สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 01 ตุลาคม 2562

เอ มัสท์ฯรุกขยายตจว.เปิดตัว”เคลฟเวอร์ “ขอนแก่น

“เอ มัสท์ กรุ๊ป” เปิดตัวโครงการเคลฟเวอร์  รับความต้องการที่อยู่อาศัยของคนขอนแก่น    เป็น Creative Living Society ชุมชนที่อยู่อาศัยแบบสร้างสรรค์                                                                                                        

ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่บริษัทเอ มัสท์ฯ ได้พัฒนาโครงการเคลฟเวอร์ ขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของคนขอนแก่น และที่สำคัญได้สร้างสรรค์โครงการเคลฟเวอร์ ให้เป็นนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญทุกรายละเอียด เหมือนสโลแกนของโครงการ คือ “บ้านที่เป็นนิยามของการค้นพบ” รวมทั้งโครงการเคลฟเวอร์ ไม่ได้เพียงขายตัวบ้านเท่านั้น แต่ยังมีความตั้งใจจริงที่จะสร้างให้โครงการเคลฟเวอร์ เป็น Creative Living Society ชุมชนที่อยู่อาศัยแบบสร้างสรรค์ เพื่อให้ลูกบ้านที่มาอยู่ร่วมกันได้มีพื้นที่สีเขียว ที่ให้ความร่มรื่น มีสวนลอยฟ้า เป็นพื้นที่มาแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ร่วมกันในชุมชนสร้างสรรค์แห่งนี้  

 

  ด้าน ดร.เสาวภาคย์ ถนอมศักดิ์กุล ประธานกรรมการบริหาร เอ มัสท์ กรุ๊ป กล่าวว่า โครงการ เคลฟเวอร์ (KLEVER) มะลิวัลย์ มข. บนพื้นที่ 10 ไร่ จำนวน 76 หน่วย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่  2.6-3.6 ล้านบาท   มูลค่าโครงการ 280 ล้านบาท      โครงการนี้เกิดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Stylish Home in a Creative Living Society เริ่มตั้งแต่  WELCOME ARRIVAL คิด : คิดเพื่อความปลอดภัยของคุณ REFRESHMENT WALK ใส่ใจ : ใส่ใจ ด้วยการสร้างความร่มรื่น ตลอดเส้นทางเดิน KLEVER ROOF PARK เพิ่ม : เพิ่มพื้นที่สวนลอยฟ้า ให้คุณให้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่า ENERGETIC GARDEN เติม : เติมพลังกาย พลังใจให้ชีวิตคุณ
เคลฟเวอร์  จัดบ้านให้ COMPACT & COMPLETE  ปรับพื้นที่รับแขก เป็นศูนย์รวมความบันเทิง ชั้นวางของลอยติดกำแพง หรือแนบเนียนไปกับมุมห้อง เปลี่ยนใต้บันไดให้กลายเป็นชั้นเก็บของ และใช้กระจกช่วยสร้างบรรยากาศ ปรับพื้นให้ดูกว้างขึ้น ขณะที่ผนังหัวเตียงปรับเปลี่ยนเป็น ชั้นวางหนังสือหรือของตั้งโชว์ และเพิ่มตู้เก็บของลอยตัว แยกหมวดหมู่ให้ชัดเจน นอกจากนี้ มีการออกแบบบ้านเป็นเพดานสูง ให้โดดเด่น มีสไตล์ โปร่งสบาย รับแสงธรรมชาติ ช่วยให้เย็นสบาย อากาศถ่ายเท รวมทั้งเพิ่มพื้นที่ Upper Spac   

 

 “โครงการ KLEVER มะลิวัลย์ มข. สามารถตอบรับกับไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว ท่ามกลางธรรมชาติของต้นไม้นานาพันธุ์ ทำให้ชีวิตมีสเปซสำหรับรีแลกซ์กับครอบครัว สร้างสรรค์การใช้พื้นที่ ส่วนรวมให้เกิดการใช้สอยร่วมกันอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งมีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตอยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง สถานที่ท่องเที่ยว อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น บึงแก่นนคร บึงหนองโคต และใกล้ย่านร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ ร้านฟังเพลงฮิปๆ”

