุงเทพมหานครประมาณ 40,000 หน่วยท่ามกลางปัจจัยลบ เศรษฐกิจชะลอตัว ผลกระทบจากมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) นอกจากผู้ประกอบการ จะทำกิจกรรมการขายเองแล้วยังเข้าร่วมโครงการมหกรรมต่างๆ เช่นเดียวกับ ทรัพย์มือสองจากสถาบันการเงิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิทหรือSAM ขนทรัพย์ออกบูธงาน “NPA Grand Sale & Home Loan 2019” ในวันที่ 29สิงหาคม-1 กันยายน 2562
นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAMเปิดเผยว่า SAM คัดทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ทำเลดีทั่วประเทศไทย ที่น่าสนใจ คือคอนโดมิเนียมขนาด 28 ตารางเมตร โครงการแฮปปี้ คอนโด แอนด์ สปอร์ตคลับ รัชดา 18 ซอยรัชดาภิเษก 18 เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ใกล้สำนักงานเขตห้วยขวาง มีทางทะลุออกซอย20 มิถุนา ไปยังถนนสุทธิสารวินิจฉัย อยู่ไม่ไกลจากตึกเมืองไทย และสถานี MRT สุทธิสารราคาขาย 1.59 ล้านบาท หากเทียบกับคอนโดมิเนียมใหม่ทำเลเดียวกัน ขนาดห้อง ใกล้เคียงกันราคาจะอยู่ที่ 3-5ล้านบาทต่อหน่วย เนื่องจากอยู่ติดรถไฟฟ้าและราคาที่ดินปรับตัวสูง
นอกจากคอนโดมิเนียมแล้ว ยังมีบ้านเดี่ยว ที่น่าสนใจ เช่น บ้านเดี่ยว 85.5 ตารางวา โครงการมัณฑนา-ราชพฤกษ์ ถนนราชพฤกษ์ ใจกลางเมือง จังหวัดนนทบุรี ไม่ไกลจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ บางใหญ่ ราคาขาย 5.99 ล้านบาท บ้านเดี่ยว เนื้อที่ 50.6 ตารางวาโครงการบุรีรมย์ (รังสิต-คลองสี่) อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ใกล้สวนสนุก ดรีมเวิลด์ ไม่ไกลจาก โรงเรียนวัดกลางคลองสี่ ตลาดเอ.ซี. ราคาขาย 2.79 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ เนื้อที่ 28ตารางวา กลางเมือง จังหวัดนครราชสีมา ไม่ไกลจากสถานีขนส่งฯ โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ และตลาดสุรนคร การคมนาคมสะดวก ราคาขาย 1.59 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว เนื้อที่ 61.3 ตารางวาโครงการบุญถาวร 3 ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง จังหวัดระยอง อยู่ไม่ไกลจากห้างเทสโก้ โลตัสราคาขาย 1.99 ล้านบาท เป็นต้น จาก จำนวนทรัพย์ 1,600 รายการ มูลค่ารวมกว่า 8,500 ล้านบาท
ทั้งนี้จะมีการจัดโปรโมชัน2 “SAM Easy” โดย SAM ออกค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 1%และโปรโมชัน “SAM จัดให้” รับเพิ่มบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุดถึง 50,000 บาท เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านจาก ร้านค้าชั้นนำ เช่น อิเกีย โฮมโปร บิ๊กซี โลตัส ฯลฯ ทั้งห้องชุดพักอาศัย ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว และทรัพย์ประเภทอื่นๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ลูกสาวเจ้าสัวเจริญ” นำทัพAWCลุยตลาด สร้างอาณาจักรอสังหาฯครบวงจร
ลูกสาวเจ้าสัวเจริญเปิดกลยุทธ์เคลื่อน AWC จัดพอร์ต พร้อมรุกขยายธุรกิจศูนย์การค้า ริเริ่มโครงการคอนเซ็ปต์ใหม่ เน้นการสร้างประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ ปั้นให้เป็นเดสติเนชัน รับการเติบโตของเมือง
หลังจาก “AWC” แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ภายใต้เครือทีซีซี กรุ๊ป (TCC Group) ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรในประเทศไทย เปิดแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อมุ่งต่อยอดความเป็นผู้นำบริษัทพัฒนาและผู้บริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ แบบไลฟ์สไตล์ครบวงจรในประเทศไทย ที่มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ดำเนินการจัดภาพรวมพอร์ตทั้ง 3 กลุ่มหลักใหม่ โดยมุ่งขยายธุรกิจใน 2 กลุ่มคือ ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจศูนย์การค้า