 

  ดร.เสาวภาคย์ กล่าวต่อว่าตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป เคลฟเวอร์ ต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกบ้านและชาวขอนแก่น เริ่มจากเปิดสวน “KLEVER PARK” แบบ Exclusively บรรยากาศ ร่มรื่นและพิเศษสุดด้วย “POP UP CAFE at Klever co-created by Klever & Almost Black” เป็นโปรเจ็กต์พิเศษที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างโครงการ KLEVER และ Almost Black cafe โดยจะเปิดเพียง 119 วัน ให้เป็นสุดวันพิเศษ  ซึ่งมีการนำเมนูใหม่ทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ มูฟมาเป็น POP UP CAFE ชิคๆใน Klever Park และรอพบเทรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ที่จะสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าในทุกเดือนอีกด้วย 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com                              


บ้านเดี่ยว10ล้านโตสวนเศรษฐกิจ

ดีเวลอปเปอร์ พลิกแผนครึ่งปีหลังลุยบ้านเดี่ยว 10 ล้านอัพ เติบโตสูงทั้งดีมานด์-ซัพพลายเผยไม่กระทบความผันผวนเศรษฐกิจมาตรการรัฐ ขณะ 5 ล้านบาทยังครองตลาด

ครึ่งปีหลัง 2562 คาดว่า ซัพพลาย และ ดีมานด์ บ้านเดี่ยวยังคงเติบโต โดยผู้ประกอบการยังคงต้องเน้นพัฒนาโครงการใหม่ให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดที่มีการแข่งขันสูงมากขึ้น และคาดว่าโครงการใหม่ที่ระดับราคา 5-7 ล้านบาท จะมีจำนวนมากขึ้น ในขณะที่โครงการใหม่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาหลักของบ้านเดี่ยวจะมีแนวโน้มการเปิดโครงการใหม่ลดลง เนื่องจากราคาที่ดินเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการจึงจำเป็นจะต้องปรับระดับราคาที่เสนอขายให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ การทบทวนนโยบายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นปัจจัยที่มีผลต่อกำลังซื้อในครึ่งปีหลัง ขณะกลุ่มบ้านแนวราบระดับบน ระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราเติบโตต่อเนื่อง ทั้งความต้องการและการพัฒนาสู่ตลาดของผู้ประกอบการ

นางสาวสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า กลุ่มราคาที่เติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ บ้านเดี่ยวระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์มาพัฒนาโครงการที่จับกลุ่มลูกค้าระดับบน เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อ อย่างไรก็ตามระดับราคาดังกล่าวมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับระดับราคาอื่นๆ ในตลาดบ้านเดี่ยว

อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งปี 2562 ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดนี้เติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอตัวลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งหลังปี 2561 เนื่องจากการเร่งระบายสินค้าก่อนที่นโยบายการปล่อยสินเชื่อใหม่จะเริ่มใช้ในช่วงต้นปี 2562 โดยในรอบสำรวจนี้มีอุปทานเสนอขายรวมเพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากโครงการเปิดใหม่และโครงการเก่าที่เปิดจำนวนหน่วยขายเพิ่มขึ้น มีจำนวนทั้งสิ้น 16,369 หน่วย ในขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 6,198 หน่วย หรือมีอัตราการขายเท่ากับ 38%

“ระดับราคาที่ได้รับการตอบรับหรือมีดีมานด์ที่เพิ่มมากขึ้นอันดับต้นๆ ได้แก่ บ้านเดี่ยวในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป มีความต้องการเพิ่มขึ้น 40%  1,158 หน่วย ส่วนระดับราคาที่เป็นตลาดหลัก ได้แก่ 3-5 ล้านบาท และ 5-7 ล้านบาท มีความต้องการเพิ่มขึ้น 4% และ 22% มาอยู่ที่ 2,418 หน่วย และ 1,733 หน่วย ตามลำดับ” 