หรืออสังหาริมทรัพย์ เพื่อประกอบกิจการการค้า (Retail and Wholesale) โดยเฉพาะธุรกิจกลุ่มหลังจะพัฒนาให้เป็นจุดหมายปลายทาง ทั้งสำหรับลูกค้านักท่องเที่ยวและคนที่อยู่โดยรอบพื้นที่ อย่างเช่น โครงการเอเชีย ทีค จัดวางตำแหน่งทางธุรกิจให้เป็นเดสติเนชัน ที่ทุกคนต้องมา หรือโครงการเกทเวย์ แอท บางซื่อ เป็นวันสต๊อป ช็อปปิ้ง ไลฟ์สไตล์ คอมมิวนิตี มีคอนเซ็ปต์ในการตอบโจทย์การสร้างประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ ด้วยพื้นที่ F&B and Attractions ที่มากกว่า 50% ของโครงการ ด้วยการเน้น Food Fun Family หรือกลุ่มครอบครัว นักศึกษา คนวัยทำงาน ที่พักอาศัยอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร
นอกจากนี้จะปรับปรุงโครงการพันธุ์ทิพย์ ประตูนํ้า จากศูนย์ไอที เป็นศูนย์การค้าที่สร้างประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ เพิ่มร้านค้าที่เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นรวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย
ด้านกลุ่มอาคารสำนักงาน (Office) ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ ที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละโครงการมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ มีแนวคิด รูปแบบ และการสร้างแบรนด์ของโครงการที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้สอดคล้อง เข้าถึงรสนิยมความชื่นชอบ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งเพิ่มศักยภาพและสามารถนำเสนอมูลค่าได้อย่างที่ชัดเจน อย่างเช่น โครงการเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ เป็นอาคารสำนักงานที่มีพื้นที่ร้านค้าต่างๆ และฟิตเนส ตอบโจทย์ความต้องการผู้เช่า
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) เปิดเผยว่า ทั้งศูนย์การค้าและอาคารสำนักงาน ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้เช่า เช่น เอเชีย ทีค มีผู้เช่าประมาณ 96% แต่ยังมีผู้สนใจเช่าเพิ่ม จนต้องขยายพื้นที่เพิ่มหรือเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ปัจจุบันมีผู้เช่าพื้นที่สูงกว่า 90% ถือว่าประสบความสำเร็จ จากการวางตำแหน่งทางธุรกิจที่ชัดเจนของแต่ละโครงการ และการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องทำให้กลุ่มธุรกิจนี้ มีความแข็งแกร่ง และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีรายได้ 4,000 ล้านบาทในปี 2561 และมี EBITDA เท่ากับ 2,437 ล้านบาท หรือคิดเป็น อัตรา EBITDA เท่ากับ 48% สำหรับปีบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562
วัลลภา ไตรโสรัส
“วันนี้มุมของอาคารสำนักงาน ถือว่ามั่นคง มุมของรีเทลก็สามารถจับกลุ่มลูกค้าได้ทั้งนักท่องเที่ยวและในประเทศ ในมุมโรงแรมค่อนข้างเป็นฤดูกาลมองว่าบาลานซ์ทั้งคาแรกเตอร์ และการพัฒนอสังหาริมทรัพย์หลัก”
นอกจากโครงการในปัจจุบันแล้ว AWC ยังเตรียมแผนรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนนอกจากทรัพย์สินกลุ่ม 3 ได้เตรียมทรัพย์สินที่จะอยู่ในกลุ่มปี 2563 และปีต่อๆ ไป โดยปีหน้าได้เอ็มโอยู โครงการเกตเวย์ เอกมัย และส่วนต่อขยายของเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ที่กำลังจะสร้างอีกกว่า 9 หมื่นตารางเมตร รวมถึงโครงการมิกส์ ดีเวลอปเมนต์ขนาดใหญ่ที่พัทยา เป็นกลยุทธ์สำคัญที่เน้นการเติบโต
อีกกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโต จะจัดทำแอพ AWC เพื่อความสะดวกของลูกค้าและผู้มาติดต่อภายในโครงการอาคารสำนักงานของเรา รวมถึงอนาคตจะมีการทำการตลาดข้ามกับบริษัทในเครือข่ายทีซีซี กรุ๊ปด้วย
ทีซีซี กรุ๊ป
ขุมพลังแข็งแกร่งของ
แอสเสท เวิรด์ฯ