ขณะที่ราคา 7-10 ล้านบาท มีความต้องการเพิ่มขึ้น 2% มาอยู่ที่ 848 หน่วย และในรอบสำรวจนี้พบว่า บ้านเดี่ยวในระดับราคา 5-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาหลักในตลาดบ้านเดี่ยวตลอดจนมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ส่วนมากในโซนตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณคลองสามวา และลาดกระบัง รวมถึงโซนทิศตะวันตกจะอยู่ในบริเวณบางใหญ่ และพุทธมณฑล เนื่องจากเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองได้ รวมไปถึงมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าวได้เป็นอย่างดี 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ธปท.แจงเศรษฐกิจเดือนส.ค.ทรุดทุกตัว

ธปท.แจงเศรษฐกิจเดือนส.ค.ทรุดทุกตัว

“ธปท.” ยันเศรษฐกิจไทยยังไม่วิกฤติ หลังลุยหั่นจีดีพีปีนี้เหลือ 2.8% แจงเศรษฐกิจเดือนส.ค. ทรุดหนักทุกตัว

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่ ธปท. ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปี 2562 ลงเหลือ 2.8% จากคาดการณ์เดิมที่ 3.3% ว่า เป็นผลมาจากปัญหาสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการการค้าโลกให้ชะลอตัวลง ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของประเทศไทยอย่างรุนแรง จากเดิมคาดว่าปัญหาสงครามการค้าจะคลี่คลายได้ในช่วงปลายปีนี้ แต่จากข้อมูลล่าสุดพบว่าปัญหาดังกล่าวยืดเยื้อออกไป และทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้ต่ำกว่าศักยภาพ โดยการปรับลดคาดการณ์จีดีพีลง ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะวิกฤติแต่อย่างใด

โดยการประมาณการณ์เศรษฐกิจล่าสุดของ ธปท. ได้มีการนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมาพิจารณาเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ ซึ่ง ธปท. ไม่ได้มีการปรับลดคาดการณ์การบริโภคภาคเอกชนลดลงจากเดิม เพราะเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายดังกล่าว จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศได้จริง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน และภาครัฐยังมีความล่าช้าอยู่ ทำให้ ธปท. มีการปรับลดคาดการณ์การลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐลดลงเช่นกัน

นายวิรไท กล่าวอีกว่า ในส่วนของค่าเงินบาทนั้น ธปท. มีการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยการปรับลดการขยายตัวเศรษฐกิจล่าสุด มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่าประเทศคู่แข่ง โดยเงินบาทที่แข็งค่าในขณะนี้ เป็นผลมาจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งใน 7 เดือนแรกของปี มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 2 หมื่นล้านดอลล่าร์ สะท้อนว่าการนแข็งค่าของเงินบาทไม่เกี่ยวกับการไหลเข้าของเงินทุนเพื่อมาเก็งกำไรในตลาดทุนและตลาดการเงิน เพราะที่ผ่านมา ธปท. ได้มีการออกมาตรการควบคุมในส่วนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ดี มองว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ภาครัฐและเอกชนจะเร่งลงทุน นำเข้าเครื่องจักร และวัตถุดิบ เพราะจะได้ราคาที่ถูกลง

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. กล่าวว่า เศรษฐกิจเดือนส.ค. 2562 มีการชะลอตัวทุกหมวด ยกเว้นการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ โดยการส่งออกกลับมาขยายติดลบ 2.1% หากไม่รวมทองคำมูลค่าการส่งออกหดตัวสูงที่ 8.9% ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 จากเดือนก่อนหน้าที่กลับมาขยายตัวเป็นบวก 3.8% จากผลกระทบสงครามการค้า

ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้ากลับมาหดตัวสูงที่ 15.5% จากระยะเดียวกันปีก่อน หากไม่รวมทองคำหดตัวที่ 8.0% โดยเป็นการหดตัวในทุกหมวดสินค้า ได้แก่ 1) หมวดวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง โดยเฉพาะเหล็กสอดคล้องกับการก่อสร้างภาคเอกชนและการผลิตรถยนต์ที่หดตัว ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สอดคล้องกับการผลิตและการส่งออกในหมวดดังกล่าวที่หดตัว และเชื้อเพลิงที่หดตัวตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก 2) หมวดสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบินและแท่นขุดเจาะ โดยเฉพาะอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคม และเครื่องจักรและอุปกรณ์ สอดคล้องกับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่หดตัว 3) หมวดสินค้าอุปโภคและบริโภค

ด้านการลงทุนภาคเอกชนหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเครื่องชี้การลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์กลับมาหดตัวตามการนำเข้าสินค้าทุนและยอดจดทะเบียนรถยนต์เป็นสำคัญ สำหรับเครื่องชี้การลงทุนในหมวดก่อสร้างหดตัวจากทั้งพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างในเกือบทุกวัตถุประสงค์ที่หดตัวต่อเนื่อง ยกเว้นพื้นที่เพื่ออุตสาหกรรมที่ยังขยายตัวได้ และยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่หดตัวตาม ยอดจำหน่ายเสาเข็มคอนกรีตเป็นสำคัญ สอดคล้องกับการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่ การใช้จ่ายภาครัฐที่หดตัวตามรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการของกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี รายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางขยายตัวเล็กน้อยตามการเบิกจ่ายของกรมทางหลวง และรายจ่ายลงทุน ของรัฐวิสาหกิจที่กลับมาขยายตัวตามการเบิกจ่ายของ ทอท. และ ปตท.

สำหรับการท่องเที่ยว มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวเร่งขึ้นที่ 7.4% จากระยะเดียวกันปีก่อน จาก 1) ผลของฐานต่ำจากเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต และ 2) นักท่องเที่ยวกลุ่มที่ได้รับผลดีจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม visa on arrival ขยายตัวดี โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน อินเดีย และไต้หวัน และส่วนหนึ่งได้รับผลดีจากที่นักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนเส้นทางการท่องเที่ยวจากฮ่องกงมาไทยจากเหตุการณ์ประท้วงทางการเมือง อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวยุโรปโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเยอรมนีและรัสเซียหดตัวต่อเนื่องตามเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

นายดอน กล่าวว่า การขยายตัวเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีจากวัดจากอุปสงค์ในประเทศเป็นหลัก ซึ่งแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังจากแย่กว่าครึ่งปีแรก โดย ธปท. ก็อยู่ระหว่างรอลุ้นมาตรการจากผลของมาตรการชิมช้อปใช้ แต่ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 3 จะขยายตัวได้สูงกว่าไตรมาส 2 ที่ขยายตัวได้ 2.3% ซึ่งเป็นการขยายตัวจุดต่ำสุดแล้ว แต่จะได้มากแค่ไหนก็อยู่ที่ผลของมาตรการ รวมทั้งการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดี เนื่องจากฐานช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาต่ำ

“ยังมั่นใจว่าการส่งออกไตรมาส 3 จะขยายตัวได้เป็นบวก จากไตรมาสแรกที่ขยายตัวลบ 4% และไตรมาส 2 ขยายตัวลบ 4.2% ส่วนการส่งออกทั้งปีจะขยายตัวลบ 1% ตามที่ ธปท. คาดไว้หรือไม่ การส่งออกครึ่งปีหลังจะต้องขยายตัวเป็นบวกเท่านั้น” นายดอน กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