ในฐานะที่ แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC เป็นบริษัทในเครือ ทีซีซี กรุ๊ป กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ถือเป็นจุดแข็งที่เสริมกำลังให้กับแอสเสท เวิรด์ อย่างมาก ครบเครื่องทั้งฐานเครือข่าย ฐานธุรกิจ และฐานความสัมพันธ์เพื่อเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
เมื่อ AWC แต่งตัวเตรียมเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้คัดทรัพย์สินที่มีศักยภาพ บนทำเลศักยภาพ เข้ามาในพอร์ต ด้วยการทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าของทรัพย์สินในกลุ่ม 3 ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) มี 12 โครงการได้แก่ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส กรุงเทพ สาทร, โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะสุรวงศ์, โรงแรม ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช, แกรนด์โซเล่, โครงการหัวหินบีชฟรอนท์, อิมพีเรียลแม่ปิง, โรงแรมบันยันทรี จอมเทียน พัทยา, พัทยา มิกซ์ยูส รีเทล แอนด์โฮเทล ดีเวลล็อปเมนต์, โรงแรมเจริญกรุง 93, โรงแรม อีสต์ เอเชีย และ พรพิงค์ ทาวเวอร์(รวมเรียกว่า “ทรัพย์สินกลุ่ม 3”) ภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นของทรัพย์สินกลุ่ม 3 ลงวันที่ 1มีนาคม 2562 (“สัญญาซื้อขายทรัพย์สินกลุ่ม 3”)
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ AWC กล่าวว่า“ทรัพย์สินของทีซีซี กรุ๊ป ที่ซื้อมา 90% เป็นโครงการที่เรา เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเอง(freehold) ต่างจากอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทอื่นๆ จะเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าระยะยาว(leasehold) ซึ่งทุกๆ 20-30 ปี จะต้องต่อสัญญาเช่าที่ดิน ถ้า เป็น lease hold ถือเป็นต้นทุนที่สูงมาก เพราะต้องอิงกับราคาที่ดิน แต่ของเรามูลค่าในทรัพย์สินจะเติบโตไปอย่างยั่งยืน เพราะAWC สามารถบริหารต้นทุนการพัฒนาได้”
“อีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ของเรามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องคือ การที่เรามีโครง การที่หลากหลายประเภท การมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ความสามารถในการใช้ประโยชน์จากบริษัทในเครือ เช่น การบริหารต้นทุน และการพัฒนาโครงการต่างๆ ฯลฯ และการพัฒนาให้แต่ละโครงการ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว”
ปัจจุบัน 3 กลุ่มธุรกิจของแอสเสท เวิรด์ ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจโรงแรม และการบริการ เป็นผู้พัฒนาโครงการโรงแรมรายใหญ่ของประเทศ ภายใต้แบรนด์ แมริออท โดยมี แมริออท มาร์คีควีนส์ปาร์ค เป็นเรือธง ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจโรงแรมมีห้องพัก ทั้งหมดกว่า 8,500 ห้อง, กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า มีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว 9 แห่ง นอกจากนี้ยังมีโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างพัฒนาอีก 2 โครงการ และกลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน มี 4 โครงการ โดยโครงการเอ็มไพร์ทาวเวอร์ เป็นอาคารสำนักงานเกรด A ที่มีพื้นที่มากที่สุดถึง 158,021 ตารางเมตร
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
คลังชงครม.ลดภาษีแวต7%กระตุ้นเศรษฐกิจ
คลังชงครม.ไฟเขียวลดภาษีแวต7% อีก 1-2 ปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ภายในเดือน ก.ย. นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จาก 10% เป็น 7% ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. นี้ออกไปอีก เนื่องจากเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน แต่จะให้ ครม. ขยายภาษีออกไปอีก 1 ปี หรือ 2 ปี
“สภาวะเศรษฐกิจขณะนี้คงจะมีการเสนอให้ต่อภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%ต่อไป เพราะมีผลต่อการส่งสัญญาณทางเศรษฐกิจในอนาคตให้ขยายตัวไม่เกิดการชะลอเพิ่ม” นายอุตตม กล่าว
ภาวะติดเชื้อในลำไส้ อาจเป็นอันตรายกว่าที่คิด
โรงพยาบาลราชวิถีหวั่นประชาชนติดเชื้อในลำไส้เฉียบพลันจากการท้องเสียเรื้อรัง เตือนบริโภคอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ปรุงสุก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และใส่ใจสุขภาพ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร หมายถึง การติดเชื้อของอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจากแบคทีเรีย รองลงมาคือเชื้อไวรัสและปรสิต โดยมีอาการหลักคือ การปวดท้องที่อาจเกิดได้ที่ช่องท้อง ไม่มีอาการปวดเฉพาะจุด ร่วมกับอาการท้องเสีย มีไข้ได้ โดยลักษณะอาการมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันทันที เรียกว่า การติดเชื้อเฉียบพลัน
นายแพทย์สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคติดเชื้อทางเดินอาหารเป็นโรคที่พบได้บ่อยทุกวัน เกือบทุกคนเคยผ่านการติดเชื้อระบบทางเดินอาหารมาแล้ว เช่น อาหารเป็นพิษ ติดต่อได้ง่าย ระบาดได้ง่าย ในชุมชนต่างๆ และผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงจากการรับเชื้อ เช่นเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว อาจทำให้เกิดอาการรุนแรง เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้ การรับเชื้อมักเกิดจากการบริโภคอาหารและน้ำดื่มที่ไม่สะอาด โดยเชื้อโรคที่อยู่ในตัวผู้ป่วยปนเปื้อนอยู่ในน้ำ อาหาร และมือ เข้าสู่ปาก โดยเชื้ออาจติดอยู่ที่เครื่องมือเครื่องใช้ในการอุปโภค บริโภค เช่น ช้อน แก้วน้ำ จาน ชาม ดังนั้นการป้องกัน โดยการรักษาสุขอนามัยพื้นฐาน จึงเป็นสิ่งสำคัญ และการมีอาการของโรคติดเชื้อทางเดินอาหาร ต้องดูแลประคับประคอง ป้องกันไม่ให้เกิดอาการขาดน้ำ การขาดสมดุลของเกลือแร่ โดยการดื่มน้ำสะอาด การใช้ยาผงเกลือแร่ และการรักษาตามสาเหตุ เช่นการติดเชื้อบางชนิดที่อาจต้องได้รับยาฆ่าเชื้อ รวมถึงการดูแลตัวเอง ป้องกันการรับเชื้อซ้ำ และป้องกันการระบาดสู่ชุมชน
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
นักแบดฯ ดาวรุ่งไทยฟอร์หรู ผงาดซิว 2 แชมป์ขนไก่ที่อินเดีย
นักตบลูกขนไก่ดาวรุ่งไทยคว้า 2 แชมป์ 1 รองแชมป์ศึกแบดมินตันเยาวชน “อินเดีย จูเนียร์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2019” ที่อินเดีย โดย “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด ได้คนเดียว 2 แชมป์ ทั้งประเภทหญิงเดี่ยวและคู่ผสม ซึ่งจับคู่กับ “มิกซ์” รัชพล มรรคศศิธร ขณะที่คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมฯเผย ผลงานเป็นที่น่าพอใจ
การแข่งขันแบดมินตันเยาวชน “อินเดีย จูเนียร์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2019” รายการเก็บคะแนน สะสมของสหพันธ์แบดมินตันโลก รุ่นเยาวชน ยู 19 ปี ที่เมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา นักตบลูกขนไก่ไทยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 3 ประเภท ผลปรากฏว่า คู่ผสม “มิกซ์” รัชพล มรรคศศิธร กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด คู่มือ 2 ของรายการ คู่มือ 165 ของโลก เฉือนชนะ อิฮาล บาทนาการ์ กับ ทานีชา คาสโตร จากอินเดีย 2-1 เกม 21-12, 20-22, 22-20 คะแนน ใช้เวลา 53 นาที
ส่วนหญิงคู่ “แครอท” พรพิชชา เชยกีวงศ์ กับ “จีน่า” พรณิชา สุวัฒโนดม คู่มือวาง 1 ของรายการ และคู่มือ 180 ของโลก แพ้ คาโฮ โอซาวะ กับ ฮินาตะ ซูซูกิ คู่มือวาง 3 ของรายการ และคู่มือ 668 ของโลก จากญี่ปุ่น 1-2 เกม 21-13, 15-21, 14-21 คะแนน ใช้เวลา 50 นาที และหญิงเดี่ยว “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด มือวาง 1 ของรายการ และมือ 193 ของโลก เฉือนชนะ ริโกะ กูนาจิ มือวาง 2 ของรายการ และมือ 473 ของโลก จากญี่ปุ่น ไปได้ 2-1 เกม 21-19, 18-21, 23-21 คะแนน ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 1 นาที รวมเบ็ดเสร็จ แบดมินตันเยาวชนไทยทำได้ 2 แชมป์ และ 1 รองแชมป์