ก.ท่องเที่ยวและกีฬา จับมือ กกท. ระเบิดศึกมวยไทยวิถีอีสานใต้ 5 ต.ค.นี้

กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราช้าง, รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า และจังหวัดบุรีรัมย์ แถลงข่าวจัดงานมหกรรมการแข่งขันและเผยแพร่ศิลปะมวยไทย “ศึกมวยไทยวิถีอีสานใต้” คู่เอก “แสงมณี แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม” ปะทะ “ราฟฟี่สิงห์ป่าตอง” พร้อมยอดมวยดังไทยแห่งยุคอัดแน่นดวลกำปั้นในงาน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 (MotoGP) ณ เวทีมวยชั่วคราว สนาม ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ วันที่ 5 ตุลาคมนี้

วันที่ 30 ก.ย. 62 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ชั้น 1 การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดงานแถลงข่าวมหกรรมการแข่งขันและเผยแพร่ศิลปะมวยไทย “ศึกมวยไทยวิถีอีสานใต้” ในงาน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 จังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้รับเกียรติจาก นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์กีฬา เป็นประธาน ร่วมกับ นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และโปรโมเตอร์มวยชื่อดัง และสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าวอย่างคึกคัก

นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์กีฬา กล่าวว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 (MotoGP) สนามที่ 15 ณ สนาม ช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่าง วันที่ 4-6 ตุลาคมนี้”

“กีฬามวยไทยเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติอยู่แล้ว และครั้งนี้เขาจะได้เห็นและสัมผัสกับกีฬามวยไทยบนแผ่นดินไทย ได้รู้จักและรับรู้ถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬามวยไทย และอาจเกิดความสนใจในการใช้สินค้าและบริการทางด้านกีฬาที่เกี่ยวข้องกับมวยไทยซึ่งตรงนี้ถือเป็นการส่งเสริมอาชีพ ค่ายมวยในท้องถิ่นที่อาจมีรายได้เพิ่มขึ้น”

“นับเป็นโอกาสอันดีที่พวกเราคนไทย จะได้เผยแพร่ศิลปะการต่อสู้มวยไทย ให้คนทั้งโลก ได้รู้จักอย่างกว้างขวาง ในมหกรรมการแข่งขัน และเผยแพร่ศิลปะมวยไทย “ศึกมวยไทยวิถีอีสานใต้” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 ตุลาคม เพราะการแข่งขันโมโตจีพี ครั้งนี้ จะมีชาวต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรมหลายหมื่นคน มีสื่อมวลชนจากทั่วโลก มาทำข่าวมากกว่า 300 คน และมีการถ่ายทอดสดการแข่งขัน และบรรยากาศการจัดงาน ไปอีก 207 ประเทศทั่วโลก สู่ผู้ติดตามชมการแข่งขันกว่า 800 ล้านคน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าว

สำหรับ การประกบคู่มวยที่ทุกท่านจะได้ชมในศึก “ศึกมวยไทยวิถีอีสานใต้” ครั้งนี้ เริ่มจากคู่แรกในเวลา 17.15 น. “วันฉลอง พี.เค. แสนชัย มวยไทยยิม” พบกับ “เพชรภูซาง กีล่าสปอร์ต” รุ่น 119 ปอนด์ คู่ที่ 2 “เมืองไทยคลองสวนพลูรีสอร์ท” ปะทะ “เฟอรารี่ จักรยานมวยไทย” รุ่น 138 ปอนด์ คู่ที่ 3 “เสือคิม ศิษย์สท.แต๋ว” พบกับ “รุ่งกิจ ว.สังข์ประไพ” รุ่น 133 ปอนด์ คู่ที่ 4 รองคู่เอก เป็นการปะทะกันระหว่าง “กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย” พบกับ “หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์” ในรุ่น 138 ปอนด์

ส่วนคู่ที่ 5 เป็นคู่เอกนำรายการ “แสงมณี แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม” ยอดมวยดังแห่งยุค พบกับ “ราฟฟี่ สิงห์ป่าตอง” ในรุ่น 141 ปอนด์ นอกจากนี้ยังมีคู่มวยประกอบรายการที่น่าสนใจอย่าง “ก้าวหน้า สจ.โต้งปราจีน” พบกับ “ซุปเปอร์เล็ก ม.รัตนบัณฑิต” รุ่น 130 ปอนด์ “เขี้ยวพยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์” พบกับ “ฉลาม พรัญชัย” รุ่น 125 ปอนด์ และปิดท้ายรายการด้วยรุ่น 105 ปอนด์ ระหว่าง “โรเบิร์ต ศ.ธนบวร” พบ “ก้องบูรพา ทิพย์ท่าไม้”

สำหรับ มหกรรมการแข่งขันและเผยแพร่ศิลปะมวยไทย “ศึกมวยไทยวิถีอีสานใต้” จะเปิดให้แฟนหมัดมวยและแฟนมอเตอร์สปอร์ตเข้าชมฟรีเพียงแค่แสดงบัตรเข้าชมการแข่งขันโมโตจีพี หรือบัตรแอดมิชชั่น ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ เวทีมวยชั่วคราว สนาม ช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


บราเดอร์ ปั้น ‘AI Chatbot’ เสริมแกร่งบริการ

บราเดอร์  ปั้น ‘AI Chatbot’ เสริมทัพบริการคอนแทค เซ็นเตอร์  บนมือถือ เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า 

นายวรศักดิ์ ประดิษฐ์กุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บราเดอร์ได้มีการเปิดตัว Brother Webchat & Mobile- Webchat และเตรียมความพร้อมการใช้ระบบ Brother AI Chatbot ให้บริการในอนาคตอันใกล้ โดยการพัฒนาในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกด้านบริการหลังการขาย และเพิ่มศักยภาพการให้บริการของทีม Brother Contact Center อีกด้วย

 “ปัจจุบันเทรนด์การสื่อสารแบบ Non-voice   ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในไทยที่มีอัตราการใช้ Social media มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งบราเดอร์ได้เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมดังกล่าว จึงได้เพิ่มระบบการสื่อสารแบบ Non-voice เข้ามาในงานบริการหลังการขายควบคู่กับการให้บริการช่องทางเดิม เพื่อสร้างความสมบูรณ์ในงานบริการแบบ     Omni-Channel ทั้งนี้ การนำระบบ Webchat และ Mobile-Webchat มาใช้จากที่เคยให้บริการลูกค้า 1 รายต่อหนึ่งช่วงเวลา สามารถให้บริการ  ได้เพิ่มขึ้นเป็น 3 ราย และ 5 รายต่อหนึ่งช่วงเวลา”

ทั้งนี้บราเดอร์ คอนแทค เซ็นเตอร์ (Brother Contact Center) ได้เพิ่มช่องทางการให้บริการกับลูกค้าผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์บราเดอร์ จากเดิมที่เคยให้บริการในช่องทางโทรศัพท์, อีเมล และเฟซบุ๊ก ในวันนี้ได้มีการเพิ่ม  ช่องทางใหม่คือ Webchat และ Mobile-Webchat โดยทุกช่องทางการสื่อสารกับทีมบริการจะรวมเข้าด้วยกัน  บน Platform ของ Genesys Omni-Channel โดย Webchat และ Mobile-Webchat จะเปิดให้บริการระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-17.30 น.

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 21,200.00 21,300.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,373.00 20,814.68 21,800.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,235.70 18,733.21 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,098.40 16,651.74 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 618.00 9,368.88 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 481.00 7,291.96 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,423.00 21,572.68 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 01/10/2562

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 27.15 27.15 27.15 27.15 27.15 27.15 27.15 27.15 27.15 27.15
แก๊สโซฮอล์ 91 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88
แก๊สโซฮอล์ E20 24.14 24.14 24.14 24.14 24.14 24.14 24.14 24.14 24.14
แก๊สโซฮอล์ E85 19.79 19.79 19.79
เบนซิน 95 34.56 35.01 35.06 34.86 34.86
ดีเซล 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99
ดีเซลพรีเมี่ยม 23.99 23.99
แก๊ส NGV 15.49 15.49
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า