หลังการแข่งขัน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า พอใจผลงานเยาวชนชุดนี้เล่นได้ตามมาตรฐาน แต่เพราะยังเป็นเยาวชน ยังต้องปรับแก้ด้านความ แน่นอนในการเล่นและข้อบกพร่อง รวมถึงฝึกร่างกาย และจิตใจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีก เยาวชนทุกคนจะนำ ประสบการณ์จากการแข่งขันครั้งนี้มาพัฒนาตนเอง เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันเยาวชนชิงแชมป์โลก 2019 ทั้งประเภททีมและบุคคล วันที่ 30 ก.ย.-13 ต.ค.นี้ ที่ประเทศรัสเซีย ขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทย ให้นักกีฬาเยาวชนแบดมินตันไทยสามารถสร้างชื่อเสียงระดับโลก.
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
‘กูเกิล’ ซีด! ควัก200ล้านดอลล์ คดีละเมิดความเป็นส่วนตัวเด็ก
“กูเกิล” เตรียมจ่ายเงินสูงสุด 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อไกลเกลี่ยคดีที่ “ยูทูบ” ถูกกล่าวหาว่า ละเมิดกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัวของเด็ก
รายงานข่าวระบุว่า คณะกรรมาธิการค้ารัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) เห็นพ้องในมูลค่าการไกล่เกลี่ยคดีที่ “ยูทูบ(Youtube) แพลตฟอร์มแชร์คลิปวิดีโอชื่อดังในเครือของกูเกิลถูกกล่าวหาว่า ละเมิดกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัวของเด็ก ที่ผ่านการอนุมัติจากกระทรวงยุติธรรมมาแล้ว ทำให้การไกล่เกลี่ยครั้งนี้ เป็นการยอมความครั้งใหญ่สุดในคดีที่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของเด็กด้วยมูลค่าของการจ่ายยอมความ 150-200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท
ข้อกล่าวหาที่มีต่อยูทูบ เกิดขึ้นจากกลุ่มเคลื่อนไหวด้านความเป็นส่วนตัวจำนวนหนึ่งระบุว่า ยูทูบทำผิดกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของเด็ก ด้วยการรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง ซึ่งคาดว่าคณะกรรมาธิการค้ารัฐบาลกลางสหรัฐจะประกาศการตัดสินใจ ภายในเดือนกันยายนนี้
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 22,000.00 | 22,100.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,425.00 | 21,603.00 | 22,600.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,282.50 | 19,442.70 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,140.00 | 17,282.40 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 641.00 | 9,717.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 499.00 | 7,564.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,477.00 | 22,391.32 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 02/09/2562
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 27.08 | 27.08 | 27.08 | 27.08 | 27.08 | 27.08 | 27.08 | 27.08 | 27.08 | 27.08 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.34 | 24.34 | 24.34 | 24.34 | 24.34 | – | 24.34 | 24.34 | 24.34 | 24.34 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.89 | 19.89 | – | – | – | – | – | 19.89 | – | – |
เบนซิน 95 | 34.76 | – | – | – | 35.21 | – | 35.26 | 35.06 | – | 35.06 |
ดีเซล | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 | 25.79 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 24.79 | 24.79 | – | – | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.66 | 15.66 | – | – | – | – | – | – | – | – |